จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

โมทนาสาธุ
ป๊าดดด สงสารน้องเขานะ อุตส่าห์ถามซะยาว
ครูเกษตอบซะ ป๊าดดด จบมั๊ยน้อง
มันง่ายมากสำหรับครูเกษเขาเลยนะ
พี่ภูขอต้อนรับเข้าสู่กรรมฐานแนว..จิตเกาะพระ
หรือพุทธานุสสติ+กสิณ นั่นเอง
ที่มีแต่คนหน้าด้าน ใจชากันทั้งนั้นแหล่ะน้อง
คนจะด่าว่านินทาก็เฉย ใครชมก็เฉยๆ
คนไม่ฝึกสติปัญญา จิตย่อมไหลลงต่ำ ย่อมมีปลายทางแห่งทุกข์เท่านั้นเอง
ควบคุมตนเองก็ไม่ได้ ขอให้นึกนักมวยที่ชกต่อยกันบนเวทีนั่น
คือเขาต่อยมา เราก็ต่อยกลับ ตอบโต้ตามสิ่งกระทบจิตตน
กระทบไปมา กระทบเกิดอารมณ์โกรธขึ้นมาอาจทำร้ายกายใจกันอีก
สร้างเวรสร้างกรรมไม่ดีขึ้นมาได้ทุกเมื่อ อันตรายมาก
ชีวิตเราเหมือนอยู่บนเส้นด้วย หรือปากเหวทีเดียว
คำว่า อลายภูมิ นรกภูมินี่มันอยู่แค่เอื้อมเลยนะ

สำหรับผู้ปฎิบัติธรรมทั้งหลาย คือฝึกจิตมาดีแล้ว
จึงมองเห็นสิ่งกระทบจิตตน เป็นเรื่องธรรมดา
เอ๊าแค่นี้ก่อน ถึงมือครูเกษแล้ว หมดห่วงแร๊ะ
เดี๋ยวจะมีคนตามมาอีกแยะนะครูเกษ เตรียมตั้งรับใหดี
เมื่อไหร่ ถ้าครูจิตตก คือกำลังใจตก
ครูเองก็หมดโอกาสสร้างบารมีแห่งตน เมื่อนั้น

 

ปิ่นปักผม จิตปักธรรม
คุณมณต. จิตบุญท่านนึง แต่งกลอนปัญญาธรรมแสนไพเราะเสนาะหูเหลือเกิน
พรสวรรค์ มิใช่พรแสวง อ่านดูก็รู้ คนเรานี่ถนัดต่างกัน พรสวรรค์ก็ต่างกันไปด้วย
ว่าจะแต่งบ้างก็เกรงว่าจะกลายเป็นกลอนพยายามไปซะอีก
ผมนึกได้อยู่ท่านนึง เป็นจิตบุญเหมือนกัน พอจะสู้คุณมณต.ก็คือ
คุณจุ๋มเยอรมัน น่าจะจับกลุ่มกันได้นะสองท่านนี้
เพราะต่างก็เป็นจิตบุญ จิตธรรมด้วยทั้งคู่เลย
คุณจุ๋มเยอรมัน นอกจากจะร้องเพลงเก่งแล้ว ยังแต่งกลอนไพเราะเสนาะหูอีกด้วย
ไม่แพ้คุณมณต.เลย

ManeeTree Untra
https://www.facebook.com/maneeporn.tree?hc_location=timeline
​

 

พี่จุ๋ม อยู่ไหนค่ะ มีคนบ่นถึงค่ะ ตอนนี้ จิตเกาะพระมีนักประพันธ์ หรือนักแต่งกลอนแล้ว หนึ่งท่าน แต่จะต้องหานักประชันกลอนกัน เพื่อความเข็มข้น

และเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ ให้เข้ากับอากาศ อันหนาวเย็นของโซนโลกนี้ แต่ที่เมืองไทยก็คงหนาวไม่แพ้ที่นี่ ส่วน อ.พี่ภูไม่รู้ว่าอากาศที่ U.S.A เป็นฉันใด แต่จะอย่างไร? ท่านคงไม่สนใจในตัวท่านแล้ว เพราะท่านได้ยกจิตเหนือความหนาว เย็น ร้อน แล้ว

และขออนุโมทนาในกลอนของคุณ มตณ.อุลตร้า มาณ.ในที่นี้ด้วยค่ะ สาธุ;aa19ค่ะ

 

Wow!!!...น้องนางครวญ บทกลอน เพราะจับจิต เห็นนวลพิศ ทิ้งสัญญาปิ่นปักผม กลับนำจิตมาปักธรรม แสนภิรมย์ พี่ชื่นชม ในบุญนี้ ของน้องเอย...เฮ้อ...กว่าจะจบได้...55555

สาธุ โมทนาบุญด้วยน่ะจ๊ะ น้อง มณต.

ขออนุญาตตามมาแซวต่อในกระทู้น่ะ อิๆๆ​

 

จาก ศีล 5 สู่ กรรมบถ 10 (ศีลของพระอริยะ)

กรรมบถ 10 มีอะไรบ้าง กรรมบถ 10 ญาติโยมบางคนไม่เข้าใจ ยังไม่ทราบ ก็จะบอกให้ทราบ...

กรรมบถ 10

ทางกายมี 3 คือ
1. ไม่ฆ่าสัตว์
2. ไม่ลักทรัพย์
3. ไม่ประพฤติผิดในกาม

ทางวาจา มี 4 คือ
1. ไม่พูดปด
2. ไม่พูดคำหยาบ
3. ไม่พูดส่อเสียดยุยงให้เขาแตกร้าวกัน ไม่นินทา
4. ไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล

ทางใจ มี 3 คือ
1. ไม่คิดอยากได้ทรัพย์สมบัติของบุคคลอื่น โดยไม่ชอบธรรม
2. ไม่จองล้างจองผลาญใคร คือ ไม่พยาบาท ความโกรธยังมี
3. มีความเห็นถูกคือ สัมมาทิฏฐิ มีความเห็นตรงตามที่พระพุทธเจ้าสอน ไม่คัดค้าน

กรรมบถ 10 แบ่งไปตาม กาย วาจา ใจ ก็เอาสติเข้าไปควบคุมว่า ศีล 5 ก็ดี กรรมบถ 10 ก็ดี
มีกี่สิกขาบท มีอะไรบ้าง คุมไว้ไม่ยอมลืม ใหม่ ๆ ก็ลืมบ้าง เป็นของธรรมดา

--------------------------------------------
ทิ้งท้ายด้วยโอวาทหลวงพ่อฤาษีลิงดำ...

"กำลังใจอย่างเดียวเท่านั้นที่เราจะทำให้มันดีหรือไม่ดี"
"ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จด้วยใจ"


****************************************

ด้วยจิตคารวะ

newwave1959

ปาราเมศ จบ.๑๔

 

"หลวงพ่อเฟื่อง โชติโก"

...ท่านฝากโอวาทธรรมไว้ว่า...

...ก่อนที่จะพูดอะไร...ให้ถามตัวเองว่าที่จะพูดนี้จำเป็นหรือเปล่า

...ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าพูด...นี่เป็นขั้นแรกในการอบรมใจ...

...เพราะถ้าเราควบคุมปากตัวเองไม่ได้...เราจะควบคุมใจตนเองได้อย่างไร...

...กราบน้อมรับพระธรรมคำสอน ของหลวงพ่อเฟื่องเพื่อนำมาปฏิบัติตามเจ้าค่ะกราบๆๆๆ.

 

นำภาพพระอาจารย์และทีมงานกำลังเทปูนหล่อท่านพ่อองค์ปฐม ขนาดหน้าตัก 2 เมตร องค์นี้องค์ที่สามแล้วค่ะ

งานบุญนี้เราได้ร่วมไป 3,000 บาท
ท่านพี่ภู 3,000 บาท
พี่แนท+คุณโทนี่ 3,000 บาท
คุณอุ๋ย มยุรี+ครอบครัว 2,700 บาท
และทุกๆ ท่าน ที่ไม่อาจเอ่ยนามในที่นี้ได้ (เพราะเราไม่รู้ อิๆ)

ขอเชิญโมทนาบุญร่วมกันค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ _/l\__/l\__/l\_​

 

อุ้ย....พามณีตรี มาอยู่ที่นี่เอง ...โมทนาสาธุๆหลายๆเด้อจ้า .. ท่านอาจารย์ภู
อิ่มใจเหลือเกินแล้วเนี้ย ที่ทุกท่านติดตามและอ่านกลอนนี้ ขอบพระคุณ พี่ภู พี่แนท คุณเพ็ญ พี่เกษ ฯลฯ (จากใจจริงค่ะ... ไม่ได้เข้ากระทู้นานมากแล้ว คิดยังไงไม่รู้ เข้ามาเปิดดูวันนี้ .. ดีใจที่เห็นยังคงแน่นหนักในการเผยแผ่ พระธรรมคำสอน ด้วยความมานะ และความเพียร และด้วยใจที่บริสุทธิ์)

 

๐ กลับมาเยือน เรือนเกาะพระ วาระนี้
ชื่นฤดี มีความหมาย ย้ายใจหา
นึกอยู่แต่ ครั้งก่อนเก่า เร้าธรรมา
สุขหนักหนา ฉันน้องพี่ ดีต่อกัน
๐ ระลึกถึง อยู่ข้างใน ไม่ไกลห่าง
แม้นเลือนลาง วางอารมณ์ ขื่นขมนั้น
รู้ทั้งรู้ อยู่แก่ใจ จิตไหวหวั่น
คิดพัวพัน พาบิดเบือน เตือนตัวเอง
๐ บัดนี้ต้อง ขอกล่าวคำ ขมาโทษ
จิตบุญโปรด ให้อภัย ทั้งหลายเรื่อง
เมตตาเข้า ทำลายล้าง อย่าแชเชือน
จิตบุญเพื่อน ญาติธรรม ค้ำกันมา
๐ ภูทยาน ผู้นำบุญ มาต้อนรับ
เรียกน้องกลับ คืนสู่บ้าน อุ่นอิ่มหา
มินอกลู่ กู่พระธรรม ช่วยนำพา
บอกกับฟ้า มาปรองดอง ส่องจิตตน
๐ จิตบุญต่าง มีเรื่องราว ชีวิตนี้
ร้ายหรือดี มีทั้งนั้น ปันแบ่งผล
พี่Natcha ใจหญิงงาม บันดาลดล
มีธรรมล้น ออกนอกใจ ไหลฉ่ำเย็น
๐ คุณเพ็ญสอง เจ้าตำรับ ศัพท์ขยาย
อธิบาย บอกเรื่องราว ทุกเช้าค่ำ
มาลินี แม่ฉิมพลี ชี้ผลตาม
จับเอาคำ วจนะ มาเทียบเคียง
๐ มณีเกษ พี่สาวของ มณีตรี
แม่นางนี้ ดีอารมณ์ ไม่งมเหงา
เสียงหัวเราะ แม่ลินดา ยิ้มหยอกเย้า
พี่จุ๋มเอา ก๋วยเตี๋ยวเรือ มาส่งทาน
๐ ธรรมพี่เมศ ก็ไม่น้อย คอยกดไลค์
โพสต์ธรรมไป ได้สาระ พาสุขขี
พี่แพทนั้น ชีไม่หาย ไปทันที
มาเที่ยวนี้ สงบเงียบ เฉียบปัญญา
๐ มีหนึ่งนาง นามลูกหว้า น้องนุชสุด
เธอไม่หยุด ค้นหาใจ จะไขว่คว้า
ดูจิตตน เข้าไปล้าง สะอาดตา
คอยเสาะหา น้ำมาเสิร์ฟ เย็นชื่นใจ
๐ ดาวดวงเด่น เอ็นดูจริง หญิงสมร
ก้องเกียรติกลอน ท่านอ่านได้ ดอกหรือไม่
มณีตรี เอ่ยถึงท่าน สุขสันต์ใจ
เงียบหายไป เคยกดไลค์ ใยไม่มา..หละ?
๐ ครูดัชชี่ ลูกพลัง นิ่งหายหน้า
ใจสั่งมา ฝากคิดถึง จึงบอกให้
ส่วนคุณหน่อง ตกอยู่คลอง สามเสนใน
ไม่มีใคร ช่วยดึงขึ้น ขำจริงๆ
๐ อันจะจบ กล่าวตามความ ก็ยังเหลือ
จิตนอกเหนือ จากที่เอ่ย กลัวยาวหนอ
เอาเป็นว่า ขอรวบรัด แค่นี้พอ
ตกค้างก็ จะไปจุ๊ฟ ถึงบ้านเบย
.............. เ ม า ก ล อ น จ น ไ ด้....อิๆๆๆ
โมทนาสาธุๆ เด้อจ้า ^_^
มณต.อุลตร้า​

ปล. ยังคงรออ่านกลอนข้างในจิตของพี่ภู อยู่นะค่ะ ไม่น่าจะเป็นกลอนพยายาม … ลองดูสักบทแล้วจะเชื่อว่า จิตพูดได้จริงๆ .. หากไม่มั่นใจ มณต. จะช่วยเกลาให้ก็ได้จ้า เห็นอยู่ ฝุด ฝุด แล้วนั้น อิอิ

 

ขอโมทนาบุญกับคุณน้อง มณต.ด้วยอย่างสูง กลับมาคราวนี้จิตน้องเปลี่ยนไปมาก มากจริงๆ ใสปิ้งๆ เลย อิๆๆ

ถ้าอย่างนั้น ตัวพี่นี้ ขอยกโทษให้ ถึงแม้ว่าในวันก่อนๆ จะมีหรือไม่มีเรื่องขัดเคืองใดๆ ก็ตาม สาธุค่ะ ยินดีต้อนรับกลับบ้านเราน่ะจ๊ะ ณ บ้านน้อยหลังนี้ มีรักรออยู่ซำเมอ (f)(f)(f)({)({)({)​

 

สาธุค่ะ ขออนุโมทนา กับครูพี่ภู ที่ท่านได้นําภาพของวัดอันสวยงามมาให้ชม วัดนี้ อยู่ที่เชียงราย ชื่อวัดล่องขุนผู้เขียนไปมาแล้ว และก็เป็นวัดที่สร้างขึ้น และเปรียบเหมือน...

...การปฏิบัติของผู้ปฏิบัติจะต้องเดินทางผ่าน อุปสรรคนาๆประการ ขั้นแรกจะเดินเข้าทางหน้า แล้วจะมีคนคอยบอกเราว่าข้ามเดินย้อนกลับมา ทางเดินขึ้นไปนะ ให้เดินไปจนสุด แล้วออกทางหลัง เพราะเขาเปรียบเทียบไว้อย่างนี้..

ผู้ปฏิบัติธรรมแรกๆจะต้องเดินข้ามกิเลสแห่งตนไปได้ก่อน แล้วจะผ่านความยากลําบากมากๆ บางคนก็หมดโอกาสที่ผ่านได้ เพราะเจอกรรม หรือโดนเจ้ากรรม นายเวร หรือไปสร้างความชั่วก่อน นั้นเอง ก็หมดโอกาส ก็จะลงไปสู่อบายภูมิที่ก่อนจะเดินข้ามไปได้ ท่านจะเห็นจากภาพ ที่มียักษ์มีหอกมีกระบองคอยยืนดักอยู่ที่ทางเดินขึ้นไป

จึงเป็นตัวอย่างที่ดีมาก ที่ทุกๆคนมีโอกาสจะได้ไปพบเห็น จากนั้นก็จะเดินไปสู่วิหารที่ เปรียบเหมือนเราได้ ทําบุญให้ทาน และรักษาศีล คือเข้าสู่การสร้างความดี มีการให้ทาน รักษาศีล และได้ฟังเทศน์ ฟังธรรม และเจอพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ แล้วจากนั้นจิตเราก็จะก้าวสู่ การภาวนา แล้วจากภาพก็จะเห็นตัวตึก ที่เป็นชั้นๆ นั้นเปรียบเหมือน ชั้นของสวรรค์ ชั้นพรหม และชั้นสุดท้ายที่ผู้ปฏิบัติจนสําเร็จจิต คือจิตหลุดพ้น นั้นก็คือ "นิพพาน" ท่านเปรียบไว้ในวัดนี่ และเป็นคติธรรมที่ดีมากๆ จึงขอเชิญผู้มีโอกาสไปกราบไหว้ บูชา ได้..สาธุค่ะ

 

(ธรรมโอวาท หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง)

"อย่าคิด อย่ามองคนอื่นในแง่ไม่ดีเด็ดขาด เขาจะดีจะชั่วก็เป็นเรื่องของเขา

...ต่างก็มีกรรมเวรเป็นของตน...ไม่ต้องสนใจใคร

...หากสนใจความไม่ดีของคนอื่น...ระวังตัวเองอาจจะต้องลงอเวจี

...ปฏิบัติมาถึงปานนี้แล้ว ...ใครทำไม่ดีกฏของกรรมลงโทษเอง

...ระวังจิตของเราให้ดีที่สุด.....ทำจิตให้สะอาด เอาจิตที่ดียกไปไว้บนพระนิพพาน

...มีพระบรมศาสดาสัมาสัมพุทธเจ้าอยู่ในใจ....ตลอดเวลาที่มีลมหายใจเข้าออก"

...น้อมกราบพระธรรมของท่านพ่อฤาษีลิงดำ เพื่อนำมาปฏิบัติเจ้าค่ะ

...น้อมกราบพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ด้วยเศียรเก้ลา กราบ กราบ กราบ.........

 

"ความเป็นพระ ไม่ได้อยู่ที่พระพุทธรูปที่เราเห็น"

ทุกครั้งที่เราเห็นพระพุทธรูปแล้ว มักจะค่อยระลึกถึงพระพุทธเจ้า
แต่แท้จริงแล้ว ความเป็นพระไม่ได้อยู่ที่พระพุทธรูป
แต่อยู่ที่ "ใจ" ของเราต่างหาก
จะอยู่ที่ใด ที่ไหนก็มีแต่พระ และอยู่ที่ใดเราก็จะเจอแต่ธรรมะถ้าใจเรามีพระตลอดเวลา

ที่มา : เฟซบุคจิตเกาะพระ​

 

ถึงเวลาหรือยัง ที่จะเริ่มฝึกปฏิบัติธรรม
อย่ามัวแต่ผลัดวันประกันพรุ่งกันอยู่เลย
พรุ่งนี้ มะรืนนี้ สำหรับบางคน อาจจะไม่มีโอกาสก็เป็นได้
ทำทุกอย่างที่ทำได้ ก่อนที่จะสายจนเกินการ
หรือจะยอมเป็น"ผู้เกิดพลาด"อย่างไม่มีที่สิ้นสุด อย่างนั้นหรือ



ขอเจริญในธรรม ด้วยจิตคารวะ

newwave1959

ปาราเมศ จบ.๑๔​

 

ขอฝากเพลงบนกระทู้

ขับร้องโดย...

คุณจุ๋มเยอรมัน (จิตบุญ)

เธอร้องได้ไพเราะและน่าฟังทีเดียว
ไม่มีใครรู้มาก่อนเลยว่า เธอมืออาชีพจริงๆ
นึกว่ามีแต่คุณพี่พอใจคนเดียว ที่ร้องเพลงเพราะ
คุณพี่พอใจมีคู่แข่งซะแร๊ะ

ถ้าพูดถึงกลอนธรรมะละก้อ นาทีนี้ต้องยกให้คุณ มณต.
หรือว่าคุณพี่จุ๋มจะมาลองฝีมือกับคุณมณต.ก็ย่อมได้นะ
ลองดูหน่อยน่ะ อยากอ่านๆ​

 

เพราะจังค่ะ ขนแขนแสตนอัพเลยค่ะ

 

ป๊าดดด...พี่จุ๋ม...เสียงรึนั้น อิๆๆ นักร้องออกเทปบางคนยังต้องอายเลย...เพราะจับจิตจริงๆ งานนี้คุณพี่พอใจอยู่ไหนค่ะ มาเร็ว มาไวๆ มีคนคิดถุง อิๆๆ :z2:z2:z2
ปล. คุณพี่ลินดาก็ช่างไปสรรหาภาพมาเน๊าะ อิๆๆ

 

ขอนําธรรมะจากประสบการณ์ ของหลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล ที่ท่านได้เล่าให้ลูกศิษย์ท่านฟัง หลังจากท่านได้บรรลุธรรม หลวงปู่ดุลย์ได้ส่ง ท่านมาอยู่กับ องค์หลวงตามหาบัว พอท่านมาอยู่จะทีวัดป่าบ้านตาดแล้ว ท่านจะโดนองค์หลวงตา ทดสอบจิตของท่านต่างๆ นาๆ รวมทั้งให้ท่านทําอะไรที่ว่ายากๆ อย่างเช่น นับรถที่มาจากถิ่นต่างๆ ว่าวันนี้มีรถกี่คัน แล้วรายงานให้ท่านทราบ และยังไม่พอเท่านั้น รถมีกี่ยี่ห่อ อะไรบ้าง แล้วจะต้องให้ตรงตามนั้น เพราะท่านอยากรู้ว่า หลวงพ่อเยื้อน จะทําได้ไหม?

เพราะถ้าท่านหมดกิเลสจริงๆท่านก็ต้องทําได้ทุกๆอย่างเพราะ ท่านไม่มีตัวตนแล้ว ท่านก็ทําได้ และไม่เคยบ่น เพราะท่านรู้ว่า การจะมาอยู่กับครูบา-อาจารย์ ท่านจะใช้ ให้ทําอะไรท่านก็ต้องทําตาม ถ้าเราฝืนท่าน เราก็ฝืนธรรมเหมือนกัน จึงขอนํามาเล่าเพื่อ ให้ท่านทั้งหลายรู้ว่า การที่เรามีตัวตนอยู่บางที่เราก็ไม่อยากทําอะไรๆ เพราะจิตมันขัด จิตมันติด เพราะติดในตัวตน หรือมีมานะนั้นเอง..แต่หลวงพ่อเยื้อน ท่านไม่มีตัวตน และไม่ยึดติด

ท่านจึงทําตามคําสั่งครูบา-อาจารย์ได้อย่างง่ายดาย..และท่านก็สําเร็จในกิจของท่าน และเป็นพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ตามรอยของพระพุทธเจ้า และมีพระธรรมคําสั่งสอนมาบอกกล่าว สั่งสอนศิษย์ของท่านจนถึงทุกวันนี้..สาธุค่ะ

ลูกขอน้อมกราบหลวงพ่อเยื้อน ขันติพโล ด้วยเศียรเกล้าค่ะ

 

โมทนาสาธุกับธรรมาทานของคุณเพ็ญด้วยครับ

สรุปแล้ว
การที่คนเราจะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง ให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี
ตามที่คุณเพ็ญกล่าวมาทั้งหมดนั้น ถูกต้องที่สุด
เพราะอะไร ก็เพราะว่า ถ้าศิษย์ไม่มีความศรัทธาในครูบาจารย์ตั้งแต่แรก
มันก็จบกันแต่เพียงเท่านั้นเอง

นั่นก็หมายความว่า คำว่า ความเพียรย่อมไม่บังเกิดกับบุคคลนั้นแน่
เพราะความศรัทธาจะต้องมาก่อนความเพียร
เมื่อผู้ปฎิบัติมีความศรัทธาและความเพียรแล้ว
ต่อไปฯ คำว่า สติ สมาธิและปัญญา จึงจะตามมาภายหลัง

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นที่มาของคำว่า ความสำเร็จ
หรืออาจจะบรรลุธรรมได้ในที่สุด นั่นเอง
แต่จะสำเร็จเร็วหรือช้าก็ขึ้นอยู่ที่อินทรีย์ทั้ง ๕ ของตนนี้
ขาดหรือหย่อนข้อใด ข้อหนึ่งไม่ได้เลย
พยายามทำให้สมดุลย์มากที่สุด

ยิ่งเป็นผู้ปฎิบัติธรรมด้วยแล้ว ถ้าไม่มีคำว่าอ่อนน้อมถ่อมตนก็จบยาก
ที่จบยาก มิใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเพราะตนเองต่างหาก
ตราบใดผู้ปฎิบัติใหม่ยังมีอัตตา มานะยังมากอยู่
ตรงนี้แหล่ะ อุปสรรคจะได้มรรคผลจึงยากตามไปด้วย
แต่ก็เข้าใจนะ เพราะใหม่ๆจะมีอัตตากันทุกคนอยู่แล้ว
ขนาดพระพุทธเจ้าท่านก็ยังเลือกโปรดแต่เฉพาะ เหล่าเวไนยสัตว์เลย
แต่จริงๆพระองค์มิได้เป็นผู้เลือกหรอก แต่เป็นผู้ไม่ใหห้พระองค์โปรดมากกว่า
ถึงโปรดไปก็ไร้ประโยชน์ เพราะหาผู้รับธรรมจากพระองค์ไม่ ก็เลยเข้าอุเบกขาญาณไปเลย
แล้วคนสอนที่นี่ คือใครหรอ
ครูบาจารย์คือผู้ให้ เขามิได้คิดจะไปหวังอะไรกับผู้รับสักนิดเดียวเลย
เพราะฉะนั้น ได้โปรดคิดกันให้ดีๆก่อนจะลงมือปฎิบัติ

ซึ่งเคยบอกกับครูผู้สอนไปหลายรอบแล้วว่า ถ้ากำลังใจผู้ปฎิบัติยังไม่ถึง ก็อย่าสอน
เพราะเราไม่ได้ทำยอดเหมือนการค้า การพาณิชย์แต่อย่างใด
ของพรรนี้ ไม่มีใครจะไปบังคับให้ต้องมาปฎิบัติกันหรอก
และที่นี่ไม่ง้อใครๆต้องมาปฎิบัติด้วย ในเมื่อให้ของดีไม่เอากัน

หลวงปู่ดู่ก็ยังเคยพร่ำสอนผู้คนที่ไปหาท่าน (ขออนุญาตกล่าวถึง)

กูให้ของดี หมายถึงพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า กลับไม่เอา
แต่..จะเอาแต่พระเครื่องที่กูเสก

อะไรประมาณนี้ จำไม่ค่อยได้ ผิดถูกอย่างไร ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย
(แต่ก็จริงของท่านนะ แก่นไม่เอา จะเอาแต่เปลือก)

 

โอนไปแว้วครับ200บาท ตามกำลัง