ถ้าฆ่าตัวตาย จะสูญไปเลยไม่รับรู้อะไรใช่ไหมครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ราชะ, 15 สิงหาคม 2013.

  1. ราชะ

    ราชะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +165
    หรือว่าจะเป็นวิญญาณมานั่งทรมานอีก

    แต่ก็ดีกว่าไม่ใช่เหรอครับ ไม่ต้องทำมาหากินอะไร

    บางคนบอกว่าถึงจะไม่ทำมาหากินแต่จะทรมานกว่าเป็นคนอีก เพราะอะไรถึงทรมานกว่าครับ
     
  2. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ไม่มีใครในนี้เคยตาย ถามไปก็หาคำตอบที่แท้จริงไม่ได้อยู่ดี แม้บางคนบอกได้ญาณจึงรู้ เราก็ยังเชื่อไม่ได้อยู่ดีเพราะยังไม่มีอะไรพิสูจน์ได้ด้วยกาย หู ตา จมูก ลิ้น ดังนั้นการจะรู้ได้ก็ต้องลองตายดูเอาเอง แต่ ถ้าเป็นดิฉันจะไม่เสี่ยงคะเพราะเชื่อว่าเรามีชีวิตเดียว ใช้ให้คุ้ม และรอดูเวลานั้นมาถึง พอเราตายก็จะรู้เอง แต่ดิฉันเชื่อเรื่องผีคะ ว่่ามีจริงแต่เฉพาะพลังงานตกค้างบางกรณี เท่านั้น ส่วนใหญ่จะไม่มี
     
  3. ราชะ

    ราชะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +165
    แต่ดิฉันเชื่อเรื่องผีคะ ว่่ามีจริงแต่เฉพาะพลังงานตกค้างบางกรณี เท่านั้น ส่วนใหญ่จะไม่มี

    หมายถึงอะไรครับ

    แต่เฉพาะพลังงานตกค้างบางกรณีเท่านั้น หมายถึง บางคนตายไปอาจจะมีพลังงานตกค้าง (วิญญาณ)

    ส่วนใหญ่จะไม่มี หมายถึง คนส่วนใหญ่ตายไปแล้วสูญเหรอครับ
     
  4. Deep Blue

    Deep Blue เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +887
    ถ้ามันไม่ทุกข์ร้อน คงไม่ไปเที่ยวขอส่วนบุญชาวบ้านหรอกครับ
     
  5. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    ไม่อยากรับรู้ต้องตายในอรูปฌาณ
     
  6. สีลสิกขา

    สีลสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    1,271
    ค่าพลัง:
    +7,137
    คหสต.นะคะ เหตุใดท่านจขกท. จึงคิดเช่นนี้ล่ะคะ เกิดเป็นคนยังได้ทำในสิ่งที่อยากจะทำได้
    แต่ถ้าเป็นวิญญาณต้องรอส่วนบุญส่วนกุศลจากมนุษย์ และรอเวลาที่จะได้เปลี่ยนภพภูมิอีกครั้ง ไม่ทำมาหากินแล้วจะเอาอะไรกินกันละหนอ..ยกเว้นแต่ว่าเป็นดวงจิตวิญญาณที่เสวยบุญ อันนั้นคงจะดีเป็นแน่

    แค่คน กับ มนุษย์ นั้นก็ต่างกันแล้ว ถ้าเป็นวิญญาณล่ะ ยิ่งต้องต่างกันไปอีกเพราะมนุษย์ คือสัตว์ดลกที่มีจิตใจสูง มีเหตุผลมีศีลธรรม ส่วน คน เป็นสัตว์โลกที่มีจิตใจต่ำ ไม่มีศีลธรรม ไม่มีเหตุผล คำว่ามนุษยธรรมจึงแปลว่า ธรรมะที่ทำให้คนเป็นมนุษย์อย่างสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจ เมื่อพัฒนาจิตใจจากคนขึ้นมาเป็นมนุษย์ได้ ก็คือการเป็นคนดีนั่นเอง

    คำว่า กรรม เป็นคำกลางๆ แปลว่า การกระทำ แยกออกไปเป็นกรรมดีและกรรมชั่ว ทำได้ ๓ ทาง คือทางกาย วาจาและใจ(คิด) คำว่า วิบาก หรือผลของกรรม คือผลที่เกิดจากการกระทำทั้ง ๓ ทางดังกล่าวนั่นเอง

    เรื่องที่เราไม่ได้สร้างหรือทำ แต่เราต้องมารับภาระ ถ้าเราทำใจรับภาระ ถือเป็นกรรมเก่า ถ้าเราเต็มใจทำ ถือเป็นการสร้างบารมี ถ้าทำใจให้สงบได้ จะได้รับความสุข ** แค่เราคิดแต่สิ่งที่ดีและเป็นกุศล ก็ทำให้เรามีความสุขใจได้นะคะ สุขใดไหนจะเท่าสุขที่มีมาจากภายในของเราเอง **
     
  7. aries

    aries เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,404
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,211
  8. รโชหรณัง

    รโชหรณัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    547
    ค่าพลัง:
    +732
    คงต้อง แยกความสงสัยออกเป็นดังนี้ครับ
    ตายไปแล้วสูญหรือไม่
    ถ้าไม่สูญแล้วจะมีสภาวะเช่นไร จะต้องลำบากทำมาหากินหรือไม่

    คำถามแรก ตายแล้วสูญหรือไม่นั้น เป็นเรื่องที่พิสูจน์ได้ยาก เพราะคนตายก็ไม่ได้มีโอกาสมาบอก นอกจากคนเป็นจะฝันถึง แต่ก็ไม่ชัดแจ้งจนจะสรุปได้ว่าตายแล้วสูญหรือยังอยู่ แต่อย่างไรก็ตาม แทนที่จะพิสูจน์การตาย เราก็พิสูจน์ที่การเกิดแทน ว่าหากมีคนเกิดแล้วคนที่ตายไปก่อนหน้าก็ย่อมมาเกิดได้ด้วย เรื่องนี้มีปรากฎการระลึกชาติมากมายหลายคน ในพระไตรปิฎกก็ปรากฎหลายความ อีกทั้ง การเกิดใหม่ของบุุคลก็ปรากฎว่า บางคนมีปัญญา มีพรสวรรค์ มีใจบุญสุนทาน มีความสามารถต่างๆ แตกต่างกันไปมากน้อยราวกับว่าได้เคยฝึกฝนฝึกปรือแตกต่างกันมา อันพ้นจากกรรมพันธ์จะตอบคำถามได้ เรื่องนี้ก็พอจะเชื่อได้ว่า ตายแล้วไม่สูญ
    เมื่อตายแล้วไม่สูญ ถามว่าไปไหน ก็ปรากฏให้เห็นว่่า คนทำอย่างไรก็ไปสู่ที่แบบนั้น บางคนก่อนจะตายก็สงบ บางคนก่อนจะตายทุรนทุราย บางคนขาดสติบ้าคลั่งก่อนตาย บางคนตายไปแบบปัจจุบันทันด่วนไม่รู้ตัว
    สิ่งเหล่านี้ชี้ให้เห็นถึงสภาพจิตใกล้ตาย อีกทั้งปรากฏในพระไตรปิฎกว่า คนตายบ้างก็ไปเกิดเป็นเทวดา บ้างก็ไปเป็นเปรต เป็นสัตว์ เป็นสัตว์นรก ขึ้นอยู่กับกรรมที่สร้างมา
    มาถึง ข้อที่เจ้าของกระทู้คิดว่า ตายไปแล้วสบาย ไม่ต้องทำงาน จึงต้องทบทวนให้ดีว่า หากเราตายไปแล้วความดีของเราไม่พอ ต้องไปเกิดเป็นสัตว์ ต้องอยู่หลบๆซ่อนๆ เพราะมีภัยรอบด้าน เช่น หนูต้องกลัวแมว นกต้องกลัวเหยี่ยว ทุกๆวันต้องอยู่อย่างระแวงระวังภัย นอนไม่กล้านอน เพราะไม่มีใครปกป้องคุ้มภัยให้ กินก็ต้องออกหากินเองทุกวัน บางวันมีอาหาร บางวันไม่มีอาหาร น้ำท่า ไม่มีให้ใช้ทั่วไป ทุกข์ใจเศร้าใจบอกกับใครไม่ได้ ในชีวิตต้องไปตัวเดียว เจ็บไข้ได้ป่วยไม่มีหยูกยา ต้องทนทรมานไป นี่เพียงเศษเสี้ยวของสัตว์ที่จะต้องเผชิญ ส่วนเปรต สัตว์นรกนั้น ทุรนทุรายกว่านี้มากมายนัก จึงว่ามนุษย์นี้มีบุญนักหนา
    เร่งทำความเพียร ประกอบกรรมดีเถิดครับ อย่าไปสนใจเรื่องฆ่าตัวตายใดๆ หากทำกรรมชั่วไป จิตไปสู่อบาย มันจะร้อนรน ทุกข์สาหัสมาก
     
  9. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ๔. อนุราธสูตร
    ว่าด้วยสัตว์บุคคลไม่มีในขันธ์ ๕
    [๒๐๘] สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน ใกล้พระนคร
    เวสาลี. ก็สมัยนั้น ท่านพระอนุราธะอยู่ที่กระท่อมในป่า ไม่ไกลพระผู้มีพระภาค. ครั้งนั้น
    อัญญเดียรถีย์ปริพาชก พากันเข้าไปหาท่านพระอนุราธะจนถึงที่อยู่ ได้สนทนาปราศรัยกับท่านพระ-
    *อนุราธะ ครั้นผ่านการสนทนาปราศรัย พอให้ระลึกถึงกันแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้ว
    จึงได้กล่าวกะท่านอนุราธะว่า ดูกรท่านอนุราธะ พระตถาคตเป็นอุดมบุรุษ เป็นยอดบุรุษ ทรงถึง
    ความบรรลุชั้นเยี่ยม เมื่อจะทรงบัญญัติ ย่อมทรงบัญญัติ ในฐานะ ๔ นี้ คือสัตว์เบื้องหน้าแต่
    ตายแล้ว ย่อมเกิดอีก ๑ ย่อมไม่เกิดอีก ๑ ย่อมเกิดอีกก็มี ย่อมไม่เกิดอีกก็มี ๑ ย่อมไม่เกิดอีก
    อีกก็หามิได้ ๑. ...

    .....

    พ. ดูกรอนุราธะ ก็โดยที่จริง โดยที่แท้ เธอค้นหาสัตว์บุคคลในขันธ์ ๕ เหล่านี้ใน
    ปัจจุบันไม่ได้เลย ควรแลหรือที่เธอจะพยากรณ์ว่า พระตถาคตเป็นอุดมบุรุษ เป็นยอดบุรุษ ถึง
    ความบรรลุชั้นเยี่ยม เมื่อจะบัญญัติ ย่อมบัญญัติเว้นจากฐานะ ๔ เหล่านี้ คือ สัตว์เบื้องหน้าแต่
    ตายแล้ว ย่อมเกิดอีก ๑ ย่อมไม่เกิดอีก ๑ ย่อมเกิดอีกก็มี ย่อมไม่เกิดอีกก็มี ๑ ย่อมเกิดอีก
    ก็หามิได้ ย่อมไม่เกิดอีกก็หามิได้ ๑?

    อ. ข้อนั้นไม่ควรเลย พระเจ้าข้า.
    พ. ถูกละๆ อนุราธะ ทั้งเมื่อก่อนและทั้งบัดนี้ เราย่อมบัญญัติทุกข์ และความดับทุกข์


    http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=17&A=2586&Z=2679&pagebreak=0

    ท่านจขกท คงได้รับอิทธิพลจากลัทธิมิจฉาทิฏฐิ ประเภทใดประเภทหนึ่งใน๖๒ชนิดที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้จึงเกิดความลังเลสงสัยขึ้นเช่นนี้..

    อ่านเรื่องมิจฉาทิฏฐิ ๖๒ได้ที่นี่ครับ..

    http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=09&A=0&Z=1071


    เมื่อมีมิจฉาทิฏฐิเสียแล้วก็นับว่าเสียหายมาก เพราะไม่อาจดำเนินชีวิตไปตามทางที่ปลอดภัยที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้เรียกว่า"มรรคมีองค์๘" อันมี"สัมมาทิฏฐิเป็นข้อแรก"..ได้..

    ไม่ทราบว่าท่านจขกทนับถือลัทธิหรือศาสนาใด?..

    หากท่านเป็นชาวพุทธ จะไม่สงสัยว่ามีใครหรืออะไรที่เรียกว่าวิญญานไปเกิดที่ใหน หรือสูญหายไปเลย..

    การเชื่อว่าตายแล้วมีวิญญานล่องลอยออกจากร่าง เตร็ดเตร่ไปเรื่อยเปื่อยหรือติดค้างในที่ใดที่หนึ่ง ไม่ปรากฏในคำตรัสสอนของพระพุทธเจ้า....

    เราผู้ไม่รู้ พึงยังศรัทธาอย่างยิ่งให้มีขึ้นในความตรัสรู้ดีของพระพุทธเจ้า .. เมื่อมีศรัทธาย่อมสามารถเงี่ยโสตลงสดับพระธรรมที่ทรงตรัสสอนไว้ดีแล้วได้ ย่อมได้ปัญญา ละความลังเลสงสัยอันเป็นทางมาเพื่อความกันดารเสีย..เมื่อจะเชื่อใครๆก็พึงเชื่อพระพุทธเจ้าเถิด เพราะทรงมีพระมหากรุณายิ่งใหญ่ หมดจดจากกิเลสแล้ว.........ละได้แล้วซึ่งทุจริตทั้งหมดได้จึงไม่ทรงเคยกล่าวลวง พาใครให้หลงงมงาย หรือนำใครเข้ารกชัฏมีอบายทุคติเป็นที่ไปเลย..ผู้มีศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้า มีแต่สามารถพ้นทุกข์ได้โดยถ่ายเดียว ...เท่านั้น..
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2013
  10. photocycling

    photocycling เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    491
    ค่าพลัง:
    +1,286
    ..ผู้มีศรัทธาในคำสอนของพระพุทธเจ้า มีแต่สามารถพ้นทุกข์ได้โดยถ่ายเดียว ...เท่านั้น..
    .


    ศรัทธาอย่างยิ่ง..

    ปล. ยังไงก็อย่าฆ่าตัวตาย เสี่ยงกว่ามีชีวิตอีกเหอะ
    ถึงแม้การมีร่างกายมันจะเป้นเรื่องน่าเบื่อก็เหอะ นะ ปล่อยให้เป็นไปตามวัฏจักรโลก
    แต่เราก็ควรทำตัวให้เหนือโลก อย่าเป็นแค่จุลินทรีย์บนโลก อย่าให้โลกกำหนดเรา

    เฮ้อ .. ก็ยาก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2013
  11. Pukku

    Pukku เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2012
    โพสต์:
    327
    ค่าพลัง:
    +899
    ไม่รู้สิยังไม่เคยตายนี่นาอิอิ แต่ถ้าฆ่าตัวตายแล้วสบายคงไม่มีวิญญาณมาเร่ขอส่วนบุญหรอกคุณ หรือไปบางที่นอนอยู่ดีๆดันมาอำเพราะอยากได้บุญ แบบบางรายผูกคอตายแล้วยังมาปรากฏตัวให้คนผ่านไปผ่านมาเห็นจนได้ออกกำลังกายด้วยเก๋ซะไม่มี^^
     
  12. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301


    เรื่องศาสนาพุทธนี้ดิฉัน 40/60 คือ เชื่อว่าเรื่อง ผีเรื่องระลึกชาตินี้ มันมีจริง แต่ไม่ใช่ทุกคน คนส่วนใหญ่ตายไปแล้วสูญ (ความเชื่อส่วนตัวของดิฉัน) แต่ถ้าพูดในนี้อาจโดนด่าได้........ แต่ก็มีเพียงบางกรณีที่มีวิญญาณหรือระลึกชาติ แต่กรณีพวกนี้มันน้อย.......ถ้ามันเยอะเราทุกคนต้องจำอดีตชาติได้ซิ ทำไมเราจำไม่ได้ละ และอีกประการ คือ มันฟังไม่สมเหตุสมผล เรื่องที่ การบอกว่าเราต้องเจออะไรที่มันแย่ๆหรือมีทุกข์ในชาตินี้ทั้งที่เราเป็นคนดี แล้วมาบอกว่าเพราะชาติก่อนเราเป็นคนเลว ชาตินี้แม้เป็นคนดีก็ถูกแกล้ง ก็ในเมื่อมาเกิดเป็นคนใหม่แล้วนี้ แล้วเจ้ากรรมนายเวรจะยังมาแกล้งอะไรอีก ทำไมไม่ทำให้จำได้ไปซะเลยละ จะให้มาลืมแล้วก็ไปทำเลวใหม่อีกทำไมกัน

    เรื่องนี้ดิฉันยังให้คำตอบคุณ จขค ร้อยเปอร์เซนไม่ได้จนกว่าจะพิสูจน์ได้เสียก่อน อย่างของ คริตส์ กะ อิสลาม มาฟังๆดู ก็มีเหตุผล บางส่วน อย่างที่เขาบอก คนตายปุ้บ วิญญาณ จะไปอยู่ในที่ของโลกวิญญาณเอง ไม่มาปะปน หลอกหรือ ปรากฏ ให้คนอื่นเห็น แต่ ผีที่คนเราสัมผัสได้หรือบอกว่าเจอ นั้นเป็น ปีศาจไม่ใช่วิญญาณของมนุษย์ที่ตาย

    จากประสบการณ์ส่วนตัว ดิฉันอยู่มา ขนาดคนที่สนิทๆกับดิฉันซึ่งตายไป และสัญญาด้วยว่าจะมาหา ถ้าวิญญาณมีจริง ทุกวันนี้ก็เงียบมาก ตั้งแต่เขาตายไปดิฉันไม่เจอไม่เห็นใดๆทั้งสิ้น แต่ผี ที่ดิฉันสัมผัสได้กลับเป็นสิ่งที่ไปตรงกับของศาสนาคริตส์ หรือ อิสลามมากกว่า ที่เขาเรียกว่าปีศาจ

    ดิฉันเชื่อว่าปีศาจที่มันทำให้คนในบ้านดิฉันตายหมด แต่ดิฉันคนเดียวที่ไม่เป็นอะไรเพราะ ตามของความเชื่อ โบราณของทางตะวันตกเขาบอกว่า ปีศาจมันจะทำร้ายหรือยุ่งเกี่ยวได้เฉพาะคนที่ เรียกมัน เช่น การพยามนั่งสมาธิให้จิตว่างแล้วมันก็สื่อได้, คนที่งมงาย, คนที่ไม่มีศีลธรรม เป็นต้น แต่ ปีศาจไม่สามารถทำร้าย ผู้ที่เป็นพรหมจรรย์ เพราะผู้เป็นพรหมจรรย์ไม่เคยรับรู้อารมย์ต่ำว่าเป็นยังไง......

    ดิฉันไม่ใช่ทั้ง พุทธ ทั้ง คริตส์ หรือ อิสลาม ไม่มี ไบแอส เอาความเชื่อเข้ามาผสม แต่ตอบจากประสบการณ์ ที่เห็นมา ว่า เป็นไปในทางไหน ซึ่งส่วนไหนไปตรกับศาสนาไหน หรือ ข้อปฏิบัติของศาสนาใดเป็นความจริงที่ดฉันประสบและตรงกับข้อศาสนานั้นก็จะยืนยันกับตัวเองว่าสิ่งนี้เราพิสูจน์แล้วจริง เราก็เชื่อของเรา ส่วนคนอื่นเขาก็ต้องพิสูจน์ของเขาเอาเอง



    edit - ดิฉันเคยเจอประสบการณ์ที่ประหลาดมากครั้งนึง ตอนนี้เริ่มเจออีกแต่ ปีที่แล้วเจอแรงกว่านี้ คือตอนที่คนในบ้านดิฉันที่ต่างประเทศเสียหมด ภายในอาทิตย์เดียว ปีศาจมันคงอยากเอาเราไปอีกคนแต่มันทำไม่ได้ ช่วงนั้นดิฉันเดินเยอะมากแะเจอปัญหาหลายอย่าง และเดินเยอะจนเท้าด้านนึง มีตรงสันเท้ามีถุงน้ำ พองออกมาเจ็บมาก ดิฉันไปบ้านทนายความซึ่งเธอมีพี่สาวเป็นแม่ชีคาธอลิก และมีดินที่เขาเอามาจากเยรูซาเลม เธอ เอาเบ็กกิ้งโซดามาห่อเท้าของดิฉันให้ถุงน้ำแตก คุณเชื่อไหม พอถุงน้ำมันแตกอยู่ๆก็มี ตะขาบ มีหนอน มีสัตว์ แมลงประหลาดๆที่มันขึ้นตามศพ เดินมาจากเท้าเรา เหยียบก็ไม่ตาย จนเขาต้องเอาเกลือศักดิ์สิทธิ์ที่เอามาจากเยรูซาเล็มสาดไป ที่ไอ้ตัวพวกนั้น มันถึงจะตาย ดิฉันเชื่อตั้งแต่นั้นเลยปีศาจมันมีจริง มันตามเราอยู่ แต่ทำอะไรไม่ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2013
  13. naroksong

    naroksong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +1,135
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เปรียบเหมือนบุรุษโยนแอก ซึ่งมีช่องเดียวลงไปในมหาสมุทร (ซึ่งมี)เต่าตาบอดอยู่ในมหาสมุทรนั้น ล่วงร้อยปีๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่งๆ เธอทั้งหลายจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน เต่าตาบอดนั้น ล่วงร้อยปีๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่งๆ จะสอดคอให้เข้าไปในแอกซึ่งมีช่องเดียวโน้นได้บ้างหรือหนอ?

    ภิกษุทั้งหลายกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าล่วงกาลนานไปบางครั้งบางคราว เต่าจะสอดคอให้เข้าไปในแอกนั้นได้บ้าง.

    พุทธะ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย เต่าตาบอด ต่อล่วงร้อยปีๆ มันจะโผล่ขึ้นคราวหนึ่งๆ สอดคอให้เข้าไปในแอกซึ่งมีช่องเดียวโน้น ยังจะเร็วกว่า...ข้อนั้น เพราะเหตุไร?
    เพราะว่าในวินิบาตนี้ ไม่มีการประพฤติธรรม ไม่มีการประพฤติชอบ ไม่มีการกระทำกุศล ไม่มีการกระทำบุญ มีแต่การเคี้ยวกินกันและกันการเคี้ยวกิน ผู้มีกำลังน้อยกว่า ย่อมเป็นไปในวินิบาตนี้... เพราะฉะนั้นแหละ เธอทั้งหลายพึงกระทำความเพียร เพื่อรู้ตามความเป็นจริงว่า นี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา.


    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 สิงหาคม 2013
  14. อินทรบุตร

    อินทรบุตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    2,511
    ค่าพลัง:
    +7,320
    ความคิด ความเชื่อ จะบดบังความจริง

    ถ้ามีสติ รู้ ตั้งอยู่เฉยๆ จะมองเห็นความจริง
     
  15. อภิมาร

    อภิมาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    711
    ค่าพลัง:
    +2,154


    สัญชีวมหานรก นรกขุมนี้เมื่อใครตกลงไปแล้ว

    จะได้รับทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส เช่นถูกนาย

    นิรยบาลจับมัดให้นอนบนแผ่นเหล็กแดงที่ร้อนด้วย

    ไฟนรก ถูกฟันด้วยดาบอันคมกริบจนร่างกายขาด

    เป็นท่อนๆ ถูกถากถูกเฉือนเนื้อจนหมดร่างกาย

    เหลือแต่โครงกระดูก เมื่อสิ้นใจตาย ลมกรรมพัดมาต้อง

    กายให้ฟื้นแล้วก็รับทุกข์จากนายนิรยบาลเช่นเดิม

    อายุขัยของสัญชีวมหานรกเท่ากับ ๕๐๐ ปีนรก ๑วัน

    ในมหานรกขุมนี้ เมื่อเทียบกับเวลาในมนุษย์โลกแล้ว

    เท่ากับ ๙ ล้านปีในมนุษย์โลก ถ้า ๕๐๐ ปีนรกก็เท่ากับ

    ๑,๖๒๐,๐๐๐ ล้านปีในเมืองมนุษย์.(พวกฆ่ามนุษย์ด้วยกัน

    รวมทั้งพวกฆ่าตัวตายส่วนมากจะลงนรกขุมนี้) เหอ..ๆ..ๆ..รออยู่.
     

แชร์หน้านี้

Loading...