มีคำถามครับว่า "ทำไม"

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย กายในกาย, 13 มีนาคม 2013.

  1. กายในกาย

    กายในกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +1,265
    รบกวนกรุณาแนะนำด้วยครับ ในปัจจุบันนี้ ผมพยายามศึกษาเรื่องกฎแห่งกรรม พยายามมีหิริและโอตตัปปะ กินมังสวิรัติและจะพยายามกินตลอดชีวิต เกิดความคิดมาว่า ทำไม คนถึงยังสนุกสนานอยู่กับการกินเหล้า หลงอยู่กับผับ บาร์ แหล่งบริการอย่างนั้น ทั้ง ๆ ที่การกินเหล้า ผิดศีล ตกนรก นรกไม่ได้สนุกเลย แสนจะทรมานและไม่รู้ว่าจะต้องทุกข์ ทรมาน อีกนานเท่าไร กับการกระทำที่จะนำไปสู่นรก สู่ความทุกข์ทรมานอย่างนั้น ทั้งที่พยายามอธิบายให้ฟัง กลับกลายเป็นเรื่องตลก ผมไปสวดมนต์ นั่งสมาธิ เท่าที่มีเวลา กลับโดนบอกว่า "เพี้ยนหรือเปล่า" "บ้าหรือเปล่า" ทั้งที่การสวดมนต์ นั่งสมาธิ คือการทำความดี ขัดเกลาจิตใจ ขจัดกิเลสทั้งหลาย สิ่งที่ดี ๆ เหล่านี้ กลับกลายเป็นการเพี้ยน การบ้า ทำไม ถึงคิดอย่างนี้ เวลาที่ผ่านไป เป็นสิ่งที่มีค่า เราไม่รู้จะตายในวันไหน ช่วงเวลาที่มีอยู่ ก็ทำความดี ละเว้นความชั่ว ให้ได้มากที่สุด เท่าที่เรายังมีโอกาสได้ทำ เรายังมีโอกาสมีชีวิตอยู่ อยากจะอธิบายให้คนนั้น ๆ ได้เข้าใจ เรื่องกฎแห่งกรรม ถือศีล 5 กลับโดนหัวเราะ เพี้ยน กินมังก็ถูกมองว่าเพี้ยน
    ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวให้กับสิ่งรอบข้างนี้อย่างไร รบกวนแนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ
     
  2. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    การปฏิบัตธรรมนั้น หากยังปฏิบัติไม่ถึงจุด ก็จะยังไม่ซึ้งใจในเรื่อง ใครทำใครได้

    พอยังไม่ซึ้งใจ ปฏิบัติไม่ถึงจุด สันติ คนๆนั้น ก็จะยังเป็นการปฏิบัติ เพื่อเอาไป
    เปรียบเทียบโลก เอาโลกเข้ามาสุมขอน เกิดการเสียดสี ไปชักนำโลกเข้ามา
    เสียดสีด้วยตัวเอง ทั้งๆที่ โลกเขาก็เป็นของเขาแบบนั้น โลก จริงๆ เขาก็ไม่
    ได้ต้องการมายุ่งวุ่นวายกับนักปฏิบัติ

    แต่ จนแล้วจนรอด นักปฏิบัติที่ลงมือปฏิบัตไม่ถึงจุด ก็จะ โกยขยะใส่ตัวเอง

    แล้วไปโทษ โลกว่า มาทำร้ายตัว

    ทั้งๆที่ คนที่ฟังธรรมะ ปฏิบัติเป็น มันต้องรู้อยู่แก่ใจว่า ตนปฏิบัติเพื่อพบสันติสุข

    และที่สำคัญ จะต้องเป็น จุดที่ให้ สันติสุข ให้กับโลกเขา

    ไม่ใช่ไปทวงเอาจากเขา

    เหมือน เราไปปล้นทรัพย์คนจน นักปฏิบัติจึงต้องอดทน มีขันติ ฟังธรรม
    ให้เข้าใจ ปฏิบัติให้ถึงจุด จึงจะเลิก ปล้นทรัพย์เอาจากโลกที่เขาพร่อง ได้

    *********************

    พุทธานุสติ :

    พระพุทธองค์ ทรงเสด็จไปในหมู่บ้านต่างๆ ไปอย่างคนที่มองเห็นได้ว่า "อดโซ"
    ไม่มีข้าวตกถึงท้อง หากหมู่บ้านใดยังไม่มีผู้ให้ทาน แก่ผู้หิวโหย พระพุทธองค์
    ก็จะไม่จาริกไปยังหมู่บ้านอื่น แต่ จะยืน นิ่ง ไม่ร้องป่าวประกาศขอ ไม่ร้อง
    กล่าวพรรณาถึงโทษ ไม่ทวงถามความเคารพ ไม่ทวงถามการรู้จักบุญรู้จักบาป
    จากชาวบ้านเด็ดขาด

    พระพุทธองค์จะทรงนิ่ง และ ไปยืนที่เดิม เพื่อ ขอเขากิน

    อดทน รอ จนกว่า จะมีคนเห็นคุณค่าของการให้ทาน เน้นนะว่า เห็นคุณค่าของ
    การให้ทาน แค่ ไม่ต้องการให้ใครมาอดตายที่หน้าบ้าน ยังไม่เกี่ยวอะไรกับ
    การเห็นบุญเห็นบาป ยังไม่เกี่ยวกับธรรมะ

    พอมีคนสงสาร ให้ข้าว ให้ทาน ก็ต้องอดทน มาขออีก รอจนกว่า คนที่ให้
    ทานจะเกิดความสงสัย ว่า สมณะท่าน ทำไมเพียรอยู่ ทั้งๆที่ อัตขัต ก็อาจจะ
    เดินทางไปยังที่พัก เพื่อเจรจาต่อรอง หรือ ไต่ถาม

    เมื่อนั้น ก็จะค่อยเป็นโอกาส บรรยายอานิสงค์ กล่าวปุพิกถา หากเขาฟังแล้ว
    ชื่นอีกชื่นใจ จิตใจควรแก่การฟังธรรม จึงค่อยแสดงธรรม

    แต่ เราๆ ท่านๆ ลงมือปฏิบัตินิดหน่อย ก็สำคัญว่า คนอื่น จะต้องเห็นคุณค่า
    ให้ความสำคัญ มุ่งปล้่นทรัพย์จากผู้ไม่มี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2013
  3. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    อยู่กับโลก แต่ไม่ติดโลก

    ทางโลกขัดทางธรรม แต่ทางธรรมไม่ขัดทางโลก

    ใครจะเป็นอย่างไร อย่าไปขัดเขา เพราะเขาอยู่ในวงจรกรรมวิบากของเขา ที่ยังไม่พ้น เราปฏิบัติของเราไป แต่ไม่ต้องเอาการปฏิบัติของเรา ไปแย้งกับเขา ทำตัวให้เฉยๆ เป็นมนุษย์ปกติไป อยู่ในสังคมให้ได้ ให้เป็นปกติ แต่ใจเราสะอาดแล้วจากความอยากทั้งหลาย ทำตัวไปตามสมควรเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม

    ปฏิบัติกันที่ใจ หลุดพ้นกันที่ใจ ไม่ใช่ที่ข้อวัตรปฏิบัติ หรือการไปแสดงตัวว่าเป็นผู้ทรงศีล

    ผู้ที่ดูเหมือนทรงศีล แต่ใจทุศีล นั้นมีให้เห็นกันได้ทั่วไป
    ผู้ที่ดูเหมือนคนธรรมดา แต่ใจนั้นสะอาดแล้วจากกิเลส ก็มีอยู่ในสังคม
     
  4. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เวลานักปฏิบัติ โทษโลก ว่า มาทำร้ายตน ก็มักจะ

    1. เปิดโลก แสกนกรรม

    2. แก้กรรม

    3. โอนบุญ เบิกบุญ

    4. บนบาน

    5. ขอ เอาดื้อๆ ก็มี

    แต่ถ้า ปฏิบัติจนเข้าใจว่า ไม่ใช่โลกทำตน แต่ ตนนั่นแหละก่อเอาไว้
    และ ไอ้ที่ก่อไว้นั้น มีมหาศาล ทั้งขาว และ ดำ ล้วนแต่ จะคอยชักนำ
    ให้เข้าไปข้องกับโลก แล้วถูกปิดทับด้วย โลกเข้ามากระทำ ก็จะเกิด
    การดำริบางประการ ที่พ้นจากทุกข์ ที่ถูกต้องตรงทาง แต่ ปรุงแต่ง
    เอาไม่ได้ เพราะมันจะจบไม่จริง แถม มืดบอดกว่าเก่า หากสำคัญว่า
    "วิธีแก้" แบบฉาบฉวยนั้นสุดยอด ก็จะ พลัดออกจาก เอกายนมรรค
    การพิจารณา กายในกาย ไปอย่างน่าเสียดาย
     
  5. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    ทำไม...?
    เพราะเป็นเรื่องของปัญญา ปัญญาในที่นี้คือ รู้

    เอาง่ายๆนะครับ คุณว่าประกันขายง่ายมั้ยในประเทศนี้
    โคตรยาก...
    ดีมั้ย? ให้ฟรีทุกคนเอาครับ
    แต่จ่ายตังค์ไม่เอา
    แล้วเวลาที่มีปัญหา เข้าโรงพยาบาล ไฟไหม้บ้าน หรือผู้ปกครองเสียชีวิต
    ถามหาประกัน... ทำไมไม่ทำ...

    รู้ไม่เท่ากันครับ อธิบายไปก็ไลฟ์บอย เสียเวลาครับ
    อย่าไปเสียเวลากับคนเหล่านั้น
    ให้เสียเวลากับคนที่ศรัทธาเท่านั้นครับ
     
  6. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
  7. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    สิ่งที่หาได้ยากในโลก มีอยู่ 4 อย่าง

    หนึ่งในนั้นคือ คนรู้คุณคน หรือ คนที่มีความกตัญญู

    โลก เขาอาจจะยังไม่ฉลาดในธรรม และ ยังเกี่ยวข้องกับ สิ่งที่วิจิตร(ขันธ์5) อยู่
    มาก แต่ เขาเหล่านั้น ก็ล้วนแต่หาทาง สร้าง สันติ ในแบบที่เขาจะพึงมีเวลา
    คิดได้

    บางคนเขียนกฏหมาย

    บางคนทำนา เลี้ยงควาย

    บางคนสร้างภาพลักษณ์ สร้างบ้าน แปลงเมือง

    แต่ โดยหลักการ เขาย่อมมุ่งประโยชน์ต่อ สังคม ที่มีเอกภาพ สันติภาพ ใน
    แบบที่เขาจะพึงดิ้นรนคิดค้นออกมา

    สังคม ที่โลกเขาปั้นแต่ง สร้างความสุข ความสบาย สร้างระบบ การหมุนเวียน
    ก็เพื่อให้เกิดการ " เกิด "

    เกิดมาเป็น คน เพราะ สังคมของคน มันก็เป็นเรื่อง เอื้อให้เกิดมาเป็น คน มี
    ภพความเป็น คน ให้เราได้อาศัยเกิด

    คนที่ปฏิบัติถึงจุด รู้คุณค่าของความเป็นคน จะ คิดอะไร กล่าวอะไร
    สำแดงถึงความ "อกตัญญู" เต็มหัวใจชัดๆ ไม่ดีเลย
     
  8. กายในกาย

    กายในกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +1,265
    ขอบคุณทุกท่านครับ ความปรารถนาของผมอยากช่วยทุกคนที่อยู่รอบข้างให้รู้ถึงกฎแห่งกรรม และเปลี่ยนแนวทางให้มาปฏิบัติธรรม มาเป็นกองทัพธรรมเพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้สืบต่อไปครับ ซึ่งในความเป็นจริงนั้น เป็นสิ่งที่ยากมาก คงต้องวางลง และปฏิบัติเกี่ยวกับตัวเราให้เข้าใจธรรม ให้มากยิ่งขึ้นครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 มีนาคม 2013
  9. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ช่วยผู้ที่ถึงเวลาก่อน ผู้ยังไม่ถึงเวลานั้น เอาวางไว้ก่อน

    ผู้ที่ถึงเวลาแล้ว ที่ต้องช่วย อันดับแรกสุด คือ ตัวเอง

    เดินในเส้นทางสายนี้ ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้ช่วยผู้อื่น

    ตัวเองผ่านเมื่อไหร่ ผู้ที่มีบุญสัมพันธ์กับเรา จะเดินเข้ามาหาเราเอง
     
  10. กายในกาย

    กายในกาย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +1,265
    เห็นภาพเลยครับ ขอบคุณมากครับ
     
  11. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    การช่วยคนอื่น คืออะไร

    ก็คือ การช่วยให้ผู้อื่นฟังธรรมเป็น พอเขาฟังธรรมเป็น เดี๋ยวอย่าง
    อื่นมันเกิดขึ้นเอง ตามเหตุปัจจัย

    แต่ ก่อนจะช่วยให้คนอื่น ฟังธรรมเป็น ตัวเราต้อง ฟังธรรมเอง ให้เป็นก่อน

    คนที่ไม่ได้ตั้งจิตไว้ในทางการค้นหาทางเอง(จินตมัยปัญญา) ล้วนต้องอาศัย
    การฟังธรรมจากผู้อื่น เพื่อเข้าไปเห็นตาม แต่ การเห็นตาม ก็ยังไม่จัดว่าเป็นการฟัง
    ธรรมเป็น เพราะยังเป็นการฟังตามผู้อื่นอยู่(สุตตมัยปัญญา)

    ลองสังเกตุ

    คำถามของคุณ ดูแบบโลกๆ ใช้ตาธรรมดาๆ พิจารณา ก็เหมือนการปรารภ
    การเรียน การสอน การสั่ง การเผยแผ่ แต่ ถ้า คุณพิจารณาดีๆ ตรงนี้
    เขาเรียกว่า "เข้าไปส่วนสุด" พอเข้าไปส่วนสุด ก็ทำให้เกิดการ
    "บัญญัติโลก" กล่าวลักษณะโลก(มีที่สุด / ไม่มีที่สุด )

    เมื่อ คนใดคนหนึ่ง เผลอเข้าไปในส่วนสุดของโลก แล้วทำการบัญญัติ

    ก็อาจจะมี คนมาย้อนแย้ง ย้อนแย้งในส่วนสุดอีกข้างหนึ่ง

    พูดง่ายๆ คือ คุณเข้าไปส่วนขวา คนอื่นเขาก็ต้องมาพูดซ้าย

    แต่ถ้า ฟังธรรมยังไม่เป็น คุณก็จะย้ายข้างมาทาง ซ้าย ตามเขา ซึ่ง
    จะเรียกว่า ฟังธรรมไม่เป็นทันที

    การฟังธรรมให้เป็น จะต้องไม่เกิดการเคลื่อน เดี๋ยวไปขวา เดี๋ยวไปซ้าย
    อาศัยผู้อื่น

    กายในกาย เอกายนมรรค ทางของคนเดินเพียงคนเดียว เกิดขึ้นอยู่
    ตลอดเวลา แต่มันอยู่ที่ คนๆเดียว จะพึงฟังตรงส่วนนั้นๆ ให้เข้าใจ
    เข้าถึง ชำนาญในการฟัง ตรงนั้น ที่ไม่มีใครกำลังแสดงคำสอน
    นอกจาก ธรรมเขาสอนอยู่ตลอดเวลา แต่ เราย้ายซ้าย ย้ายขวา บนๆ
    ล่างๆ "select start ( เลือกข้างแล้ว พุ่งไป ) " อยู่นั่น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 มีนาคม 2013
  12. ABT

    ABT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +1,524
    เมื่อก่อนผมก็เป็นอย่างนี่แหละ แค่เฉียดได้รู้จักธรรม ก็อยากให้คนอื่น รู้บ้างเที่ยวไปสอนคนโน้น คนนี้ครับ เขาไม่เชื่อหรอกครับ เพราะธรรมของพระพุทธเจ้านั้นเป็นธรรมที่รู้ได้ด้วยตน หาใช่บังคับใครให้รู้ได้ เมื่อครั้งที่พระพูทธเจ้าไปโปรด(ผมจำชื่อไม่ได้) แต่จำได้ว่าเป็นผู้หญิง นางไม่ฟังใครไม่เชื่อใคร พระองค์ทรงปรากฎกายเบื้อหน้านาง นางก็กันหน้าหนีทำเป็นไม่เห็นพระองค์ท่าน พระองค์จึงแสดงฤทธิ์หันไปทางไหน ซ้าย ขวา หน้า หลัง ด้านบน ด้านล่าง เพื่อให้นางได้เห็น นางทำอย่างไรรู้ไม๊ นางก้มมองเครื่องเพศของตนเอง พระพุทธเจ้าไม่สามารถที่โปรดได้ (เขาเรียกว่าอะไรน้า หากเป็นเราเรียกว่าได้รู้ว่า) ไม่ควรโปรดคนที่ไม่ยินยอมให้เราโปรด เพราะบางคนกรรมหนักมากแม้พระพูทธเจ้าก็ทรงไม่โปรด เอาตัวเราให้รอดก่อน ให้รู้แจ้งก่อน แล้วคนที่เราสมควรช่วยเหลือจะมาให้เราช่วยเอง ขออนุโมทนาด้วยเศียรเกล้า ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  13. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    เราหลอกตัวเองหรือเปล่า
    เขากำลังหลอกเราหรือเปล่า
    เขากำลังหลอกตัวเองหรือเปล่า

    หากเราไม่หลอกตัวเอง
    เราศรัทธาแล้ว วิริยะ สติ สมาธิปัญญา
    ไปตามทางของพุทธเจ้า
    ของเรา
    เพื่อความสงบ ของเรา และสิ่งรอบข้าง


    สุขตามมาแน่นอนหรือไม่อย่างไรขอรับ

    ขอท่านเจริญในธรรมยิ่งแล้วขอรับ
     
  14. thitiwats

    thitiwats เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    744
    ค่าพลัง:
    +4,414
    กราบโมทนาในกุศลจิตของ จขกท.ครับคนเราทำบุญมาไม่เหมือนกันครับ
    ที่เขาบอกว่าบัว 4 เหล่าครับ
    [​IMG]
    แต่คิดอย่างคุณนี้ไกล้แล้ว...
     
  15. vichayut

    vichayut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +661
    ปัจจัตตัง
    ธรรมของพระศาสดา คือรู้ได้เฉพาะตน
    รู้ให้ถึงที่สุดของกาย-ใจ ของเรานี้ก็เพียงพอแล้ว
    นั่นคือหน้าที่ ที่เราควรทำ

    และเมื่อถึงที่สุดแล้ว อะไรที่เราไม่อยาก ไม่ควรรู้
    เมื่อถึงเวลาแล้วเราจะรู้เอง
     
  16. คุณตุ๊ก

    คุณตุ๊ก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +131
    มันก็เจอกันทุกคนละครับ โดนหัวเราะ

    ผมจะคุยเรื่องแบบนี้ก็คนชอบด้วยกัน ระวังศิลห้าไม่ให้ขาด แบบไม่ต้องบอกใคร

    ระลึกรู้ให้ได้บ่อยๆเท่าที่ทำได้ จะเตือนเฉพาะคนที่ ใกล้ชิดมากๆ แต่จะไม่ลึกมาก

    จะคอยบอก ตอนที่เขากลัว สังเกตดูนะครับคนเราเวลากลัวอะไรก็ช่าง แค่ฝันร้ายก็ไปหาพระแล้ว

    โอกาศแบบนั้น เราจะพอเตือนเขาได้บ้าง

    อนุโมทนาครับ
     
  17. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    สัพเพธรรมาอนัตตา
     
  18. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154

    ที่คุณทำอยู่ยินดีด้วย :VO

    ส่วนพวกเขาๆ น่าจะไม่รู้หรือลืมอะไรไปบางอย่าง dannce_
     

แชร์หน้านี้

Loading...