ขอคำปรึกษาด้วยค่ะ

มีปัญหาเรื่องผู้ชายค่ะ แต่ไม่ใช่เรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ

คือว่าตอนนี้เรียนอยู่ต่างประเทศ เป็นคนไม่ค่อยออกไปไหน คือ เก็บตัวแหละค่ะ แต่ทีนี้ อยู่หอนักศึกษาต่างชาติ เวลาออกไปทำกับข้าวที่ครัวรวม ที่ทางหอจัดไว้ให้ ก็ต้องเจอคนต่างชาตินานา คือ ไม่ชอบเวลาที่มีบางคนชอบมายุ่งวุ่นวาย มาขอเบอร์โทรศัพท์ (ซึ่งก็ให้ไปแล้วก็บล็อคไว้ในแบล็คลิสต์เรียบร้อย) มาชวนออกไปเดินเล่น ดูหนังข้างนอก บางทีก็มาเคาะห้องขอเป็นแขก โดยที่ไม่ได้รับเชิญ โชคดีที่มีรูมเมทเป็นคนไทยอยู่ด้วย แต่ปีหน้าต้องอยู่คนเดียวแล้ว ยอมรับค่ะว่าแอบกลัว (จะไม่เปิดประตูก็ไม่ได้ เพราะประตูไม่มีรูส่อง บางทีมีผู้ใหญ่เค้ามีธุระกับเราให้คนมาตามก็มีค่ะ)

ไม่ทราบว่ากรณีนี้ เราเคยทำกรรมอะไรไว้หรือเปล่า ทำไมเค้าถึงมาวุ่นวายเกินลิมิต แล้วจะมีวิธีหลีกเลี่ยงอย่างไร เพราะบางคนก็หน้าด้านเหลือเกิน ทั้ง ๆ ที่แสดงออกแล้วว่ารำคาญ ไม่ชอบเรื่องทำนองนี้อ่าค่ะ ขอคำแนะนำ

ปล. เป็นคนหน้าตาธรรมดา ๆ ไม่แต่งตัว ไม่แต่งหน้า และไม่ฝักใฝ่ในเรื่องนี้ค่ะ แล้วไม่เคยวุ่นวายกะ ผช. ในเรื่องลักษณะทำนองนี้

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

 

เหตุเก่าทำไว้เช่นไร ผลย่อมสอดคล้องทำนองเดียวกับเหตุต้นนั่นแหละ .. จึงประมาณได้ว่า เพราะตนเคยทำความรำคาญใจอึดอัดขัดเคืองแก่ผู้อื่นมาก่อนด้วยอาการคล้ายๆกับที่ตนกำลังถูกตอแยอยู่ในเวลานี้ นั่นเอง..

เมื่อเราบอกปฏิเสธไม่คิดจะสมานไมตรีหรือร่วมกิจกรรมใดๆกับเขาแล้ว เขายังไม่เลิกตื๊อ จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตาม เราก็พึงแสดงเจตนาตนเปิดเผยตรงไปตรงมาไม่ต้องเกรงใจเขาด้วยการบอกเขาตรงๆว่า..

"Listen, I come here to study, not to party, so please do not come here and disturb me any more. This is the last time that I allow you to disturb me. If you show up here again, I will have to report your behaviour as a stalker to the police. I do hope you understand. Goodbye."

คนต่างชาติบางคนไม่มีความเกรงใจ แต่หากเราพูดตรง และำไม่กลัวเขาจะเข้าใจและถอย เพราะเห็นท่าทีมั่นใจของเราเขาจะไม่กล้าอีก แต่ถ้าเรายังมีทีท่าอ่อน ถนอมน้ำใจ เขาจะไม่เลิกมาตอแยเพราะนึกว่าเรายังอยากมีไมตรีกับเขาอีก

ไม่ทราบว่าต้องพบปะเจอะเจอกับคนที่มายุ่งเกี่ยวในการเรียนหรืิอคิดว่าจำเป็็นต้องพึ่งพากันหรือไม่ในการเรียน...หากไม่จำเป็นก็พูดตรงๆให้เขารู้ว่าเราไม่ต้องการติดต่อเขาอีก ด ังประโยคข้างต้นนั่นชัดเจนที่สุดแล้ว..

ลองดูครับ...

 

นิ่งๆ ค่ะ สยบความเคลื่อนไหว...การมีสติ ทำให้รอดจากความทุกข์ในทุกกรณี..สติ เป็นเครื่องป้องกันไม่ให้ความทุกข์เกิดขึ้นมาได้ โดยไม่ต้องโทษสิ่งใด (ความทุกข์ที่ว่าก็คือความรำคาญใจ)

ความสุขหรือความทุกข์ก็ตาม สิ่งที่เกิดขึ้น เพราะเราทำผิดหรือทำถูกเมื่อมีผัสสะ ที่เรียกว่า ตามกฎอิทัปปัจจยตา* มีพระบาลีตรัสไว้ ซึ่งควรจะนึถึงด้วยเหมือนกันเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า สุขทุกข์ไม่ได้เกิดมาจากพระเป็นเจ้า สุขทุกข์ไม่ได้เกิดมาจากกรรมเก่า และสุขทุกข์ก็ไม่ใช่ไม่มีเหตุ สุขทุกข์ก็มีเหตุ เหตุนั้นก็คือ ทำผิดหรือทำถูกต่อกฎ* ถ้าทำผิดต่อกฎ*ก็เกิดทุกข์ ถ้าไม่ทำผิดก็ไม่เกิดทุกข์ จะทำผิดกฏ* ก็ต่อเมื่อมีอารมณ์มากระทบนั่นเอง เมื่อมีผัสสะนั่นเอง เป็นเวลาสำคัญที่สุด ที่จะต้องประพฤติให้ถูกต่อกฏ* แล้วมันก็ไม่มีความทุกข์

*ภาวะที่มีอันนี้ๆ เป็นปัจจัย เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ปฏิจจสมุปบาท คือการที่สิ่งทั้งหลายอาศัยกัน จึงเกิดมีขึ้น*

 

ลองทำตามความคิดเห็นด้านบนนะคะ
ถ้าเรามีจุดยืนแล้วก็ไม่ต้องหวั่นใจใดๆ ค่ะ เพียงแค่ต้องระวังเรื่องความปลอดภัย สมัยนี้คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ไม่ว่าจะประเทศไหนๆ ก็ตาม เพราะต้องมีคนทั้งดีและไม่ดีปนๆ กันไปค่ะ ถ้ามีเจตนารมณ์ที่แน่ชัดว่าเป็นได้แค่เพื่อนก็แสดงออกอย่างชัดเจนเลยค่ะ อาจมีคำพูดสื่อบ้าง เพื่อไม่ให้เค้าต้องคิดไปเองค่ะ ส่วนแสดงออกเรื่องรำคาญถ้ามากไปก็อาจไปสร้างศัตรูได้นะคะ

สร้างมิตรดีกว่าสร้างศัตรูค่ะ ถ้าเราไม่คิดกับเค้าซะอย่างถึงเค้าตื๊อไปก็ไม่มีความหมายต่อเราอยู่ดีค่ะ นานาจิตตัง...

 

ดิฉันเดาว่า พวกคนต่างชาติที่จขคกล่าวถึง คือ พวก ผู้ชายนิโกร หรือ พวก ลูกผสมทางคนพื้นเมืองทาง แคริเบียนใช่ไหมคะ ดิฉันไม่ทราบว่าจขคอยู่ประเทศอะไร แต่ ดิฉันอยู่ยุโรป และเท่าที่อยู่มา ฝรั่งผู้ชายจะสุภาพมาก และมีมารยาทมากๆ อย่างสมมุติว่าเขากำลังยืนดูของในซุปเปอร์ ถ้ามีคนมาต่อจะดูเขาจะทำท่าแบบ ก้มหลังขอโทษ จนตัวโค้ง กลัวว่าเดี๋ยวคนด่าว่าไปยืนเกะกะ........และประเทศเขาจะเคร่งครัดเรื่องระเบียบมาก...... พวกเรื่องคนไม่รู้จักจะมาพูดคุยกันสุ่มสี่สุ่มห้านี้แทบไม่มีเลย......... ขนาดถ้าไปขึ้นรถ และไม่มีเหรียญ ไปขอแรกใครก็ไม่ได้ เขาจะมองทันทีเหมือนเป็นตัวประหลาด ทำอะไรไว้ต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้า.......ดึกๆดื่น คนเขาก็เดินกัน ไม่มีอาชญากรรม และเท่าที่สังเกต ยิ่งผู้ชายหน้าตาหล่อเท่าไร อย่างพวกฝรั่งยิ่งไม่มาทำพฤติกรรม ชั้นต่ำ และออกจะหยิ่งๆด้วยซ้ำ และไม่มาเที่ยวพูดจาหยาบคาย หรือ แสดงออกอาการชั้นต่ำ แต่พวกคนที่แสดงพฤติกรรม ชั้นต่ำมักเป็นคนไม่มีอะไรดี เป็นผู้ชายก็จะทำนอง ขี้เหล่ และโดยมากจะเป็นคนทางพื้นเมือง หรือ อัฟริกันอเมลิกัน แบบกุ๋ยๆ

ส่วนแนะนำไป จขคจะทำได้ไหม อันนั้นไม่ทราบ แต่ตอนปีที่แล้ว ดิฉันสูญเสียคนในครอบครัวที่ยุโรปตายหมด ไม่มีใครเลย รถยนตร์ที่มีอยู่ก็ขับไม่ได้ หนำซ้ำยังมีคนมาใช้วิธีสกปรกเอารถไปอีกเพราะรู้ว่าดิฉันขับรถไม่ได้ (แต่ตอนนี้ดิฉันไม่โกรธแล้วใครอยากเอาไปก็เอาไป) ดิฉันเลย มีแต่เดิน นั่งรถราง และ รถไฟอย่างเดียว ซึ่งไม่เคยทำมาก่อนเพราะเสมอมา จะนั่งรถยนตร์ตลอด และมีคนขับให้ตลอด จนกระทั้งมารู้ว่า ชีวิตเวลาเดินถนน เอง ไม่มีใครไปไหนด้วย ก็เจออะไรแปลกๆเยอะเหมือนกัน......

ดิฉันเลยแก้ปัญหาด้วยการใส่ ฮิยาบแบบผู้หญิงมุสลิม ทุกวันนี้ไปข้างนอกสวม ฮิยาบตลอด เชื่อไหมคุณ เงียบคะ ไม่มีคนพูดจา rubbish อีกเลย รู้สึกว่า ผู้ชายทุกชาติจะกลัวผู้หญิงอิสลาม 5555 และฝรั่งก็ดูจะให้เกียรติ มุสลิม มากกว่า คนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่าง ไทย, ลาว, ฟิลิปปินส์ ....... อันนี้ดิฉันได้ยินกับหู

ทุกวันนี้ ดิฉันมีความสุขมาก ไปที่ไหนก็มีแต่คนชอบ คนให้เกียรติ.......
ก้มแล้วก้มอีก เพราะใส่ ฮิยาบ จขค ลองใส่ดูบ้างซิคะ


http://palungjit.org/posts/8083645

 

วันหลังถ้าเจออีก..บอกไปเลย

" ซอรี่ แล็งค์เควสแบริเออร์ " (ภาษาไม่ดี)หลังพูดเสร็จ..ยิ้มแล้วยืนมองหน้าเขา ถ้าเขายังพูดหรือตาม

ตอแยต่อ ก็ใส่ภาษาบ้านเฮาไปเลย.


หมายเหตุ พูดมากเรื่องมาก พูดน้อยเรื่องน้อยจ้ะ ฮู่ !..สงสัยเฮาจะต้องไปเข้าคอส บีกินนิ่ง แล้วกระมังเนี่ย.

 

ขอแนะนำให้ใส่คอนแทคเลนส์สีขาวขุ่นเวลาอยู่หอ

 

กราบขอบพระคุณ อย่างสูง สำหรับทุกคอมเม้นต์ค่ะ

สำหรับ reply ของคุณดัชเชสฯ นี้ 5555++ จะบอกว่าโดนใจมากค่ะ โดยเฉพาะขี้เหร่ คือไม่อยากจะอะไร เพราะเราก็ไม่ได้ดี แต่แบบ คือ มันไม่ใช่เรื่องที่คนปกติเค้าทำกันอ่าค่ะ เราอยู่ยุโรปเหมือนกัน แต่ฝรั่งประเทศนี้ไม่สุภาพและหน้าแย่ (นั่นไม่ใช่ประเด็นค่ะ //ตบปาก แอบหยาบคาย) และพวกเค้าไม่ชอบ ผญ. ต่างชาติค่ะ (ซึ่งดีมาก//ยิ้ม) ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยออกไปไหน เลยไม่มีใครมาวุ่นวาย กะเจ้าของประเทศเคยแค่มีมาจากไหนไม่รู้ครั้งนึงโทรมาแนว ๆ จีบ ๆ แต่เราบอก "ขอบคุณและวางสาย" (ไม่รู้ได้เบอร์จากไหน และยังไม่รู้เลยว่าเป็นใคร 555++) แล้วเค้าก็เลิกไปค่ะ

ส่วนอีกเรื่อง อันนี้โหดสุด เจอพวกนี้อย่างที่คุณดัชเชสว่ามา แค่คนดำนะคะ แต่อันนั้นสมัยหลายปีก่อนค่ะ เจอเยอะมากกกกก.....ไม่รู้ว่าทำไม สาวจีน สวย ๆ น่ารักเยอะแยะ สาวเวียดนามก็มีเยอะ แต่เค้าไม่ยักกะโดนเหมือนเราบ้าง เคยเจอคล้าย ๆ ว่าเป็น stalker คือ รู้เพราะรถเมล์ผ่านหอเยอะ ผ่านไปหลายคันไม่ขึ้น จะขึ้นพร้อมเรา เราเลยขึ้นรถเมล์สายที่อ้อมถึงหอช้า แล้วดันตามขึ้นมาอีก เราเลยแกล้งจ่ายเงินลงก่อน 1 ป้าย กลับตามลงมาอีก ดีที่วิ่งหนีทัน เคยไปเมืองอื่น ไปเยี่ยมเพื่อนคนไทย ไปค้างหอเค้า อยู่ ๆ คนรู้จักของเพื่อนที่เป็นคนดำ ก็มาขอเบอร์จากเพื่อนซะงั้น 5555++ อายเพื่อนค่ะ เพื่อนเอาไปประจานใหญ่ "สงสัยบูชาของดำ 555++" โดนล้อยันลูกบวช แต่หลายปีมานี่ คือไม่มีแบบนี้แล้ว ส่วนใหญ่มีมาเยี่ยมก็เป็นคนรู้จักแต่เป็นเพื่อน ๆ มาแป๊บเดียว ไม่จีบ ไม่แตะเนื้อต้องตัว และไม่สร้างความรำคาญใจ สุภาพค่ะ

แต่ที่เจอเมื่อไม่นานมานี้ แต่ก็เลิกไปแล้ว ก็เจอคนอาฟกานิสถาน ค่ะ รายนั้นอารมณ์เหมือนเหงา เคยทำมาหยอด ๆ ทีเล่น แต่ถ้าได้ก็เอา บอกว่า "เนี่ยะ รู้ไหม ชั้นอยู่ไม่ได้นะถ้าขาด ผญ. เหงามากเลย" (แหวะ...อ๊วกแตก //ตบปาก) คือ ในใจก็คิด แล้วเกี่ยวอะไรกะชั้น? คือ คิดว่าคนพวกนี้ตกลงคือมาหาภรรยาหรือมาเรียนกันแน่ เมื่อก่อนก่อนมาเรียนที่นี่ ก็เหมือนจะไม่เคยมี พอมานี่อยากมีมากจนถึงขึ้นอยู่ไม่ได้ซะงั้น แต่ล่าสุดก็เลิกไปค่ะ ไม่ค่อยเจอหน้าแล้วด้วย เค้าก็ดีอย่าง คือ เค้าไม่มาหาระรานเราถึงห้อง (อยู่ชั้นเดียวกัน) จะเจอกันแค่ในครัว กะคุยกันใน social network ค่ะ

ล่าสุดเจอเมื่อ 2 วันก่อน เป็นคนจีนค่ะ อ้วน ๆ อายุน่าจะใกล้ ๆ 30 รู้จักมานานแล้ว แต่ก็ไม่เคยพูดอะไรกัน เจอหน้าก็ทักทาย แต่ 2 วันก่อน ไปบังเอิญเจอฮี ตอนขึ้นบันไดข้างในหอ ก็ทักทายปกติ แต่เมื่อวานค่ะ เครียดมากกก...คือ ฮีมาหาถึงห้อง มาคุยซะนาน 2 นาน ไม่ได้ต้อนรับเลย ทำหน้าเซ็ง ๆ ด้วยซ้ำ แล้วก็มาชวนไปโน่นไปนี่ มาแตะเนื้อต้องตัว (เรื่องนี้คือ เราอยู่นอก เราก็ไม่อยากคิดอะไรมาก แต่เราจะรู้ทันทีถ้ามันจะเป็นการล่วงเกินเกินความจำเป็น) แล้วก็มาขอเบอร์ก็ให้ไป เพราะรำคาญมากกกกกกกกกกกก.....เราไม่กล้าพอที่จะปฏิเสธค่ะ เป็นคนไทย 2 คนในเมืองเล็ก ๆ แห่งนี้ ปีหน้าอยู่คนเดียวแล้ว ไม่อยากสร้างศัตรูค่ะ สรุปคือให้เบอร์ไป เพราะยังไงเราก็ไม่รับโทรศัพท์อยู่แล้วไม่มีปัญหา สรุปวันนี้ฮีมาเคาะห้องอีกค่ะ ตอนแรกไม่รุ้ แต่ด้วยความอะไรก็ไม่ทราบ บอกรูมเมทว่าไม่เปิดประตูได้ไหม? เรารู้อ่า คนเมื่อวานมาแน่ ๆ เพราะด้วยความสงสัยว่าคนเคาะห้องเมื่อกี้ใช่หรือเปล่า ก็เลยไปเช็คโทรศัพท์ค่ะ จริงค่ะ โทรมา 3 รอบ // เหนื่อยค่ะ

ปล. เหนื่อยมาก เหนื่อยจริง ๆ
โพสต์ซะยาวเลย ขอบคุณอีกรอบค่ะ
ดีจังค่ะ ที่มีคนให้เกียรติคุณดัชเชสฯ แต่ก็จริงอย่างที่คุณดัชเชสฯ ว่า ยิ่งเป็น ผญ. ไทย ยิ่งอยู่ยากค่ะ เพราะในสายตาคนต่างชาติ ผญ. ไทยเหมือนง่ายไปซะหมด แต่นี่โชคดีหน่อย คือ อยู่ต่างจังหวัด ฝรั่งที่นี่เลยไม่ค่อยอะไรมาก อีกอย่างเค้าไม่รู้ว่าเราเป็นไทยด้วยค่ะ เอะอะอะไรก็จีน เวียดนาม เลยไม่ค่อยมีปัญหากะการใช้ชีวิตที่นี่ มีแค่เรื่อง ผช. เนี่ยะแหละ 5555++ พูดซะเหมือนตัวเอง สวย เสน่ห์แรง มากกก....(แอบขำ) ค่ะ คือ เป็นคนหน้าตาธรรมดาเนี่ยะแหละ ไม่ใส่เครื่องประดับ แต่งหน้า ทำผมใด ๆ เสื้อผ้ามีแค่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ออกแนว สาวห้าว เซอ ๆ พวกนี้ก็ชอบของแปลกดีแท้ เหนื่อยยย....

 

ถ้าเป็นเมื่อก่อน สมัยหลายปีที่แล้วยังเรียนปรับพื้นฐานภาษาจะเจอพวกนิโกรมาวุ่นวายเยอะซะส่วนใหญ่ค่ะ ปีนั้นประมาณ 4-5 คน เหมือนจะดี แต่ไม่ขอนับนะคะ โดนเพื่อน ๆ คนไทยล้อว่า บูชาของดำกันเลยทีเดียว

แต่เดี๋ยวนี้ส่วนใหญ่ที่เจอ จะเจอในครัว ตอนทำกับข้าวค่ะ คือ จะมาชวนคุย ถามไถ่สุขทุกข์ สักพัก ก็เริ่มและ

ล่าสุดก็เจอคนจีนเมื่อวานสด ๆ รายนี้เครียดเพราะตามถึงห้องค่ะ วันนี้ก็มา แต่เราเดาได้ว่าเป็นเค้าเลยไม่เปิดประตู เครียดมาก ถึงขั้นต้องตั้งกระทู้ขอความเห็นกันเลยทีเดียว

ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

 

ขอบคุณอีกรอบค่ะ คือ ตอนนี้ที่ทำได้คือ พยายามเดาเวลามีคนมาเคาะห้องว่าเป็นใคร เพราะข้าพเจ้าและรูมเมทก็ไม่ได้มีเพื่อนมากมายต้องมาเคาะห้องบ่อย ๆ อยู่แล้ว นี่ปิดเทอมด้วย ชาวบ้านเค้าก็กลับบ้านกันหมด บางทีก็พอจะเดาได้ค่ะว่าใครเป็นใคร ก็ไม่เปิดประตู ทำงี้ไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวเค้าก็เลิกไปเอง แต่ก็ต้องระวังตัว ตอนออกไปซื้อของข้างนอก กลัวฟลุ๊คเจอ (ทั้ง ๆ ที่เค้าไม่ได้อยู่หอมหาลัยนะเนี่ยะ ยังอุตส่าห์มารังควาญถึงที่) บอกตรง ๆ ว่าเหนื่อยค่ะ เหมือนต้องคอยหลบ ๆ ซ่อน ๆ ระทึกขวัญ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ทำความผิด

 

กราบงาม ๆ ค่ะ บางทีก็อยากจะทำเหมือนกัน แต่ด้วยความที่เราเจอเรื่องพวกนี้บ่อย แต่ไม่ได้เจอถี่ ๆ คือ นาน ๆ ครั้ง แล้ววิธีการของแต่ละท่าน มันก็ไม่เหมือนกัน มากน้อย บางทีเค้าก็ทำแบบอึน ๆ อ่าค่ะ อันนี้เคยเจอเพื่อนนิโกรในห้อง คือ ฉลาด แบบป้องกันตัว โทรมาจีบบอกชอบงั้นงี้ เราก็เอ๋อนึกว่าพูดถึงเรา แต่สุดท้ายเนียนไปได้ บอกพูดถึง ผญ. อีกคน (แต่เรารู้ว่าเค้าพูดถึงเราแน่ ๆ) ไอ้เราก็ซวยสิคะ เอ๋อเลย บางทีก็ต้องเออ ๆ ออ ๆ ไม่สนใจ แต่ในใจแบบ เมื่อไรจะไปซะที รำคาญ อะไรทำนองนี้ ตอนนี้ที่น่ากลัวคือ 1. พวกเร่หาเรื่องมาหาถึงห้อง 2. กลัวซวยเวลาตอนออกไปเจอข้างนอก นอกนั้นเฉย ๆ ค่ะ จะโทรก็โทรมาเลย โทรมา ไม่เคยรับสาย

ทั้งนี้ทั้งนั้น คิดเสมอว่า สุดท้ายแล้ว เดี๋ยวพวกนี้ก็เลิกไปเอง ตอนนี้ก็เลิกไปหมดแล้วค่ะ แต่มาเจอตาเจ๊กอ้วนคนนี้เข้าให้ รู้จักกันมาก็นานไม่เคยเห็นสนใจ ทักมาแบบขอไปที สุดท้ายตานี่ตัวด้านสุด ตายยากสุดซะงั้น

ปล. สำหรับคนพวกนี้ไม่มีผลต่อการเรียนค่ะ เพราะเราก็มีเพื่อนของเรา คิดว่าเอาตัวรอดได้ พวกนี้มีผลต่อชีวิตประจำวัน ถ้าต้องเจอบ่อย ๆ ข้างนอก หรือ พวกตามถึงห้อง แต่ส่วนใหญ่เป็นคนรู้จักทั้งนั้นเลยค่ะ ไม่ใช่ตาสีตาสา ถ้าเป็นตาสีตาสา ไม่สนใจอยู่แล้ว เพราะยังไงก็หาเบอร์เราไม่ได้ ตามถึงห้องไม่ได้ค่ะ

 

ลองดูครับ

เพราะยังพอคุยกันรู้เรื่องหรือปล่าว

คงไม่มีใครอยากคุย..กับคนที่คุยกันไม่รู้เรื่องหลอกครับ

โชคดีครับ.

 

ขอขอบพระคุณอีกครั้งค่ะ

 

ดิฉันว่าคนนิโกรนี้ คงจะชอบคนเอเชียคะ เห็นเยอะ พวกนี้คลั่งเกมส์ คลั่ง ฝึกเรียนภาษา จีน ภาษาญี่ปุ่น ชอบหาแฟนทางเอเชีย พวกนี้ชอบคนผิวขาว แต่เกลียดฝรั่งเพราะโดนฝรั่งกดขี่ข่มเหงมาตลอด สมัย เลยมาสนใจวัฒนธรรมคนเอเชีย ซึ่คนจะใจดีกว่าฝรั่ง

ที่รู้ เพราะ ทนายความของดิฉันเป็นลูกครึ่งนิโกรผสมฝรั่ง เวลาดิฉันไปบ้านเธอ เห็นลูกๆเขาที่เป็นนิโกรจะเอาแต่เล่นเกมส์ ฟังเพลงภาษาญี่ปุ่น แถมมีเพื่อนเป็นคนจีนมาที่ บ้าน แต่พวกนี้ไม่ชอบสไตน์อย่างดิฉัน เขาบอกแม่เขาด้วยว่า หมั่นไส้ยัยคนนี้ทำเป็นแต่งตัวเป็นแหม่มแก่สมัยโบราณ ใส่ฮิยาบ หน้าก็ดันไปเหมือน คน อัฟกานีสถาน คนตุรกี นู้น พวกนี้เลยเฉยๆกะ ดิฉัน......



ผู้ชาย ถ้าได้ยิน ชื่อ ไทย ฟิลิปปินส์ ลาว เวียดนามก็ มีแต่จะนึกไปถึงแต่พวกผู้หญิง หากิน อาบอบนวด อะไรเทือกนั้น ส่วนผู้หญิงฝรั่งก็ไม่ชอบผู้หญิงทางเอเชีย หาว่าคนเอเชียขี้เหล่อะไรทำนองนั้น จะไม่ค่อยให้เกียรติคนทางเอเชีย ถ้าคุยทางโทรศัพท์ แค่เรื่องจ่ายค่าน้ำค่าไฟ .......ถามว่าคุณมาจากประเทศไหนเมื่อไร ถ้าเป็นผู้ชายได้ยินว่า ไทยแลนด์ ก็จะทำนองพุดว่า เจ๊งวะ, ว้าว ประเทศนี้ผู้หญิงเซ็กซี่........แต่ขอโทษ พวกนี้พอมาเจอ ตัวจริงดิฉันแล้วถึงเปลี่ยน แอ๊ตติจูท attitude ในทันควัน.......เพราะ ดิฉันเป็นคนที่บุคลิก ท่าทาง การแต่งตัว หน้าตาไม่เหมือนคนไทยทั่วไป ใครๆก็ว่า ดิฉันบำเพ็ญที่จะเป็นพระอรหันต์ แม้จะไม่ได้บวชเป็นภิกษุณี แต่มี ออร่า ความเป็นสมณะเพศ ในทุกๆอย่างที่ทำคะ........ ตั้งแต่เครื่องแต่งกาย ดิฉันจะใส่เฉพาะ แบรนด์ ของ เอลิซ่า คาฟาเลตตี้, ฟิว เดส ซาเบลว์, โรเบโต้ คาฟาลี่, บริทิช อินเดีย,
เวส อินดิส เป็นชุดของทางอิตาลี........ เป็นชุดที่มีดีเทลเสื้อผ้าแบบผู้ชายยุโรปในสมัยโบราณ นุ่งกระโปรงยาวเกือบลากพื้นสไตน์ฝรั่งยุโรปสมัยล่าอาณานิคม แต่ใช้ผ้าส่าหรี่อินเดีย เวลาไปเรียน มีแต่คนนึกว่าดิฉันมาจาก
อัฟกานีสถาน หรือ ตุรกี หรือ ถ้าเอเชียก็ว่า บรูไน ไม่มีใครคิดว่าดิฉันมาจากเมืองไทยเลย

แม่ของดิฉันท่านบอกอยู่เสมอว่า ลักษณะดีมีชัยไปกว่าครึ่ง เพราะฉะนั้นอย่าทำตัวซกมก

มีอยู่ทีนึงเพื่อนชาวเคอรดิซมาทักดิฉันว่า เป็น อัฟกานีสถาน หรือ ชาว เคิร์ท ดิฉันตอบว่า ดิฉันมาจากเมืองไทย เพื่อนก็ไม่เชื่อ และพูดว่า ไม่เห็นเหมือนคนไทยเลย นึกว่าเคอรดิซเหมือนกัน........ ดิฉันจึงย้อนถามไปว่า

แล้วเธอคิดว่าคนไทยเป็นยัไงหรือ เขาก็ตอบว่า คนไทยส่วนใหญ่ที่เขาเห็น จะเตี้ย หน้าเหมือนคนจีนฉบับดำ ชอบแต่งตัวโป้ๆ และทำงานนวดแผนไทย ไม่รูปร่างระหงบอบบาง ตาเหมือนคนแขก แบบ เธอ ดิฉันก็ตอบว่า ประเทศไทยมันมีหลายกลุ่มๆ แต่ดิฉันไม่เคยปฏิเศทกำพืดว่ามาจากเมืองไทยคะ

ไม่ว่าเขาจะคิดว่าเราไม่เหมือนคนไทยก็ตาม พอดี ดิฉันเล่านานแล้วในกระทู้นึงว่า คุณตาของดัชเชสมีเชื้อชาวเปอร์เซีย และคุณยายก็เป็นคนมอญ พ่อแก เดินทางมาจากแถว อาระกัน ที่อยู่ติดๆไปทางบังกลาเทศ คุณยายของดิฉันหน้าเหมือนแม่มดมากคะ แต่แม่มดใจดี........ แต่ตอนนี้ท่านเสียไปแล้วคะ


P.S ที่อ่านดู จขค พลาดอย่างนึง ที่มีคนมาขอเบอร์ ความจริง พูดแข็งๆ บอกว่าไม่ให้ไม่รู้จักกัน ไปเสียตั้งแต่แรก น่าจะดีที่สุด เพราะไปเกรงใจพวกผู้ชายนั้นมันเลยเอาใหญ่

 

จริงอย่างที่คุณดัชเชสฯ ว่ามาทุกอย่างข้างต้น แต่ก็แปลกที่ว่าสาวจีน เวียดนาม หรือสาวไทย ขาว ๆ สวย ๆ ที่นี่ไม่เคยมีใครมีประวัติเช่นเดียวกัน คือเค้าก็ไม่ค่อยเจออะไรแบบนี้ ไม่เข้าใจว่าทำไม จริง ๆ เราก็ไม่ต่างกะสาวจีนมากอ่าค่ะ โดนเหมารวมอยู่บ่อย ๆ (ต่างกันที่ไม่สวยเท่านั้นเอง แต่มันก็ไม่ใช่ประเด็นอีกแหละค่ะ) เรื่องนี้แต่ไม่เป็นไรแล้วค่ะ ทนอีกปีเดียวเท่านั้น จะเรียนจบแล้ววว....เรื่องพวกนี้เดี๋ยวเค้าเบื่อ เดี๋ยวก็ซา ๆ ลง แล้วก็เลิกไปเอง ยังไงเราไม่เล่นด้วยอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ทนไปก่อน สวดมนต์ ไหว้พระ ปฏิบัติธรรมต่อไป

คือ เรื่องขอเบอร์ ก็ไม่อยากจะให้ค่ะ ใจจริง แต่แบบ ตอแย แล้วถ้าไม่ให้ เค้าก็จะถามว่าทำไมไม่ให้ และเราไม่มีคำตอบดี ๆ ให้อ่าค่ะ คือ ในใจมีแล้วแต่ไม่กล้าพูดออกไป เคยถึงโกหกด้วยว่าจำเบอร์ตัวเองไม่ได้ แต่ไม่ได้ผลค่ะ มันตื้อบอก งั้นเอาเบอร์ชั้นไปแทน อีกอย่าง เรา...แหม่ ผญ. ไทย ต่อไปตัวคนเดียวแล้ว เพื่อน ๆ ก็เรียนจบกลับบ้านกันหมด เก่งกล้ามากก็ไม่ไหวค่ะ อีกอย่างเป็นคนรู้จักด้วย ถ้าไม่รู้จักแล้วอยู่ดี ๆ มาขอเบอร์ อันนี้ไม่เคยมีค่ะ

 

ทำไมไม่ถามไปว่า Why should I give you my number? I'm not interested to have a boyfriend get!

ถ้า ยังตามถาม คุณก็บอกไปเลยว่า I don't want, I'm not interested to have a relationship now, thank you.


พูดแบบนี้สักสองสามที เดี๋ยวมันก็คงเลิกตามตื้อไปเองคะ

ดิฉันอยู่ยุโรปมา เจอแต่ เด็กมา ขอเงินไปซื้อขนมหรือ ยิปซีมาขอเงินอะพวกนี้คะ มีแต่มาขอเงิน 555 สงสัยนึกว่าเรารวย แต่ไม่รวยหรอกคะ แต่ฟุ่มเฟือย
แต่มา ทำนองอย่างลามปามนี้ไม่มีคะ เพราะดิฉันเป็นคนดุ ใครๆก็บอก ดูเหมือนเราจะ โกรธอยู่ตลอดเวลาและไม่ยิ้ม แม้แต่ฝรั่งก็ว่า อย่างนั้น

ว่าแต่คนที่มาจุ่นจ่านจขคนั้นเป็นคนชาติอะไรคะ จะได้บอกได้ถูกต้อง ถ้ารู้backgroundประเทศที่มา

 

อันนั้นคือ อยากพูดค่ะ แต่แค่ว่า จะเอาเบอร์ชั้นไปทำอะไร? เคยพูดไปแล้วกะหนึ่งราย แต่เค้าก็บอกว่าเผื่อมีอะไรทำนองนี้ ๆ แต่ไม่กล้าพูดถึงขนาดที่คุณดัชเชสว่ามา กลัวโดนดริฟต์อ่าค่ะว่าสำคัญตัวผิด ผช. พวกนี้จะไม่พูดทำอะไรโต้ง ๆ ชัดเจนค่ะ แต่จะค่อย ๆ ตอแยทีละนิด ทีละหน่อย บางทีก็เอาตัวรอด ประมาณว่า แค่เป็นเพื่อน ขอไว้เผื่อมีอะไร ไม่ได้เหรอ? โดนดราม่าใส่อีก เหนื่อยค่ะ ก็เลยเลือกจะนิ่ง ๆ อยากได้ก็เอาไป แต่ไม่รับแน่ ๆ ค่ะ

ถามว่าเป็นคนชาติอะไร ตอนนี้โดนคน "จีน" ค่ะ อ้วน ๆ อายุเกือบ ๆ 30 หรือาจจะ 30 กว่า ๆ เป็นคนรู้จัก ทักทายกันปกติ คุยกันบ้างเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ลามปามเหมือนตอนนี้ ที่แย่คือ เค้ารู้ว่าเราอยู่ห้องไหน อันนี้แย่กว่าได้เบอร์อีกค่ะ หลอนมาก....

คือ การที่โดนแบบนี้บ่อย ๆ มันไม่สนุกเลยค่ะ อยากจะเล่าให้ใครฟังแบบขำ ๆ บ้างบางครั้ง แต่บางทีขำไม่ออก จะประมาณว่าเสน่ห์แรง มันก็ไม่ใช่ ตรงกันข้าม มันยิ่งทำให้รู้สึกแย่ เพราะเราสามารถเดาวัตถุประสงค์ของ ผช. เหล่านี้ได้ง่ายเหลือเกินว่าต้องการอะไร...เค้าไม่ได้ต้องการความรัก แต่เค้าต้องการแค่ ผญ. แก้เหงาเพราะมาเรียนไกลค่ะ ถ้าเป็นคนอาหรับฯ ก็จะชอบ ผญ. แรง ๆ หน่อย คาดว่าบ้านเค้า ผญ. คงจะเรียบร้อย? ก็อาจจะเลือกหน่อย แต่บางคนก็ไม่เลือกเลย หว่านไปทั่ว ได้คนไหนก็เอา

 

อันนี้ดิฉันไม่ได้หมายถึงคนจีนในยุโรปนะคะ แต่ ดิฉันเคยไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่จีนนี้ยังไม่เคยไป แต่ได้ยินคนที่ไปเขาเล่าให้ฟังว่า พวกคนทางจีน ทาง ญี่ปุ่น เกาหลี เอเชียตะวันออก มักจะชอบคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พวก ไทยฟิลิปปินส์ อะไรพวกนี้ เขาว่า หน้าสวยคม ผิวเข้ม กว่าทางบ้านพวกเขา ไม่จืดชืด เลยไม่แปลก นายตี๋อ้วนนั้นเลยมาหลงชอบ จขค ไง และอีกประการที่อย่าประมาทไป คือ คำว่า ไทยแลนด์ ในสายตาคนต่างชาติทุกชาติ จะนึกเหมือนกันหมด คือ ผู้หญิงหากิน โสเภณีเด็ก กระเทยแปลงเพศ มันนี่ แค่นั้นจริงๆสำหรับคนที่ยังไม่เคยมาประเทศไทยคะ

ส่วนอาหรับ มันจะมีสองแบบ แบบที่ขาว ผมสีอ่อนตาสีเขียว แบบฝรั่ง แต่จมูกจะงุ้มกว่าฝรั่ง กะอาหรับแบบผิวน้ำตาล ตาดำ ถ้าพวกอาหรับผิวขาว ผมอ่อนนี้ มันจะไม่เอาเลยคน เอเชีย หรือ คนดำ ส่วน อาหรับแบบผิวน้ำตาลนี้ก็มีสิทธิ์ มาลามปามดะไปทั่ว โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ แต่โดยมากมันจะเอาเล่นๆไม่จริงจัง

เพราะฉนั้น เวลาอยู่เมืองนอก ต้องแต่งตัวดี สุภาพ อย่าแต่งตัวกุ๋ยๆหรือ ส่งเด็ด และก็ทำหน้านิ่ๆไว้ คนอื่นเขา แข็กระด้าง แบบฝรั่งกัน เราก็ต้องแข็งกระด้างตาม คนเขาคะ

 

เมื่อกี้นี้มาเคาะห้องอีกแล้วค่ะ เรียกด้วย บอกเปิดประตูหน่อย ระทึกขวัญจริง ๆ มา 3 วันติด ๆ ว่าพรุ่งนี้จะไปขอย้ายห้องแล้ว อยู่ไม่เป็นสุขจริง ๆ

 

นายคนนี้ท่าทาง จขค คงต้อง ใช้งัดไม้ตายสุดท้าย แล้วสวดให้เขาว่า
นะโมนะมัด กำจัด ออกไป อย่าเข้ามาใกล้ เสนามนฑล ออกไปให้พ้น
วินาสสันติ