อย่าเลยพระพุทธเจ้า อย่าเลยครูอาจารย์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ปุณฑ์, 28 มีนาคม 2013.

  1. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ..ทำเพื่อศาสนาจริงรึไม่..รึแอบแฝง..ผมข้องใจ
    พอใจเพียงใช้สื่อให้ดังหน่อย แล้วเปิด มูลนิธิ.. รับบริจาคเงินทองอีกแล้ว..ต้องอ้วนก่อนใช่ไหมครับ จึงบรรลุธรรมได้
    ซื้อที่ดิน ต่อไปอะไรอีกล่ะ..จะสร้างอะไรอีก จะมาหาอริะสัจจ์4.. ทางพ้นทุกข์ ก็ต้องรู้ทุกข์..ศึกษาทุกข์ซิครับ ..หรือเออถ้ามุ่งจะมาหา ทรัพย์ของบริษัท4..ก็ว่าไป
    ..จะเอาตัวเองให้อ้วนก่อน..ค่อย นิพพาน รึ
    ..อย่ามาพูดนะ คนอื่น องค์อื่น เขาก็ทำแล้วองค์ที่เขาไม่ทำล่ะยกมาเป็นตัวอย่างไหม..อ้วนเอ้เต้..ก่อนแล้วค่อยหลุดพ้น..รึครับ ศาสดาองค์ไหนท่านสอนให้หาเงินเข้าแบงค์ก่อนแล้วค่อยหลุดพ้น อิอิ
    วัดร้างทั่วประเทศ..ไปซิ ไปอยู่ไปฝึก..ค้นหาทุกข์ มากลัวอดข้าวติดที่อยู่ได้ไง อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2013
  2. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    1+1=2 2+2=4 4+4=8 คิดบาก +++++++
     
  3. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    มาทีตั้ง3 คน ตรงนี้พระพุทธเจ้ากกล่าวไว้ ครับ
     
  4. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    ผมว่าหลวงปู่มั่นบอกว่ารักษาศีล1ข้อ คือ "ที่ใจ"นั้น ถูกต้องยิ่งกว่าถูกต้อง
    แต่ถ้าว่าด้วยปาติโมกข์ ก็ต้อง227ข้อ แน่นอน ไม่มีขาดเกิน
     
  5. newamazing

    newamazing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    1,704
    ค่าพลัง:
    +1,381
    เอาจริงเอาจังเลยเนาะ เดี๋ยวก็มีข้อสรุปเชื่อเถอะจะ150หรือ227ก็ว่าไปตามเหตุผลสรุปอย่างไรก็ว่ากันไปตามความจริง ก็ถกกัน สาระสำคัญเราเป็นพุทธบริษัทถก็กันในพุทธวจนกถือว่าเป็นผู้เลิศแล้ว นะวันนี้ท่านสวด150ขอเพราะอะไรก็ไปถามดูเอาผมไม่ค่อยสนใจเรื่องนั้นหรอกเพราะเป็นเรื่องของพระ ส่วนเรื่องพุทธวจนนั้น คำสอนของพระพุทธองค์นั้นจะต้องเป็นหลักครับ ส่วนท่านใดจะไปแนวไหนมีใครห้ามเหรอ ก้ตามสบายกันเลย ก็มีแต่พระศาสดาที่ทรงแสดงไว้เรื่องกลองศึก อานกะ ที่จะมีแต่เนื้อไม้ใหม่ตอกเขาไปแทน ผมเห็นความสำคัญตรงนี้ที่สุด ส่วนใครจะเป็นอย่างไรนั้นสุดแล้วแต่กรรมครับ สาธุ
     
  6. opateng

    opateng สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +11
    you ไปดูประวัติของ pitaka ก่อนนะ ยุคแรกไม่มีอถรรกถา มีแต่ ธรรม + วินัย คือ พุทธวจน ล้วนๆ แล้วใช้การ มุขปาฐะ นั่นแสดงว่ายุคนั้นไม่มีคำนิคมแน่ การสังคายนาครั้งที่ 3 ที่ อโศการาม พ.ศ. 235 ครั้งนี้ก้อยังไม่มี อรรถกถา แต่ อรรถกถา มีในการสังคายนาครั้งที่ 4 (ศรีลังกา) ธรรม+วินัย+อรรถกถา พ.ศ. 238 ครั้งที่ 5 พ.ศ. 450 ถึงจารึกเป็นลายลักษณ์อักษร ดูประวัติศาสตร์ก่อนนะถึงมาด่าคนอื่นเขา ถือว่าจบแล้วสำหรับ 150 เข้าใจแบบไหนก้อให้เขาใจแบบนั้นไปล่ะกัน pataka 3 เล่มแปลว่าถ้วนทั้งหมด บาลีสยามรัฐพระร้อยกว่ารูปในสมัย ร.5 ช่วยกันแปลก้อลองไปถามท่านเหล่านั้นดูว่าทำไมแปลแบบนั้น มหามหามกุฏ กับ มหาจุฬา พระร้อยกว่ารูปช่วยกันแปลในสมัย ร.9 ก้อแปลว่าถ้วน ลองไปถามท่านเหล่านั้นดูว่าทำไมแปลว่าถ้วน ไปดูใน pitaka เองบ้างไม่ใช่ให้เอามาแสดงให้ดูตลอด pitaka 3 ฉบับเป็นราวะแห่งชาติ มีพระเป็นร้อยกว่ารูปช่วยกันแปล ไม่ใช่ความเห็นของพระรูปเดียว นี่ละน้าาพอมีคำแต่งใหม่มันก้อจะขัดกับคำพระพุทธเจ้าแบบนี้แหละ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2013
  7. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    จิงดิ 'จารย์ !

    แปลว่าอะไร 'จารย์ !!

    'จารย์ กำลังสอนเราว่า หากเอาการปฏิบัติ นัยยทางปฏิบัติ รักษาศีล
    ข้อเดียว ได้ความประเสริฐก็ล้นพ้นแล้วใช่ไหม 'จารย์

    แล้ว 'จารย์กำลังสอนอะไรเราอีก หากไม่พูดเรื่องการปฏิบัติ แต่เพื่อ
    เอาประโยชน์ทางการ ถกเถียง ก็จะใช้ ตัวหนังสือ เรียนจดจำกัน
    ด้วยตัวหนังสือเป็นเกณฑ์ขึ้นมาใช่ไหม 'จารย์

    ใครท่องได้ 227 ก็ถือว่า ท่องได้ต่างกับพวก 150

    ส่วนเรื่อง มารยาทเล็กๆน้อยๆ 75 ข้อ เช่น ไม่พูดคุยกันขณะทานอาหาร
    ไม่เคี้ยวอาหารปากดังแจ๊บๆ .... หรือ ไม่นั่งกับลูกศิษย์สาวๆ เพียงสองต่อ
    สองในที่ลับตา ใครจะ ท่องเพิ่ม ทำเพิ่ม ก็ว่ากันไป ใช่ไหม 'จารย์

    [​IMG]
    ภาพปลากรอบจากเครือข่ายทั่วโลกีย์
     
  8. opateng

    opateng สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +11
    หลัก มหาประเทศ 4 ให้เทียบเคียง ธรรม + วินัย ท่านไม่ได้บอกให้เทียบเคียง ธรรม + วินัย + อถรรกถา

    ลองถามพระทั่วประเทศไทยดูสิว่าท่านรักษาศีลกี่ข้อ จะมีซักกี่เปอร์เซนต์ที่บอกว่า 2,400 กว่าข้อ 99% จะบอกว่ารักษาศีล 227 ข้อ ถ้าเขาเข้าใจแบบท่านก็คงจะดี แต่พระที่ศึกษาพุทธวจนะจะรู้หมดทุกรูปว่าท่านต้องรักษาศีลทั้งหมด 2,400 กว่าข้อ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2013
  9. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    ไม่เข้าใจเหรอ ไม่ได้แต่งใหม่ แต่รวบรวมพุทธพจน์ โดยพระอุบาลี
    อ่านหนังสือไม่ออกเหรอ พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้ ว่าดังนี้:

    ใครแต่งอะไรใหม่กัน ยังไม่ตอบเลย 150 ข้อมีอะไรบ้าง
    ถ้าคุณไม่อาศัย อรรถกถา จะมีคุณแปล บาลีอย่างเดียวออกเหรอ

    ที่บอกว่าแต่งใหม่นี่จริงๆท่านรวบรวมจากพุทธพจน์ที่กล่าวว่า ให้แสดง และเป็นเอตทัคคะด้านพระวินัย เป็นบาปกรรมนะคุณกล่าวตู่พระอรหันต์ว่า แต่งใหม่แล้วขัดพระพุทธเจ้า

    อีกอย่างบอกไปแล้วไงว่า ต่อให้แปลถูกว่า 150 ถ้วนแต่เปนเหตุการที่พระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์ ศีลยังเปลี่ยนแปลงได้
    สุดท้ายจะพระไตรปิฎกะฉบับไหนก็เถอะลองไปเปิด พระวินัยแล้วลองนับสิว่าพระพุทธเจ้าให้แสดงกี่ข้อ

    ถ้าไม่เข้าใจแล้วยังเถียงข้างๆคูๆแบบนี้ ก็ขอบาย ปล่อยให้เป็นมิจฉาทิฏฐิ ต่อไปแล้วกัน ผมวางอุเบกขา เวลาคุณลงนรกผมไม่ลงไปกับคุณหรอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 มีนาคม 2013
  10. opateng

    opateng สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +11
    สรุป 150 ข้อ
    ปาราชิก 4 ข้อ
    สังฆาทิเสส 13 ข้อ
    นิสสัคคิยปาจิตตีย์ 30 ข้อ
    ปาจิตตีย์ 92 ข้อ
    ปาฏิเทสนียะ 4 ข้อ
    อธิกรณสมถะ 7 ข้อ
    ถ้าจะเอาพุทธวจน ไปอ่านใน pitaka เองนะ มันยาว ถ้าผมบอกว่าให้คุณแสดง 227 ข้อให้ผมดูด้วยล่ะมีว่าอะไรบ้าง ยกมาให้ดูหน่อย จะว่ายังไง

    ถ้ายังแยกแยะไม่ออกว่าเมื่อก่อนเขาใช้ มุขปาฐะ จำเพียง พุทธวจน (ดูกร!) ก็คงต้องจบเหมือนกัน ถ้ายังคิดว่าตอนพระมหากัสสปะสังคายนาพระไตรปิฎกเป็นครั้งแรก มีอถรรกถาก็จบแล้วครับ
     
  11. คนเหาะ

    คนเหาะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +85
    พระทั้งประเทศไทย ปัจจุบันท่านก็ถือศีล 227ข้อ

    พระทั้งประเทศไทย ปัจจุบันท่านก็ถือศีล 227ข้อ

    อ้าย! อ้าย! อ้าย!!!! ติดอ่างนะเนี๊ยะ ตรู บ่องตรง

    อ้าย! อ้าย! อ้าย!!!! คนธรรมดา อ้าย! อ้าย! อ้าย!!!! สามัญชน

    รู้ดี เก่งจัง เก่งเกินพระไทยทั้งประเทศ
     
  12. Ron_

    Ron_ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    568
    ค่าพลัง:
    +1,284
    คือ 227 นี่ไม่ต้องมี อรรถกถาก็ได้
    ๘๘๑] ท่านทั้งหลาย นิทานข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้ว. ธรรมคือปาราชิก ๔ สิกขาบท ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้ว ธรรมคือสังฆาทิเสส ๑๓ สิกขาบท ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้ว. ธรรมคืออนิยต ๒ สิกขาบท ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้ว. ธรรมคือนิสสัคคิยปาจิตตีย์ ๓๐ สิกขาบท ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้ว. ธรรมคือปาจิตตีย์ ๙๒ สิกขาบท ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้ว. ธรรมคือปาฏิเทสนียะ ๔ สิกขาบท ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้ว. ธรรมคือเสขิยะทั้งหลาย ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้ว. ธรรมคืออธิกรณสมถะ ๗ ประการ ข้าพเจ้ายกขึ้นแสดงแล้วแล.              สิกขาบทของพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น มีเท่านี้ มาในพระปาติโมกข์ นับเนื่องในพระ ปาติโมกข์ มาสู่อุเทศทุกกึ่งเดือน.              พวกเราทั้งหมดนี้แล พึงเป็นผู้พร้อมเพรียงกัน ร่วมใจกัน ไม่วิวาทกัน ศึกษาในพระ- *ปาติโมกข์นั้น เทอญ.
    http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=2&A=16407&w=%A4%D3%B9%D4%A4%C1

    คุณยังไม่เชื่อพระอุบาลี ก็ไม่เปนไร ลองตามไปอ่านพุทธวจนในพระวินับดูว่าแต่ละข้อนั้นพระพุทธเจ้าตรัสว่าให้ จริงไหม แต่ที่แน่ๆ นะ อนิยตะ กับ เสขิยะ ท่านให้แสดง ดังที่ยกมาแล้ว ยกเว้นมีเหตุจำเป็น

    ผมยกมาไม่ไหว 227 ข้อ ลองไปอ่านและนับดู แต่ที่แน่ๆ มากกว่า 150
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 31 มีนาคม 2013
  13. opateng

    opateng สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +11
    ถ้าเอาอันนี้มาแสดงก้อแล้วแต่ท่านเถอะครับจะเชื่อคำแต่งใหม่ก็ตามใจ ผมพอแล้ว
     
  14. opateng

    opateng สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +11
    ฟายอีกตัวล่ะ เขาถกกันมานานแล้วไอ้นี่เพิ่งโผ่
     
  15. คนเหาะ

    คนเหาะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +85
    ตรูมาตั้งแต่ปี่ท่ีแว้ว ไม่ได้ลืมตาดูเลย

    ไอ่มารศาสนา!!!!

    ไปตั้งลัทธิไหม่ไปปปป!!

    จะตั้งกฏ ตั้งบัญัติ เอาตามชอบใจ

    เชิญ อย่าช้า!!!!!![​IMG]
     
  16. opateng

    opateng สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +11
    ชิบหาย! ก็ใน พุุทธพจบอก 150 มีอยู่ 4 สูตร แล้วเมิงจะให้กรูเชื้อคำแต่งใหม่หรอ เมิงสิที่กำลังจะตั้งลัทธิใหม่ แค่ภิษุณี 311 ก็ผิดแล้วฟาย ไอ้พวกหิ่งห้อยพอพระอาทิตย์ขึ้นพวกเมิงก็หมดแสงแล้ว เมิงนั่นแหละมารศาสนา รักษาคำแต่งใหม่ทำลายคำพระศาสดาตัวเอง
     
  17. opateng

    opateng สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +11
    หยิบมาแค่ 1 ใน 4 พระสูตรทีว่าถึง 150 ดูว่าแต่ละที่แปลยังไง
    สาธิกมิท ภิกฺขเว ทิยฑฺฒสิกฺขาปทสต อนฺวฑฺฒมาส อุทฺเทส อาคจฺฉติ
    แปลโดย บาลีสยามรัฐ
    "ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิกขาบท ๑๕๐ ถ้วนนี้ มาสู่อุเทศทุกกึ่งเดือน..."
    แปลโดย มหามกุฏฯ
    "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สิกขาบทที่สำคัญ ๑๕๐ นี้ ย่อมมาสู่อุทเทสทุกกึ่งเดือน..."
    แปลโดย มหาจุฬาฯ
    "ภิกษุทั้งหลาย สิกขาบท ๑๕๐ ถ้วนที่กุลบุตรผู้ปรารถนาประโยชน์ศึกษาอยู่..."

    นี่คำพระพุทธเจ้า ไม่ใช่คำแต่งใหม่่ กรุณาอย่าเอาคำนิคม หรือ คำแต่งใหม่มาขัดแย้งคำพระพุทธเจ้า
     
  18. opateng

    opateng สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +11
    ถ้ายกอันนี้มายังน่าชื่นชม น่าเชื่อถือกว่าอันที่ท่านยกมาข้างบนเลย
    [๑๖๗] ครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลาย ได้มีความปริวิตกว่า ปาติโมกขุเทศมีเท่าไรหนอ แล้ว
    กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    ปาติโมกขุเทศนี้มี ๕ คือ ภิกษุสวดนิทานจบแล้ว พึงสวดอุเทศที่เหลือด้วยสุตบท นี้เป็น
    ปาติโมกขุเทศที่ ๑.
    สวดนิทาน สวดปาราชิก ๔ จบแล้ว พึงสวดอุเทศที่เหลือด้วยสุตบท นี้เป็นปาติ
    โมกขุเทศที่ ๒.
    สวดนิทาน สวดปาราชิก ๔ สวดสังฆาทิเสส ๑๓ จบแล้วพึงสวดอุเทศที่เหลือด้วย
    สุตบท นี้เป็นปาติโมกขุเทศที่ ๓.
    สวดนิทาน สวดปาราชิก ๔ สวดสังฆาทิเสส ๑๓ สวดอนิยต ๒ จบแล้ว พึงสวด
    อุเทศที่เหลือด้วยสุตบท นี้เป็นปาติโมกขุเทศที่ ๔.
    สวดโดยพิสดารหมด เป็นปาติโมกขุเทศที่ ๕.
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปาติโมกขุเทศ ๕ นี้แล.
    อาจจะเป็น 152 ได้ แต่ก็เคยบอกเหตุผลไปแล้ว แต่ไม่ใช่ 227 แน่ๆ แต่มีพระสูตร 4 สูตรบอก 150 ก้อต้องทำตาม 150 จบแล้วนะ จบแค่นี้ไม่ไปต่อแล้ว ถ้าจะเถียงต้องเอาพุทธวจนะ เีถียงกับ พุทธวจนะ ถ้าเอา พุทธวจนะ เถียงกับคำแต่งใหม่ ไม่มีวันจบลงได้
     
  19. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    คาถา หมายถึง บทประพันธ์ หรือ บทร้อยกรองในภาษาบาลี เป็นบทที่กระชับ
    ไพเราะ สละสลวย มีใจความที่ครบถ้วน (ไม่ว่าจะแปลเป็นภาษาใด ๆ ก็ตาม)

    พระคาถาที่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัส พร้อมทั้งคาถาที่พระอริย-
    สาวกทั้งหลายได้กล่าวไว้ ตามที่ปรากฏในพระไตรปิฎกนั้น ล้วนเป็นสิ่งที่จะต้องศึกษา
    เพื่อความเข้าใจในพระธรรมที่ถูกต้อง

    คาถาแต่ละคาถานั้น ประกอบด้วย ๔ บาท (หรือบางแห่ง ใช้คำว่า ๔ บท) เมื่อมี ๔ บาท หรือ ๔ บท จึงเป็น ๑ คาถา เช่น

    พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้า ๓๒๙
    กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ กิจฺฉํ มจฺจาน ชีวิตํ
    กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท.

    คำแปล
    "ความได้อัตภาพเป็นมนุษย์ เป็นการยาก,
    ชีวิต ของสัตว์ทั้งหลาย เป็นอยู่ยาก,
    การฟังพระสัทธรรมเป็นของยาก,
    การอุบัติขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลายเป็นการยาก"

    - กิจฺโฉ มนุสฺสปฏิลาโภ (ความได้อัตภาพเป็นมนุษย์ เป็นการยาก) เป็นบาทที่ ๑
    -กิจฺฉํ มจฺจาน ชีวิตํ (ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย เป็นอยู่ยาก) เป็นบาทที่ ๒
    -กิจฺฉํ สทฺธมฺมสฺสวนํ (การฟังพระสัทธรรมเป็นของยาก) เป็นบาทที่ ๓
    -กิจฺโฉ พุทฺธานมุปฺปาโท (การอุบัติขึ้นแห่งพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นการยาก) เป็นบาทที่ ๔
    เมื่อครบทั้ง ๔ บาท จึงเป็น ๑ คาถา นั่นเอง
    คำอธิบายเรื่องคาถา ๔ บาท ก็มีด้วยประการฉะนี้

    ประวัติความเจริญทางพระพุทธศาสนาของศรีลังกา ตอนที่ 9 [พระมหาเจดีย์]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2013
  20. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย จตุกนิบาต เล่ม ๒ - หน้าที่ 454
    ภิกษุ .... ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่าบุคคลเป็นพหูสูต
    เป็นผู้ทรงธรรม เป็นพหูสูต เป็นผู้ทรงธรรม ดังนี้
    ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอแล บุคคลจึงเป็นพหูสูต เป็นผู้ทรงธรรม ?
    พระผู้มีพระภาคเจ้า ตรัสว่า. ดูก่อนภิกษุ เราแสดงธรรมเป็นอันมาก คือ
    สุตตะ.. .เวทัลละ ถ้าแม้ภิกษุรู้ทั่วถึงอรรถ รู้ทั่วถึงธรรมแห่งคาถา ๔ บาท
    แล้วเป็นผู้ปฏิบัติ ธรรมสมควรแก่ธรรมไซร้ ก็ควรเรียกว่า เป็นพหูสูต
    เป็นผู้ทรงธรรม...

    ..
    แวะมา น่าสนใจเรื่องผู้เป็นพหูสูตรผู้เป็นผู้ทรงธรรมในพุทธพจน์บทนี้
    เลยลองค้นดู
    เนื้อหาแสดงไว้ ว่าพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมไว้เป็นอันมาก
    หากภิกษุ แม้รู้ทั่วถึงอรรถและธรรมแห่งคาถา 4 บาท
    แล้วเป็นผู้ปฏิบัติสมควรแก่ธรรม ก็เป็นพหูสูตรเป็นผู้ทรงธรรม
    เลยค้นคาถา 4 บาท คืออะไร
    ก็คือ หนึ่งคาถา จะมี 4 บาท(หรือ 4 บท)
    คือ คาถา 4 บาท ก็คือ 1 คาถา นั่นเอง

    แต่ไม่ทราบว่าจะรู้คาถาเดียวหรือกี่คาถา(ยกไว้ก่อน)


    เมื่อคืนก็นอนคิดอยู่..
    ไม่ได้สงสัย เรื่องบาทหรือบท
    เพราะ 1 คาถา มี 4 บาท (หรือ 4 บท)
    แต่สงสัยว่าทำไม ต้อง คาถา 4 บาท
    ทั้งที่มี ..สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ์ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมม์ เวทัลละ...

    แสดงว่า คาถาสี่บาท ต้องสำคัญมาก หรือไม่ อย่างไร
    การรู้ทั่วถึงอรรถและธรรมแห่งคาถาสี่บาท
    แล้วเป็นผู้ปฏิบัติสมควรแก่ธรรม ก็เป็นพหูสตรเป็นผู้ทรงธรรม
    ถ้าจำได้คาถาเดียว ก็อาจแทงถึงคาถาอื่นๆ ธรรมอืนๆ หรือเปล่า??
    ไม่ว่าใครจะยกบทไหนมา.. ก็แทงได้ ???
    แต่อาจจำได้คาถาเดียว (หรือมากกว่าก็ได้)

    ซึ่งดูๆแล้ว ความคิดนี้ ก็ยังไม่น่าจะใช่...
    หรือน่าจะหลายคาถา...(ยกไว้ก่อน)
    เพราะความสำคัญ น่าจะไปอยู่ที่..
    ถ้าแม้ภิกษุรู้ทั่วถึงอรรถรู้ทั่วถึงธรรม แห่งคาถา ๔ บาท
    แล้วเป็นผู้ปฏิบัติ ธรรมสมควรแก่ธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...