ลักษณะของจิตวิญญาณที่มาจากดวงดาวต่างๆ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย สันโดษ, 22 ธันวาคม 2013.

  1. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    [​IMG]


    ชาวอันโดรเมด้า (Andromedan)

    ผู้ที่มาจากระบบสุริยะจักรวาลเเละกลุ่มดาวอันโดรเมด้ามักจะมองหาอิสรภาพด้วยความกระหายเเละใช้อารมณ์นี้ในการขับเคลื่อนเพื่อค้นหาอิสรภาพ พวกเขาอาจจะเปลี่ยนงาน ที่อยู่อาศัย หรือ ความสัมพันธ์เพื่อตามหาสิ่งที่พวกเขาต้องการนั้นก็คืออิสรภาพ เมื่อถึงจุดนึงพวกเขาจะรู้สึกตัวได้ว่าอิสรภาพที่พวกเขาได้มาเเละความรู้สึกที่พวกเขามีกลายเป็นกับดักซึ่งไม่ตรงกับสถานการณ์เเห่งความเป็นจริงที่พวกเขากำลังรับมืออยู่

    อิสรภาพที่พวกเขาต่างมองหาเเท้จริงเเล้วมาจากภายในซึ่งสามารถค้นพบได้จากการพัฒนา รู้จักที่จะรักตัวเองเเละจิตวิญญาณข้างใน ชาวอันโดรเมด้าที่ค้นพบตัวเองเเล้วเเละทำงานกับความรู้เหล่านี้ได้สร้างโลกเเห่งความเป็นจริงในขณะที่กำลังเติบโตอยู่ในตำเเหน่งต่างๆบนโลกใบนี้

    ชาวอันโดรเมด้าจะต้องรับมือเกี่ยวกับปัญหาของการรักตัวเองเเละความมั่นใจให้ได้สิ่งนี้ คือ สิ่งที่ชัดเจนมากสำหรับชาวอันโดรเมด้าที่ต้องฝึกฝนอีกมากซึ่งพวกเขาอาจจะเเกล้งทำ อิสรภาพภายในเเละการเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณสามารถค้นพบได้จากภายในซึ่งเป็นสถานที่ตั้งอยู่มาตั้งเเต่เเรกเริ่ม ถ้าเชื่อมั่นเเละศรัทธาในตนเองก็จะได้รับอนุญาตให้มองเห็นได้ การพัฒนาในส่วนนี้การสื่อสารระหว่างตนเองเเละพระเจ้าจะเเข็งเเกร่งมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะสามารถทำให้รู้ถึงอดีตชาติของตนเองเเละความสามารถพิเศษต่างๆในอดีตจะถูกปลุกขึ้นมาอีกครั้ง

    ชาวอันโดรเมด้าจำนวนมากได้ค้นพบว่าตนเองมีความสามารถพิเศษมากมายที่จะให้ผู้อื่นสู่เส้นทางเเห่งจิตวิญญาณเเละกลายมาเป็นครูบาอาจารย์เเละผู้รักษา

    ชาวอันโดรเมด้าชอบท่องเที่ยวเเละรักที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ต่างๆ พวกเขามีความสุขกับความตื่นเต้นร้าใจเเละกิจกรรมสันทนาการต่างๆมากมาย พวกเขามักจะมีความรู้สึกอยากที่จะกลับไปเยี่ยมบ้านเก่าในอดีตชาติ หรือ อยากที่จะไปเยี่ยมสถานที่ใดที่นึงเป็นพิเศษในช่วงเวลาใดเวลานึงเฉพาะเจาะจงโดยไม่เข้าใจว่าทำไม หลายจิตวิญญาณจากกาเเล็คซี่อันโดรเมด้ามีความสุขกับการขับรถเร็ว หรือ ขับเครื่องบินซึ่งเป็นการช่วยการกระตุ้นจิตใต้สำนึกของคำว่าบ้านนั้นเอง

    ชาวอันโดรเมด้าเป็นประเภทที่ชอบสร้างเรื่องสร้างสถานการณ์ให้กับตัวเอง เพราะมีนิสัยที่ชอบคิดร้ายกับตัวเองเเละไม่เคยคิดที่จะทำอะไรจริงจังกับชีวิต การเรียนรู้ที่จะเอาใจใส่กับการเติบโตเล็กๆในโอกาสดีๆในชีวิต พวกเขาจะเริ่มหลีกเลี่ยงการสร้างเรื่องใหญ่โตในอนาคต

    ชาวอันโดรเมด้ามีนิสัยที่ชอบวิจารณ์ตัวเองซึ่งทำให้เข้าใจว่าคนอื่นจะวิจารณ์ตัวเองเช่นกัน พวกเขาอาจจะประหลาดใจว่ามีคนอื่นชอบเขามากมายเเค่ไหน ดูจากภายนอกชาวอันโดรเมด้ามีความมั่นใจในตัวเองสูง มีความสามารถ ชอบการเข้าสังคมเป็นคนที่มีมนุษย์สัมพันธ์ดีเยี่ยมกับผู้อื่น พวกเขาเก็บอารมณ์ความรู้สึกได้เก่งไม่ว่าจะเป็นความลังเลใจ ความหวาดกลัว ความไม่มั่นใจภายในจะถูกเก็บซ่อนไว้ไม่มีใครสามารถมองออกได้เลย

    พวกเขาเหมาะสำหรับการเป็นผู้สอน,ทำงานเกี่ยวกับการดูเเลสุขภาพ หรือ อาชีพที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว บางคนมักจะรวมการเขียนเข้ากับการเเสดงเเละเเสดงตัวตนออกมาด้วยสิ่งต่างๆเหล่านี้ อันโดรเมด้ามีความสามารถในการรักษาเเละการสื่อสารซึ่งสามารถรู้ตัวได้ตั้งเเต่เด็กซึ่งมักจะถูกละเลยเเละไม่ให้การสนับสนุนจากสมาชิกในครอบครัวเเละมักจะถูกกู้คืนในภายหลัง

    ชาวอันโดรเมด้าเป็นผู้ที่อ่อนไหวให้ความเอาใจใส่กับทุกคนเป็นพิเศษเเละชอบนำปัญหาของคนอื่นมาเป็นปัญหาของตัวเองเเละสามารถซึบซับได้ง่ายๆ มีความปรารถนาอยากที่จะทำงานในการรักษาร่างกายเเละช่วยเหลือทางด้านอารมณ์ หรือ ความเจ็บปวดทางจิตวิญญาณให้กับมนุษยชาติ

    <iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/zVsenw8vZ_o" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2013
  2. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    [​IMG]

    ชาวอโพโลเนียน (Apollonian)

    ชาวอโพโลเนียนรักที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆเเละเพิ่มทักษะใหม่ๆให้กับความสามารถพิเศษของตนเอง พวกเขามักที่จะสนใจในการเรียนในชั้นเรียนต่างๆเพื่อพัฒนาความสามารถอันหลากหลาย พวกเขาเป็นพวกที่ชอบสงสัยโดยธรรมชาติ ชาวอโพโลเนียนมีสิ่งนี้ในการนำทางชีวิตเพื่อค้นหาคำตอบในการเติมเต็ม ซึ่งส่งผลให้กับจำนวนอาชีพที่พวกเขาสนใจในช่วงชีวิตนึงที่เขาสามารถต่อยอดความรู้ให้กับพวกเขาได้

    บางครั้งพวกเขาอาจจะรู้สึกเหมือนกับตัวเองเป็นเหมือนดั่ง "ฟองน้ำ" ที่สามารถซึมซับความรู้ได้หลายทาง พวกเขาอาจจะปรากฎตัวเหมือนกับ "นักเรียนมืออาชีพ" หรือมีลักษณะของผู้ที่สามารถเลือกที่จะตัดสินใจทำอะไรก็ประสบความสำเร็จได้ทุกอย่าง ซึ่งไม่ใช่กรณีนี้ชาวอโพโลเนียนไม่ยอมให้ขีดจำกัดความสามารถของตนเองไปหยุดอยู่กับบทบาทใดบทบาทหนึ่ง หรือ สร้างคำจำกัดความให้กับเขา ใครก็ตามที่ต้องการระบุความเป็นตัวตนของพวกเขาจะถูกต่อต้านอยากรุนเเรงทันที นี้คือตัวอย่างนึงในการใช้อารมณ์ตอบสนองเเต่โดยปกติจะเป็นคนใจเย็น

    อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ชาวอโพโลเนียนรู้สึกว่าผู้อื่นตั้งใจที่จะสร้างขอบเขตจำกัดเเละพยายามให้คำนิยมเกี่ยวกับพวกเขาที่เกี่ยวเนื่องกับความเป็นจริง ถ้าหากเกิดสถานการณ์ที่ทำให้พวกเขารุู้สึกเช่นนั้น พวกเขาจะเเสดงท่าที่ที่รุนเเรง ซึ่งลึกๆภายในจิตใจพวกเขามีความปรารถนาที่จะพึงพาตัวเองเเละไม่ต้องการพึงพาผู้อื่นทั้งทางการเงินเเละอารมณ์ความรู้สึก


    พวกเขาอาจที่จะต้องคอยเตือนตัวเองว่าควรจะให้เวลาที่จะทำให้ตัวเองมีความสุขบ้าง ซึ่งโดยส่วนมากจะเป็นจริงจังกับชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน พวกเขาให้ความสนใจกับทางเดินชีวิตเเห่งการเรียนรู้ หรือ การประสบความสำเร็จ ซึ่งควรที่จะถูกบันทึกว่าเเม้เเต่ชาวอโพเลียนส่วนน้อยที่เลือกเส้นทางเดินเเห่งความสุขเเละเสเพลมากกว่าที่จะเรียนรู้อย่างจริงจังจะให้ความสำคัญอย่างเต็มที่ในทางเดินเช่นกัน

    หลายคนที่มาจากดวงดาวอโพโลเนียทำงานในฐานะผู้รักษาดาวเคราะห์โลกเเละรู้สึกเชื่อมโยงกับโลกเเละรู้ถึงความต้องการของเธอ ความสามารถพิเศษที่ติดตัวมาก่อนหน้านี้ คือ ความสามารถที่จำได้ถึงสนามพลังเเม่เหล็ก,ออร่า,เพื่อนทางจิตวิญญาณเเละเทพเทวา ซึ่งทำให้เกิดการดึงดูดให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับทางด้านจิตวิญญาณ ในการค้นหาคำตอบเเละคำอธิบาย ความสามารถเกี่ยวกับพลังงานทำให้ได้เกี่ยวข้องกับการทำงานเกี่ยวกับการรักษาในช่วงเวลาบางจุดของชีวิต ทั้งกับโลกเเละสัตว์หรือผู้คน

    บ่อยครั้งที่จะได้รับการดึงดูดโดยเด็กๆเเละมีความต้องการที่จะทำงานร่วมกับเด็กที่ต้องการความช่วยเหลือหรือหมดหนทางในการช่วย ซึ่งอาจจะหมายถึงในฐานะ พ่อเเม่, ครูบาอาจารย์,ที่ปรึกษา หรือ เพื่อนที่ให้ความสนใจ ความสามารถพิเศษที่เเข็งเเกรงของชาวอโพโลเนียน คือ สามารถที่จะเอาใจใส่ผู้อื่น รักษาเเละปลดปล่อยความเจ็บปวดเเละความหวาดกลัวทางด้านอารมณ์ได้ดี รวมทั้งความรักที่เข้มเเข็งต่อความงดงามเเห่งธรรมชาติ


    ชาวอโพโลเนียนบ่อยครั้งที่จะพึงพาความงดงามเเละความสงบของธรรมชาตเพื่อรักษาตัวเองเเละค้นหาความสงบสุขจากภายใน พวกเขามีสัญชาตญาณที่เเข็งเเกรงเเละความสามารถในการเชื่อมโยงกับจิตวิญญาณ พวกที่าจากดวงดาวอโพโลเนียบ่อยคร้งที่คิดว่าตัวเองเเปลกประหลาดเเละมีความสุขกับการที่ "เเตกต่าง"


    ดวงดาวอโพโลเนียนสอดคล้องกับเเหล่งที่มาบ้างเเห่งบอกว่า ต้นกำเนิดมาจากดวงดาวเเห่ง อัลฟ่าเซ็นจูรี่ ดวงดาวเเห่งระบบ "รีเจล เคนท์"


    <iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/UgqmwnShILU" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
  3. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    [​IMG]

    ชาวอาร์คทูเรียน (Arcturians)

    ผู้ที่มีต้นกำเนิดมาจากดวงดาวอาร์คทูรัสจะมีบุคลิกที่เด่นชัดมากเกี่ยวกับความฉลาดรอบรู้แห่งพลังภายในที่ลึกซึ้ง ภายนอกพวกเขาดูเเข็งเเกร่ง มีความสามารถรอบด้านเเละมีอำนาจมาก ตั้งเเต่วัยเด็กพวกเขารู้สึกเหมือนกับว่าพวกเขามีจุดหมายที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตถึงเเม้ว่าจะไม่รู้ว่ามัน คือ อะไรก็ตาม พวกเขาค้นหาเป้าหมายนั้นซึ่งนำทางมาสู่การค้นพบทางจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ ถ้าไม่สามารถค้นพบจุดหมายได้ก็อาจจะทำให้เกิดความรู้สึกไม่พอใจหรือไม่มีความสุขกับการที่ไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นสำหรับพวกเขา

    ชาวอาร์คทูเรียนเป็นผู้ที่มีความคิดสร้างสรรค์ พวกเขาหลายคนมักจะเป็น นักเขียน,ศิลปิน,ดีไซเนอร์ หรือ ใช้ความสามารถของตัวเองในการสร้างสรรค์ผลงานทางใดทางนึง ชาวอาร์คทูเรียนมักจะเก่งทางด้านการพูดในที่สาธารณะ,มีอารมณ์ขัน, รู้จักกาลเทศะ, ชอบปาร์ตี้เป็นชีวิตจิตใจ พวกเขามีความสุขที่ทำให้ผู้อื่นหัวเราได้ พวกเขาเป็นคนน่ารักเเละชอบท่องเที่ยว พวกเขาเป็นคนที่เบื่อง่ายเเละมองหาประสบการณ์ใหม่ๆเพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกเบื่อหน่าย ซึ่งมีเเนวโน้มในการปรากฎตัวด้วยการสร้างเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ เพื่อสร้างสถานการณ์หรือเหตุการณ์ที่เรียกร้องความสนใจ

    ชาวอาร์คทูเรียนเหมือนจะเป็นพวกที่เข้าถึงได้ยาก หรือ ชอบทำตัวห่างเหิน พวกเขามีเพื่อนสนิทเพียงไม่กี่คนเเต่มีเพื่อนที่รู้จักกันเพียงเปลือกนอกมากมาย ถ้าชาวอาร์คทูเรียนยอมรับคุณในฐานะเพื่อนสนิทเเละเปิดเผยตัวตนที่เเท้จริงกับคุณอย่างลึกซึ้ง จงรู้ไว้ว่าคุณได้รับการพิจารณาอย่างละเอียดมาก่อนหน้าที่คุณจะได้รับการ "ยอมรับ" ชาวอาร์คทูเรียนดึงดูดคนเเปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนด้วยพลังเเห่งอาร์คทูเรียนเเละพลังเเม่เหล็ก พวกเขาเก่งในด้านให้คำปรึกษาเเละพลังออร่าเเสดงให้ผู้อื่นเห็นว่าพวกเขาเเข็งเเกร่งเเละสมบูรณ์เเบบ บางคนอาจจะรู้สึกประหลาดใจเมื่อรู้ว่าชาวอาร์คทูเรียนมีปัญหาต่างๆเเละรู้สึกเหมือนอย่างคนอื่นๆ

    บ่อยครั้งที่สังคมวงกว้างต้องพึงพาเพื่อนชาวอาร์คทูเรียนในการให้คำปรึกษาเเละเเนะเเนวทางชีวิต ถึงเเม้ว่าพวกเขายินดีที่จะรับฟังเเละให้คำปรึกษา ชาวอาร์คทูเรียนมักจะขาดความอดทนกับผู้ที่ไม่ได้มีความตั้งใจจริงๆจังๆที่จะพยายามในการที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองต้องการค้นหาให้สำเร็จ พวกเขาไม่มีความอดทนกับพวกที่ชอบพูดพร่ำรำพันกับปัญหาต่างๆในชีวิต ผู้ที่ต้องการคำปรึกษาเเต่ไม่คิดที่จะนำคำเเนะนำที่ให้ไปใช้อาจจะเสียเพื่อนชาวอาร์คทูเรียนไปเมื่อรู้ตัวอีกที

    ชาวอาร์คทูเรียนมีพลังมากมายไม่ว่าจะเป็นทางร่างกาย หรือ จิตใจ พวกเขาสามารถที่จะกระโดดจากที่นึงไปทำงานอีกที่นึง พวกเขาไม่ชอบที่จะนั่งนิ่งๆอยู่ ณ ที่ใดที่นึงเงียบๆเเละพวกเขาต้องการรู้สึกว่าตัวเองประสบความสำเร็จกับสิ่งใดสิ่งนึง พวกเขาเป็นคนที่กระตือรือร้นอยู่บ่อยครั้งเเละมองโลกในเเง่ดี ถ้าต้องทำอะไรหลายอย่างในเวลาเดียวกันโดยขาดการโฟกัส จะมีหลายงานที่เริ่มขึ้นเเต่จะมีเพียงไม่กี่อย่างที่ทำจนเสร็จสมบูรณ์

    เกี่ยวกับความรักชาวอาร์คทูเรียนต้องการอิสรภาพส่วนตัว พวกเขาจะรู้สึกกักขังในความสัมพันธ์ที่มีขอบเขตเเละข้อห้าม พวกเขาต้องการเวลาที่จะอยู่คนเดียว, เวลาสำหรับเพื่อนเเละสามารถทำสิ่งต่างๆเหล่านี้ได้โดยที่จะไม่รู้สึกผิด พวกเขาต้องการความเข้าใจว่าอิสรภาพควรนำมาปรับใช้กับทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเขา การรักษาที่พวกเขาต้องการควรที่จะกระจายไปสู่ผู้อื่น

    ชาวอาร์คทูเรียนรู้สึกไม่สะดวกใจในการเเสดงความรู้สึกที่เเท้จริงภายในกับผู้อื่นเเละมักจะเเสดงกิริยาท่าทีเพื่อเปลี่ยนอารมณ์ผู้อื่นทันที เกี่ยวกับอารมณ์ของพวกเขา พวกเขารู้สึกสบายใจที่จะเเสดงอารมณ์โกรธเเละความตลก พวกเขาอาจจเริ่มการโต้เเย้งด้วยเรื่องเล่า (อาร์คทูเรียนเก่งในการเล่าเรื่อง!) พยายามทำให้เกิดเสียงหัวเรา, หรือ มีความกล้าที่จะทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อหลีกเลี่ยงการเปิดหัวข้อการสนทนาที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึก


    <iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/ziuowz94vKg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​
     
  4. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870

    [​IMG]

    ชาวมัลเดค (Maldeck)

    ผู้ที่พื้นฐานดั้งเดิมมาจากดวงดาวมัลเคดจะมีบุคลิกที่เเข็งเเกร่งเเละหนักเเน่น พวกเขามีความมุ่งมั่นที่จะให้ความสนใจกับสิ่งที่พวกเขาเชื่อมั่นไม่ว่าจะเชื่อมั่นเเละศรัทธาเรื่องอะไรก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะมีใครสามารถโน้มน้าวจิตวิญญาณของชาวมัลเดคให้เปลี่ยนไปเชื่อในสิ่งใหม่ถึงเเม้จะมีหลักการณ์เเละเหตุผลที่ถูกต้องก็ตาม ก่อนที่จะให้พวกเขายอมรับในสิ่งใหม่ก็จะต้องตอบคำถามจนกว่าพวกเขาจะพอใจ พวกเขามักจะมีความสามารถในการเป็นผู้นำอย่างลึกซึ้งถึงเเม้ว่าจะเป็นการเเสดงออกอย่างเงียบๆ

    ผู้ที่มาจากดวงดาวมัลเดคมีความฉลาดอย่างมากเกี่ยวกับความคิดทางด้านเทคนิดเเละมีความเป็นระเบียบ พวกเขามีความรู้กว้างขวางในหลายด้าน พวกเขาอาจจะทำงานหลายอาชีพ หรือ อาชีพเดียวโดยมีความสนใจอย่างอื่นนอกเหนือไปจากงานที่ทำประจำขึ้นอยู่กับวิถีทางเลือกของพวกเขา พวกเขามองเห็นเเละเข้าใจสิ่งที่อยู่ใต้เปลือกนอกของผู้คนทั้งสิ่งที่ทำเเละเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    เพราะอย่างนี้พวกเขายอมรับคำอธิบายธรรมดา หรือ คำตอบง่ายๆน้อยมาก พวกเขามีเเน้วโน้มในการวิเคราะห์เหตุการณ์เเละประสบการณ์ต่างๆโดยผ่านการปฎิสัมพันธ์กับผู้คน พวกเขาเชื่อว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่มากกว่าสิ่งที่มองเห็นได้ด้วยตาเสมอ เฉพาะชาวมัลเดคเท่านั้นที่มักจะรู้ถึงเรื่องที่กำลังอยู่ในหัวข้อสนทนามากกว่าคนอื่นเสมอ

    พวกเขามักจะสงบเสงี่ยมเเละมักจะดูห่างเหินทุกครั้งที่ปรากฎตัว หรือไม่ก็ยากที่จะเข้าถึงสำหรับผู้ที่ไม่รู้จักเขาดีมากพอ พวกเขาระมัดระวังเเละไม่เชื่อใจเกี่ยวกับบุคคลหรือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวเขา จิตวิญญาณของชาวมัลเดคมีความรักอย่างมากมาย, ซื่อสัตย์เเละเป็นสหายที่น่าเชื่อถือสำหรับเพื่อนของพวกเขาเเละคนรักของพวกเขา พวกเขาจะรู้สึกผิดหวังมากถ้าความสัมพันธ์ที่เขามอบให้ไม่ได้รับกลับมาอย่าเท่าเทียมกัน


    พวกเขาคาดหวังจากผู้อื่นเช่นเดียวกับที่เขามอบให้กับผู้อื่น บ่อยครั้งที่คนอื่นมักจะประหลาดใจเกี่ยวกับความเชื่อมั่นที่ลึกซึ้ง,ความคิดเห็นเเละอารมณ์จากผู้ที่เปลืกนอกดูเป็นคนเงียบขรึมเเละสงบเสงี่ยม ยกเว้นคนที่พวกเขาไว้ใจอย่างเต็มที่พวกเขาจะเปิดใจให้อย่างมากเเละยินดีที่จะทำทุกอย่างเพื่อที่จะเเบ่งปันความสุขในทุกระดับ

    จิตวิญญาณของชาวมัลเดครักการท้าทาย ความลึกลับน่าพิศวงเเละสิ่งที่ไม่สามารถอธิบายได้ พวกเขามักจะหลงใหลในเวทมนตร์เเละใช้พลังงานเหล่านี้ในการสร้างเเละเเสดงพลัง พวกเขามักจะสนใจเกี่ยวกับดาราศาสตร์ตั้งเเต่เล็กๆไม่ว่าจะเป็นดวงดาวต่างๆเเละการสำรวจจักรวาล พวกเขามักจะชอบนิทานเกี่ยวกับพระราชาอาเธอร์เเละอัศวินโต๊ะกลม, พ่อมดเมอร์ลินเเละเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเรื่องราวในยุคสมัยนี้ มีความปรารถนาในเกียรติยศ,ความซื่อสัตย์,ความจงรักภักดีเเละการเป้าหมายโดยทั่วไป คือ ความเเข็งเเกร่ง พวกเขาอาจจะใช้เวลานานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมื่อถึงเวลาที่จะต้องเเก้ต่างให้กับความคิดเหล่านี้ คือ กิจวัตรประจำวัน ช่วงเวลาเหล่านั้นบนโลก คือ ช่วงเวลาที่พิเศษที่สุดสำหรับจิตวิญญาณของชาวมัลเดค ผู้ซึ่งอาจะจะรู้สึกหงุดหงิดใจกับการมีชีวิตอยู่ในโลกปัจจุบันกาลขณะนี้

    สำหรับความสัมพันธ์ของจิตวิญญาณชาวมัลเดคเป็นผู้ที่สนับสนุนเเละเข้าใจคู่รักของตนเอง มอบความเป็นธรรมเเละความเท่าเทียมพร้อมเปิดใจให้อย่างเต็มที่เเละสามารถพูดคุยเปิดอกได้อย่างเต็มที่ในสิ่งที่คู่ของตนเองปรารถนาเเละต้องการ เมื่อร่วมมือเเละเข้าใจกันจนสำเร็จ พวกเขายินดีที่จะทำอะไรก็ตามเพื่อช่วยให้คู่รักของตัวเองประสบความสำเร็จเเละบรรลุถึงจุดหมายเเห่งฝัน

    ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้เพราะว่าธรรมชาติของมัลเดคชอบสร้างคำถาม ทำให้อาจจะใช้เวลานานในการพูดคุยเพื่อให้เกิดสิ่งที่ต้องการทำ พวกเขามีความซื่อสัตย์อย่างมากเเละมีปัญหานิดหน่อยเกี่ยวกับการผูกมัดไม่ว่าจะเป็นเรื่องความรัก,เพื่อนฝูง,อาชีพ หรือ ไอเดีย พวกเขาคาดหวังที่จะได้รับกลับมาเท่าเทียมกันเเละจะไม่เเยเเสทันทีที่ไม่ได้ตามนั้น สิ่งนี้เป็นเรื่องนึงที่จะเห็นได้น้อยมากกับชาวมัลเดค เวลาที่มัลเดคโมโหขึ้นมา

    มัลเดคเป็นดวงดาวที่เคยอยู่อีกฝากนึงของดาวอังคารเเต่ตอนนี้ไม่อยู่เเล้ว ส่วนที่เหลือของดาวดวงนี้ปรากฎอยู่เป็นดาวเคราะห์น้อยระหว่างดาวอังคารเเละดาวพฤหัส

    <iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/leF1-MnX8og" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​
     
  5. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    [​IMG]

    ชาวโอไรออน (Orion)

    ผู้ที่มีพื้นฐานดั้งเดิมมาจากดวงดาวโอไรออนจะมีบุคลิกที่เเข็งเเกร่งทางด้านความคิดเเละความเชื่อ จิตวิญญาณของชาวโอไรออนอาจจะจำได้ด้วยคำถามที่ถูกถามจำนวนมาก พวกเขามีพลังในการขับเคลื่อนที่เข้มเเข็งในการเข้าใจเหตุผลเเละความหมายของทุกสิ่งอย่างลึกซึ้ง พวกเขามีเเนวโน้มที่จะวิเคราะห์ผู้คนเเละเหตุการณ์ในสิ่งที่พวกเขาต้องการทำความเข้าใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ารำคาญใจสำหรับผู้คนรอบตัวเเละอาจจะสร้างความรู้สึกที่ถูกเพ่งเล็งให้กับผู้อื่น สิ่งนี้เป็นนิสัยเฉพาะตัวของจิตวิญญาณชาวโอไรออนในการเลือกที่จะทำงานด้วยความคิดมากกว่าที่จะทำงานด้วยความรู้สึก สิ่งที่ทำนี้ไม่ได้เกิดจากการขาดความรู้สึกเเต่เป็นสไตล์การทำงานเฉพาะตัวของชาวโอไรออน

    ชาวโอไรออนต้องการให้ผู้อื่นเคารพความคิดเห็นของพวกเขาเเละอาจจะโต้เเย้งเพื่อให้ได้มาซึ่งความเคารพยำเกรงเเละโน้มน้าวผู้อื่นให้คิดเช่นเดียวกันกับพวกเขา พวกเขาควรที่จะเรียนรู้ในการสร้างสมดุลด้วยความอ่อนโยนเเละความต้องการของผู้อื่น ชาวโอไรออนที่มีความเป็นผู้ใหญ่ได้เรียนรู้ที่จะอธิบายด้วยมุมมองเเละความคิดเห็นของพวกเขา จนกว่าจะได้รับการยอมรับที่ถูกต้องเเละได้รับการพิจารณานั้นคือสิ่งที่พวกเขามองหาเเละไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีคนอื่นๆในข้อตกลง จิตวิญญาณลึกๆของชาวโอไรออนกระหายในความรู้เเละมักจะหงุดหงิดใจกับผู้ที่ไม่เเบ่งปันในสิ่งที่พวกเขาต้องการ สิ่งที่น่าสนใจเมื่อสนทนากับชาวโอไรออน มันจะมีความชัดเจนถ้าหากเรื่องใดที่น่าสนใจสำหรับพวกเขาเเละน่าเรียนรู้เป็นอย่างมาก หรือ พวกเขาจะไม่สนใจเเละไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับสิ่งนั้นเลย พวกเขาช่างสงสัยอย่างเป็นที่สุดเเละยากที่จะยอมรับความเชื่อใหม่โดยปราศจากหลักฐานเเละข้อพิสูจน์ที่ถูกต้อง สิ่งนี้คือความคิดเเละความรู้ที่พวกเขาให้ความสนใจมากเเละจะต้องมีเหตุมีผลที่มีตรรกะรองรับในสิ่งนั้นก่อนที่จะยอมรับมัน

    ชาวโอไรออนชอบวิจารณ์ผู้อื่นเเละตนเอง เพราะว่าชาวโอไรออนคาดหวังเเละมองหาความสมบูรณ์เเบบ พวกเขามีสายตาที่เฉียบเเหลมในการมองเห็นรายละเอียดที่คนอื่นไม่สามารถมองเห็นได้ พวกเขามีความสามารถชี้เฉพาะเจาะจงในสิ่งต่างๆของผู้อื่น ถ้าพวกเขารู้สึกว่าสิ่งนี้ต้องได้รับความสนใจหรือเเก้ไขให้ถูกต้อง สิ่งนี้สามารถทำให้คนที่ไม่คุ้นเคยขุ่นเคืองใจด้วยพลังของชาวโอไรออนเเละอาจจะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ตัวเองจะต้องถูกวิจารณ์ได้ในที่สุด

    สิ่งที่สำคัญมากเเละจะต้องคำนึงถึงชาวโอไรออน คือ พวกเขาอ่อนไหวในการปรับสมดุลเเละรู้สึกว่าร่างกายไม่สบาย หรือ ป่วยในเหตุการณ์ที่เกิดความไม่สมดุลระหว่างพวกเขาเเละผู้อื่น จะต้องเเก้ด้วยการปรับสมดุลให้ถูกต้องไม่ว่าจะด้วยการปรับสมดุลทางร่างกาย หรือ อารมณ์ ชาวโอไรออนต้องการความสวยงามในการปรับสมดุลคลื่นพลังงานจากสิ่งรอบตัวของพวกเขาเพื่อให้รู้สึกดีในทุกระดับ

    ในความสัมพันธ์ชาวโอไรออนต้องรับมือกับอารมณ์ ชาวโอไรออนรับมือกับอารมณ์อย่างมีไหวพริบเเละอาจจะทำให้ผู้อื่นประหลาดใจด้วยการเเสดงออกของพวกเขา เป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับพวกเขาที่จะต้องเข้าใจเหตุผลเเละเบื้องหลังของเหตุการณ์เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถยอมรับเเละเข้าใจ ในเหตุการณ์ที่ต้องใช้อารมณ์ชาวโอไรออนทั่วไปจะตอบสนองด้วยคำถาม ถึงเเม้ว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับตัวชาวโอไรออนอาจจะเก็บไว้ภายใน ไม่ได้หมายความว่าชาวโอไรออนไม่รู้สึกอะไร หรือ ไม่สนใจเเต่พวกเขากำลังมองให้เข้าใจ ชาวโอไรออนมักจะรู้สึกตะขิดตะขวงใจกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวกับกับอารมณ์ นอกจากว่าพวกเขาจะรู้จักผู้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ดีมากพอที่จะถามคำถามที่ค้างคาใจอย่างให้เกียรติเพื่อตอบสนองความต้องการ การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพมากสามารถสร้างสัมพันธภาพได้กับชาวโอไรออน พวกเขาไม่อนุญาตให้ถามคำถาม หรือ เข้าใจอารมณ์ของพวกเขา พวกเขาจะพัฒนารูปเเบบในการระงับอารมณ์ หรือ สำรวจอารมณ์ภายในเท่านั้น

    ผู้ที่มาจากดวงดาวโอไรออนต้องการความเป็นส่วนตัวเเละเวลาในการอยู่คนเดียวเพื่อเติมพลังเเละจะต้องเรียนรู้ที่จะพัฒนาคลื่นพลังงานภายใน พวกเขาเรียนได้ดีที่สุดเมื่ออยู่คนเดียว หรือ กลุ่มเล็กๆเเละรู้สึกไม่สบายใจในชั้นเรียนที่มีคนจำนวนมาก เมื่อมีพลังงานในระดับสูงรวมกับคำถามธรรมชาติที่มาจากจิตวิญญาณชาวโอไรออนจะทำให้พวกเขาไม่มีความอดทนในการเรียนในห้องเรียน โดยเฉพาะเมื่อพวกเขารู้สึกว่าการสอนไม่ดี หรือ ไม่มีความหมายอะไร ชาวโอไรออนจำนวนมากสามารถเป็นครูที่ยอดเยี่ยม เนื่องด้วยความสามารถที่มองเห็นรายละเอียดเเละเเง่มุมต่างๆในการนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจสำหรับการเรียนรู้ให้กับนักเรียนได้

    ชาวโอไรออนมีความสุขที่ได้ทำให้ผู้อื่นหัวเราะ พวกเขามีอารมณ์ขันอย่างไม่น่าเชื่อ ชอบล้อเลียนเเละเล่นอยู่เป็นประจำ คนอื่นสามารถสังเกตได้ว่าจากที่กำลังเล่นอยู่สามารถเปลี่ยนมาวิจารณ์ได้อย่างรวดเร็ว มีความสามารถในการสื่อสารกับจิตวิญญาณเเละการรับรู้ทางจิต ในการเติบโตทางจิตวิญญาณสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับการท้าทาย คือ การไว้วางใจเเละความศรัทธาให้พัฒนาไปอยู่ในระดับสูงให้ได้ สิ่งนี้ คือ หลายด้านของจิตวิญญาณที่จะต้องได้รับการยอมรับง่ายๆด้วยความศรัทธา ชาวโอไรออนถูกปลูกฝังด้วยคำถามที่ต้องการค้นหาคำอธิบาย ข้อพิสูจน์เเละคำตอบ ด้วยเหตุผลที่เข้าใจได้ก่อนที่จะยอมรับความเชื่อต่างๆ สิ่งนี้สร้างความยุ่งยากเเละการต่อสู้ภายในให้กับชาวโอไรออนจำนวนมาก การรู้จักที่จะเรียนรู้ผสมผสานระหว่างความคิดอย่างมีเหตุผลกับจิตวิญญาณของตนเอง อย่างไรก็ดีด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ชาวโอไรออนเป็นนักสะสมข้อมูลเเละความรู้ที่สำคัญมากซึ่งสามารถนำมาเเบ่งปันให้กับผู้อื่นได้ดี

    <iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/fyzO3CZgKPE" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2013
  6. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    [​IMG]

    ชาวเพลีเดี้ยนส์ (Pleiadians)

    ผู้ซึ่งมีจิตวิญญาณมาจากดวงดาวเพลีดีส์จะมีอารมณ์อ่อนไหว น่ารักเเละใจดี พวกเขามีความปรารถนาอย่างลึกซึ้ง ต้องการให้ทุกสิ่งมีความสงบสุขเเละอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ถ้ามีใครไปถามชาวเพลีเดี้ยนส์ "คุณต้องการอะไรสำหรับชีวิต?" พวกเขาจะตอบกลับมาว่า "มีความสุข" เพลีเดี้ยนส์มีพลังงานที่น่ารื่นรมย์ซึ่งทำให้คนอื่นๆมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้

    จิตวิญญาณของชาวเพลีเดี้ยนส์ใช้อารมณ์เป็นใหญ่เเละรักในทุกอย่างเเต่มีเเนวโน้มว่าจะควบคุมความปรารถนาในการเอาใจผู้อื่น พวกเขาอ่อนไหวง่ายเเละเเสดงออกอย่างรวดเร็วต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชาวเพลีเดี้ยนส์ยินดีเสียสละความต้องการของตนเองเพื่อให้ทำให้ผู้อื่นพึงพอใจ ซึ่งสิ่งนี้อาจจะทำให้เกิดความไม่พอใจภายใน เเทนที่จะเเสดงความไม่พอใจออกมา หรือ โมโหอย่างเปิดเผย ชาวเพลีเดี้ยนส์จะเเสดงพฤติกรรมที่ก้าวร้าวออกออกมาเเทนเเละหวังว่าความรู้สึกที่พวกเขาเเสดงออกมาจะเป็นที่สังเกตจนได้รับการตอบสนองโดยไม่ต้องเจรจาใดๆทั้งสิ้น

    พวกเขาควรที่จะเรียนรู้เเละเข้าใจว่าคนที่พวกเขากำลังเฝ้ามองเพื่อที่จะเอาใจชอบที่จะฟังความรู้สึกในสิ่งที่พวกเขาต้องการมากกว่า เพลีเดี้ยนส์สามารถเจ็บป่วยได้อย่างง่ายดายในสถานการณ์ที่มีพลังความโกรธ ความตึงเครียดอย่างเปิดเผย หรือ การโต้เถียงรอบๆตัว ในขณะที่พวกเขากำลังซึมซับอารมณ์ต่างๆของผู้อื่นภายในจิตใต้สำนึกพวกเขากำลังทำสมาธิเพื่อให้เหตุการณ์ทุกอย่างคลี่คลายลง พวกเขามีเเนวโน้มที่จะระงับอารมณ์ตัวเองเเละพลังงานที่พวกเขาซึมซับจากผู้อื่นสามารถอุดตันได้ถ้าหากไม่ได้รับการระบายออกในเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งนำไปสู่การเจ็บป่วยทางร่างกายได้ในที่สุด

    สิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการเรียนรู้ประสบการณ์สำหรับชาวเพลีเดี้ยนส์ คือ การเรียนรู้ที่จะอนุญาตให้คนอื่นเผชิญชะตากรรมที่พวกเขาได้เลือกทางเดินให้กับตัวเองเเละห้ามเข้าไปมีส่วนร่วม จิตวิญญาณของชาวเพลีเดี้ยนส์จะต้องรู้ตัวว่าตนเองกำลังปรารถนาสิ่งใดในการทำให้ผู้อื่นมีความสุขเเละเข้าใจว่าคนๆเดียวที่สามารถรับผิดชอบต่อความสุขเเละการพัฒนาตนเอง คือ ตัวเอง พวกเขาจะต้องรู้จักเรียนรู้ที่จะอนุญาตให้ผู้อื่นรับผิดชอบในตัวของพวกเขาเอง การเติบโตเเละการเรียนรู้สถานการณ์ต่างๆ ชาวเพลีเดี้ยนส์เเต่ละคนจะต้องเข้าใจว่าพวกเขาไม่สามารถตัดสินว่าเมื่อไรคนอื่นจะมีความสุขเเละอะไรที่คนอื่นต้องการถึงจะมีความสุขได้เเละเเทนที่จะให้ความสนใจในการสร้างความสุขให้ตัวเอง ความรับผิดชอบที่เเท้จริงของตนเองนั้นก็คือ การยอมรับตัวเองเเละความสุขส่วนตัวจะทำให้เจริญรุ่งเรืองเเละร่างกายจะตอบสนองด้วยความผ่องใส

    ชาวเพลีเดี้ยนส์จะต้องทำงานเกี่ยวกับการพัฒนาความสามารถทางด้านการสื่อสารอย่างเปิดเผยในมิติที่สามเเละการนับถือตนเอง มันเป็นสิ่งที่สำคัญที่จะต้องเรียกคืนพลังของตัวเองกลับมา เรียนรู้ที่จะสื่อสารอย่างเป็นอิสระเเละจะต้องเข้มเเข็งภายในให้ได้ บางครั้งการปรากฎตัวของชาวเพลีเดี้ยนส์ต่อหน้าผู้อื่นอาจจะดูสุขุมเเละห่างเหินมากเกินไป เนื่องมาจากการระงับความคิดในการวิจารณ์ผู้อื่นมาถึงจุดที่ไม่ต้องการพูดเเละปัญหาในการถือตัวเป็นสิ่งที่ชาวเพลีเดี้ยส์หลายคนมีเหมือนกัน บ่อยครั้งที่พวกเขารู้สึกว่าความคิดของพวกเขาไม่คุ้มค่าที่จะเสียในการเเบ่งปันเเละจำเป็นที่จะต้องทำงานในบริเวณนี้เช่นกัน

    จิตวิญญาณของชาวเพลีเดี้ยนส์อาจะพัฒนารูปเเบบในการใช้สิ่งต่างๆเเตกต่างกันไปในการเเสวงหาความรู้ในมิติที่สาม เพื่อหลบหนีออกไปจากโลกเเห่งความเป็นจริงชั่วคราว หรือทำในสิ่งที่ผิดเพื่อช่วยยกระดับความสามารถในการสื่อสารเเละสร้างความมั่นใจ ซึ่งอาจจะเป็นในรูปเเบบของการใช้สารเสพติด, การดื่มเหล้า, การสร้างความโรเเมนติกในละคร, หรือ การหลบหนีโลกเเห่งความเป็นจริงง่ายๆผ่านทางการอ่านหนังสือ,ดูทีวี หรือ ดูภาพยนตร์

    ชาวเพลีเดี้ยนส์ปลดปล่อยผ่านทางการร้องไห้ เนื่องจากชอบเก็บกดความรู้สึก ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้มีการระบายอารมณ์เกิดขึ้น ผลก็คือการร้องไห้ซึ่งอาจจะเเสดงท่าทางที่ดูเหมือนออกจะมากเกินไปกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เนื่องจากปัญหาทางด้านการสื่อสารที่จิตวิญญาณชาวเพลีเดี้ยนส์กำลังพัฒนา พวกเขาอาจจะต้องประสบกับเหตุการณ์ต่างๆเพื่อปลดปล่อยพลังงานในบริเวณจักระที่ห้า (ลำคอ) เช่น การร้องไห้ สิ่งนี้สามารถเป็นปัญหาของร่างกายที่เกิดขึ้นได้บ่อยๆ หรือ การพูดที่ยากลำบาก เช่น เสียงเเหบ, ไอ หรือ อึดอัดบริเวณ จักระที่ 5 (ลำคอ) สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นอีกเมื่อเกิดความมั่นใจเเละเป็นอิสระในการระบายอารมณ์ออกมาเเละความต้องการที่จะเรียนรู้เเละใช้ในทุกวันของชีวิต ซึ่งสามารถใช้เป็นสัญลักษณ์ในการมองเข้าไปภายในเพื่อสื่อสารกับสิ่งที่ต้องการสื่อสารกับคุณ

    ชาวเพลีเดี้ยนส์มีความศรัทธาที่เเข็งเเกร่งอย่างมากเเละไว้ใจได้ พวกเขามีจุดประสงค์ที่ยิ่งใหญ่ตั้งเเต่ยังเด็กถึงความรู้สึกที่รู้ว่ามีการเชื่อมโยงถึงพระเจ้า, จุดประสงค์เเละเเผนงานต่างๆเเม้เเต่ในเวลาเเห่งความมืดมน จิตวิญญาณภายในของพวกเขามีความปรารถนาในการมองหาคำตอบจากจิตวิญญาณเเละตามหาการเชื่อมโยงถึงพลังงานเเห่งพระเจ้า ตั้งเเต่วันที่พวกเขาเริ่มมองหาเเละเรียนรู้การเติบโตได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อพวกเขาเริ่มต้นรับรู้ได้ถึงการเชื่อมโยงของพระเจ้าเเละรักตนเองในสิ่งที่พวกเขาเป็นอย่างสมบูรณ์เเบบ ความรู้สึกเก่าๆอารมณ์เเละความลังเลในตนเองได้จางหายไปในที่สุด


    <iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/x5GrYFDbRp8" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2013
  7. KasroK

    KasroK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +98
    ทำไมเขาต้องมาเกิดอยู่ร่วมกันบนโลกครับ หรือว่าดาวดวงอื่นๆจะมีความสามารถเเค่อย่างเดียว แต่ดาวโลกมีความสามารถเยอะเพราะมีชาวดาวต่างๆมาอาศัย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2013
  8. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301


    รูปมนุษย์ต่างดาวน่ารักดีคะ
     
  9. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    [​IMG]

    ชาวไพรวิเลียน (Pvilian)

    ผู้ที่มาจากดวงดาวไพรวิล่าเป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพที่เเข็งเเกร่งเเละหนักเเน่นพอๆกับความทรนง เป็นผู้ที่มีอารมณ์ขำเเละมีความต้องการอยากที่จะโดดเด่น บ่อยครั้งที่จะกลายเป็นตัวตลกประจำห้อง จัดอยู่ในกลุ่มรักสนุก ชอบการปาร์ตี้สังสรรค์ พวกเขามีเเนวโน้มที่จะทำอะไรลงไปเกินขอบเขตในการล้อเลียนเเละสร้างอารมณ์ขัน บางครั้งใช้เงินของผู้อื่นมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว พวกเขาไม่ได้ตั้งใจทำให้ใครเจ็บปวดเเต่เป็นเพราะว่ามีความรู้สึกอยากที่จะทำ ณ ตอนนั้น สิ่งที่ต้องเรียนรู้คือความเห็นอกเห็นใจเเละความอ่อนโยนในการรับมือกับผู้อื่น

    จิตวิญญาณชาวไพรวิเลียนนำพาพลังออร่ามาซึ่งอาจจะทำให้ผู้อื่นเข้าใจว่าพวกเขาเเข็งกระด้างเเละเข้าถึงตัวยาก ไม่สามารถทำให้ทุกอย่างลงตัวได้โดยเฉพาะพวกที่ขาดความมั่นใจเเละเชื่อมั่นในตัวเองต่ำ ในบางครั้งคนอื่นอาจจะมีปัญหาในการเข้าใจเเละรับมือกับชาวไพรวิเลียน เมื่อพวกเขาข้ามผ่านมาได้อย่างกล้ำกลืนฝืนทนอาจจะมีความจำเป็นที่จะต้องปรับปรุงเปลี่ยนเเปลงรูปเเบบพฤติกรรมการเข้าหาผู้อื่นอย่างนุ่มนวล ในการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นเป็นสิ่งที่ดีที่ผู้อื่นจะมองข้ามความเเข็งเเกร่งภายนอก เพื่ออนุญาตให้เห็นจิตใจที่ดีภายในเมื่อได้ทำลงไปเเล้วจะได้เห็นว่าชาวไพรวิเลียนเอาใจใส่ดูเเลเเละช่วยเหลือผู้ที่รู้สึกว่าพวกเขา คือ เพื่อนเเท้เเละมีค่าควรที่จะได้รับการดูเเลจากพวกเขา บางครั้งพวกเขาอาจจะทำเพื่อเพื่อนมากเกินไปเเละอาจจะต้องถอยกลับไป ให้ผู้อื่นได้เรียนรู้ประสบการณ์ พวกที่สนิทกับไพรวิเลียนจะค้นพบว่าพวกเขาซื่อสัตย์มาก เป็นเพื่อนที่อุทิศตัวให้เพื่อนเเละเป็นผู้ที่สามารถมองข้ามผ่านข้อบกพร่องเเละจุดด่างพร้อยของเพื่อนได้อย่างง่ายดาย พวกเขาอาจจะตัดสินบางสิ่งบางอย่างได้ง่ายๆ หรือ ตราหน้าคนอื่นว่าผิดสำหรับคนที่พวกเขาไม่ได้คิดว่าเป็นเพื่อน สิ่งที่สำคัญสำหรับชาวไพรวิเลียน คือ ต้องรู้จักเรียนรู้ที่จะถอยเเละถอนตัวออกมาจากความเป็นตัวเอง

    พวกเขามีเเนวโน้มที่จะเป็นเจ้าชีวิตตนเองเเละครอบครองชีวิตส่วนตัวของผู้อื่น ซึ่งสามารถกลายเป็นปัญหาได้ในความสัมพันธ์ บางคนอาจจะรู้สึกถูกละเลยเมื่อเกิดขึ้นกับพวกเขา หนึ่งในเหตุผลที่จิตวิญญาณหลายดวงจากไพรวิล่าเลือกที่จะทำงานในช่วงชีวิตนี้ คือ การควบคุมอัตตาเเละเรียนรู้ที่จะสร้างความสมดุลในการเอาใจใส่ผู้อื่นด้วยความใส่ใจจากความต้องการส่วนบุคคล มีการขับเคลื่อนที่ทรงพลังเก็บสะสมข้อมูลรายละเอียด,ความรู้เเละความปรารถนาอย่างลึกซึ้งที่จะค้นหาเเละเข้าใจทุกสิ่งทุกอย่าง ชาวไพรวิเลียนครอบครอง "การถ่ายภาพ" ประเภทความทรงจำ มีความสามารถที่ได้ถูกสงวนไว้ว่า อะไรคือ สิ่งทีได้เรียนรู้สำหรับการอ้างอิงในอนาคตเกี่ยวกับรายละเอียดกราฟฟิก ชาวไพรวิเลียนเก่งในการเป็นวิทยากร,นักประพันธ์ หรือ อาจจะทำงานเกี่ยวกับทางด้านเทคนิค หรือ ความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ พวกเขาไม่ได้รักที่จะสะสมความรู้เท่านั้นพวกเขามีความสุขที่ได้เเบ่งปันให้กับผู้อื่นเช่นกัน พวกเขาอาจจะมีอาชีพที่หลากหลายเเละสามารถทำกิจกรรมหลายอย่างได้ในเวลาเดียวกัน พวกเขาไม่ชอบจำกัดขีดความสามารถให้ตนเอง

    พวกเขามีความเฉลียวฉลาดในหลายวิชาเเละถามคำถามมากมายเพื่อค้นหาคำตอบเเละรายละเอียด พวกเขาอาจจะรู้สึกขุ่นข้องหมองใจ หรือ ไม่มีความอดทนกับผู้ที่ไม่ขยันหมั่นเพียรที่จะทำความเข้าใจเช่นเดียวกับเขา เป็นสิ่งที่ดีสำหรับจิตวิญญาณชาวไพรวิเลียนที่จะฝึกความอดทนเเละเข้าใจพวกที่ไม่กระหายที่จะเรียนรู้ ชาวไพรวิเลียนมีความมุ่งมั่นเป็นอย่างมากที่จะมุ่งเน้นกับอะไรก็ตามที่เป็นวิถีชีวิตในช่วงเวลาใดก็ได้ วิถีชีวิตนี้สามารถเปลี่ยนเเปลงได้บ่อยๆ พวกเขาสามารถย้ายจากเเผนนึงไปสู่อีกเเผนนึงได้อย่างสบายๆ สำหรับคนอื่นอาจจะเป็นเรื่องที่ยากที่จะต้องตัดสินใจ หรือ ยืนหยัดต่อเป้าหมาย มันไม่ใช่เรื่องจริง,พวกเขาสามารถเปลี่ยนเเผนการได้โดยเรียงลำดับความสำคัญก่อนหลัง พื้นที่เเละความสนใจจะมาเเละไปตามที่ปรารถนาโดยที่ความรู้ใหม่ๆจะเป็นผู้นำทางให้พวกเขาไปพบ

    สำหรับความสัมพันธ์ผู้ที่มาจากดวงดาวไพรวิล่าต้องการความเคารพเเละอิสรภาพ พวกเขาควรที่จะคบผู้ที่สัมผัสได้ถึงพลังอำนาจเเละมีความมั่นใจอย่างมากเพื่อที่ว่าพวกเขาจะไม่รู้สึกกลัวหรือรู้สึกด้อยข้า ชาวไพรวิเลียนควรที่จะมีเวลาส่วนตัวเงียบๆเพื่อเชื่อมต่อเเละค้นหาความสงบสุขภายใน พวกเขาปรับสมดุลได้ดีกับผู้ที่เเบ่งปันความต้องการทางด้านอิสรภาพเเละความเป็นส่วนตัว บ่อยครั้งที่เกิดการดึงดูดกับผู้ที่มีพลังงานอ่อนนุ่ม อย่างไรก็ตามพวกเขาจำเป็นที่จะต้องอยู่กับผู้ที่มีความฉลาดเท่าเทียมกัน ในการสร้างความตื่นเต้นเเละท้าทายสำหรับชาวไพรวิเลียนให้มีความสุขอย่างสมบูรณ์เเบบจะสร้างการสมดุลทางด้านพลังงานเเละการกระตุ้นทางปัญญาสม่ำเสมอเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับชาวไพรวิเลียน

    <iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/54G6qR5r4eY" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2013
  10. wayokasin

    wayokasin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +277
    หาที่มาของตนเอง (จิตเดิมแท้ ที่หายไปกับกิเลส) (f)
     
  11. Lastquarter

    Lastquarter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    386
    ค่าพลัง:
    +272
    ทำไมผมเหมือนตั้ง 3 เผ่า - - อันโดรเมด้า มัลเดค ไพรวิเลี่ยน
     
  12. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    มีความเป็นไปได้ที่เราจะมีโอกาสในการได้เรียนรู้ชีวิตในดวงดาวต่างๆก่อนที่จะลงมาเกิดบนโลกมนุษย์ เพราะโลกมนุษย์เป็นดาวอีกหนึ่งดวงที่จิตวิญญาณจะเกิดมาเพื่อสะสางชำระหนี้จากกรรมเก่าให้หมดก่อนที่จะกลับไปสู่จุดบริสุทธิ์เดิมที่เราจากมานะคะ
     
  13. nop070

    nop070 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2008
    โพสต์:
    574
    ค่าพลัง:
    +1,335
    ขอความรู้

    แนวคิดนี้เหมือนสายวัชรยานของธิเบต....
    ผมมีข้อสงสัยว่า ที่เดิมที่พวกเราจากมา..และกำลังหาทางกลับไปนั้น เรียกว่าอะไร
    หาก คุณสันโดษ หรือท่านใด ทราบ ขอช่วยให้ความรู้ด้วย อ้อ และจิตวิญญาณ
    ของมนุษย์และสัตว์ เกิดมาได้อย่างไร ครับ
     
  14. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,947
    รู้สึกว่าตัวเราจะมีลักษณะใกล้เคียงชาวเพลีเดี้ยนส์ (Pleiadians)

    ตั้งแต่เด็กมีปัญหาบริเวณจักระที่ 5 มาตลอด
    ตลอดเวลาที่ผ่านมาตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงปัจจุบัน ข้าพเจ้าพยายามเรียนรู้ตัวเอง
    เพื่อค้นหาความหมายของคำว่า อิสระและความเป็นกลางในการคิดและการแสดงออกนี่แหละ

    "เพื่อหลบหนีออกไปจากโลกเเห่งความเป็นจริงชั่วคราว หรือทำในสิ่งที่ผิดเพื่อช่วยยกระดับความสามารถในการสื่อสารเเละสร้างความมั่นใจ ซึ่งอาจจะเป็นในรูปเเบบของการใช้สารเสพติด, การดื่มเหล้า, การสร้างความโรเเมนติกในละคร, หรือ การหลบหนีโลกเเห่งความเป็นจริงง่ายๆผ่านทางการอ่านหนังสือ,ดูทีวี หรือ ดูภาพยนตร์ " อันนี้ก็เป็นเหมือนกัน
    จนมาถึงช่วงชีวิตที่เรารู้สึกว่ามีความตื่นรู้ทางจิตวิญญาญในระดับหนึ่ง และสามารถคิด สื่อสารและแสดงออกได้อย่างเป็นอิสระมากขึ้น อาการที่กล่าวมาก็ค่อยๆ ลดน้อยลง

    พูดถึงลักษณะของชาวพลีอิเดี้ยนนี่เหมือนกับชาวกรกฏ ส่วนเพลอิเดี้ยนที่พัฒนาตัวตนให้สามารถแสดงออกอย่างเป็นอิสระได้ ก็เหมือนพวกราศีิพิจิกเลยนะ

    หรือว่านี่จะเ็ป็นนิสัยของชาวโลกทั่วไปเวลามีปัญหา หาทางออกไม่ได้?
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 ธันวาคม 2013
  15. KasroK

    KasroK Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +98
    ผมสงสัยว่าชาวดาวดวงอื่นเขามีความสามารถเพียงอย่างเดียวหรอครับ แต่ทำไมเขาต้องเข้ามาเกิดบนดาวโลกเป็นที่รวมของความสามารถต่างๆของชาวดาวดวงอื่น
     
  16. laparo

    laparo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +108
  17. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    1). ข้อความต่อไปนี้เลือกเอาบางส่วนมาแปลจาก

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:"@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} a:link, span.MsoHyperlink {color:blue; text-decoration:underline; text-underline:single;} a:visited, span.MsoHyperlinkFollowed {color:purple; text-decoration:underline; text-underline:single;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->The Starseed Community - Frequently Asked Questions


    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:"@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว (Satrseed) คืออะไร?

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} p {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
    [​IMG]

    คำจำกัดความ
    :


    เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว (Starseeds) คือกลุ่มของรูปธรรมชีวิตที่วิวัฒน์แล้วจากต่างดาว, ต่างระบบดวงดาว,
    หรือต่างกาแล็กซี่ ที่เดินทางมาเพื่อทำภารกิจพิเศษบางอย่าง เพื่อช่วยเหลือโลกและมนุษย์
    ในการก้าวเข้าสู่ “ยุคทอง” (Golden Age) ณ.ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนยุคนี้


    เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว (Starseeds) จะลงมาเกิดบนดาวเคราะห์โลก ด้วยเงื่อนไขต่างๆ
    ที่ไม่สามารถช่วยตนเองได้ และสูญเสียความทรงจำว่าตัวเองเป็นใคร,มาจากไหน และมาเพื่ออะไร ไปโดยสิ้นเชิง
    เช่นเดียวกับเงื่อนไขการลงมาเกิดของชาวโลกตัวจริง


    แต่อย่างไรก็ตาม ในยีนส์ (genes) ของเหล่าเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวเหล่านี้ จะถูกบรรจุ “รหัสแห่งการตื่น” เอาไว้ด้วย
    เพื่อใช้ “กระตุ้น” ให้พวกเขาตื่นขึ้น ณ.ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งของชีวิต ที่ได้ถูกกำหนดเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว


    “การตื่นขึ้น” (Awakening) ของพวกเขา อาจจะเป็นในลักษณะค่อยเป็นค่อยไปและช้าๆ
    หรืออาจจะเป็นแบบค่อนข้างปุบปับและฉับพลันทันทีก็ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบใด ความทรงจำของพวกเขา
    จะถูกเรียกกลับคืนมามากน้อยต่างกันไปในแต่ละคน ทำให้พวกเขาตระหนักรู้ถึงภารกิจของพวกเขา
    และเริ่มลงมือทำภารกิจของตนเอง


    ความเชื่อมต่อระหว่างพวกเขากับ “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” (Higher Self) ของพวกเขา
    จะมาช่วยเสริมให้พวกเขามีความเข้มแข็ง และทำให้พวกเขาสามารถใช้ “ความรู้จากภายใน” (inner knowing)
    ของตนเอง เป็นผู้นำทางได้


    เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว (Starseeds) หลายคน ก็ได้ถูกฝึกฝนจนสามารถ “ขัดเกลากิเลส”
    ให้เบาบางลงไปได้ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว จนพวกเขาสามารถขจัดรูปแบบพฤติกรรมที่มีขีดจำกัด
    และความกลัวทั้งหลายออกไปได้หมด ภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปี ซึ่งหากเป็นมนุษย์โลกทั่วไปแล้ว
    อาจจะต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเลยก็ได้

    ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่า เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว (Starseeds) เหล่านี้ ได้เคยทำภารกิจเช่นนี้
    บนดาวดวงอื่นๆมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว พวกเขาจึงค่อนข้างจะคุ้นเคยกับกระบวนการและเทคนิคต่างๆ
    ที่จะนำมาใช้เพื่อยกระดับจิตสำนึกของตนเองให้สูงขึ้นได้


    เพราะฉะนั้น แนวความคิดเกี่ยวกับยานอวกาศ, การท่องอวกาศ, ปรากฏการณ์ทางจิตต่างๆ
    และเรื่องราวเกี่ยวกับรูปธรรมชีวิตในกาแล็กซี่อื่นๆ จึงเป็นเรื่องที่ปกติธรรมดาและมีเหตุมีผลสำหรับพวกเขา


    (ตัดตอนมาจาก Bil El Masri)

    ......................................................


    2). เป็นเวลานานแสนนานมาแล้ว ที่ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ
    ได้ตกลงไปอยู่ในคลื่นความสั่นสะเทือนที่ต่ำมากๆ
    ทั้งๆที่เมื่อตอนที่มีอารยะธรรมเกิดขึ้นบนโลกใหม่ๆนั้น
    ระดับความสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลกเคยสูงกว่านี้มาก
    แต่หลังจากนั้น ระดับความสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลก
    ก็ค่อยๆลดต่ำลงเรื่อยๆ

    จนกระทั่งมาถึงประมาณปี 1970 กว่าๆ
    ระดับความสั่นสะเทือนของดาวเคราะห์โลก
    ก็ตกต่ำลงมาจนถึงขีดสุด
    จนดาวเคราะห์โลก ต้องตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง
    ที่จะถูกทำลายได้ในขณะนั้น

    และดังนั้น แผนการนำยานอวกาศลงจอดครั้งใหญ่
    (a mass landing) จึงได้มีขึ้น
    เพื่อที่จะมาช่วยชีวิตโลกให้รอดพ้นจากอันตรายร้ายแรงดังกล่าวนั้น

    ....

    ที่พวกเราขอเช่นนี้ก็เพราะว่า คุณคือหนึ่งในบรรดาผู้ที่รับอาสามา
    เพื่อมาให้ความช่วยเหลือในกระบวนการเลื่อนระดับขึ้น
    ของดาวเคราะห์โลก (the Planetary Ascension Team)
    และคุณก็เป็นหนึ่งในบรรดาชาวโลก
    ที่มีความกล้าหาญมากที่สุดด้วย

    มันเป็นเรื่องที่มีเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้มามีส่วนร่วมในเหตุการณ์ในครั้งนี้
    เหตุการณ์ที่พวกคุณได้พากันเตรียมตัวมาหลายภพหลายชาติแล้ว
    และแม้ว่าจะเตรียมตัวมาหลายภพชาติแล้วก็ตาม
    แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความกล้าหาญ
    ที่พวกคุณจำเป็นจะต้องมี ลดน้อยลงเลย เพื่อเอามาใช้
    ผลักไส “จิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก”
    (Collective Consciousness) ของโลกทางกายภาพ
    ของพวกคุณออกไป และเพื่อที่จะเป็นตัวตนของตัวพวกคุณเองให้ได้
    ในโลกที่ถูกสอนว่าให้ “ซ่อนแสงสว่างของคุณเอาไว้” แบบนี้

    ....

    เพราะว่าพวกคุณในฐานะสมาชิกของหน่วยปฏิบัติการภาคพื้นดินของพวกเรา
    คือผู้ที่ลงมาเพื่อทำหน้าที่เป็นเครื่องแปลงคลื่นความถี่จากความถี่สูงไปเป็นความถี่ต่ำ
    โดยการใช้ร่างกายเนื้อของตัวเองในการรับเอาคลื่นความถี่จากมิติที่สูงๆกว่าทั้งหลาย
    แล้วจากนั้นก็แบ่งปันคลื่นความถี่เหล่านี้ให้กับไกอา

    ส่วนที่สำคัญมากที่สุดของกระบวนการนี้ก็คือ
    การรักษาระดับคลื่นความสั่นสะเทือน
    ให้อยู่ในระดับคลื่นความสั่นสะเทือนของ “ความรัก” ให้ได้
    และการปลดปล่อยความลังเลสงสัยทั้งหมดออกไป

    พวกคุณกำลังจะกลับคืนไปสู่การเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติแล้ว
    อย่างที่พวกคุณเป็นมาตลอดอยู่แล้ว

    ดังนั้น พวกคุณจึงไม่จำเป็นที่จะต้องไปเรียนรู้ หรือ ดิ้นรน
    หรือ พยายามที่จะเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติแต่อย่างใดเลย
    พวกคุณเพียงแต่จำเป็นจะต้องยอมคล้อยตามกระบวนการนี้
    และจะต้อง “จำจดให้ได้ว่า แท้ที่จริงแล้วพวกคุณคือใคร” เท่านั้นเอง

    ยิ่งสมาชิกของหน่วยปฏิบัติการภาคพื้นดินของพวกเรา
    ทะยอยกันตื่นขึ้นมาสู่ความเป็นตัวตนของพวกเขาเองมากขึ้นเท่าไหร่
    และยอมให้ตัวตนส่วนที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าของพวกเขา
    บูรณาการเข้ากับร่างกายเนื้อในมิติที่ 3 ถึง 4 ของพวกเขาได้มากขึ้นเท่าไหร่
    พวกเขาก็จะยิ่งสามารถเพิ่มระดับความสั่นสะเทือนของตัวเองให้สูงขึ้นได้มากเท่านั้นด้วย
    รวมถึงอัตราความสั่นสะเทือนของไกอาก็จะยิ่งสูงมากขึ้นเท่านั้นด้วย

    ด้วยเหตุนี้ ทั้งตัวดาวเคราะห์โลกเอง และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดที่อาศัยอยู่บนโลกด้วย
    ก็จะค่อยๆเลื่อนระดับขึ้นเรื่อยๆ ทีละเล็กละน้อย...

    ที่มา:

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...านรวมเข้ากับตัวตนหลากมิติของตัวเราเอง.495876/

    3). จิตวิญญาณเก่าแก่เหล่านี้มารวมกัน เพื่อมาร่วมในเหตุการณ์ที่เรียกว่า
    “การเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งสันติภาพลงบนโลก” (Planting the Seeds of Peace on Earth)

    ซึ่งเมื่อช่วงคาบเวลา 36 ปี (การเรียงตัวของกาแล็กซี่ – Galactic Alignment) สิ้นสุดลง
    เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นก็จะถูกเพาะลงไปบนโลกอย่างปลอดภัยและถาวร
    แล้วจากนั้นศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ ก็จะแก้ไขตัวมันเอง และคลี่คลายตัวมันเองออกมา
    และมันก็จะมี “ * ” (wild-card) เกิดขึ้นให้พวกคุณได้เห็นมากมาย

    คำว่า “ * “ คือคำที่พวกเราใช้เพื่อหมายถึงการกระทำต่างๆที่ไม่คาดหมายว่าจะเกิดขึ้น
    และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของโลก

    ซึ่งบ่อยครั้งก็หมายถึงประเทศบางประเทศ ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงได้
    หรือบางครั้งก็หมายถึงผู้นำเผด็จการบางคน ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะร่วงลงมาได้

    “ * “ หมายถึงสถานการณ์ใดๆ ที่มนุษย์เริ่มปะติดปะต่อสิ่งต่างๆเข้าด้วยกัน
    แทนที่จะแยกชิ้นส่วนมันออกมาจากกัน

    นี่คือศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ที่พวกเรามองเห็นเมื่อ 22 ปีที่แล้ว
    และมันก็คือศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ที่พวกเรายังคงมองเห็นอยู่ในวันนี้

    ....

    อีกครั้งหนึ่ง..ชาวโลกจำนวนไม่เกิน 0.5%
    ของจำนวนประชากรโลกทั้งหมด
    (ประมาณ 35 ล้านคน – ผู้แปล)
    จะต้องจุดไม้ขีดขึ้น เพื่อให้ทั้งหมดนี้มันเกิดขึ้นได้
    และมันก็กำลังเกิดขึ้นอย่างช้าๆอยู่ในขณะนี้

    จำนวน 0.5% ที่ว่านี้ไม่ใช่จำนวนมากมายอะไรเลย
    ดังนั้น วันนี้..ก็มาเริ่มจุดไม้ขีดไฟกันเถอะ
    ไม่ว่าจะจุดได้มากน้อยแค่ไหนก็ตาม

    แล้วสักวันหนึ่งพวกคุณจะประจักษ์ว่า
    ถ้าอยากให้ไม้ขีดไฟถูกจุดขึ้นเต็มที่จริงๆ
    มันจะต้องมีคนหลายๆคน จุดไม้ขีดไฟอยู่ในสถานที่ต่างๆกัน
    หลายๆสถานที่ ไม่ใช่แค่ในสถานที่เดียว

    นั่นแหละคือเหตุผลว่าทำไมจึงมี Light workers
    กระจายกันอยู่ทั่วโลก

    (ครายออนบอกว่า Star seed หรือ Light worker ทั่วโลก
    มีอยู่ประมาณ 350 ล้านคน - ผู้แปล)

    พวกคุณอาจจะไม่เคยพบพวกเขาเลย แต่ในระดับควอนตัมแล้ว
    พวกคุณทุกคนล้วนรู้จักกันทั้งหมด...

    ที่มา:

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...า-คุณลักษณะของ-light-worker-โดย-kryon.301196/

    ...............................
     
  18. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ที่มา: http://palungjit.org/threads/คุณคือ...ธุ์แห่งดวงดาว-star-seed-หรือไม่.231789/page-4

    ........................................................................................
    ภารกิจของเหล่า “เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว” (Star Seeds) คืออะไร?

    ที่มา:
    The Starseed Community - Frequently Asked Questions


    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} a:link, span.MsoHyperlink {color:blue; text-decoration:underline; text-underline:single;} a:visited, span.MsoHyperlinkFollowed {color:purple; text-decoration:underline; text-underline:single;} p {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->

    เพราะว่าภารกิจของพวกเขาในครั้งนี้ เป็นภารกิจที่ยากลำบากมากที่สุดภารกิจหนึ่ง
    เพราะต้องมาทำภารกิจในมิติที่หยาบและหนาทึบมากๆอย่างบนดาวเคราะห์โลกแห่งนี้

    เพราะฉะนั้นรูปธรรมชีวิตต่างมิติชั้นสูงส่วนใหญ่ จึงอาจจะไม่อาสาลงมาทำหน้าที่แบบนี้ ที่นี่
    เพราะว่ามันมีความเสี่ยงต่อการหลงลืมว่าตนเองเคยเป็นใคร และสูญเสียความเชื่อมโยงกับ
    “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” (Higher Self) อันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองไป

    แม้ว่าจำนวนโดยรวมของเหล่า Star seeds ทั้งหมด จะเป็นสัดส่วนที่ไม่มากนักเมื่อเทียบกับประชากรทั้งโลก
    แต่ว่าภารกิจของพวกเขาก็มีความสำคัญและหลากหลายมาก


    ขั้นแรก, พวกเขาจะต้องใช้ชีวิตอยู่ในร่างกายเนื้อนี้ และในขณะเดียวกัน
    ก็ต้องพยายามจดจำให้ได้ว่าตนเองเป็นใครด้วย


    ตอนที่พวกเขาพยายามทำการเชื่อมต่ออยู่นั้น พวกเขาก็จะถูกดึงดูดให้ผ่านเข้าสู่กระบวนการเปลี่ยนรูปแบบ
    (Transformation process) เพื่อ รวมศูนย์ และเชื่อมต่อกับ “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” (Higher Self)
    ของตัวเองให้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ


    เมื่อใดที่พวกเขาสามารถจดจำได้แล้วว่าพวกเขาเป็นใคร พวกเขาก็จะสามารถช่วยเหลือมนุษย์โลกผู้รู้แจ้งแล้วทั้งหลาย
    ในการผนึกและเปล่งประกายแสงสว่างให้แก่ดาวแม่ดวงนี้ได้


    มี Star seeds อีกจำนวนหนึ่ง ที่มาที่นี่ตามแผน “การยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือจากเบื้องบน”
    (Divine Intervention) ของมิติที่สูงๆกว่า

    เพราะว่าดาวเคราะห์ดวงนี้จะไม่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้ หากปราศจากการช่วยเหลือจากเบื้อบน
    ตามพระบัญชาของพระผู้สร้าง

    Star seeds จะเป็นตัวประสานงานเชื่อมต่อระหว่าง “สหพันธ์ระหว่างกาแล็กซี่” (Galactic Federation)
    กับ “เหล่าคุรุผู้รู้แจ้งระดับสูง” (the Spiritual Hierarchies) เช่น เอลโลฮิม (Elohim) และเทพแห่งกาลเวลา เป็นต้น


    Star seeds ที่ตื่นแล้ว และพร้อมที่จะผนึกและเปล่งประกายแสงสว่างแล้ว จะสามารถทำพิธีกรรม
    หรือ ทำสมาธิ แล้วเพ่งกระแสจิตไปยังสถานการณ์ใดๆ เพื่อเปลี่ยนให้มันดีขึ้นได้



    (ยังมีต่อครับ)
    ............................................


    ภารกิจของเหล่า “เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว” (Star Seeds) คืออะไร?

    ที่มา:
    The Starseed Community - Frequently Asked Questions


    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} a:link, span.MsoHyperlink {color:blue; text-decoration:underline; text-underline:single;} a:visited, span.MsoHyperlinkFollowed {color:purple; text-decoration:underline; text-underline:single;} p {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Tahoma; mso-fareast-font-family:"Times New Roman";} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
    ภารกิจที่แตกต่างกัน



    โดยทั่วไปแล้ว Star seeds จะมีภารกิจที่แตกต่างกัน
    ต่อไปนี้คือรายการภารกิจที่ฉันทำขึ้นมาเองเท่าที่ฉันพอจะรู้


    1). เป็นผู้ยึดเหนี่ยวและเปล่งพลังงาน (Anchors)



    ตามความหมายของคำว่า “เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว” ก็บอกเป็นนัยอยู่แล้วว่า
    พวกเรามาที่นี่ ก็เพื่อที่จะ “ปลูกฝัง” พลังงานของดวงดาวบ้านเกิดของพวกเรา ลงมาไว้ที่ดาวเคราะห์โลกดวงนี้


    แต่นี่เป็นเรื่องที่เราไม่ได้ลงมือทำเองโดยตรง หรือบ่อยครั้งเราก็แทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่า
    เราได้ทำภารกิจของเราให้สมบูรณ์ไปแล้ว โดยการเพียงแค่มาอยู่ที่นี่และเปล่งกระแสพลังงานของเราออกมา
    ใส่ใน “สนามพลังพันธุสัณฐาน” (Morphogenetic field) ของโลกเฉยๆ
    ซึ่งตามปกติแล้วระดับพลังงานที่พวกเราเปล่งออกมานั้น ก็จะสูงมากๆ
    เพราะว่าพวกเรามาจากดวงดาวที่มีวิวัฒนาการสูงมากกว่าโลกแล้วนั่นเอง


    ดังนั้น การมาอยู่ที่นี่ของพวกเรา จึงเป็นการช่วยยกระดับความถี่/พลังงานโดยรวม
    ของดาวเคราะห์โลกขึ้น ซึ่งจะทำให้มนุษย์โลกสามารถวิวัฒน์เข้ามาสู่ระดับคลื่นความถี่นี้ได้ด้วยตนเองง่ายขึ้น



    2). เป็นผู้สร้าง
    (Builder)



    Star seeds กลุ่มนี้คือผู้ที่ลงทำงานเพื่อเปลี่ยนแปลงโลก โดยการสร้างระบบโครงสร้างอะไรใหม่ๆขึ้น
    ในหลายๆพื้นที่ของสังคม

    ไม่ใช่การไปต่อต้านระบบเก่าๆที่มีอยู่แล้ว แต่จะเป็นการสร้างสรรค์ระบบใหม่ขึ้นมา
    หรือ สร้างระบบทางเลือกใหม่ขึ้นมา ซึ่งอาจจะเป็นองค์กร, กลุ่มคน, ระบบ, วิถีทาง, ที่ดียิ่งกว่า เป็นต้น


    พวกเขาจะมีวิสัยทัศน์ที่แจ่มชัด ว่าจะสามารถพัฒนาสิ่งต่างๆให้ดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง
    หรือว่าจะต้องสร้างสรรค์อะไรขึ้นมาใหม่บ้าง แล้วพวกเขาก็เริ่มลงมือทำด้วยความมุ่งมั่นและเชื่อมั่น



    3). เป็นผู้ดู(Watchers)


    มี Star seeds จำนวนไม่มากนักที่มาที่นี่เพื่อมาสังเกตการณ์สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้
    ในช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญนี้เฉยๆ


    ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่า ดาวเคราะห์บ้านเดิมของพวกเขาต้องการข้อมูลที่กำลังเกิดขึ้นที่นี่เพิ่มเติมก็เป็นได้
    หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเพื่อมาบันทึกเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นเอาไว้ใช้ในอนาคตก็เป็นได้


    4). เป็นผู้นำทาง
    (Guides)



    Star seeds บางคน ก็เกิดมาเพื่อคอยให้ความช่วยเหลือใครคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะ
    เพื่อให้บุคคลคนนั้นสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของเขาเองได้ โดยการทำหน้าที่เป็นผู้นำทางให้กับเขา


    Star seeds กลุ่มนี้ บางทีอาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าตัวเองกำลังทำหน้าที่ของตัวเองอยู่
    โดยการให้ความช่วยเหลือบุคคลคนๆนั้น



    5). เป็นผู้ที่ฉันเองก็ไม่รู้ว่าควรจะเรียกว่าอะไรดี

    Star seeds บางคน ก็ไม่ได้มาเพื่อช่วยโลกนี้โดยตรง
    แต่พวกเขามาเพื่อประโยชน์ของดวงบ้านเกิดของพวกเขาเอง


    ซึ่งแนวคิดนี้ ส่วนใหญ่มาจากนาง Jelaila Starr ผู้ที่อ้างว่าสามารถติดต่อสื่อสารทางโทรจิตกับ
    “สภาแห่งดาวนิบิรุ” (Nibiruan Council) ได้


    เธอบอกว่า มีบางอารยธรรมบนดาวบางดวง ที่เกิดปัญหาติดขัดเกี่ยวกับวิวัฒนาการด้านจิตวิญญาณของพวกเขา
    เพราะว่าพวกเขาแบ่งแยกเป็นฝ่ายแสงสว่างกับฝ่ายมืดมากจนเกินไป

    หรือพวกเขากำลังมีปัญหาขัดแย้งกันเองภายใน หรือขัดแย้งกับเผ่าพันธุ์อื่น แต่หาทางออกไม่ได้


    พวกเขาก็จะส่งเหล่า Star seeds ลงมายังโลก ซึ่งเมื่อลงมาเกิดบนโลกแล้ว พวกเขาก็จะลืมทุกสิ่งทุกอย่าง
    จากนั้น “ผู้นำทาง” ของพวกเขา ก็จะจัดฉากปัญหานั้นๆขึ้นมาให้พวกเขาแก้บนโลก

    เพราะว่ามันเป็นไปได้ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านั้นได้บนโลก และหากพวกเขาแก้ได้แล้ว
    พวกเขาก็จะนำเอารูปแบบวิธีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ กลับไปใช้กับดาวเคราะห์บ้านเกิดของพวกเขาต่อไป

    ..................................
     
  19. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    พอดีวันนี้ไปเจอ VDO ชุดหนึ่งเข้า
    ซึ่งกล่าวถึงเรื่องนี้พอดี

    จึงลองแกะข้อความออกมาโพสต์ให้ได้อ่านด้วยกันหนะครับ

    แต่ว่า อาจจะไม่ตรงกับเนื้อหาในวีดีโอทั้ง 100% นะครับ
    เพราะผมฟังไม่ค่อยทั้ง 100% หรอกครับ
    แต่ถ้าอ่านและเปิด Dictionary ด้วยนี่ ก็ไม่ค่อยกลัวหรอกครับ





    <embed src="http://www.youtube.com/v/SAGFiiFkzSc&hl=en_US&fs=1&" type="application/x-shockwave-flash" allowscriptaccess="always" allowfullscreen="true" height="385" width="480">
    ...........................................................................

    <link rel="File-List" href="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CADMINI%7E1%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_filelist.xml"><!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><style> <!-- /* Font Definitions */ @font-face {font-family:"Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} @font-face {font-family:Tahoma; panose-1:2 11 6 4 3 5 4 4 2 4; mso-font-charset:0; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:1627421319 -2147483648 8 0 66047 0;} @font-face {font-family:"\@Arial Unicode MS"; panose-1:2 11 6 4 2 2 2 2 2 4; mso-font-charset:128; mso-generic-font-family:swiss; mso-font-pitch:variable; mso-font-signature:-1 -369098753 63 0 4129279 0;} /* Style Definitions */ p.MsoNormal, li.MsoNormal, div.MsoNormal {mso-style-parent:""; margin:0cm; margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:12.0pt; font-family:Arial; mso-fareast-font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Arial Unicode MS"; color:darkblue;} h1 {mso-margin-top-alt:auto; margin-right:0cm; mso-margin-bottom-alt:auto; margin-left:0cm; mso-pagination:widow-orphan; mso-outline-level:1; font-size:24.0pt; font-family:Tahoma;} a:link, span.MsoHyperlink {color:blue; text-decoration:underline; text-underline:single;} a:visited, span.MsoHyperlinkFollowed {color:purple; text-decoration:underline; text-underline:single;} @page Section1 {size:612.0pt 792.0pt; margin:72.0pt 90.0pt 72.0pt 90.0pt; mso-header-margin:36.0pt; mso-footer-margin:36.0pt; mso-paper-source:0;} div.Section1 {page:Section1;} --> </style><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:"Table Normal"; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
    Dolores Cannon: วิญญาณอาสาสมัคร และ การอัพเกรด DNA


    ที่มา: Dolores Cannon: Volunteer Souls and DNA Upgrades


    Dolores เป็นนักสะกดจิตบำบัด ที่เชี่ยวชาญพิเศษด้านการสะกดจิตระลึกชาติ
    ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี เธอได้รับข้อความจากรูปธรรมชีวิตต่างมิติ
    และจากคนไข้ของเธอ เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในปี 2012 มากมาย



    ถอดความจากวีดีโอ:


    เท่าที่ฉันรู้ มันมีระลอกของเหล่าวิญญาณอาสาสมัคร ที่อาสาลงมาเกิดบนโลกใบนี้อยู่ 3 ระลอกด้วยกัน


    ระลอกแรก คือช่วงปี 1950 – 1960 ซึ่งถ้านับถึงตอนนี้ (ปี 2010) พวกเขาก็จะมีอายุราวๆ 50 ปลายๆ
    ถึง 60 ปีต้นๆ

    กลุ่มวิญญาณเหล่านี้ พวกเขาไม่ต้องการที่จะอยู่ที่นี่ พวกเขาไม่ชอบที่นี่ เพราะพวกเขาทนต่อความรุนแรงไม่ค่อยได้
    พวกเขาต้องการที่จะกลับบ้าน แต่ก็ไม่รู้ว่าบ้านอยู่ไหน รู้แต่เพียงว่ามันไม่ใช่ที่นี่


    พวกเขาเป็นผู้ที่มีจิตใจดีงาม ไม่สามารถจะทำร้ายใครได้ พวกเขามาเพื่อช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
    โดยการมาอยู่ที่นี่เฉยๆ ดังนั้นพวกเขาจึงอาศัยอยู่ท่ามกลางพวกเรา ทำตัวเหมือนคนปกติทั้วไป

    แต่มันเป็นสิ่งที่ยากมากๆสำหรับพวกเขา เพราะว่าพวกเขารู้สึกว่า มาอยู่ในที่ๆไม่ใช่ที่ของพวกเขา

    คุณอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไม เพราะว่าหลายคนที่ฉันเคยคุยด้วยซึ่งอยู่ทั่วทุกมุมโลก

    พวกเขาบอกว่า พวกเขามีครอบครัวที่ดี มาฐานะการงานที่ดี แต่ก็ไม่อยากอยู่ที่นี่
    พวกเขาอยากกลับบ้าน และหลายคนก็เคยพยายามที่จะฆ่าตัวตาย แม้ว่าจะมีอายุยังไม่มากนัก
    เพราะว่าพวกเขาไม่อยากอยู่ที่นี่


    แต่หลังจากที่ฉันได้เข้าไปช่วยเหลือพวกเขา จนพวกเขาสามารถค้นพบว่าทำไมพวกเขาจึงได้มาอยู่ที่นี่
    พวกเขาก็เปลี่ยนใจ และยอมรับมัน แล้วเริ่มทำภารกิจของตนเอง


    ลักษณะเฉพาะของคนกลุ่มนี้คือ พวกเขาไม่ชอบที่นี่ พวกเขาไม่ชอบความรุนแรง
    และไม่เข้าใจความยึดมั่นถือมั่น ความโกรธ และรู้สึกว่าไม่ชอบมัน และตกตะลึงกับมัน พวกเขารับไม่ได้

    ดังนั้น พวกเขาหลายคนจึงอยู่อย่างสันโดษ เพราะภาพลักษณ์ของโลกในสายตาของพวกเขา ค่อนข้างจะน่ากลัว

    ดาวเคราะห์โลก เป็นดาวเคราะห์ที่ท้าทายมาก และพวกเขาบอกว่า พวกเขากล้าหาญมากที่มาที่นี่
    เพื่อที่จะมาเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่



    วิญญาณอาสาสมัครระลอกที่สอง ที่มายังโลกใบนี้ พวกเขาเกิดในช่วงปี 1970 – 1980
    ถ้านับถึงปีนี้ คือปี 2010 พวกเขาก็จะมีอายุอยู่ระหว่าง 30 – 40 ปี

    ฉันเรียกพวกเขาว่า the channeler, the generator, เพราะว่าพวกเขาแตกต่างไป

    พวกเขาไม่มีปัญหาเหมือนอย่างกับวิญญาณระลอกแรก พวกเขามาอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพื่อทำสิ่งใด
    พวกเขาเพียงแต่มาอยู่ที่นี่เฉยๆ

    ร่างกายของพวกเขาผลิตกระแสพลังงานออกมามากกว่าคนปกติ และไปส่งผลกระทบต่อผู้คนรอบข้าง
    ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับพวกเขา

    พวกเขามาเพื่อเปลี่ยนแปลงโลกด้วยวิธีการนี้ พวกเขามีกระแสพลังงานที่เป็นบวกมากๆ
    ซึ่งส่งผลกระทบต่อทุกๆคนที่เข้ามามีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขา


    และวิญญาณทั้งสองกลุ่มนี้ ไม่ต้องการที่จะมีลูก เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะสะสมกรรม
    เพราะว่าการมีลูกคือการสร้างบ่วงกรรมขึ้น พวกเขาไม่ต้องการที่จะติดค้างอยู่ที่โลกใบนี้
    พวกเขาอยากจะรีบๆทำภารกิจของพวกเขาให้เสร็จๆไป ตามที่พวกเขาได้รับอาสามาทำ
    จากนั้นก็กลับไปสู่ที่ๆพวกเขาจากมา


    คุณอาจจะไม่รู้จักพวกเขา เพราะว่าพวกเขาเหมือนคนปกติทั่วไปมากๆ พวกเขาปรับตัวได้ดีมากๆ

    ฉันเคยถามพวกเขาว่าทำไมคนกลุ่มแรกนั้น จึงมีปัญหามากมายนัก แต่ทำไมพวกเขาถึงไม่มี

    พวกเขาตอบว่า เพราะพวกที่มาก่อน เป็นผู้บุกเบิกทาง เป็นผู้มาปูทางไว้ก่อน

    เพราะฉะนั้น พวกเขาจึงพบความยุ่งยากมากกว่า

    ส่วนกลุ่มที่สองนั้น ก็แค่ตามทางที่กลุ่มแรกมาถางไว้ให้แล้วเท่านั้นเอง



    วิญญาณอาสาสมัครระลอกที่สาม คือเด็กๆที่เกิดใหม่ ซึ่งเกิดหลังปี 1990 เป็นต้นมา

    พวกเขาเป็นผู้นำของขวัญมาสู่โลกใบนี้ พวกเขาแตกต่างจากสองพวกแรก

    พวกเขามีพลังงานมากกว่า พวกเขาบอกว่า DNA ของพวกเราทุกคนกำลังเปลี่ยนแปลง
    เพราะว่า DNA ของพวกเราจะได้รับอิทธิพลจากระดับจิตสำนึกของพวกเราเอง

    ทุกสิ่งที่อย่างกำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ จะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของ DNA


    แต่พวกเขาจะเป็นห่วงกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของสารปรุงแต่งในอาหาร และมลภาวะในอากาศ
    ที่จะส่งผลร้ายต่อสุขภาพร่างกายของพวกเรา


    พวกเขาบอกว่าพวกเรากำลังมาถึงจุดสิ้นสุดของความเป็นทวิภาวะ (Duality) แล้ว
    ซึ่งในขณะนี้ DNA ของพวกเราได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ตั้งแต่เมื่อ 70 ปีที่แล้วแล้ว

    พวกเขาบอกว่า พวกเรากำลังจะเปลี่ยนไปสู่มนุษย์สายพันธุ์ใหม่ที่จะไม่มีการเจ็บป่วยอีกต่อไป


    ฉันบอกว่าจริงเหรอ ทำไมนักวิทยาศาสตร์หรือแพทย์ทั้งหลายจึงยังไม่รู้เรื่องนี้กันเลย

    พวกเขาตอบว่าเพราะว่าคนเหล่านั้นไม่รู้ว่าควรจะเพ่งพินิจดูตรงจุดไหนของ DNA หนะสิ

    ..................................
     
  20. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,947
    และวิญญาณทั้งสองกลุ่มนี้ ไม่ต้องการที่จะมีลูก เพราะว่าพวกเขาไม่ต้องการที่จะสะสมกรรม
    เพราะว่าการมีลูกคือการสร้างบ่วงกรรมขึ้น พวกเขาไม่ต้องการที่จะติดค้างอยู่ที่โลกใบนี้
    พวกเขาอยากจะรีบๆทำภารกิจของพวกเขาให้เสร็จๆไป ตามที่พวกเขาได้รับอาสามาทำ
    จากนั้นก็กลับไปสู่ที่ๆพวกเขาจากมา




    ก็โลกนี้กำลังเปลี่ยนสู่ยุคทองแล้วนิ....ไม่กลับแล้วแหละบ้าน...จะอยู่นี่แหละ..ขอเปลี่ยนพันธะสัญญาเิิดิมได้ไหม ^ ^
     

แชร์หน้านี้

Loading...