เฉลย Crop Circle จาก Nvidia

ภาพชิปที่ปรากฏบนทุ่งบารเลย์ ไม่ใช่ฝีมือเอเลี่ยน แต่เป็นส่วนหนึ่งในการทำตลาดของ Nvidia ()

เคลียร์ชัดวงกลมปริศนาบนทุ่งข้าวบาร์เลย์ที่สร้างความงุนงงและสงสัยส่งท้ายปีเก่าไม่ใช่ฝีมือเอเลี่ยน แต่เป็นผลจากการทำโฆษณาแบบปากต่อปากของ Nvidia ที่ต้องการโปรโมทชิปประมวลผลตัวใหม่ และไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการทำตลาดในรูปแบบนี้

วงกลมปริศนา (Crop Circle) เส้นผ่านศูนย์กลาง 310 ฟุต บนทุ่งข้าวบาร์เลย์ ในเมืองชูอาลาร์ แคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ สร้างความสงสัย และกลายเป็นกระแสปากต่อปากส่งท้ายปี 2013 อยู่นานร่วมสัปดาห์ บ้างว่าเป็นสิ่งลวงโลก บ้างไม่แน่ใจ แต่ผู้อ้างตัวเป็นคนเชี่ยวชาญในเรื่องวงกลมปริศนาวิเคราะห์ลึกไปถึงว่าวงกลมดังกล่าวซ่อนความหมายที่ต้องใช้ปัญญาตีความ รวมทั้งจะมีดาวหางที่สว่างเจิดจ้าปรากฏบนท้องฟ้าในปี 2014 นี้

ทว่า เบนจามิน แรดฟอร์ด (Benjamin Radford) คอลัมนิสต์แบดไซน์ของไลฟ์ไซน์ แจงว่าวงกลมที่ว่าไม่ได้เกิดจากฝีมือเอเลี่ยนแต่อย่างใด โดยทางบริษัท คอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์โชว์ (Consumer Electronics Show) ในลาสเวกัส สหรัฐฯ ได้ออกมายอมรับเมื่อเร็วๆ นี้ว่าได้รับการว่าจ้างจาก Nvidia บริษัทคอมพิวเตอร์กราฟิกให้ประชาสัมพันธ์ Tegra K1ชิปประมวลผลตัวใหม่ของบริษัท

“ทีมศิลปินอังกฤษได้สร้างวงกลมปริศนาที่มีรูปร่างซับซ้อนขึ้นมาได้อย่างเชี่ยวชาญ โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น และกลายเป็นสิ่งที่สร้างความตะลึงแก่ประชาชนทั่วไป และได้ทำให้คนจำนวนมากประหลาดใจว่า พวกเขาทำให้คนที่อ้างตัวว่าเชี่ยวชาญในเรื่องนี้กลายเป็นคนโง่ไปได้อย่างไร” แรดฟอร์ดรายงานในไลฟ์ไซน์

แล้วเหตุใจคนจำนวนมากจึงหลงเชื่อกลลวงนี้์? แรดฟอร์ดอธิบายต่อคำถามดังกล่าวว่า สมองมนุษย์นั้นถูกสร้างขึ้นให้เสาะแสวงหาความหมาย แม้ว่ามันจะไม่มีความหมายให้เห็น และในทางจิตวิทยานั้นแนวโน้มของจิตใจในการหาความบังเอิญ โครงสร้างต่างๆ และการเชื่อมโยงในข้อมูลต่างๆ นั้น เรียกว่า “อะโพฟีเนีย” (apophenia) และในทางสถิติมีคำเรียกความคิดที่ไม่ถูกต้องนี้ว่า Type I error
หนังสือของ คาร์ล ซาแกน (Carl Sagan) เรื่อง The Demon-Haunted World: Science as a Candle in the Dark ก็วิพากษ์ในเรื่องจิตวิทยาของปรากฏการณ์คล้ายๆ กันนี้ โดยแรดฟอร์ดยกคำอธิบายบางส่วนมาว่า โครงสร้างในการจดจำรูปร่างภายในสมองของเรานั้น มีความสามารถอย่างยิ่งในการถอดเอารูปใบหน้าออกจากรายละเอียดอันยุ่งเหยิง ทำให้บางครั้งเราเห็นใบหน้าในที่ซึ่งไม่มีรูปใบหน้าอยู่ เช่น รอยมืดและแสงสว่างที่ไม่ประติดประต่อก็ทำให้เราจินตนาการเป็นภาพคนบนดวงจันทร์ได้ เป็นต้น

ทฤษฎีสมคบคิดก็ทำให้การลวงโลกเรื่องวงกลมปริศนาเป็นเรื่องที่น่าเชื่อ ซึ่งแรดฟอร์ดระบุว่า ความเข้าใจผิดดังกล่าวไม่ได้เกิดจากการคิดน้อยไป แต่เกิดจากการคิดเยอะไป ทำให้มองข้ามความจริงที่ชัดเจน เพราะความคาดหวังที่จะได้เห็นบางอย่างที่ลึกลับหรือซับซ้อน และหนังสือเกี่ยวกับวงกลมปริศนาก็เต็มไปด้วยทฤษฎีที่ขัดแย้งกันเองอย่างรุนแรง เกี่ยวกับความหมายของวงกลม ซึ่งรวมถึงความเชื่อทางศาสนา ข้อความสื่อสันติภาพกับการประสานเป็นหนึ่งกับจักรวาล ความลับของพลังงานนิวเคลียร์ แผนที่เอกภพ และอื่นๆ

สำหรับปรากฏการณ์วงกลมปริศนานี้เป็นที่สนใจไปทั่วโลกในช่วงทศวรรษที่ 1970 เมื่อมีวงกลมธรรมดาปรากฏในชนบทของอังกฤษ จากในทั้งจำนวนและความซับซ้อนของวงกลมปริศนาก็เพิ่มขึ้นมหาศาล และเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงทศวรรษที่ 1980 และ 1990 ซึ่งมีวงกลมที่ละเอียดซับซ้อนถูกสร้างขึ้นมากมาย รวมถึงภาพวาดที่เป็นสัดส่วนของสมการคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน โดยรูปทรงปริศนาเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นโดยนักลวงโลกที่มีศิลปะ

“คุณควรจะคิดว่าสิ่งมีชีวิตต่างดาวที่ฉลาดพอจะเดินทางข้ามกาแล็กซีมาเยือนโลกนั้น ควรจะหาวิธีสื่อสารกับมวลมนุษย์ด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ แทนที่จะทำโครงสร้างอันกำกวมอยู่บนพืชไร่ การเรียนรู้ภาษาอื่นเป็นสิ่งที่แม้แต่เด็กเล็กทำได้ และหากโลกเราได้รับการมาเยือนโดยสิ่งมีชีวิตทรงปัญญาผู้สร้างวงกลมปริศนามาเป็นเวลาหลายทศวรรษ มันก็มีเหตุผลพอที่จะคาดหวังว่า พวกเขาน่าจะเขียนภาษาของเราในรูปแบบภาษาอังกฤษทั่วไป หรือภาษามนุษย์อื่นๆ พูดอย่างไม่เกรงใจ สิ่งที่ได้เห็นนั้นเป็นสัญลักษณ์ของการลวงโลกมากกว่า หากแม้ว่ามันจะเป็นของจริงก็เถอะ” แรดฟอร์ดแจง

ในกรณีนี้แรดฟอร์ดกล่าวว่า “ผู้เชี่ยวชาญ” ก็ถูกตุ๋นอีกครั้ง เพราะสัญลักษณ์ดังกล่าวเป็นแค่การโฆษณา และการลวงโลกครั้งนี้ก็เผยความจริงอันน่าอับอายเกี่ยวกับการค้นคว้าเรื่องวงกลมปริศนา ที่บ่งบอกว่าแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้ยังแยกวงกลมปริศนาที่อาจจะมีอยู่จริงจากของปลอมไม่ออก หากวงกลมปริศนาที่สร้างขึ้นโดยคนมีความซับซ้อนและประณีตอย่างน่าทึ่ง อีกทั้งยังซ่อนความหมายสำคัญไว้อีก แสดงว่าพวกเขาก็ผิดพลาดไปจากความจริง และโดยการจำกัดความแล้วแสดงว่าวงกลมปริศนาทั้งหมดนั้นเป็นของลวงโลก

“นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีบริษัทใช้การสร้างวงกลมปริศนาเป็นส่วนหนึ่งของการตลาด มีมาให้เห็นหลายครั้งแล้ว แม้แต่ใบหน้าอันน่าหลงใหลของเฮลโลคิตตี (Hello Kitty) ก็ปรากฏบนทุ่งเพาะปลูกมาก่อน สมมุตว่าวงกลมปริศนาปรากฏเป็นสัญลักษณ์ทางการค้าของโค้ก เชฟโรเลต หรือตรา CBS ขึ้นอีก ก็แน่ใจได้เลยว่านั่นคือของปลอม” แรดฟอร์ดระบุ



<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/5LJCTnNmT48" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ที่มา http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9570000002488

 

ดูปุ๊ปก็รู้ของเก๊ ตัดขอบไม่เนียนเลย ยังมีหยักๆอยู่ สู้ต่างดาวไม่ได้ซักกะติ๊ด

 

ไม่คม

 

ใช่ไม่เนี่ยนเลย ของจริงสร้างเสร็จใน สิบ วิ อันนั้นอึ้งเลย