พระสงฆ์ มีอาวุธปืนป้องกันตัวเอง ได้ไหม

พระสงฆ์สามารถมีและใช้อาวุธปืน ป้องกันตัวเองและทรัพย์สินของวัดได้ไหม

ตามหลักจริง ๆ แล้ว อาวุธที่ประหัตถ์ประหารพระสงฆ์ไม่ควรมี

และเท่ากับเป็นจุดอ่อนของพระสงฆ์ ที่ขโมยใจบาปจะขโมยของวัด เพราะพระคือผู้ทรงศีล มีแต่พระธรรมเป็นศาสตรา ไม่มีอะไรมาต่อสู้กับโจร การจะทำร้ายโจร ยิงโจร ก็เป็นบาป

หรือว่าเป็นพระ ควรปล่อยวาง และไม่ยึดติดกับสิ่งใด ๆ

ถามท่านผู้รู้ทุกท่านครับ

 

ศีลก็มีอยู่ 227 ข้อนั่นแหละ
ที่ใช้ไปนิพพานจริง ๆ มี 10 ข้อ
ศีลข้ออื่น ๆ มีไว้ไม่ให้ชาวบ้านฟุ้งซ่านกับการหาเรื่องตำหนิพระ
โชคดีที่คนสมัยนี้มาเกิดกันช้า ไม่งั้นศีลพระคงมีเป็นพันข้อ

 

ทราบแต่ว่าพระวินัยห้ามพระสงฆ์จับอาวุธ

 

หลวงปู่มั่นถือศีลกี่ข้อครับ?

 

ไม่ใช่กิจอะไรของสงฆ์ที่ต้องครอบครองอาวุธปืนเลยนะ ในหนังสืออริยวินัย มีอนุญาติแค่มีดตัดเล็บ มีดและเข็มสำหรับตัดผ้า มีดโกน หินลับมีด ฝักมีดโกน เครื่องใช้สำหรับมีดโกนเท่านั้นเองค่ะ

 

227 ไง หลวงปู่มั่นที่เป็นพระใช่ไหม

 

พระสงฆ์มีธรรมคุ้มครองก็พอแล้ว ตามข่าวนี้
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=61G8oRNElBM]ฮือฮา กราดยิงพระกลางอก 2 นัดไม่เข้า 14 Dec 2012 - YouTube[/ame]

 

ไม่ใช่ และ ใช่ ครับ

ใช่ คือ หลวงปู่มั่น ที่เป็นพระสงฆ์อรหันตสาวก

ไม่ใช่ คือ หลวงปู่มั่นไม่ได้เน้นการถือ 227 ข้อ

หลวงปู่มั่นถือศีลกี่ข้อ ลองหาดูครับ หาใน net ได้ไม่ยาก

 

ติดกล้องวจรปิด...ครับ

แล้วให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองเขาจัดการดีกว่าครับ

หลังจากนั้นค่อยไปเจอกับผมในนรกอีกที.ว่าด้วย

หน้าที่และขั้นตอนจะเหมาะสมกว่าครับ.

 

พิจารณากันจริงๆแล้ว

พระสงฆ์ไม่มีความจำเป็นนต้องใช้อาวุธทุกชนิด ครับ

เพราะเป็นภิกษุย่อมไม่ก่อเวร อีกทั้งยังไม่ได้สะสมทรัพย์สินใดๆ
ให้เป็นที่พึงปรานารถของมิจฉาชีพ

ทรัพย์สินของวีด ก็ช่วยกันดูแลเป็นหูเป็นตา
ชาวบ้านรอบๆวัดมีส่วนช่วยมาก

การที่ภิกษุต้องจับต้องศาสตราวุธ
เป็นหนทางที่ต้องลงนรก....ด่วนที่สุดกรรมหนึ่งทีเดียว
เนื่องด้วยจะต้องใช้อาวุธนั้นๆ ไปทำผิดศีลอย่างแน่แท้

 

คงอย่างที่ nirvana เขาตอบไปคะ...... แต่เสริมอีกข้อคือ ต่อให้ไปเป็นพระอยู่สามชายแดนภาคใต้การเป็นนักบวชก็คือผู้ที่มีจุดุ่หมายสูงสุดคือ การบรรลุและควรจะปลงสังขารได้แล้ว

 

จริงๆ ไม่ควรมี แต่ก็เคยเห็นหลายๆ รูปที่มี พกไว้ในย่ามก็ยังเคยเห็น...นึกแล้วก็ยังขำ ท่านบอกว่า โยมไม่ต้องกลัว อาตมามีนี่(ตบย่ามสองสามทีโชว์) แล้วก็เปิดย่ามให้ดู ถึงได้รู้ว่ามีปืน(วัดอยู่ในป่า ท่านมีปืนไว้ป้องกันตัว น่าจะประมาณนั้น)

 

ถ้ากลัวขนาดนั้น ก็ควรย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองดีกว่า จะหนีไปอยู่ป่าทำไม

 

พระโอวาทแสดงการเปรียบด้วยเลื่อย

ดูกรภิกษุทั้งหลาย หากจะมีพวกโจรผู้มีความประพฤติต่ำช้า เอาเลื่อยที่มีที่จับ ทั้งสองข้าง เลื่อยอวัยวะใหญ่น้อยของพวกเธอ แม้ในเหตุนั้นภิกษุหรือภิกษุณีรูปใดมีใจคิดร้าย ต่อโจรเหล่านั้น ภิกษุหรือภิกษุณีรูปนั้น ไม่ชื่อว่าเป็นผู้ทำตามคำสั่งสอนของเรา เพราะเหตุที่อด- กลั้นไม่ได้นั้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย แม้ในข้อนั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า จิตของเราจักไม่ แปรปรวน เราจักไม่เปล่งวาจาที่ลามก เราจักอนุเคราะห์ผู้อื่นด้วยสิ่งที่เป็นประโยชน์ เราจักมีเมตตา จิตไม่มีโทสะในภายใน เราจักแผ่เมตตาจิตไปถึงบุคคลนั้น และเราจักแผ่เมตตาอันไพบูลย์ ใหญ่ยิ่ง หาประมาณมิได้ ไม่มีเวร ไม่มีพยาบาท ไปตลอดโลกทุกทิศทุกทาง ซึ่งเป็นอารมณ์ ของจิตนั้น ดังนี้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอพึงศึกษาด้วยอาการดังที่กล่าวมานี้แล.

 

อนุญาตให้พระพกปืนได้เมื่อไหร่...วัดก็กลายเป็นแหล่งซ่องสุมโจรเมื่อนั้น

 

อาวุธเพียงสิ่งเดียวที่ภิกษุในพุทธศาสนาพึงมีคือ "พระธรรม" ครับ

ให้พระธรรมชนะการให้ทั้งปวง
รสพระธรรมชนะรสทั้งปวง
ยินดีในธรรมชนะความยินดีทั้งปวง

เมื่อมีพระธรรมในจิตใจมั่นคงดีแล้ว ยังจะกังวลอะไรอีกครับ
หากมีคนคิดร้ายต่อภิกษุท่านจริง แม้แต่พระโมคคัลลาผู้มีฤทธิ์
ยังต้องยอมสยบให้กับกรรม ที่ท่านได้เคยทำอนันตริกรรมไว้กับ
บุพการีในชาติปางก่อน จะเหาะหนีเท่าไร ก็มีกลุ่มคนมาไล่ฆ่า
ท่านทุกครั้งไป จนท่านใช้ญาณตรวจสอบดูจึงรู้ว่า กรรมทั้งหลาย
ได้มาปรากฏต่อท่านแล้ว ท่านจึงยอมให้โจรร้ายทุบตีจนกระดูก
ป่นเป็นเมล็ดข้าวสาร ก่อนใช้อิทธิฤทธิ์ประสานกระดูกรีบเข้าเฝ้า
พุทธองค์เพื่อขอเข้าสู่พระนิพพาน

เอาจริงๆ ภิกษุหากบาปกรรมมาปรากฏ ท่านพกปืนแล้วจะรอดจาก
การถูกลอบสังหารจริงๆหรือครับ ผมยังไม่ได้พูดในแง่พระธรรมวินัย
เลยนะครับ

ขอเจริญในธรรมทุกท่านนะครับ

 

ศีล สมาธิ ปัญญา

เมื่อเล็งเห็นภัย ใช้ปัญญาเป็นอาวุธ

ใช้ปัญญาหาทางออก ไม่ใช่ยอมตายเพราะอ้างว่าเป็นกรรม

แต่หากป้องกันอย่างเต็มที่แล้ว เหตุยังเกิด นั้นสุดวิสัย

ค่อยไปว่าเรื่องกรรม

หากเล็งเห็นภัยคุกคามมุ่งที่ทรัพย์สิน กล้องวงจรปิดแบบคุณอภิมารบอกก็น่าจะป้องกันได้

หากภัยคุกคามมุ่งที่ชีวิต หน่วยงานรักษาความปลอดภัย น่าจะช่วยได้

วัดและพระสงฆ์เป็นที่พึ่งทางใจ มีคุณ ควรได้รับการปกป้อง

สมบัติของพระสงฆ์ มีเพียง อัฏฐบริขาร มีผ้าแค่เพียงสามผืน(ไม่น่าจะมีเหตุในการมุ่งทรัพย์)

นอกนั้นน่าจะเป็นสมบัติของวัดที่อยู่ภายใต้การปกครองดูแลของวัดนั้นๆ

 

ศีัล 227 ข้อ ก็เป็นแนวทางที่พระพุทธเจ้าท่านวางไว้สำหรับคนที่พร้อมและอุทิศชีวิตเพื่อใช้ชีวิตอย่างพระสงฆ์เพื่อประพฤติพรหมจรรย์มุ่งแสวงหาสัจธรรมจริงๆ

ถ้าหากว่ายังรักตัวกลัวตายไม่พร้อมจะใช้ชีวิตอย่างพระสงฆ์ ก็ไม่ควรจะบวช

ทางให้เดินมีตั้งเยอะแยะ ไม่ได้ถูกบังคับให้บวชนี่

เป็นฆราวาสก็ปฏิบัติธรรมได้เหมือนกัน

 

สำหรับผมคิดว่าไม่จำเป็นครับ แค่คิดจะมีอาวุธป้องกันตัวไว้ก็น่าผิดแล้ว ไม่ใช่กิจของสงฆ์ ในความเป็นจริงแล้ว ถ้าพระสงฆ์ในปัจจุบันไม่สะสมสิ่งของ ก็คงไม่มีโจร ผู้ร้ายที่ไหนจะปล้นหรือทำร้ายท่านหรอกครับ เพียงแต่ท่านส่วนมากแข่งกันสะสม ทั้งกิเลสและปัจจัย พอเค้ารู้เค้าจะมาปล้นเอาน่ะสิครับ อันนี้หมายถึงท่านที่สะสมนะครับ ไม่ได้รวมถึงท่านผู้ปฏิบัติดีทั้งหลายครับ

ถ้าท่านแน่ใจในการปฏิบัติและศิลที่บริสุทธิ์แล้ว ไม่มีใครทำร้ายท่านหรอกครับนอกจากกรรมเก่าที่ท่านต้องชดใช้ตามกฏแห่งกรรม

 

อาวุธ ของ พระภิกษุสงฆ์ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า มอบให้แล้วครับ

๑. พุทธานุสสติ ได้แก่การน้อมจิตรำลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า คือ ระลึกถึงความดีอันมีอยู่ในพระองค์ ซึ่งมีอยู่ ๙ ประการ ตามนัยพระบาลี พุทธานุสสติปาฐะ คือ บทสวด อิติปิโส ภควาฯ

อิติปิโส ภควา อรหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจรณสัมปันโน สุคโต

โลกวิทู อนุตตโร ปุริสทัมมสารถิ สัตถาเทว มนุสสานัง พุทโธ ภควา-ติ

๒. ธัมมานุสติ ได้แก่การระลึกถึงคุณของพระธรรม คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า ซึ่งมีอยู่ ๖ ประการ ตามนัยพระบาลีธัมมานุสสติปาฐะ

สวากขาโต ภควาตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อกาลิโก เอหิปัสสิโก

โอปนยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหิ-ติ

๓. สังฆานุสสติ คือ ระลึกถึงคุณของพระสงฆ์ ซึ่งมีอยู่ ๙ ประการ ตามนัยสังฆานุสสติปาฐะ คือ บทสุปฏิปันโนฯ

สุปฏิปันโน ภควโต สาวกสังโฆ อุชุปฏิปันโน ภควโต สาวกสังโฆ

ญายปฏิปันโน ภควโต สาวกสังโฆ สามีจิปฏิปันโน ภควโต สาวกสังโฆ

ยทิทัง จัตตาริ ปุริสยุคานิ อัฏฐ ปุริสปุคคลา เอส ภควโต สาวกสังโฆ

อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชลีกรณีโย อนุตตรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสา-ติ

สาธุเจริญธรรม