ปิดประมูลวัชระบัว ๒ องค์ หน้า ๖๖๑ ,ธรรมะจากพระอาทิพุทธะ หน้า ๖๕๙ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติจักรชุดโชติตันตรัตนะ-ดวงแก้วโมกขสุทธิรักษ์ ตอน ๑๒ วิชาเรียกธาตุ..

    ต่อจากเว็บพลังจิต หน้า ๒๙๘

    แก้วโมกขสุทธิรักษ์-มนตรามณีโชติ.jpg


    หลังจากได้จักรมาบูชาแล้ว เวลาผ่านไปหลายเดือน การค้าของตระกูลของท่านวัลลภเศรษฐี ได้ดีขึ้นตามลำดับ ท่านวัลลภเศรษฐีจึงได้นำทรัพย์ที่ได้กำไรจากการค้าต่างเมือง ไปสนับสนุนการบริจาคในโรงทานทั้ง ๔ แห่ง นอกจากนี้ได้ชักชวน เพื่อนเศรษฐีร่วมกันบริจาคทรัพย์ เพื่อแจกจ่ายแก่คนยากจน และอุทิศบุญนี้แก่พระราชาของตน

    ทำให้บุญเก่าส่งผล ทำให้พระเจ้าวาหมังคลโชติได้สติขึ้นมาว่า ทรงละเลยหน้าที่ต่าง ๆ รวมทั้งการออกเยี่ยมชาวเมืองในที่ต่าง ๆ จึงเริ่มกลับมาทำหน้าที่ปกครองบ้านเมืองดังเดิม เป็นเรื่องแปลกว่า แม้พระองค์จะอภิเษกสมรสกับพระนางจิตติมาเทวี กลับไม่มีพระโอรส-ธิดาแต่อย่างใด


    การที่พระราชาเลิกลุ่มหลงพระนางจิตติมาเทวีนั้น กลับทำให้พระนางรู้สึกไม่พอพระทัยอยู่เงียบ ๆ จึงได้ให้คนสนิทกลับไปยังเมืองทวารวรนคร หาเสน่ห์ยาแฝด เพื่อให้พระเจ้าวาหมังคลโชติ

    กล่าวถึงชลธิกะดาบส อัครทานดาบส อิทธิรัตดาบส วัลลาดาบสินี สิริสิกขาดาบสินี นั้นได้ศึกษาวิชาเรียกธาตุจนสำเร็จ(แต่ยังไม่สำเร็จอภิญญา ๕)

    ต่อมาพระโชติราชดาบส สักกะดาบส และมิณฑิกาดาบสินีได้มาสมทบ พระโสรัจนะดาบสได้ให้เข้าสมาบัติเป็นเวลา ๓ เดือน เมื่อครบเวลาต่างอธิษฐานจักรแก้วของตนในอดีตขึ้นมา ดังนี้

    ๑. ชลธิกะดาบส(ท่าน widya) -จักรมหาไตรภูมิรัตน์ –ขึ้นมานานแล้ว

    ๒. อัครทานดาบส (คุณ sun2555) – จักรศตวรรษมังคลโรจน์ –(ยัง)

    ๓. พระโชติราช(คุณวาสุเทพ) -จักรโชติตันตรัตนะ

    ๔. สักกะดาบส(คุณ am12) -มหาบุญญฤทธิโรจน์

    ๕. อิทธิรัตนดาบส (คุณ Half wave) –จักรโคตรภูปฏิมา(ยัง)

    ๖. มิณฑิกาดาบสินี(Numsai) – จักรมิณฑิกปุญญา

    ๗. วัลลาดาบสินี(คุณ phuya) –จักรโชติการัศมี

    ๘. สิริสิกขาดาบสินี(คุณ Miss Brown) –สิริมณีโรจน์ฤทธิ์ (ยัง)



    เมื่ออธิษฐานจักรแก้วแล้ว จากนั้นจึงได้ลาจากการเป็นดาบส และดาบสินียกเว้นผู้เต็มใจจะบวชต่อ ปรากฏว่าไม่มีใครต้องการลาสิกขา พระโสรัจนะดาบสได้ให้เข้าสมาบัติต่ออีกเป็นเวลา ๓ เดือน เว้นแต่สักกดาบส และมิณฑิกาดาบสินีให้เข้าสมาบัติต่อเป็นเวลา ๘ เดือน แต่ไม่ได้บอกเหตุผล บอกเพียงว่า ..

    “เมื่อถึงเวลาทุกคนจะถอยออกจากสมาธิเอง วันนั้นจะบอกว่า ต้องทำอะไร”


    จากนั้นทุกคนต่างแยกย้ายยังที่พัก และเข้าสมาบัติตามเวลาที่กำหนด
     
  2. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติจักรชุดโชติตันตรัตนะ-ดวงแก้วโมกขสุทธิรักษ์ ตอน ๑๓ ศีลธรรมเสื่อมโทรม


    กล่าวถึงพระนางจิตติมาเทวีนั้น ด้วยความรักที่มีต่อพระเจ้าวาหมังคลโชติ คิดว่า การที่พระองค์เอาใจใส่ในการปกครองบ้านเมืองนั้น มีความรักต่อตนลดน้อยลง พระนางจึงได้ใช้มนต์ดำ ทำให้พระองค์หลงใหลในความสาวของตน

    ประกอบกับพระเจ้าปิณฑวราชปรารถนาที่จะครอบครองทรัพย์แผ่นดินของเมืองนี้ จึงได้ให้ปุโรหิตที่มึความเชี่ยวชาญในด้านวิชานี้ ทำให้พระเจ้าวาหมังคลโชติหลงใหลในพระธิดาของตน แอบส่งคนเข้ามาเป็นไส้ศึก และแอบขนย้ายทรัพย์ออกจากเมือง โดยพระนางจิตติมาเทวีไม่ทราบเรื่องเลย


    เมื่อพระราชาหลงใหลในสตรี ไม่ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เทวดารักษาเมือง อีกทั้งการทำเสน่ห์มนต์ดำ เป็นอวิชชา ทำให้เทวดาที่มีกำลังเข้มแข็งต่างถอยออกไป พวกยักษ์เข้ามาครองเมือง ทำให้ประชาชนมีจิตที่เปลี่ยนไป เริ่มมีความเห็นแก่ตัวมากขึ้น การทำมาค้าขายเริ่มฝืดเคือง ยกเว้นตระกูลของท่านวัลลภเศรษฐีที่มีจักรแก้วครอบครอง

    เสนาอำมาตย์ไม่อยู่ในธรรม ท่านมัณฑกะ ที่ปรึกษา เห็นว่า เมืองนี้ศีลธรรมเสื่อมโทรม และไม่มีความสงบสุข จึงได้ขอลาออกจากราชการ เพื่อปลีกวิเวก พระเจ้าวาหมังคลโชติด้วยโดนมนต์ดำ ทำให้ไม่มีสติไม่ได้ทัดทานแต่อย่างใด

    ต่อมาเทวดารักษาจักรแก้วในตระกูลของท่านวัลลภเศรษฐีดังนี้..

    ๑.จักรธนบดีสหัสสธัธช์ –มีสีขาวเป็นของวัลลภเศรษฐี(คุณศักดา)

    ๒.จักรวรุณรัตน์นภากาศ-มีสีชมพู เป็นของนางสิริวรรณา (คุณจันทรกาล)

    ๓..จักรสุทธชัยมงคล มีสีขาวเป็นของนวกะเศรษฐี(จักรของคุณอธิษฐ์)

    ๔. จักรนวรัตน์พิมวลี มีสีขาว เป็นของนางพิมวลี(น้อง kitphi)

    ๕.จักรจุฑาณวรราช มีสีขาว เป็นของนายจุฑาณะ(น้องPakkawadee-ชาตินั้นเกิดเป็นชาย)


    ได้มาเข้านิมิตบอกท่านเศรษฐี และท่านอื่น ๆ ในคืนเดียวกันว่า ให้อพยพย้ายผู้คนออกจากเมืองนี้ไป ภายใน ๓ เดือนจะเกิดภัยพิบัติใหญ่ในเมืองนี้

    รุ่งเช้าท่านวัลลภเศรษฐีได้พบกับญาติของตน ทุกคนได้นำนิมิตที่ตนเห็นมาเล่าสู่กันฟัง จึงได้ไปยังบ้านของท่านมัณฑกะ ท่านมัณฑกะได้กล่าวว่า ..

    “เรื่องนี้ ท่านมิณฑิกาได้มาปรากฏในนิมิตเหมือนกัน หากท่านไม่รังเกียจ ข้าฯจะพาพวกท่านไปยังที่ปลอดภัย อยู่ที่ป่าที่ข้าฯ และบุตรสาวเคยอยู่”


    ท่านวัลลภเศรษฐีจึงได้ตัดสินใจพาบริวารออกจากเมืองนี้ไป จากนั้นจึงได้ทำเรื่องแจ้งเรื่องนิมิตเกิดภัยพิบัติ และต้องการอพยพออกจากเมืองให้พระเจ้าวาหมังคลโชติ และเสนาอำมาตย์รับทราบ

    พระราชา และเสนาอำมาตย์ต่างไม่เชื่อเรื่องนิมิตของท่านวัลลภเศรษฐี แต่ก็ทรงอนุญาตให้อพยพออกจากเมืองไปตามความต้องการ โดยท่านวัลลภเศรษฐีได้คืนฉัตร และตราเศรษฐีประจำเมืองแก่พระราชา


    จากนั้นผู้ที่เชื่อเรื่องจะเกิดภัยพิบัติ รวมทั้งญาติของท่านชลธิกะเศรษฐี และโบรจาคเศรษฐี ต่างได้อพยพไปยังป่าที่ท่านมัณฑกะได้เคยอาศัย กลายเป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในป่า บนเขาสูง โดยตั้งให้ท่านวัลลภเศรษฐี เป็นนายบ้าน

    ทุกคนต่างอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข โดยท่านวัลลภเศรษฐีได้ให้คนรับใช้คอยดูแลท่านมัณฑกะอย่างดี จนก็สิ้นอายุขัย
     
  3. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติจักรชุดโชติตันตรัตนะ-ดวงแก้วโมกขสุทธิรักษ์ ตอนจบ เกิดภัยพิบัติ ดวงแก้วปรากฏ

    IMAG2854.jpg

    เมื่อครบ ๓ เดือนพระโชติราชดาบส ชลธิกะดาบส อัครทานดาบส อิทธิรัตดาบส วัลลาดาบสินี และสิริสิกขาดาบสินีออกจากสมาบัติเกิดเหตุประหลาดอยู่ ๆ ปราสาทของเจ้าชายโชติราชได้หายไป สมัยที่เป็นบุตรเศรษฐี ก็อันตรายหายไป ต่อมาไม่นาน ก็ฝนตกหนักติดต่อกัน ๗ วัน ๗ คืน ในดึกสงัดของคืนหนึ่ง เกิดน้ำป่าไหลหลาก เข้าสู่เมือง พระโสรัจนะดาบสได้ทราบด้วยญาณทัสสนะ สั่งให้ทุกคนเข้าสมาบัติใช้อภิญญาช่วยผู้มีศีลธรรมความดี อพยพไปอยู่ที่ปลอดภัย


    ส่วนพระเจ้าวาหมังคลโชตินั้น เจ้าชายโมกขสุทธิ์ พระโอรสใช้อภิญญาช่วยชีวิตไว้ พระนางจิตติมาเทวี และพระสนม ตลอดทั้งเสนาอำมาตย์ที่ไร้คุณธรรมถูกน้ำพัดพาไป บางคนเสียชีวิตทันที บางคนต้องเสียชีวิตอย่างทรมานด้วยกรรมที่เคยสร้างไว้ เมืองทั้งเมืองได้จมหายไปกับกระแสน้ำ กลายเป็นทะเลสาบกว้างใหญ่มีเขตแดนติดกับทะเล ซึ่งอยู่ไกลกันมาก


    ส่วนเมืองทวารวรนครนั้น เกิดภูเชาไฟระเบิด ทำให้เมืองทั้งเมืองกลายเป็นทะเลไฟ ชาวเมืองที่ไร้คุณธรรมต่างล้มตายกันเกือบทั้งเมือง คงเหลือแต่ผู้มีศีลธรรมที่ยังมีชีวิตอยู่รอดจากความช่วยเหลือของผู้ทรงอภิญญา ซึ่งออกจากที่เร้นในป่าลึกมาช่วยเหลือ

    พระโสรัจนะดาบส ได้ให้เหล่าพระดาบส รวบรวมชาวเมืองทั้งหลายที่รอดชีวิตอพยพยังหมู่บ้านของท่านวัลลภเศรษฐีอาศัยอยู่ ให้ชาวเมืองที่เหลือรักษาอุโบสถศีล เป็นเวลา ๗ วัน และได้ตั้งเมืองขึ้นมาใหม่ มีนามว่า “โมกขปุญญปุระ”

    และสถานปนาเจ้าชายโมกขสุทธิ์ขึ้นครองราชย์ต่อไป แต่งตั้งให้ท่ท่านวัลลภเศรษฐีเป็นที่ปรึกษากษัตริย์ และเสนาบดีฝ่ายการคลัง แต่งตั้งเสนาอำมาตย์ใหม่จำนวนมาก

    หลังจากวันที่สถานปนาขึ้นครองราชย์เป็นวันที่ ๗ นั้นเอง เกิดแผ่นดินสะเทือนรับรู้ทั้งเมือง ต่อมาก็ปรากฏดวงหนึ่ง นามว่า “ดวงแก้วมนตรามณีโชติ”
    ซึ่งเป็นดวงแก้วคู่บารมีของพระเจ้าโมกขสุทธิ์

    เมื่อดวงแก้วมนตรมณีโชติปรากฏ ก็เกิดแสงสว่างขึ้นในท้องพระคลัง พบดวงแก้วโมกขสุทธิรักษ์ปรากฏขึ้นอีกครั้ง เกิดเหตุอัศจรรย์ขึ้นมา มีทรัพย์ผุดจากดิน และในน้ำตามกำลังบุญของพระเจ้าโมกขสุทธิ์ พระองค์ได้สั่งให้เสนาอำมาตย์นำทรัพย์นั้นไปแจกจ่ายชาวเมือง ทำให้ทุกคนมีทรัพย์มากขึ้น

    กล่าวถึงพระโชติราชดาบสได้นั้น ต่อมาทราบว่า พระเจ้าจิตติราชทรงเสด็จสวรรคต พระองค์และพระปฏิมนตราดาบสินีได้ลาจากผนวชเป็นพระดาบส จากนั้นทรงเสด็จกลับเมืองได้ครองราชย์ ต่อจากพระเจ้าจิตติราชในกาลต่อมา ทรงปกครองเมืองด้วยความสงบสุขในกาลต่อมา

    ******************

    หลังจากขึ้นครองราชย์ไม่นาน พระเจ้าโมกขสุทธิ์ได้ส่งราชทูต และเครื่องบรรณาการณ์มา เพื่อสู่ขอเจ้าหญิงปุญญมนตรา หรือเจ้าหญิงคีตมนตราอภิเษกสมรส เป็นพระอัครมเหสี

    ต่อมาท่านวัลลภเสนาบดีได้ยกธิดาคนเล็กให้ นามว่า “สิกขรินทร์” แต่งตั้งเป็นพระมเหสีองค์ที่ ๒ และทรงปกครองเมืองอย่างร่มเย็นเป็นสุขในกาลต่อมา

    _______________________________

    ฝ่ายพระเจ้าวาหมังคลโชตินั้น หลังจากได้รับการช่วยเหลือจากพระดาบสแล้ว ได้แช่น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ ทำพิธีล้างมนต์ดำออกจากตัว เมื่อหายแล้ว ทรงออกผนวช ได้ไปยังถ้ำบริเวณใกล้กับถ้ำของพระมิณฑิกาดาบสินีเข้าสมาบัติ

    พระองค์ตั้งใจศึกษาวิชา ใช้เวลา ๓ เดือนก็สำเร็จอภิญญา ๕ ฝ่ายท่านชลธิกะดาบส อัครทานดาบส อิทธิรัตดาบส วัลลาดาบสินี และสิริสิกขาดาบสินีต่างเร่งปฏิบัติจนได้อภิญญา ๕ เช่นกัน

    เมื่อครบเวลา ๘ เดือนท่านสักกะดาบส และมิณฑิกาดาบสินีได้ออกจากสมาบัติ และอธิษฐานดวงแก้วขึ้นมา คนละดวงนามว่า “ปัญจญาณภูวนาท-อภิชาติสุวรรณศรี”

    จากนั้นพระดาบส และพระดาบสินีทั้งหลายต่างบำเพ็ญเพียรจนสิ้นอายุขัย เมื่อละโลกแล้ว ต่างจุติบนพรหมโลกชั้น ๑๑


    ขอจบประวัติดวงแก้วชุดโมกขสุทธิ และจักรชุดมิณฑิกปุญญา เพียงเท่านี้ค่ะ
    ________________________________________


    เรื่องราวนี้ อาจจะเป็นประโยชน์ต่อท่านไม่มากก็น้อย...

    “เมื่อศีลธรรมเสื่อมโทรม คนไร้ศีล เทวดาจะไม่รักษาเมือง เป็นเหตุให้บ้านเมืองวุ่นวาย และเกิดภัยพิบัติขึ้น”

    ขอผลบุญ จงรักษาทุก ๆ ท่านให้พ้นจากภัยทั้งปวงค่ะ

    Numsai
     
  4. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ผู้ที่เกี่ยวข้องในประวัติดวงแก้วชุดโมกขสุทธิรักษ์ และจักรชุดนี้..

    พระโสรัจนะดาบส – หลวงปู่เกษรีฤาษี

    พระวาหมังคลโชติ -อุปสมบทเป็นพระภิกษุ

    พระเจ้าโมกขสุทธิ์ --อุปสมบทเป็นพระภิกษุ

    ท่านชลธิกะดาบส – ท่าน widya

    อัครทานดาบส- คุณ sun2555

    พระเจ้าจิตราช – ท่าน Prapart54

    พระเจ้าโชติราช -คุณวาสุเทพ

    พระนางปฏิมนตรา– คุณ sereenon

    อิทธิรัตนดาบส –คุณ have wave

    วัลลภเศรษฐี – คุณศักดา

    วัลลาดาบสินี – คุณ phuya

    พระสักกะดาบส – คุณ am12

    ท่านมัณฑกะ- คุณ mooom

    นายอักษะ – คุณหวงจื้อเซวียน

    มิณฑิกาดาบสินี - Numsai

    สิริสิกขาดาบสินี- น้อง Miss Brown

    นางสิริวรรณา –คุณจันทรกาล

    นางพิมวลี – น้อง kitphi

    นายจุฑาณะ – น้องหนูดี


    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai


    ____________________

    ขออภัยที่ไม่สามารถแจกแจงประวัติโดยละเอียดของแต่ละท่านได้ เนื่องจากประวัติยาวมาก จึงเสนอได้เพียงคร่าว ๆ ค่ะ

    ทำให้ทราบว่า แท้จริงหมู่คณะที่เราได้ร่วมบุญกันในชาตินี้ เคยพบกันในอดีตมาก่อน ต่างกรรมต่างวาระ แม้การเกิดมาพบกันเป็นคู่กัน ใช่ว่าจะเที่ยงแท้แน่นอน ทุกอย่างอยู่ที่บุญจะเป็นตัวจัดสรรค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2014
  5. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วสหัสสดินทร์ไตรภพ และดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้า ตอน ๑

    IMAG3006-1.jpg


    ย้อนหลังไประหว่างสมัยของพระพุทธมหาปุสสะพุทธเจ้า และสมัยพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า เป็นช่วงปราศจากการอุบัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีเพียงพระปัจเจกพุทธเจ้ามาโปรดเท่านั้น มีพรหมองค์หนึ่งจุติจากพรหมชั้น ๑๑ ในตระกูลพราหมณ์ที่มั่งคั่งมาก นามว่า “เกษรีพราหมณ์”
    บิดาของท่านได้สร้างปราสาทประกอบด้วยรัตนะทั้ง ๗ มีความเป็นอยู่อย่างราชา เกษรีกุมาร เป็นผู้มีปัญญามาก ได้สำเร็จไตรเภทตั้งแต่เยาว์วัย
    เมื่อโตเป็นหนุ่ม

    หลังจากสำเร็จวิชาต่าง ๆ แล้ว บิดาท่านปรารถนาจะให้มีคู่ครอง ส่วนท่านมิได้ปรารถนาจะครองเรือน จึงตัดสินได้เก็บเสื้อผ้าเครื่องใช้และเสบียงที่จำเป็น แอบหนีออกจากบ้าน ทิ้งไว้เพียงจดหมาย ๑ ฉบับได้ขออภัยต่อบิดาของท่าน จากนั้นออกเดินทางไปทิศตะวันตกของเมือง จนกระทั่งถึงป่าแห่งหนึ่ง

    ท่านได้พบกับพระฤาษี ๕ ตน ผู้ได้สำเร็จอภิญญา ๕ จึงเข้าไปกราบ และขอบวชเป็นศิษย์ เพื่อรับใช้พระฤาษีเหล่านั้น โดยการตักน้ำดื่มน้ำใช้ และออกหาผลไม้เตรียมไว้ให้ผู้เป็นอาจารย์ พระฤาษีทั้ง ๕ เห็นแก่ความเพียรของเกษรีพราหมณ์ จึงได้ให้ถือพรตเป็นพระฤาษี และได้สอนวิชาต่าง ๆ ของตนจนหมดสิ้น ด้วยความมีปัญญาของเกษรีฤาษีสามารถสำเร็จวิชาต่าง ๆ ของพระฤาษีทั้ง ๕ ได้ภายใน ๓ เดือน

    พระญาณชาตะฤาษีผู้เป็นหัวหน้าได้สอนวิชาการทรงอิทธิบาท ๔ ท่านได้กล่าวว่า อีกไม่นานเราทั้ง ๕ จะละสังขาร หลังจากเราละสังขารแล้ว เจ้าจงออกเดินทางไปทางทิศตะวันออก เจ้าจะได้พบสมณะผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ให้เจ้าอยู่อุปัฏฐากท่านผู้นั้น แล้วเจ้าจะได้พบหนทางสว่าง พวกเรามีบุญน้อยขออวยพรให้เจ้าจงโชคดี


    ต่อมาอีก ๓ เดือนพระฤาษีทั้ง ๕ ก็ละสังขาร โดยใช้เตโชธาตุเผากายเป็ยผุยผง เมื่อพระฤาษีทั้ง ๕ ผู้เป็นอาจารย์ละสังขารแล้ว เกษรีฤาษีจึงออกเดินทางไปทางทิศตะวันออกของเมืองตามที่พระฤาษีผู้เป็นอาจารย์บอกไว้

    (พระฤาษีทั้ง ๕ องค์นั้น คือ สมเด็จพระกกุสันโธ สมเด็จพระโกนาคมน สมเด็จพระกัสสป สมเด็จพระสมณโคดม และพระศรีอารียเมตไตรยนั่นเอง)
     
  6. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วสหัสสดินทร์ไตรภพ และดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้า ตอน ๒ ..

    IMAG2994.jpg

    ต่อมาได้พบกับสมณะผู้ทรงศีล ท่านปฏิบัติธรรมจนบรรลุเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้านามว่า พระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า ท่านได้เหาะพาท่านเกษรีฤาษีไปยังที่พำนักของพระปัจเจกพุทธเจ้าอีก ๙๙๙ องค์ ซึ่งบรรลุธรรมแล้วเช่นกัน

    จากนั้นท่านเกษรีฤาษีจึงได้อยู่อุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นเวลานาน ในระหว่างนั้นพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้าได้พาไปท่องเที่ยวยังนาคพิภพ จนกระทั่งได้รู้จักกับพญาโภคนาคราช ซึ่งเป็นผู้ครองเมืองสัตตรัตนนครในเวลานั้น


    ท่านโภคนาคราชนั้น มีพญาอัคคีตาปะเป็นพระโอรสองค์โต ในยุคนั้นมนุษย์กับนาคไปมาหาสู่กันเป็นปกติ ด้วยมนุษย์ยุคนั้นมีศีล ๕ บริสุทธิ์ มีศีลธรรม

    พญาอัคคีตาปะนั้น มีสหายเป็นมนุษย์นามว่า “โชติกะ” เป็นบุตรเศรษฐี ได้เดินทางทางค้าขายระหว่างเมือง ได้พบกันถูกอัธยาศัย จึงได้พาโชติกะเศรษฐร ไปเที่ยวนาคพิภพ พญาอัคคีตาปะเห็นว่าเป็นผู้ที่ไม่มีความโลภ จึงมอบทองคำ และทรัพย์สมบัติจำนวนหนึ่ง พร้อมดวงแก้วมณีมอบให้แก่นายโชติกะ ๒ ดวง มีนามว่า

    "รัตนโชติชัชวาลย์ -แก้ววิศาลอภัยมณี"​


    โชติกะเศรษฐีเกิดความปิติใจที่ได้รับทองคำเหล่านั้น จึงมอบผ้ากำพลแดงที่ตนนำมาค้าขาย จำนวน ๑๐๐๐ ผืน เป็นการตอบแทน

    เมื่อได้อุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๑๐๐๐ องค์ พญาอัคคีตาปะจึงได้ถวายผ้ากำพลแดงแก่พระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๙๙๙ องค์ เพื่อให้โชติกะเศรษฐีรับบุญครั้งนี้ด้วย

    พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๑๐๐๐ องค์รับผ้ากำผลแดงแล้ว พระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า ทรงได้ตรัสแก่เจ้าชายอัคคีตาปะว่า..

    "นับจากนี้อีก ๓๐๐๐๐ ปี พระกนิษฐาของท่าน รักขมาณิวิกา จะลงมาจุติเป็นมนุษย์ ขอให้ท่านจงตามหานาง พานางกลับไปยังนาคพิภพ ผู้ที่เป็นคู่บารมีของนางจะมาจุติในนาคพิภพ ขอให้ท่านรับเป็นธุระให้ด้วย เป็นหน้าที่ครั้งสุดท้ายก่อนจะเราจะเข้าปรินิพพาน"

    สำหรับรักขมาณวิกานั้น เป็นธิดาองค์สุดท้องของพญาโภคนาคราช นางได้ขยายกาย เพื่อรักษาเมือง ทำให้ถูกครุฑรุมทำร้าย จากนั้นนางได้ไปจุติบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    เจ้าชายอัคคีตาปะนั้นได้ทราบ จึงก้มกราบพระปัจเจกพุทธเจ้าด้วยความเคารพ จากนั้น พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ ต่างเข้าฌาณสมาบัติและเข้าพระนิพพานอย่างสงบ

    ท่านเกษรีฤาษีจึงให้เจ้าชายอัคคีตาปะ และบริวารดูแลพระสังขารของพระปัจเจกพุทธเจ้า ส่วนท่านได้เหาะไปยังเมืองไชยเมตตนคร เพื่อแจ้งข่าวแก่พระเจ้าสัตยารัตน์ ผู้ครองนคร ซึ่งเป็นผู้อุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าเช่นกัน
    เมื่อพระเจ้าสัตยารัตน์ได้ทรงทราบทรงเสียพระทัย แม้รู้ว่าความตายเป็นเรื่องธรรมดาแต่ก็อดเสียพระทัยไม่ได้ สั่งให้จัดขบวนไปยังสถานที่พระปัจเจกพุทธเจ้าดับขันธ์ปรินิพพานทันที

    หลังจากทำความเคารพพระศพแล้ว ท่านเกษรีฤาษี พร้อมเหล่าพญานาคผู้มีฤทธิ์ได้ใช้เตโชกสินเผาพระสังขารของพระปัจเจกพุทธเจ้าตามธรรมเนียมปฏิบัติ

    ปรากฏว่า พระสารีริกธาตุของพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๑๐๐๐ องค์ ได้ลอยหายไปในอากาศ เหลือเพียงผ้ากำพลแดงบางส่วนยังคงอยู่ โดยมีรอยไหม้ติดอยู่ ท่านเกษรีฤาษีจึงได้เก็บไว้ เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงครูบาอาจารย์

    จากนั้นจึงได้แบ่งผ้ากำพลแดง แก่ผู้อุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าในครั้งนั้น และต่างแยกย้ายกลับยังเมืองของตน ยกเว้นเจ้าชายอัคคีตาปะนาคราช และเจ้าชายสีหราช ได้ขออยู่ เพื่ออุปัฏฐากท่านเกษรีต่อไป
     
  7. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วสหัสสดินทร์ไตรภพ และดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้า ตอน ๓

    กำเนิดดวงแก้วสหัสสบดินทร์ไตรภพ


    หลังจากพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๑,๐๐๐ องค์ ได้เข้าปรินิพพานได้ไม่นาน ท่านเกษรีฤาษีมีดำริว่า....

    "หากเก็บรักษาผ้ากำพลแดงของพระปัจเจกพุทธเจ้าไว้เช่นนี้ อาจจะต้องเสื่อมไปตามกาลเวลา เราจะเก็บรักษาไว้อย่างไรดี”
    ท่านจึงเข้าสมาธิจึงทราบว่า... “เราจะอธิษฐานดวงแก้วมณี เพื่อห่อหุ้มดวงแก้วนี้ไว้ เพื่อรักษาผ้ากำพลแดงของพระองค์ เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้สักการะกราบไหว้”

    จากนั้นท่านจึงเรียกเจ้าชายอัคคีตาปะนาคราช และเจ้าชายสีหราชมาเพื่อบอกกล่าวให้ทราบว่า ท่านจะอธิษฐานดวงแก้ว เพื่อห่อหุ้มผ้ากำพลแดงของพระมังคละปัจเจกพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย
    โดยจะเข้าสมาบัติเป็นเวลา ๑๐,๐๐๐ ปี เจ้าชายอัคคีตาปะนาคราชได้อาสาเป็นผู้ดูแลกายหยาบของท่านเกษรีฤาษี ส่วนเจ้าชายสีหราชนั้น ได้คอยหาอาหาร น้ำดื่มน้ำใช้ให้แก่ผู้อาจารย์


    การอุปัฏฐากพระฤาษีครั้งนั้น ทำให้เจ้าชายทั้งสองมีความสนิทสนมกันมาก เจ้าชายอัคคีตาปะนาคราชนั้น ได้เรียนรู้และเข้าใจวิถีของมนุษย์ และท่านได้สอนวิชาแก่เจ้าชายสีหราชไปด้วย ส่วนพระเจ้าสัตยารัตน์นั้น พระบิดาของเจ้าชายสีหราช นาน ๆ จะมาเยี่ยมพระโอรสสักครั้ง

    เมื่อทราบว่า ท่านเกษรีฤาษีได้อธิษฐานจิตห่อหุ้มผ้ากำพลแดง จึงได้ฝากผ้ากำพลแดงจากเมืองของตนไว้กับเจ้าชายสีหราช เพื่อให้พระฤาษีได้อธิษฐานดวงแก้วมณีห่อหุ้มไว้เช่นกัน

    ครั้นครบเวลา ๑๐,๐๐๐ ปี ท่านเกษรีฤาษีได้ออกจากสมาบัติ พบศิษย์ทั้งสอง จึงได้ให้นำผ้ากำพลแดงของพระเจ้าสัตยาราช และส่วนของพญาโภคนาคราช มาพร้อมกัน จากนั้นจึงอธิษฐานดวงแก้ว ๓ ดวงห่อหุ้มผ้ากำพลแดงไว้ โดยตั้งชื่อดวงแก้วทั้งสามว่า..

    “อัครมหิศร” “เทพอมรภาคิน” “สหัสสดินทร์ไตรภพ”


    แล้วมอบดวงแก้วเทพอมรภาคินแก่เจ้าชายสีหราชไปยังเมืองไชยเมตตนคร ส่วนเจ้าชายอัคคีตาปะนาคราชนั้นได้นำดวงแก้วมณีกลับไปยังเมืองสัตตรัตนนคร สร้างความปลื้มปิติใจแก่พญาโภคนาคราช พระมเหสี และชาวเมืองเป็นอย่างมาก ได้นำดวงแก้วมณีประดิษฐานในท้องพระโรง เพื่อสักการบูชาต่อไป


    *************
    ขออนุญาตต่อในวันพรุ่งนี้ค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
  8. วาสุเทพ

    วาสุเทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +5,174
    เย้....รอดตัวแล้วเรา กล๊วกลัวผิดศีลกาเม
    ยกกันมาทั้งเมืองเลย จักรเยอะมากนับไม่ทันเลย
    พุทธภูมิกับนางแก้วเต็มไปหมด
    แหม่...น่าเสียดาย ชาตินั้นน่าจะปฏิบัติธรรมจนสิ้นอายุกับหมู่คณะ

    หากข้าพเจ้าเคยประมาทพลาดพลั้งทั้งตั้งใจก็ดีไม่ตั้งใจก็ดี ขอให้ท่านทั้งหลายอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า และข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้แก่ท่านทั้งหลาย เพื่อไม่ให้มีเวรกรรมต่อกันติดตัวไปในภายภาคเบื้องหน้า

    อนุโมทนาบุญในกุศลจิตที่ตั้งใว้ดีแล้วของทุกท่านครับ
     
  9. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,329
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,273
    คุณวาสุเทพ อย่าไปสนใจในอดีตเลยนะครับ มันผ่านไปแล้ว เราไปแก้ไขอะไรไม่ได้หรอก ทุกคนก็เคยทำผิด ตกนรก ขึ้นสวรรค์ เป็นโน้น นี่ นั่น พระราชา ไปจนถึงคนยากจน ด้วยกันทั้งนั้น

    เราควรจะดีใจที่ยังมีโอกาสในการทำดีในพระพุทธศาสนา ในขณะที่หลายๆคนในสังคม หลงวัตถุแสงสี เสียง ตั้งใจทำดี รักษาศีลให้ดีครับ ภัยพิบัติใกล้จะมาแล้ว อันนี้น่ากังวลใจมากกว่าครับ ไม่รู้จะมาอีกถ้าไหนครับ ผมก็ยังกลัวอยู่เลย เพราตัวเองยังมีความเลวอยู่อีกเยอะนะครับ

    ไงคุณวาสุเทพ ก็ตั้งใจทำอยู่แล้วในชาตินี้ คงจะทำให้มีความสุข ความเจริญยิ่งๆขึ้นไปครับ

    โชคดีครับ

    ธรรมวิวัฒน์
     
  10. Lanta999

    Lanta999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2013
    โพสต์:
    38
    ค่าพลัง:
    +118
    ขออนุโมทนาบุญกับพี่น้ำใสและคณะรวมทั้งทุกๆคนด้วยนะครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนามิ
    ผมได้ โอนยอดเงิน 4599 บาท
    บูชาดวงแก้วชุดที่สอง1600บาท
    บูชาพลอยพญานาค8สี1599บาท
    ส่วนที่เหลือ1400บาท ขอร่วมบุญกับพี่น้ำใสและคณะครับ และขออนุโมทนาบุญอีกครั้งครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  11. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติดวงแก้วสหัสสดินทร์ไตรภพ ตอน ๔ พระฤาษี ๕๐๐ ตน..

    IMAG3005-1.jpg

    หลังจากท่านเกษรีฤาษีได้อธิษฐานดวงแก้วทั้ง ๓ แล้ว ในกาลต่อมาท่านก็ได้เข้าสมาบัติเป็นเวลานับหมื่นปี ผู้ที่เคยเกิดเป็นมนุษย์ต่างละโลกแล้วไปเกิดตามบุญบารมี บางท่านไปเกิดในนาคพิภพ เพื่อได้พบผู้ที่เคยเนื่องกันมา บางท่านไปเกิดเป็นมนุษย์ ในยุคสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า (ขออนุญาตไม่นำมากล่าวในที่นี้)
    แต่สำหรับชาวนาคพิภพที่เคยร่วมบุญในครั้งนั้นหาได้เคลื่อนภพไม่ ยังคงทรงอิทธิบาท ๔ เพื่อทำหน้าที่รักษาดวงแก้วสหัสสไตรภพ จนเวลาผ่านไปนานนับ ๙๑ กัป

    จนถึงกระทั่งถึงเวลา ก่อนพุทธสมัยพระพุทธสมณโคดม ๑๓๕๐๐ ปี ผู้ที่เคยได้ร่วมบุญบูชาพระปัจเจกพุทธเจ้าในยุคนั้น ต่างก็เวียนว่ายตายเกิด และได้มาเกิดเป็นมนุษย์ในยุคนี้อีกครั้ง ต่างมีความปรารถนาที่จะได้ถวายทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าในอนาคตกาล

    กล่าวถึงพระฤาษีกลุ่มหนึ่ง มีทั้งสิ้น ๕๐๐ องค์ ท่านเกิดเป็นสหชาติกันในเมืองเดียวกัน แต่ต่างฐานะ ผู้ที่เป็นหัวหน้าพระฤาษีนั้น เดิมเคยเป็นเชื้อพระวงศ์(พระท่านบอกว่า ขอไม่บอกโดยละเอียด เนื่องจากเป็นอดีตไปแล้ว) เกิดความศรัทธาออกบวช ทำให้มีบุตรของเสนาอำมาตย์ บุตรเศรษฐี และบุตรชาวบ้านธรรมดาต่างก็ปรารถนาจะออกบวชตามท่านมา อีก ๔๙๙ คน นับรวมตัวท่านเป็น ๕๐๐ ตน


    เหล่าพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ ตนนี้ต่างออกเดินทางมาพร้อมกัน ท่านทั้งหลายเป็นผู้ที่มีลาภมากมาแต่กาลก่อน ไม่ว่าเดินทางไปที่ใด ท่านเหล่านี้จะมีไม่ความอดอยาก อันเนื่องมาจากทานบารมีที่เคยถวายแต่พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๑๐๐๐ องค์ในกาลก่อนนั่นเอง
    พระฤาษีทุกตนต่างคิดว่าจะแสวงหาหนทางดับทุกข์ เมื่อเดินทางมาถึงภูเขาสูงลูกหนึ่งขึ้นไปบนเขามีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น มีถ้ำเล็กถ้ำน้อย สามารถเป็นที่หลบแดดฝนได้ และมีลานกว้าง ท่านฤาษีผู้เป็นหัวหน้าเห็นว่า..

    "สถานที่นี้มีสัปปายะดี พวกเราพักอยู่บนเขาแห่งนี้เถิด ทุกวันขึ้น ๑๔ และ ๑๕ ค่ำ ขอพวกเราจะมาบนกันบริเวณลานกว้างแห่งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การปฏิบัติ ผู้ใดรู้ธรรมก่อน ก็ให้นำมาสนทนากัน"

    จากนั้นทุกตนต่างก็แยกย้ายกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2014
  12. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..ประวัติดวงแก้วสหัสสดินทร์ไตรภพ ตอน ๕ พญาอัสดรนาคราช..

    สำหรับพระฤาษีผู้เป็นหัวหน้าได้เลือกถ้ำแห่งหนึ่ง ด้านในมีธารน้ำไหล ท่านมักพอใจในการเพ่งน้ำเป็นอารมณ์ เมื่อมึความสุขมักแผ่ขยายความสุขนั้นไปยังบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้มีความเมตตา เอื้ออารีย์ต่อกัน ท่านทำอย่างนี้เป็นประจำ ความเมตตานี้แผ่ขยายกว้างขึ้น จนไปกระทบจิตของพญานาคตนหนึ่ง ซึ่งได้อาศัยอยู่ในภพบาดาล มีทางเข้า-ออกใต้ธารน้ำแห่งนั้น ลึกไปประมาณ ๑ โยชน์(๑๖ กม.)

    ทำให้พญานาคตนนี้ออกจากสมาบัติ ดำดินขึ้นจากใต้พิภพ ปรากฏต่อหน้าพระฤาษีตนนั้น และกล่าวว่า..

    “ข้าฯแต่พระคุณเจ้า ด้วยกลิ่นของศีล และกระแสความเมตตาของท่าน ส่งกระทบจิตของกระผม ทำให้ต้องออกจากสมาบัติมากราบพระคุณเจ้าขอรับ”


    ท่านหัวหน้าพระฤาษีได้กล่าวถามด้วยความเมตตาว่า .. “ท่านเป็นใครกันหรือ”
    พญานาคราชตอบว่า..

    “กระผมมีนามว่า อัศดรนาคราชขอรับ เป็นชาวนาคพิภพ ลงไปใต้ธารน้ำแห่งนี้ จะมีถ้ำใต้น้ำที่สามารถเชื่อมต่อไปยังนาคพิภพได้ขอรับ พวกกระผมมีทั้งหมด ๔๙ ตนที่ได้ปวารณาดูแลสมบัติแผ่นดิน จำพวกพระพุทธรูปต่าง ๆ มานานกว่า ๙๑ กัปปแล้วขอรับ ตั้งใจจะทำหน้าที่นี้ และขอพบพระพุทธเจ้า ๔๙ พระองค์ขอรับ”

    ท่านหัวหน้าพระฤาษีกล่าวว่า “อย่างนั้นหรอกหรือ ท่านเห็นสิ่งใดในตัวเราหรือ”

    พญาอัศดรนาคราชกล่าวว่า “กระผมเห็นความเมตตาในจิตของพระคุณเจ้า ผู้มีกระแสจิตเย็นเช่นนี้มีแต่พระพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้าเพียงเท่านั้นขอรับ”

    ท่านหัวหน้าพระฤาษีกล่าวว่า “ท่านเคยพบพระพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้าหรอกหรือ”

    พญาอัสดรนาคราชกล่าวว่า “ขอรับ กระผมเคยอุปัฏฐากทั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้าขอรับ กระแสจิตนั้นเย็นมาก กระแสของพระคุณเจ้า แม้ยังไม่เทียบเท่า แต่คล้ายกันมากขอรับ”

    ท่านหัวหน้าพระฤาษีตอบว่า...“ เราเองไม่รู้หรอกนะ พวกเรามี ๕๐๐ ตน ปรารถนาอย่างเดียวกันคือ ปรารถนาจะรู้ธรรมะด้วยตนเอง ทุกวันพระขึ้น ๑๔-๑๕ ค่ำพวกเราจะออกไปยังลานกว้างหน้าถ้ำใหญ่แห่งนั้น เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กัน”

    พญาอัสดรนาคราชนั้น รู้สึกปิติใจยิ่งนัก จึงกราบอาราธนาว่า..

    “ข้าฯแต่พระคุณเจ้า ในวันขึ้น ๑๔ ค่ำที่จะถึงนี้ กระผมขออาราธนาพระคุณเจ้าไปโปรดชาวนาคพิภพด้วยเถิดขอรับ”

    ท่านหัวหน้าพระฤาษี จึงพิจารณาว่า “ชาวนาคพิภพ แม้เป็นสัตว์เดรัจฉาน แต่มีความศรัทธาเพียงนี้ เราควรจะสงเคราะห์เท่าที่ทำได้”
    จึงได้นิ่งเป็นการรับอาราธนา ทั้ง ๆ ที่ได้ทราบว่า การไปนาคพิภพนั้น อาจจะได้รับอันตรายจากพิษนาคก็เป็นได้ ด้วยความเมตตา

    พญาอัสดรนาคราชได้รับรู้ถึงวารจิตของท่านจึงกล่าวว่า..

    “ข้าฯแต่พระคุณเจ้า การไปคราวนี้ พระคุณเจ้าทั้งหลาย จะไม่ได้รับอันตรายจากพิษนาค เนื่องจากในยุคของสมเด็จพระพุทธวิปัสสี พระองค์ทรงประทานพรให้พวกเราว่า..

    “หากในอนาคตกาล ที่มีผู้ทรงศีล หรือมนุษย์ที่มีคุณธรรม มีความเมตตา คิดสงเคราะห์ชาวนาคพิภพ ขอพิษนาคจงอย่าได้ทำร้ายผู้ทรงศีล หรือมนุษย์ผู้นั้นได้”


    ท่านหัวหน้าฤาษีจึงกล่าวว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น ขอท่านจงทำตามความประสงค์เถิด”

    จากนั้นพญาอัสดรนาคราช จึงได้ลากลับนาคพิภพตามเดิม
     
  13. NamfonBaanfa

    NamfonBaanfa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    510
    ค่าพลัง:
    +7,086
    แอบมาชะเง้อเป็นระยะ ว่าเมื้อไหร่คุณหม่อนจะนำชิ้นส่วนประดับตกแต่งสำหรับศาลาพระพุทธอัมรินทร์ฯมาโพสต์ให้ร่วมบุญ วันนั้นเห็นภาพแล้วแต่ละชิ้นงามๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ ^_^
     
  14. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วสหัสสดินทร์ไตรภพ ,แก้วพระปัจเจกพุทธเจ้า ตอน ๖ ท่องนาคพิภพ

    ครั้นถึงวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะเส็ง เหล่าพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ ตนได้มาประชุมรวมกัน ท่านห้วหน้าพระฤาษีได้เล่าเรื่องราวของพญาอัสดรนาคราชได้เหล่าพระฤาษีฟัง เมื่อกล่าวจบแล้ว ปรากฏร่างพญาอัสดรนาคราชในร่างมานพหนุ่ม ปรากฏขึ้น พร้อมพญาอัคคีตาปะในร่างมานพหนุ่ม พร้อมทหารและราชรถอีก ๕๐๐ คัน

    พญาอัคคีตาปะนาคราชได้ก้มกราบพระฤาษีทั้งหลายและกล่าวว่า ..

    “ข้าฯแต่พระคุณเจ้าทั้งหลาย ข้าฯมีนามว่า พญาอัคคีตาปะนาคราช เป็นโอรสองค์โตของพญาโภคนาคราช ผู้ครองเมืองสัตตรัตนนคร ขอนิมนต์พระคุณเจ้าทุกรูปไปยังนาคพิภพของเรา เพื่อให้พวกเราได้มีโอกาสทำบุญให้ถูกเนื้อนาบุญด้วยเถิดขอรับ”

    ท่านหัวหน้าพระฤาษีได้พยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงตอบรับ ก้าวขึ้นราชรถ อันมีความละเอียดปราณีตเทียบเท่ากับราชรถจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ด้วยบรรดานาคราชผู้มีฤทธิ์ทั้งหลายได้อธิษฐานราชรถแห่งตนมารับพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ ตน
    ความรวดเร็วประดุจลมพัดไปในอากาศ

    เหล่าพระฤาษีได้มาปรากฏยังลานทรายแก้วมีสภาพความเป็นทิพย์มีดอกไม้สีขาวส่งกลิ่นหอมมากอ่อน ๆ เหล่านาคกัลยาได้นำดอกไม้นานาพันธุ์มาโปรยระหว่างพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ ดำเนินไป สร้างความปิติเบิกบานใจ

    พญาสุนันโทนาคราช พญาโภคนาคราช พญาศรีสรรเพ็ญนาคราช พญานาคราชเมืองอื่นๆ รวม ๗ เมืองใหญ่ ต่างเสด็จมาต้อนรับเหล่าพระฤาษีด้วยความเคารพ


    พญาโภคนาคราชได้นำน้ำอมฤตที่ได้รับการแบ่งปันจากท้าวสักกเทวราช รดเท้าของพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ พญาอัคคีตาปะ พญาอัครนาคราช และบรรดาพระโอรสกษัตริย์เมืองต่าง ๆ ใช้ผ้าทิพย์เช็ดเท้าของพระฤาษีทั้งหลาย จากนั้นได้ก้าวขึ้นยังที่ประทับเป็นอาสนะที่ถักทอด้วยใยผ้าชนิดพิเศษ

    พญาศรีสรรเพ็ชรได้อาราธนาพระฤาษีผู้เป็นหัวหน้าประทับบนอาสนะแก้ว ประดับด้วยรัตนะทั้ง ๗ จากนั้นพญาสุนันโทนาคราช ผู้เป็นใหญ่ในบรรดากษัตริย์ทั้ง ๗ ได้กล่าวว่า..

    “ข้าฯแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ มาบัดนี้เราชาวนาคพิภพได้มีโอกาสประสบบุญใหญ่ ได้อาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายเสวยอาหาร อันเป็นทิพย์ที่พวกเราได้เตรียมไว้แล้ว อาหารทิพย์เหล่านี้

    ส่วนใหญ่มาจากชาวนาคพิภพเราได้นำถวาย ส่วนอาหารที่มีถาดทองตั้งอยู่นั้น เป็นอาหารจากชาวสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ได้มาร่วมบุญในครั้งนี้ด้วยขอรับ”


    เมื่อพญาสุนันโทนาคราชกล่าวจบ ก็ปรากฏท้าวสักกเทวราช เทพบุตร เทพธิดา ลอยอยู่เหนือชาวนาคพิภพ แต่ไม่สูงกว่าพระฤาษีทั้งหลาย

    ท้าวสักกเทวราชทรงตรัสว่า “ข้าฯแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ พวกเราได้มีโอกาสอันดีได้มาอุปัฏฐากพระคุณเจ้าทั้ง ๕๐๐ เป็นมหากุศลอย่าวยิ่ง"

    จากนั้นเหล่าเทพธิดาทั้งหลายต่างโปรยดอกไม้แก้วลงมา จากนั้นท่านหัวหน้าฤาษีได้สั่งสอนเหล่าเทวดาและชาวนาคพิภพทั้งหลายให้ยึดมั่นในศีล จากนั้นท้าวสักกเทวราช เทพบุตรเทพธิดากลับยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์


    พระฤาษีทั้ง ๕๐๐ ตนได้รับอาราธนาจากพญาสุนันโทนาคราชได้อยู่สั่งสอนชาวนาคพิภพเป็นเวลา ๗ วัน ในสถานที่นั้นมีดวงแก้วมณีดวงหนึ่งมีลักษณะพิเศษเป็นดวงแก้วมณีภายในเป็นสีแดง ระหว่างนั้นมีแสงเปล่งออกจากดวงแก้วมณี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2014
  15. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติดวงแก้วสหัสสดินทร์ไตรภพ ,แก้วพระปัจเจกพุทธเจ้า ตอนจบ อธิษฐานดวงแก้วมณี

    เหล่าพระฤาษีต่างสงสัย แต่ด้วยมารยาทไม่กล้าถาม พญาอัสดรนาคราชเป็นผู้รู้วารจิต จึงได้กล่าวว่า..

    “พระคุณเจ้าสงสัยเรื่องดวงแก้วหรือขอรับ”

    พญาอัสดรนาคราชได้กล่าวว่า.. “ดวงแก้วมณีนี้เป็นดวงแก้วที่อธิษฐานโดยพระฤาษี ผู้เป็นพระอาจารย์ของกระผมนามว่า “พระเกษรีฤาษี”

    ได้นำผ้ากำพลแดง อันเป็นเครื่องนุ่งห่มของพระปัจเจกพุทธเจ้าในอดีต ๑๐๐๐ องค์ มีพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า เป็นประธาน

    ภายในนอกจากจะมีผ้ากำพลแดงแล้ว ยังมีขั้วพระหทัยของพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้าประดิษฐาน และมีแร่ทองคำอันเกิดจากวิชาเล่นแร่แปรธาตุที่ฝังอยู่ในกายพระปัจเจกพุทธเจ้าบางพระองค์ ก่อนที่พระองค์จะบรรลุเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ทรงบวชเป็นพระฤาษีเช่นเดียวกับพระคุณเจ้าทั้งหลาย
    บางองค์ชำนาญวิชาเล่นแร่แปรธาตุ สุดท้ายทุกพระองค์ต่างบรรลุเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า”

    เมื่อได้ฟังพญาอัสดรนาคราชเล่าเรื่องราว พระฤาษีทั้งหลายต่างปลื้มปิติ น้อมสักการะพระสารีริกธาตุในส่วนขั้วพระหทัยของพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า ก้มกราบขอขมา พร้อมอธิษฐานว่า..

    “ธรรมใดอันพระองค์ทั้งหลายได้บรรลุแล้ว ขอพวกเราทั้งหลายได้บรรลุธรรมเช่นพระองค์ด้วยเถิดเจ้าข้าฯ”

    จากนั้นพระฤาษีผู้เป็นหัวหน้าได้กล่าวว่า..

    “เราอยากรู้วิชาเล่นแร่แปรธาตุ เป็นดวงแก้วมณี ท่านจะพอแนะนำได้หรือไม่”

    พญาอัสดรนาคราชได้กล่าวว่า...

    “ข้าฯแต่พระคุณเจ้า ขณะนี้ท่านเกษรีฤาษี ผู้เป็นพระอาจารย์ของข้าพเจ้าได้เข้าสมาบัติอยู่ แต่มีศิษย์ผู้น้องของท่านนามว่า “ท่านสีหบดินทร์ฤาษี” และท่านอินทร์ปัตต์ฤาษีเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาต่าง ๆ ให้แก่พวกเรา ท่านสีหบดินทร์ฤาษีนั้น ได้อยู่ปากทางเข้านาคพิภพนี้เอง หากพระคุณเจ้าประสงค์จะสนทนาธรรม หลังจากนี้กระผมจะพาไปหาท่านสีหบดินทร์ขอรับ”

    หลังจาก ๗ วันแล้ว พญาอัสดรนาคราชได้พาพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ ไปยังปากทางขึ้นยังโลกมนุษย์ ได้พบกับท่านสีหบดินทร์ฤาษี ท่านสีหบดินทร์ฤาษีนั้นได้ทราบเรื่องต่าง ๆ ด้วยญาณทัสสนะจึงได้ตกลงสอนวิชาต่าง ๆ ให้จนพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ สำเร็จอภิญญาสมาบัติ ตลอดทั้งวิชาเล่นแร่แปรธาตุ

    ท่านสีหบดินทร์ฤาษีนั้นจึงได้ให้พระฤาษีทั้ง ๕๐๐ เข้าสมาบัติเป็นเวลา ๑๐๐๐ ปี เมื่อครบกำหนดได้อธิษฐานดวงแก้วคนละดวง พระฤาษีทั้ง ๕๐๐ ได้กราบลาท่านสีหบดินทร์ฤาษี จากนั้นได้นำดวงแก้วทั้ง ๕๐๐ ดวงไปประดิษฐาน เพื่อเป็นบริวารดวงแก้วหุ้มผ้ากำพลแดง

    ต่อมาพญาอัสดรนาคราช ได้ส่งพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ กลับยังที่พำนักเดิม พระฤาษีทั้ง ๕๐๐ ต่างตระหนักดี ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นต่าง ๆ ที่ไม่คาดฝันนั้นเกิดจากการประพฤติธรรมปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ การรักษาศีลอันบริสุทธิ์ ทำให้พระฤาษีทั้งหลาย ต่างเร่งบำเพ็ญเพียรภาวนา ต่างสำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในกาลต่อมา

    กล่าวถึงในนาคพิภพ พญาโภคนาคราช ผู้มีหน้าที่ดูแลดวงแก้วมณีทั้งปวง เห็นดวงแก้วมณีของพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ เปล่งแสงออกมา จึงได้ฉุกคิดได้ว่า..

    “พระอาจารย์สีหบดินทร์บอกว่า “วันใดดวงแก้วมณีของเหล่าพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ เปล่งแสง วันหนึ่งคือวันที่ท่านเหล่านั้นต่างบรรลุพระปัจเจกพุทธเจ้า ขอเธอจงนำดวงแก้วมณีนี้ไปถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าเถิด”


    พญาโภคนาคราช พร้อมพระโอรส คือพญาอัคคีตาปะ พญาอัครนาคราช และนาคราชอื่น ๆ ได้นำดวงแก้วมณีทั้ง ๕๐๐ ดวงไปถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๕๐๐ ดวง


    นอกจากนี้ยังได้ถวายดวงแก้วมณีขนาดใหญ่กว่า ๑ คู่ นามว่า “อัครมงคลธรรม –อภิธรรมสิริโชติ” ถวายแด่หัวหน้าพระปัจเจกพุทธเจ้า เพื่อเป็นพุทธบูชา จากนั้นก็ได้ลากลับนาคพิภพ


    ต่อมาก็มีผู้ได้มาพบเหล่าพระปัจเจกพุทธเจ้า จึงได้บอกบุญต่อ ๆ กันไป ต่างได้อุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๕๐๐ องค์ จนสิ้นอายุขัย

    จบประวัติดวงแก้วจุลจักรพรรดิของพระปัจเจกพุทธเจ้าเพียงเท่านี้

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2014
  16. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ปิดประมูลดวงแก้วบรมจักรโสตสุทธิไตรภพ ขนาดน้ำหนัก ~๕๐ กก...

    ดวงแก้วบรมจักรโสตสุทธิไตรภพ ขนาดเกือบ ๕๐ กก. อธิษฐานโดยพระศีรสุทธิ์ดาบส ก่อนสมเด็จพระพุทธอัตถทัสสีพุทธเจ้า ปัจจุบันยังไม่ออกสมาบัติ

    พระศีรสุทธิ์ดาบส เป็นพระดาบสผู้น้องของพระศีรนาทดาบส ผู้อธิษฐานดวงแก้วธรรมวารีโชติ และดวงแก้วจักรภพพรหมโกษานั่นเอง
    ดวงแก้วบรมจักรโสตสุทธิไตรภพ มีกายสิทธิ์ ๒๐๐,๐๐๙,๐๐๐ องค์ มีพระธนบดีสุทธิรัตนพรหม และบริวาร เป็นผู้ดูแล ปัจจุบันอยู่พรหมชั้น ๑๑ ส่วนบริวารของท่านอยู่สวรรค์ชั้นสวรรค์ปรนิมมิตวสวัตตี


    _______0558-1.jpg


    บูชาที่ ๑๐๘,๙๙๙ บาท
    (หนึ่งแสนแปดพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทถ้วน)

    กติกาในการบูชา

    ๑. วันที่ ๙ มกราคม ๒๕๕๗ ภายใน ๑๒.๒๙ น. ตามฤกษ์พรหมสิทธิ์ ตรงกับวันขึ้น ๙ ค่ำ เดือน ๒ ปีมะเส็ง

    ๒. หลังจากจองบูชาแล้ว กรุณาโอนปัจจัยภายใน ๓ วันหลังจากโอนปัจจัยแล้ว กรุณาแจ้งชื่อ-ที่อยู่ใน PM-Numsai ค่ะ

    ๕. ขอเพิ่มค่าจัดส่งภายในประเทศ ๑๕๐๐ บาท กรณีต่างประเทศตามราคาจริง



    กรุณาโอนปัจจัยไปที่......

    ชื่อบัญชี พุทธารา โรจนฤทธิกร
    เลขที่ 080-252647-2
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์
    สาขา ถนนศรีนครินทร์ (กรุงเทพ – กรีฑา)
    ประเภท ออมทรัพย์-แบบสะสมทรัพย์


    ปัจจัยหลังหักค่าใช้จ่าย เพื่อนำไปร่วมบุญดังนี้

    ๑. ๑๐ % ร่วมบุญสร้างสมเด็จพระพุทธวิปัสสีฯ ขนาดหน้า ๔ ศอก สร้างด้วยหินทรายขาว

    ๒. ๑๐% ร่วมบุญสร้างฐานชุกชีประดิษฐานสมเด็จองค์ปฐม วัดม่อนป่าสัก ต.ดงเจน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา


    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2014
  17. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..เปิดบูชาดวงแก้วจุลจักรพรรดิ ชุด ๓ จำนวน ๒๑ ดวงค่ะ..

    ดวงแก้วจุลจักรพรรดินี้ เป็นดวงแก้วที่เกิดจากการอธิษฐานจิตของพระปัจเจกพุทธเจ้า ๕๐๐ รูป ในสมัยที่เป็นพระฤาษี โดยเข้าสมาบัติเป็นเวลา ๑๐๐๐ ปี อธิษฐานดวงแก้วเพื่อบูชาดวงแก้วสหัสสบดินทร์ไตรภพในนาคพิภพ ขึ้นมาเพื่อสงเคราะห์ผู้ที่เคยอุปัฏฐาก ในยุคก่อนสมเด็จพระพุทธสมณโคดมพุทธเจ้า

    ดวงแก้วจุลจักรพรรดิชุด ๓ นี้ มีจำนวน ๒๑ ดวง บูชาได้ไม่เกิน ๒ ดวง เนื่องจากใกล้เทศกาลตรุษจีน จึงขออนุญาตนำเลขมงคลเป็นจำนวนบูชาดวงแก้วค่ะ

    บูชาดวงละ ๘๘๘ บาท

    กติกาบูชา

    ๑. เปิดให้บูชาตั้งแต่วันที่ ๑๐ มค. ๕๖ ตามมหัทธโนฤกษ์ ตรงกับวันขึ้น ๑๐ ค่ำ เดือน ๒ ปีมะเส็ง จนกว่าจนกว่าดวงแก้วชุดนี้จะหมด

    ๒. ดวงแก้วชุดนี้ ขอสงวนสิทธิ์ให้บูชา ไม่เกิน ๒ ดวงต่อ ๑ ท่าน

    ๓. ท่านที่ต้องการบูชาเพชรพญานาค โปรดแจ้งความประสงค์พร้อมระบุจำนวนชุด

    ๔. กรุณาโอนปัจจัยบูชาภายใน ๒ วัน หลังจากโอนปัจจัยแล้วจะทำการส่งมอบดวงแก้ว-ธาตุกายสิทธิ์ในวันทำการไปรษณีย์ต่อไป

    กรุณาโอนปัจจัยไปที่

    พุทธารา โรจนฤทธิกร
    เลขที่ 080-252647-2
    ธนาคาร ไทยพาณิชย์
    สาขา ถนนศรีนครินทร์ (กรุงเทพ – กรีฑา)
    ประเภท ออมทรัพย์-แบบสะสมทรัพย์

    ปัจจัยส่วนหนึ่งนำไปร่วมบุญดังนี้

    ๑. ๘ % เพื่อเข้าบัญชีจองหินทรายขาว เพื่อสร้างพระพุทธวิปัสสีโภครัศมีโชติ ขนาด ๔ ศอก
    ๒. ๘ % เพื่อร่วมบุญถวายปัจจัยบำรุงสงฆ์ วัดบวรนิเวศน์ฯ กรุงเทพ
    ๓. ๘ % เพื่อร่วมบุญฐานชุกชี วัดม่อนป่าสัก ต.ดงเจน อ.ภูกามยาว จ.พะเยา
    ๔. ปัจจัย ๒๘ บาท/รายการ เพื่อร่วมบุญปล่อยปลา เนื่องในโอกาสเทศกาลปีใหม่ และเทศกาลตรุษจีนค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านค่ะ
    Numsai

    _________________________

    **หมายเหตุ** ต้องขออภัยทุกท่านที่ไม่สามารถลงภาพให้ชมได้ค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญอีกครั้งค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2014
  18. sun2555

    sun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +6,619
    เริ่มประมูลที่ ๑๐๘,๙๙๙ บาท
    (หนึ่งแสนแปดหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทถ้วน)

    จำนวนเงินที่เป็นตัวเลข หรือตัวหนังสือ อย่างไหนถูกต้องครับ
     
  19. sylvenus

    sylvenus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2010
    โพสต์:
    697
    ค่าพลัง:
    +3,283
    โมทนาบุญกับพี่น้ำใส และทุกท่านครับ..
    ยิ่งได้อ่านประวัติดวงแก้วแล้ว..ยินดีกับทุกท่านที่ได้ครอบครองดวงแก้วชุดนี้...
    ^_^
     
  20. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขอขอบพระคุณที่กรุณาแจ้งค่ะ ตัวเลขเป็นจำนวนที่ถูกต้องค่ะ คือ ๑๐๘,๙๙๙ บาทค่ะ (หนึ่งแสนแปดพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าบาทถ้วน)

    เมื่อวานดูประวัตินาน อาจจะล้าไปนิดหนึ่งค่ะ ต้องขออภัยทุกท่านด้วยค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับคุณ sun2555 อีกครั้งค่ะ

    Numsai
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...