มีเงินเเสนล้านทำยังไงถึงเอาไปชาติหน้าได้

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย noum77, 9 สิงหาคม 2013.

  1. noum77

    noum77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2010
    โพสต์:
    189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +620
    เมื่อวานนี้ฝนตกหนักมากจริงๆเพราะอากาศร้อนมากตอนกลางวันความจริงมันร้อนตั้งเเต่เช้าเเล้ว พอดีผมไปส่งดอกไม้มีคนสั่งเอารถไปส่งก็สั่งกันพอสมควร ทั้งเหนื่อย ทั้งร้อน ทั้งเปียกผน กลับมานั่งคิดได้ว่า พวกเงินทองพวกนี้ความจริงมันน่าจะเอาไปชาติหน้าได้นะเพราะทุกวันนี้หามายากเหลือเกินถ้าตายไปเอาไปไม่ได้เลยเนี่ย ทุกวันนี้ที่ทำมันโคตรไร้สาระเลย มีวิธีการที่เราจะเอาเงินพวกนี้ติดตัวไปชาติหน้าได้หรือเปล่าครับ ผมเห็นคนบางคนโคตรรวยก็ยังไม่รู้จักพอก็ยังหาเงินหาทองกันต่อไป เห็นเเล้วเสียดายเเทนเค้า อยากหาชาตินี้เเละชาติหน้าติดตัวมาเเต่เกิดเลย
     
  2. lionking2512

    lionking2512 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,525
    ค่าพลัง:
    +7,632
    มีวิธีครับ คือเปลี่ยนรูปเงินเหล่านั้นให้เป็นบุญ นำเงินที่ได้มาโดยบริสุทธิ์เหล่านั้นไปบริจาคทานเพื่อใช้ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนมั่นคง หรือนำไปบริจาคแก่บุคคลผู้ที่เขามีความเดือดร้อนมากกว่าเรา หรือนำไปบริจาคสร้างสิ่งสาธารณะที่เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวม

    เมื่อท่านกระทำสิ่งเหล่านั้นโดยความบริสุทธิ์ใจ ก็จะก่อให้บังเกิดอานิสงฆ์ผลแห่งบุญ ติดตามตัวท่านไปทุกภพทุกชาติตราบจนกว่าจะเข้าสู่ความหลุดพ้น อีกทั้งยังจะเป็นอุปนิสัยปัจจัยให้มีการเสียสละส่วนตน และความตระหนี่ถี่เหนียวออก ซึ่งเหล่านี้เป็นกิเลสที่เป็นยางเหนียวเกาะกุมจิตใจเราให้มีแต่ความยึดมั่นถือมั่นในประโยชน์แห่งตน เป็นการขัดเกลาจิตใจให้ใสสะอาด ไม่หม่นมัว ไม่ถูกครอบงำด้วยความโลภ เกิดชาติหน้าฉันใดท่านย่อมจะเป็นผู้ที่พลานิสงฆ์แห่งทานที่ได้กระทำไว้นี้ ตามส่งให้ท่านไม่ขัดสนเรื่องเงินทอง ไม่มีความลำบากในเรื่องการหาทรัพย์ ตราบจนกว่าท่านจะเข้าสู่พระนิพพาน
     
  3. สหพัฒน์

    สหพัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    234
    ค่าพลัง:
    +710
    1.อันดับแรกหาเงินในชาตินี้ให้ได้แสนล้านก่อนหรือมากกว่า หาไม่ได้ชาติหน้าก็ไม่ถึงแสนล้าน
    2.นำเงินที่ได้ไปฝากธนาคารความดี คือ ทำทานทุกประเภท ทุกรูปแบบ ไม่จำกัดสถานที่ บุคคล เวลาและโอกาส พร้อมทั้งอธิษฐานในการทำบุญทุกครั้ง ขอให้ชาติหน้าเกิดมาเป็นลูกคนรวย เกิดมาบนกองเงินกองทอง คาบทัพพีเงินทัพพีทองฝังเพชร ไม่ต้องลำบากในการหาเงิน มีเงินใช้ไม่ขาดสาย เวลาตายก็ขอให้ตายบนกองเงินกองทอง ขอให้ร่ำรวยแบบนี้ทุกๆชาติไปเทอญ..(ถ้าชาติหน้าท่านเกิดมาแล้วไม่รวยค่อยมาถามผมใหม่น่ะ ตอนนี้ทำแบบที่ผมบอกไปก่อน แบบไม่ต้องสงสัย)





    ขอให้ทุกท่านจงเจริญในธรรม...
     
  4. markdee

    markdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    745
    ค่าพลัง:
    +1,911
    ทำบุญทำทานไม่จำป็นตัองใช้เงินเสมอไปนี่คะ...อย่างแรกก็แค่..คิดดี..ทำดี..พูดดี..ก็พอแล้วทำไดัหรือเปล่า?
     
  5. noum77

    noum77 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2010
    โพสต์:
    189
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +620
    คนจนทำบุญ 1 บาท หวังชาติหน้ารวยเป็น 1000 ล้าน
    คนรวยทำบุญ 1 ล้าน หวังจะได้รวยยิ่งขึ้นไปอีก
    คนมีบุญทำบุญ 1 บาท อยากให้คนที่ทำบุญด้วยมีความสุขภายสบายใจ
     
  6. กฮ

    กฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +415
    ทำทานด้วยทานบริสุทธิ์ แม้จะทำแค่บาทแต่ก็มีอานิสงส์เป็นแสนล้านได้ หากทำทานด้วยทานไม่บริสุทธิ์ มันไม่ต่างอะไรกับโยนเงินทิ้งเล่น

    ทานบริสุทธิ์มาจาก
    - ผู้ทานมีความบริสุทธิ์ใจ
    - ของทานหามาด้วยความบริสุทธิ์
    - ผู้รับทานมีความประพฤติที่บริสุทธิ์
     
  7. mamanalin

    mamanalin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2012
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +146
    ถ้าไม่ค่อยมีเงิน การรักษาศีลทั้งศีล 5 หรือ ศีล 8 ก็เป็นที่มาให้เกิดทรัพย์ในชาติหน้าได้เช่นกันค่ะ
     
  8. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    =================

    จากคำถามแสดงว่า ชาตินี้มีเงินมากขนาดนี้ จึงอยาก ให้ชาติหน้ามีใช้มากเช่นเดิม ต้องทำอย่างไร

    ขอตอบว่า

    มันยังเป็นความยากอยู่ สาเหตุที่อยากมีเงินมากเพราะ อะไร ตรงนี้ไม่ขอวิจาร
    แต่ถามว่า จำเป็นต้องมีเงินมากมาย หรือแค่พอประมาณเหลือกินเหลือใช้พอสมควร

    เคยรู้ไหมว่า ชาติหน้าถ้าเกิดมารวยแล้วพิการ มีเงินแต่ใช้ไม่ได้จะทำไง
    ทำไมเราไม่รอบคอบในการคิดเพื่อสร้างอนาคตที่ดีในชาติหน้า ทำไมไม่คิดว่า
    1เราควรปฏิบัติตนและปฏิบัติธรรมอย่างไร
    2เราควรถือศีลอย่างไร
    3 เราควรทำบุญทานอย่างไร
    4 เราควรจุนเจือครอบครัวลูกหลานและอนาคตของเขาอย่างไร
    5 เราควรจุนเจือสังคมและพุทธศาสนาอย่างไร

    จงใช้กำลังที่มีอยู่ทำทั้ง5ข้อให้บริบูรณ์เพื่อความไม่ประมาทนะครับ แล้วชาติหน้าคุณก็จะเกิดมาพร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ คุณสมบัติและมีปัญญามาก ลาภยศจะเกิดแก่คุณ
    สุดท้าย แม้ตายไปก็ไปสวรรค์มีนางฟ้ามีวิมานสวยงามทันทีครับ
    เลือกเอาครับ
    ส่วนนิพพานผมไม่แนะนำเพราะคุณยังไม่อยากไปครับ สาธุ
     
  9. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    เล่นไม่ยาก ต้องถามก่อนว่า แสนล้านนี่ทั้งหมดหรือ ส่วนเดียว (เอ...ฝันป่ะ ^^) ถ้าทั้งหมดง่าย ก็เอาแสนล้านแบ่งสิบส่วน คุณใช้ 1 ใน สิบ ที่เหลือแบ่งญาติที่ต้องใช้หนี้กันแล้ว พ่อ แม่ บุตร ธิดา ภรรยา ว่าไปให้ครบ แล้วตั้งมูลนิธิ ทำทาน ทำบุญ ทุกประเภท ซ่อมพระ รักษาทรัพย์สินพุทธศาสนา ทุนการศึกษาผู้ยากไร้ สงเคราะห์ทั้งหมดไม่มีประมาณ...กล้าตัดโลภะหรือเปล่า
    แต่ถ้ายังมีอีกเยอะ แสนล้านนี่แบ่งมาทำ ก็เหนื่อยหน่อย เพราะเหมือนคุณมี สิบบาท แบ่งทำบุญบาทเดียว จิตเจือด้วยการหวังผลจากบุญ แบบนี้ก้อน้อยหน่อยนะ
     
  10. ปีติ

    ปีติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    526
    ค่าพลัง:
    +2,500
    สวัสดียามใกล้ๆเที่ยงวันครับญาติธรรมทุกๆท่าน

    ผมขออ้างอิง ข้อความนี้มาจาก
    กระทู้งานบุญ พระขรรค์แก้วมหาจักรพรรดิ ทำบุญกฐิน ๑๐๘ วัด เจ้าของกระทู้ชื่อคุณ จารุ ครับ

    อานิสงส์กฐินทาน........พระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

    ต่อไปนี้ จะพูดถึงอานิสงส์กฐิน เอาย่อๆนะ อานิสงส์ในการถวายกฐิน หรือว่าบรรดาญาติโยมพุทธบริษัททั้งหลายถวายสังฆทาน สังฆทานวันนี้เป็นสังฆทานของกฐิน การถวายสังฆทานทุกอย่างมีผลควบกับกฐิน เพราะเป็นวันของกฐิน ความจริงการทอดกฐิน ไม่ใช่ประเพณีนิยม เป็นพระวินัยที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้ว่า ผ้ากฐินทาน จะรับได้ก็ต่อเมื่อถึงวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงกลางเดือน 12 หลังจากนั้น จะทอดขนาดไหนก็ตาม จะไม่เป็นกฐิน ฉะนั้น กฐินมีเวลากาลจำกัด

    ทีนี้ ว่าถึงอานิสงส์กฐิน อานิสงส์กฐินนี้ หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ท่านเคยเทศน์ และก็เทศน์ตามบาลี ท่านพูดถึงอานิสงส์ให้ทราบ ฉะนั้น การถวายวันนี้ทั้งหมด เมื่อวานก็ดี วันนี้ก็ดี จะเป็นเงินก็ตาม จะเป็นของก็ตาม ถือว่าทุกอย่าง เป็นอานิสงส์กฐิน

    ต่อไปนี้ก็โปรดทราบ จะนำพระสูตรตามที่ท่านกล่าวไว้ในบาลีให้ทราบ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ในสมัยพระองค์เกิดเป็น"มหาทุคคตะ" ในสมัยพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า "พระปทุมมุตระ" เวลานั้น พระพุทธเจ้าของเรา เกิดเป็นคนจนอย่างยิ่ง เป็นทาสของคหบดี เวลานั้น ถอยหลังจากนี้ไป 92 กัป ก็ปรากฏว่า พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า"พระปทุมมุตระ"

    วันหนึ่ง มหาทุคคตะ ไปดูงานทอดกฐินเขา เมื่อเขาทอดกฐินเสร็จ พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า บุคคลใด เคยทอดกฐินแล้วในชีวิตหนึ่ง ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพกฐินก็ดี และเป็นบริวารกฐินก็ดี(แต่ว่ากฐินนี้ไม่มีบริวาร มีแต่เจ้าภาพ เพราะเป็นกฐินสามัคคี) จะทำบุญน้อย จะทำบุญมาก มีอานิสงส์เสมอกัน แต่ทว่าปริมาณอาจจะแตกต่างกัน และอานิสงส์กฐินนี่ เวลานั้น พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า

    "โภ ปุริสะ ดูก่อนท่านผู้เจริญ บุคคลใดเคยทอดกฐินไว้ในพระพุทธศาสนา แม้ครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าตายจากความเป็นคน ยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ท่านผู้นั้น จะไปเกิดเป็นเทวดา หรือนางฟ้า 500 ชาติ"!!!!......

    นั่นหมายความว่า ถ้าหมดอายุเทวดา หรือ นางฟ้า จุติแล้วก็เกิดทันที 500 ครั้ง เมื่อบุญหย่อนลงมานิดหน่อย เกิดเป็นเทวดา เกิดเป็นนางฟ้าไม่ได้ ลงมาเป็นมนุษย์ จะเกิดเป็นพระเจ้าจักรพรรดิปกครองโลก 500 ชาติ แล้วบุญก็หย่อนลงมา ก็จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ 500 ชาติ แล้วบุญก็หย่อนลงมา ก็จะเป็นพระมหากษัตริย์ 500 ชาติ หลังจากนั้น จะเป็นมหาเศรษฐี 500 ชาติ!!!!

    คำว่า"มหาเศรษฐี"นี่ มีเงินตั้งแต่ 80 โกฏิขึ้นไป เขาเรียกว่า "มหาเศรษฐี" ถ้ามีเงินต่ำกว่า 80 โกฏิ แต่ว่าตั้งแต่ 40 โกฏิขึ้นไป เขาเรียกว่า "อนุเศรษฐี"

    เมื่อเป็นมหาเศรษฐี 500 ชาติแล้ว ก็เป็นอนุเศรษฐี 500 ชาติ หลังจากเป็นอนุเศรษฐี 500 ชาติแล้ว ก็เป็นคหบดี 500 ชาติ !!!

    ก็รวมความว่า การทอดกฐินครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าท่านบอกว่า นอกจากจะเป็นเทวดา เป็นนางฟ้า เป็นเศรษฐี มหาเศรษฐีแล้ว บุคคลที่ทอดกฐินครั้งหนึ่งในชีวิต จะปรารถนาพระโพธิญาณก็ย่อมได้!!!.....นั่นก็หมายความว่า จะปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้าก็ได้ จะปรารถนาเป็นอัครสาวกก็ได้ จะปรารถนาเป็นมหาสาวกก็ได้ จะปรารถนานิพพานเป็นพระอรหันต์ปกติก็ได้!!!!

    ฉะนั้น การทอดกฐินแต่ละคราว ขอบรรดาท่านพุทธบริษัท โปรดทราบถึงอานิสงส์ คนที่เคยทอดกฐินแล้วแต่ละครั้ง รวมความว่า ถ้ายังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด คำว่ายากจนเข็ญใจ จะไม่มีแก่บรรดาญาติโยมพุทธบริษัททุกชาติ!!!

    สำหรับวันนี้ การทอดกฐินมันมี 3 อย่าง ความจริงอานิสงส์กฐินก็ย่อมเป็นอานิสงส์กฐิน แต่ในปัจจุบัน จัดกฐินเป็น 3 อย่าง คือ (1) จุลกฐิน (2) ปกติกฐิน (3) มหากฐิน กฐิน 3 อย่าง ย่อมเป็นเทวดานางฟ้าเหมือนกัน แต่ทว่าจะมีทรัพย์สมบัติมากกว่ากัน

    คำว่า"จุลกฐิน" เวลานี้แปลงไป คงจำของพระพุทธเจ้าไม่ได้ คำว่า"จุลกฐิน" ก็หมายความว่า เขาถวายผ้าโดยเฉพาะชิ้นเดียว คือ ผ้ากฐิน จะเป็นผ้าสังฆาฏิตัวหนึ่งก็ได้ จะเป็นผ้าจีวรตัวหนึ่งก็ได้ สบงตัวหนึ่งก็ได้ ถ้าเราไม่มีทั้งไตร ถวายผ้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งก็เป็นกฐิน!!!.......

    ตอบ : เรื่อง ของบุญกฐิน หลวงพ่อเคยบอกเอาไว้ว่า ใครเป็นเจ้าภาพกฐินตั้งแต่ ๓ ปี ติดกันขึ้นไป ให้สังเกตตัวเองไว้ด้วยว่า ความเป็นอยู่จะคล่องตัวกว่าคนอื่นเขา เรื่องนี้พิสูจน์มาแล้ว เพราะว่าอาตมาจะเป็นเจ้าภาพกฐินทุก ๆ ปี ติดกันมาตั้งแต่ก่อนบวช จนกระทั่งบวชมาสิบกว่าปีแล้ว รู้สึกว่าทำอะไรคล่องตัวดี


    ถาม : หมายถึงในปัจจุบันด้วยนะคะ ?

    ตอบ : จ้ะ ชาติปัจจุบันนี้เลย ความคล่องตัวจะเกิดขึ้นเอง ถ้าเราไม่มีความสามารถจะเป็นประธานกฐินเอง ก็ให้ร่วมกับคนอื่นเขา จะเป็นปัจจัยหรือว่าเป็นสิ่งของก็ได้ อย่างพระพุทธเจ้าสมัยท่านเกิดเป็นมหาทุคตะ เจ้านายจะทอดกฐิน ท่านเองอยากจะร่วมบุญด้วย มีแค่เข็มกับด้ายเท่านั้น เอาร่วมในกองกฐินแล้วตั้งความปรารถนา ขอให้สำเร็จพระโพธิญาณในอนาคตด้วย ปรากฏว่าได้อย่างที่ต้องการ


    บุญกฐินเป็นบุญสังฆทานพิเศษ เหตุที่เรียกว่าเป็นสังฆทานพิเศษ เพราะจำกัดเขตที่จะทำ ปีหนึ่งมีเวลาทำบุญกฐินได้แค่เดือนเดียว คือแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ จนถึงกลางเดือน ๑๒(วันลอยกระทง) เพราะฉะนั้น..บุญกฐินก็เลยกลายเป็นบุญพิเศษ เป็นสังฆทานที่มีอานิสงส์ใหญ่มาก

    หลวงพ่อท่านบอกว่า บุคคลที่ทำบุญกฐินถ้าเกิดใหม่ จะเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๕๐๐ ชาติ หมดบุญจากนั้นก็มาเป็นพระมหากษัตริย์ ๕๐๐ ชาติ เป็นมหาเศรษฐี ๕๐๐ ชาติ ได้ไปเรื่อย ๆ ยังไม่ทันจะหมดบุญจากกฐิน ก็เข้านิพพานกันก่อนแล้ว เพราะฉะนั้น..ถ้ามีโอกาสก็ทำ ถ้าไม่มีโอกาสก็รวมกันหลาย ๆ คน ไม่จำเป็นต้องมาก บุญกฐินสำคัญที่สุดตรงผ้าไตร ถ้าเรามีน้อย สบงผืนหนึ่งก็ได้ มีมากหน่อยก็จีวรสักผืนหนึ่ง ถ้าหากว่ามีครบไตรได้ก็ดี ถ้ามีมากกว่านั้น พระเขาท่านมีกี่รูป เราถวายครบทุกรูปไปเลย...

    กว้างคืบยาวคืบพระท่านเรียกว่าผ้าไตรแล้ว ผ้าสบงนั้นเกินคืบแน่ ๆ ก็คือจีวรในพระพุทธศาสนา ผู้ที่ถวายจีวรในพระพุทธศาสนา ถ้าเกิดใหม่เป็นผู้หญิงจะมีเครื่องมหาลดาปสาธน์แบบนางวิสาขามหาอุบาสิกา เครื่องมหาลดาปสาธน์นี่เป็นเสื้อคลุมทั้งตัว ที่มีมงกุฏเป็นรูปนกยูงรำแพน ข้างล่างต่อลงมาเป็นเสื้อคลุมทั้งตัว ท่านใช้คำว่า ร้อยด้วยแก้วมณีคือเพชร เฉพาะเพชรอย่างเดียว ๑๖ ทะนาน (บุญไม่ดีจริงหนักคอหักตายไปเลย) ถ้าเป็นผู้ชาย ถ้าได้บวชกับองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พอท่านตรัสเอหิภิกขุ จะมีจีวรสำเร็จด้วยฤทธิ์ลอยมาสวมตัวให้ ได้ทั้งหญิงได้ทั้งผู้ชาย เกิดเป็นผู้หญิงก็ได้บุญอันนี้ เกิดเป็นผู้ชายก็ได้บุญอันนี้

    การถวายจีวรในพระพุทธศาสนามีกุศลขนาดนี้ แล้วถ้ายิ่งเป็นจีวรในช่วงกฐินด้วย กฐินสมัยก่อนผ้ามีน้อย ส่วนใหญ่ท่านจะคัดเลือกบุคคล คือ ภิกษุที่มีผ้าเก่าที่สุดเพื่อที่จะมอบผ้าใหม่ผืนนั้นให้กับท่านไป

    แต่ว่าในปัจจุบันนี้ ส่วนใหญ่ผ้าจะได้มาก อย่างวัดท่าซุงสมัยก่อน หลวงพ่อท่านถวายรูปละไตรเลย อย่างของอาตมาที่นิมนต์เขามาทุกวัด ก็ถวายครบทุกรูป ในแต่ละปีจะต้องสั่งผ้าไตรจีวรจากร้านประจำ สั่งกันมาทีหนึ่งหลายลัง ทางด้านร้านประจำเขาจะมาส่งให้ถึงที่ แล้วคิดราคาเดิมทุกปีไม่มีขึ้น เขาถือว่าเป็นลูกค้าประจำ ปีที่แล้วก็สั่งไป ๕๐ ไตร


    ผมขออนุโมทนาสาธุครับ
     
  11. พชร (พสภัธ)

    พชร (พสภัธ) ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,746
    กระทู้เรื่องเด่น:
    10
    ค่าพลัง:
    +49,866
    เอามาฝากเราไว้สิ
     
  12. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154


    ทำให้ถึงความเป็น "พระโสดาบัน" ซิคุณ

    อย่าว่าแต่ชาติหน้าเลยถ้ายังต้องเกิดอีก

    เคยได้ยิน " ประเสริฐยิ่งกว่าการได้สมบัติของ

    พระเจ้าจักรพรรดิ์ " อีก.


    แต่ระวังอย่าไปเกิดเป็น..ตะขาบหรืองูเหลือมเข้าล่ะ

    สมบัติติดตัวมาแต่เกิดรวยทั้งชาติ..รวยแบบไม่รู้จักพร่อง

    ..เฝ้ามันอยู่นั่นแหละ.
     
  13. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    จริงทีเดียว ใครๆย่อมไม่ปรารถนาจะเข้าถึงความแร้นแค้นกันดารในชีวิต.. ท่านจขกท มีความปริวิตกที่สมควรแล้ว และท่านผู้รู้ทั้งหลายให้คำแนะนำสมควรแก่การพิจารณาหลากหลาย จึงใคร่่ขอเพิ่มเติมสักเล็กน้อย ดังนี้..



    พระพุทธศาสนาสอนเรื่องเหตุและผลตามความจริงที่มีอยู่ในธรรมชาติ..ผลทั้งหลายย่อมมาจากเหตุที่สมควรสอดคล้องกัน..ดังนั้น เมื่อประสงค์จะมีทรัพย์ ก็ต้องทำเหตุ..คือกุศล...มีทานและศีลเป็นหลัก..และอย่าได้เข้าใจผิดว่า ทำทาน๑บาทแล้วจะได้ผล๑บาท ..หามิได้ ทำทาน๑บาท ผลอาจมีได้แสนล้าน...จะเป็นหน่วยกหาปนะ ดอลลาร์ ยูโร รูีปี รูเบิล จั๊ต กีบ หยวน เยนetc..etc.. ก็ได้ตามถิ่นที่ตนไปเกิด..ด้วยอำนาจปัจจัยต่างๆที่ประกอบกันให้สำเร็จในทานนั้นที่ตนทำ..เช่นผู้ให้มีศีลหรือไม่ ทรัพย์นั้นบริสุทธิหรือเปล่า ปฏิคาหกหรือผู้รับมีคุณเช่นศีลหรือเปล่า เจตนาของผู้ให้เป็นอย่างไร เจือด้วยโลภะโทสะโมหะใหม..ฯลฯ..



    แต่การร่ำรวยอย่างเดียวในชาติหนึ่ง ๆอาจหมายถึงการทำบุญหรือบาปได้มโหฬารในหลายทาง ..เอาแน่อะไรไม่ได้..เพราะเหตุที่ยังมีกิเลสหนาแน่นอยู่ .. ทั้งหากก็ไม่ได้ทำบุญเพื่อความมี"ปัญญา"เข้ากำักับหรือประกอบ..แล้วน่ากลัวว่าความรวยจะพาวิบัติได้มากกว่าจนเสียอีก...


    คงได้เห็นข่าวตามสื่อต่างๆทั่วโลกว่า คนรวยบางกลุ่ม(โดยเฉพาะในประเทศด้อยพัฒนา..แต่ก็ไม่เว้นประเทศเจริญแล้วทั้งหลาย)อาศัยฐานะร่ำีรวยของตนทำทุจริตด้วยการซื้อเสียงเพื่อมีตำแหน่งมีอำนาจ สามารถcorruption ประเทศได้ตลอดชีพ หรืออาศัยอิทธิพลใช้อภิสิทธิ์เบียดเบียนชาวบ้าน เพราะไมรู้จักพอของตน เพียงเท่านี้ก็พาตน เข้าถึงหายนะมรรคไปอีกนับภพไม่ถ้วนเเล้ว ไม่จำต้องกล่าวถึงว่า เมื่อรวยแล้วจะใช้ความรวยนั้นไปเลี้ยงดูสาวรุ่นลูกเพื่อสนองกามตน จัดปาร์ตี้เลี้ยงเหล้ากลุ่มเพื่อนฝูง เพื่อแลกเปลี่ยน มิจฉาวาจากันตลอดงาน หรือสั่งใครๆไปสังหารคู่แข่งในที่ใหนๆ เป็นปรกติฯลฯว่าจะวิบัติแ่ก่ตนและบริวารได้เพียงใด..

    เอาเข้าจริง ที่จนเสียอีก จะทำบาปสักทีก็ทำได้จำกัด เช่น จับปลาตัวสองตัวมาเลี้ยงครอบครัว (คนรวยจับได้เป็นตู้containerส่งขายทั่วประเทศและโลก ) คนจนตีชิงวิ่งราวได้วันละ๒-๓ครั้งหรือน้อยกว่า เพราะไม่ฉลาดในการหลบหนีตำรวจ ส่วนคนรวยฉลาดคบตำรวจ แถมมีเพื่อนใหญ่โตคุ้มกัน ส่งยาบ้าให้ลูกค้าข้ามโลกหรือโกงกินทั้งประเทศได้ตลอดเวลา แบบชิลชิล..etc..etc.

    ที่จะนึกทำบุญบ้างก็ทำด้วยความไม่รู้ ทำเพราะเอาหน้า หาเสียง ทำเพื่อผลประโยชน์ตอบคืน ฯลฯ ยิ่งทำยิ่ง

    เขลาเพราะสั่งสมสันดานมักได้ไว้จนแน่นหนา เกิดที่ใหนต้องเอาเปรียบมักมากอยากได้ไปหมด เป็นที่มาของการล่วงศีลได้ง่ายดาย....ใครจะน่าสงสารเท่าเป็นไม่มี!!..


    ดังนั้นเมื่อคิดจะรวยในภพต่อไป ก็พึงรวยด้วยมีปัญญาด้วยจึงจะปลอดภัย..

    พระพุทธองค์ทรงตรัสสรรเสริญการแสวงหาทรัพย์ที่ไม่มีในคำสอนอื่นใดและไม่อาจได้ฟังหรือเห็นได้ตลอดกาล ยกเว้นในยุคที่พระพุทธศาสนายังไม่เสื่อมหายไป กล่าวคือการแสวงหาอริยทรัพย์ 7 ได้แก่...

    ***1. ศรัทธา (ความเชื่อที่มีเหตุผล มั่นใจในหลักที่ถือและในการดีที่ทำ — confidence)
    2. ศีล (การรักษากายวาจาให้เรียบร้อย ประพฤติถูกต้องดีงาม — morality; good conduct; virtue)
    3. หิริ (ความละอายใจต่อการทำความชั่ว — moral shame; conscience)
    4. โอตตัปปะ (ความเกรงกลัวต่อความชั่ว — moral dread; fear-to-err)
    5. พาหุสัจจะ (ความเป็นผู้ได้ศึกษาเล่าเรียนมาก — great learning)
    6. จาคะ (ความเสียสละ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ — liberality)
    7. ปัญญา (ความรู้ความเข้าใจถ่องแท้ในเหตุผล ดีชั่ว ถูกผิด คุณโทษ ประโยชน์ มิใช่ประโยชน์ รู้คิด รู้พิจารณา และรู้ที่จะจัดทำ — wisdom)

    อริยทรัพย์ เป็นทรัพย์อันประเสริฐอยู่ภายในจิตใจ ดีกว่าทรัพย์ภายนอกเพราะไม่มีผู้ใดแย่งชิง ไม่สูญหายไปด้วยภัยอันตรายต่างๆ ทำใจให้ไม่อ้างว้าง ยากจน และเป็นทุนสร้างทรัพย์ภายนอกได้ด้วย
    ธรรม 7 นี้ เรียกอีกอย่างว่า พหุการธรรม หรือ ธรรมมีอุปการะมาก (virtues of great assistance; D.III.282; ที.ปา. 11/433/310) เพราะเป็นกำลังหนุนช่วยส่งเสริมในการบำเพ็ญคุณธรรมต่างๆ ยังประโยชน์ตนและประโยชน์ผู้อื่นให้สำเร็จได้อย่างกว้างขวางไพบูลย์ เปรียบเหมือนคนมีทรัพย์มาก ย่อมสามารถใช้จ่ายทรัพย์เลี้ยงตนเลี้ยงผู้อื่นให้มีความสุข และบำเพ็ญประโยชน์ต่างๆ ได้เป็นอันมาก.***


    ***คัดลอกมาจาก..

    พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตฺโต)
    พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
     
  14. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    เวลาที่เราทำบุญเราไม่รู้หรอกนะว่าเราจะได้รับผลของบุญนั้นเมื่อไหร่ ไม่มีใครที่บอกได้แน่นอนขนาดนั้น หลายคน
    ทำบุญโดยหวังว่าชาติหน้าเราจะใช้บุญที่เราทำอย่างเดียว แต่คนเราทุกคนก็ต้องเคยทำบาปกัน แต่ไม่มีใครคิดว่า
    ชาติหน้าเราจะต้องได้รับบาปที่ทำด้วย เหมือนกับที่บางคนชาตินี้ก็ไม่ได้ทำผิดบาปเท่าไหร่แต่ก็เผชิญกรรมหนัก นี่
    แสดงว่าบาปยังข้ามภพข้ามชาติมาได้เหมือนกัน ใครจะรู้ว่าบาปที่ทำมันจะไม่ข้ามไปอีกหลายๆ ชาติ ดังนั้นอย่าไป
    คาดหวังว่าจะได้รับบุญเมื่อไหร่เลย น้อยคนที่จะรู้ได้ แต่ถ้าเราทำบุญในเขตของพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าได้แสดง
    ไว้แล้วว่ามีอานิสงส์มาก ให้ผลยิ่งใหญ่ กว้างขวาง ให้ผลนานหลายกัปเลยก็มี ถึงเราจะไม่รู้ว่าจะได้รับผลเมื่อไหร่
    แต่ถ้าเราเชื่อเรื่องผลของทาน ก็สบายใจได้ที่จะทำบุญในเขตของพุทธศาสนาเพราะมั่นมชใจได้ว่าทานที่ทำให้
    ผลยิ่งใหญ่ กว้างขวาง ยั่งยืน
     
  15. boonnippan

    boonnippan ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +1,099
    ขอเรียนถาม 2 ข้อค่ะ
    1 บุญจากการเป็นเจ้าภาพเทศน์มหาชาติคืออะไรคะ (กัณฑ์ฉกษัตริย์) ตอนทำ2ปีที่แล้ว ไม่ได้คิดเรื่องบุญเท่าไรนัก รู้สึกแต่ว่าอยากทำ และปิติที่ได้ทำจนถึงปัจจุบัน
    2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ลูกสาวส่งmessage เอาบุญมาให้ บอกว่าทำบุญ5 บาทกับเทศน์มหาชาตที่วัดมาเรี่ยไรที่โรงเรียน ศรัทธาเต็มที่แต่มีเงินเหรียญอยู่5 บาท บุญบริสุทธิ์เต็มที่ใช่ไหมคะ
    ขอบพระคุณมากค่ะ
     
  16. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    คงต้องแปรรูปของทรัพย์สินเงินทอง ให้เปลี่ยนเป็นบุญที่เรียกว่า อริยทรัพย์ แล้วหละค่ะ คหสต. ถ้าเป็นดิฉันนะคะ..ขอแนะว่าน่าจะนำไปซื้อที่ดินค่ะในกรุงเทพหรือปริมณฑลก็น่าจะดีนะคะ เพื่อสร้างสถานปฎิบัติธรรม..โดยมูลนิธิแสงเทียน เพราะว่าแพง(เงินจะได้พร่องลงเยอะหน่อยค่ะ..แหมมีตั้งแสนล้านค่ะ) แต่สะดวกสำหรับคนที่ไม่มีโอกาสได้ไปปฏิบัิติธรรมตจว. นอกจากนั้นก็ยังสร้างกุฏิพระสงฆ์ สร้างโบสถ์สร้างวิหารสร้างพระค่ะ เพราะทำบุญเพื่อศาสนาของเรา บางทีท่านจขกท.เวียนว่ายในสังสารวัฏฏ์ หลายรอบแล้วแต่สถานที่นี้ มูลนิธินี้ก็ยังคงอยู่เพื่อเป็นบุญที่สนับสนุนท่าน จขกท.ทุกภพทุกชาติไม่มีสิ้นสุดเลยค่ะ

    ดิฉันเองหากมีเงินเหลือใช้สัก 2-3 แสน ดิฉันคิดว่าจะสร้างศาลาปฏิบัติธรรมสัก 1 หลังค่ะ เพื่อให้นักปฏิบัติได้ใช้สอย และเพื่อตนเองบั้นปลาย หากดิฉันละสังขารไป คนอื่นๆ ก็ยังคงได้ใช้่ต่อไปจนกว่ามันจะผุพังไปตามกาลเวลาค่ะ

    ** การได้เกิดในภพมนุษย์นั้น ต้องมีบุญมากพอควรจึงได้เกิดมาในภพนี้ แต่เมื่อเกิดมาแล้วเราจะเป็นมนุษย์แบบไหน ก็อยู่ที่ตัวเราเลือกเอง.. การทำบุญที่ได้ผลมากที่สุด คือการทำบุญโดยไม่หวังผล^^ **
     
  17. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    สาธุ ๆอนุโมทนาด้วยครับ...

    บุญเป็นเจ้าภาพเทศน์มหาชาติเป็นบุญประเภท"ธรรมทาน" อันเป็นทานขั้นสูงสุดในบรรดาทานทั้งหลาย เพราะเป็นปัจจัยแก่ปัญญา อันเป็นเครื่องคุณที่สามารถพาตนให้พ้นทุกข์ทุกระดับได้จนถึงการพ้นทุกข์จนออกจากสังสารวัฏได้อย่างเด็ดขาด..

    เมื่อทำด้วยศรัทธาตั้งมั่น ยังใจให้ปิติโสมนัสได้เนืองๆ ย่อมมีผลมากมีอานิสงค์มากเพิ่มขึ้นทุกครั้งตามมา เรียกว่า"จาคานุสติ" คือการคิดถึงบุญที่ตนเคยทำไว้ด้วยความยินดี ปลื้มใจเนืองๆ..


    ส่วนลูกสาวเมื่อมีศรัทธาทำบุญไปแม้ด้วยเงิน๕บาท ก็เป็นบุญบริสุทธิ์ มีผลมากอานิสงค์มากเช่นกัน....พึงเข้าใจว่าบุญไม่ได้มากหรือน้อยตามจำนวนเงินหรือของที่ให้อย่างเดียว..แต่ขึ้นอยู่กับปัจจัยมากมายหลายอย่างเช่น เจตนาที่ทำ มีปัญญาประกอบหรือเปล่า คิดทำเองหรือ คนอื่นมากระตุ้นเตือนชักชวน มีความยินดีโสมนัสหรืิอเฉยๆ มีศรัทธาใหม ทั้งผู้รับที่เราทำบุญด้วยนั้นมีคุณเช่นศีลหรือไม่ เป็นต้น.ฯลฯ..
     
  18. ภูเขาสายน้ำ

    ภูเขาสายน้ำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    121
    ค่าพลัง:
    +64
    จะรวยมหาศาล ขนาดไหน ก็ยังจมอยู่ในกองทุกข์ เวียนว่ายในทะเลทุกข์ ไม่จบไม่สิ้น หาทางออกจากทุกข์ที่มหาศาลนี้ จะดีกว่าไหมครับ
     
  19. chaokhun

    chaokhun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +5,701
    ทำแบบหลวงพ่อโอภาสี หรือถวายวัดหลวงพ่อโอภาสี ด้วยการบูชาไฟ

    เมื่อสมัยก่อนคนจีนแถวเยาวราช เอาแบงค์ร้อย แบ๊งค์ใหม่เอี่ยม มาถวายหลวงพ่อ ซึ่งสมัยนั้นแบ๊งค์ร้อย ถือว่ามีค่ามากที่สุด ก๊วยเตี๋ยวชามละ 25 สตางค์ เท่ากับ ชามละ 30 บาท ในสมัยนี้ เมื่อหลวงพ่อรับเงินที่ถวายไปแล้ว หลวงพ่อโอภาสีก็เอาไปเผาไฟ ปรากฏว่าคนจีนที่เอาเงินมาถวาย ก็ทำท่าตกอกตกใจ เสียดายเงิน หลวงพ่อบอกว่าไม่ต้องเสียดาย จะคืนให้

    เมื่อคนจีนที่เยาวราช กลับไปถึงบ้าน แล้วเปิดลิ้นชัก ออกมา ก็พบแบงค์ร้อยใหม่ใบนั้นที่บ้าน เป็นที่อัศจรรย์ใจและเลื่อมใสศรัทธายิ่งนัก เรื่องนี้เป็นที่รู้และเล่าลือในหมู่คนจีนย่านเยาวราช สำเพ็ง และใกล้เคียง

    ที่วัดหลวงพ่อโอภาสี จะมีคนจีนแถวเยาวราช สำเพ็ง มาทำบุญประจำปี จะมีอุปรากรงิ้วแสดงถวายหลวงพ่ออยู่ทุก ๆ ปี

    ทุกวันนี้ ที่วัดหลวงพ่อโอภาสี จะมีเตาเผาไฟ มีผุ้มีจิตศรัทธา จะซื้อน้ำมันก๊าดไปถวาย


    อิติสุขะโต อะระหังพุทโธ นะโมพุทธายะ ปฐวีคงคา พระภูมิมะเทวา ขะมามิหัง

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 195232_GpoVB.jpg
      195232_GpoVB.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34.5 KB
      เปิดดู:
      82
    • download.jpg
      download.jpg
      ขนาดไฟล์:
      9.8 KB
      เปิดดู:
      49
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 สิงหาคม 2013
  20. Note_nt

    Note_nt Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +88
    เวลาทำทาน ส่วนมากจะเลือกทำที่ได้บุญมาก อย่างหลวงปู่ที่นับถือจะสร้างเจดีย์ ก็ถวายเงินหลวงปู่บอกขอทำบุญสร้างเจดีย์กับหลวงปู่ด้วยครับ 1.ได้ทำบุญกับหลวงปู่ 2.ได้สร้างเจดีย์ แต่อย่างอื่นก็ทำนะครับ ให้อาหารปลา เลี้ยงอาหารเด็กนักเรียน ฐานะพอมีพอกินครับ เลยต้องเน้นบุญใหญ่หน่อย อยากมีทรัพย์มากๆเพื่อความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย สะดวกต่อการสร้างบารมี ช่วยเหลือสัตว์โลกได้มาก บำรุงพุทธศาสนาได้มาก ฯลฯ ต้องรักษาศีลเพื่อความอยู่เป็นสุขอยู่สร้างบารมีได้นานนานไม่ตายไว แล้วต้องปฏิบัติกรรมฐานอบรมปัญญามากๆเพื่อสู้กับกิเลส ยับยั้งกิเลส (บารมีเต็มเมื่อไหร่มันโดนฆ่าแน่) >>>แล้วเดี๋ยวชาติหน้ามีทรัพย์มากแล้วไม่มีปัญญาก็จะพาตกนรก พาเสื่อมได้ง่ายครับ
    ลืมไปครับสำหรับผมเรื่องทาน ทำบุญกฐินดีที่สุด (ถ้าได้เป็นเทวดาก็ 500 ชาติรวดเผื่อว่าเข้านิพพานได้เลยไม่ต้องเกิดมาเป็นมนุษย์อีก)เลือกวัดที่เราศรัทธานะครับจะได้ปิติมากๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...