อันนักบวช ไม่มีศีล ก็สิ้นดี

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมภูต, 2 พฤษภาคม 2013.

  1. ธรรมภูต

    ธรรมภูต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    3,621
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,192
    ู^
    ^
    ผมพูดอยู่เสมอๆว่า" ยังต้องสดับ(ฟัง) ยังต้องกระทำให้ตื้น(ปฏิบัติ)"

    การเตือนใจเป็นสิ่งดี แต่จะถูกใจหรือไม่นั้น เป็นเรื่องส่วนบุคคล

    แต่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องอยู่บนหลักเหตุผลที่ตริตรองตามได้

    เรื่องศีลพระหรือวินัยพระนั้น โดยเฉพาะที่เป็นคุรุกรรม(ขาดจากความเป็นพระ)

    ทรงวางหลักลงไว้ที่จิต แค่ไถยจิตคิดไป โดยไม่มีการสื่ออะไรออกไปทั้งสิ้น

    ก็ต้องไปปลงอาบัติ แต่ไม่รู้อีท่าไหน มีคนรับรู้หรือเข้าใจได้ (เพราะไถยจิตของตน)

    กิจนั้นเรียบร้อยโดยไม่ต้องโจทย์ ไม่ต้องเพ่ง ไม่ต้องคิดเองฯลฯ

    เพราะพระพุทธองค์ทรงวางหลักในเรื่องนี้ไว้เข้มงวดกวดขันมาก

    จึงยังพระสัทธรรมให้ยืนยาวนานมาได้ถึงยุคนี้ได้

    แต่คงจะต้องหมดกันคราวนี้ เพราะมีผู้สนับสนุนให้ภิกษุทุศีลได้ ไม่ต้องอาย55+

    เจริญในธรรมทุกๆท่าน
     
  2. หลบภัย

    หลบภัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,207
    ค่าพลัง:
    +3,123
    ในสมัยพุทธกาล ก็มีการปราบมิฐาทิฐิ แต่ผู้ไปปราบก็ล้วนเป็นพระอรหันต์
    และมีพระศาสดาเป็นผู้นำเสมอ แม้แต่พระอรหันต์สาวก ยังไม่ปรากฏว่ามีการปราบมิฐาทิฐิ
    จะเห็นว่า บางกลุ่มพระศาสดาท่านก็วางเฉย ท่านสอนเราเยอะนะ แสดงว่า แม้แค่มีศีลยังไม่พอในการไปมองว่าใครใช่ไม่ใช่
     
  3. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    แปลกมะนุด !!

    คุณคร้าบ ลำพังเรื่องศีล ความสะอาด(บริสุทธิ) กำลังใจ(ในการผลิก
    ฝื้นกลับมาทำดี) และ ปัญญา เป็นเรื่องที่ ต้องเข้าไปคลุกคลี อยู่ด้วย
    นานๆ และ เอาใจใส่ ต้องมีปัญญาเข้าจัดการโดยแยบคาย ถึงจะทราบ
    ได้ในเรื่อง ศีล ความสะอาด กำลังใจ และ ปัญญา

    แต่คุณไป อ้างเลห์ เอาส้นสิบเหยียบ พระพุทธฏีกา ยังอุตสาห์นำ
    เสนอเป็นวรรคเป็นเวร เหมือน ถ้อยคำปรุงสำเร็จ กะจะใช้ไปจน
    ตายหรือเปล่าครับกับไอ้คำว่า "ไถยจิต"

    ก็ลำพัง ศีล ที่ดูกันได้ ภายนอก ยังต้องอาศัยเวลา การคลุกคลี
    การเข้าไปนมสิการ

    แต่คุณจะรณรงค์ให้ คนทั่วๆไป ที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ พิจารณาเข้า
    ไปเห็น "จิต" ของคนอื่นเนี่ยะ คุณละเมอขนาดนั้นเลยเหรอว่า
    คนทั่วไปจะเข้าไปดู จิต ใครต่อใครได้ง่ายๆ

    "ไม่ต้องคิด ไม่ต้องเพ่ง" แหม ชุดความคิด ตบหัวคนอ่านซ้ำ
    เชียวนะ ว่า ไม่ต้องพิจารณามาก "ไถยจิต" ของพระคนไหน
    มีก็ล่วงกรรมแล้ว ......

    แล้วไง จะให้ ตาสี ตาสา ออกมาร่วม ขย่ม พระ ทั่ว AEC หรือไง
    ครับท่าน

    *******

    ก็ถ้า คุรุกรรม หากจะเกิดขึ้น พระพุทธองค์ก็ตรัสแล้วว่า ก็ขาดไป
    แล้ว ก็ถ้ามันมี มันก็ขาดไปแล้วคร้าบท่าน ท่านไม่ต้องมา รณรงค์
    ให้ขาดอีก การกระทำของคุณ มันเป็นเรื่องไม่จำเป็นเลย

    ถ้าเอา ธรรมวินัยเป็นใหญ่ ก็ต้อง ทราบไปแล้วว่า ความเป็นพระ
    ก็ขาดไปแล้วหากล่วงคุรุกรรมจริง

    แต่ไอ้ที่คุณ เย้วๆ นี่ มันไม่ใช่อาการของ คนเข้าใจธรรมวินัย

    เป็นเพียง อาการเห็บ เหา เที่ยว เห่า ใบตองแห้ง เพื่อให้ ตัวเองดูเด่นดัง


    ยังไงก็ ทำใจบ้างเหอะนะ ผมเข้าใจว่า คนบางคนนั้นๆ ที่คุณพุ่ง
    เป้า เคยเป็นคนที่เคยเถียงกับคุณใน กระทู้พันทิพ ตั้งแต่สมัยโน้น

    คุณ คงไปพยากรณ์อะไรสุ่มสี่ สุ่มห้า เอาไว้เยอะ ว่า เขาไม่จริงอย่าง
    นั้น เขาไม่รู้อย่างนี้

    แต่พอมาวันนี้ คนมากมายเกิดเทใจ ยอมรับ คำสอนของคนที่คุณ
    เคยด่าทอเขาไว้ มันก็ ย่อมเป็น วิบากกรรมที่ทำให้คุณต้องมา
    คอยเย้วๆ ทำสิ่งที่เปล่าประโยชน์ ไปจนวันตาย
     
  4. บุคคลทั่วไป 3 คน

    บุคคลทั่วไป 3 คน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,938
    ค่าพลัง:
    +1,253
    นี่ๆ คุณหนวดดำ นัดเจอสหธรรมิกแต่ละที ต้องเอา เฉาก๊วยไปขึ้นภัตรคารเลิศหรู
    เจ้ายศ เจ้าอย่าง หาแต่เรื่อง พิศดารเพื่อเสพ เพื่อกิน เพื่อพวกพ้อง เพื่อเผาพันธุ์
    บอแรมยู บ่อยแรงยุ บ่อยแรงยุ

    ช่วงนี้เห็นว่า ได้เป้าจังหนับ ในการทำลาย พระ ที่ เซ็นทรัล นี่จะลากเอา
    "ตำรวจ" ไปคอยจับหรือเปล่า หรือว่า จะนัดรวมตัว แถลงการณ์ร่วมอะไร
    เอาฮาอีก

    ลำบากหน่อยนะ ธรรมะ นั้นเปลี่ยนกระแส จากคนชนบท มายัง ชนเมือง ชาววิไล

    ถ้าคิดอ่านจะทำการ ต่อต้านความเจริญใดๆ ไม่ให้ ธรรม เขาถึง ชนในเมือง ก็
    ต้องเอาฮาให้มากๆ ขยันๆ ทำไว้

    แต่ผมว่า เสียแรงเปล่า แล้วจะยิ่งปวดหัวด้วย เพราะ คนเมืองสมัยนี้ส่วน
    ใหญ่เก่งเรื่อง "สื่อ" ยุคสมัยเองก็เป็น ยุคสื่ออภิวัฒน์ไอปอดไอแปดขายดี
    แล้วยังมียี่ห้ออื่นขายดียิ่งกว่า เข้ามาอีก

    คนเมืองเนี่ยะ คุณจะไปทำหน้าตานิ่งๆ กระดิกหนวดช้าๆ คนเมือง ด่าเป็นคน
    ไร้การศึกษา เหมือน พ่อแม่ แล ภรรยาไม่สั่งสอน ท่าเดียว เขามองแล้ว ฮา ครับท่าน

    มันต้องแบบ " ดิลิเวอร์รี่ " ฉับไว โหมกระพือ

    ทำใจไว้ดีกว่าเนาะ ......เพราะ งานนี้ หากเข้าเป้า มีหวัง สำนักอื่นๆ ก็
    คงจะเข้ามา วัดท่าไม้ เงี้ยะ มีระบบ ไอดอล ด้วยนะจะบอกให้

    *******************

    ปล. ภรรยา Soldier อิสลาม ห้ามอ่านเอาเรื่อง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤษภาคม 2013
  5. Satoranai

    Satoranai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +263
    ให้เคารพสงฆ์ หนึ่งในพระรัตนตรัย
    ... กราบให้สนิทใจ หากไม่รู้อะไรเลยก็ตาม ให้กราบเป็นมงคลแก่ตนเอง
    ... กราบแบบมีเงื่อนไขบ้าง เมื่อเริ่มพิจารณาข้อมูลว่า นี่ท่านต้องอาบัติเล็กน้อยอยู่ตลอดเวลา
    ... กราบแบบมีเงื่อนไขมากๆ เมื่อเริ่มพิจารณาข้อมูลว่า ท่านต้องอาบัติปาราชิก
    ... หยุดกราบโดยไม่มีเงื่อนไข เมื่อพิจารณาแน่ชัดว่าต้องปาราชิก เพราะหมดจากความเป็นสงฆ์
    ... แต่ต้องรับผลต่างๆอย่างลูกผู้ชาย จากการพิจารณาสรุปด้วยตนเองนั้น
     
  6. รีล มาดริด

    รีล มาดริด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2012
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +717
    ติดใจ คำว่า ถิ่นกาขาว.....
    อยากให้ มองมุมที่ผมนำเสนอว่าจริง เท็จอย่างไร....

    คำว่ากาขาว แปลว่า..อย่างไร มาลองฟังผมกล่าวดู......
    ธรรมชาติ ของ อีกา มีแต่ สีดำ ไม่มี อีกาสีขาว...
    อีกา มีนิสัย ขี้ โขมย มีลูก ก็ ไม่เลี้ยง เอาไปให้ กาเหว่าเลี้ยง

    อีกา นิสัย หา ดี ได้อย่างเดียว คือ ขยัน...(ความขยัน บางที มันคือ ความโลภ อย่างสูงนั้นเอง เพราะ อีกา ออกหากินแต่เช้า ด้วยความโลภ จึงดู เหมือน ว่าา ขยัน))

    คำว่า กา บาว จึงแปลว่า กา ย้อมสี เพราะ กา สีขาวไม่มี หรือ...กา ที่ เป็น กา นิสัยดีๆ ไม่มีในโลก

    ถิ่น กาขาวจึงแปลว่า ดินแดน แห่ง ผู้ดี จอมปลอม
    คนที่ทำเลวๆ จะได้รับการยกย่อง คนเลวๆๆ จะมีหน้าตาใน สังคม และ มีคน นับถือ บูชามาก.....

    กา ขาว ไม่มีในโลก อุปโลกน์ นี้ หมายเอาว่า กา เลวๆ แต่ กลายเป็น กา ดีๆได้...

    เอวัง...........
     
  7. ฟางว่าน

    ฟางว่าน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    1,080
    ค่าพลัง:
    +968
    คุณก็พูดเกินไปคุณธรรมภูติ คนที่จะบวชในพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้าได้นั้นท่านมีบทบัญญัติไว้ตั้งแต่สมัยพุทธกาล อย่างน้อยก้ตอนประชุมทำสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งแรก ที่มีพระมหากัสสปะเป็นผู้ปุจฉา พระอานนท์เป็นผู้วิสัชนาพระสุตตันตะปิฎกและพระอภิธรรมปิฎก และพระอุบาลีเป็นผู้วิสัชณาพระวินัยปิฎก การบวชไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้บวชจะต้องพร้อม และถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็ต้องบอกว่าต้องมีบุญบวชถึงจะได้บวช ความจริงเรื่องนี้พระเณรท่านรู้ การที่คุณตำหนิติเตียนพระแสดงว่าคุณไม่เคยอ่านพระไตรปิฎก พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ว่าเราไม่ควรตำหนิติเตียน ไม่ว่าท่านจะดีหรือไม่ดี เพราะไม่มีใครรู้ได้นอกจากพระพุทธเจ้า พระท่านจะดีไม่ดีอย่างน้อยท่านก็มีศีล และความในการครองเพศบรรพชิตเวลาเราสนทนาธรรมกับท่าน ท่านดีหรือไม่ดีท่านก็เป็นพระ คุณเป้นฆราวาสก้าวล่วงจาบจ้วงพระท่านจัดว่าก่อบาป เพราะคุณไม่รู้จริง โดยสามัญสำนึกของชาวพุทธท่านจะไม่ตำหนิพระเณร เพราะท่านมีพระธรรมวินัยดูแลอยู่ หวังว่าคงสำรวมมากขึ้นนะครับคุณธรรมภูติ
     
  8. mamypogo

    mamypogo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2011
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +60
    เรารู้อะไรๆแล้วก็วางกันเถอะครับ ไม่มีประโยชน์อะไรที่ไปขจัดอวิชชาของผู้อื่น พระพุทธเจ้าท่านสอนให้มุ่งขจัดอวิชชาภายในตัวเรา มองแต่แผ่นดินภายใน เมื่อทำได้ดีแล้ว สะอาดแล้ว บริสุทธิ์แล้ว อรหันต์แล้ว จึงแจกจ่ายธรรมแก่ผู้อื่น นี่ถึงเรียกว่าประเสริฐครับ ที่ตามเข้ามาไม่ได้ต้องการว่ากระทบใคร หรือตามราวีใครนะครับ แค่คลิ๊กเข้ามาเพราะเห็นชื่อกระทู้มันแปลกๆ และคนตั้งกระทู้ก็ชื่อคุ้นๆ (พอดีผมติดตามกระทู้ของคุณ 2554 อยู่นะครับ)
     
  9. Tamjugg

    Tamjugg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2012
    โพสต์:
    657
    ค่าพลัง:
    +1,029
    ศีล เปรียบเสมือนหัวรถจักร เป็นเบื้องต้นของพรหมจรรย์นำความสงบมาให้และเป็นเกราะกันอกุศล
     

แชร์หน้านี้

Loading...