วีดีโอ หมอพลังจิต ใช้กสิณรักษาโรค

พลังมีอยู่จริง สามารถพิสูจน์ได้ ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ทั้งหมอจีน คนป่วย เจ้าของกระทู้และผู้ร่วมอนุโมทนาทุกท่านด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

อนุโมทนาสาธุค่ะ....คุณลุงท่านเก่งจังเลยค่ะ

 

ของจริงครับ ผู้ที่ฝึกชี่กงถึงขั้นก็ทำได้แบบนี้ ครับ

ในเมืองไทยก็มีผู้ใช้พลังจิตรักษาผู้คนได้เหมือนกัน ไม่ใช่วิธีนี้แต่หลักการคล้ายกัน

อนุโมทนา.....สาธุ ครับ

 

โห ... เหลือเชื่อ สมาชิกพลังจิตของเรามีใครทำได้บ้างเนี่ย

 

ขออนุโมทนาบุญกับท่านผู้ตั้งกระทู้ และทุกๆท่านที่ร่วมอนุโมทนาครับ<O</O
สาาาาา...ธุ<O</O
สาาาาา...ธุ<O</O
สาาาาา...ธุ<O</O
ให้ดังไปถึงพระนิพพาน<O</O

 

อนุโมทนาค่ะ อยากใช้พลังช่วยตัวเองและคนอื่นๆให้พ้นทุกข์บ้าง

 

เยี่ยมมากๆเลย
คุณคนนี้มีวิชาหลายอย่างดีครับ คือ ชี่หรือลมปราณอย่าง1
วิชาฝังเข็มอย่าง 1 วิชาตัวเบาอย่าง 1

อันนี้ที่รู้ได้ ได้อย่างไรเพราะ เคยฝึกวิชาไท้เก็ก อาจารย์เลยสอนให้ฝึกชี่กง ชี่กงไว้รักษาคนได้ อย่างที่เคยดูในหนังจีนกำลังภายใน(นั้นของจริงรักษาได้จริง)แต่คุณคนนี้ฝึกมานานมากแล้วแน่ๆเลย สุดยอดเห็นพลังชี่กงของเขาแล้ว

 

เยี่ยมเลยครับ

 

ว่าว แสดงว่า วิชาตัวเบา ในสมัยก่อน ก็คงน่าจะมีจริงๆสินะครับ คาดว่าก็คงเป็นการทำสมาธิ เหมือนที่พระไทยท่านสอน ใช่มั๊ยครับ อนุโมทนาสาธุด้วยคร้าบ

 

ศ.นพ.หยาง ชวน เหยี่ยน แพทย์แผนจีนที่ให้การรักษาที่โรงพยาบาลหัวเฉียว ซึ่งมีประสบการรักษาโรคด้วยแพทย์แผนจีนมากว่า 30 ปี
แนะนำเทคนิคการรักษาโรคแบบ “ทุยหน่า” ว่าเป็นศาสตร์การรักษาโรคที่โดดเด่นมากของการแพทย์แผนจีน โดยที่ ทุยหน่า หากเปรียบเทียบก็คือการนวดที่ใช้พลังลมปราณเข้ามาช่วย เพื่อนำพาเข้าสู่จุดที่สำคัญของโรค
ประวัติความเป็นมาของการรักษาโรคด้วยทุยหน่ามีมากว่า 2,000 ปี โดยมีจุดเปลี่ยนที่สำคัญในยุคของราชวงศ์หมิง ทั้งนี้สมัยก่อนถึงยุค
ของราชวงศ์หมิง ทุยหน่าเป็นเหมือนการนวดแบบทั่วไป แต่เมื่อมาถึงยุคหมิงมีการคิดค้นใช้พลังลมปราณมาประกอบ จึงเปลี่ยนชื่อมาเรียกว่า ทุยหน่าแทน

“วิชาทุยหน่า นอกจากรักษาระบบภายในร่างกายแล้ว ยังรักษาโรคจากภายนอกได้ด้วย วิชาทุยหน่า มีที่มาของการรักษาจากการสังเกตร่างกายมนุษย์ที่ทำงานหักโหมสะสมมาอย่างยาวนาน ทำให้เกิดการปวดเมื่อย สมัยก่อนรักษาด้วยการนวดเบาๆ หรือตบเบาๆที่จุด ซึ่งเป็นการรักษาทั่วไปในสมัยก่อน โดยเริ่มมาจากการนวด แล้วประคบตัวเองเบาๆ ต่อมาก็พัฒนาการมาเรื่อยๆ มีการอาศัยพลังลมปราณมาใช้ในด้านนี้
กลายเป็นการรักษาอย่างหนึ่งในปัจจุบัน”

นพ.หยาง บอกว่าในประเทศจีน การรักษาด้วยทุยหน่าแพร่หลายมาก และมีการใช้ควบคู่กับการรักษาแบบแผนปัจจุบันด้วย เพื่อให้การแพทย์ที่เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้วิชาทุยหน่า โดยการทำให้คนไข้ที่จะทำการผ่าตัดมีอาการชา โดยไม่ต้องใช้ยาชาก่อนผ่าตัด
อย่างไรก็ตาม ชาวจีนไม่นิยมรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน แต่นิยมศาสตร์แพทย์จีนมากกว่า วิชาทุยหน่าจึงได้รับการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง
ทำให้วิชานี้แพร่หลายมากว่า 2,000 ปีมาแล้ว



ศ.นพ.หยาง ชวน เหยี่ยน ผู้เชี่ยวชาญวิชาทุยหน่า สาธิตการนวดใช้พลังลมปราณรักษาโรคความดันโลหิตสูง
ที่เมืองจีนนั้น มีคัมภีร์รักษาโรคอยู่ 2 เล่ม วิชาทุยหน่า เป็นหนึ่งในคัมภีร์นั้นที่ต้องมีการพัฒนามาเรื่อยๆ ทุยหน่าเป็นการรักษา แผนโบราณที่เก่าแก่ที่สุดในจีน และเป็นจุดการรักษาที่สำคัญของจีนด้วย
“การรักษาด้วยทุยหน่าจะใช้ฝ่ามือนวดกับการใช้ลมปราณซึ่งเป็นพื้นฐานของวิชานี้ โดยการใช้พลังลมปราณจากผู้ที่เคยฝึก เป็นการส่ง

พลังลมปราณที่แข่งแกร่งผ่านฝ่ามือของหมอไปบำบัดผู้ป่วย โดยพลังลมปราณผ่านฝ่ามือกระทบกับร่างกายของคนไข้ให้เกิดพลังสูงสุด”
“ดังนั้นหมอที่เชี่ยวชาญการรักษาด้วยทุยหน่านอกจากต้องรู้วิชาการแพทย์แล้ว ยังต้องรู้จักเรื่องลมปราณด้วย ซึ่งหมอที่เชี่ยวชาญทุยหน่าสามารถรักษาโรค ระงับการปวดบวม รักษาสมดุลภายในร่างกายได้ โดยใช้เพียงแค่การขยับฝ่ามือ แต่ใช้พลังลมปราณจากในตัวมาที่ฝ่ามือ ทำให้คนไข้สบาย ลดการเจ็บป่วยในตัว”

ในเรื่องการใช้พลังลมปราณนั้น นพ.หยาง แนะว่าจะต้องใช้ความสามารถในการควบคุมการเคลื่อนไหวของฝ่ามือ โดยใช้พลังในร่างกายดันฝ่ามือ ซึ่งหมอที่ทำการรักษาสามารถแนะให้ผู้ป่วยฝึกพลังลมปราณไปด้วยเพื่อให้รักษาได้ด้วยตนเองได้ วิชาทุยหน่าเป็นการรักษาจากภายนอก โดยไม่ต้องาอาศัยการใช้ยารับประทาน

ทั้งนี้ การฝึกวิชาทุยหน่าต้องรู้ข้อมูลเรื่องลมปราณ เลือด ลม ไขข้อ ชีพจรต่างๆตามร่างกาย ตลอดจนจุดฝังเข็มเพราะการทุยหน่าใช้คาฝ่ามือนวดบริเวณด้านนอกที่ผู้ป่วยกำลังป่วยอยู่ และสัมพันธ์ไปกับการไหลเวียนของชีพจร ระบบต่างๆในร่างกาย การหายใจ การขับถ่าย

มีหลายโรคที่สามารถใช้วิชาทุยหน่ารักษาได้ดี เช่น กระดูกหัก โรคภายใน ความดันโลหิตสูง โรคสตรี โรคกล้ามเนื้อ โรคของเด็ก การ

ปวดหัว เวียนหัว นอนไม่หลับ ปวดกรเพาะ โรคดีซ่าน ท้องเสีย ท้องผูก ตกหมอน ปวดไหล่ หมอนรองกระดูกทับเส้น เอวเคล็ด กระดูกไขข้อ

เคลื่อนที่ อัมพฤกษ์ อัมพาต ปวดประจำเดือน วัณโรค เด็กท้องเสีย ไอ

อย่างไรก็ตามโรคที่วิชาทุยหน่าไม่สามารถรักษาได้ เช่น โรคติดต่อ ผิวหนังอักเสบ เนื้องอก เป็นต้น

นพ.หยาง แนะนำการนวดแบบทุยหน่าเพื่อแก้อาการปวดหลังว่า ใช้มือโดยให้พลังลงที่นิ้วโป้งจับที่ท้ายทอย เมื่อบีบกดลงที่ท้ายทอยให้

ใช้ระบบการหายใจควบคู่กันไปด้วย โดยเมื่อบีบให้หายใจเข้า ปล่อยหายใจออก ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ หลังจากนั้นให้นวดบริเวณกกหูด้านล่าง

ตรงท้ายทอย โดยใช้วิธีหายใจและการบีบ-ปล่อย เหมือนการนวดท้ายทอย และให้หมุนศีรษะ โดยใช้วิธีหายใจเข้าออกช้าๆ จะแก้อาการปวด

หลังได้

 

สาธุ อนุโมทนา คุณลุงเก่งมากเลยนะ มีพลังจิตดี มีเมตตาสูง สามารถรักษาคนให้หายป่วยได้โดยไม่ต้องใช้ยาเลย

 

ขออนุโมทนาเป็นอย่างยิ่งครับ

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 

สำหรับดิฉัน คิดว่าทุกคนทำได้ถ้าฝึกจริงจังแต่มันไม่ใช่ทางไปนิพพาน ตอนนี้ก็ป่วย แต่ปล่อยวางละคะ ปล่อยร่างมันป่วยไปเถอะแต่ใจสบาย

 

อนุโมทนาจ้ะ....
แต่ว่านี่มันกำลังภายในนะไม่ใช่ กสิณ
เหมือนที่เคยดูกันในหนังจีนอ้ะ

 

ผู้รู้ย่อมทำเป็น ผู้ไม่รู้ย่อมยุ่งยาก

 

เป็นหลักการเดียวกับมนุษย์กิ่งก่าหรือเปล่า ว่าอย่ามองเห็นแค่เป็นวัตถุ แต่มองชั้นที่เรามองไม่เห็นด้วย จึงสามารถบังคับได้?

 

คุณลุงเขาเก่งมากเลย อ่ะ
แต่ถ้าคน ฝึกกสินถึงขั้นแล้ว
อย่าว่าแต่เดินบน กระดาษเลย เดินบน ผิวน้ำยังได้

 

อนุโมทนาด้วยยเช่นกันครับ
--------------------------------
แม้ฉันจะไม่ใช่คนดี แต่ก็มั่นใจว่าฉันไม่ใช่คนเลว