ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

เอาบุญมาฝากค่ะ

กลับจากอยุธยา ได้ไปเข้ากรรมฐานปิดวาจาช่วง 11 - 19 พ.ค. เป็นโอกาสที่ได้ทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนา
ถวายปัจจัยหลวงพ่อเจ้าอาวาสเพื่อเป็นอาจาริยบูชา
ทำบุญเพื่อเป็นค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า และชำระหนี้สงฆ์

น้อมบุญทั้งหมดถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา อาจาริยบูชา และบูชาผู้มีพระคุณทุกท่าน
ขอเชิญทุกท่านรับบุญด้วยการอนุโมทนาบุญเองนะคะ

 

สวัสดีค่ะท่าน อ.สุวิ ได้ทำบุญมาให้อนุโมทนากันค่ะ
ร่วมบุญปิดทององค์หลวงปู่ดู่
ร่วมบุญสร้างหอกลองหอระฆัง
ร่วมพิมพ์หนังสือประวัติท่านท้าวเวสสุวรรณ
ร่วมสร้างพระพนัสบดี
ถวายอาหารฟังเทศน์วันนี้ค่ะ วิสาขบูชา

 

เรียนคุณหมอสุวิค่ะ
เอาบุญมาฝากค่ะ

ร่วมบุญสร้างพระอุโบสถปราสาทพระบรมธาตุเจดีย์มหาวิหาร วัดมเหยงคณ์ อยุธยา
ร่วมบุญกองทุนยาคุณหมอสุวิ
ร่วมบุญสร้างพระประธานวัดป่ากังวาลไพร ชัยภูมิ

น้อมถวายบุญทั้งหมดเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา อาจาริยบูชา และบูชาผู้มีพระคุณทุกท่าน

ขอเชิญทุกท่านรับบุญด้วยการอนุโมทนาบุญ ด้วยนะคะ

 

ใบทุเรียนเทศ รักษามะเร็งได้จริง

ผมได้ไปเจอหน้าเฟสบุ๊คอยู่หน้านึงใช้ชื่อว่า ขายใบทุเรียนเทศ ชงดื่มเป็นชา เลยลองเข้าไปแล้วพบว่ามันสามารถรักษามะเร็งได้ ก็ลองค้นดูในอินเตอร์เน็ตก็พบว่ามีข้อมูลจริงๆ และยืนยันได้จริง ว่าเป็นสมุนไพรที่ฆ่าเซลล์มะเร็ง และไม่ทำลายเซลล์ดีในร่างกาย และไม่มีผลข้างเคียงอีกด้วยผมว่ามันเป็นประโยชน์มากๆสำหรับผู้ป่วยเป็นมะเร็ง และได้คัดลอกบทความบางช่วงมาให้ดูกัน ท่านใดสนใจลองเข้าไปในเพจนี้ได้ เค้าขายใบทุเรียนเทศ ถือว่าเป็นทางเลือก เค้ามีเบอร์โทรด้วย 090-9954797

'ทุเรียนน้ำ' เอาใบมาทำน้ำชา ออกฤทธิ์ดีกว่าคีโม 10,000 เท่า Cancer Cell Killer Guyabano หรือ Sour Sop เป็นผลไม้พื้นเมืองในประเทศฟิลิปปินส์ ไทยซึ่งสามารถพบได้ในบราซิลด้วย ซึ่งเรียกว่า Graviola เป็นผลไม้ขนาดใหญ่กว่าฝรั่งไม่มากแต่ไม่เท่าส้มโอ มีหนามแต่ไม่แหลม คนฟิลิปปินส์จะรับประทานน้ำจากผลไม้ซึ่งมีผลการรับรองจากแล็บมากมายว่าผลไม้ชนิดนี้สามารถช่วยในการ...ฆ่าเซลส์มะเร็งกว่า 12 ชนิดซึ่งรวมถึง มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งต่อมลูกมาก มะเร็งปอด และมะเร็งตับอ่อนผลจากการรับประทานยาที่สกัดจากทุเรียนน้ำ หรือการนำใบของทุเรียนน้ำมาต้มเป็นชาแล้วรับประทาน จะช่วยในการฆ่าเซลส์มะเร็ง ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าการทำคีโมถึง 10,000 เท่า แต่จะไม่ทำร้ายเซลล์ดีในร่างกาย ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าผลไม้มหัศจรรย์นี้จะช่วยสู้เซลส์มะเร็งอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดการคลื่นเหียนวิงเวียน หรือเกิดอาการผมร่วงเหมือนกับการทำคีโม เพราะส่วนผสมนั้นเป็นธรรมชาติทั้งสิ้น ไม่มีเคมีใดๆ
และช่วยป้องกันระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายและไม่ก่อให้เกิดการติดเชื้อ ทำให้ผู้ป่วยที่รับประทานยาสกัดจากทุเรียนน้ำ
นั้นมีสุขภาพแข็งแรงขึ้น ช่วยให้มีกำลังวังชาตอนนี้ที่ Tagaytay (เป็นเมืองเล็กๆ ทางใต้ของมะนิลา) ที่มีศูนย์ช่วยเหลือ-รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งโดยชาวแคทอลิก ที่นี่เองจะให้ผู้ป่วยทานชาที่ได้จากการต้มใบของทุเรียนน้ำ ปรากฎว่าผู้ป่วยมากมายที่ค่าของเซลส์มะเร็งลดลง และบางรายถึงกับหาย...
การรับประทาน
ใบชาที่ทำให้แห้งโดยการใช้วิธีการ Air Dry จะช่วยทำให้ประโยชน์ในการรักษา นั้นเข้มข้นขึ้น
เมื่อใบแห้งแล้ว ฉีกใบเป็นชิ้นเล็กๆ และตวงให้ได้ 1 ถ้วยตวงต่อน้ำ 1 ลิตร นำไปต้ม และลดไฟให้ต่ำ เคี่ยวอีก 20 นาที
ใช้ดื่ม 3 ถ้วยต่อวัน 30 นาทีก่อนมื้ออาหารดื่มน้ำชาแบบนี้ทุกวันเป็นระยะเวลา 30 วัน หากต้องการดื่มติดต่อกันเกิน 30 วัน แต่ร่างกายยังไม่ดีขึ้น ให้พักก่อนสักส้ปดาห์จึงค่อยทานชาต่อ

หมายเหตุ: ข้อมูลเหล่านี้ ไม่มีจุดประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ หรือใช้ในการอ้างอิง ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็น สมุนไพรธรรมชาติ ไม่มีส่วนประกอบที่ต้องใช้ใบสั่งจากแพทย์ ข้อมูลเหล่านี้ มีจุดประสงค์ เพื่อให้การศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และเพื่อความปลอดภัยผู้อ่านควรปรึกษาแพทย์ ก่อนใช้

 

สวัสดีค่ะคุณหมอสุวิ หลังจากที่หนูได้รวบรวมเรื่องราวอยู่นานพอสมควร และผลจากการรักษาโรคกับหมอมาครบ 1 ปี ค่ะ ดูเหมือนเร็วเหมือนกันนะคะ ขอเล่าย้อนหลังนิดหนึ่งค่ะก่อนที่จะได้รู้จักกับหมอสุวิ หนูเข้ามาในเวปพลังจิตอ่านเรื่องภัยพิบัติอยู่นานพอสมควรแล้วก็เลยมาอ่านในเรื่องเล่าต่าง ๆ จนจบแล้วมาสะดุดตาเรื่องของหมอสุวิ คือเรื่อง ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ซึ่งหนูอ่านยังไม่ประมาณ 3-4 เจอปัญหาคนที่เป็นเหมือนหนูคล้าย ๆ หนู หนูเลยตัดสินใจสอบถามคุณหมอเลยว่าหนูอาการอย่างนี้ๆ คือเกี่ยวกับมดลูกการเป็นประจำเดือนนะค่ะ พอคุณหมอตอบกลับมาหนูดีใจมาก เลยตัดสินใจรักษากับหมอนี่ก็ครบ 1 ปีแล้วแต่ว่าอาการมันก็ยังมีเป็น ๆ หาย ๆ ล่าสุดส่ง pmถามหมอเลยว่าเวลาใส่กางเกงรัดหรือแน่นมากจะปวดมดลูกมากหมอบอกว่ามดลูกต่ำต้องหาหมอนวดเก่งๆยกกระชับมดลูกให้แต่ถ้าไม่มีให้มาหาหมอสุวิแทน พอได้รับยาที่หมอส่งให้แล้วก็ตัดสินใจทันทีว่าจะไปหาหมอเลย เพราะอยากหาย แต่ในใจก็หวั่นว่าจะไปดีหรือไม่ไปดี อีกใจหนึ่งอยากหายเลยตัดสินใจไปหาหมอสุวิ เช้าวันที่ 15 มิ.ย 56 9.00 น.ถึงหมอชิตโทรหาหมอสุวิว่าถึงแล้วแล้วไปอย่างไรต่อ หมอบอกว่าให้นั่งรถเมล์ สาย 134 พอเห็นรถขึ้นทันทีแล้วก็ถามเขาว่าผ่านหมู่บ้านที่หมออยู่รึเปล่าเขาบอกว่าไม่ผ่านแต่ก็ไม่ตกใจนั่งรถไปเรื่อย ๆ รถพาวิ่งไปผ่านวัดพระแก้วจนสุดสายแล้วหมอบอกว่านั่งรถผิดสายให้หาทางมาที่เซ็นทรัลปิ่นเกล้า พอถึงแล้วให้นั่งรถ 134 บางบัวทองถึงจะผ่านบ้านหมอ ก็ทำตามหมอบอกและมาถึงบ้านหมอในที่สุดซึ่งตอนนี้รู้สึกตื่นเต้นมากเพราะไม่เคยเจอหน้าหมอเลยมีแต่คุยผ่าน pm ตลอด พอเจอหมอแล้วโล่งใจมากหมอใจดีมีเมตตามาก พอเจอหมอหมอบอกให้มานั่งใกล้ ๆ และหมอก็บอกว่า รู้ไหมทำไมถึงมาไม่ถึงสักที เพราะมีบางอย่างกีดกันเราเต็มที่ไม่ให้มาหาหมอ หมอบอกว่าเคยยุ่งเกี่ยวกับร่างทรงรึเปล่า หนูคิดในใจหมอรู้เรื่องเราได้โดยไม่ต้องถามอีกแล้วยังกะตาเห็นแน่ะ และตอบคุณหมอสุวิกลับไปว่าหนูอยู่กับปู่ผาวัง ซึ่งอยู่จ.หนองบัวลำภู มา 10 ปี และมีพระแถวบ้านทักแม่ว่าให้ไปลาออกจากการอยู่กับร่างทรงเสียเพราะถ้าแก่ตัวไปมันจะกลายเป็นปอบแถวอีสานเขาจะบอกแบบนี้ หนูตอบ หมอสุวิบอกว่านี่แหละคือสาเหตุที่ีหนูไม่หายสักทีเพราะมันเป็นอย่างนี้นี่เอง หมอเลยให้หนูเล่าเรื่องอย่างละเอียดให้ฟังเพราะมันเป็นประโยชน์ในการรักษาหนูด้วย หนูเลยเล่าตั้งแต่เริ่มต้น ดังนี้ ก่อนที่หนูจะอยู่กับร่างทรงปู่ผาวังนั้น หนูยังเคยอยู่กับทวดของหนูท่านเป็นผีฟ้าซึ่งทางอีสานเขาเรียกอย่างนั้นเพราะถ้าใครไม่สบายมาอยู่กับท่านรักษาโรคโดยการร่ายรำ เวลาเทศกาลสงกรานต์ก็จะมีลูกศิษย์มาร่ายรำและบูชาครูบาอาจารย์ และเมื่อทวดเสียลงไปยายก็พาย้ายมาอยู่กับปูผาวังเหตุผลคือหนูไม่สบายมากคือเป็นหอบขั้นรุนแรงและเกือบเสียชีวิตเพราะใส้ติ่งแตกมาแล้ว และมาอยู่กับปู่แล้วอาการบางอย่างมันก็ดีขึ้นไม่ค่อยมีโรคภัยไข้เจ็บอะไรเลย และพึ่งจะมาไม่สบายสองสามปีนี้คือ ปี 2553 เป็นหอบถึงขั้นต้องไปพ่นยาที่โรงพยาบาลเลย และรักษามาเรื่อย ๆ กินยากับหมอโรงบาลมาเรื่อย ๆ แต่อาการยังเป็นอยู่นะเป็นมากทีเีดียว และได้มาพบหมอสุวิรักษากับหมอมาจนอาการทุเราลงมากแต่ก็ยังไม่หายเลย หมอสุวิเลยบอกว่านี่แหละคือสาเหตุที่หนูไม่หายสักที แล้วหนูไปลาจากปู่ยังไงหมอถาม แม่พาไปคือเอาขัน 5 มีดอกไม้ 5 คู่ เทียน 5 คู่ ไปขอลากลับตัวท่านร่างทรงเลย หมอสุวิบอกว่าแล้วหนูคิดว่าเขาจะยอมเหรอ หนูอึ้งไปพักหนึ่งแล้วก็ยิ้มแห้ง ๆ ตอบว่าไม่รู้เหมือนกันค่ะ มองหน้าหมอสุวิ หมอบอกว่าเอางี้หมอจะช่วยเจรจาให้ หมอสุวินั่งอยู่นานมากเหมือนกับการเจรจาทางด้านจิตกับสิ่งที่เรามองไม่เห็น แล้วก็บอกว่ามีคนช่วยเจรจาและหมอได้เอาบุญของหนูกับของหมอซึ่งเยอะพอสมควรอุทิศให้กับญาติที่เป็นร่างทรงให้แล้วคนที่เป็นสัมมาทิฐิเขาก็ไปภพภูมิที่ดีและจุติแล้วส่วนคนที่เป็นมิจฉาทิฐิก็แล้วแต่กรรมของเขาแล้วกันเราช่วยได้แค่นี้ พอคุณหมอบอกอย่างนี้หนูโล่งใจและขอบคุณคุณหมอที่อุตส่าห์ช่วยหนูได้ขนาดนี้ แล้วหมอก็นวดยกกระชับมดลูกให้แล้วก็บอกวิธีนวดทำเองอีก และก่อนกลับบ้าน ได้ร่วมทำบุญสร้างพระกับคุณหมอ 200 บาท ทำบุญทุกอย่างและเข้ากองทุนยาหมอสุวิอีก 300 บาท และคุณหมอบอกว่าให้หนูทำบุญของหนูไปตามปกติและอธิฐานตามที่หมอเคยบอกไว้ ว่า ข้าพเจ้าขอน้อมบุญนี้ถวายบูชาแด่องค์สมเ้ด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระธรรม พระอรหันต์และพระอริยะเจ้าทั้งหมด ขอผลบุญทั้งหลายที่เกิดจากการบูชานี้ จงสำเร็จแ่ก่กายธาตุ จิตวิญญาณ และตัวข้าพเจ้าในทุกส่วนขอให้ข้าพเจ้าอยู่เย็นเป็นสุข .... อธิษฐานอื่น ๆแล้วแต่เรา .. เรื่องเกี่ยวกับร่างทรงนี้อาจจะเป็นประโยชน์ให้กับอีกหลายท่านได้นะคะ และคุณหมอสุวิอาจจะมาเล่าต่อเรื่องร่างทรงให้ฟังก็ได้เพราะว่าดิฉันจะเล่ารายละเอียดได้ไม่ดีเท่าที่ควรแต่ อยากให้เป็นวิทยาทานสำหรับหลายท่านได้รู้และเข้าใจ เพราะเรื่องบางอย่างมันยากเกินกว่าที่เราจะเข้าใจได้ และสุดท้ายต้องขอขอบคุณคุณหมอสุวิอีกครั้งค่ะที่เมตตาช่วยรักษาหนู คุณหมอคือหมอที่หนูเคยอธิฐานไว้ให้เจอแน่ ๆ เลย ขอให้ได้เจอหมอที่รักษาหนูให้หายจากโรคที่เป็นอยู่นี้ เวลาทำบุญจะอธิฐานบ่อย ๆ และก็ได้มาเจอหมอที่วิเศษจริงๆ ซึ่งเรื่องบางอย่างที่ไม่ได้เล่าหมอยังรู้ได้ และรักษาถูกโรคด้วย อันนี้ไม่ได้กล่าวเกินจริงถ้าใครไม่เจอกับตัวเองอาจจะไม่เชื่อก็ได้แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคน

 

อ้างอิง:

มีท่ากายบริหาร เพื่อใช้ในการขจัดหรือบันเทา อการปวดแบบนี้
หมอสุวิเรียกว่าท่า น้ำตาเช็ดหัวเข่า ลองทำดู แล้วจะรู้ว่าน้ำตาเช็ดหัวเข่าเป็นอย่างไร
๑ เขาที่ตั้งแนบอกเป็นเข่าด้านที่ปวดสะโพก
๒ ฝ่าเท้าต้องแนบพื้นห้ามยกลอยเด็จขาด
๓ กอดเขาให้แนบอก ยืดหลังขึ้น
๔ กอดเขาให้แนบอก "นับหนึ่งถึงสามสิบ" แล้วคลายออก แล้วทำใหม่ สัก ๓-๕ รอบ ทำบ่อยๆสักวันละ ๒-๓ ครั้ง

 

ที่จริงเขาก็มีที่ให้กดอนุโมทนา แล้วก็กดแล้ว อย่างไรก็ตามก็ยังอยากคุยเพิ่มเกี่ยวกับเรื่องที่คุณไข่ต้ม14 เขียนไว้ใน # 3211

ป้าเพ็ญเห็นจริงด้วยกับคุณไข่ต้มในเรื่องที่เกี่ยวกับคุณหมอสุวิ ป้าเองทั้งจากการอ่านและการที่ประสบด้วยตนเองก็มีความเชื่อมั่นในคุณหมอสุวิมาก ตอนที่ไม่สบายนอกจากจะได้รับการรักษาจากคุณหมอจนหายแล้ว ยังได้เรียนรู้อะไรอีกหลายๆ อย่าง โดยเฉพาะวิธีการอธิษฐานบุญเพื่อให้ได้บุญสูงสุด เรียนรู้ว่ากรรมเป็นเรื่องละเอียดมากๆ ยิ่งต้องพยายามทำดี ละชั่ว ตามคำสอนของพระพุทธเจ้า และเรื่องอื่นๆอีกมากจากเรื่องต่างๆที่แต่ละคนเขียนเล่าด้วยในเวปนี้แหละ

ดีใจด้วยกับคุณไข่ต้ม14 ที่ได้เป็นอิสระ และจะหายขาดจากโรค ขออนุโมทนาอีกครั้ง

แล้วคุณหมอสุวิจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับร่างทรงไหมคะ ถ้าไม่เขียนที่นี่ไปเขียนที่เรื่องเล่าตื่นนอน ป้าก็จะตามไปอ่านค่ะ

 

ขอเชิญอนุโมทนาบุญร่วมกันครับ

ผมร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพบวชพระหมู่ ปีที่14 วัดเนินตอง ศรีราชา ชลบุรี จำนวน 2,000 บาทครับ

http://palungjit.org/threads/เหลืออ...ู่-ปีที่-14-วัดเนินตอง-ศรีราชา-ชลบุรี.493602/

หนุ่ม36

 

ขอบคุณคุณหนุ่ม36 ที่แจ้งข่าวค่ะ ตามไปทำบุญมาด้วย...^^

 

อาจารย์ สุวิ ผมเป็นโรคอะไรก็ไม่รู้ กินข้าวไม่ค่อยได้ เป็นอย่างนี้มา 2 ปีแล้ว ไปหาหมอ ก็ไม่หาย บอกว่าเป็นกรดใหลย้อน รักษามาพอสมควร แต่กลับไม่ดีขึ้น เดียวนี้ถึงขั้นกิน (ยาก็ไม่ลงคอ) กินน้ำก็ติดขัด เคยตรวจถึงขั้นเอากล้องส่องลำคอ แต่ก็ไม่มีอะไร ตอนนี้ทรมารเหลือเกิน เลยหยุดรักษาทางการแทพย์มาพึ่งการรักษาทางธรรม อาจารย์พอจะชี้แนะ เรื่องนี้ได้หรือป่าวครับ หากเป็นเวรเป็นกรรมที่เคยทำมา น้อมรับกรรมนั้นพร้อมชดใช้ให้เจ้ากรรมนายเวร แต่ขอผ่อนกรรมได้มั้ย จากหนักขอเป็นเบา แต่นานๆก็ได้ ทรมารเหลือเกิน อยากกินข้าวอร่อยๆ ก็ไม่ได้กิน อยากกินน้ำในตอนคอแห้งก็กินได้เพียง1ฝา กินยาเพื่อรักษาก็ทำไม่ได้ติดคอตลอด ผมทรมารเหลือเกินครับ
*หากว่าเป็นกรดใหลย้อนจริง เราจะสามารถ ล้างท้อง ฉีดยา ดีท็อก หรืออะไรก็ได้ที่ไม่ต้องเข้าปาก

 

ไขต้ม 14 มาหาหมอสุวิด้วยอาการ
ปวดท้องมาก เมื่อมีรอบเดือน และมีสีดำคล้ำเหนียวข้นเป็นยางมะตูม และเหม็นเน่าอีกตากหาก
มีอาการหอบหืด แพ้อากาศอย่างหนัก
ท้องอืดท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย และมีอาการกรดไหลย้อน
ฯลฯ

หลังจากกินยาสักพัก อาการก็ดีขึ้น และเลว ลงสลับกันไปมา
ช่วงหลังๆ เมื่อสัก ๖ เดือนที่ผ่านมา จิตวิญญานต่างที่ซ่อนอยู่ในกายเริ่มปรากฎ
และเริ่มเรียกร้อง
บ้านพักเธอผู้นี้อยู่แถวพัทยา ซึ่งหมอเคยไปเทียวอยู่และพบจิตวิญญานมากมายอยู่แถวนั้นเต็มไปหมด
หมอก็คิดว่า เป็นจิตวิญญานทั่วไปแถวๆนั้นมาเบียดเบียนเธอ

และหมอยังพบว่า คุณไข่ต้ม14 เธอต้องธรณีสารในข้อ อกตัญญู ต่อบิดามารดา บรรพบุรุษและผู้มีคุณ
ได้เคยให้คุณไขต้ม14 ลองขอขมากรรม บิดามารดา โดยล้างเท้าให้ท่าน เอาน้ำล้างเท้าลูปหัว ก็ดีขึ้นบ้างแต่ไม่มากนัก
ก็ยังงงอยู่ว่า มันเรื่ออะไรกัน

เรื่องมาเปิดเมื่อ มดลูกเธอหย่อนคล้อย ให้เธอหาหมอนวดเก่งๆ ในบริเวณบ้านที่พักอาศัย เพื่อการยกมดลูก ก็ไม่มี
เธอจึงตัดสินใจ มาหาหมอสุวิ
พอเธอย่างเท้าเข้ามา ก็มีจิตวิญญานต่างๆติดตามมามากมายเกินกว่าที่จะเป็นการเบียดเบียนกันธรรมดา
มันมากเหมือนกับยกกันมาทั้งตำหนักทรงเลย
จึงถามเธอไปว่า ไปยุ่งเกี่ยวกับตำหนักทรงหรือไม่

เธอจึงเล่าให้ฟังว่าบรรพบุรุษของเธอเป็นผีฟ้า ตกทอดกันมานาน จากปูย่าตาทวดจนถึงรุ่นแม่ และตัวเธอ
อยู่ๆแม่เธอและตัวเธอได้รับคำแนะนำว่าการยุ่งเกี่ยวกับจิตวิญญานและการเข้าทรงเป็นผีฟ้านั้นไม่ดี แก่ตัวไป อาจเป็นปอบได้
โอ้ อย่างนี้ต้องลาออก
แม่และเธอจึงคิดลาออก โดยการไปกราบ ปู่ผาวัง(ก็ร่างทรงนั่นแหละ แต่เขาค่อนข้างใหญ่นะ)ให้ช่วย
จุดธูปเทียน ลาออกจากการเป็นผีฟ้า และรับเอาปู่ผาวังเป็นสรณะ

เฮ้อ... ผีบรรพบุรุษจะยอมไหมเนี่ย
จึงถามเธอไป เธอก็ว่าไม่รู้ แม่ก็ว่าไม่รู้จึงต้องอาศัยอำนาจปูผาวังช่วย

งานนี้พูดได้ว่า หนีจากเสือไปขออาศัยอยู่กับจรเข้ นะ
ปกติ โดนงาบ ทั้งขึ้นทั้งล่องนะ
แต่งานนี้โชคดี ท่านปู่ผาวังท่านท่านเป็นสัมมาทิฐิ ท่านก็ช่วยเท่าที่ควรช่วย ไม่ซ้ำเติม
แถมเห็นว่าท้ายสุดก็ขอลาออกจากเจ้าพอผาวังอีกด้วย ท่านก็ดีนะไม่ว่าอะไร แล้วท่านก็วางอุเบกขาเสีย

แฮะๆ...ลูกหลานคนุดท้ายที่จะต้องรับมรดกเป็นผีฟ้าคนสุดท้ายนี่ ก็รับเละซิ

 

แฮะๆ...ลูกหลานคนสุดท้ายที่จะต้องรับมรดกเป็นผีฟ้าคนสุดท้ายนี่ ก็รับเละซิ

และนี่คือ การต้องธรณีสาร ในข้อ อกตัญญู ต่อบรรพบุรุษ ไม่สืบสารต่อจารีตประเพณีที่มีมา

พวกคนจีนที่ไหว้บรรพบุรุษ วันเช็งเม้ง และตรุษจีนนะ อยู่ๆก็เลิกไหว้นี่ก็โดนธรณีสารข้อนี้เหมือนกันนะ

การทีจะออกหรือหลุดจากธรณีสารข้อนี้ได้ ต้องทำเป็นเรื่องเป็นราว
ต้องเจราจา ขอออก และนำบุญจำนวนมหาศาลที่พอทำให้เขาเป็นสุขได้เพื่อทดแทน การไหว้บวงสรวงเขาทุกปี
เช่นบุญที่มากพอทำให้เขาจุติใหม่ ทำให้เขามีบ้านอยู่มีกินมีใช้ไม่ขัดสนฯลฯ

คิดดูนะ พวกผีบรรพบุรุษนี่เราต้องจัดพิธีเซ่นไหว้เขาทุกปี เขาก็พอใจเห็นลูกหลานพร้อมหน้า(เป็นสุขบ้างทุกข์บ้างก็ยังพอทน)
อยู่ๆไอ้ลูกหลานมันว่า ไม่เอาแล้ว เศรษฐกิจไม่ดี ต้องจัดงานใหญ่โต ทำแล้วมีแต่จนลงๆ
ผีบรรพบุรุษก็เหี่ยวแห้งหัวโตซิ บุญที่มีก็กระเหม็ดกระแหม่ พอกินไปวันๆ พอโดนลูกหลานตัดเชือกปล่อยเกาะนี่ แลัวตูจะเอาอะไรกิน

กรณีของไข่ต้ม14 ก็หนีไม่พ้นเรื่องเหล่านี้
หมอก็ให้ทำบุญใหม่ และนำบุญเก่าที่ทำไว้แล้วมารวมกัน ทำพิธีบูทอับ บุญขึ้นมาแยะๆ(ด้วยการบูชาพระ ฯลฯ)
แล้วอุทิศให้บรรพบุรุษทั้งปวงให้เป็นสุขให้จุติใหม่ ไม่ต้องทนจุมปุกอยู่ในหอบรรพบุรุษอีกต่อไป ใครชอบใจไปที่ใดก็ไป
มีมากกว่าครึ่งได้จุติใหม่ มีที่ไปแล้ว
แต่ยังมีเหลืออยู่บ้างที่ยังมีวิบากกรรมหนาอยู่

คุณไขต้ม14 ยังต้องทำบุญอีกพักใหญ่ ให้ล่อเลี้ยงตัวเอง และให้มากพออุทิศให้บรรพบุรุษ
และเพื่อถอนอาถรรพ์ของผีฟ้า ให้บรรพบุรุษทั้งหมดเป็นอิสละให้ได้

 

อ้าวววว คุณอาหนูเกือบแย่แระ
เพราะที่บ้านไหว้บรรพบุรุษ เผากระดาษเงินกระดาษทอง
หนูก็คิดว่าทำไมต้องเอาเงินไปเผา แถมเป็นควันสารตะกั่ว
ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำลายสุขภาพ หนูก็ถามแม่ว่าเอาเงินนี่
ไปทำสังฆทานให้อากงอาม่าไม่ดีกว่าเหรอ แม่ว่ามันไม่
เหมือนกัน แต่ก็ไม่มีเหตุผลอธิบายให้น่ะค่ะ
หนูว่าถ้าแม่ไม่ทำ หนูก็ไม่ทำแล้วนะ ไหว้เจ้าก็เหมือนกัน
คือถ้าหาเหตุผลจุดประสงค์ไม่ได้ เป็นการทำต่อๆกันมา
หนูก็ไม่กะจะสานต่อ จึ๋ยย อย่างนี้ก็อาจโดนเหมือนกันใช่ป่าวคะ

 

ดูตามอาการที่เล่ามา อาการหนักมากจนเกินเยียวยา

แต่ดูเหมือนว่าคนชื่อนี้ กับอาการที่เล่ามามันไม่แมทกันเลยนะ
อย่างไรก็ดี คนชื่อนี้อยุ่ในช่วงดวงกำลังขึ้น ทำอะไรก็ดูดีมีเงินใช้อีกหลายปี

คนเรานี่ดวงขึ้นได้ก็ตกได้นิ
มีแต่บุญเท่านั้นที่ช่วยได้ตอนดวงตกนะ

 

นี่คืออีกลักษณะของการถูกเบียดเบียน
โดนเกาะที่ท้านทอย
และมุดเข้าไปที่จุดนิ่มๆ ตรงฐานกระโหลกท้ายทอย(จุดนี้เรียก กำด้น)
หากทิ้งไว้นาน มันจะแทรกเข้าไปถึงแกนสมอง

คุณ Moon of Wanpan เล่าให้เพื่อนๆฟังบ้างซิ ว่าไปทำอะไรมา
เพื่อๆจะได้หลีกเลี่ยง การโดนเบียดเบียนเช่นนี้ได้บ้าง

 

คุณหมอคะ ขอเรียนปรึกษาค่ะ

คุณลุงของหนูเป็นมะเร็งลำไส้ระยะสุดท้าย และได้ลามไปที่ปอดบางส่วนด้วย
ก่อนหน้านี้ได้รักษาที่สถาบันวิจัยจุฬาภรณ์ หลังจากที่หมอให้เคมีบำบัดไปสองครั้ง
พบว่าผู้ป่วยอ่อนแอมาก แพ้เคมี ทานอาหารไม่ได้ และมีการกระจายของเซลล์มากขึ้น
ล่าสุดคุณหมอบอกว่าเหลือเวลาประมาณ 4-6 เดือน ให้เลือกได้ว่าจะรักษาต่อหรือไม่
หรือถ้าสนใจแพทย์ทางเลือก อยากรักษาด้วยสมุนไพรก็ได้ (ก่อนหน้านี้คุณหมอห้ามเรื่องสมุนไพร)

หนูขออนุญาตแ้จ้งชื่อคุณลุงทาง pm นะคะ
ถ้าคุณหมอตรวจดูแล้วเห็นควรว่ายังพอมีโอกาส หนูจะแจ้งให้พี่ชายรีบพาคุณลุงไปขอพบค่ะ

ขอบพระคุณค่ะ

 

ขอถาม อ.สุวิ ครับ น้ำส้มสายชูหมัก
สามารถดื่มแทนน้ำมะกรูดหรอน้ำส้มซ้าได้เปล่าครับ
มีผลดีหรอผลเสียอย่างไรบ้างครับ

ผมบดยาไว้ทาน

มี ปลูกไฟธาต จตุผลาธิกะ ยาบำรุงสมอง ยาอายุวัฒนะพระนาราย์
สูตรที่ อ.หมอ ไห้ไว้นะครับ

แล้วว่าจะใช้น้ำส้มสายชูหมัดแทนน้ำมะกรูดนะครับ

 

หมอ สุวิ รู้ชื่อผมด้วยหรอโอ้ ทำไมคุณหมอพูดเหมือน ท่านอื่นๆเลยแฮะ เหมือนจะรู้
แล้วที่ว่าเกินเยียวยาเนี่ย หมดทางรักษาแล้วหรอครับ ดูให้อีกหน่อยนะครับ คืนนี้เข้ามาดูได้นะครับผมเปิดจิตไว้ ถึง5ทุ่มนะครับ

 

เห็นชื่อ นามสกุลที่ส่งทาง PM แล้ว
อาการที่เป็นอยู่ ยังพอรักษาได้ (พอมีลุ้น)

แต่ในช่วงนี้ เขาดวงตก การทำอะไร หรือการรักษา ก็มีอุปสรรคไปหมด
ให้เขาพยายามทำบุญให้ได้ทุกวัน และอธิษฐานขอเปิดทางการรักษา
หนูก็ช่วย แนะนำเขาหน่อย

 

ในบันดาน้ำส้มสายชูหมัก มีน้ำส้มสายชูหมักอยู่ ๒ ชนิดที่น่าสนใจ นำมาเป็นยาหรือกระสายยาได้ (เอามาผสมน้ำชงดื่มได้)
น้ำส้มสายชูหมัก จากผลแอปเปิล
และน้ำส้มสายชูหมักจากสัปรส

น้ำส้มสายชูหมักจากแอปเปิล มีขายตามซุปเปอร์มาเก็ต หาซื้อง่ายดี
ส่วน ที่ทำจากสัปรส อาจหายากหน่อย

สวนยาทีคุณทำไว้ ไม่อยากแนะนำให้ใช้ จตุผลาธิกะเลย
เพราะมีทั้งดีและเสีย(ดูหมายเหตุ)
ใช้ตรีผลาดีกว่าครับ

หมายเหตุ
ตรีผลา = มะขามป้อม สมอพิเภก สมอไทย
จตุผลาธิกะ = มะขามป้อม สมอพิเภก สมอไทย สมอเทศ(บางแห่งใช้สมอดีงูแทนสมอเทศ)

สมอเทศ สมอดีงู ทำให้เส้นเลือดหดตัว ทำให้การไหลเวียนโลหิต เร็วและแรงขึ้น เลือดลมไหลเวียนดีขึ้น
แต่หากคนไข้มีเส้นโลหิตตีบอยู ไม่ว่าจากสาเหตุใดก็ตาม การหดตัวของเส้นโลหิตนี้จะทำให้ การไหลเวียนโลหิตถูกขวางกัน อาจทำให้เกิดการปริแตกของหลอดโลหิตได้