เลี่ยงภาษีผิดศีลข้อใด

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ไชยยารัตน์, 13 กันยายน 2013.

  1. ไชยยารัตน์

    ไชยยารัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    177
    ค่าพลัง:
    +739
    หากเราแสดงรายได้ที่จะต้องเสียภาษี ต่อเจ้าหน้าที่่ น้อยกว่าความเป็นจริง เพื่อที่จะเสียภาษีน้อยลง หรือหลบเลี่ยงไม่เสียภาษี อย่างนี้ผิดศีลหรือธรรมข้อใด ถ้าแต่เราก็เอาเงินรายได้บางส่วนไปทำบุญด้วย โดยไม่เสียภาษีก่อน อย่างนี้จะได้อานิสงส์เต็มหรือไม่
     
  2. Nirvana

    Nirvana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    8,188
    ค่าพลัง:
    +20,860
    เรื่องหลบเลี่ยงภาษีบางกรณียังเป็นช่องว่างทางข้อกฏหมายอยู่

    เลยบอกตายตัวไปเลยไม่ได้

    แต่การที่ ขรก. โกงภาษีอากรของรัฐ
    ด้วยการคอรัปชั่นเองนี่แหละ

    ผิดเต็มๆไม่มีข้อยกเว้นใดๆ
     
  3. ศนิวาร

    ศนิวาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2008
    โพสต์:
    7,337
    ค่าพลัง:
    +17,632
    เลี่ยงภาษีโดยการแจ้งเงินได้น้อยกว่าความเป็นจริงผิดศีล ๒ ดังนี้

    1. มุสาวาจา พูดปด

    2. อทินนาทานา ยักยอกทรัพย์ที่ควรเป็นของหลวงเท่ากับขโมย

    ผิดธรรมคือ เทวธรรม ๒ อันได้แก่ หิริ และ โอตตัปปะ คือ ความเกรงกลัวต่อบาปและความละอายใจต่อการทำบาป

    เงินที่เกิดจากรายได้ของเราโดยสุจริต ถึงแม้ไม่จ่ายภาษีก่อนก็สามารถนำไปทำบุญได้โดยอานิสงส์เต็ม แต่จะได้ครบสมบูรณ์หรือไม่ขึ้นอยู่กับ

    - วัตถุทานบริสุทธิ์ (เงินถูกกฎหมายได้มาโดยสุจริต)

    - เจตนาในการทำทานบริสุทธิ์ ผู้ทำเต็มใจและศรัทธาอย่างแท้จริง มีศีลบริสุทธิ์ จิตบริสุทธิ์

    - ผู้รับบริสุทธิ์ เป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์ มีคุณธรรมบริสุทธิ์ จิตบริสุทธิ์

    หากพร้อมทั้งสามประการนี้อานิสงส์เต็มที่

    ถ้าผู้ทำบริสุทธิ์ ผู้รับบริสุทธิ์ วัตถุทานไม่บริสุทธิ์ อานิสงส์ลดลง
    ถ้าผู้ทำบริสุทธิ์ วัตถุทานบริสุทธิ์ ผู้รับไม่บริสุทธิ์ อานิสงส์ลดลง
    ถ้าผู้ทำไม่บริสุทธิ์ วัตถุทานไม่บริสุทธิ์ ผู้รับบริสุทธิ์ อานิสงส์ลดลง
    ถ้าผู้ทำไม่บริสุทธิ์ วัตถุทานไม่บริสุทธิ์ ผู้รับไม่บริสุทธิ์ อานิสงส์น้อย
     
  4. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ผู้ที่ีมีรายได้ ตามที่กฏหมายกำหนดต้องจ่ายภาษี เพื่อคืนให้กับประเทศชาติ จึงเป็นสิ่งที่ได้ผ่านกระบวนการพิจารณามามากพอสมควรแล้ว กฏหมายมีที่มาที่ไปมีเหตุผลที่ดีรองรับชัดเจน ดังนั้น จึงเป็นสิ่งที่เราต้องปฏิบัติ แต่ความเหมาะสมว่ารายได้เท่าไหร่ต้องเสียภาษีเท่าไหร่ตรงนี้ตอบยากมาก อาจมองว่าไม่เป็นธรรมก็ได้ หรือเป็นธรรมก็ได้ ไม่สามารถตอบได้ครับ เพราะตรงนี้ขึ้นอยู่กับวิธีคิด และปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

    ดังนั้นกรณีนี้ถือว่าเป็นการลักทรัพย์หรือไม่ จึงตอบว่าไม่ใช่เพราะเราไม่ได้ขโมยของใครมา เพียงแต่เราไม่ปันส่วนรายได้ของเราที่ได้ที่มี จ่ายคืนให้กับประเทศชาติ
    จึงเสมือนผิดสัจจะสัญญาหากเข้าใจ ตกลงใจ ทราบแล้วว่าควรจ่ายภาษีให้แต่ถึงเวลาไม่ยอมจ่าย จึงเข้าข่ายผิดสัจจะสัญญา คือผิดศีลข้อ4ครับ

    ส่วนกรณีที่ข้าราชการที่คอรัปชั่น เช่นกินเงินเปอร์เซ้นต์งบประมาณ เงินใต้โต๊ะหรืออื่นๆ เป็นการได้เงินมาจากงบประมาณของประเทศชาติ หรือจากผู้อื่น ไม่ใช่เงินของตนเอง ตรงนี้เป็นการผิดศีลทั้งข้อ2และข้อ4ครับ

    แต่สิ่งสำคัญ หากเราไม่มองเรื่องศีล การไม่จ่ายภาษี ย่อมมีความผิด เป็นคดีแพ่ง ครับ ดังนั้น ถือว่ามีความผิด ย่อมทำให้ท่านเดือดร้อนตามมาแน่นอนไม่สามารถหลีกหนีได้ครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2013
  5. Fabreguz

    Fabreguz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    645
    ค่าพลัง:
    +1,911
    แล้วในกรณีที่ เรามองว่า ค่าอุปโภคบริโภคต่างๆ เช่น ค่าน้ำไฟ,ค่าน้ำมัน,ค่าโทรศัพท์,ค่าทางด่วน,ค่าสินค้าต่างๆในห้าง ต่างก็เพิ่มค่าเก็บภาษีไปหมดแล้ว อย่างนี้เรียกได้ว่าเราก็เสียภาษีให้รัฐไปด้วยในตัวหรือไม่ครับ รวมถึงการใช้ของถูกลิขสิทธิ์ ต่างๆทุกอย่าง
     
  6. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,027
    ครับ ไอ้อย่างที่ท่านกล่าวมานั้น เขาเรียกว่า "ถูกปล้น" ครับ เป็นการปล้นของรัฐ เป็นการเก็บภาษีซ้ำซ้อน ซ้ำแล้ว ซ้ำอีก ท่านลองไปพิจารณาดูค่าไฟฟ้า ให้ดี ๆ ค่าไฟจริง ๆ ไม่เท่าไหร่ แต่ค่าอะไร ต่ออะไรอีกประมาณ ๒๐ เปอร์เซ็นต์ และยังไม่รวมค่าธรรมเนียม ต่าง ๆ อีก เช่นการฝาก การถอนเงินจากธนาคาร ไม่มีสิทธิ อุทรณ์ หรือฏีกา
     
  7. Chang_oncb

    Chang_oncb ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    12,276
    ค่าพลัง:
    +80,027
    ไม่เห็นกล่าวถึง นักการเืมืองเลย ขอรับ ประชาชนยากจน ยากจนแสนเข็ญ เลือดตา แทบกระัเด็น นักการเืมืองรวยเอา รวยเอา เก็บภาษีคนโสดได้ไม่กี่ตังค์ หรอก ถ้ากล้า ๆ หน่อยเก็บภาษีมรดก มาพัฒนาประเทศ เพราะคนจนไม่มีมรดก พวกคนรวยเท่านั้นมีมรดก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2013
  8. นาคธันดร

    นาคธันดร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2010
    โพสต์:
    91
    ค่าพลัง:
    +157
    อนุโมทนาสำหรับผู้สนทนาธรรมทุกท่าน โดยเฉพาะผู้สงสัยในธรรมอย่างสุจริตใจ เพราะถือเป็นสะพานนำไปสู่การสนธนาธรรมครับ :)

    สำหรับคำถามนี้มีเนื้อหาที่พอสรุปได้ว่าเป็นการ "โกงภาษี" หมายถึงการทุจริตทางการเงิน หรือทุจริตทางทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นการทุจริตภาษีโดยการจ่ายไม่ครบบ้าง ไม่จ่ายเลยบ้าง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด ล้วนถือเป็นการลักทรัพย์อย่างแน่นอน จะถือเป็นการผิดศีลข้อ 2 อย่างแน่นอนตามไปด้วย สำหรับศีลข้อ 2 นี้ หลายคนยังเข้าใจว่าหมายถึงเฉพาะลักทรัพย์อย่างเดียว แต่แท้ที่จริงแล้วหากได้ศึกษาอย่างละเอียดจะพบว่าการลักทรัพย์ยังหมายความครอบคลุมถึงการทุจริตทางทรัพย์ต่าง ๆ อีก ดังจะขออธิบายอย่างละเอียดในศีลข้อ 2 ได้ดังนี้

    ศีลข้อ 2 ห้ามลักทรัพย์ กล่าวอย่างละเอียดคือ = ห้ามขโมยทรัพย์ทั้งเงินหรือสิ่งของอื่นใดของผู้อื่นหรือสิ่งที่ไม่ใช่ของเรา, ห้ามหลอกลวง ฉ้อโกง ทุจริตในทรัพย์สิน ฯลฯ ไม่ว่าจะกระทำเองหรือสนับสนุนผู้อื่นก็ตาม ​


    ทั้งนี้การโกงภาษีแม้จะเป็นการเจตนาจ่ายภาษีไม่ครบ เพื่อนำเงินส่วนที่เป็นภาษีที่หายไปนั้นไปทำบุญ สร้างกุศลก็ตาม อย่างไรเสียกุศลนั้นก็ได้ไม่เต็มที่ครับ เนื่องจากเราเอาเงินที่เกี่ยวกับการโกงมาทำบุญ ถึงทำได้ ได้บุญแต่ก็ได้ไม่เต็มที่ ดังเช่นสมมุติว่าเอาเงินที่เกี่ยวกับการโกงทำบุญไป 100,000 บาท วิบากกรรมอาจทำให้ได้อานิสงส์ผลบุญแค่ 1 บาทก็ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น ดังคำเทศนาของพระสงฆ์ท่านหนึ่งว่า


    "ครั้งก่อนมีหญิงผู้หนึ่งประกอบอาชีพเป็นคนโกงทรัพย์ (ขอไม่บอกว่าอาชีพอะไร) แล้วเธอก็นำเงินที่ได้จากมิจฉาชีพส่วนนั้นไปสร้างวัดวัดหนึ่ง เธอปลื้มปิติเป็นอย่างมาก ผ่านไปไม่นาน หญิงผู้บริจาคเงินสร้างวัดผู้นั้นก็ได้มาถามหลวงพ่อว่า ด้วยที่ดิฉันสร้างวัดในครั้งนี้ จะได้มหากุศลยิ่งใหญ่เท่าไรเจ้าคะ หลวงพ่อท่านนั้นก็ตอบว่า พิจารณาก่อนสีกา ด้วยกุศลที่โยมสร้างวัดในครั้งนี้ โยมอาจจะได้กุศลไม่ต่างอะไรแค่ได้เงินเพียงแค่บาทเดียวเท่านั้น เหตุเพราะโยมใช้เงินจากมิจฉาชีพ คือเป็นเงินสกปรกมาทำบุญ กุศลจึงมีกำลังอ่อนมาก แม้จิตโยมจะปราบปลื้มก็ตาม ก็ไม่ต่างอะไรกับลงทุนขุดทองทั้งวันทั้งคืน ตากแดดตากฝนแล้วเจอเพียงเข็มเล่มเดียวหรอก"


    บุคคลนั้นจะเจริญได้อย่างน้อยศีล 5 ต้องทำให้ได้ เพราะศีล 5 คือ 1 ในหัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา เปรียบเสมือนก้าวขึ้นบันไดทีละขั้น ถ้าข้ามไปขั้นใดขั้นหนึ่งนั่นคืออุปสรรค อาจจะพลาดลื่มล้ม หรือต้องเจอกับเหตุที่ทำให้ไม่ราบรื่นสวยงามก็เป็นได้ ฉันใดฉันนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กันยายน 2013
  9. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    ลักทรัพย์แผ่นดิน ตรงๆไม่อ้อมค้อม
    แผ่นดิน ก็คือข้อตกลงของทุกคนที่ต้องจ่าย ต้องให้ ง่ายๆ ตรงๆ
     
  10. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    ================

    สำหรับนักการเมือง ความจริงโดยตำแหน่งทางการเมือง จัดว่าเป็นข้าราชการโดยตำแหน่ง แต่เป็นไปตามอำนาจของพรบ. มีอายุตามวาระ คือเป็นไปตามกฏหมายกำหนด ความจริงแล้วเราจะไปเฉพาะเจาะจงใครกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไม่ได้ เพราะทุกชนชั้นวรรณะทุกอาชีพ ก็มีทั้งคนดีและคนไม่ได้ ดังนี้เรื่องนี้ก็ควรมองอย่างเป็นธรรม แต่ปัญหาคือ เราจะแก้ไขอย่างไร ซึ่งตอบได้ว่าเป็นเรื่องที่ยากจริงๆครับ

    การปกครองไม่มีการปกครองใดดีที่สุด ล้วนมีจุดอ่อนจุดแข็งทั้งนั้น แต่การปกครองระบอบประชาธิปไตย ของเราที่มีพระมหากษัติย์ นั้นดีงามมากๆและมีข้อดีมากมายหลายประการ เพียงแต่ปัจจุบันระบออบการเมืองของเรามันเป็นประชาธิปไตยแค่เปลือกนอกเท่านั้นเอง

    อย่างสังคมคอมมิวนิส นั้นไม่มีคนจนคนรวยทุกคนเป็นคนของรัฐหมด ทำงานให้รัฐหมด ใครที่เคยรวย มีที่ดินเป็นแสนไร่ ก็ต้องเวรคืนให้รัฐหมด กลายเป็นคนธรรมดาเหมือนกันหมด ความจริงรัฐบาลควรออกกฏหมายควบคุมหลายๆอย่างเพื่อความยุติธรรมของคนทุกคนทั้งประเทศ หรือเรื่องทรัพยากรณ์ต่างๆของประเทศ ก็ต้องมีการควบคุมให้มากๆ
    ทุกวันนี้หลายออย่างถูกทำกลายเป็นวัฒนธรรมที่ไม่ดี โดยเรื่องเงินใต้โต๊ะ เงินค่าน้ำชา เงินค่าความสะดวก เงินค่าสถานที่ดูแลของใคร เป็นต้น
    กระผมจะบอกให้ว่า พอมันเป็นประเพณี คนกลุ่มดังกล่าว โดยตำแหน่งหน้าที่ของเขาที่เขามี เขานั่งอยู่เฉยๆ พอถึงเวลาสิ้นเดือนหรือต้นเดือน ก็จะมีเงินวิ่งมาส่งให้เขาเองแบบเป็นประเพณีไปแล้ว ครับ ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นผลบุญเก่าที่เขาทำไว้หรือ ว่าเป็นกรรมใหม่ที่เขากำลังสร้างไว้กับผู้อื่น แต่ที่รู้แน่ๆคือ เป็นเวรกรรมในปัจจุบันแน่นอน เพราะทำให้หลายๆคนเดือดร้อนนั่นเองครับ สาธุ
     
  11. GROLY

    GROLY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    2,019
    ค่าพลัง:
    +8,001
    เคยอ่านเจอในหนังสือของ ลพ. ฤาษี มีคนถามปัญหานี้เช่นกัน
    ท่านตอบว่าไม่ผิดศีลครับ. ลองไปหาอ่านดูครับ
     
  12. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    ข้อ ลักขโมย ยักยอกทรัพย์ และโกหก
     
  13. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    คิดว่าผิดศีลข้อ ๒ และข้อ ๔ ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...