ประวัติ และอภินิหารย์หลวงปู่ตี๋ ฉันทธัมโม สุพรรณบุรี ศิษย์ 3 ต.

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย hellotawan, 10 กรกฎาคม 2012.

  1. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ในโอกาสเดียวกัน ก็เลยเอาผอบที่บรรจุเกศาของครูบาอาจารย์ในสายวิชาออกมาชม ตั้งแต่หลวงปู่แขก หลวงพ่อมุ่ย หลวงพ่อกวย หลวงพ่อจวน หลวงปู่บุดดา หลวงปู่เย็น แต่ขออภัยไม่มีภาพให้ชม เพราะถ่ายเท่าไรก็ไม่ติด ได้ภาพมาแค่นี้

    [​IMG]
     
  2. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    เกศาของหลวงปู่ท่านอื่นก็แปรเป็นพระธาตุบ้าง กำลังแปรบ้าง แต่ที่แปลกคือ ของหลวงปู่บุดดา ท่านมีก้อนพระธาตุขนาดใหญ่อยู่ด้านใน ลักษณะเหมือนแป้งเสกของท่านมาก แต่เป็นก้อนสีขาวขนาดใหญ่ ไม่ได้เปิดออกมาชมนาน ศิษย์ที่ไปด้วยกันต่างก็แปลกใจ

    [​IMG]
     
  3. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ไปรื้อดูภาพเก่าๆ ก็เลยพบภาพหลวงปู่ตี๋ท่านกำลังจะปลงผม ภาพนี้

    [​IMG]
     
  4. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    หนังเนียวยันผม

    นำภาพเกศามาให้ชมก็นึกขึ้นได้ถึงเรื่องการปลงผมของหลวงปู่นี่ เป็นเรื่องแปลกครับ คือมีเพียง 2 คนเท่านั้นที่สามารถปลงผมท่านได้ คือ ช่างผมที่สุพรรณคนนึง กับลูกบุญธรรมของท่านอีกคนนึง ส่วนคนอื่นๆ ถ้าจะปลงผมท่านจะปลงออกยากมากจนถึงปลงไม่ออกเลยก็มี บางครั้งท่านถึงกับปวดหัวจากการปลงเลยทีเดียว เคยมีครั้งหนึ่ง ลูกบุญธรรมท่านจะทำการปลงผม ก็มีศิษย์ท่านนึงอยากปลงบ้างเลยอ้อนวอนขอ หลวงปู่ท่านจึงอนุญาตอย่างไม่เต็มใจนัก เพราะท่านเคยถูกเณรที่วัดปลงให้แล้วเข็ด เนื่องจากปลงผมท่านไม่ออก ทั้งดึงทั้งทึ้งจนท่านเจ็บหัว เมื่อหลวงปู่อนุญาตแล้ว ศิษย์ท่านนั้นจึงเอามีดโกน โกนบนศรีษะท่าน โกนเท่าไหร่ก็ไม่ออก ผมไม่ขาด มีแต่เสียงมีดโกนดังแครกๆ จนท่านเจ็บหัว เมื่อเห็นว่าผมท่านไม่ขาดออก ศิษย์ท่านนั้นก็อ่อนใจ จึงยอมให้ลูกบุญธรรมท่านโกน ก่อนโกนก็ต้องทำการเปลี่ยนมีดใหม่อีก เพราะกลายเป็นว่ามีดนั้นหมดคมไปเลยทั้งๆ ที่เป็นมีดใหม่เหมือนกัน คราวนี้พอทำการโกน ก็โกนได้ปกติ ออกอย่างง่ายดายไม่มีปัญหาโกนไม่ออก จะเห็นว่าหลวงปู่ท่านเหนียวจริงๆ ตั้งแต่หนังยัน ผม
     
  5. ekarad

    ekarad เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2007
    โพสต์:
    2,196
    ค่าพลัง:
    +6,264
    ขอบคุณมากครับพี่ หลวงปู่ตี๋ส่วนตัวผมติดตามท่านมาตั้งแต่ลงหนังสือลานโพธิ์ครับผมอ่านแล้วเกิดศรัทธาในตัวท่านมากและที่สำคัญท่านเป็นศิษย์สายหลวงพ่อกวยด้วยครับ
     
  6. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ตามอ่านต่อได้ในนี้ครับ หลังจากผมอ่านลานโพธิ์ก็พยายามตามมาเรื่อยๆ จนได้รายละเอียดข้อมูลประวัติหลวงปู่บ้าง ผมก็จะพยายามลงให้อ่านเรื่อยๆ ผมว่าเรื่องราวท่านมีน้อยมาก เมื่อได้รับรู้มาก็เลยอยากให้คนอื่นๆ ได้รับทราบเรื่องหรือแง่มุมที่ไม่เคยมีคนพูดมากก่อน ก็ตามอ่านได้ในนี้คับ
     
  7. champ_amulet

    champ_amulet สาธุ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +83
    สนุกครับพี่ตะวัน เอามาลงบ่อยๆนะครับ
     
  8. isek

    isek Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +41
    กราบนมัสการหลวงปู่ด้วยครับ..yimm
     
  9. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    เสือกินหลวงปู่

    เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งสมัยหลวงปู่ตี๋ท่านยังอยู่ที่วัดเขาเขียว มีชาวบ้านเขาเขียวมาหาท่านจะด้วยเรื่องอะไรก็มิทราบ เมื่อขึ้นขึ้นมาถึงลูกกรงหน้ากุฏิของหลวงปู่กำลังจะเดินเข้าไป สายตาก็มองไปเห็นเสือตัวใหญ่นั่งอยู่ด้านในกุฏิท่าน แต่ไม่พบหลวงปู่ตี๋ท่านอยู่ด้านใน ชาวบ้านกลุ่มนั้นจึงลงไปตามพรรคพวกคนอื่นๆ มา พร้อมตะโกนบอกว่า ช่วยด้วยหลวงปู่ถูกเสือกิน ชาวบ้านจำนวนมากจึงถือปืน มีดพร้า อาวุธเท่าที่จะหาได้ใกล้มือ มาล้อมกุฏินั้นหวังจะจับเสือตัวนั้นให้ได้ ที่แปลกคือเสือตนนั้นกลับมองหันไปมา ไม่ได้มีท่าทาดุร้ายหรือจะทำร้ายใคร เพียงนั่งนิ่งๆ อยู่ตรงหน้านั้น ชาวบ้านก็พากันแปลกใจว่าเหตุใดเสือจึงไมกลัวคนตั้งมากมาย เมื่อจ้องกันไปมาสักพักยังไม่ทันจะได้ทำอะไรกัน ทันใดนั้นเองก็เห็นจากเสือกลายเป็นหลวงปู่ค่อยๆ เอาผ้าจีวรที่คลุมตัวออกจากศีรษะท่าน เมื่อเอาผ้าออกจนหมดก็ปรากฏเป็นหลวงปู่นั่งยิ้มอยู่ ก็เป็นอันว่าเสือไม่ได้กินหลวงปู่ แต่หลวงปู่กลายร่างเป็นเสือแกล้งคนที่ไปหาท่าน นี่เป็นเหตุการณ์ที่ชาวบ้านเขาเขียวเห็นเหมือนกัน พร้อมกันทีเดียวหลายคนที่พบเห็นหลวงปู่กลายร่างเป็นเสือได้อย่างน่าอัศจรรย์ แสดงว่าหลวงปู่ท่านสำเร้จวิชาเสืออย่างแน่นอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2013
  10. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    เบี๊ยแก้

    ในตำราหลวงปู่อิ่มก็ได้มีการกล่าวถึงวิชาเบี๊ยแก้เอาไว้ด้วยเช่นกัน ภายในก็มีการบรรจุปรอทและปิดทับด้วยชันโรงเหมือนดังเช่นตำราในสายอื่นๆ เพียงแต่การสวดเสกนั้นมีขั้นตอนบางประการที่ต่างออกไปบ้างแต่จะไม่กล่าวถึง เพราะเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะไม่เผยต่อสาธารณะ แต่พอเผยบอกได้นิดว่า ในตำราหลงปู่อิ่มที่หลวงปู่ตี๋ได้จดบันทึกไว้ให้ใช้หอยอีกชนิดหนึ่งที่ไม่ใช่หอยเบี๊ย แต่ถ้าหาไม่ได้ก็อนุโลมให้ใช้หอยเบี๊ยแทนได้

    ก่อนหลวงปู่จะมรณะภาพได้สร้างเบี๊ยแก้ออกมา ๒ รุ่นด้วยกัน รุ่นละ ๑๙๙ ตัว โดยได้ปรอทป่ามาจากพระธุดงค์รูปหนึ่ง ท่านได้มอบไว้ให้กระปุกนึง ท่านว่าเป็นปรอทป่าที่ท่านดักได้มา แล้วก็มอบไว้ให้ และมีศิษย์อีกท่านก็หาชันโรงแท้ๆ มาให้อีก เป็นอันว่าครบอุปกรณ์ จึงได้ทำการสร้างเบี๊ยขึ้นมาถวายหลวงปู่ เพื่อเป็นเงินค่ารักษาพยาบาล เบี๊ยแก้รุ่นแรกจะฝังตะกรุดดอกเดียว ส่วนรุ่นสองจะฝัง ๓ ดอก และมีแผ่นโค๊ต ตี๋ สุพรรณ แปะไว้เหมือนกัน ภาพด้านล่างเป็นเบี๊ยแก้รุ่น ๒ จะเห็นว่ามีทั้งแบบมีลาย และไม่มีลาย(แบบนี้จะมีน้อยกว่า) ประสบการณ์ก็มากมาย พุทธคุณครบเครื่อง

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  11. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    แถมท้ายด้วยคาถาบูชาหลวงปู่ตี๋ ที่ท่านได้ให้ไว้ก่อนมรณะภาพ ท่านกล่าวถึงคาถาบทนี้ไว้ว่า ถ้าได้ท่องพระคาถาบทนี้ จะไม่อด ไม่อยาก ไม่ยาก ไม่จน ไม่ต่ำกว่าคน ไม่จนกว่าใคร จะทำอะไรก็สำเร็จ

    ตั้งนะโม 3 จบ

    เอหิพุทธา เอหิธัมมา เอหิสังฆา
    เอหิปัจเจกพุทธา เอหิอรหันตา
    เอหิพรหมมา เอหิอิสรา เอหินารายะ
    เอหิหลวงปู่ตี๋ ฉันทธัมโม
    มามะมะ อาคะฉายะ อาคะฉาหิ
    นะชาลีติ นะชาลีเต เอหิมะมา
    ปันจะพุทธา นะมามิหัง
     
  12. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ทำบุณครบรอบ 3 ปีแห่งการมรณะภาพ

    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม 2556 ได้มีการทำบุญเนื่องในวันครบรอบ 3 ปีแห่งการมรณะภาพของหลวงปู่ตี๋ ฉันทธัมโม ในงานนี้มีศิษย์ที่เคารพบูชาหลวงปู่มาร่วมงานมากมาย มีภาพมาให้ชมเล็กน้อย

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  13. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    [​IMG]

    [​IMG]

    และนี่คือคุณลุง พันเอก อุดม ผู้ซึ่งมีพระคุณเป็นอย่างมากต่อศิษย์ของหลวงปู่ คุณลุงคือผู้ที่คอยช่วยเหลือ และเป็นธุระให้หลวงปู่ในระหว่างที่หลวงปู่เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬา ในพระอุปถมภ์ของสมเด็จพระสังฆราชฯ
    [​IMG]
     
  14. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    หลังจากเสร็จงานแล้ว ผู้ที่มาร่วมทำบุญก็ได้รับแจกรูปหล่อรุ่น 2 และผ้ายันต์ เพื่อเป็นที่ระลึกถึงหลวงปู่ทุกคน

    [​IMG]
     
  15. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ของที่แจกในวันงานคับ ผ้ายันต์นารายณ์ทรงครุฑ รูปหล่อห้อยคอ แท่งชวนมีจาร

    [​IMG]
     
  16. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ตะกรุดลูกปืน

    ตะกรุดลูกปืนเล็ก
    [​IMG]

    ตะกรุดลูกปืนใหญ่
    [​IMG]

    ตะกรุดลูกปืนนี้มีเรื่องเล่า และประสบการณ์มากทีเดียว ที่มาในการทำก็เนื่องมาจากว่าในช่วงที่หลวงปู่มาอยู่ที่ปทุม ก็ได้มีพระรูปนึงได้มาขอให้ช่วยทำตะกรุดเพื่อหาเงินทำนุบำรุงวัด ด้วยเห็นว่าเป็นคนพื้นเพเดียวกันจึงได้ทำตะกรุดให้โดยทำเป็นลักษณะของตะกรุดลูกปืน ทำให้ไปประมาณ 400 ดอก หลวงปู่เสกให้อย่างเต็มที่ ส่วนนึงก็ทำออกในนามของหลวงปู่เองโดยนำมาตอกโค๊ตอย่างที่เห็นในภาพ จารยันต์ด้วยมือลงในแผ่นตะกั่ว และทองเหลือง ทองแดง ม้วนสอดไส้ไว้ ซึ่งยันต์ภายในจะจารเต็มแผ่นโลหะ ส่วนที่ให้พระรูปนั้นไปไม่ได้ทำการตอกโค๊ตใดๆ ถือว่าทำให้แล้วก็แล้วกัน เมื่อพระรูปนั้นได้รับไปก็นำไปแจกจ่ายแก่ศิษย์ และผู้ที่มากราบไหว้ โดยแล้วแต่จะทำบุญ ปรากฏว่า วัยรุ่น นักเง และผู้ได้รับไปนำไปใช้เกิดประสบการณ์กันมาก ฟันแทงไม่เข้า ยิงไม่ออก ออกไม่โดน จึงทำให้ผู้คนต่างหลั่งไหลมาขอตะกรุดเป็นจำนวนมาก เมื่อมาขอมากเข้าของจะหมด เลยทำให้พระรูปนั้นดังมากในยุคนั้น ต่อมาพระอาจารย์รูปนั้นจึงได้ทำออกมาเอง เพราะของหลวงปู่ทำมันหมดแล้ว ทำออกมาก็ตอกโค๊ตวัด แล้วให้บูชาในระบบเดิมคือแล้วแต่จะทำบุญ ภายในตะกรุดช่วงแรกๆ ก็จะจารหัวใจแก้วสามดวง หรือหัวใจพระรัตนตรัยเอาไว้ หลังๆ มาก็จะปั้มแทน เรียกได้ว่ายุคนั้นตะกรุดชนิดนี้ได้รับความนิยมมากเลยทีเดียว มีการสร้างตามออกมามากมาย หลายสำนัก พอนานเข้าปรากฏว่าตะกรุดชุดที่พระรูปนี้ทำเองไม่เหนียวไม่ขลังเหมือนชุดแรก ความนิยมก็เริ่มเสื่อซาลงไป จนหายไปจากวงการ เหลือเพียงตำนานที่เล่าขานกันมา ใครที่ได้ตะกรุดชุดแรกๆ นั้นไป ในจำนวน 400 ดอก ถือว่าโชคดีมาก หากไม่แน่ใจก็แกะดูถ้าจารย์ยันต์เยอะๆ มากกว่า อักขระสามตัวที่กล่าวมาถือว่าได้ของดีโดยไม่รู้ตัว

    ใครจะรู้บ้างว่าตะกรุดชุดแรกที่ออกใครสร้าง ใครเสก แต่ก็ถือเป็นวาสนาของคนที่เข้าไปเอาในช่วงแรกๆ คับ บันทึกไว้เป็นข้อเตือนใจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2013
  17. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ยันต์ครูของหลวงปู่

    [​IMG]

    นี่คือภาพยันต์ครูของหลวงปู่ตี๋ ที่หลวงปู่ท่านคิดขึ้นเองเนื่องจากท่านมีความเชี่ยวชาญ และแตกฉายในสรรพวิชาเป็นอย่างมาก สำเร็จธาตุสี่ จึงทำให้มียันต์ที่ท่านคิดขึ้นเองหลายยันต์พอสมควร แต่ไม่สามารถเอามาให้ชมได้ แต่ยันต์ครูนี้จะเป็นยันต์ที่นอกจากท่านคิดขึ้นเองแล้ว ยังเป็นยันต์ที่ท่านชอบใช้มากที่สุดยันต์นึง ถ้าหากพบยันต์นี้ที่แผ่นหลังของใครแล้วก็รู้ได้เลยว่า ผู้นั้นได้รับการสักในสายวิชาหลวงปู่ตี๋มาอย่างแน่นอน เล่ามากไม่ได้เพราะมีพระบางรูป และทีมงานขายพระจ้องเก็บข้อมูลเหล่านี้ไป ยันต์ที่นำมาให้ชมนี้ยังไม่เต็มสูตร ยังมีส่วนประกอบอีกแต่ขอบังเอาไว้เพื่อเคารพครูอาจารย์ เอามาให้ชมเป็นแนวทางว่าถ้าพบรอยจารแบบนี้ของหลวงปู่แน่นอน

    ในวงการตอนนี้มีพระแอบอ้างหลวงปู่อยู่ 2 รูป อ้างว่าเป็นศิษย์เรียนวิชามาจากหลวงปู่ตี๋ สองรูปนี้เรียกได้ว่า เป็นมือหนึ่ง มือสองถ้าหากอีกคนนึงดับ ก็ยังมีสำรองอีกคนนึง อยากจะขอบอกว่าหลวงปู่มีลูกศิษย์อยู่สองคน คนแรกคือลูกบุญธรรมท่าน และอีกคนเป็นพระแต่มรณะภาพไปแล้ว ท่านก็ไม่มีศิษย์อื่นใดอีก ก็ขอให้คนที่เสาะแสวงหาอย่าได้ไปหลงเชื่อคำคน เรื่องนี้เล่าแล้วจะยาว แต่อยากเตือนไว้ ไม่กี่วันเห็นในเฟสบุ๊คแล้วก็สงสารคนเข้าไปหา ด้วยคิดว่าเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ คิดว่าพระหนุ่มเป็นศิษย์ท่าน แค่อายุก็ไม่ได้กันแล้ว และตอนหลวงปู่ป่วยเข้าโรงพยาบาล หรือตอนหลวงปู่มรณะห็ไม่เคยเห็นพระสองรูปนั้นจะมาเยี่ยม มาหา มาดูแลเลย แต่พอหลวงปู่ตายก็มาบอกว่าตนเป็นศิษย์ บทขึ้นครูยังไม่ได้เลย ก็เล่าไว้เตือนสติ รักบูชาเคารพหลวงปู่ ก็นึกถึงท่าน จุดธูปบอกกล่าวท่านได้ ไม่ต้องไปโดนให้คนเค้าหลอก ตำราเค้าก็ซื้อท่าพระจันทร์นี่แหละมาเขียนกัน แล้วบอกว่ามีหลวงปู่เป็นอาจารย์ เล่าพอเป็นแนวมากกว่านี้จะไม่ดีเอา
     
  18. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ตะกรุดสองยันต์

    ตะกรุดนี้เรียกว่าตะกรุดสองยันต์ เหตุที่เรียกแบบนี้เพราะด้านในจะจารด้วยยันต์ทางคงกระพันแคล้วคลาด และยันต์เมตตา ในดอกเดียว หลวงปู่ท่านเสกมาอย่างเต็มที่ ตะกรุดเป็นเนื้ออลูมิเนี่ยม มีทั้งแบบที่ถักเชือกและไม่ได้ถักเชือก ส่วนใหญ่จะพบแบบไม่ถักเชือกมากกว่า ที่สำคัญต้องตอกโค๊ต ล.ป.ตี๋ ตะกรุดนี้ประสบการเยอะมากในทางแคล้วคลาด คงกระพัน เพราะสร้างเอาไว้เยอะ 599 ดอก ออกเมื่อปี 2541

    ประสบการณ์ที่พบเจอคือ แถวราชเทวี มีคนบ้าคนนึงเดินเข็นรถไปมาแถวนั้นเป็นประจำ แต่มักจะถูกคนตีมีแผลเต็มตัว เพราะชอบไปหยิบฉวยของขายเขามากินเป็นประจำ เป็นที่น่าสงสารมาก วันนึงศิษย์หลวงปู่ที่พักอาศัยบริเวณนั้น จึงได้เอาตะกรุดสองยันต์ให้ไปติดตัว โดยกำชับไว้ว่าเก็บไว้ติดตัวให้ดีนะ อย่าให้หาย ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คนบ้าไม่มีบาดแผลจากการถูกทำร้ายอีกเลย ยิ่งเมื่อเวลาผ่านหน้าบ้านคนที่ให้ตะกรุดก็มักจะยกมือไหว้ และบอกว่า "หนังเนียวแล้ว" แต่นิสัยหยิบของเขามากินก็ยังไม่หาย และยังโดนรุมตีเป็นประจำเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ หนังเนียวแล้ว
    [​IMG]
     
  19. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    [​IMG]

    วันก่อนเล่าที่มาของตะกรุดลูกปืนไปบ้างแล้วมาต่ออีกสักหน่อยดีกว่า
    อย่างที่บอกว่าตะกรุดนี้เคยสร้างถวายวัดนึว จนทำให้วัดนั้นโด่งดังมาในเรื่องตะกรุดลูกปืน แต่คนที่ได้รับไปจะไม่ทราบว่าชุดแรกจะสร้างและเสกโดยหลวงปู่ จะเข้าใจว่าออกมาจากวัดนั้น ตะกรุดยุคแรกจึงขลังและมีประสบการณ์ แต่ยุคหลังพระรูปนั้นทำเองไม่เกิดประสบการณ์จึงเงียบหายเข้ากลีบเมฆไป ตะกรุดนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 2539-2551 รวมแล้วก็เป็นหมื่นดอก ลักษณะของลูกปืนจะมีหลายแบบแล้วแต่ว่าจะได้ลูกปืนมาแบบไหน แต่ด้านในจะเหมือนกันคือแผ่นยันต์จารมือ แล้วม้วนสอดไว้ ลูกปืนที่นำมาประกบทำตะกรุดนี้ได้รับความอนุเคราะห์จากนายทหารหลายท่าน โดยเฉพาะพันโทนิคม เนียมประดิษฐ์ และพันโทฉลอง โพธิ์ศรีเมือง นำมาถายให้หลวงปู่ไว้ นอกนั้นยังมีศิษย์ท่านอื่นๆ อีก แต่ที่นำมาให้ชมจะเป็นตะกรุดแบบที่พบมากที่สุด ถ้าไปเจอแบบอื่นให้ดูสำคัญที่การตอกโค๊ตเป็นหลัก อาจมีแบบที่เป็นลูกปืนขนาดใหญ่ จนถึงขนาดเล็กก็มี

    เคยมีลูกสาวนายทหารท่านหนึ่ง เจอประสบการณ์ เรื่องก็มีว่า นายทหารท่านนั้นได้รับแจกตะกรุดลูกปืนมา ด้วยเห็นว่าลูกสาวต้องขี่มอเตอร์ไซต์ไปโรงเรียนประจำทุกวันก็กลัวจะเกิดอันตราย จึงได้ทำตะกรุดเป็นแบบคาดเอวให้ลูกสาวติดตัว มีอยู่วันหนึ่งในขณะไปเรียนเด็กสาวคนนั้นได้ถูกรถเก๋งที่ขับตามมาเฉี่ยวเข้าจนรถมอไซต์ล้ม และเด็กสาวกลิ้งลงจากรถไปอยู่บนพื้นถนน ในจังหวะเดียวกันรถแท๊กซี่ที่ขับตามหลังมาก็ได้ทับเข้าไปที่แขนของเด็กคนนั้น คนขับแท๊กซี่เมื่อรู้ว่าขับทับแขนเด็กก็รีบขับหนีไปอีก พลเมืองดีจึงรีบนำเด็กส่งโรงพยาบาลทันที เมื่อเข้าเอ็กซ์เรย์ปรากฏว่า ที่แขนเด็กไม่เป็นอะไรเลย กระดูกไม่หัก มีเพียงรอยถลอกตามตัวเท่านั้น ในตัวก็มีตะกรุดลูกปืนเพียงอย่างเดียวที่พ่อได้ให้ไว้ นี่เป็นประสบการณ์จากลูกสาวนายทหารท่านหนึ่งที่ได้รับตะกรุดไปแล้วเกิดประสบการณ์
     
  20. hellotawan

    hellotawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,156
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ความคืบหน้าในการสร้างอาศรมครับ
    [​IMG]
    ศาลากลางน้ำ เป็นบ่อขุดขึ้นมาจากนิมิตที่มีพญานาคมาบอก สิ่งที่แปลกคือ มักจะมีพลายน้ำดำๆ เป็นทางยาวให้เห็น คล้ายงูหรือปลาตัวใหญ่ แต่จะไม่โผ่พ้นน้ำ นอกจากนั้นก็จะพบพระพุทธรูป และเครื่องโบราณต่างๆ ในบ่อน้ำๆ ทั้งๆ ที่ตอนขุดบ่อก็ไม่เจออะไร

    [​IMG]
    ภาพห้องน้ำ และห้องอาบน้ำที่สร้างไว้รองรับคณะศิษย์หลวงปู่ที่จะมาเยี่ยมเยีน รวมตัวกันในอนาคต ตอนนี้ก็กำลังจะดำเนินการติดตั้งปั้มน้ำ และแท๊งค์น้ำสูง ซึ่งมีเจ้าภาพแล้วเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ท่านึง

    [​IMG]
    เหล็กเส้นที่สั่งมาเพื่อดำเนินการสร้างกำแพงโดยรอบ เพื่อป้องกันไม่ให้ศัตว์ที่อาศัยอยู่ในอาศรมโดนจับไปกิน ทีแรกก็ไม่ได้จะดำเนินการสร้าง แต่ปรากฏว่าเต่า ปลา และสัตว์อื่นๆ ภายในถูกชาวบ้านจับไปกิน จึงต้องสร้างกำแพงล้อมรอบ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
    หน้าบันด้านบนหลังคาทำลักษณะเหมือนหิ้ง เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปต่อไปในภายหลัง

    เงินทุกบาททุกสตางค์ที่มาจากผู้ศรัทธา และคณะศิษย์หลวงปู่ตี๋ได้นำมาดำเนินการสร้างอาศรมอย่างที่เคยกล่าวไปแล้วข้างต้น ได้มากสร้างมาก ได้น้อยสร้างน้อย สร้างกันเรื่อยๆ ตามมีตามเกิด ถามว่าเงินเหล่านี้ได้มาจากไหน เงินเหล่านี้มาจากค่าบูชาวัตถุมงคลที่หลวงปู่ทิ้งไว้ให้ เมื่อวัตถุเหลือก็นำมาทำประโยชน์ขายได้มากบ้าง น้อยบ้างตามแต่จะมีคนมาถามซื้อ เงินผ้าป่าที่คณะศิษย์หลวงปู่ช่วยกันหามา เงินค่าบูชาครู ๑๒ บาท จากการทำพิธีต่างๆ ตามแต่จะมีคนมาให้ช่วยเหลือ เมื่อหมดหลวงปู่แล้ว พวกเราคณะศิษย์ก็ยังรวมตัวกันทำประโยชน์เรื่อยๆ ครับ เข้ามาเยี่ยมชมความคืบหน้าได้เรื่อยๆ ผมมีแต่เรื่องเล่า ไม่มีของขายนะครับ แต่ถ้าศรัทธาจริงๆ ก็แจกซะมากกว่า
     

แชร์หน้านี้

Loading...