ใครเคยพบพระพุทธเจ้าบ้าง

อยากกินอะไรทอดคงอะร่อย จานละล้านไม่แพง

 

เห็นด้วยกับคุณนะคะ เคยอ่านคำสอนของหลวงพ่อชา สุภัทโธ ท่านก็กล่าวเช่นนี้เหมือนกันค่ะ

 

เราก็คงต้องปฏิบัติให้มาก เพราะเราก็คงใกล้เวลาจะไปแล้ว ตอนนี้ป่วยมาก เครียดมาก ซึมเศร้า ถ้าเป็นไปได้ก็อยากพบพระพุทธเจ้า ขอได้โปรดมาโปรดเราด้วย...

 

ขออนุญาติเสริมครับ จากคลิปการบรรยายธรรม (เดี๋ยวจะมาลง link ให้นะครับ)
หลวงปู่เณรคำท่านว่า วันที่ท่านบรรลุหมดซึ่งกิเลส
ท่านเห็นพระพุทธเจ้าพร้อมพระสาวกเสด็จมา และตรัสชวนท่านเข้าแถวไปบิณฑบาตร
ท่านนึกสงสัยว่า พระพุทธเจ้าท่านปรินิพพานไปแล้ว ทำไมถึงได้.......

และหลวงปู่ท่านก็กล่าวว่า ท่านเห็นพระพุทธเจ้าครั้งนั้นครั้งเดียว จากนั้นก็ไม่เห็นอีกเลย

และในหนังสือคนเห็นโลก ท่านก็กล่าวไว้ว่า พระอรหันต์นั้นทุกสิ่งดับหมดไม่มีเหลือแล้ว (จิตก็ดับ) แต่ที่ท่านยังมาปรากฏให้ชาวโลกเห็นได้ ก็คงเป็นเพราะบารมีของท่าน

 

ให้พบเห็นจะเป็นพระเถระ (อรหันต์) ชั้นผู้ใหญ่

 

เอาตามตำราเลยก็แบบนี้แหละครับ ผมได้ยินองค์หลวงตาบอกเหมือนกันว่าตอนที่องค์หลวงปู่มั่นถึงความเป็นอริยะอรหันต์ใหม่ๆท่านก็ได้พบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเหมือนกันและเหล่าอัครสาวกด้วยครับ บุคคลที่พึงเห็นท่านได้ต้องสำเร็จอรหันต์เท่านั้น ถ้าไม่ใช่ผมว่าเกิดจากจิตที่มีความลึกซึ้งมหัศจรรย์พิสดารมากเพราะว่าจะเป็นการหลอกจิตให้เราได้ยึดติดกับสิ่งมหัศจรรย์พิสดารที่เป็นรูปแบบปาฏิหารย์ต่างๆคือจะไม่ให้จิตของเราเจริญตามลำดับขั้นที่สูงขึ้นไป ถ้าแบบว่าใครก็สามารถไปพบได้ผมว่าคงไปพบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากันหมดแล้ว ผมว่าในโลกนี้มีกี่ประเทศที่นับถือพุทธศาสนา แล้วท่านเหล่านั้นคงมีแบบว่าไปพบมาแล้ว ทีนี้ก็ลองให้ท่านเหล่านั้นนึกดูรูปขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าดูว่าจะเหมือนกันมั้ย ผมว่าไม่เหมือนกันแน่ๆ แต่ถ้าเป็นพระอรหันต์ท่านคงบอกได้เหมือนกันเพราะเป็นสภาวะที่รู้แจ้งเห็นจริงไปตามนั้นถ้าท่านยังบอกว่าสวย รูปงาม ผมก็ยังมองว่ายังไม่ใช่อ่ะครับ ถ้าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านยังมีรูปหรือจิตอยู่(ขอโทษน่ะครับที่ใช้คำนี้เพราะผมรู้ดีว่าไม่มีแล้วแต่สมมุติฐานเอา)ท่านต้องยังหรือลงมาโปรดสัตว์ได้อีก ถ้าเป็นไปได้อย่างนี้ พระพุทธเจ้าที่จะมาเกิดเพื่อจะตรัสรู้คงไม่มีความหมายสักเท่าไหร่หรอกครับ(เป็นความคิดเห็นส่วนตัวน่ะครับ)ถ้าผิดว่ากล่าวตักเตือนได้น่ะครับ

 

อย่าปล่อยให้จิตเศร้าหมองนะครับ ป่วยก็พิจารณาป่วย ถึงตายก็พิจารณามันไปใครๆก็ตายทั้งนั้น ตายก่อนตายหลังก็ตาย แม้แต่โลกก็มีวันแตกดับ พิจารณาความตายมากๆนะครับ

 

โมทนาสธุครับ
อยากจะบอกว่า ทำจิตให้ว่าง ตั้งสติ ทำสมาธิ แล้วระลึกใคร่ครวญว่า
เราเป็นผู้ไม่มีอะไร ทรัพย์สินก็ไม่มี เพื่อน ญาติ ลูก หลานก็ไม่มี แม้แต่ร่างกายก็ไม่มี เพราะที่กล่าวมา มีสภาพพังหมด เราจะทำกิจที่ต้องทำตามหน้าที่ เมื่อสิ้นภาระหรือร่างกายพังแล้ว เราจะเข้าพระนิพพาน เมื่อความเจ็บป่วยเข้ามาถึง แสดงว่าเราใกล้จะสิ้นทุกข์แล้ว เราจะได้เข้านิพพานแล้ว (ให้ระลึกใคร่ครวญ ทุกขณะจิต ) ก่อนนอนสวดมนต์เท่าที่สวดได้ ขอศีลตรงต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอเป็นภาษาไทยก็ได้ครับ เส็จแล้วโอนบุญให้เจ้ากรรมและอมนุษย์ทั้งหลาย นะครับ
โมทนาสาธุ
ขอให้มีเมตตาและเจริญในธรรม
ข้าพเจ้าเกิดมาต้องตาย ชีวิตไม่เที่ยง ความตายเป็นของเที่ยง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

 

ใครพบพระพุทธเจ้าบ้าง

ตอบกระทู้ เป็นปัจจตัง ผู้รู้จะสื่อสารทางจิตตภาวนา

1.เคารพนับถือพ่อ-แม่ ครูบาอาจารย์เป็นที่สุด

2. อย่าท้อ ข้อสำคัญต้องเข้าหาพ่อ-แม่ ครูบาอาจารย์

สายวิปัสสนากรรมฐาน ฝากตัวเป็นศิษย์ท่าน

3.ปฏิบัติธรรม หากเป็นบุคคลขี้สงสัยโอกาสจะถึงยากมาก

4.ยืนยันจิตต้องบริสุทธิจริง ๆ ถามว่ายากไหม ตอบยากขึ้น

กับบุญบารมีสะสมไม่รู้ทำกี่ภพแล้ว แต่อย่าท้อพยายามต่อไป

ขอเป็นกำลังใจ สาธุ

 

ทุกสิ่งที่เห็น อาจจะจริงหรือเท็จ ขึ้นกับบารมีตามวาระ

เพราะบางคนหรือหลายคนที่อาจพบเจอท่านด้วยวาระที่ถึง เพื่อเตือนให้เราพบทางที่เป็นสายบารมีที่ท่านลงมาโปรด ไหมนะ

แต่สิ่งหนึ่งหรือจะหลายสิ่งที่ควรทำ ก็คง สร้างตน ในสิ่งที่ถูกสอนมา หลักที่ควรทำ น้ำใจที่ควรมี

แต่ละท่านที่พบเจอก็ถามตนเองดูสิว่ามีสถานการ์ณใดที่พบเจอแล้วทำให้เราเปลี่ยนแปลงมากเพียงใด กับการเป็นคนดีในสังคมตามคำสอนของที่ศาสดาของศาสนาสอนสั่งเขียนบัญญัติไว้

ส่วนคยที่อยากพบ พบเจอ ผมว่า มันคือวาระ เราไม่ต้องไปคิดอะไรให้มาก แค่ทำตัว สร้างตน ให้เป็นคนดีมีคุณธรรมนำ รักชาติ ศาสนา กษัตริย์ ดำเนินชีวิตไม่ประมาท และสร้างตนให้เป็นผู้เสียสละ

พัฒนาไปตามสภาพที่สามารถทำได้ อย่าทำจนตนเองท้อ แต่ทำด้วยการพัฒนาแบบไม่หยุดยั้ง

จะก้าวพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่าทีละเล็ก หรือจะก้าวกระโดด ก็ขึ้นกับชะตาฟ้าลิขิต และเรามาลิขิตว่สเราจะทำได้เพียงใด ทำแบบสมดุลย์

ทำแบบสร้างสรร ไม่ตะบันจนตนเอง ไปไม่ถึง เพราะทุกสิ่งมากไปก็จะเกิดบางอย่างที่ล้นเกินไป ควรดูลักษณะทางสายกลางเดินทางตามวิถีมีสัญลักษณ์ หยินหยางเสริมไป

ปล.ผมก็ไม่เคยพบเจอด้วยตาเปล่านะ ก็เล่าสู่กันฟังครับ

 

คำว่าพบของเณรคำนั่น หมายถึงพบจริงๆ
ไม่ใช่การอุปมาดังคำว่า ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเราตถาคต
เณรคำมันเพ้อ เลยเก็บไปฝัน
ใครที่คิดว่าได้พบได้เจอแล้วคิดว่าของจริง นั่นละเมอ เพ้อฝันเป็นตุเป็นตะแล้ว
เห็นพระพุทธเจ้านั้น หมายถึงเห็นความดี เห็นธรรม เห็นทาวเข้าถึงความหลุดพ้น
มิใช่เห็นความเป็นตัวเป็นตน

 

ผมเห็น พระพุทธเจ้าเพราะ ผมเข้าใจในธรรม นะ
เพราะธรรมนั้นคือธรรมที่ชำระอวิชชาในตัวผมได้ ดังนั้น ผู้แสดงธรรมแล้วทำให้เราชำระอวิชชาได้นั่นแหล่ะ ธรรมเดียวกับธรรมที่พระพุทธเจ้าค้นพบ และ ผมก็แน่ใจด้วยว่านั่น แหล่ะ คือท่านเป็นพระพุทธเจ้าล่ะ

มนุษย์ผู้หนึ่ง นั่นเอง ผมเจอตัวเป็นๆนี่แหล่ะนะ

 

เห็นด้วยครับ

 

พระพุทธเจ้าของเราชื่อพระพุทธเจ้าสมณโดคมครับ

ส่วนเจ้าชายสิทธัตถะเป็นพระนามตอนที่ยังเป็นพระโพธิสัตว์ครับ

ส่วนพระพุทธเจ้าสิทธิถะที่ท่านกล่าวถึงเป็นพระพุทธเจ้ากัปป์ใดหรือครับ

//////
อยากเห็นพระพุทธเจ้า ให้ทำสมถะกรรมฐาน (หายใจเข้า พุท- ออก โธ)
ให้ได้ฌาน4 ก่อนจะออกจากฌานถอยลงอุปปะจาระสมาธิ ให้อถิษฐานขอพบพระพุทธเจ้า

 

เคยเจอในฝันคะ..อันดับแรกภาพที่เห็นคือ..มีหมอกขาวคลุมไปทั่ว..บริเวณตรงนั้นสว่างมาก..ทันใดนั้นพระพุทธองค์ก็ทรงพระดำเนินมา..มีพระอัครสาวกติดตามมาด้วย2พระองค์เดินตามมาติดๆซ้ายขวา..แต่ยืนอยู่ข้างพระองค์..ตอนนั้นเรา..รู้สึกตะลึงงง..ตกใจตื้นตันใจมาก..เท่าที่มองและสังเกตุเครื่องกายคือ..นุ่งหมจีวรสีเหลืองเช่นพระทั่วไป..แต่เหมือนรัศมีเปล่งขาวจนจ้าไปหมด..แล้วขาทั้งสองขาของเราก็ทรุดลง..เมื่อทรงดำเนินมาใกล้ถึงเรา,.รู้สึกอ่อนแรงมาก..เราทรุดลงแทบพระยุคกลบาทร้องไห้ออกมา.ตื้นตัน..จนเหมือนจะขาดใจ..ซบลงกราบใกล้ๆพระบาท..ไม่กล้าแม้จะเงยหน้ามองพระพักต์รู้สึกกลัวเกรงในพระบารมีองค์ท่านเป็นอย่างมากร้องให้แทบขาดใจฟุบอยู่อย่างนั้น..จนตกใจตื่น..น้ำตาเปียกเปื้อนหมอนไปหมด..เล่าให้ฟังเป็นนิทานนะคะ..แค่คิดถึงท่านบ่อยๆเท่านั้นจริงๆ..ประสบการณ์ครั้งเดียวในชีวิตที่มีค่ามาก

 

กระทู้
เราหาย

เราเคย พบพระพุทธเจ้า
พระองค์อยาก บอกเราว่าทุกคนว่า
ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ต้องทำเอาเอง
พระองค์ สะสมบุญ บารีมีหลายภพ หลายชาติ กว่าจะตรัสรู้ชอบด้วยตนเอง เราทั้งหลายไม่ได้ช่วยท่านไม่ได้ทำบุญ ร่วมทุกข์ ร่วมสุขมากะท่านท่านทรงโปรด สั่นสอนพวกเรามี"พระธรรม" ให้ศึกษา ต้องอ่านเอาเองพระองค์อยากช่วย แต่ว่าช่วยไม่ได้ เข้าใจไหม
พอคนเรียก พระพุทธเจ้าช่วยด้วย ก็มาไม่ได้
กลับด่อทอ เสียอีก ยิ่งไปกันใหญ่ เข้าใจไหม

(เหมือนพรหมลิขิต ขีดเขียนมาพบกันแค่นี้)
เหมือนโชคชะตา ถูกกำหนดมา เข้าใจไหม

เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ควรทำอย่างไร.,....
ทำดี สะสมบุญ ให้เป็นมเสมือนสมบัติ
ที่ติดตัวไปตอนตาย คนตาย เอาบุญไปได้

ถ้าท่านโชคดี ท่านจะได้พบ พระพุทธแน่นอน.
...
..การขจัดความกลัว คือ ทาน(บุญ)
..การดับทุกข์ คือ ปัญญา
..การดับปัญญา คือ การวางเฉย

(ยิ่งมีปัญญาดี ก็จะเกิดความคิดต่างๆได้)
ถ้าเราไม่คิดละ การจะ...ก็ไม่มี

สิ่งที่ติดตัวเราไปตอน "ตาย" คือ.......อะไร
(ผู้มีปัญญาจะตอบทันทีว่า) .......สิ่งที่กลัวไง


พระธรรม

เกิดจากสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ไม่ชอบไม่สนใจ
เกิดจากสิ่งที่คิด สิ่งที่ไม่คิดจะปล่อยผ่าน
เกิดจากการพูด สิ่งที่ไม่พูดก็ไม่นึกถึง
เกิดจากการทำ สิ่งที่ไม่เคยทำไม่เข้าใจ
เกิดจากการงาน สิ่งที่ไม่ทำไม่สังเกต
เกิดจากพยายาม สิ่งที่ไม่ปรากฎจะบรรลุ
เกิดจากสติ สิ่งที่ไม่คิด ก็ลืม
เกิดจากสมาธิ สิ่งที่ไม่ควรก็กำหนัด

อีกด้าน ของ ความไม่พอใจ
..
..
ยกย่อง เชิดชู้
บิดา มารดา ผู้มีคุณทั้งหลาย ครูอาจาร์ย
เพื่อน พี่น้อง คนทำดีทั้งหลาย
ที่ทำให้เราเป็นคนดี ละก็เผื่อแผ่บุญต่างๆ
ที่เราได้รู้ ได้เห็น เพื่อช่วยคนที่ท้อแท้ สิ้นหวังตกต่ำ เป็นทุกข์ ละอีกหลายเหตุผล
ที่เค้าได้ประสบ ผิดพลาด ได้เข้าใจคือ ทาน
.

 

เคยเห็นตอนนั่งสมาธิคับเค้ามาเข้าฝัน
ตอนเรากำลังนั่งสมาธิอยู่พอดี
ได้ตั้งอทิฐานไปว่าอย่างโง้นอย่างงี้
นั่งสักพักก็หลับไปเค้าก็มาเข้าฝัน
เห็นเป็นขันใบหนึ่งแล้วก็เสียงพูด
อะไรนี้แหละจำไม่ได้นะ