หากลูกประพฤติเช่นนี้ บาปจะตกถึงพ่อแม่หรือไม่

อันนี้เป็นเรื่องราวของเพื่อนผมคนหนึ่ง ซึ่งเค้านั้นเป็นคนดีกับคนใกล้ตัว เช่น บิดา มารดา พี่น้อง รวมถึงเพื่อนสนิทที่ไว้ใจด้วย ผมก็เป็นหนึ่งในเพื่อนเหล่านั้น และเข้าใจนิสัยของมันดีทุกอย่าง แต่ว่าในเวลาทำธุรกิจหรือค้าขายกับคนนอกนั้น มันจัดว่าเป็นคนเขี้ยวลากดินคนหนึ่งและมีสันดานพ่อค้าอย่างแท้จริง

ฐานะทางบ้านมันเองนั้นก็ไม่ยากจน ออกจะร่ำรวยพอสมควรด้วยซ้ำ แต่ตัวมันเองไม่ต้องการที่จะพึ่งพาที่บ้าน จึงพยายามทำมาหากินเอง แต่ทำอาชีพปกติที่ใครเค้าว่าทำก็รุ่งกันยังไงก็เจ๊ง กลับมาถูกโฉลกกับงานประเภทด้านมืดทั้งหลาย เช่น ขายหนังเถื่อน พนันบอล เพื่อนของผมรับปากว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจประเภทผับ บาร์ เหล้า ยาเสพติด แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะไม่ยุ่งได้อีกนานแค่ไหน เพราะเพื่อนของผมคนนี้มีโชคทางด้านนี้เหลือเกิน ทางด้านที่มีคนคุ้มครองมาตลอดในเวลาที่เจอปัญหาเกี่ยวกับงานเหล่านี้ ฉิวเฉียดจะโดนตีนโดนเก็บก็หลายครั้ง และเติบโตมีพัฒนาการขึ้นทุกครั้งที่มีปัญหา รวมถึงคนคุ้มครองที่มีอำนาจและบารมีมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ตัวมันเองนั้นใจนึงก็ไม่อยากทำงานลักษณะนี้ แต่อีกใจนึง มันก็ยอมรับว่ามันพยายามทำมาหากินแบบปกติแต่ไม่รุ่งจริง ๆ แต่ดูเหมือนงานด้านมืดมันจะรุ่งเป็นพิเศษ สิ่งที่มันทำก็คือเลี้ยงดูครอบครัวให้กินดีอยู่ดี เลี้ยงดูพ่อแม่อย่างดี (แม้ว่าพ่อแม่จะกินดีอยู่ดีอยู่แล้วก็ตาม)

สิ่งที่ผมอยากถามคือ การที่ลูกใช้เงินที่หามาได้ด้วยวิธีนี้เลี้ยงดูพ่อแม่ ด้วยมีเจตนาดูแลพ่อแม่ให้ดีนั้น จะมีบาปใด ๆ ตกถึงพ่อแม่หรือไม่ครับ หรือจะมีบาปใด ๆ ตกถึงครอบครัวของตัวเพื่อนผมหรือไม่ครับ

 

บาปส่วนบาป บุญส่วนบุญ อ่าครับ บอกได้แค่นี้ รอผู้รู้มาตอบอีกที แต่ ถ้าไม่ผิดศีลก็ไม่บาปหรอก

 

การพนัน ก็เหมือนกับแทงหวย ซื้อล็อตเตอรี่ เป็นเรื่องของ โชคลาภ ไม่ได้บาปอะไรหรอกครับ จะบาปก็ต่อเมื่อ ไปโกงเขา พอแทงถูกแล้วไม่จ่าย โกงเขา อันนี้บาปแน่นอน

 

ทุกการกระทำล้วนมีผลเสมอ..ติดตามดูต่อไป

 

ถ้าอาชีพที่ทำอยู่เป็นบาป ถามว่า เงินที่หามาได้ด้วยวิธีนี้เลี้ยงดูพ่อแม่ ด้วยมีเจตนาดูแลพ่อแม่ให้ดีนั้น จะมีบาปใด ๆ ตกถึงพ่อแม่หรือไม่ครับ หรือจะมีบาปใด ๆ ตกถึงครอบครัวของตัวเพื่อนผมหรือไม่ครับ

ถ้าพ่อแม่/ครอบครัว ยินดีในอาชีพของเขาแล้วรับเงิน เป็นบาปด้วย


ถ้าพ่อแม่/ครอบครัว ทราบที่มาของเงินแต่ไม่ยินดีในอาชีพแล้วรับเงิน ???
ถ้าพ่อแม่/ครอบครัว ไม่ทราบที่มาของเงินแล้วรับเงิน ??? สองข้อนี้ดิฉันก็อยากทราบ ขอค.กรุณา ใครทราบช่วยตอบด้วยค่ะ

 

คุณsherfahตอบไว้ดีแล้วว่า...

ส่วนคำถามที่คุณsherfahตั้งไว้ ๒ประเด็น นับว่าน่าสนใจมาก ขอวิเคราะห์โดยอาศัยหลักการที่พระพุทธองค์ทรงวางเพื่อพระภิกษุวินิจฉัยในการบริโภคเนื้อสัตว์มาเทียบเคียงดังนี้...

ดังนั้น คำถามที่ว่า..
ถ้าพ่อแม่/ครอบครัว ทราบที่มาของเงินแต่ไม่ยินดีในอาชีพแล้วรับเงิน ???

จึงตอบได้ว่า พ่อแม่/ครอบครัวบาปไปด้วย เพราะทราบ(รู้/เห็น/ได้ยิน)ที่มาของเงิน ครั้นรับเงินมาก็เท่ากับสนับสนุนให้เขาหาเงินมาด้วยอาชีพนั้น จะอ้างว่าไม่ชอบใจอาชีพนั้นคงไม่ขึ้น..เพราะตนกลับทำการเหมือนร่วมใจ สนับสนุนเขาในการทำอาชีพนั้นเพื่อหาเงินต่อไป


ส่วนคำถามที่ว่า..

ถ้าพ่อแม่/ครอบครัว ไม่ทราบที่มาของเงินแล้วรับเงิน ???

ข้อนี้ พ่อแม่/ครอบครัวเมื่อไม่ทราบอาชีพของเขา จึงไม่มีเจตนาที่จะสนับสนุนเขาในอาชีพนั้น บาปจึงไม่ปรากฏ ..พ่อแม่/ครอบครัวมีเจตนาเพียงรับเงินที่เขานำมาให้เพียงเท่านั้น



ขอเพิ่มเติมคำตอบในส่วนของการเลี้ยงดูำ่พ่อแม่ครอบครัวด้วยเงินที่ได้มาจากอาชีพด้านมืด ด้วย ธรรมบรรยายของ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ตอนหนึ่ง ซึ่งพอจะใกล้เคียงกับเรื่องที่ท่านปลาแมวเล่าไว้เพื่อพิจารณากันดังนี้

ที่มา..
วิธีสร้างบุญบารมี - ธรรมบรรยายของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

 

ถ้ามีใจยินดีในการกระทำที่เป็นบาปก็จะได้รับวิบากตามไปด้วย
ถ้าไม่รู้ก็ไม่ผิด

 

เป็นคำถามที่น่าคิดทีเดียวครับ

 

เรื่องพระพุทธศาสนาของเรา ช่างลึกซึ้งมากเลยสำหรับดิฉันที่จะตีความในเรื่องของกฎแห่งกรรม ขออนุโมทนากับท่าน จขกท.ที่นำเรื่องราวมาโพส เพื่อให้ท่านผู้รู้และเปี่ยมไปด้วยปัญญาหลายท่าน ได้ให้ข้อคิดในเรื่องของหลักธรรมคำสอนแก่ดิฉันอย่างน้อยก็ 1 คนค่ะ ^^

 

การได้เงินมา โดยวิธี ที่ไม่เป็นสัมมาอาชีพ ผมว่ามันน่าจะมีผลตามมานะครับ
ตามที่ พี่ ddman บอก เงินที่ได้จากการเบียดเบียน ได้ผลตอบแทนทางบุญกุศลน้อยมาก

ตอนนี้เพื่อนคุณอาจจะรอดพ้น อันตราย จากวิชาชีพที่ก่อ เพราะมีบุญกุศลเก่า (สังเกตุได้จากเกิดในครอบครัวที่ไม่ขัดสน) ถ้าบุญเก่าหมด บุญใหม่ที่สร้างจากการพนัน ซึ่งได้น้อยอยู่แล้ว ไม่พอ ซักวัน คงไม่รอดพ้นอันตรายจากอาชีพของตัวเอง

ถ้า พ่อ แม่ ลูก เมีย มีความสุขจาก เงินที่หามาได้ ก็อาจจะมีกรรมส่งผล ให้เกิดควาทุกข์ในอนาคตได้ ถ้า พ่อ แม่ ลูก เมีย ไม่มีความสุขเพราะเงินที่หามาได้ อาจจะตักเตือน และไม่ยินดี กรรมก็จะส่งผลน้อยลงไป

(เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ)

 

บาปไม่ตกถึงพ่อแม่ครับ แต่ตกถึงผู้กระทำบาปนั้นเอง กรรมใครกรรมมันครับ เว้นแต่พ่อแม่จะมีความยินดีและส่งเสริมในบาปนั้นด้วย อันนั้นก็ถือว่ามีพ่อแม่ส่วนในการร่วมสร้างกรรม แล้วเงินที่ได้มาโดยไม่สุจริตนั้นเมื่อนำไปใช้สร้างกุศลก็ย่อมมีอานิสงส์ไม่เต็มที่ เตือนเพื่อนคุณนะว่าให้เลี่ยงมิจฉาอาชีวะซะ ยอมลำบากตอนนี้ดีกว่า จะทำเพื่อความสุขเล็กๆ น้อยๆ สบายในตอนนี้แล้วไปชดใช้กันอีกนานแสนนานอย่างนั้นหรือครับ พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ชัดเจนถึงมรรค 8 ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ สัมมาอาชีวะ การทำมิจฉาอาชีพนอกจากจะก่อบาปกรรมแล้ว ซึ่งบางกรณีมันเป็น scale ใหญ่นะ เป็นบาปใหญ่ให้ผลแก่คนหมู่มาก ที่แน่ๆ คือมันสั่งสมอนุสัยกิเลสในจิตของผู้นั้นไปด้วยข้ามภพข้ามชาติ มีมิจฉาทิฏฐิหรืออวิชชาติดตัว ทำบาปทำชั่วได้ง่าย เพราะทำจนเป็นปกติชินชา เลยไม่รู้สึกว่าผิดบาปใดๆ นี่มันไม่มีอานิสงส์ใดๆ ที่ดีเลย มีโทษขนาดนี้ทำไมถึงยังทำ ไปเตือนเพื่อนด้วยความหวังดีอีกทีเถอะครับ แต่เขาจะเชื่อไม่เชื่อเราคงต้องวางอุเบกขา

 

ถ้าไม่โกงเขา ไม่ทำร้ายเขา ไม่หลอกลวง ไม่มอมเมา ไม่น่าจะบาปหรอกครับ ถึงบาปก็เพียงเศษบาปเล็กน้อย ทำบุญเพิ่ม ก็ได้บุญเพิ่มอีก ชะตาเขาคงต้องมาทางนี้ เพราะคนจะมาทางนี้ไม่ได้เป็นกันได้ทุกคน เพราะบางคนทำแล้วเจ๊งเยอะแยะ แต่พอไปเป็นลูกจ้างเขากับสบาย พ่อแม่ไม่บาปหรอกครับ เพราะไม่ได้มาทำด้วย