ผลแห่งการชักชวนให้คนสร้างกุศล...(มาลาวชิโร)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย nondanun, 10 มิถุนายน 2011.

  1. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,611
    ในทางพุทธศาสนา การชักชวนผู้อื่นทำความดีนั้น
    ผู้ชักชวนก็ได้บุญ และทำให้เป็นผู้มีบริวารมาก
    หากทำด้วยตัวเองด้วยก็ยิ่งจะได้ทั้งทรัพย์สมบัติและบริวาร
    ดังเรื่องที่มีมาแต่ครั้งพุทธกาลว่า

    กาลครั้งหนึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศลได้รับสั่งให้สันตติมหาอำมาตย์
    ไปปราบปรามโจรที่กำลังฮึกเหิมอย่างหนัก
    เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลได้ทรงทราบว่า
    มหาอำมาตย์ปราบโจรได้อย่างราบคาบแล้ว
    ทรงพอพระราชหฤทัยมาก จึงพระราชทานทรัพย์สมบัติให้เป็นจำนวนมาก
    รวมทั้งหญิงสาวที่เก่งในการร้องเพลงและฟ้อนรำนางหนึ่ง
    อำมาตย์ได้ดื่มเหล้าฉลองชัยชนะจนเมามายถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน
    ในวันที่ เจ็ดเขาจัดแจงแต่งตัวด้วยอาภรณ์อย่างดี
    แล้วขี่ช้างตัวที่ดีที่สุดไปยังท่าอาบน้ำ
    เมื่อไปถึงก็เห็นพระศาสดากำลังเสด็จเข้าไปบิณฑบาตในเมือง
    เขาจึงผงกศีรษะถวายบังคมด้วยความเคารพ
    ในขณะที่นั่งอยู่บนคอช้างนั่นเอง

    เมื่อพระศาสดาทรงเห็น จึงทรงแย้มพระโอษฐ์
    พระอานนท์จึงทูลถามถึงสาเหตุที่พระองค์ทรงแสดงกิริยาเช่นนั้น
    พระพุทธองค์ตรัสว่า “อานนท์ เธอจงดูสันตติมหาอำมาตย์
    วันนี้เขาประดับด้วยอาภรณ์อย่างดี มาสู่สำนักเรา
    เขาจะบรรลุพระอรหัตเพียงเพราะไดัฟังธรรมเพียงนิดเดียวเท่านั้นเอง
    และจะปรินิพพานในอากาศ”

    บรรดาชาวบ้านที่ได้ฟังคำของพระศาสดา
    บางพวกที่เป็นมิจฉาทิฏฐิคิดว่า “ท่านทั้งหลาย จงดูกิริยาของพระสมณโคดม
    พระองค์ย่อมพูดสักแต่ปากเท่านั้น ในวันนี้สันตติมหาอำมาตย์นั้นเมาสุราอย่างหนัก
    จะได้ไปฟังเทศน์ฟังธรรมที่ไหน พวกเราจักจับผิดพระสมณโคดมที่กล่าวมุสาวาท”

    ส่วนพวกที่เป็นสัมมาทิฏฐิคิดกันว่า
    “น่าอัศจรรย์ พระพุทธเจ้าทั้งหลายมีอานุภาพมาก
    ในวันนี้ เราทั้งหลาย จักได้ดูการเยื้องกรายของพระพุทธเจ้า
    และการเยื้องกรายของสันตติมหาอำมาตย์”

    ฝ่ายมหาอำมาตย์หลังลงเล่นน้ำตลอดทั้งวันที่ท่าอาบน้ำแล้ว
    จึงกลับไปสู่อุทยาน และไปนั่งในโรงดื่ม
    ขณะที่หญิงสาวที่พระเจ้าปเสนทิโกศลพระราชทานให้นั้น
    ก็ขึ้นไปยืนอยู่ที่กลางเวทีเตรียมจะฟ้อนรำให้มหาอำมาตย์ดู
    แต่พอเริ่มจะแสดง นางก็กลับมีลมพิษเกิดขึ้นในท้องอย่างหนัก
    ปากอ้า ตาเหลือก และในที่สุดก็ขาดใจตาย
    สาเหตุเพราะกินอาหารน้อยมาตลอด ๗ วัน
    เพื่อให้ร่างกายอ้อนแอ้นน่าชมนั่นเอง

    เมื่อมหาอำมาตย์รู้ว่านางตายแล้ว
    เขาก็เกิดความเศร้าโศกอย่างแรงกล้าขึ้นมา กระทั่งส่างเมาทันที
    พิษของสุราที่ดื่มมาตลอด ๗ วัน ได้เสื่อมหายไป
    เขาคิดว่าคงไม่มีใครที่จะสามารถระงับความโศกเศร้าของเขาได้
    เขาจึงไปขอเข้าเฝ้า พระศาสดาในตอนเย็นพร้อมกับบริวาร
    และกราบทูลถึงเหตุแห่งความโศกเศร้าที่เกิดขึ้นกับตน
    และเหตุที่มาเฝ้าพระพุทธเจ้า

    ครั้นพระศาสดาได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว จึงตรัสว่า
    “ท่านมาหาเราผู้สามารถที่จะดับความโศกได้แน่นอน
    อันที่จริงน้ำตาที่ไหลออกของท่านผู้ร้องไห้ในเวลาที่หญิงนี้ตายด้วยเหตุอย่างนี้
    มากกว่าน้ำของมหาสมุทรทั้ง ๔ ซะอีก” แล้วจึงตรัสพระคาถา ว่า

    “กิเลสเครื่องกังวลใด มีอยู่ในกาลก่อน เธอจงยังกิเลสเครื่องกังวลนั้น
    ให้เหือดแห้งไป กิเลสเครื่องกังวล จงอย่ามีแก่เธอในภายหลัง
    ถ้าเธอจักไม่ยึดถือขันธ์ ในท่ามกลาง จักเป็นผู้สงบระงับเที่ยวไป”

    หลังจากพระองค์เทศน์จบ สันตติมหาอำมาตย์ก็บรรลุพระอรหัตผล
    แล้วพิจารณาดูอายุสังขารของตน ทราบว่าตัวเองจะหมดอายุขัยแล้ว
    จึงกราบทูลพระศาสดาว่า

    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระองค์จงทรงอนุญาตการปรินิพพานแก่ข้าพระองค์เถิด”

    พระพุทธองค์จึงตรัสว่า “สันตติมหาอำมาตย์ ถ้าอย่างนั้น
    เธอจงเล่ากรรมที่เธอเคยทำไว้ในอดีตแก่เรา
    แต่ก่อนจะเล่า จงอย่ายืนบนพื้นดิน จงยืนบนอากาศชั่ว ๗ ลำตาล”

    มหาอำมาตย์จึงถวายบังคมพระศาสดา
    จากนั้นก็ขึ้นไปสู่อากาศชั่วลำตาลหนึ่ง แล้วลงมาถวายบังคมพระศาสดาอีก
    และขึ้นไปนั่งโดยบังลังก์บนอากาศ ๗ ชั่วลำตาลแล้ว
    จึงเล่าบุรพกรรมของตนเองว่า

    ในกัลป์ที่ ๙๑ แต่กัลป์นี้ ครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี
    ตนได้บังเกิดในตระกูลแห่งหนึ่ง ในพันธุมดีนคร คิดอยู่ว่า
    อะไรหนอเป็นกรรมที่ไม่ทำการตัดรอนหรือบีบคั้นชนเหล่าอื่น
    เมื่อใคร่ครวญอยู่อย่างนี้ จึงรู้ว่ากรรมคือ
    การป่าวร้องบอกบุญ ชักชวนคนทำบุญ เป็นสิ่งที่ดี
    จึงชักชวนชาวบ้านทำบุญ เที่ยวเชิญชวนชาวบ้านทำบุญสมาทาน
    อุโบสถศีลในวันอุโบสถ ถวายทาน
    และฟังเทศน์ฟังธรรม เพื่อให้เข้าถึงพระรัตนตรัย


    ผลของการชักชวนชาวบ้านบำเพ็ญบุญบำเพ็ญกุศลนั้นมีมากมายยิ่งนัก
    ดังที่เกิดขึ้นกับตน คือ พระราชาผู้ใหญ่ทรง พระนามว่า ‘พันธุมะ’
    เป็นพระพุทธบิดา เมื่อได้ทรงสดับความดังนั้น
    จึงรับสั่งให้เรียกตนมาเฝ้า แล้วตรัสถามว่า กำลังทำอะไร ตนจึงทูลไปว่า
    ได้เที่ยวประกาศคุณของพระรัตนะตรัย ชักชวนชาวบ้านทำบุญ ทำกุศล

    พระราชาได้ตรัสถามว่า นั่งอะไรไป ตนได้กราบทูลไปว่า เดินไป
    จึงตรัสขึ้นว่าไม่เหมาะที่จะเดินไปอย่างนั้นหรอก
    จงประดับพวงดอกไม้นี้แล้วขี่ม้าไปเถิด ตรัสแล้วก็พระราชทาน
    พวงดอกไม้ และม้าที่ฝึกแล้วให้ ต่อมาพระราชาเห็นว่าม้าก็ไม่สมควร
    จึงได้พระราชทานรถที่เทียมด้วยม้าพันธุ์ดี
    และไม่นานพระราชาก็คิดว่ารถเทียมม้าก็ไม่สมควรอีก
    จึงได้พระราชทานทรัพย์สินเงินทองพร้อมทั้งเครื่องประดับเป็นจำนวนมาก
    นอกจากนั้นยังได้พระราชทานช้างเชือกหนึ่งด้วย
    ตนจึงนั่งบนคอช้าง ออกเที่ยวชักชวนคนทำบุญทำกุศลอยู่อย่างนี้สิ้นแปดหมื่นปี
    กลิ่นจันทน์ฟุ้งออกจากกาย กลิ่นอุบล ฟุ้งออกจากปากตลอดกาลมีประมาณเท่านี้”

    หลังจากสันตติอำมาตย์กราบทูลบุรพกรรมของตนแล้ว
    ท่านก็ปรินิพพานบนอากาศนั่นเอง

    ........

    วิธีการทำบุญที่สันตติอำมาตย์ได้ชวนผู้อื่นทำนั้น
    มีทั้งการให้ทาน รักษาศีล และฟังธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ
    ไม่มีทรัพย์สินเงินทองก็สามารถทำได้

    เพราะวิธีการทำบุญมีมากมายหลายวิธี เราสามารถทำบุญด้วยการรักษาศีล
    ฟังธรรม และเจริญภาวนา เป็นต้น ซึ่งสิ่งต่างๆ
    เหล่านี้ล้วนแต่ให้อานิสงส์มากมายยิ่งนักแก่ผู้ปฏิบัติ
    ไม่ได้น้อยไปกว่าการทำบุญด้วยวัตถุสิ่งของเลย

    จะเห็นว่าสันตติอำมาตย์ได้ทำบุญอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน
    แสดงให้เห็นถึงการมีจิตใจแน่วแน่เด็ดเดี่ยวในการทำความดี

    ดังนั้น หากเราคิดอยากจะได้บุญที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้
    ก็จงแน่วแน่ในการสร้างความดีต่างๆ อย่าท้อแท้หมดกำลังใจเมื่อมีมารมาขัดขวาง
    นอกจากนั้นจงใช้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวเป็นปัจจัยในการเข้าถึงสัจธรรม
    เพราะทุกอย่างที่อยู่รอบตัว สามารถเป็นบทเรียนให้เราได้
    หากเรารู้จักใช้สติปัญญาพิจารณาอย่างจริงจัง
    และน้อมเข้ามาเปรียบเทียบกับตัวเอง และเมื่อเรามีปัญญาเห็นความจริงแล้ว
    ก็จงพยายามถ่ายทอดต่อไปยังคนอื่นๆ การชี้ทางให้แก่คนอื่น ก็เป็นบุญอันยิ่งใหญ่
    เป็นธรรมทาน มีอานิสงส์มากมาย


    (จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 90 พ.ค. 51 โดย มาลาวชิโร)
     
  2. manaeng

    manaeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    59
    ค่าพลัง:
    +239
    กลิ่นศีลนั้นหอมยิ่งกว่ากลิ่นบุปผาใดๆในโลกนี้ อนุโมทนาสาธุค่ะ
     
  3. ร้อนแรง

    ร้อนแรง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +716
    ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ กว่าเราจะได้มันมา มันมีอุปสรรค แต่ถ้าเราไม่ยอมแพ้ มันย่อมแพ้แก่เรา
     
  4. คนรักชาติ

    คนรักชาติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    197
    ค่าพลัง:
    +181
    [​IMG]
    ขอบุญบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระอริยะทุกพระองค์ พระโพธิสัตย์ทุกพระองค์โดยมีบุญบารมีของหลวงปู่ดู่และหลวงปู่ทวดเป็นที่สุดช่วยดลบันดาลให้จิตข้าพเจ้าฝากกระแสจิตไว้กับบุญบารมีของผู้เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่โพส ฝากกระแสจิตไว้กับบุญบารมีผู้โพสกระทู้ ฝากกระแสจิตไว้กับบุญบารมีผู้อ่านกระทู้ และฝากกระแสจิตไว้กับบุญบารมีของผู้ตอบกระทู้ ข้าพเจ้าอยากมีส่วนร่วมกับบุญบารมีของพวกท่านทั้งบุญบารมีในอดีต ปัจจุบัน และอนาคตนับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
    พุทธังอนันตัง ธัมมังจักรวาลัง สังฆังนิพพานัง ปัจจะโยโหตุ
     
  5. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,427
    ค่าพลัง:
    +33,493
  6. leeon

    leeon สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +2
    จะตั้งใจทำบุญต่อไป

    อนุโมธนาบุญด้วยครับ

    สาธุๆๆๆ
     
  7. justonelife

    justonelife เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +190
    อนุโมทนากับเรื่องราวที่แบ่งปันให้นี้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ
     
  8. pontook

    pontook เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    250
    ค่าพลัง:
    +976
    ขออนุโมทนากับคุณ wellrider ในการให้ธรรมทานครั้งนี้ด้วยค่ะ ดีมากๆ เลย
     
  9. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ธันวาคม 2012
  10. chuchart_11

    chuchart_11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    764
    ค่าพลัง:
    +2,932
    ขออนุโมทนาสาธุ ธรรมใดที่ท่านสำเร็จแล้ว ขอข้าพเจ้าสำเร็จด้วยเทอญ สาธุๆๆ
     
  11. Piagk3

    Piagk3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    606
    ค่าพลัง:
    +1,222
    สาธุ ๆ ๆ..ข้าพเจ้าสิ้นสงสัย และ แจ่มแจ้งกับอานิสสงฆ์บุญ ของการเป็นผู้นำบุญ บอกบุญให้แก่ผู้อื่นแล้ว อานิสสงฆ์ ช่างมีมากเหลือเกิน สาธุ..กับจขกท Wellrider
     
  12. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    เป็นบทธรรมที่ยอดเยี่ยมครับ อ่านแล้วสุขใจ
     
  13. พชรรินทร์

    พชรรินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    207
    ค่าพลัง:
    +474
    อนุโมทนาสาธุในธรรทานเป็นอย่างสูงค่ะ

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  14. Bussarin.K

    Bussarin.K เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    307
    ค่าพลัง:
    +326
    อนุโมทนาสาธุค่ะ

    ตอนนี้ดิฉันก็กำลังชักชวนผู้อื่นทำบุญ สร้างกุศล เท่าที่จะสามารถทำได้
    ...รู้สึกจิตมีความสุขมากๆ

    ^^
     
  15. chartsak559

    chartsak559 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +89
    เชิญเข้าร่วมฝึกกรรมฐานทุกวันอาทิตย์ เพื่อสร้างบุญบารมีให้แก่ตัวเองและอุทิศบุญให้แก่เจ้ากรรมนายเวรปลดปล่อยดวงวิญญานที่คอยตามอาฆาตที่เคยล่วงเกินกันไว้ด้วยบุญพระกรรมฐาน และแก้คุณไสล้างอาถรรค์ต่างด้วยตัวท่านเอง โดยครูผู้ชำนาญการสอนกรรมฐานมากว่าสิบปี เพื่อเสริมบุญบารมีให้แก่ตัวท่านเอง เจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงานและชีวิตครอบครัวที่มีความสุข
    รอบเช้าเวลา ๙: ๐๐ น รอบฝึกคนไหมที่ไม่เคยมาฝึกเลย
    รอบบ่ายโมง ๑๓:๐๐ น ฝึกคนเก่าที่เคยมาฝึกแล้ว
    โทรสอบถามได้โดยตรง 0813775559
    ณ หมู่บ้านการเคหะชุมชนระยอง ซอย ๑๕ เลขที่ ๑๒๖/๓๒๔
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. chartsak559

    chartsak559 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +89
    ขอเชิญท่านที่มีจิตศรัทธา ร่วมสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม ( จิตพุทธะ นิพพานเป็นหนึ่ง ) ซึ่งเป็นการร่วมมือ ร่วมใจ ของผู้ปฏิบัติธรรม และศรัทธาในพระธรรม คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยที่หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา และหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ได้นำคำสอน และการปฏิบัติขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้เราได้เข้าใจ และปฏิบัติแบบง่าย ๆ ซึ่งพวกเราและท่านทั้งหลาย ซึ่งเป็นชาวบ้านธรรมดา ก็สามารถที่จะศึกษา และปฏิบัติตามได้เพื่อเกิดปัญญา แห่งการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ในกองทุกข์อีกต่อไป การที่เราเกิดมาสร้างทั้งกรรมดี และกรรมชั่ว ปะปนกันไปแต่ละภพ แต่ละชาติ ทำให้เราต้องรับผลแห่งกรรมนั้น ๆ จึงมีการเวียนว่ายตายเกิดในโลกทั้ง 3 คือ นรก มนุษย์ สวรรค์เราจึงพบกับความทุกข์ไม่ รู้หนทางที่จะพ้นทุกข์ได้ คือการเข้าถึงแดนพระนิพพาน ขอเชิญทุกท่านที่ปรารถนาจะศึกษา และปฏิบัติธรรม ติดต่อสอบถามได้ ที่สำนักปฏิบัติธรรม "จิตพุทธะ นิพพานเป็นหนึ่ง" ได้ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรม จ.ชัยภูมิ โทร.0844731186 จ.ระยอง โทร 0813775559 ส่วนที่ศูนย์ปฏิบัติธรรม (สูนย์ฝึกวิปัสสนากรรมฐานพุทธบารมีสมเด็จองค์ปฐมบรมศาสดา) จ.ระยอง กำลังก่อสร้าง เทปูนรากฐานหล่อคาน ลงเสาเอกแล้วใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 เดือน เป็นอาคาร 2 ชั้น ขนาดพื้นที่ห้องกว้าง 6 เมตร ยาว 8 เมตร ใช้งบประมาณ 3 แสนบาทเศษ จึงได้บอกข่าว บอกบุญกับท่าน ที่มีจิตศรัทธาในการร่วมสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม ร่วมกับกลุ่ม "จิตพุทธะ นิพพานเป็นหนึ่ง" ณ.. จ.ระยอง ในครั้งนี้ พวกเราลูกศิษย์หลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) ขออนุโมทนาในกุศลผลบุญของทุก ๆ ท่านเทอญ "การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง" และเมื่ออาคารศูนย์ปฏิบัติธรรมสร้างเสร็จสมบูรณ์ดีแล้ว จะได้สร้างพระประธานเป็นพระทรงเครื่องพระนิพพาน สูงประมาณ 2 เมตร ประดับเพชรทั้งองค์ และจะได้มีการทำบุญบวงสรวง ฉลององค์พระประธาน และเปิดศูนย์ปฏิบัติธรรม จ.ระยอง จะแจ้งข่าวบอกบุญให้ทุก ๆ ท่านได้ทราบอีกครั้งหนึ่ง
    รูปภาพสถานที่สร้างจริง จ.ระยอง เชิญร่วมทอดผ้าป่าสามัคคีในวันอาทิตย์ ที่ ๑ กันยายน ๒๕๕๖ เวลา ๙.๐๐ น. พร้อมกันที่หมู่บ้านการเคหะชุมชนระยอง ซ.๑๕
    ช่างเชือมคานบนแล้วส่วนขยายออกมาอีกห้อง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...