ข้อความจากต่างมิติ-ก้าวกระโดดทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ไปสู่มิติที่ 5

ข้อความสื่อสารจากต่างมิติถึงนาง Blossom Goodchild
เรื่อง: หลังจากเกิด “เหตุการณ์นั้น” แล้ว
ชาวโลกบางคนจะไม่มีความจำเป็นจะต้องตายอีกต่อไป

วันที่ : 19 ธันวาคม 2013
ที่มา: Psychic-Blossom Goodchild Sunshine Coast, Direct Voice Channel Psychic Medium

ตอนที่ 1:


Blossom : ขอต้อนรับพวกคุณค่ะ ก่อนอื่นดิฉันอยากจะขอเปิดใจของตัวเอง
เพื่อรักพวกคุณก่อนนะคะ โอเค..เสร็จแล้วค่ะ..

แล้วลำดับต่อไป ดิฉันก็จะสอบถามถึงเรื่อง “ลำแสง” (Pillar of Light) สีม่วงแดง
ที่สวยงาม ที่ถูกถ่ายภาพได้เมื่อเร็วๆนี้ด้วย ซึ่งลำแสงที่ว่านี้ สำหรับดิฉันแล้ว
มันช่างคล้ายคลึงกับภาพนิมิตที่พวกคุณเคยทำให้ดิฉันมองเห็น
ในตอนที่พวกคุณพูดถึงมันครั้งแรก เมื่อราวๆปี 2011 โน้นซะเหลือเกิน
พวกคุณจะกรุณายืนยันได้ไหมคะ ว่าอันนี้หรือเปล่าที่พวกคุณเคยพูดถึงในตอนนั้น
หรือว่ามันคืออย่างอื่น?



(ปล.ลำแสงสีม่วงแดง ถูกถ่ายภาพได้ที่แคนาดาเมื่อวันที่ 17/12/13
โดย Marlene Swetlishoff ดูภาพประกอบได้ที่นี่
BLOSSOM GOODCHILD – ผู้แปล)


ต่างมิติ: อันดับแรก พวกเราก็จะขอส่งความรักอันหลากหลายรูปแบบไปถึงพวกคุณแต่ละคนซะก่อน

พวกเราเห็นว่ามันมีความจำเป็นที่จะต้องพิจารณาถึงความถูกต้อง ของสิ่งที่พวกเราจะพูดถึงเสมอ
และพวกเราก็เติบโตขึ้นมาพร้อมกับลักษณะเฉพาะตัวอันนี้ด้วย

ดังนั้น ใช่แล้ว..และอันที่จริงแล้ว พวกเราอยากจะบอกว่า
นี่คือการเริ่มต้นของสิ่งที่พวกเราเคยบอกเอาไว้แล้วเท่านั้นเอง

Blossom : นั่นก็แสดงว่ามันยังจะมีอีกมากใช่ไหมคะ?

ต่างมิติ: ก็ย่างที่พวกเราเคยให้สัญญาเอาไว้นั่นแหละว่า มันจะมี
แต่ต้องคำนึงถึงข้อเท็จจริงข้อหนึ่งด้วยนะว่า “ภาพถ่าย” อันนี้
ถูกถ่ายได้ในช่วงเวลาแค่พริบตาเดียวเท่านั้นเอง
พวกเราอยากจะบอกล่วงหน้าเอาไว้เลยว่าลำแสงเหล่านี้ เมื่อพวกมันมาถึง
พวกมันก็จะคงอยู่และท่องเที่ยวไปในลักษณะของลำแสงสว่างสีรุ้ง

Blossom : เอ่อ..ถ้างั้นมันก็น่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก ที่ในที่สุดแล้ว
ก็ได้เห็นพวกมันจริงๆซะที ในช่วงเวลานี้ ซึ่งเรื่องนี้มันแน่นอนอยู่แล้ว !
แล้วมีเรื่องอื่นๆอีกไหมคะ ที่เกี่ยวกับพวกมัน ที่พวกคุณอยากจะพูดถึง?

ต่างมิติ: ก่อนหน้านี้พวกเราได้เคยพูดถึงพวกมันไปแล้วมากมาย
และตอนนี้ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป เกี่ยวกับรูปแบบการเกิดขึ้นของพวกมัน

และถ้าใครก็ตามที่เหลือบไปเห็นพวกมันเข้า
และรู้สึกประทับใจในความงดงามของพวกมัน
ก็จะรู้สึกถึง “รหัส” ต่างๆที่กำลังหลั่งไหลเข้ามาในสมองของตัวเองด้วย
ซึ่งแน่นอนว่า มันก็จะไปกระตุ้นให้
ส่วนที่หยุดการเจริญเติบโตไปแล้วชั่วคราวของสมองของคนๆนั้น
เกิดการพัฒนาขึ้นมาใหม่ได้ด้วย อย่างที่พวกเราเคยบอกไปแล้ว

Blossom : ถ้างั้น ดิฉันจะขอถามชัดๆลงไปเลยได้ไหมคะว่า
เจ้าลำแสงพวกนี้ ก็เป็นส่วนหนึ่งของ “เหตุการณ์นั้น” (the Event)
ที่พวกคุณพูดถึงมาตลอดด้วยใช่ไหมคะ?

ต่างมิติ: แน่นอนที่สุด..ถูกต้องแล้ว..เพราะว่า
พวกเรายังไม่ได้บอกหรอกเหรอ ว่ามันไม่ใช่เหตุการณ์ธรรมดา?
มันเป็นส่วนหนึ่งของ Master Plan ด้วย

และเพราะฉะนั้น มันจึงไม่ใช่สิ่งที่มือสมัครเล่นคนไหน ทำขึ้นมาเล่นๆเลย

และพวกเราก็ได้เคยบอกไปแล้วด้วยว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้
มันเกี่ยวข้องกับ “การตื่นรู้” ของพวกคุณเอง
และมันก็จะมีสิ่งที่จะถูกนำเสนอตามมาอีกเรื่อยๆด้วย

โอ..มันช่างเป็นโอกาสดีที่หัวใจของพวกคุณจะได้เพลิดเพลินกับพวกมันเหลือเกิน

Blossom : ขอบคุณค่ะ

และก็อย่างที่พวกคุณอาจจะรู้แล้วว่า หลานชายของดิฉันเพิ่งเกิดมาในสัปดาห์นี้นี่เอง
ดังนั้น พวกคุณจะสามารถพูดถึงการเวียนว่ายตายเกิด หรืออะไรก็ตามแต่
ที่จะเป็นไปหลังจากที่ เหตุการณ์นั้น” ได้เกิดขึ้นแล้วได้ไหมคะ?
เพราะว่ามีหลายคนถามถึงเรื่องนี้มา เรื่องทั้งหมดนี้มันจะเป็นยังไงคะ?

ต่างมิติ: พวกเราอยากจะบอกพวกคุณว่า เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่สลับซับซ้อนอย่างมาก
เพราะว่า อีกครั้งหนึ่ง มันขึ้นอยู่กับว่า จิตวิญญาณดวงนั้นๆกำลังอยู่ตรงจุดไหน บนเส้นทางของตัวเองด้วย
เพราะว่า Blossom ที่รัก เมื่อใดที่ “เหตุการณ์นั้น” ได้เกิดขึ้นแล้ว มันก็จะไม่ใช่ว่า
บุคคลคนๆนั้นจะได้ไปถึงจุดหมายปลายทางของตัวเองหรอกนะ
เพราะว่า “การเดินทาง” ของแต่ละจิตวิญญาณนั้น ก็ยังจะดำเนินต่อไปอยู่อีก
อย่างที่มันเคยเป็นมาตลอด และก็จะเป็นเช่นนี้ตลอดไปด้วย

แต่สิ่งที่พวกเราอยากจะบอกก็คือ:

“เหตุการณ์นั้น” จะเป็นโอกาสครั้งสำคัญครั้งใหญ่
สำหรับจิตวิญญาณทั้งหลาย ที่จะได้เลื่อนระดับขึ้น
ทางวิวัฒนาการ

เมื่อใดที่พวกคุณมองย้อนกลับไป ดูสิ่งที่ตัวเองเคยมีประสบการณ์มาแล้วทั้งหมด
และมองย้อนกลับไปดูสิ่งที่ตัวเองเคยบรรลุเป้าหมายมาแล้วทั้งหมด พวกคุณก็จะอดไม่ได้
ที่จะรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง ที่ได้มีการขยายตัวด้านวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณผ่าน/ด้วย/ของความรัก

แต่ว่า..”เหตุการณ์นั้น” จะบอกว่า มันคือ “การสำเร็จการศึกษา” ก็ว่าได้
หรือจะเรียกว่า มันคือ “การรับรองความสำเร็จ” ที่งานทุกอย่าง ประสบความสำเร็จด้วยดีก็ได้

และอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าคำพูดที่จะใช้พูดนี้
มันจะไม่เป็นการเพียงพอก็ตาม
แต่พวกเราก็อยากจะบอกว่า
มันคือ “ของรางวัล” อย่างหนึ่ง
ที่จะมอบให้ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง
ที่ได้บรรลุเป้าหมายแล้ว
มันคือการ Boost ระบบใหม่ทั้งระบบ
มันคือการประเมินใหม่ (Revaluation) ว่าตัวเองเป็นใคร
และว่าตัวเองได้เดินทางไปไกลแค่ไหนแล้ว


โปรดจำไว้ด้วยว่า หลายภพชาติเหลือเกิน
ที่พวกคุณได้เดินทางผ่านมาแล้วนั้น
ก็เพื่อที่จะมาให้ถึง “ช่วงเวลาในขณะนี้” นี่เอง

โอ..พวกเราอยากจะบอกรายละเอียดของมันให้มากกว่านี้เหลือเกิน แต่พวกเราก็ทำไม่ได้

พวกเราขอบอกว่า พวกคุณจะได้พบกับ
ความรู้สึก “เคลิบเคลิ้มเป็นสุข” (euphoria)
และภายในความรู้สึกเคลิบเคลิ้มเป็นสุขนี้นั้น
พวกคุณก็จะได้รู้จักความอ่อนน้อมถ่อมตนด้วย

พวกคุณจะได้รู้จัก “ความรัก” ในแบบที่มันเป็นจริงๆ
และพวกคุณก็จะได้รู้สึกด้วยตัวเองด้วยว่า
มันจะเป็นความรู้สึกอย่างไร เมื่อพวกคุณรักทุกๆคน
และรักทุกสิ่งทุกอย่างไปพร้อมๆกันหมด ในเวลาเดียวกัน
โดยปราศจากการตัดสินชี้ถูกผิดใดๆทั้งสิ้น

หรือพูดง่ายๆว่า พวกคุณจะได้รู้จักความรัก
ในรูปแบบที่สูงส่งที่สุดของมันนั่นเอง

ที่รักทั้งหลาย นี่แหละคือสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นกับพวกคุณหละ
และในช่วงเวลานั้น อะไรก็ตาม ที่ไม่ได้มาจากความรัก
ในรูปแบบที่บริสุทธิ์ที่สุดของมันแล้วหละก็ ก็จะถูกลืมไป

พวกคุณก็เคยรู้จักความรู้สึกนี้มาก่อนแล้ว แต่พวกคุณยังไม่สามารถที่จะเข้าถึงมันได้เท่านั้นเอง
และเมื่อใดที่ความรู้สึกนี้มันหวนกลับมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง พวกคุณก็จะจดจำมันได้ในทันที
แล้วคำว่า “บ้าน” ก็จะมาอยู่กับพวกคุณในทันทีด้วย ซึ่งนานแสนนานมาแล้ว
ที่พวกคุณ เหล่าผู้กล้าอันเป็นที่รักของพวกเรา ที่มาอยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ทั้งหลาย
ได้พากันรู้สึกว่า พวกคุณได้จาก “บ้าน” มาไกลแสนไกลเหลือเกินแล้ว

Blossom : ฟังแล้วน่าชื่นใจจริงๆเลยค่ะ..อย่างที่พวกคุณพูดไว้นั่นแหละค่ะ
ว่ามันเหนือกว่าคำบรรยายจริงๆค่ะ ดิฉันก็อยากเหลือเกินที่จะถามพวกคุณ
ถึงเรื่องของ “เวลา” หนะค่ะ เพราะว่าเรื่องที่น่าตื่นเต้นเช่นนี้ ได้ถูกหยิบยกขึ้นมา
ระหว่างการสนทนาของพวกเราหลายครั้งแล้ว และเพราะฉะนั้น ดิฉันจึงขอเดาว่า
ไม่ว่าจะผิดหรือถูกก็ตาม ด้วยความเคารพ และจากประสบการณ์ของดิฉันเอง
ว่า..อีกไม่นานนี้ พวกเราก็จะนำเอามันมาพูดถึงใหม่อีกครั้งหนึ่ง ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ในปีถัดไป!

ต่างมิติ: อันที่จริงแล้ว ความสนใจของหลายคน ที่เกี่ยวกับว่า “เมื่อไหร่” มันถึงจะเกิดขึ้นนั้น
เป็นเรื่องที่ถูกอภิปรายอย่างมาก ในวงสนทนาของสภาของพวกเราหลายครั้ง
พวกเราทำดีที่สุดได้แค่เพียงคอย update ข้อมูลข่าวสารให้พวกคุณได้รู้เท่านั้นเอง
โดยไม่ทำให้เกมของมันเปลี่ยนไป เพราะว่าคุณก็รู้แล้วนี่ว่า มันเป็นการฝ่าฝืนกฎของพวกเรา

แต่จงรับรู้ไว้ในหัวใจของพวกคุณเองเลยว่า
“มันจะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”
อย่างที่พวกคุณหลายคนรู้สึกอยู่แล้วภายในใจ
จงเชื่อมั่นในความรู้สึกแห่งความจริงนี้
ที่ความสั่นสะเทือนของคำพูดเหล่านี้
ไปกวนมันขึ้นมาจากภายในของพวกคุณเอง

และจงยึดมั่นอยู่ในแสงสว่าง ที่เป็นตัวตนที่แท้จริงของพวกคุณเองด้วย
และจงเปล่งมันออกมาจากตัวตนที่แท้จริงของพวกคุณเอง
ในระหว่างที่พวกคุณติดต่อสื่อสารกับคนอื่นๆ เพราะว่านี่แหละคือวิธีทางของมัน
และมันก็จะเป็นเช่นนี้ต่อไปอีกด้วย

...........................

 

ข้อความสื่อสารจากต่างมิติถึงนาง Blossom Goodchild
เรื่อง: หลังจากเกิด “เหตุการณ์นั้น” แล้ว
ชาวโลกบางคนจะไม่มีความจำเป็นจะต้องตายอีกต่อไป

วันที่ : 19 ธันวาคม 2013
ที่มา: Psychic-Blossom Goodchild Sunshine Coast, Direct Voice Channel Psychic Medium

ตอนที่ 2:


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

Blossom : ขอบคุณค่ะ แต่พวกเราค่อนข้างที่จะไถลออกไปนอกเรื่อง
ของคำถามที่เกี่ยวกับ “การเวียนว่ายตายเกิด” แล้วนะคะ
มันเป็นเรื่องที่มีรายละเอียดมากเกินไป ที่จะเอาพูดถึงในตอนนี้หรือเปล่าคะ?

ต่างมิติ: มันมีรายละเอียดมากเกินไปเกินกว่าที่จะเอามาพูดถึงในตอนนี้ได้
เดี๋ยวค่อยพูดถึงมันแบบเดี่ยวๆทีหลัง แต่ว่าพวกเราก็จะให้ข้อมูลอะไรบางอย่างแก่พวกคุณ
เพื่อสนองความอยากของพวกคุณ เท่าที่จะทำได้ สิ่งที่พวกเราอยากจะบอกก็คือ
บางคนจะพบว่ามีหลายอย่างเหลือเกินที่จะต้องรับมือด้วย

Blossom : โอ..อีกแล้วใช่ไหมคะ! เตรียมตัวเตรียมใจไว้ให้ดี!

ต่างมิติ: สำหรับจิตวิญญาณของชาวโลกบางคน
ที่ได้เดินทางมาไกลมากแล้ว
และได้ยินยอมให้ตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาเอง
วิวัฒน์ขึ้นไปสู่สภาวะแห่งการรู้แจ้งได้ระดับใดระดับหนึ่งแล้ว
พวกเขาก็จะไม่มีความจำเป็น
ที่จะต้องตายจากร่างกายเนื้อของตัวเองไป อีกต่อไปแล้ว
เพราะว่าร่างกายเนื้อจะต้องอยู่คู่กับจิตวิญญาณ

Blossom : ขออภัยที่ต้องขัดจังหวะนะคะ..แต่ว่า..ตอนนี้ บนโลกใบนี้
มันไม่ใช่ว่า จำเป็นจะต้องเป็นแบบนั้นหรอกหรือคะ เพราะว่าเมื่อใดที่ร่างกายเนื้อตายลงไปแล้ว
จิตวิญญาณถึงจะสามารถไปที่อื่นได้ ดังนั้น พวกคุณกำลังบอกว่า เรื่องนี้มันจะเปลี่ยนไปใช่ไหมคะ?

ต่างมิติ: ใช่แล้ว แต่สำหรับบางคนเท่านั้นนะ
แต่ว่าในอนาคตข้างหน้าโน้น มันจะเป็นแบบนี้สำหรับทุกๆคนเลย !!

แต่ว่าในตอนนี้ ก็อย่างที่พวกเราพูดไปแล้วนั่นแหละว่า..
มันจะขึ้นอยู่กับวิวัฒนาการทางจิตวิญญาณของแต่ละคน
ดังนั้น ความหมายของพวกเราก็คือว่า
ร่างกายเนื้อ จะต้องอยู่คู่กับจิตวิญญาณ
เพราะว่าทั้งสองส่วนนี้จะสว่างไสวขึ้นทั้งคู่
เพราะว่าพวกมันจะต้องท่องเที่ยวไปด้วยกัน
ในขณะที่กำลังวิวัฒน์ต่อไปเรื่อยๆอยู่นี้

Blossom : ดิฉันมีความรู้สึกว่า เรื่องนี้มันจะไปกระตุ้นให้ผู้คนมากมาย
มีคำถามตามมาอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นแล้ว
พวกคุณจะสามารถอธิบายให้มันชัดเจนขึ้นอีกหน่อยได้ไหมคะ?

ว่า..พวกคุณกำลังบอกว่า “ภายหลัง” จาก “เหตุการณ์นั้น” แล้ว
ชาวโลกบางคน จะไม่จำเป็นต้องตายจากร่างกายเนื้อของตัวเองไปอีกเลย
หรือจะพูดอีกนัยหนึ่งก็คือ พวกเขาจะไม่มีวันตาย
ส่วนคนอื่นๆนั้น ก็ยังจะต้องตายอยู่เหมือนเดิม
ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสถานะหรือจุดที่วิวัฒนาการทางจิตวิญญาณ
ของแต่ละคนไปถึง “หลังจาก” เกิด “เหตุการณ์นั้น” ขึ้นแล้ว
ใช่ไหมคะ?

ต่างมิติ: ถูกต้องแล้ว..ชาวโลกบางคน ยังจะมีความรู้สึกว่า
ตัวเองยังมีความจำเป็นที่จะต้อง “จาก” ร่างกายเนื้อไปอยู่
แล้วค่อยกลับมาใหม่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับระบบความเชื่อ
และก็ขึ้นอยู่กับ “ความจำเป็นของพวกเขา” ที่จะต้อง
“กลับมาเริ่มต้นใหม่” ด้วยสภาวะที่สะอาดเอี่ยมอ่อง
อีกครั้งหนึ่งด้วย มันเป็นทางเลือกของแต่ละคน
และแต่ละคน ก็จะเลือกทางเลือก ตามความเข้าใจของตัวเอง
ที่มีต่อความเป็นจริงของตัวเอง ในช่วงเวลานั้นๆ

ดังนั้น สำหรับบางคนแล้ว เรื่องนี้ก็จะถูกเข้าใจ
และก็จะเป็นไปอย่างที่มันกำลังเป็นอยู่ในขณะนี้นี่แหละ

แต่ว่าสำหรับคนอื่นๆแล้ว
พวกเขาก็จะยังคงอยู่ในร่างกายเนื้อของตัวเองต่อไป
และก็จะกลายเป็นผู้ที่มี
จิตใจ – ร่างกายเนื้อ – จิตวิญญาณ
สอดประสานกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน
และเมื่อถึงเวลาหนึ่งแล้ว เปลือกหุ้มที่เป็นร่างกายเนื้อนี้
ก็จะกลายเป็นภาพสะท้อนของแสงสว่างจากภายในไป
ซึ่งก็คือ..จะกลายไปเป็น สิ่งที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้
ตามแต่จินตนาการของบุคคลคนนั้นล้วนๆ

แต่ถ้าพวกคุณคิดถึงมันในแง่ของ “แสงสว่างของบุคคลคนนั้น
ที่กำลังสว่างไสวเจิดจ้ามากขึ้นเรื่อยๆด้วยความรัก”
แล้วจากนั้นก็นึกถึงภาพที่บุคคลคนนั้นต้องการจะฉายออกมา และแสดงออกมา
ว่ามันจะสอดคล้องตามปริมาณของแสงสว่างดังกล่าวนั้น
(ขออภัยนะครับ ท่อนนี้ข้าพเจ้าหมดปัญญาจะแปลจริงๆ
เพราะอ่านแล้วก็ไม่เข้าใจ – ผู้แปล)

Blossom : ฟังดูน่าอัศจรรย์ดีนะคะ ..ดังนั้น..ก็จะไม่ต้องควบคุมเรื่องอาหารอีกแล้วใช่ไหมคะ!! เย !!

ต่างมิติ: แต่ว่า..ไม่ใช่ว่าตอนนี้ก็กำลังมีผู้คนมากมาย ที่ค้นพบว่าตัวเอง
กำลังต้องการ “อาหารที่มีไขมันและแคลอรี่ต่ำ” (light food) มากขึ้นอยู่หรอกหรือ
และก็กำลังพบว่าระบบต่างๆในร่างกายของพวกเขาต้องการและปราถนาแต่เฉพาะ
สิ่งที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ ที่จะไปหล่อเลี้ยงบำรุง “ร่างกายแห่งแสงสว่าง”
ของพวกเขาเอง ที่พวกเขากำลังอยู่ในระหว่างการผสานรวมกับมันอยู่นี่หรอกหรือ?

Blossom : ดิฉันก็เชื่อเช่นนั้นค่ะ แต่น่าเสียดายที่ดิฉันไม่ใช่หนึ่งในพวกเขา
แต่ว่าดิฉันก็กำลังจะทำอยู่เหมือนกันค่ะ

ต่างมิติ: ดังนั้น ถ้าพวกเราจะมาสรุปเนื้อหาจากการสนทนาของพวกเราในวันนี้กัน
คุณจะไม่สังเกตหน่อยเหรอว่า “ชีวิต” จะต้องดำเนินต่อไป ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
อย่างที่มันกำลังเป็นอยู่ในขณะนี้

ขึ้นอยู่กับว่า แต่ละคนจะเลือกที่จะเปลี่ยนแปลงหรือไม่เท่านั้นเอง
หลังจากเกิด “การเปลี่ยนแปลงอันนั้น” ขึ้นแล้ว

เพราะว่าแน่นอนว่า “การเปลี่ยนแปลงอันนั้น” จะไปทำให้เกิด “การเปลี่ยนแปลง” ขึ้น
จากภายในของทุกๆคนอย่างแน่นอน แต่ว่าแต่ละคนก็ยังจะต้องเป็นผู้ตัดสินใจเลือกเองอยู่ว่า
จะยอมเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือไม่ หรือว่าจะยังคงมีชีวิตอยู่กับความคิดแบบเดิมๆอยู่ต่อไป
แม้ว่าจำเป็นจะต้องยอมรับแล้วว่า “การเปลี่ยนแปลง” ได้เกิดขึ้นแล้วจริงๆก็ตาม

สำหรับคนที่เลือกที่จะเปลี่ยนแปลง และยอมรับการเปลี่ยนแปลงนั้น พวกเราก็จะพูดว่า...

Blossom : เดี๋ยวก่อนนะคะ ขอให้ดิฉันเดาเล่นๆก่อน
พวกคุณจะพูดว่า “เตรียมตัวเตรียมใจเอาไว้ให้ดี” ใช่ไหมคะ?

ต่างมิติ: ถูกต้องทันทีเลย.. เพราะว่าความรู้สึกตื่นเต้น
ที่อยู่ภายในของจิตวิญญาณของคนๆนั้น
จะทำให้คนๆนั้นตกอยู่ในสภาวะ
“มีความสุข ตื่นเต้น และกระปรี้กระเปร่า” (High spirits)
จนทำให้ความรู้สึกง่วงนอน กลายเป็นแค่เรื่องที่
นานๆถึงจะเกิดขึ้นครั้งหนึ่งเท่านั้นเอง
และก็จะนอน ก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นจริงๆเท่านั้น

แต่ว่า..แน่นอนว่า มันก็จะมีความรู้สึกอยาก
ที่จะกลับเข้าสู่สภาวะสมาธิมากขึ้นกว่าเดิมอีก
เพื่อที่จะเติมเต็มพลังงานให้กลับมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง
และเพื่อที่จะ “โผบินออกไป” สู่สถานที่อื่นๆ
ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยสามารถทำได้มาก่อนเลย

Blossom : คราวนี้ ดิฉันอาจจะเดาผิดก็ได้นะคะ แต่ว่าประโยคสุดท้ายนั้น
คือสิ่งที่ดิฉันอยากจะขอเอาไปพูดถึงในการสื่อสารครั้งต่อไปของพวกเรา
เพราะว่าดิฉันรู้สึกว่า พวกคุณไม่ได้มีเจตนาที่จะพูดถึง
การทำให้ตัวเราเองหายตัวจากที่หนึ่งไปปรากฎอีกที่หนึ่งหนะค่ะ

ต่างมิติ: ถูกต้องแล้ว..และแน่นอน Blossom เรื่องนั้นหนะ
จะเป็นเรื่องสำหรับการสนทนาของพวกเราในครั้งต่อไป
ตอนที่พวกเราไม่ได้อยู่ในช่วงท้ายๆของการสนทนาแบบนี้

ดังนั้น พวกเราก็จะใช้โอกาสช่วงสุดท้าย ก่อนที่จะถึงวันคริสต์มาสของพวกคุณนี้
อวยพรให้กับพวกคุณด้วยความรักที่ลึกซึ้งที่สุดของพวกเรา

เพราะในช่วงเวลาเช่นนี้ พวกเราก็จะมีความสุขอย่างมากร่วมกับพวกคุณด้วย
และพวกเราก็จะรู้สึกถึงแสงสว่างและความรักจากพวกคุณทุกๆคน อย่างมากมายด้วย
มันทำให้พวกเราพองโตขึ้นเพราะความสุขที่ได้รับจากพวกคุณ ซึ่งก็คือความรักที่ว่านี้
ซึ่งมันกำลังเติบโตขึ้นและสว่างไสวมากขึ้นทุกวันๆ และทุกๆชั่วขณะจากพวกคุณแต่ละคนอยู่

จิตวิญญาณผู้เป็นที่รักทั้งหลาย พวกเรารักพวกคุณ พวกเราชื่นชมพวกคุณ
งานของพวกคุณบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ จะต้องได้รับผลตอบแทนอย่างแน่นอน
ในแบบที่พวกคุณไม่อาจเข้าใจได้ จนกว่าจะถึงเวลานั้นจริงๆ..แล้วทุกอย่าง
ก็จะเป็นที่กระจ่างแจ้งขึ้นมาเอง คุณเข้าใจไหม Blossom?

Blossom : โอ..ใช่ค่ะ ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะค่ะ
ดิฉันรู้สึกมีความสุขเสมอเลยเมื่อได้สนทนากับพวกคุณ
และพวกเราก็จะคอยจ้องมองท้องฟ้าเอาไว้ เผื่อว่าจะมี
“ลำแสง” (Pillars of Light) ต่างๆอยากจะปรากฎตัวขึ้นมาให้เห็นบ้าง


ต่างมิติ: พวกเราก็ขอแนะนำให้ทำอย่างงั้นแหละ

Blossom : Steady now Neddy!
คำพูดประเภทนี้แหละที่เคยทำให้พวกคุณมีปัญหามาแล้ว!


ต่างมิติ: ถ้างั้นพวกเราก็จะทิ้งมันเอาไว้ตรงนั้นแหละ เพราะว่าพวกเรากำลังจะไปแล้ว

Blossom : โอเคค่ะ เยี่ยม..สุขสันต์วันคริสต์มาสนะคะ..
สุขสันวันคริสต์มาสแก่ทุกๆคนค่ะ โฮ โฮ โฮ !!!

ด้วยรักและขอบคุณ

………..

 

ขอบคุณมากครับที่แปลมาให้อ่าน
อ่านแล้วรู้สึกดีมากเลย ที่ตั้งใจไว้ว่าจะมีร่างกายเป็นอมตะ ก็มีความเป็นไปได้แล้วสินะเนี่ย

 

ติดตามอยู่ครับ

 

ได้เข้ามาอ่านข้อความจากกระทู้หลายครั้ง สนใจที่จะติดตามค่ะ
เคยอ่านหนังสือของ อาจารย์ โนวา อนาลัย และติดตามอ่านข้อคิดเห็น ของคุณพี่นักเขียน นานมาแล้ว ตอนนี้ดิฉัน สนใจอยากโหลด หนังสือของ อาจารย์ โนวา อนาลัย มาศึกษาทำความเข้าใจ ส่งpm ไปถามคุณ mead แต่ส่งไม่ได้ เพราะพื้นที่รับข้อความของคุณ mead เต็ม หากสะดวกรบกวนขอข้อมูลเกี่ยวกับหนังสือของ อาจารย์ โนวา อนาลัย ด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

 

THE HILARION’S WEEKLY MESSAGE 2013
December 22-29, 2013
วันที่โพสท์ _Mon ,Dec/23/2013
ผู้แปล: อจิตตะ

ความรักที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังกำลังหลั่งไหลมาสู่โลก
ในระหว่างที่ผู้คนกำลังเฉลิมฉลองอยู่กับครอบครัวและคนรัก
นี่ช่างเป็นช่วงเวลาที่วิเศษสุดแห่งปี
เมื่อทุกคนมีความเชื่อกับทุกๆความเป็นไปได้ในเรื่องดีดี
ดังนั้น สิ่งที่ถูกต้องก็ย่อมเกิดแก่โลกใบนี้อย่างแน่นอน
ความรักมากมายที่ซุกซ่อนอยู่ในส่วนลึกที่สุดของทุกจิตวิญญาณ
และความปรารถนาในแต่ละเรื่องราว รวมถึงการมองการณ์ไกล
ซึ่งล้วนเป็นสัญญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่ของปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง
อีกทั้งปีที่ผ่านไปก็ได้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย
ที่เมื่อผู้คนได้หันย้อนกลับไปดู
พวกเขาก็จะรู้สึกประหลาดใจกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น
และหากได้มีการติดตามการพัฒนาในทุกภาคส่วน
ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์บนโลกใบนี้แล้วละก็
จะเห็นได้ว่า...มันจริง...ที่โลกของเขากำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว.....

ดินแดนใหม่จะผุดขึ้นจากมหาสมุทร
และจะเพิ่มขึ้นอีกในกาลข้างหน้าของพื้นที่ในส่วนต่าง ๆของโลก
โลกของคุณกำลังอยู่ในระหว่างการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง
ซึ่งคุณจะได้เห็นและยากที่จะเชื่อ
และคุณผู้ซึ่งเป็นผู้โอบแสงสว่างนี้ไว้ให้กับดาวเคราะห์ดวงนี้
ก็จะเป็นผู้ที่ทำความเป็นไปได้นั้นให้ปรากฏด้วยความกล้าหาญ
ถึงแม้ว่าผู้คนรอบตัวคุณจะไม่ค่อยเข้าใจคุณนักก็ตาม
การเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนี้
จะทำให้ผู้คนสัมผัสได้ว่าบางทีคุณอาจรู้ในสิ่งที่พวกเขาไม่รู้มาก่อน
พวกเขาเริ่มที่จะจริงจังกับการมองหาหนทาง
ที่จะค้นหาในสิ่งที่เขาต้องรู้ และต้องเข้าใจกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
จากภายในตัวพวกเขาเองและจากโลกที่เขาอาศัยอยู่ทุกวันนี้
ซึ่งก็จะทำให้เกิดการค้นหาคำตอบกับคำถามใหม่ๆของพวกเขา
ทางอินเตอร์เนทกันอย่างท่วมท้น

นี่คือคำถามที่ตามคุณคุณมาหลายศตวรรษแล้ว
ซึ่งเมื่อคุณได้พบคำตอบ
คุณก็เริ่มที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้เกิดขึ้นภายในในส่วนที่จำเป็น
เพื่อความมั่นใจว่าจะมีพอให้ใช้ได้ตลอดชั่วชีวิตของคุณ
คุณได้ทำให้มันเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้คนหน้าใหม่ๆ(new seekers)
ที่กำลังมองหาในสิ่งที่พวกเขากำลังตามหาอยู่
ด้วยการรุกเข้าไปทำความเข้าใจที่จะทำให้เกิดผลที่ดียิ่งขึ้นแก่ผู้คน
ส่วนเหล่ารุ่นน้อง (The younger generations) ที่ได้ลงมาเกิดในโลกนี้
ต่างก็มีรหัสและถิ่นที่อยู่กันแล้ว
ทั้งมีความพร้อมสำหรับประสบการณ์ในเวลานี้
ที่จะเปิดการใช้งานจากภายใน DNA ของพวกเขา
ที่มีสายใยเชื่อมโยงกับเบื้องบน
และพร้อมรับคำบัญชาในเวลาอันเหมาะสม
ซึ่งก็จะทำให้ความทรงจำกลับคืนมาอย่างง่ายดายและสง่างาม
เหมือนผ้าคลุมแห่งความหลงลืม ได้ถูกกำจัดออกไป

การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในจิตสำนึกของมนุษยชาติจะถูกตีแผ่ออกมา
ซึ่งจะเห็นได้จากขยายตัวของตัวเลขที่เป็นตัวชี้วัด
จะเกิดการปฏิวัติอย่างสงบภายในจิตสำนึก
มากกว่าการปฏิวัติในเรื่องของความถูกต้อง
และนั่นก็คือ...”วิวัฒนาการของจิตสำนึก”
ซึ่งมวลมนุษย์ได้เปิดไฟเขียวเพื่อให้ผลึกคริสตัล (crystalline grid)
ช่วยพวกเขาได้มากกว่าการไปวิ่งตามหาซะอีก
และทำให้จุดเริ่มต้นของการสื่อสารทางโทรจิตระหว่างเหล่าปัจเจกนั้น
มีการดำเนินไปอย่างช้า ๆ และมีระบบ
ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาที่น่าทึ่งในทุกพื้นที่ของการสื่อสาร
รวมถึงเทคโนโลยี่ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็จะถูกสร้างขึ้นและกระจายไปทั่วโลก
และสิ่งเหล่านี้ได้ช่วยให้การสื่อสารบนโลกใบนี้ชัดเจนและรวดเร็วกว่าแต่ก่อนมาก
ซึ่งก็มิใช่เฉพาะผู้คนที่อาศัยอยู่บนโลกนี้เท่านั้น
แต่หมายรวมถึงกลุ่มดาว ที่พวกเขายอมรับเราดุจญาติด้วย

ยุคของความร่วมมือกันของเหล่าสหพันธ์กาแลคซี่
กับสิ่งมีชีวิตที่ต่างรูปธรรมจะกลายเป็นสิ่งที่ได้รับการยอมรับ
ซึ่งจะเห็นได้จากการร่วมกันที่ขยายตัวไปทุกพื้นที่ที่มีการแลกเปลี่ยน
ส่วนข้อมูลต่าง ๆ ก็ยังคงหลั่งไหลมาสู่โลกอย่างไม่ขาดสาย
ด้วยความตั้งมั่นที่จะช่วยเหลือมวลมนุษย์
ให้มุ่งไปสู่การยอมรับ การเรียนรู้ เพื่อพบกับแสงสว่างที่ยิ่งใหญ่
ที่จะช่วยให้กระบวนการนี้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น
และความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นของประชาชน
จะทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของมวลมนุษยชาติและของโลก
ให้เดินไปสู่วงจรที่เคยสูงกว่าในด้านความรู้ในทุกระดับของสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้
และจะมีผู้คนอีกมากมายที่จะ”เข้าใจ”ในแนวคิดที่ว่า
“ความรัก”จะเป็นคำตอบแถวหน้าสุดของทุกๆสถานการณ์
ทั้งจะเห็นได้ชัดว่าการใช้”พลังแห่งความรัก” ในลักษณะของการสร้างสรรค์นั้น
ได้ทำให้ทุกชีวิตและทุกพื้นผิวของโลกได้รับการปรับปรุงแก้ไข...

โอ...ช่างเป็นช่วงเวลาที่วิเศษสุดกับการที่ได้เดินอยู่บนโลกใบนี้...

Until next week…
I AM Hilarion

©2013-2014 Marlene Swetlishoff/Tsu-tana (Soo-tam-ah) Keeper of the Symphonies of Grace
Permission is given to share this message as long as the message is posted in its entirety
and nothing has been changed, or altered in any way and Scribe's credit, copyright and website is included.
HAPPY HOLIDAYS! - The Rainbow Scribe

 

ตาม Link ของ linkbucks กด skip ไปก็จะเข้าเว็บของ lulu ร้านขายหนังสือออนไลน์

LinkBucks.com - Get your share!

 

เปิดมาอีกทีมีผู้หวังดีโผล่มาเหมือนเตือนให้กดไลท์ให้ครบ ๑๐๐๐
ตอนนี้ครบละ...Merry Chrismas ทุกคนเลยนะ...

 

โดนใจข้อความนี้อย่างจัง
เพราะกำลังทำตัวไม่ถูก
เหมือนกับว่าเรากำลังยืนอยู่สองฝั่ง
แล้วก็จำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะก้าวขาไปทางไหนดีนะ
ทำตัวไปตามโลกสังคมแบบเดิม ที่ผู้คนทั้งหลายเห็นดีไปด้วยกัน แต่ใจมันไม่อยากจะทำ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกถึงขนาดต่อต้าน แค่ไม่รู้สึกอยากทำเหมือนเค๊า
หรือจะเลือกทำตามแบบของตัวเอง
สุดท้ายก็เลือกแบบของตัวเองตามความต้องการนั่นล่ะ
แต่ว่า...ก็รู้สึกโดดเดี่ยว รู้สึกหนาว เพราะมันไม่มีใครอยู่ข้าง ๆ เป็นเพื่อนเลยซักคน ....

 

เอ้า...Angel ได้มาเตือนอีก...ก็ Like ไป ๑๑๑๑ ละ...
ดูเหมือนกำลังสนุกกับตัวเลข...
ขอขอบคุณ Angel ที่คอยสละเวลาที่มีค่ามาเตือนให้เราหัดกด Like ซะมั่ง...

 

ว๊าววว... 1111 like ตัวเลขสวยจังเลย
ขอแสดงความยินดีด้วยคนค่ะ ...

 

ก็ไม่รู้สินะ ว่าโลกมันไม่สวย เพราะโลกมันไม่สวย หรือว่าโลกมันไม่สวย เพราะมองในมุมของผมแล้วมันไม่สวย
เคยมีใครรู้สึกหรือคิดบ้างไหมว่า ทำไมกูไม่ตายๆไปซะ ในตอนเด็กผมคิดและรู้สึกแบบนี้อยู่เสมอ
ผมถูกปลุกมากลางดึกแล้วโดนฮวด เพียงเพราะผมมีของเล่นมากเกินไป
โดนฮวดโดนตบ เพียงเพราะหมอบอกว่าผมเป็นโรคขาดสารอาหาร
ไม่มีสิทธิกระโดดโลดเต้น ขยับแขนขยับขา โดนกักบริเวณห้ามออกนอกบ้าน
มันมีอีกเยอะจังความโหดร้ายในตอนนั้น

ตอนมัธยมผมเปลี่ยนโรงเรียน และเริ่มติดเพื่อนและกลับบ้านดึก ผมเริ้มมีอิสระและผมก็ใช้มันอย่าวคุ้มค่า
ตอน ม4 ผมลาออกจากโรงเรียนด้วยตัวผมเอง เพราะผมรู้สึกว่าโรงเรียน ไม่สามรผมถสอนผมใด้
ผมใด้รถคันไหม่ที่พร้อมจะพาผมไปใด้ทุกที่ที่ผมต้องการ แต่ที่ผมลาออกจากโรงเรียน พ่อผมไม่รู้ ผมแตีงชุดนักเรียนแต่ไปโผล่บ้านเพื่อนทุกวัน ออกมาปีกว่าผมก็เริ่มเป็นนักเรง อยู่นอกกฎต่างๆ รู้สึกดี๊ดี
ความอิสระเริ้มปลดล็อกมุมมองใหม่ๆ

ไม่นานนัก ผมติดยา 5 เดือนที่ผมติดยา เฉลี่ยน 1 จี ผมเล่นสามวันหมด ผมเสพหนักเสพเยอะ ผมจะกลับบ้านประมาณอาทิตย์ละครั้งเข้าไปเอาเงินแล้วก็ออก อาเฟตามีนกำลังเปลี่ยนผมแบบช้าๆ หรือว่าเร็วแต่ผมไม่รู้ตัว ช่วงนั้นผมปวดกระดูกสันหลังมาก แต่ผมก็ยังเดินหน้าต่อไปเลื่อยๆ สัจธรรมต่างๆ ผมเริ่มมองเห็น ผมหลอนเพราะผมเอาจริงเอาจังกับความคิด หรือผมตอนปกติไม่ใส่ใจกับทุกความคิด เลยคิดว่าไม่หลอน
ก็ไม่รู้นะว่า อะไรที่หลอน แต่ก็ชั่งแม้ง เพราะผมรู้ว่าผมกำลังอัพสเตตัส สกิลต่างๆมันกำลังขึ้น ผมใด้ความดิ่งลึกหมกมุ่นจากยาเสพติด ผมมองเห็นตัวเองแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่มันก็มีอีกด้าน คือผมไม่สามารถแยกแยะความคิดกับความจริงออกใด้ เสมือนว่ามันเป็นสิ่งเดียวกัน มีอาการหูแว่ว เหมือนมีเสียงคนคอยพูดให้ผมใด้ยินอยู่เป็นพักๆ หรือคุยกันเรื่องผมอยู่เป็นพักๆ หรือเพราะความจริงมันเป็นอย่างนั้นก็ไม้รู้ ในกลุ่มนักเสพของผมผมเป็นคนเดียวที่มีอาการแบบนี้และเป็นคนเดียวที่โดน ตำรวย จับบ่อยที่สุด ทุกอย่างดำเนินไป หนักเข้าไปอีก ผมฆ่าตัวตายด้วยใบก้อน แต่ไม่ตาย เพราะผมไม่อยากตายหรอก เพียงแค่รักตัวเองมาก เวลาเจอเรื่องร้ายๆ ก็แค่อยากจะหนีมันไป ก็แค่นั้นผมนอนโรงบาลอยู่ 3 วัน ผมก็กลับมาเสพต่อ ผมแยกไม่ออกแล้วเป็นที่เรียบร้อยความจริง คืออะไร ผมบ้าขึ้นๆ และผมคิดว่าผมตายไปแล้วมันเป็นความรู้สึกที่ทรมานมากครับ ผมจึงต้องเลิกมัน เพราะเหตุปัจจัยหลายๆ อย่างมันพอเหมาะพอดี ผมบ้า และคนที่เปรียบเสมือนขาของผมอีกข้างใด้ขาดไป ตอนนั้นผมหักดิบเลยครับ แล้วผมก็ทำใด้ 5 เดือนนี้ มันชั่งคุ้มจริงๆ แต่มันก็ต้องแลกมากับความทรมาน ภาษาที่ใช้ในการพูด

ความคิดความรู้สึกของผม มันต่างไปจากเดิม ผมจะรู้ก่อนที่ใครจะโทรหาผม เวลาผมคุยกับใคร ผมจะรู้ว่าเค้ารู้สึกยังไงเหมือนผมเป็นเด็กอีกครั้งแต่เป็นเด็กที่รุ่นไหม่กว่าเดิม ผมดูแค่การตูนครอบครัวซิมสันน้ำตาก็ไหล เพราะผมเข้าใจมันแบบเข้าใจจริงๆ และหลังจากนั้นผมก็ใด้เข้าครอสปฎิบัตธรรม 3 วันแต่ผมหนีออกมาก่อน แต่สิ่งที่เค้าสอนนั้นผมยังจำใด้ และปติบัติมาเป็นเวลา 8 เดือน ผมกลับมาบ้านและมีความรู้สึกไม่คุ้นตาเหมือนกับว่า เราทำไมไมืเคยมองในมุมนี้ของบ้าน

ผมตัดขาดจากโลกภายนอก เหมือนคนที่ปติสัมพันธ์กับผม จะมีเพียงไม่ถึง 5 คนหนาแต่แคบ ผมอยู่แต่บ้าน ที่ผมปติบัติไม่ใช่เพราะผมเป็นคนดี หรือใดๆ แต่ที่ผมต้องทำ เพราะเสียงนั้นมันยังตามผมมาอยู่ ผมแค่กลัวผมจึงทำ ทำมาเลื่อยๆ ผมเริ่มรู้จักคำว่า สัจธรรม เริ่มสวดมนต์ เริ่มใส่ใจสุขภาพ เรียนรู้เรื่องธาตุต่างๆ ชอบเรื่องพลังจิต เร้นลับ ชอบใช้ความคิดแบบคิดไปคิดมา ชอบพูดชอบเขียน ถ้ามองชีวิตตอนนั้นมันลื่นไหลกลมกลืน ระหว่างนั้น เรื่องเก่าๆ ที่มันเป็นผมก็ผลุดขึ้นมา ให้ผมใด้ย้อนคิดทบทวน ผมยอมรับชีวิต ยอมรับคนอื่น คนมันจะดีเพราะมีเหตุผลที่มันจะดี คนมันจะเลวผมมีเหตุผลที่มันจะเลว ผมคงไม่ใด้ทำร้ายตัวเองด้วยการทำตามความคิดของตัวเองไม่มีใครคิดแทบผมใด้เพราะเคัาไม่ใด้เห็นทั้งหมดของผมผมรู้ว่านี่คือชีวิตผมที่ผ่านมามันอาจจะแย่แต่ผมเลือกสิ่งที่แย่ให้มันเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตผมเพื่อที่จะก้าวต่อไป

หลังจากแปดเดือนนี้ผมก็เริ่มออกนอกบ้าน ผมเรียน มหาลัยใด้ปีกว่า ก็ดร็อป ประมาณ 2 ปีกว่า ที่ผมติดดี ผมทำแบบฝืนๆ และเชื่ออยู่ลึกๆ ถ้าเรายืนหยัดอยู่นานพอบางสิ่งจะเกิดขึ้นเสมอ แล้วมันก็เกิด ผมไม่ใด้เจอหรอกครับคนที่คุยกับผมรู้เรื่อง แต่ผมเริ่มปติสัมพันธ์กับคนน้อยลงๆ ผมดิ่งลึก ชอบหมกมุ่นกับความคิด และก็อยู่กับที่ เมื่อมันเป็นแบบนี้ทำให้ผมใด้ทบทวนอยู่เสมอ มีประตูมากมายให้ผมก้าวออกไปแต่ผมไม่ จนในที่สุด ผมก็คิดใด้ว่า ถ้ามันเป็นแบบนี้ทำไมผมไม่ไปบวช ก็ที่ไม่บวชเพราะใจมันไม่อยากบวชจริงๆ ผมก็เริ่มจะไม่ติดดี

เพราะผมก็เห็นว่าในดีมีชั่วและในชั่วก็มีดี มีดีถึงมีชั่วและมีชั่วถึงมีดี ถ้าไม่มีดีก็ไม่มีชั่วถ้าไม่มีชั่วก็ไม่มีดี เลวเพื่อที่จะดีและก็ดีเพื่อที่จะเลว อยู่กับมันไอ้เลวๆ จะใด้รู้จักไอ้ดีๆ มันเชื่อมโยงไปหมดครับในตอนนี้ ปัจจุบันผมยังรู้สึกเหมือนตัวคนเดียว ผมดูเหมือนกลมกลืนดีกับคนที่ผมรู้จัก แต่ลึกลงไปในระดับพลังงาน มันต่างออกไป ก็ไม่รู้สินะว่าจะเขียนทำไม ถ้าผมมีสติเหมือนตอน แปดเดือนโน้นผมคงไม่เขียน เพราะทุกอย่างมันก็คงเป็นอย่างที่มันควรจะเป็น ผมคงไม่จำเป็นต้องไปทำอะไร แต่ตอนนี้ผมเป็นแค่คน ที่จะดีก็ใด้และจะเลวก็ใด้ ก็แล้วทำไมถ้าเรื่องของผมมันจะมีประโยชน์สำหรับใครบางคน ทำไมผมจะไมืบอกต่อ สำหรับคนที่กำลังเจอเรื่องแย่ๆ ผมจะบอกว่า แม้คุณจะดูเหมือนว่าคุณอยู่ตัวคนเดียว แต่ไม่ใช่คุณหรอกที่เป็นแบบนั้น

ตอนนี้ผมอายุ 24 มองไปข้างหน้าไม่เห็นอะไรเลย แต่สิ่งที่มีคือสกิล และสเตตัส

ขออภัยถ้าเรื่องในเรื่องไม่ดี ผมแค่เล่าเรื่องชีวิตผม

 

เป็นเรื่องดีที่สุดแห่งปีไม๊นี่...น่ารัก...
ผ่านประสบการณ์มาเยอะดี...แค่ 24 ปีเท่านั้น
แต่ก็ยังมีลมหายใจ...เก่งและกล้าดี...
หากศึกษาชีวิตต่อไป รุ่งแน่...
ถ้าไม่หวนกลับไปทำซ้ำกับเรื่องราวที่ผ่านมา
ขอให้โชคดีมีชัยกับชีวิตใหม่ ๆ ในปีต่อไปนะ...

 

ผมกำลังคิดว่า น้องเค้าน่ารักดีอ่ะคับ (ชอบสำนวนการเล่าเรื่อง ชวนอ่าน ภาษาที่ใช้ น่าติดตามครับ)
ปล.อ่านเรื่องราวที่น้องเค้าเขียน สิ่งที่น้องเค้าสื่อ บ่งบอกว่าน้องคนนี้เป็นคนใฝ่ดีมากๆครับ พี่ขอเอาใจช่วยด้วยคน.รุยยย.(ยิ้มม)

 

พอดีมีคนแชร์เพลงของ Katy Perry ชื่อเพลง "Wide Awake"
มาให้ดู ก็เลยนึกถึงตอนที่ตัวเองเริ่มงัวเงียตื่นขึ้นมาครั้งแรกเมื่อครั้งโน้น
มันเป็นการค่อยๆตื่นขึ้นมาสู่ภาระกิจของตัวเองหนะนะครับ

Katy Perry - Wide Awake - YouTube


ซึ่งในตอนนั้นหนะ ผมจะมีความฝันแบบ คม - ชัด - ลึก แทบทุกคืนเลย
จนแยกไม่ออกเลยว่าอันไหนจริงอันไหนฝัน เพราะว่ามันจะเหมือนจริงๆมากๆ
ไม่ต่างกันเลย และสติสัมปชัญญะในเวลาฝันนั้น ก็เต็มเปี่ยม
จนสามารถจดจำได้ทุกรายละเอียดปลีกย่อยของความฝันเลยทีเดียว
จนไม่รู้ว่าอันไหนจริงอันไหนฝัน อย่างที่บอกไปแล้วนั่นแหละครับ

และมันก็มีความฝันหนึ่ง ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผมกำลังทำอยู่นี่แหละ
ซึ่งก็คือส่วนหนึ่งของภาระกิจของผมนั่นเอง..ซึ่งก็คือ..

"ผู้ปลุกให้ตื่น"

.................................................................

ที่มา:
http://palungjit.org/threads/ความฝัน-เทพสังหรณ์-สัญญานเตือนจากเบื้องบน.79471/page-70

เมื่อคืนนี้ (คืนวันที่ 8/5/2008) ความฝันของผมตอนหนึ่งน่าสนใจดีครับ
เลยอยากจะนำมาเล่าให้ฟังสักเล็กน้อยครับ

ฝันว่าเดินทางอยู่ในป่า แล้วไปเจอกองเสื้อผ้าอยู่เป็นหย่อมๆ
ซึ่งเสื้อผ้าที่ว่านั้น เป็นชุดขาวที่ผู้ปฏิบัติธรรมตามวัดต่างๆใส่กันทั่วไป
แต่เสื้อผ้าที่ว่านี้มีลักษณะเก่า เลอะเทอะ เปรอะเปื้อนมาก
และถูกถอดทิ้งไว้เกลื่อนกลาด พอผมกวาดสายตาไปอีกสักหน่อย
ก็เจอร่างกายของผู้ปฏิบัติธรรม ซึ่งมีทั้งที่ผมรู้จักและไม่รู้จัก
นอนเปลือยกายอยู่ในพุ่มไม้บ้าง ในพงหญ้าบ้าง
บางคนก็ถูกทำร้าย บางคนก็ถูกตัดมือ บางคนก็ถูกตัดเท้าทิ้ง
ดูแล้วน่าเวทนายิ่งนัก

ในฝัน พอผมไปเจอใคร ผมก็จะเอาชุดขาวปฏิบัติธรรมที่อยู่แถวๆนั้นแหละ
ไปคลุมตัวให้ แล้วผมก็ "ปลุกให้ลุกขึ้น" พร้อมกับบอกว่า

"ลุกขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ได้แล้ว"

คล้ายๆกับว่าเวลามันเหลือน้อยแล้วอย่างงั้นแหละ

ในฝัน มีพี่ชายคนหนึ่งที่ผมรู้จัก ความรู้สึกในฝันบอกว่า
แกเดินไม่ได้ เพราะขาพิการ 2 ข้าง แต่แกก็เป็นผู้ปฏิบัติธรรมคนหนึ่ง
มิหนำซ้ำ "เขา" (เขานี่ใครก็ไม่รู้นะ) ยังมาตัดเท้าทั้ง 2 ข้างของแกทิ้งไปอีก

พอผมไปเจอแก ผมก็เอาเสื้อขาวที่มอมแมมอย่างที่ว่านั้นแหละคลุมตัวแก
แล้วปลุกแกลุกขึ้นมาทำหน้าที่ และผมก็พูดประมาณว่า

"พี่ปรีชานี่ มีกรรมเยอะนะ ถึงได้โดนหนักแบบนี้ ยังต้องใช้กรรมอีกเยอะ"

(ถึงแม้ว่าชื่อจริงของพี่คนนี้จะไม่ใช่ "ปรีชา"ก็ตาม)
แล้วผมก็เห็นแกตะเกียกตะกายลุกขึ้นมาเดิน แบบทุลักทุเลมากๆ
ในฝันผมสะเทือนใจมากๆ จนเกือบร้องไห้เลยครับ

..................................................................

 

ฝันนี้ก็น่าสนใจดีครับ เหมือนกระบวนการชำระสะสางตัวเอง
ที่พวกเรากำลังโดนอยู่นี้เลย

ปล.ตอนนั้นหนะ ยังไม่ได้เริ่มมาแปลข้อความจากต่างมิตินะครับ
ยังไม่รู้เรื่องรู้ราวเกี่ยวกับเรื่องอะไรพวกนี้เลย

...........................................................

เมื่อคืน (คืนวันที่ 19/5/2008) มีฝันอยู่ช็อตหนึ่งที่น่าสนใจ(นิดๆ)
ฝันเห็น "การฝึก" และ "การทดสอบ" อีกแล้วครับ

ฉากแรก เห็นตัวเองนี่แหละไปทดสอบ และก็จบบททดสอบนั้นแล้ว
เลยมีเวลาพัก เพื่อรอบททดสอบต่อไป แต่ตอนทดสอบ
ไม่ได้ทำคนเดียวหรอกนะครับ มีพี่เลี้ยงอยู่ด้วย ไม่รู้ใครเหมือนกัน

ในช่วงพักของตัวผมเอง เลยได้มีเวลาว่างไปดูคนอื่นทดสอบบ้าง
ปรากฎว่าได้ไปดู และไปช่วยผู้หญิงสาวคนหนึ่งลุ้น
เด็กผู้หญิงคนนั้นกำลังเข้าห้องสอบกับผู้หญิงคนอื่นๆอีกหลายคน
การทดสอบไม่ใช่การเขียนคำตอบลงบนกระดาษนะ
แต่เป็นอะไรที่เครียด กดดัน และลำบากมากพอสมควร
ผมเห็นครูฝึก หรืออาจจะเรียกว่าผู้คุมการสอบก็ได้ เป็นผู้ชาย
แต่งตัวเหมือนครูสอนหนังสือทั่วไป ที่ใช้คำพูดกดดัน ดุด่า และก้าวร้าวมากๆ

ผู้ที่เข้าสอบต้องอดทนสถานเดียว ถ้าใครไม่ผ่านเขาจะไล่ออกมานอกห้องสอบทันที
ซึ่งก็จะมีผู้ที่ถูกไล่ออกมาเป็นระยะๆ จนรอบท้ายๆจะเหลือคนน้อยลงๆเรื่อยๆ
ไม่ถึง 10 คน

มีบททดสอบหนึ่งที่ผมจำได้ในฝันคือ เขาให้เอาด้ายสีขาว
เหมือนฝ้ายผูกแขนนี่แหละ ให้ผู้เข้าสอบเอาคอหนีบด้ายไว้กับไหล่ตัวเอง
แล้วโยงปลายอีกข้างไว้กับเพดาน คือให้แขวนคอตัวเองไว้กับเพดานว่างั้นเถอะ
แต่แขวนแบบไม่ได้ผูกเชือกไว้นะ ใครทำขาด หรือตกลงมาก่อนจะครบกำหนด 7 วัน
ก็เป็นอันว่าสอบตก

ข้าว น้ำก็กินเองไม่ได้ ต้องให้ญาติๆ เพื่อนฝูง ที่ผู้สอบแต่ละคนจะมีญาติ พี่น้อง
เพื่อนฝูงมากมาย คอยห้อมล้อม คอยลุ้น คอยให้กำลังใจอยู่รอบๆ มาป้อนน้ำให้
โดยค่อยๆเอาน้ำใส่ในหลอดดูด แล้วค่อยๆหยอดลงไปในปากให้ เป็นเวลา 7 วัน

ญาตินี่ก็มีส่วนสำคัญนะ เพราะถ้าญาติใคร เกิดใจอ่อน ให้ความช่วยเหลือมากเกินไป
ผู้นั้นก็จะถูกไล่ออกจากห้องทันที ยังไม่พอแค่นั้นะครับ ผู้ช่วยครูฝึกนี่
ก็มีไม่น้อยเหมือนกัน ในฝันรู้สึกพวกเขาจะเป็นเทวดานะ
เขาก็จะคอยมาแกล้งผู้เข้าสอบด้วยนะ

ไม่ใช่ว่าผู้เข้าสอบจะทำได้ดีๆแล้วจะผ่านทุกคนนะ บางคนเทวดาตนไหนแกล้งมากๆ
ก็จะแกล้งให้สอบตกก็มีนะ ผมกับญาติๆของเด็กผู้หญิงคนนั้น ยังซุบซิบกันอยู่เลยว่า
ทำไมเทวดาพวกนี้ขี้โกงจัง

ตอนท้ายๆของการสอบ แต่ยังไม่ท้ายสุด เด็กผู้หญิงที่ผมไปช่วยลุ้นอยู่นั้น
ถูกไล่ออกจากห้องสอบ เพราะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
ครูฝึกถามว่าเขาปากเหม็นไหม๊ ดันไปตอบว่า"ปากเหม็นค่ะ" คนเดียวซะอย่างงั้นแหละ
ครูฝึกเลยบอกว่า "มึงออกไปจากห้องเลยไป!!" ก็เลยออกมานั่งหน้าเศร้าอยู่หน้าห้อง
พร้อมผมและญาติๆคนอื่นๆ แต่เสียงครูฝึกพูดเข้ามาในหัวผมว่า
"พาน้องเขาออกไปนั่งรอข้างนอกก่อนนะ" "เดี๋ยวจะต้องโดนซ่อมก่อน"
ซ่อมในทางทหารนี่คือถูกทำโทษก่อนหนะครับ
ก็เลยไม่แน่ใจว่าน้องเขาถูกไล่ออกมาจริงๆหรือยัง

แต่มีคำหนึ่งที่น้องคนนี้พูดกับผมตอนออกมานั่งนอกห้องคือ "เขาเรียกผมว่าพ่อ" นะ

................................

 

หลังจากได้ทำสมาธิหมู่ เคลียจักระด้วยแสงสว่างแล้ว ตัวเองจะมีความรู้สึกชัดเจนมากที่จักระที่ 7 มันเหมือนมีอะไรหมุนๆอยุ่ จนต้องเผลอเอามือไปจับดู คิดว่ามีอะไรมาเกาะหัวรึเปล่า เป็นบ่อยมากๆครับ จะเป็นช่วงเวลาที่ไม่แน่นอน แต่วันละครั้งเป็นอย่างน้อย ​

 

เหนือคำบรรยายจริงๆค่ะ
คุณคิดถูกแล้วที่มาเล่าเรื่องนี้
การชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือการชนะตัวเอง
คุณสุดยอด
เรื่องราวของคุณทำให้ฉันเกิดปีติ ขอบคุณค่ะ^ ^

 

25.12.2013
สุขสันต์วันคริสต์มาสค่ะ…
ขอให้วันนี้ เป็นวันที่ดีดี ...
และขอให้ทุก ๆ ท่านได้รับของขวัญที่ถูกใจกันถ้วนหน้านะคะ;k07

 

Message From Galactics : ช่วงเวลาแห่งความสุขรออยู่ข้างหน้าแล้ว (ISONic)
โดย Anna Merkaba - 24 ธันวาคม 2013



แด่เด็กน้อยๆที่น่ารักยิ่งแห่งจักรวาล...

เรามาพบคุณในวันนี้ เพื่อการเฉลิมฉลองการเริ่มต้นใหม่
ในสิ่งที่จะมีการเปิดเผยบนโลกของคุณ
คุณหลายคนกำลังเฝ้ารอคอยสำหรับช่วงเวลาแห่งยุคใหม่
สำหรับคุณที่เพิ่งจะมาอยูที่นี่เป็นครั้งแรกบนโลก รวมทั้งผู้ที่มาที่นี่
เพื่อการปลดปล่อยดาวเคราะห์ดวงนี้ออกจากม่านพรางแห่งความหลงลืม
ผู้ที่เป็นคลื่นลูกแรกที่ได้เข้ามาสู่โลกใบนี้
จะเข้าใจได้ถึงความล้ำค่าอย่างยิ่งในช่วงเวลานี้เป็นอย่างดี
สำหรับช่วงเวลาอันยาวนาน มันย่อมเป็นสิ่งที่คุณทั้งหลายมีความมุ่งมั่นในเรื่องเหล่านี้
ซึ่งก็คือการที่สิ่งนี้ ที่จะได้ปรากฎและเปิดเผยต่อหน้าคุณ

สิ่งที่คุณกำลังสัมผัสนั้น คือความรักอันไม่มีเงื่อนไข
ที่ได้ถูกหล่อหลอมจนกลมกลืนกันภายในหัวใจของคุณทุกคนแล้ว
มันได้แผ่ขยายไปยังทุกๆคนทั้งหมดในคราวเดียวกัน
ที่คุณได้เห็นการกระทำด้วยความเมตตาของมวลมนุษย์
ไปสู่ยังเหล่าพี่ๆน้องในธรรมชาติ ( สรรพสัตว์ทั้งหลาย )
ที่ได้เกิดขึ้นแล้วในชีวิตประจำวันของคุณ
หลายเรื่องราวได้มีการตีพิมพ์ลงในวารสารของคุณและหลายเรื่องราวที่ปรากฏ
บนสื่ออินเทอร์เน็ตของคุณ ที่เป็นข่าวและถ่ายทอดออกมาด้วยประสบการณ์ของมนุษย์
ที่ต่างก็มีความเข้าใจซึ่งกันและกัน....

วันหยุดเทศกาลนี้ ที่คุณกำลังจะได้สัมผัสนั้น มันจะแตกต่างจากที่คุณเคยคิดฝัน....
ไม่เพียงแต่ไกอาที่รักของคุณเท่านั้น แต่รวมทั้งดวงดาวที่อยู่ห่างไกลและกาแลคซีจำนวนมากด้วย
ที่จะได้รับผลกระทบ จากสิ่งที่จะเกิดขึ้นที่นี่ ในช่วงเวลาปัจจุบันนี้
จากการมาปรากฎต่อหน้าต่อตาพวกคุณ โดยไม่เกรงว่าจะมีใครพบเห็น...

ใช่แล้ว ! แน่นอนว่า มันคือพลังแห่ง ISONic....
ที่จะมาประกาศ ซึ่งการกำเนิดหรือการเริ่มต้นใหม่อย่างแท้จริง
ตามที่มันควรจะเป็นของ"ยุคใหม่"

ดังนั้น เราอยากจะขอให้พวกคุณมาร่วมเฉลิมฉลองวันหยุดในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้
ด้วยความรักอันท่วมท้น ความปลื้มปีติ และความมหัศจรรย์ของความรักและแสงสว่างอันบริสุทธิ์
สำหรับในปีข้างหน้านี้ ที่มันจะเป็นจุดเปลี่ยนสำหรับมนุษย์โลก
จุดเปลี่ยนจะเกิดขึ้นด้วยการเผาไหม้"ความหลงลืม"
และในที่สุด การเริ่มต้นเดินทางกลับบ้านอย่างแท้จริงและเต็มกำลังจะเกิดขึ้น
เพื่อการกลับไปสู่บ้านของตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา

นับว่าเป็นการรอคอยที่ยาวนานมากของคุณผู้เป็นที่รักยิ่งของเรา
กับช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาในสิ่งที่คุณมุ่งหวังไว้
ที่มันกำลังจะมาถึง จงมองดูเถิด พี่น้องมวลมนุษย์ทั้งหลาย
ที่จะมีการเริ่มต้นแบ่งปันข่าวสารที่น่าอัศจรรย์ใจเหล่านี้มากขึ้น สำหรับคุณแต่ละคนและทุกๆคน
จงดูข่าวที่แผ่ขยายออกไปของการค้นพบใหม่ กับความเข้าใจใหม่ของจิตวิญญาณ
กับความเข้าใจใหม่ในตัวคุณเอง

เรายืนอยู่เคียงข้างคุณเสมอ เพื่อที่จะร่วมเฉลิมฉลองการเริ่มต้นใหม่ด้วยกัน
อย่างพร้อมเพรียงกันกับทั้งหมดของมวลมนุษยชาติ
เรารักคุณ เราอยู่กับคุณ และลาก่อนสำหรับตอนนี้....

Galactics– Channeled by Anna Merkaba
ผู้แปล :Mead

Update from Galactics Happy Times Ahead « Sacred Ascension – Key of Life – Secrets of the Universe