ปัญญาที่สูงกว่าความรู้ที่เข้าใจ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ต้นที่สาม, 3 กันยายน 2013.

  1. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    มองอย่างไรถึงเห็น สภาวะของความเป็นจริง

    ขออนุญาตครับ

    เมื่อเริ่มปฏิบัติธรรมใหม่ๆ ผมก็ถามจิตตัวเองว่า

    "เราจะไปหาครูบาอาจารย์ที่เก่งที่สุดได้ที่ไหน?"
    จิตของผมก็ตอบว่า "แล้วพระพุทธองค์เป็นอย่างไร?"
    จิตของผมก็ตอบว่า "พระพุทธองค์ได้ทรงจาริกไปทั่วทุกแว่นแคว้น เพื่อเผยแผ่พระธรรม"
    จิตของผมก็ถามอีกว่า "แล้วผมต้องไปตามหาครูบาอาจารย์ที่ท่านจาริก ออกแสดงธรรมไปทั่วอย่างนั้นหรือ?"
    จิตของผมก็ตอบว่า "เป็นเช่นนั้น"

    เมื่อมีข่าวหนาหูขึ้นเรื่อยๆว่า ท่านอาจารย์ยันตระ ท่านมีชื่อเสียงโด่งดัง และ ออกแสดงธรรมไปทั่ว
    และเมื่อมีข่าวว่า ท่านมาแสดงธรรมที่ แฟลตห้วยขวาง ใกล้ๆนี่เอง ผมก็เลยไปด้วย

    เมื่อท่านเริ่มแสดงธรรม ผมก็นั่งสมาธิฟังธรรมของท่าน
    แต่พอจิตผมเป็นสมาธิ ก็เกิดความร้อนรุ่มกระวนกระวาย จนต้องถอนจากสมาธิเพื่อลืมตาขึ้นดู รอบๆตัว
    ก็ไม่เห็นมีอะไร ญาติธรรมทั้งหลาย ต่างก็ลืมตา สงบเสงื่ยม นั่งฟังธรรมด้วยความสงบ

    ผมก็หลับตาเริ่มภาวนาใหม่ แต่ก็เกิดเหตุการแบบเดิม คือ จิตร้อนรุ่ม กระวนกระวาย เหมือนนั่งอยู่ในกองไฟ

    แล้วผมก็ลืมตาขึ้นมาดู สิ่งต่างๆรอบตัวใหม่

    ผมก็วนเวียนทำอย่างนี้อยู่หลายรอบ

    ในที่สุดผมก็พิจารณาว่า เป็นเพราะเหตุอันใด
    จึงได้รู้ว่า ท่านยันตระ นั้น ไม่ใช่พระภิกษุุสงฆ์แล้ว

    ผมก็เลยเลิกนั่งภาวนา แล้วเฝ้าดูเหตุการต่างๆไปจนจบงาน

    ความนี้มาอีก ท่านยันตระมาแสดงธรรม ที่หอประชุม เอดี๑ ข้างลานพ่อขุน มหา-ลัยรามคำแหง
    แต่วันนั้นผมมีเรียนช่วงเช้า กว่าจะเข้าไปในห้องประชุมได้ก็คนเต็มหมดแล้ว
    ผมก็เลย ไปนั่งสมาธิฟังที่ตรงทางเดินแถวกลวง
    น้องๆที่ดูแลสถานที่ ก็เข้ามาถามว่า
    "ทำไมไม่ไปหาเก้าอี้นั่ง?"
    ผมก็ตอบว่า "เต็มหมดแล้ว"
    เขาก็ถามว่า
    "จะนั่งบนพื้นนี่หรือ?"
    ผมก็ตอบว่า "ไม่เป็นไร"
    ขณะการถามตอบ นั้น จิตของผมเป็นสมาธิแล้ว น้องเขาเลยเดินจากไป

    แล้วเหตุการเหมือนที่เกิดขึ้นที่แฟลตห้วยขวาง ก็เกิดซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า อีกครั้ง

    หลังแสดงโชว์เสร็จ ท่านยันตระ ก็ถูกเชิญโดยสาวใหญ่ผู้มีอันจะกิน
    ให้เข้าไปในรถเบนซ์ของท่านที่จอดอยู่ด้านหน้าห้องประชุม
    เพื่อเป็นศิริมงคล ท่านว่าอย่างนั้น
    ลังจากท่านยันตระ ถามเหตุ ถามผลอยู่นาน
    สาวใหญ่ท่านนั้นก็ตื้อไม่เลิก ท่ายที่สุดท่านยันตระ ก็ยอมเข้าไปนั่งเบาะหน้าข้างคนขับ
    สาวใหญ่ท่านนั้นก็รีบถ่ายรูปกันใหญ่ ท่านยัตระก็ตกใจ ถามว่า
    "ถ่ายรูปทำไมๆ"
    พร้อมจะขอฟีล์มคืน สาวใหญ่ก็ไม่ยอมอ้างว่า มีรูปสำคัญทางธุระกิจ อยู่ในม้วนนั้นด้วย
    ท่านยันตระ ก็เลยไม่ได้ ฟีล์มจากเขา

    หลังจากนั้นไม่นานก็มีข่าวว่า ท่านยัตระไปกราบหลวงปู่สาม อกิญฺจโน ที่วัดของท่านที่จังหวัดเลย
    องค์ท่านไม่ได้รับไหว้ และ ขอพระบรมสารีริกธาตุองค์ท่านก็ไม่ให้
    เมื่อมีผู้ถ่ายรูปในช่วงที่ท่านยัตระอยู่กับท่าน พอล้างรูปออกมา
    ปรากฏว่า ท่านยันตระ ห่มขาว ไม่ได้ ห่มเหลือง

    ครั้นพอมาเรื่อง ท่านเณรคำ ก่อนเกิดเหตุสองสามเดือน

    ครูบาอาจารย์พระเถระผู้ใหญ่ถามผมว่า
    "รู้จักหลวงพ่อเณรคำไหม?"
    ผมตอบท่านว่า "เคยเห็นแต่รูปตามปกหนังสือครับผม"

    ท่านถามผมอีกว่า
    "เคยทำบุญกับท่านไหม?"
    ผมตอบท่านว่า "ไม่เคยครับผม"

    ท่านถามผมอีกว่
    "เคยไปวัดท่านไหม?"
    ผมตอบท่านว่า "ไม่เคยไปครับผม?"

    ท่านจึงบอกจึงสรุปให้ว่า
    "เออ ดีแล้ว"

    หลังจากนั้น ข่าวคาวต่างๆก็ แพร่สะพัดออกไป

    มีญาติธรรมหลายๆท่านถามผมเรื่อง นักปฏิบัติฆราวาสคนดังๆทั้งหลายว่า

    "ท่านเหล่านั้น รู้ธรรม เห็นธรรมระดับใหน มีบุญบารมีอยู่เท่าไร?"

    ผมก็ถามท่านเหล่านั้นกลับไปว่า "แล้วคุณเห็นคนเหล่านั้นอยู่แถวนี้หรือเปล่า (พุทธสถานพระใหญ่ชัยภูมิ)"
    ท่านผู้ถามตอบว่า
    "ไม่เห็น"
    ผมก็ตอบให้ท่านกระจ่างว่า
    "ถ้าคนเหล่านั้นมีบุญบารมีจริง เขาก็น่าจะมาถึงแถวนี้แล้ว"
    "ถ้าคนเหล่านั้นมีบุญบารมีจริง เขาก็น่าจะรู้จักท่าน อ.ทิพากร รินไธสงค์แล้ว"

    ท่านผู้ถามก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ตอบว่า "เข้าใจแล้วๆๆ"

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 กันยายน 2013
  2. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    บรรทัดท้ายสุดคือการปกติ
    การก้าวไปสู่การปกตินั้น
    ยากกว่าการที่
    มีไม่มี
    ผ่านไม่ผ่าน
    จิตปกติ ที่รู้ ที่ตื่น ที่เบิกบาน
     
  3. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ผู้ปฏิบัติเป็น ผู้ปฏิบัติได้ ขอให้ก้าวออกมา

    ขออนุญาตครับ

    ในสมัยที่เป็นเด็กนักเรียนนั้น เมื่อครูสอนบทเรียนอะไรจบแต่ละบทแล้ว
    ครูก็จะตั้งคำถามเด็กนักเรียนในห้อง แล้วหาผู้ตอบ
    ครูก็จะถามว่า "ใครตอบได้ให้ยกมือขึ้น?"
    บางครั้ง ครูก็อาศัย การสังเกตุจากใบหน้าว่า ใครรู้ ใครเข้าใจ แล้วชี้ให้ตอบ
    หรือ ครู จะให้นักเรียนที่มีผลการเรียนอันดับต้นๆของห้องตอบ
    หรือแม้แต่ครูจะชี้ให้นักเรียนขี้อาย ตอบ
    หรือ ให้นักเรียนที่เรียนอ่อนที่สุดในห้องตอบ

    ทุกๆอย่างที่ครูทำ ก็เพื่อ สร้างเด็กนักเรียนของตนให้มีความก้าวหน้า

    การที่เพื่อนพ้องน้องพี่ ในเว็บนี้นั้น ท่านที่เป็นนักปฏิบัติ จริงๆนั้น ก็มีน้อยอยู่แล้ว

    เพราะที่เห็นส่วนมาก มักจะไปก๊อปปี้ คำสอนของครูบาอจารย์ท่านต่างๆมา
    แล้วตั้งกระทู้บ้าง
    พากันไล่ถาม ไล่ตอบปัญหาธรรม ที่ตนเองก็ไม่ค่อยจะรู้จริงบ้าง

    องค์หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน ท่านมักจะถามกลับว่า


    "แล้วมันทำอย่างไรละ?"
    "ก่อนมาถึงตรงนี้ การปฏิบัติ มีลำดับ ขั้นตอน อย่างไร?"
    "ถ้าบอกไม่ได้ อธิบายไม่ได้ ก็แสดงว่า ยังไม่รู้จริง"
    "เพราะธรรมนั้น ผู้ปฏิบัติจริง ผู้รู้จริง ต้องบอก ต้องอธิบายออกมาได้
    "

    เมื่อท่านปฏิบัติได้ ก็บอกก็เล่าออกมาเถอะครับ เพราะธรรม นั้น เหมือนทางเดินในเขาวงกต

    แต่ละเส้นทาง ส่วนใหญ่ก็สามารถบรรลุธรรมขั้นต่างๆ ไปจนถึงระดับสูงที่สุด
    จะช้าบ้าง จะเร็วบ้าง ก็แล้วแต่บุญวาสนาบารมี จริต นิสสัย ที่น้อมนำให้เดินในเส้นทางนั้นๆ

    มีบ้างบางเส้นทาง ที่นำพาไปสู่ทางตัน ที่ไม่มีวันพบความสำเร็จ

    มีบ้างบางเส้นทาง ที่นำพาสู้เส้นทางที่ยาวนานมากๆ กว่าจะพบความสำเร็จได้

    ก็เหมือนกับเส้นทางชีวิตของคนทั่วๆไปนั่นละ่ครับ ที่มีความแตกต่างทั้งทางด้าน

    บุญ วาสนา บารมี
    สติปัญญา
    ทรัพย์สินเงินทอง
    ความรู้ ความสามารถ
    รูปร่างหน้าตา
    รสนิยมการแต่งกาย
    อุปนิสัยใจคอ ......

    ธรรมก็คล้ายๆกัน ท่านเดินเส้นทางไหน ท่านเดินได้อย่างไร ท่านผ่านอะไรมาบ้าง

    ก็แค่บอก ก็แค่เล่ามันออกมา เผื่อว่า มีท่านอื่นๆ ที่กำลังปฏิบัติอยู่ในขั้นนั้นๆ อยู่ในระดับนั้นๆ อยู่ในเส้นทางนั้นๆ

    จะได้ศึกษา จะได้เอาเป็นแนวทางการปฏิบัติ จะได้ตักตวงเอาประโยชน์ได้

    เมื่อท่านมีความสามารถ ร้องเพลงได้ดีได้เพราะ ก็ก้าวออกมาเป็นนักร้อง
    อย่าได้ไปเป็นแค่หางเครื่องอยู่เลย เพราะหางเครื่องในเว็บนี้มีเยอะแล้ว

    หรือจะรอให้วงเจ้ง หรือจะรอให้วงล่ม แล้วไปสมัครเป็นหางเครื่องวงอื่นๆต่อไป

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
  4. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    ขออนุญาตรับคำของลุงมหาดครับ
    แม้จะรู้เพียงน้อยนิดแต่ก็หวังว่าจะเป็นอานิจสงค์
    สำหรับคนที่ยังไม่อาจแม้จะก้าวเดิน

    ผมมีห้าบรรทัดนี้ที่ครูบาอาจารย์ได้ให้ท่องและดูไว้เป็น
    เส้นทางก้าวเดินแและฝึกปฏิบัติ สั้นๆเรียบง่ายแต่ตอนปฏิบัตินั้น
    คงไม่เรียบง่ายมากเหมือนกับสิ่งที่เราเข้าใจ

    เริ่มต้น
    หลังจากฟังธรรมได้หลายวัน
    จนถึงวันที่ตัดสินใจปาวรณาตนที่จะเปลี่ยนชีวิตตนเองนั้น
    ครูบาอาจารย์ มีคำถามที่ถามเป็นคำถามแรก คือ
    "โยมเชื่อมั่นในองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเปล่า"
    "อันหมายถึงพระปัญญาของพระองค์"
    "อันหมายถึงคำสอนของพระองค์"
    "อันหมายถึงผู้ปฏิบัติตามแนวทางของพระองค์(สงฆ์)"

    ซึ่งมันหมายถึงความศรัทธา ที่จะก้าวเดินไป
    ถ้ายังได้คำตอบว่าไม่แน่ใจ โยมก็คงต้องศึกษา
    ไปแบบนกแก้วนกขุนทองต่อไป
    เมื่อวันได ศรัทธาของโยมเต็มเปี่ยมแล้ว
    วันนั้นโยมค่อยกลับมา เพื่อเรียนรู้จากอาตมา

    เป็นคำถามที่คนพุทธ
    ที่เคยได้ฟังเรื่องราวของพระที่หลอกต้มตุ่นชาวบ้าน
    คนที่เข้าวัดเพราะตามพ่อแม่
    คนที่เคยทำบุญไปเพื่อหวังว่าไม่ตกนรกตามคำที่เล่าๆกันมา
    เหมือนคนธรรมดาคนหนึ่ง ได้ผ่านพบมา
    คำถามที่ถามตัวเอง คือ
    "แล้วอะไรหละคือ สิ่งที่เราต้องศึกษาอีก อ่านเอาก้ได้
    พระสงฆ์องคเจ้าทั้งหลายก็เขียนหลังสือกันออกดาดดื่น"

    สิ่งที่คาในใจ อยู่สองสามเรื่อง
    คือ
    1.ทำไมต้องมีศรัทธาเต็มเปี่ยม ในการเป็นสาวกของพระองค์
    2.มีอะไรแตกต่างจากที่เคยอ่านๆมา เพราะสุดท้ายก็คือคนธรรมดา
    อย่างพระอาจารย์ ที่จะสอนเรา
    3.เราพร้อมที่จะแตกต่างหรือยัง
    4.เราห่างจากปลายทางมากใหม

    นี่เป็นวันเริ่มวันที่หนึ่งของการเริ่มต้นฝึกของกระผม
    นายต้นที่สาม ครับ
    (จะเล่ามาเล่าเรื่อยๆเท่าที่มีเวลาครับผม)
     
  5. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842
    ไม่ทราบว่าท่าน ลุงมหา๑ เห็นแววนักร้องซักกี่ท่านกันครับ
    ที่พอจะปั้นให้เป็นดาวได้ พอประมาณจำนวนได้ไม๊ครับ

    หลักสิบ หลักร้อย หรือหลายพัน
    แบ่งเป็นดีหนึ่ง ประเภทหนึ่ง กับดีหนึ่ง ประเภทสองก็ได้ครับ

    ขอบคุณที่ตอบครับ
    (ขอบคุณแล้วนะ ถ้าไม่ตอบ ไม่ยอมด้วย 555)


    วิญญานกระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  6. ปารามิตราราชาวดี

    ปารามิตราราชาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +404
    มาแอบเก็บความรู้ ของผู้มีประสบการณ์ ขอบคุณทุกๆท่านเจ้าค่ะ rat_wtingthaxx
     
  7. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    ขอชื่นชมๆๆ

    ขออนุญาตครับ

    สมัครสมาชิกตั้งแต่ ปี 2508 แต่เขียนแค่ 89 ข้อความ
    ขอชื่นชมๆๆ อย่างแรง

    นี่ถ้าท่านที่เขียนไปเป็น 600 กว่าๆ กระทู้ รู้จักเอาท่านเป็นตัวอย่าง

    ก็คงจะไม่ถูกแบน

    ขออวยชัยให้พร ขอให้ท่านพบทางสว่างว่า

    ในยุคที่มนุษย์มีอายุขัยแค่ ไม่เกิน ๑๐๐ ปี

    จะสร้างกุศลผลบุญอย่างไรจึงจะได้

    กุศลผลบุญที่ส่งผลต่ออนาคตมากที่สุด สูงที่สุด


    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ
    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2013
  8. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    หลังจากกลับมาที่ทำงานเมื่อได้รับโจทย์จากพระอาจารย์มา
    ก็กลับมาเข้าสู่กระบวนการศึกษาปกติของตัวเองคือ
    ถ้าเป็นงานวิจัยก็คือไปทบทวนวรรณกรรมทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง
    เพื่อถามตัวเองว่าเรา มีความศรัทธาในพระองค์หมดใจหรือเปล่า

    เริ่มจากการอ่าน ศึกษาหา อะไรที่พระพุทธองค์ได้แสดงออกมาที่เรียกว่าปัญญา
    เพราะสิ่งที่สอนนั้น เริ่มต้นเพียงศิล5 เท่านั้น
    เอเพียงเท่านี้ใครๆหรือศาลนาอื่นก็น่าจะคิดได้ เพราะเป็น
    การอยู่ร่วมกันเพื่อความสงบ ของคนที่อยู่ร่วมกัน

    เริ่มจากใหนดี
    ก็เริ่มจากศาสนาเปรียบเทียบ
    โดยเน้นที่คำสอน และประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง
    พอเข้าไปค้นจริงๆ โอ้โห ถ้าจะลึกซึ้งนี่ผมจะต้องไปทำdoc
    ทางศาสนาเปรียบเทียบเลย เพราะมีนักรู้นักคิดมากมาย
    ที่จบด๊อกมาที่จบเพราะเปรียบเทียบบางแง่มุมของศาสนา สองศาสนา
    เท่านั้นเอง แล้วนี่เราจะเปรียบเทียบเพื่อหาว่า อะไรทำให้เราต้อง
    ศรัทธาในพระปัญญาของพระพุทธองค์ โดยสุดใจเพื่อก้าวต่อไปนั้น
    มันต้องมีจุดที่บอกความแตกต่าง และชัดเจนที่แสดง

    เริ่มตรงใหนดี กลายเป็นโจทย์ใหญ่ ที่ต้องทำงานหนักมาก
    เพื่อตัดความเคลือบแคลงสงสัย ในตัวเอง

    สุดท้ายก็ไปเริ่มอ่านหนังสือ มากมายที่มีอยู่ในระบบ
    โดยเริ่มจาก เรื่องเล่าก่อน จากนั้นก็เริ่มตะลุย หาข้อมูล

    จนหลายวันต่อมาก็มีหนังเรื่องหนีตามกาลิเลโอออกมา ฉายก็สะดุดใจเรื่องมัน
    เลยไปค้นเรื่องกาลิเลโอดู ตามนิสัยเดิมที่อยากรู้ข้อมูลมากๆ
    ที่น่าตกใจ คือกาลิเลโอ ติดคุกจนตาย เพราะไปขัดแย้งกับศาสนาจักร
    เรื่องเกี่ยวกับโลกจักรวาล เกี่ยวกับโลกมีใช่ศูนย์กลางจักรวาล
    ซึ่งน่าตกใจ ขณะที่พระพุทธเจ้าของเราพูดเรื่องจักรวาล และมิติต่างๆมากมายแล้ว
    เกิดอะไรขึ้นกับความแตกต่างนี้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 ตุลาคม 2013
  9. ประชาชื่น13

    ประชาชื่น13 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +43
    ท่านต้นที่สามลองอ่านหนังสือ ปฏิปัตติปุจฉาวิสัชนา พระธรรมเจดีย์(จูม พนธุโล) ถาม

    พระอาจารย์มั่น ภูริทัตตเถร ตอบดูครับ เป็นหนังสือที่น่าสนใจมากและน่าจะตรงกับแนวปฏิบัติ

    ที่ท่านปฏิบัติอยู่ตอนนี้ อีกเล่มหนึ่งก้อ จิตที่พ้นจากทุกข์ของคุณลุงหวีด บัวเผื่อน ครับ
     
  10. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    ต้องขออนุญาตเล่า เรื่องราวที่เล่านี้ตอนที่ผมไปทำงานที่ทวาย

    พอมาเจอเรื่องกาลิเลโอ แล้วก็เป็นแรงบันดาลใจ
    ว่าเฮ้ย ไอ้เรื่องที่เขายังต้องจับคนขังเพื่อให้ยอมรับในบางศาสนานั้น
    พระพุทธเจ้าของเรากลับได้ตรัสไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ สองพันกว่าปีก่อน
    มันหมายถึงองค์ความรู้ที่แตกต่าง

    แล้วคำถามที่ต่อมาแล้ว เรื่องจักรวาลนี้พระองค์ท่านเอาความรู้นี้ได้อย่างไร
    เครื่องมืออะไรหละ คงเป็นเรื่องที่คนที่ตามหนังสือทางศาสนามานานก็คงไม่แปลกใจ
    แต่ถ้ามือใหม่หัดศึกษา จากวันรุ่นกระโป๊งกระเป๊งไปวันๆ
    แต่มีความรู้ด้านอื่นๆ มันเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากสำหรับคน
    ที่เคยคิดอยากจะเรียนวิศกรรมยานอวกาศ ตั้งแต่สมัยเด็กๆ
    ซึ่งตอนนั้น ฝันอยากจะไปท่องจักวาลเหมือนภาพยนต์สตาวอร์
    เครื่องมือของพระองค์ในการศึกษาคืออะไร เพราะสิ่งที่เอ่ยถึงนั้น
    มันเหนือกว่าความรู้ปัจจุบัน มากมาย จนกลายมาเป็นจินตนาการ
    จนต้องสร้างภาพยนต์เพื่อที่จะปั้นจินตนาการขึ้นมา

    จุดนี้กลายเป็น คลิกที่หนึ่ง ที่ผมเชื่อมั่นในปัญญา และความรู้ของพระพุทธองค์
    ซึ่งมีทั้งหมด สามคลิ๊กที่ผมจัดสินใจ ก้าวออกจากบ้านไปศึกษากับพระอาจารย์เต็มตัว ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 พฤษภาคม 2014
  11. ปารามิตราราชาวดี

    ปารามิตราราชาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +404
    ขอบพระคุณค่ะ... แหะ แหะ แต่ครืออว่า ...ปีที่สมัครมัน ค.ศ 2008 ค่ะ มิใช่ พ.ศ 2508 ซึ่งยังมิเกิดเลยเจ้าค่ะ ^^"
     
  12. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    มาถึงคลิกที่สอง ที่เริ่มสนใจและติดตาม มา คือ มีการออกอากาศหนังเรื่องทวิภพ
    แต่ไม่มีโอกาสได้ดูที่บ้านเรา มีคนเอามาดูที่แคมป์ ไม่มีอะไรทำก็ดูไปกับเขา
    และก็มาต่อด้วยรายการเรื่องการระลึกชาติของครูบัวไข
    ที่กลายมาเป็นช่างแอร์ในชาติปัจจุบัน เฮ้อย นี่มันเรื่องชาติภพที่สอนไว้ในไตรภูมินี้
    แล้วถ้าเกิดเราต้องตาย(อันนี้แน่ๆ) แล้วเราจะไปที่ใหนหว่า
    พอมาดูเรื่องนรก สวรรค์ ที่มีการบรรยายกันไว้ในพระสูตร ไตรภูมิพระร่วงเสียชัดเจน
    แล้ว เราจะไปอยู่ที่ใหนหว่า
    แล้วในเมื่อจักรวาลที่ตรัสไว้ ในขณะที่คนในยุคนั้นยังรบกันด้วยดาบ ขับเกวียนกันอยู่เลย
    แล้วนรกสวรรค์ คิดในตรรกะนี้ ก็คงไม่ยากในการเข้าถึง แล้วอะไรหละที่เป็นเครื่องมือ

    ถึงตอนนี้แรงกระตุ้นอย่างยิ่งยวด ด้วยความอยากรู้อยากเห็นและทึ่งในสติปัญญา
    ของพระพุทธองค์
    ทำให้ตลุยอ่านเรื่องราวเกี่ยวกับพระองค์และสาวกอย่างพระโมคคัลลาณะ พระสารีบุตร
    ที่สามารถรู้ถึงตอนนที่ต้องการรู้ว่าในขณะจิตนี้ในจักรวาลมีฝนตกที่เม็ด

    ตอนนั้น มีเสียงตะโกนในใจคือ แม้ๆๆๆๆประเจ้าๆๆๆ
    สำหรับคนที่ไม่ชอบแสวงหาความรู้และไม่ท้าทายตัวเอง ก็คงเฉยๆ แต่
    สำหรับผมแล้ว มันช่างเป็นความท้าทายอย่างมาก
    เหมือนตอนที่เป็นเด็กๆเห็นพี่ๆนักกีฬาว่ายน้ำเก่งกาจได้ เราก็อยากว่ายเป็นบ้าง
    ยังยาก แต่พี่เขาทำได้ ถ้าเราฝึกและทำตัวอย่างเขา ก็คงทำได้
    และสิ่งที่พี่เขาให้กำลังใจอย่างมากในวันที่ไปเข้าแคมป์ก็คือ
    เฮ้อย เอ็งมองพวกที่ว่ายในสระ แล้วเห็นอะไรบ้าง
    ทุกคนก็ตอบว่าเห็นน้ำบ้าง นักกีฬาบ้าง
    แต่พี่เขากลับตอบว่าที่เห็นในสระก็คือคน แต่ที่เขาทำได้และเก่งกาจ
    เพราะเขาตั้งใจฝึกฝนจากคนที่ทำได้และสอนคนอื่นเป็น
    และอดทนตั้งใจมากกว่าคนอื่นในการฝึกฝน จนกลายเป็นนักกีฬา
    แต่พี่ขอย้ำและให้กำลังใจน้องๆ คือ นักกีฬาเหล่านั้นคือคน
    และกำลังใจที่บอกว่า คู่ต่อสู้ก็คือคน จนทำให้กลายเป็นนักกีฬา
    เยาวชนทีมชาติในที่สุดก่อนจะเลิกเพื่อเรียน ตามบัญชาของพ่อแม่
    เตรียมตัวก่อนเข้ามหาวิทยาลัย



    สิ่งที่ผมมีกำลังใจ ที่จะก้าวไปฝึกฝน คือ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นคน
    สาวกของพระองค์ ก็คือคน และพระองค์สามารถสอนให้คนเหล่านี้เป็นอรหันต์ได้
    แสดงว่าพระองค์มีวิธีการสอน
    และสิ่งที่การันตรี ว่ามนุษย์ทุกคนสามารถไปถึงได้ ถ้าตั้งใจฝึกผนเรียนรู้
    จะสำเร็จใน เจ็ดวัน เจ็ดเดือน เจ็ดปี
    พอถึงตรงนี้ อยากให้สวางเร็วๆเพื่อไปสมัครเรียนวิชาของพระพุทธเจ้า
    กับพระอาจารย์ หรือกับใครๆที่สามารถสอนวิชาของพระพุทธเจ้าได้

    ครับ ก้าวที่หนึ่ง ที่จะสมัครเป็นนักเรียนอนุบาล ในโรงเรียนวิชาอรหันต์ของพระพุทธเจ้าครับ
    ในวันนั้นบอกตัวเอง เป็นวันลงทะเบียนเริ่มต้นเรียนหลักสูตรเตรียมอนุบาลครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 ตุลาคม 2013
  13. ปลายธาตุ

    ปลายธาตุ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กันยายน 2012
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +225
    อยากบ้าก็ไปดูที่นี่จิตบ้าข้ามจักรวาล: จิตบ้าข้ามจักรวาล
    หายตาบอดแล้วก็ไปหาฝึกที่นี่
    มูลนิธิศึกษาการุณย์: ขอเชิญฝึกปฏิบัติธรรมวิชาธรรมกาย โดยมูลนิธิศึกษาการุณย์
    เขาฝึกฟรี ไร้ค่าใช้จ่าย อย่าคิดมาทำเองเลย ขนาดพระพุทธเจ้าบารมีมากมายยังล่อไปเกือบเจ็ดปี แล้วพวกเราบารมีเท่าขนแมวเจ็ดอสงไขยยังไม่เห็นทางหรอก ต้องเรียนกับผู้ทำใด้เราก็ทำใด้ไม้ต้องรอเจ็ดไหนๆหรอก ดูซะเด็กตาบอดหูหนวกยังทำใด้เลย
    https://www.youtube.com/watch?v=94CZE8Eob5k#t=282
    https://www.youtube.com/watch?v=hq4RojTn1jg
    เด็กมันไม่โกหกหรอกมีแต่ผู้ใหญ่อย่างเรานี่แหละชอบหลอกตัวเอง

    พวกเรานะแย่กว่าเด็กพิการอีก ปฏิบัติแบบมืดบอด
     
  14. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    ขอบคุณครับ
    ถ้าการเล่าของผมในเรื่องที่ผ่านมา ตามที่ลุงมหา๑ขอให้เล่าไปกระทบ
    จิตของคนแล้วทำให้เกิดจิตที่เป็นอกุศล ต้องขอขมาโทษด้วยครับ

    ขออนุญาตเลิกเล่าต่อนะครับ
    ที่ผ่านมาแม้คิดว่าแม้จะเป็นเพียง
    การก้าวเดินของเด็กหนุ่มอย่างผมที่ทำได้เพียงแค่
    เปิดตาในตนเอง และก้าวผ่านการแยกร่างจิต
    ที่เป็นก้าวแรกก้าวเบื้องต้นของการก้าวเดินไปอย่างเชื่อมั่นในคำสอน
    และแนวทางปฏิบัติในแนวทางพุทธสาวก ซึ่งต้องฝึกฝนอย่างศรัทธามั่นคงต่อไป
    ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่ไม่เคยก้าวเดินมาในมิตินี้เลย

    ขอบคุณครับสำหรับคำเตือน ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2013
  15. ต้นที่สาม

    ต้นที่สาม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2011
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +1,074
    แต่อย่างไรก็ตาม ผมเชื่อว่าคนที่คิดเทคโนโลยี่คนแรก
    ครับที่ยากมากๆและต้องฉลาดมากๆ
    แต่คนที่ก๊อปปี้ นั้นเพียงแค่ทำตามวิธีการที่คนคิดทำ
    อย่างถูกต้อง โดยมีอุปกรณ์ครบถ้วน
    และประกอบอย่างถูกต้องตามคู่มือ โดยไม่ใส่ความเห็นตนเองลงไป
    หรือพลิกแพลงก่อนที่จะเข้าใจอย่างถ่องแท้นั้น
    ผมเชื่อว่า เราสามารถประกอบหรือประดิษฐ์สิ่งที่
    คนต้นคิดสามารถคิดได้ครั้งแรกได้อย่างไม่ผิดเพื้ยนครับ
    คือแนวทางของพุทธสาวก ไม่จำเป็นต้องมีบารมีหรือสติปัญญาเทียบเท่ากับ
    คนที่คิดคนแรกครับ ผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ตุลาคม 2013
  16. ปารามิตราราชาวดี

    ปารามิตราราชาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +404
    เสียดายจังเลย เลยอดอ่านประสบการณ์จริงของคุณต้นที่สามซะแล้ว ถ้ายังอยากเล่า ก้อจะตามมาอ่านนะคะ ^^...
     
  17. ลุงมหา๑

    ลุงมหา๑ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    931
    ค่าพลัง:
    +3,937
    อย่าได้ไปให้ราคากับใครบางคน บางกลุ่ม บางพวก ขอให้พิจารณา "สัมมาทิฐิ"

    ขออนุญาตครับ

    สมาชิกชาวเว็บพลังจิตหลายๆท่าน
    เข้ามาแล้ว กลับไม่ได้สร้างประโยชน์ใดๆ ให้กับ เพื่อนพ้องน้องพี่ ชาวเว็บเลย

    อย่าได้ไปให้ราคากับคนกลุ่มนี้

    ขอให้พิจารณา "สัมมาทิฐิ" ของพวกเขาก็จะเข้าใจได้

    ขอโมทนาบุญ ขออนุโมทนาบุญ

    ลุงมหา

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ตุลาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...