เกาะติดสถานการณ์ ดิน น้ำ ลม ฝน พายุ **เฝ้าระวัง !!!!2556(2013)**

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา
"พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้"
ฉบับที่ 16 ลงวันที่ 20 กันยายน 2556​

หย่อมความกดอากาศต่ำที่อ่อนกำลังลงจากพายุดีเปรสชันปกคลุมอยู่บริเวณตอนกลางของประเทศไทยลักษณะเช่นนี้ยังคงทำให้บริเวณจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครราชสีมา นครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี สระบุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนทั่วไป โดยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่และมีลมแรง
สภาวะฝนตกหนักในระยะนี้จะมีแนวโน้มลดลงในวันพรุ่งนี้ (21 ก.ย. 56)

อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น “อุซางิ” (USAGI) ซึ่งเป็นพายุอีกลูกหนึ่งทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฟิลิปปินส์

เคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย เข้าใกล้ตอนใต้ของไต้หวัน และประเทศจีนตอนใต้ในระยะต่อไป สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปไต้หวัน ฮ่องกง และมณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนเดินทาง

ประกาศ ณ วันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 11.00 น.

(ลงชื่อ) วรพัฒน์ ทิวถนอม

(นายวรพัฒน์ ทิวถนอม)

อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

​

 

จากการคาดการณ์ หย่อมความกดอากาศต่ำลูกนี้ น่าจะมีทิศทางเคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือ ไปทางญี่ปุ่นต่อไป



ก็คงต้องติดตามกันต่อไปครับ

 

ไต้ฝุ่น “อูซางิ” จ่อถล่มซ้ำฟิลิปปินส์ ไต้หวันและจีน-พร้อมรับมือเต็มที่
วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2556 เวลา 13:00 น.

พายุไต้ฝุ่น “อูซางิ” จ่อถล่มฟิลิปปินส์ ไต้หวันและจีน ในสุดสัปดาห์นี้ ทั้ง 3 ชาติ เตรียมพร้อมรับมือแล้ว พร้อมเตือนเรือประมงและประชาชนให้ระวังน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่ม และคลื่นทะเลยกตัวสูง คาดว่าจะเป็นพายุที่รุนแรงที่สุดในปีนี้


สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ฟิลิปปินส์และไต้หวัน เตรียมพร้อมรับมือพายุไต้ฝุ่น “อูซางิ” ซึ่งเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า อาจเป็นพายุไต้ฝุ่นที่มีกำลังแรงที่สุดในปี 2556 โดยขณะนี้ ไต้ฝุ่นลูกนี้เคลื่อนตัวอยู่ห่างจากภาคตะวันออกเฉียงใต้ ค่อนไปทางตะวันออกของไต้หวันประมาณ 560 กิโลเมตร และห่างจากภาคเหนือของฟิลิปปินส์ 360 กิโลเมตรในช่วงเช้าวันนี้ ซึ่งทั้งไต้หวันและฟิลิปปินส์ ได้ประกาศเตือน และเตือนเรือประมงให้เพิ่มความระมัดระวัง พายุลูกนี้คาดว่าจะพัดเข้าถล่มจีนในช่วงสุดสัปดาห์นี้

ปากาซา สำนักงานพยากรณ์อากาศของฟิลิปปินส์ แถลงว่า ไต้ฝุ่น “อูซางิ” เคลื่อนตัวด้วยกำลังลม 175 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และทวีความรุนแรงมากขึ้นในวันนี้ เจ้าหน้าที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ประกาศเตือนพายุลูกนี้แล้วว่า จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน ดินถล่มและคลื่นทะเลยกตัวสูง หรือสตอร์ม เซิร์จ ในหลายจังหวัดทางภาคเหนือของประเทศ ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยฉุกเฉินและสาธารณสุข เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนไว้แล้ว

ขณะเดียวกัน สำนักงานพยากรณ์อากาศของไต้หวัน ก็ประกาศเตือนเมื่อเช้าวันนี้ และคาดว่าจะมีฝนตกหนักทางภาคเหนือและตะวันออกของเกาะไต้หวัน ขณะที่ สำนักงานมหาสมุทรของจีน ก็ประกาศเตือนภัยพายุไต้ฝุ่น ฉุกเฉินชั้นที่ 1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในการตอบโต้ภัยพิบัติทางทะเลของจีน ส่วนศูนย์พยากรณ์อากาศแห่งชาติของจีน ก็ประกาศเตือนภัยสีเหลือง ในระดับการเตือนภัยสภาพอากาศด้วย

ทั้งนี้ ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน และไร้ที่อยู่อาศัยหลายพันคน หลังจากไต้ฝุ่นอูตอร์ พัดถล่มภาคเหนือของฟิลิปปินส์


ไต้ฝุ่น “อูซางิ” จ่อถล่มซ้ำฟิลิปปินส์ ไต้หวันและจีน-พร้อมรับมือเต็มที่ | เดลินิวส์

 

18อ่างเก็บน้ำสุรินทร์รับฝนอีกไม่ไหวแล้ว
วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2556 เวลา 11:34 น.



น้ำยังคงท่วมหนักในจังหวัดสุรินทร์ โรงเรียนสั่งปิด การจรจรอัมพาต ขณะที่ปริมาณน้ำใน18อ่างเต็มความจุแล้ว เตือนปชช.เร่งรับมือ



นายพิภพ ดำทองสุข รองผวจ. ได้ประชุมร่วมกับนายเจษฎา บุญสุริยา ผอ.โครงการชลประทานห้วยเสนง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามประเมินสถานการณ์


เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สุรินทร์ หลังเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องหลายวัน ว่า น้ำยังคงท่วมหนักในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะในเขตเทศบาลเมืองสุรินทร์ บางแห่งน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร โรงเรียนทุกแห่งต้องสั่งปิดการเรียนการสอน ส่วนการค้าขายก็เงียบเหงา เพราะ 5 หมู่บ้านรอบเขตเศรษฐกิจก็ถูกน้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน ขณะที่รพ.สุรินทร์ มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ย สูง 30-50 ซม.
ด้าน อ.สังขะ ระดับน้ำในเขตเทศบาลตำบลสังขะ ถนนสายสังขะ -บัวเชด ระยะทาง 3 กม. มีน้ำท่วมสูงกว่า 60 ซม. ขณะที่ถนนสาย 24 สีคิ้ว-เดชอุดม ช่วง ต.บ้านชบ ก่อนถึงสี่แยกป้อมตำรวจทางหลวงสังขะ น้ำจากเทือกเขาพนมดงรัก ยังคงไหลบ่าข้ามถนน ระดับสูง 30-50 ซม. ผู้ใช้รถต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก เพราะน้ำไหลเชี่ยวกราก
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นายพิภพ ดำทองสุข รองผวจ. ได้ประชุมร่วมกับนายเจษฎา บุญสุริยา ผอ.โครงการชลประทานห้วยเสนง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามประเมินสถานการณ์และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ซึ่งพบว่าปริมาณฝนที่เกิดจากอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่นตลอด 2 วันที่ผ่านมา มีปริมาณน้ำฝนมาก ประกอบกับน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาพนมดงรัก ลงสู่อ่างเก็บน้ำ 18 แห่งในจังหวัดเต็มความจุ 100เปอร์เซ็นต์แล้ว โดยมีบางแห่งเช่นที่อ่างเก็บน้ำลำพอก อ.ศีขรภูมิ ปริมาณน้ำมากเกินความจุจนล้นอ่างออกมา ทางชลประทานจึงได้แจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ท้ายอ่างเตรียมรับมือแล้ว
ขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำหลัก ปริมาณน้ำก็เกินความจุและไหลล้นสปริงเวย์ออกมา ทำให้บริเวณท้ายอ่างและหมู่บ้านใกล้เคียง ร่วมทั้งเขตเทศบาลบางส่วนน้ำเริ่มไหลเข้าท่วมแล้ว นอกจากนี้ผู้คนจำนวนมากต่างพากันไปเที่ยวและเล่นน้ำที่ล้นออกมาอย่างสนุกสนาน
อย่างไรก็ตามคาดหมายกันว่า หากมีฝนตกลงมาอีกก็จะทำให้เกิดน้ำท่วมสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน

18อ่างเก็บน้ำสุรินทร์รับฝนอีกไม่ไหวแล้ว | เดลินิวส์

 

ท่านใดอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวเฝ้าระวังกันหน่อยน่ะครับ

 

<a href="http://pic.free.in.th/id/5fe80f16a03ceeb8103f629da8784291" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/ik/130920020416.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

 

<a href="http://pic.free.in.th/id/b7d99ca93f498c25ab3c6cdfc08fde06" target="_blank"><img border="0" src="http://image.free.in.th/v/2013/iu/130920020449.jpg" alt="images by free.in.th" /></a>

 

ฝนถล่มโคราช 2 วันท่วมหลายจุด –สนามแข่งวอลเลย์บอลชิงแชมป์เอเชียอ่วม

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 กันยายน 2556 12:44 น.


ฝนถล่มโคราชติดต่อกัน 2 วัน ส่งผลให้น้ำท่วมขังในตัวเมืองหลายจุด ทั้ง ถ.สุรนารายณ์ หน้า ปภ.เขต 5 , ถ.ราชดำเนินหน้าจวนผู้ว่าฯ – สามแยกจักราช วันนี้ ( 20 ก.ย.)


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ฝนถล่มโคราชติดต่อกัน 2 วัน ส่งผลให้น้ำท่วมขังในตัวเมืองหลายจุด ทั้ง ถ.สุรนารายณ์ หน้า ปภ.เขต 5 , ถ.ราชดำเนินหน้าจวนผู้ว่าฯ - สามแยกจักราช และสนามแข่งวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชียอ่วม เหตุระบายน้ำไม่ทัน ขณะการจราจรในตัวเมืองติดขัดหนัก

วันนี้ (20 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า หลังจากมีฝนตกหนักติดต่อกันมาเป็นวันที่สอง ส่งผลให้ในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เกิดน้ำท่วมขังหลายจุด และ ถนนหลายสายมีน้ำท่วมขังสูง เช่น ถ.สุรนารายณ์ บริเวณหน้าศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 5 นครราชสีมา น้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร รถยนต์เล็กไม่สามารถสัญจรได้ เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจร 1 ช่องทาง พร้อม ติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากถนน

นอกจากนี้ ที่ ถนนราชดำเนิน บริเวณหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา มีน้ำท่วมขังสูงทำให้รถยนต์เล็ก และรถจักรยานยนต์ไม่สามารถผ่านได้ เช่นเดียวกับที่ บริเวณสามแยกจักราช ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา รถยนต์เล็กไม่สามารถผ่านไปมาได้ ขณะที่ ถ.มิตรภาพ บริเวณหน้าตลาดนัดเซฟวัน ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นจุดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ขณะนี้เกิดน้ำท่วมเล็กน้อย รถทุกชนิดยังสัญจรผ่านได้ตามปกติ ส่วนที่ ถนนสาย 304 ราชสีมา-ปักธงชัย เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ต้องเร่งช่วยกันตัดต้นไม้ที่ล้มกีดขวางการจราจร

ด้านสภาพการจราจรในตัวเมืองนครราชสีมา ตั้งแต่เช้าพบปริมาณรถสะสมหนาแน่นบนถนนทุกเส้นทาง เนื่องจากเป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วน ประกอบกับ มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่หันมาใช้รถยนต์ส่วนตัวในการเดินทางไปทำงานและส่งบุตรหลานไปโรงเรียน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องระดมกำลังช่วยระบายการจราจรอย่างเต็มที่

ล่าสุดมีรายงาน เกิดน้ำท่วมขังสูง กว่า 50 เซนติเมตร เป็นบริเวณกว้างภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา สถานที่จัดการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย 2013 ครั้งที่ 17 ทำให้บรรดาแฟนวอลเลย์บอลจำนวนมาก ต้องลุยน้ำเข้าไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าชมและเชียร์ทีมชาติไทย ที่จะพบกับ ทีมชาติจีน ในรอบรองชนะเลิศ เวลา 16.00 น. วันนี้ (20 ก.ย.) ที่ ยิมเนเซี่ยมชาติชายฮอลล์ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา

 

15:30 ระดับน้ำสะพานวัดเขานางบวช อ.เมือง จ.นครนายก (เครดิตภาพ @beaver_ch5 )


15:00 น้ำท่วม อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ มาจากอ่างเก็บน้ำห้วยติ๊กชู ล้นสปิลล์เวย์(spillway)
14:45 น้ำท่วม อำเภอขุนหาญ, อำเภอไพรบึง และอำเภอพยุห์ จ.ศรีสะเกษ มาจากน้ำล้นสปิลล์เวย์ (spillway) ฝายป่าอ้อ
14:00 นครราชสีมา น้ำป่าไหลเข้าท่วมรางรถไฟกลางดง -ปางอโศก

14:02 ภาพจากดาวเทียม IndiaSat กลุ่มฝนกำลังเคลื่อนออกจากภาคกลางไปทางเพชรบุรี ออกอันดามัน

 

ชลประทานกรุงเก่าเร่งเปิดทางระบายน้ำ
วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2556 เวลา 12:37 น.








ชลประทานกรุงเก่าเร่งเปิดทางระบายน้ำให้ไหลลงสู่่คลองรังสิต ขณะที่ประชาชนเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงหลังมีพายุฝนถล่มต่อเนื่อง

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 ก.ย. นายไมตรี ปีตินานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ทางชลประทานพระนครศรีอยุธยา ได้มีการประสานงานไปทางศูนย์ปฏิบัติการเครื่องจักรกล ที่ 5 พระนครศรีอยุธยาให้การนำเครื่องกลหนักและรถตักแม๊กโค จำนวน 2 คัน มาทำการเปิดทางระบายน้ำและตักผักตบชวาเพื่อทำการขุดลอกคลองเปรมประชา ม.3 ต.เชียงรากน้อย อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นระยะทางยาวกว่า 25 กิโลเมตร ทั้งนี้เป็นการเปิดทางระบายน้ำให้น้ำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาสามารถไหลส่งสู่คลองรังสิต จ.ปทุมธานี เพื่อเป็นการช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในเขตพื้นที่ อ.บางบาล ซึ่งในขณะนี้ระดับน้ำในแม่น้ำน้อย แม่น้ำเจ้าพระยา ได้มีระยะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับในช่วงนี้มีพายุฤดูฝนตกในหลายพื้นที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและพื้นที่ใกล้เคียงทำให้น้ำท่วมขัง จึงได้เร่งทำการเปิดทางระบายน้ำดังกล่าว ซึ่งหลังจากที่เปิดทางระบายน้ำแล้วจะได้มีการประสานเขต อ.ประอินทร์ราชา อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ทำการเปิดเครื่องสูบน้ำออกสู่ คลองรังสิต
ขณะเดียวกัน นายศิริพรรณ ลั่นศิริ อายุ 25 ปี พักอาศัยอยู่บ้านเลขที่ 74 ม. 3 ต.บ้านเลน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา กำลังขนย้ายสิ่งของภายในบ้านขึ้นที่สูงหลังจากประสบปัญหาน้ำท่วม หลังจากที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีพายุฝนตกอย่างต่อเนื่องตลอดทั่ววัน ทำให้น้ำท่วมบ้านเรือนดังกล่าวประกอบกับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าท่วมภายในบริเวณชั้นล่างของบ้าน จึงต้องเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง เนื่องจากเกรงว่าฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องและน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาจะไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของตนเอง ซึ่งตนเองได้เตรียมพร้อมรับมือน้ำที่จะท่วมต่อไป


ชลประทานกรุงเก่าเร่งเปิดทางระบายน้ำ | เดลินิวส์


ผมไม่เข้าใจว่าเรื่องแบบนี้ทำไมถึงมาทำเอาตอนนี้ ตอนที่น้ำเริ่มเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน
เอ้อ..ว้าเหว่จริงๆประชาชนผู้เสียภาษีตาดำๆ ที่เป็นเจ้าของเงินเดือนนักการเมืองและข้าราชการทุกหน่วย ไม่สามารถพึ่งพาใครได้

 

คาดลำตะคองน้ำล้นตลิ่งท่วมเมือง
วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2556 เวลา 14:02 น.




ชลประทานแจ้งเตือนภัยชาวบ้านแนวลุ่มน้ำลำตะคอง เก็บข้าวของไว้ที่สูง คาดปริมาณเอ่อล้นตลิ่งเร็วๆนี้

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. นายบุญรอด หาญองอาจ หัวหน้าทีมประสานงานและรายงาน ศูนย์ประมวลวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ สำนักชลประทานที่ 8 แจ้งเตือนพื้นที่เฝ้าระวังที่อาจเกิดสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน เนื่องจากมีฝนตกต่อเนื่องตลอด 24 ชม. ในเขต อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงภัยน้ำท่วมบริเวณลุ่มน้ำลำตะคอง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งสถานีตรวจวัดน้ำที่โรงเรียนอัสสัมชัญ ตรวจวัดระดับน้ำในลำตะคองได้ 3.50 เมตร เท่าขอบตลิ่ง อยู่ในระดับเตือนภัยเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง ซึ่งแนวโน้มระดับน้ำกำลังเพิ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่ม 2 ฝั่งของลำตะคอง ตั้งแต่ ถนนมิตรภาพ ซอย 4 หลังห้างฯเดอะมอลล์ รพ.เซนต์เมรี่ และ รพ.มหาราชนครราชสีมา จึงขอให้ประชาชนที่อยู่บริเวณพื้นที่ดังกล่าวเตรียมพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง และเก็บข้าวของไว้ที่สูงด้วย สำหรับลุ่มน้ำอื่น ๆ ยังไม่มีปัญหาน้ำท่วม คงมีน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำบ้าง

คาดลำตะคองน้ำล้นตลิ่งท่วมเมือง | เดลินิวส์


ท่านใดอยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามข่าวอย่างใกล้ชิดด้วยครับ

 

ฝนถล่มโคราชน้ำท่วมหลายจุด
วันศุกร์ที่ 20 กันยายน 2556 เวลา 13:31 น.



ดีเปรสชั่นถล่มโคราชอ่วมอรทัย น้ำท่วมตัวเมืองหลายจุดสูง 30-50 ซม. รถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ขณะที่ทอ.ขนกระสอบทรายออกแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้าน
เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั่วทุกพื้นที่ของ จ.นครราชสีมา ได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชั่น ทำให้มีฝนตกอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวันทั้งคืน บางพื้นที่มีฝนตกหนัก โดยเฉพาะเขต อ.เมือง ส่งผลให้มีปริมาณน้ำสะสมจนเกิดท่วมขังในหลายจุด เช่น บริเวณถนนหน้าจวนผู้ว่าราชการจังหวัด เชื่อมกับทางเข้าค่ายสุรนารี มีน้ำท่วมสูง 20-30 ซม. เจ้าหน้าที่ต้องเร่งสูบน้ำระบายออกและวางแนวกระสอบทรายกั้น ป้องกันไม่ให้น้ำเอ่อเข้าท่วมจวนผู้ว่าฯ ขณะที่บริเวณสามแยกจักราช ต.หัวทะเล มีน้ำท่วมถนนสูงกว่า 50 ซม. รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้
ส่วนบริเวณถนนด้านหลังสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่อยู่ระหว่างใช้แข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย มีน้ำเอ่อเข้าท่วมถนน ระดับน้ำสูง 30-50 ซม. รถจยย.และรถยนต์ขนาดเล็ก ไม่สามารถผ่านเข้า-ออกได้ และมีรถยนต์ถูกน้ำท่วมเสียหายไปหลายคัน เช่นเดียวกับบริเวณชุมชนการเคหะแห่งชาติ น้ำที่ไหลมาจากสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติฯเข้าท่วมชุมชนบ้านเรือนได้รับความเสียหายกินพื้นที่บริเวณกว้าง ชาวบ้านกว่า 200 หลังคาเรือน ต้องรอขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ช่วยนำกระสอบทรายมาปิดกั้นทางน้ำ เพื่อไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนไปมากกว่านี้
ด้าน น.อ.ณรงค์ อินทชาติ ผบ.กองบิน 1 นครราชสีมา สั่งการให้กำลังทหารกองบิน 1 กว่า 100 นาย นำรถบรรทุกขนาดใหญ่ขนกระสอบทรายกว่า 5,000 ถุง ไปช่วยเหลือชาวบ้านบริเวณชุมชนหลังการเคหะ หมู่บ้านคฤหาสน์ทอง และตลาดเซฟวัน โดยวางแนวกระสอบทรายยาวกกว่า 100 เมตร ตามแนวถนน เพื่อบังคับทิศทางการไหลของน้ำให้ไหลลงสู่ทางระบายน้ำปกติ ไม่ให้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้พื้นที่ จ.นครราชสีมา ยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจุดยังไม่น่าไว้วางใจ เจ้าหน้าที่ ปภ. หน่วยกู้ภัย และทหาร เตรียมกำลังคน พร้อมทั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ไว้รองรับสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมงแล้ว


ฝนถล่มโคราชน้ำท่วมหลายจุด | เดลินิวส์

 

"เจ้าพระยา"เอ่อท่วมวัดจุฬามณี พระเณรลุยน้ำทำกิจนิมนต์
วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2556 เวลา 15:43 น.










แม่น้ำเจ้าพระยาไหลเอ่อท่วมวัดดังเมืองกรุงเก่า
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 ก.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางสำรวจปริมาณน้ำในแม่น้ำป่าสักและแม่น้ำเจ้าพระยาพบว่า น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาหน้า วัดจุฬามณี อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไหลเอ่อเข้าท่วมบริเวณภายใน โบสถ์ เมรุ และรอบบริเวณวัดได้ถูกน้ำเจ้าพระยาไหลเอ่อเข้าท่วม พระสงฆ์ และ สามเณร ต้องเดินลุยน้ำไปทำกิจนิมนต์ อีกทั้งบริเวณหน้าวัดกษัตราธิราช อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้เริ่มสูงขึ้น อย่างต่อเนื่อง 10 – 15 เซนติเมตร น้ำเอ่อเข้าท่วมบริเวณวัดดังกล่าว อีกทั้งประชาชนที่มีบ้านเรือนปลูกติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาต่างเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงพร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดเนื่องจากประชาชนในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเกรงว่าน้ำจะท่วมเหมือนปี 2554 ที่ผ่านมา

"เจ้าพระยา"เอ่อท่วมวัดจุฬามณี พระเณรลุยน้ำทำกิจนิมนต์ | เดลินิวส์

 

"วังไทร" พื้นที่การเกษตรจมน้ำแล้วหลายพันไร่
วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2556 เวลา 15:54 น.









ท่วมรอบ 2 ของปีนี้ น้ำป่าหลากท่วมพื้นที่ 4 หมู่บ้านในเขตตำบลวังไทร อำเภอคลองขลุง กำแพงเพชร พื้นที่การเกษตรที่ จมน้ำหลายพันไร่ มา 3 วันแล้ว


วันนี้ (22 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ย่างเข้าสู่วันที่ 3 แล้วสำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่ตำบลวังไท รอำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร โดยพบว่าเขตตำบลวังไทร มีน้ำป่าหลากเข้าท่วม ตั้งแต่หมู่ที่ 1 ถึงหมู่ที่ 4 มีน้ำท่วมขังพื้นที่การเกษตร และบ้านเรือนราษฏร แต่รถยนต์ยังสามารถสัญจรผ่านไปมาได้แม้ว่าจะไม่สะดวกนัก โดยมีหมู่บ้านในตำบลวังไทรจำนวน 4 หมู่บ้าน ถูกน้ำไหลเข้าท่วมถนนและบ้านเรือน ระดับน้ำอยู่เหนือเข่าเล็กน้อย บางแห่งระดับน้ำท่วมถึงเอว ทำให้ประชาชนทั้ง 4 หมู่บ้านกำลังได้รับความเดือดร้อนกันอย่างหนัก

ชาวบ้านบอกว่า เป็นอย่างนี้ทุกปีหลังจากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ปริมาณน้ำป่าไหลจากเขตเทือกเขาในเขตพื้นที่อำเภอคลองลานหลากไหลลงสู่ คลองปิ่นโต บ้านคลองเตย อำเภอคลองลาน เข้าอำเภอปางตาไว และอำเภอปางศิลาทอง แล้วไหลผ่านเข้าท่วมในพื้นที่ตำบลวังไทรอำเภอคลองขลุง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมอย่างฉับพลันจนชาวบ้านไม่ทันได้ตั้งตัว

นางสุนันทา สุขสาสุณี นายก อบต.วังไทร เปิดเผยว่า จากฝนที่ตกติดต่อกันหลายวัน น้ำจากเทือกเขา ในเขตอำเภอคลองลาน ได้ไหลลงสู่ลำคลองสาขาต่างๆ ผ่าน ตำบลวังไทร ก่อนไหลไปที่ ตำบลหัว ถนน ลงสู่แม่น้ำปิง น้ำที่เอ่อล้นคลอง วังไทร ได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือน วัด โรงเรียน และพื้นที่ทางการเกษตร ขณะนี้ 4 หมู่บ้าน คือ หมู่ 1-4 มีพื้นที่นาข้าวที่เพิ่งเพาะปลูกจมอยู่ในน้ำเกือบ 3 พันไร่ ทาง อบต.ได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้าน ได้เฝ้าระวัง เตรียมรับมือกับน้ำที่จะไหลมาอีกระลอก หากมีฝนตกหนักในคืนอีก จากรายงานล่าสุดแจ้งว่า น้ำจากเขา และประตูน้ำหินชะโงก โพธิ์ทองยังมีน้ำอีกมาก

นางสุนันทา สุขสาสุณี นายก อบต.วังไทร เปิดเผยว่า พื้นที่ของตำบลวังไทร เป็นพื้นที่รองรับน้ำจากอำเภอคลองลาน หากมีน้ำป่าในปริมาณมาก น้ำก็จะเข้าท่วมหมู่บ้านทันที เพราะว่าคลองวังไทรทอดยาวไหลผ่านอยู่กลางหมู่บ้าน
นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ อบต.ทุกฝ่าย ได้ร่วมกับผู้นำท้องถิ่น ออกพื้นที่ดูแลชาวบ้าน ดูแลเด็กไม่ให้เล่นน้ำ เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง และตรวจตราดูแลทรัพย์สินของชาวบ้านยามค่ำคืน ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของคนในหมู่บ้าน



"วังไทร" พื้นที่การเกษตรจมน้ำแล้วหลายพันไร่ | เดลินิวส์

 

แม่น้ำท่าจีนทะลัก "สุพรรณฯ" น้ำท่วม
วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2556 เวลา 16:48 น.











เมื่อวันที่ 22 ก.ย.นายเอกพันธุ์ อินทร์ใจเอื้อ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี กล่าวว่าขณะนี้ปริมาณน้ำฝนที่ตกนอกเขื่อนจำนวนมากไหลลงสู่แม่น้ำท่าจีน ทำให้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยปริมาณน้ำเหนือประตูระบายน้ำโพธิ์พระยาสูง 6.26 เมตร ท้ายประตู สูง 6.04 เมตร เจ้าหน้าที่ป้องกันภัยฯ เดินเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 28 เครื่อง สูบน้ำออกจากพื้นที่เขตเศรษฐกิจ รวมทั้งบริเวณถนนประชาธิปไตย น้ำไหลเข้าท่วมผิวจราจรบางช่วง นอกจากนี้แม่น้ำท่าจีนได้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่เทศบาลประกอบด้วยชุมชนวัดหอยโข่ง และคลองหัวเวียง และบริเวณตลาดริมน้ำ ทางเทศบาลได้ติดตั้งสัญญาณเตือนภัยไว้หากระดับน้ำในแม่น้ำท่าจีนสูงเกินระดับความปลอดภัย สัญญาณเตือนภัยจะดังขึ้นเพื่อให้ประชาชนที่อยู่ริมแม่น้ำได้เตรียมป้องกัน

นายเอกพันธุ์กล่าวต่อว่า สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำท่าจีนขณะนี้ได้ไหลเข้าท่วมถนนสายสุพรรณบุรี-บางปลาม้าสายเก่า วัดมเหยงคณ์ และโรงเรียนวัดมเหยงคณ์ ในพื้นที่ ต.ท่าระหัด อ.เมืองสุพรรณบุรี ระดับน้ำสูงประมาณ 40 เซ็นติเมตร ระยะทางประมาณ 800 เมตร รถเก๋งผ่านไม่ได้ สำหรับบ้านเรือนประชาชนสองฝั่งแม่น้ำท่าจีน ตั้งแต่ อ.ศรีประจันต์ อ.เมือง อ.บางปลาม้า และ อ.สองพี่น้อง หลายร้อยหลังคาเรือนได้รับผลกระทบพอสมควร การเดินทางออกจากบ้านต้องใช้เรือ และชาวบ้านเริ่มนำกระสอบทรายไปทำแนวกั้น และ อบต.บางแห่งเริ่มนำเรือเหล็กออกแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนแล้ว.

แม่น้ำท่าจีนทะลัก "สุพรรณฯ" น้ำท่วม | เดลินิวส์

 

"ศรีสะเกษ" น้ำทะลักตัดถนน-รางรถไฟขาด
วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2556 เวลา 17:35 น.





วันนี้ (22 ก.ย.) นายสุขสันต์ บุญโทแสง หน.สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยว่า ขณะนี้ จ.ศรีสะเกษ มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 18 อำเภอ 106 ตำบล 982 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 73,333 ครัวเรือน 323,945 คน ทุกฝ่ายได้สนธิกำลังเร่งให้การช่วยเหลือเยียวยา ทั้งสนับสนุนเรือท้องแบน ทำการอพยพผู้ประสบภัยและสัตว์เลี้ยง ไปไว้ในที่ปลอดภัย



ด้านนายเลิศบุศย์ กองทอง นอภ.อุทุมพรพิสัย กล่าวว่า ในวันนี้น้ำป่าจากเทือกเขาพนมดงรัก ได้ทะลักเข้าท่วมพื้นที่ 5 ตำบล ประกอบด้วย ต.โคกจาน ทุ่งไชย ก้านเหลือง อะลาง และ ต.แข้ ถนนสายอุทุมพรพิสัย-ปรางค์กู่ ได้ถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง น้ำได้เอ่อท่วมช่วงระหว่างบ้านก้านเหลือง-บ้านโปร่ง ระดับน้ำสูงประมาณครึ่งเมตร รถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านได้ เนื่องจากไหล่ทางลึกกว่า 5 เมตร ไม่มีธงปักบอกแนวเขต



ส่วนที่ อ.ห้วยทับทัน น้ำป่าได้ไหลบ่าเอ่อท่วมสะพานห้วยทับทัน ส่งผลให้ทางหลวงหมายเลข 226 สายศรีสะเกษ-สุรินทร์ รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ อีกทั้งยังได้ท่วมรางรถไฟ ช่วงระหว่างสถานีห้วยทับทัน-สำโรงทาบ ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร เป็นระยะทางยาว 300 เมตร ส่งผลให้รถไฟต้องหยุดนิ่งที่สถานีอุทุมพรพิสัย มีผู้โดยสารตกค้างเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ได้เร่งจัดรถนำส่งที่ บขส.ศรีสะเกษ.

"ศรีสะเกษ" น้ำทะลักตัดถนน-รางรถไฟขาด | เดลินิวส์

 

ระทึก เจ้าพระยาล้นจ่อท่วมวัดธรรมารามกรุงเก่า
วันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน 2556 เวลา 21:10 น.






นายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยาเดินทางไปสั่งการเอง


เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 22 ก.ย. นายอภิชาต สุขสมบูรณ์ นายกอบต.บ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งจากประชาชนว่าน้ำได้ทะลักเข้าฐานล่างใต้แนวบังเกอร์ป้องกันน้ำหน้าวัดธรรมาราม จึงพร้อมด้วยนายวิทยา ผิวผ่อง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา จนท.ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของอบต.บ้านป้อม ร่วมกับหน่วยกู้ภัยสมาคมอยุธยารวมใจ มูลนิธิศูนย์พุทไธศวรรย์ และ อ.ส. เดินทางไปช่วยเหลือ

พบว่าระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา อยู่ด้านนอกแนวกำแพงบังเกอร์คอนกรีต มีระดับน้ำสูงจากพื้นดินชั้นในประมาณ 30 ซ.ม. โดยน้ำซึมเข้ามาทางด้านฐานล่าง ซึ่งมีเพียงผ้าใบคลุมอยู่ จึงช่วยกันระดมกระสอบทรายวางกั้นทับลงไปในร่องใต้ฐานกำแพงตลอดแนว โดยเสริมแนวกระสอบทรายสูงขึ้นหลังบังเกอร์ประมาณ 1 เมตร
พระอฺธิการประสาท เขมะปุญโญ เจ้าอาวาสวัดธรรมาราม เปิดเผยว่าบังเกอร์คอนกรีตดังกล่าวมีความยาว 150 เมตร ใช้บังเกอร์เรียงต่อกันลักษณะคล้ายกับวัดไชยวัฒนาราม เป็นคอนกรีตกว้างแผ่นละ 1.60 เมตร และสูงประมาณ 2 เมตร หนา 3 นิ้ว นอกจากป้องกันน้ำท่วมวัดแล้วยังป้องกันบ้านเรือนประชาชนที่อยู่รอบบริเวณอีก 15 หลังคาเรือน ซึ่งตั้งบังเกอร์มาได้ประมาณ 3 วันแต่ยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ยังไม่ทันได้วางกระสอบทรายทับ น้ำก็สูงขึ้นแล้วซึ่มเข้ามา แต่เชื่อว่ายังสามารถป้องกันได้

นายวิทยา กล่าวว่าหลังทราบรายงานรีบมาดูก็รู้สึกตกใจ แต่ได้สั่งการให้อ.ส.ลงมาช่วยเหลือ พร้อมยังมีหน่วยกู้ภัยมาช่วย โดยช่วงเช้าจะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง อาจจะต้องเสริมกระสอบทราย และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม


ระทึก เจ้าพระยาล้นจ่อท่วมวัดธรรมารามกรุงเก่า | เดลินิวส์