เรื่องเล่า ตื่นนอน ตอนสายๆ

พระปรกโพธิ์ใบ ......

ชื่อนี้ ฟังดู แปลกๆ ครับ ไม่แน่ใจว่า หมายถึง พระอะไร
หรือ พิมพ์ อะไรผิด ไป

หรือเปล่า ครับ

 

ที่ ค้างเอาไว้
ว่าจะเล่า เรื่องพระเครื่องที่ มีพุทธคุณ ทิพยอำนาจ ด้านคุ้มครองป้องกันภัย
ระดับกันกระสุนได้

อันที่จริง หากคนที่ เคยฟังผมเล่า เรื่องพระเครื่อง มา
หากสังเกต สักหน่อย ก็ จะพบว่า แต่ละท่าน แต่ละองค์ ที่ผมนำมาเล่า
ล้วน แต่เป็นพระเครื่องที่ ที่พุทธคุณ ด้านคุ้มครอง ดีเยี่ยม ทั้งนั้น

บางองค์ ค่านิยม สูงมาก หรือ น้อย เท่านั้น ข้อนี้ ก็ เป็นไปตามยุคสมัย

สำหรับวันนี้ ขอแนะนำ พระเครื่อง ของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ( วัดบ้านแค ) จ.ชัยนาท

แม้นท่านจะมรณะภาพไป ตั้งแต่ วันที่ 12 เมษายน 2522

มาจนทุกวันนี้ ก็ยังมีประชาชน ทะยอยไป กราบสรีรสังขาร ท่าน ทุกวัน
(สริรสังขาร ท่านไม่เน่าไม่เปื่อย)
ยิ่งมาสมัยนี้ น่าจะมาขึ้น เสียด้วยซ้ำไป

หลวงพ่อกวย ท่านเป็นพระ ที่รักลูกศิษย์ มาก
สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ลูกศิษย์ คนใกล้ คนไกล หรือใครเดือดร้อนมา
ขอให้ท่านช่วย หากช่วยได้ ท่านก็ ช่วยให้สำเหร็จ ผล ทุกรายไป

แม้น ท่านละสังขารไปแล้ว
ใครทุกข์ร้อนประการใด ก็ มี คนไปขอ กับรูปหล่อ ของท่านบ้าง
ที่ โลงแก้ว สรีรของท่านบ้าง

บางคนอยู่ไกล นำรูปภาพ ของหลวงพ่อ มา จุดธูป บอกกล่าว ขอพระ
ท่าน ก็ ได้ ผลสำเหร็จ เป็น อัศวจรรย์

หลวงพ่อ ท่าน ชอบสร้งพระ มาก
พอว่างจากกิจธุระ ท่านก็ มักจะ ปิดกุฏิ ทำพระ เสกพระ เพียงคนเดียว

ตอนทำพระ เสก พระท่านจะ ไม่ให้ใครเข้าไป ยุ่ง จึงปิดกุฏิ เสีย

ท่านได้สร้างพระไว้ มากมายหลายแบบ
ทั้ง เนื้อดิน เนื้อชิน เนื้อผง และ เหรียญ

สมัยก่อน ยุคเก่าๆ คนมักชอบ พระที่หลวงพ่อ ท่านทำเอง มากกว่า เหรียญ
เพราะ ท่านทำเอง กับมือ ตั้งแต่ ลบผง เสกผง นำมวลสาร มาผสม
ต้องโขก ในครก จนละเอียด เข้ากันดี ( ตอนโขกผง นั่งตำกันนานหลายชั่วโมง หลังๆ ท่านมักใช้ลูกศิษย์ มาช่วยตำ )
พอตำเสร็จ ก็ เอาผงที่ ตำเสร็จ เข้ากุฏิ ไป กดแม่พิมพ์ เป็นองค์พระ
ท่านทำเอง อย่างนี้ มาโดยตลอด

ที่สั่งทำจากโรงงาน ก็มี ในยุคหลังๆ ที่ท่านอายุมาแล้ว

แต่ ที่ผมจะแนะนำ ในวันนี้ ได้ แก่ เหรียญ หลวงพ่อกวย
รุ่น 1 แพงมาก ค่านิยม เกินแสน แม้นองค์ที่สึกสักหน่อยก็ ยังเกินแสนอยู่ดี
รุ่น 2 นะโมตาบอด รุ่นนี้ จริงๆแล้ว มี 2 บล๊อค
เรียกว่า บล๊อค 1 วงการ เค้านิยมกัน สภาพสวยๆ น่าจะไม่น้อยกว่า 5 หมื่น
หาที่สึกๆ ได้ ก็ ราคาลดหลั่นลงมา
บล๊อค 2 นี้ วงการพระเครื่อง เค้า ไม่เล่นกัน เค้าว่าเก๊ ยกความชั่วให้ ศิษย์คนสุดท้าย ไป แต่ ผม เอง ได้นำไปทดสอบดูแล้ว ว่า ดีจริง ระดับกันกระสุนได้

เหรียญรุ่นสาม มี 3 แบบ คือ
1. เหรียญหลังหนุมาณ
2. เหรียญหลังยันต์
3. เหรียญแจกแม่ครัว


เหรียญรุ่น 1 และ รุ่น 2 หายาก แม้ รุ่นสองบล๊อคสองที่ เค้าว่าเก๊ ก็ ยังหายากมาก กว่า ที่เค้าว่า แท้ ๆ อีก....55

สรุปว่า ให้ หา เหรียญรุ่น สาม ดีกว่า
หาง่าย ราคา แค่หลักหมื่น

คือ
เหรียญรุ่น3 หลังหนุมาณ นี่แพงหน่อย ราคาสวยๆ ประมาณ 4 หมื่น
เหรียญร่น3 หลังยันต์ ราคา พอประมาณ สวยๆ ประมาณ 2 หมื่น
เหรียญรุ่น3 แจกแม่ครัว ราคา เบาสุด สวยๆ ประมาณ 1 หมื่นบาท
แต่เหรียญแจกแม่ครัว หายากไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก


สรุปว่า หา เหรียญหลังยันต์ ดี และ หาง่าย ราคา สวยๆ สองหมื่น
หรือ หา ที่ สวยหย่อนลงมาหน่อย ก็ หมื่นหรือ หมื่นกว่่าบาท ก็ หาได้ไม่ยาก


อันที่จริง หากดูเป็น ว่าแท้ไม่แท้ เปิด เน็ต ก็มีแล้ว
หรือ เข้าไป ที่ พันธ์ทิพย์งามวงวาน ชั้น3 ที่เป็นสนามพระ ไปถามหา ร้านที่เป็นสายตรง พระหลวงพ่อกวย ก็ มี แน่ๆ
ร้านพวกนี้ เค้าเป็นสายตรง ไม่ผิดพลาด แต่เค้าขายแบบมีรับประกันความแท้
ในราคาที่สูง กว่าหน่อย ก็ ปลอดภัยดี

ใคร อยากได้ จริงๆ แล้ว ไม่รู้ ว่าจะหาอย่างไง ดูยางไง
ติดต่อผมมา จะแนะนำให้



ภาพประกอบ ขอยืมภาพมา จากเวปวัดโฆสิตาราม , ร้านนะชาลิติ ,คุณsaksittew ฯ
ขอขอบคุณมา ณ โอกาสนี้​

 

เหรียญหลวงพ่อกวย
ทั้ง 3 รุ่น นี้
มั่นใจได้ ในพุทธคุณ ทิพย์อำนาจ ด้านคุ้มครองกันภัย ระดับกันกระสุนได้ จริง

การันตรี โดย ดาวทะเลทราย ตัวจริง.............55​

 

อุ้ย.. 9ใบครับพระปรกโพธิ์9ใบ ในเคล็ดการบูชาคาถาและสิ่งที่ควรรู้สำหรับมีไว้บูชาติดตัวฯลฯ

 

พระสมเด็จปรกโพธิ์ เก้าใบ
ของหลวงพ่อกวย การอาราธนา พกติดตัว ก็ เช่นเดียวกับพระทั่วไป ครับ

คือ ขึ้นนะโม สามจบ
พุทธัง อาราธนานัง
ธรรมมัง อาราธนานัง
สังฆัง อาราธนานัง
ตินนัง รัตนานัง อานุภาเวนะ สัพพะโสตะถี ภะวันตุเต
แล้ว อธิฐาน ขอให้ท่าน คุ้มครอง ให้ ปลอดภัยจากภยันอันตราย ทั้งหลายทั้งปวง ให้มีความสุข ทั้งกายทั้งใจ ........ ฯลฯ.......
..... อธิษฐาน ตามปรารถนา.........

ส่วนบางท่าน ก็ ชอบว่าคาถา จินดามณี ด้วย
"นะสิวังพรหมา มะอะอุ" สัก สามจบ เก้าจบ
(เป็นบทย่อ) บทเต็ม ไป ค้นหาได้ในเวป วันโฆสิตาราม


พระหลวงพ่อกวย ท่านเสกมาดีแล้ว

วิธีใช้ ไม่ต้องทำอะไรพิเศษ ไปให้ยุ่งยาก

เพียง ระลึกถึง อธิษฐาน ขอ
หมั่นสร้างความดี ทำบุญกุศล เสมอ
รักษาศีลได้ ก็ ยิ่งดี ท่านชอบ คนดี คนทำมาหากิน

ลูกศิษย์ท่าน ในสมัยก่อน ที่ เป็นคนธรรมดาๆ
เป็นคนดี ทำมาหากิน ก็ เจริญรุ่งเรือง เป็นพ่อค้า เถ้าแก่ใหญ่ กัน

แม้นพวก ที่ออกไปในแนว นักเลงหัวไม้ แต่มีคุณธรรม
พวกนี้ ท่านก็ ช่วย ให้ รอดพ้นอันตราย
แต่ไม่ทำมาหากิน มันก็ คงรวยยาก นะ

ให้มองตามเหต ตามผล ที่เป็นไปได้

แต่ เรื่อง คุ้มครอง ป้องกันภัย ระดับกันกระสุน นี่ มั่นใจได้ เต็ม100%

ครับ
....... เห็นซ้ำๆ มาหลายครั้งแล้ว ครับ

 

พระสมเด็จปรกโพธิ์เก้าใบ
หลวงพ่อกวย ท่านสร้างไว้ สองแบบ
คือ ด้านหน้า แม่พิมพ์เดียวกัน
ส่วนด้านหลัง แบ่งเป็นสองแบบ
ด้านหนังเป็นยันต์ นะโมพุทธายะ
หลังยันต์ ก็ยังแบ่งออกได้อีก เป็น
หลังยันต์ ไม่มี พ.ศ. กับ มี พ.ศ.2513

กับ ด้านหลังเป็นรูปพระแม่ธรณีย์​

ดัวอย่าง ดังภาพประกอบ นะครับ



พระสมเด็จปรกโพธิ์เก้าใบ หลังยันต์ มี พ.ศ.2513



พระสมเด็จปรกโพธิ์เก้าใบ ด้านหลังพระแม่ธรณีย์

 

สำหรับพระสมเด็จปรกโพธิ์เก้าใบ หลังรูปพระแม่ธรณีย์ นี้
ยังมี วิธีใช้ แบบพิศดาร ออกไปอีก คือ ขอบารมี จากแม่ธรณีย์ มาช่วย
ในกรณี คับขัน เข้าตาจน ฯ เป็นต้น
ในส่วนนี้ ผู้สนใจ ให้เข้าไปดู คาถา ขอแม่ธรณีย์ มาช่วย ของหลวงพ่อกวย นะครับ

​

 

อยากให้ อ.suwi เล่าเรื่องลูกแก้วจักรพรรดิขนาดใหญ่ 3 องค์ในบ้านอาจารย์ครับว่ามีความเป็นมาอย่างไร แล้วท่านมาช่วยอะไรบ้าง ที่ผมรู้จัก มี 2 องค์ เป็นไพไรต์กลมใหญ่ 1 องค์ ผมยังไม่เคยเจอที่มีขนาดใหญ่และสมบูรณ์มากขนาดนี้มาก่อน แล้วก็มีแคลไซท์กลมใหญ่สีส้มอีก 1 องค์ องค์ที่สามมีสีออกไปทางม่วงอ่อน ผมเดาไม่ถูกว่าเป็นชนิดใหนครับ ที่อยากทราบเพราะผมชอบสะสมหินสีอยู่บ้างและสนใจเรื่องจักรพรรดิกายสิทธิ์ต่างๆด้วยครับ

 

เรื่องที่ ๔ เรื่องของจักรพรรดิ์

ในช่วงท่องเที่ยวกับ สุวิ๒ นี่ ได้ไปพบสถานที่หนึ่ง สวยมาก มีทั้งขุนเขา มีสายน้ำ แมกไม้ร่มเย็น มีลานกว้าง
สุวิ๒ มันว่า สถานที่นี้เป็นสถานที่ฝึกฝีมือ ของเหล่าเหล่าทวยเทพ อสูร มารและยักษ์ นานๆทีจะมีมนุษย์สักท่านหนึ่งเข้ามาแจมร่วมการฝึกด้วย
ผู้ที่ผ่านการฝึกฝนจากที่นี้ ล้วนเป็นยอดฝีมือ หากได้ออกผาดโผนในยุทธจักร ล้วนเป็นสุดยอดผู้เยี่ยมยุทธทั้งสิ้น

พอมันเล่าถึงตอนนี้ ใจนึกไปถึงหนังสอง-สามเรื่อง
เรื่องแรกเป็นหนังจีน ซุนหงอคง ไอ้ลิงตัวนี้มันก็ไปเรียนวิชาที่ขุนเขาแห่งหนึ่ง สถานที่สวยงามมาก
หนังเรื่องที่สอง ก็เรื่อง เพอร์ซี่ แจ๊คสัน ตอนสายฟ้าที่หายไป มันก็มีตอนที่ได้เข้าไปฝึกฝีมือ ณ สถานที่แห่งหนึ่ง มีขุนเขา สายน้ำ แมกไม้และสายหมอก
และก็หนังเรื่อง เฮ็นรี พอตร์เตอร์ ที่ได้ไปฝึกสีมือที่ โรงเรียน แห่งหนึ่ง

ใจก็นึกไอ้สอง คงจะพามาเรียนหนังสือแน่ๆ
แต่ที่ไหนได้ มันเหมือนเมืองร้างไร้ผู้คน ไมมีการเรียน ไม่มีการสอน
มันพาไปดูห้องสมุดที่เก็บตำรับตำราต่างๆ มันสอนวิธีอ่านตำราเหล่านี้
ตำราที่อ่านอยากคือตำราไร้อักษร
มันเล่าว่า ที่นี้รกร้างมานานแล้ว ถูกปกปิด มีคนรู้ไม่มาก
ผู้รู้เข้ามาอ่านหาความรู้ได้ แต่ห้ามเอาตำราออกไป แต่อนุญาติให้คัดลอกเอาไปได้
เออดีนิเดี๋ยวตู จะเช่า ไอ้เครื่องซีร๊อค มาอัดสำเนาให้เกลี้ยงเลย ไอ้สองก็ไม่ว่าอะไร ได้แต่หัวเราะหึๆ
มันว่า ระดับเอ็งนี่ ผ่านตารอบเดียว มันก็ถูกบันทึกไว้ในเมมโมรีหมดแล้ว เสียเวลานะ

มันพามาที่นี่ อีกหลายรอบ หยิบตำราให้อ่านหลายเล่ม ล้วยเป็นวิชาที่ว่าด้วยความเป็นจักรพรรดิทั้งสิ้น
มันว่าอ่านๆ จำๆไว้ ทำได้ไม่ได้ว่ากันอีกที

แต่สุดท้ายมันว่า มันคงไม่ได้อยู่เที่ยวสนุกด้วย
เอ็งต้องทำให้เป็น ตนต้องเป็นที่พึ่งของตนให้ได้ ถ้าทำไมได้ทำไม่เป็นนี่ เอ็งอาจเจ็บตัวถึงตายจากความเป็นมนุษย์ได้
อย่างหนักก็ ถูกทำลายดวงจิต ให้แตกดับ ไม่อาจจุติได้อีก
โอ้โฮเฮะ...มันขู่น่ากลัวนิ

แต่ตอนนั้นไม่ได้นึกอะไร แต่วันเวลาที่ผ่านมา จึงได้รู้ซึ้งถึงคำเตือนของสุวิ๒มัน
ในการเข้าสงครามแต่ละครั้ง ล้วนเอาชีวิตแขวนไว้กับเส้นด้าย โดยแท้
หากไม่มีวิชชาจักรพรรดิเลี้ยงตัวนี่ ได้เละยิ่งกว่าเขียดถูกรถสิบล้อทับแน่นอน

 

อ่านๆตำราไป ท้ายเล่ม ก็มีบันทึกของจักรพรรดิ์ในอดีตหลายๆท่าน
ท่านเหล่านั้นบันทึกถึงเส้นทางการฝึกของท่าน สิ่งที่ท่านต้องผ่าน อุปสรรค์ต่างๆการแก้ไข เพื่อก้าวสู่สุดยอดฝีมือ

ไอ้เราก็จำได้ว่าสมันวัยรุ่นนะ ชอบอ่านนวนิยายจีนกำลังภานใน ชนิด ไม่จบเป็นไม่เลิก
ดึกดื่นเทียงคืน ไม่หยุดสามวันสามคืน งีบหลับตอนไหนก็ไม่รู้ พอตื่นก็อ่านต่อ
ไอ้เนื่อเรื่องนวนิยายจีนกำลังภายในก็วงเวียน กับเรื่องความรักความแค้น การต่อสู้ของเหล่ามาร กับธรรมะ

แต่เรื่องราวของจักรพรรดิในอดีตนี่ ก็ไม่ต่างอะไรกับนวนิยายกำลังภายในเลย
มีทั้งความรักความแค้น มีเรื่องมิตรภาพ มีเรื่องของธรรมะและมาร แถมมีอสูรและยักษ์เข้ามาแจมด้ว
แต่เรื่องมันต่อเนื่องกันชนิดข้ามภพข้ามชาติ กลับมาแก้มือแก้ลำกันอุตลุด
ไอ้เรื่องความรักความแค้น ก็สุดยอดพัวพันกันชนิดไมเลิกราข้ามภพข้ามชาติ หญิงหนึ่งชายห้า ตั้งแต่สมัยสร้างโลกจนปัจจุบันยังไม่จบสิ้น
บ้างก็เป็นแบบ หญิงสองชายหนึ่ง ซึ่งมันน่าจะลงตัวกันง่ายๆ ก็ไม่จบ ก็เป็นจักรพรรดินีมาร กะจักรพรรดินีอสูร แย่งรักจากจักรพรรดิมนุษย์
บ้างก็เป็นแบบชายหนึ่งหญิงสิบสี่(ก็เป็นจักรพรรดิ ริเอากายสิทธิ์ในดวงแก้วและนางแก้วเป็นเมียนี่-ยุ่งตายชัก )
ฯลฯ

อ่านไปอ่านไป ตูไม่เอาดีกว่าโว้ย ขึนเป็นกะเขานี่ ตูข้าก็คงไม่พ้นวังวน รักแค้นแน่นอก เป็นแน่

ยังงี้ ต้องไปเต้นไอ้ท่าแน่นอกซะหน่อย เฮ้อ..ค่อยยังชั่ว

 

เข้ามา รออ่านทุกวันครับ
ตั้งหน้านี้ เป็นหน้าแรกเลย
อ.สุวิ หายไปนาน
ว่าแต่.....
ทำสงครามอะไร เล่าได้ใหมครับ

 

สมบัติจักรพรรดิ

จักรพรรดิ มีหลายระดับ
ระดับที่ ๑. จุลจักรพรรดิ เริ่มตั้งแต่ตั้งความปรารถนาที่จะเป็นจักรพรรดิ
ระดับที่ ๒. จักรพรรดิ
ระดับที่ ๓. มหาจักรพรรดิ
ระดับที่ ๔. บรมจักรพรรดิ
ระดับที่ ๕. บรมมหาจักรพรรดิ
ระดับที่ ๖. ๗. ๘.....ฯลฯ ไม่รู้จะเรียกอย่างไร ด้วยไม่มีบัญญัติ และในแต่ละระดับ ยังแบ่งแยกย่อยออกไปอีก สิบชั้น เพื่อง่ายแก้การจัดระดับพลังฝีมือ

เมื่อเริ่มคิดจะเป็นจักรพรรดิ ก็จะอธิษฐานและเริ่มเสาะหาสมบัติจักรพรรดิ มาเป็นของตน (สมบัติจักรพรรดิพื้นฐานนี่มี ๗ ชิ้นนะ-หาอ่านดูในกูเกิล)
เริ่มด้วยการเสาะหาดวงแก้วก่อน(อาจไปขอจากครูบาอาจารย์ต่างๆ) แล้วค่อยๆสร้างบารมีเพิ่ม
เมื่อมีบารมีพอ สมบัติจักรพรรดิอื่นๆที่คู่ควร ก็จะปรากฏขึ้น และมาอยู่ในครอบครองง่ายๆ
สมบัติจักรพรรดิเหล่านี้จะมีกายสิทธิ์ ครอบครองอยู่ กายสิทธิ์ ในดวงแก้วจะเป็นเป็นผู้เลือกตัวองค์ จักรพรรดิ
ถ้ากายสิทธิ์ในดวงแก้วไม่ชอบผู้ที่จะครอบครอง เขาก็จะปฏิเสธ และดลใจไม่ให้ใส่ใจเขา
แต่ถ้าเขาพอใจที่จะอยู่ด้วย เขาก็ดลใจผู้อยู่รอบข้างทำให้ดวงแก้วเหล่านั้น มาอยู่กับผู้นั้นง่ายๆ ไม่ต้องออกแรงหรือใช้เงินซื้อมากนัก

 

กายสิทธิ์คืออะไร

กายสิทธิ์ก็เหมือนจิตวิญญาณสิ่งสักสิทธิ์ ต่างๆนั่นเอง แต่ จิตวิญญาณนี้ไม่ทีกายทิพย์ เป็นแค่ดวงจิตเท่านั้น
ดวงจิตกายสิทธิ์ จะแทรกอยู่ในสิ่งต่างที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ตั้งแต่เริ่มก่อตัวเป็นสิ่งของชิ้นนั้น
อาจเป็น แท่งจุยเจีย หินสี ผลึกควอซ หรือก้อนหิน ฯลฯ บ้างก็เป็นสะเก็ดดาว

ดังนั้นอายุกายสิทธิ์เหล่านี้ มีอายุนานเป็นแสนๆเป็นล้านๆปี เท่ากำเนิดของสิ่งของที่เขาอาศัยอยู่
พลังของเขาก็ได้จาก พลังแห่งดินฟ้าหล่อหลอมเขา ยิ่งมีอายุยาวนาน พลังก็ยิ่งสูง
ดวงแก้วยิ่งมีพลังสูงก็จะคู่ควรกับจักรพรรดิในระดับที่สูงขึ้นไป

หมายเหตุ
กายสิทธิ์ในระดับสูงมากๆนี่ ท่านสามารถเปลี่ยนสิ่งที่ท่านอาศัยได้ง่ายๆ เหมือนปูเฉแวนนะ และท่านก็สร้างกายทิพย์ได้เองด้วย

 

ขอบคุณค่ะ อาจารย์สุวิที่กรุณาเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้อ่านมากมาย

 

เริ่มแรก ตัวจักรพรรดิ จะเป็นผู้เสาะหาดวงแก้วเพื่อให้ได้ครอบครอง(ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง)
เมื่อได้ครอบครองแล้ว หากจักรพรรดิเก่งสามารถสร้างบารมีได้เร็วและสูง ก็จะเป็นที่ชื่นชอบของเหล่ากายสิทธิ์
เพราะจะทำให้กายสิทธิ์เหล่านั้น มีพลังบารมีและอำนาจสูงตามขึ้นด้วย (การฝึกวิชชาคู่กัน)
แต่เมื่อสูงขึ้นได้ระดับหนึ่งแล้ว กายสิทธิ์เหล่านั้นก็ไม่อาจไต่ระดับสูงอย่างรวดเร็วได้อีก
แต่ตัวจักรพรรดิ กลับไต่ระดับได้สูงกว่าเร็วกว่า(เช่นไต่จาก จักรพรรดิธรรมดา ขึ้นเป็นมหาจักรพรรดิ) จนกายสิทธิ์ตามไม่ทัน

ตัวจักรพรรดิก็ต้องหาดวงแก้วดวงใหม่ที่มีอำนาจเสมอตนหรือสูงกว่า
กรณีนี้ ถ้าสมบัติจักรพรรดิเหล่านั้นรู้ตัว ก็ไม่มีปัญหาอะไร
แต่หากกายสิทธิ์ ที่อยู่ในดวงแก้วหลงคิดว่าตนมีอำนาจมาก เป็นผู้ส่งเสริมให้จักรพรรดินี้มีบารมีสูงคู่ควรกับตน หรือตนเป็นผู้สร้างจักรพรรดิ
และยึดมั่นว่า ตัวจักรพรรดิเป็นสมบัติของตน ไม่ยอมให้จักรพรรดิหลุดออกจากอำนาจตน (ทำให้จักรพรรดิ ไม่อาจก้าวหน้าได้)
กายสิทธิ์เหล่านี้ ก็จะหาทุกวิถีทางให้ตัวจักรพรรดิ เป็นของตนตลอดกาล

หากจักรพรรดิ หลุดออกจากการควบคุม และทะยานขึ้นสูงกว่าได้ เขาก็จะหาทางสร้างตนให้มีกายทิพย์เกิดขึ้น
และเกิด(จุติ)คู่ กับจักรพรรดิตลอด ในลักษณะที่อาจจะเป็นคู่ครอง (ฯลฯ)หรือสิ่งที่สามารถควบคุมจักรพรรดิให้อยู่ในอำนาจตนได้
ไม่ให้จักรพรรดิองค์นั้นแหกคอก ไปจากอำนาจตน

กายสิทธิ์ในดวงแก้ว มีทั้งเพศหญิงและชายนะ
หากชายใด ได้กายสิทธิ์เป็นหญิง ฝึกเคียงคู่กันมาจนได้เป็นจักรรดิพรรดิ ที่ทรงอำนาจและหล่อเหลานี่
อย่าหวังหลุดจากอำนาจนางเลย นางมักยึดแนนแน่นเป็นสมบัตของตน

จักรพรรดิบางท่าน นี่ได้ทั้งดวงแก้ว และนางแก้วเป็นสัตรี ประกบซ้ายขวาเลย
ฝึกๆไปนี่ ถอดกายทิพย์ได้ แลยคว้าเอาดวงแก้วและนางแก้วมาแนบข้าง
ฟังๆดูนี่ดีนะ น่าจะสุขสดชื่น

แต่ๆๆๆๆๆๆๆ......บังเอิญมีมีเรื่อเล่านะ
เฮ้อ.......นี่เป็นเรื่องน่าเศร้านะ ก็นางทั้งสอง หนึ่งมีเชื้ออสูร อีหนึ่งมีเชื้อมาร
ต่างแย่งกันเป็นหนึ่งไม่ยอมกัน
สุดท้าย นางทั้งสองใช้โลกมนุษย์เป็นลานประลองสติปัญญาและอำนาจ ว่าใครจะเหนือกว่า
เล่นเอาสามโลก แทบแตกกระจาย ด้วยทั้งสองฝ่ายต่างมี เผ่าพันธ์ของตนเป็นผู้ถือหาง ส่งทั้งพลังอำนาจและขนอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆมาให้นางทั้งสอง ประลองยุทธถล่มใส่กัน

แฮะๆๆ....โลกมนุษย์ ก็เละซิ

 

เหตุเกิดเช่นนี้อยู่เนืองๆ
เหล่าจักรพรรดิ ที่ก้าวถึงระดับหนึ่งจะเริ่มรู้ตัว และเริ่มปฏิเสธ กายสิทธิ์เหล่านี้
โดยอธิษฐาน ให้กายสิทธิ์เหล่านี้ ไปหาผู้ที่จะก้าวสู่ความเป็นจักรพรรดิองค์ใหม่
และตนเองก็เพียรสร้างบารมีเพิ่มเพื่อก้าวสู่ความเป็นจักรพรรดิที่สูงกว่าเดิม

แต่ตอนนี้ไม่มีสมบัติจักรพรรดิช่วยแล้ว ทุกอย่างต้องดำเนินการเอง ด้วยลำแข้งของตัวเอง
ถ้าจักรพรรดิที่สร้างบารมีถึงจุดนี้แล้วไม่อาจสร้างบารมีต่อได้ ด้วยความรู้ไม่ถึงขั้น
ก็ต้องกลับไปอาศัยอำนาจของกายสิทธิ์อีก และไม่อาจก้าวต่อในระดับสูงได้

แต่พวกที่มีกึ๋น ก็จะหาความรู้ในการสร้างสมบัติจักรพรรดิขึ้นใช้เอง ที่สำคัญขาดไม่ได้ ก็คือดวงแก้ว และจักรแก้ว
สมบัติจักรพรรดิที่สร้างใหม่นี้จะไม่มีกายสิทธิ์ จะเป็นดวงแก้วที่ประกอบไปด้วยบุญและบารมีของจักรพรรดิ ล้วนๆ
สมบัติจักรพรรดิใหม่นี้จะไม่มีข้อต่อรอง จะทำงานให้แก่จักรพรรดิเพียงอย่างเดียว ประดุจของวิเศษประจำติดตัวเป็นหนึ่งเดียวกัน
ดวงจิตในดวงแก้ว หรือจักรแก้ว(ถ้ามี)จะเป็นดวงจิตของตัวจักรพรรดิเอง

ปกติแล้ว ผู้ที่จะเริ่มปฏิเสธ กายสิทธิ์ในสมบัติจักรพรรดิ จะอยู่ในระดับ มหาจักรพรรดิช่วงปลายๆ (หรือสูงกว่า)
พอก้าวขึ้น บรมจักรพรรดิ หรือบรมมหาจักรพรรดิ ก็จะสร้างสมบัติจักรพรรดิขึ้นใช้เองกันทั้งสิ้น
แต่ก็ขึ้นอยู่กับความรู้และบารมีด้วย

 

อาจารย์คะ. ไม่ทราบมีเมืองอะไรหรือป่าวที่ชาวเมืองมีผิวกายสีฟ้าทั้งเมือง.

 

เรียนถามอาจารย์ต่อครับว่า ลูกแก้วพญานาคหรือเพชรพญานาคของแท้จัดว่าเป็นจักรพรรดิกายสิทธิ์อย่างหนึ่งไหมครับ

จักรพรรดิเก่งๆสามารถมีสมบัติจักรพรรดิมากกว่า 7อย่างได้ไหมครับ ถ้ามี อาจารย์พอยกตัวอย่างได้ไหมครับ

จักรพรรดิกายสิทธิ์ที่อยู่ในหินแร่หรืออัญมณี ท่านบำเพ็ญบุญบารมีกันอย่างไรครับ และจำเป็นต้องบำเพ็ญบุญบารมีร่วมกับมนุษย์ไหม

ขอบพระคุณมากครับ

 

จะมีเรื่องอะไร สนุกสนาน ตื่นเต้น กว่าการเอาความฝันในค่ำคืนที่ผ่าน มาตีไข่ใส่สี บรรจงวาดแต้มสีสันไห้บรรเจิด
แล้วนำเล่าให้เพื่อนฝู่งฟัง หลังจาก ตื่นนอน ตอนสายๆ

ดังนั้นคำตอบของคำถามนี้คือ

มีครับ ผมจำชื่อเมืองไม่ได้ เขาอยู่กันที่ดาวดวงหนึ่ง มีหลักฐานอ้างอิงได้ด้วย
มีผู้ไปถ่ายทำปรากฏเป็นหนังให้ดูกันทั่วโลกมนุษย์เลย
หนังเรื่องนี้ชื่ิอ อวตาร (Avata)
ไปหาดูได้นะครับ น่าจะยังหาดูได้ในปัจจุบัน

และยังมีอีกเมืองหนึ่งนะครับ เป็นเมืองใหญ่อยู่ใต้น้ำ ตำแหน่งอยู่ที่ปัจจุบัน มนุษย์เรียกว่า แบอรมิวด้า
ชาวเมืองที่อาศัยอยู่นี้มี สี่เผ่าพันธ์ใหญๆ มนุษย์ ยักษ์ อสูร มาร
เมื่องนี้ผู้ปกครองเป็น มาร นะครับ เราชาวโลกรู้จักท่าน ในนาม พญามาราธิราช
(ก็ท่านที่อยู่ที่สวรรคชั้นหกนะ-ท่านปกครองเมืองนี้มานานกาเลแล้ว)

แต่แปลกนะ ชาวอสูรทั่วไปนี่ร่างกายจะออกสีทองแดงหม่นๆนะ(จะว่าสีแทนก็ได้)
แต่อสูรชาวเมืองนี้ มีร่างกายออกสีฟ้าๆนะ และมีเลือดสีน้ำเงิน

 

เบอร์มิวด้า
ถ้า อ.สุวิ เล่าเรื่องนี้
คงสนุกมากมาย
เคยอ่านผ่านๆในเว็บ ไม่รู้จะเชื่ออันใหน กับเรื่องที่มีเรือ หรือเครื่องบินหายไป
แล้ว...มันหายไปใหนเหรอครับ อาจารย์
?????????