สนทนาการปฏิบัติธรรมตามแนวทางของหลวงพ่อปราโมทย์

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ปราบผี, 13 กุมภาพันธ์ 2014.

  1. ปราบผี

    ปราบผี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +365
    กระทู้นี้ ตั้งขึ้น
    1. เพื่อเทิดทูนบูชาครูบาอาจารย์หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช แห่งวัดสวนสันติธรรม
    2. เพื่อสนทนาแลกเปลี่ยน ประสบการณ์การปฏิบัติธรรมระหว่างลูกศิษย์ในแนวทางที่หลวงพ่อปราโมทย์สอน
    3. เพื่อรวบรวมหลักฐานจากหลักธรรมในพระไตรปิฎก และสื่อต่างๆ ในการแก้ต่างข้อกล่าวหาอันไร้สาระต่อหลวงพ่อท่าน และเพื่อชี้แจงเผยแพร่ความจริงว่าหลวงพ่อปราโมทย์ท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งทางโลกและทางธรรม และสนับสนุนแนวทางที่ท่านสอนว่ามีความถูกต้องชอบธรรมตาม คำสอนของพระพุทธเจ้า

    ปล.
    - กระทู้นี้ตั้งขึ้นโดยศิษย์ผู้มีความศรัทธาและปฏิบัติดำเนินตามแนวทางที่ท่านสอน ไม่ได้เกียวข้องกับทางวัดสวนสันติธรรม และไม่ได้ทำในนามของวัดหรือของหลวงพ่อท่าน หากมีข้อผิดพลาดใดๆ จขกท ก็ขออภัยมา ณ ที่นี้
    -ขอความกรุณาอย่า ปรามาสพระ เพราะจะทำให้เดือนร้อนต่อตนเองทั้งปัจจุบันและภายภาคหน้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2014
  2. ปราบผี

    ปราบผี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +365
    ในทางโลก อธิบดี DSI เปิดเผยว่า หลวงพ่อปราโมทย์ไม่มีความผิด

    นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยว่า จากการรายงานเบื้องต้นในการตรวจสอบข้อร้องเรียนของนางฐิตินาถ ณ พัทลุง และกลุ่มอดีตลูกศิษย์พระปราโมทย์ ปราโมชโช เจ้าสำนักสวนสันติธรรม อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ให้ตรวจสอบ พระปราโมทย์ ทั้งกรณีเรื่องของเงินบริจาค ที่ดิน ที่อ้างว่ามีการถ่ายโอนทรัพย์สินให้เป็นชื่อของแม่ชีอรนุช สันตยากร อดีตภรรยานั้น

    ยังไม่พบว่า พระปราโมทย์ได้มีการกระทำความผิดจริงตามที่มีการร้องเรียน โดยพระปราโมทย์ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง ทั้งเรื่องของเงินบริจาคที่มีคณะกรรมการดำเนินการร่วม กรณีที่ดินที่ขอจัดตั้งเป็นวัด ตรวจสอบเรื่องความใกล้ชิดกับแม่ชีอรนุช ที่ถูกร้องเรียนว่า กุฏิอยู่ใกล้กัน รวมไปถึงการสอนที่ถูกร้องว่าอวดอุตริมนุษธรรม ไม่พบว่าพระปราโมทย์มีการกระทำใดๆที่ผิดต่อพระธรรมวินัย


    ทั้งนี้เมื่อดีเอสไอได้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวแล้ว ไม่พบความผิดปกติตามที่ร้องเรียนก็ไม่จำเป็นต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป แต่ยังคงต้องดูข้อมูล ข้อเท็จจริงต่อไปอีกระยะหนึ่ง และเรื่องดังกล่าวขึ้นอยู่กับสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้พิจารณาต่อไป

    ขณะที่นายธนเดช พ่วงพูล ทนายความสวนสันติธรรม เปิดเผยว่า ในวันเสาร์ที่ 25 ก.ย.นี้ พระปราโมทย์ จะเปิดสวนสันติธรรม เพื่อให้สื่อมวลชน ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง ในทุกกรณีโดยเฉพาะเรื่องของการสอน และกุฏิของพระปราโมทย์กับแม่ชีอรนุช เพื่อพิสูจน์ความจริงว่าไม่เป็นไปตามข้อกล่าวหา นอกจากนี้ในส่วนของลูกศิษย์พระปราโมทย์ยังได้หารือที่จะดำเนินการฟ้องกลับ ผู้ร้องที่ทำให้สวนสันติธรรมต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง แต่พระปราโมทย์ยังคงห้ามปรามไว้ เพราะไม่ต้องการสร้างกรรมต่อกัน

    DSIระบุไม่พบทุจริตสวนสันติธรรม « Asia Update TV
    DSIระบุไม่พบทุจริตสวนสันติธรรม « Asia Update TV
     
  3. ปราบผี

    ปราบผี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +365
    การปฏิบัติตามแนวทางหลวงพ่อปราโมทย์ไม่ถูก เพราะสอนไม่ตรงกับพระวัดป่าจริงหรือ?

    คำตอบ คือไม่จริง

    เพราะการตัดสินความถูกต้องของคำสอนของผู้ใดก็ตาม ต้องถือตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นหลักในการตัดสิน ไม่ใช่เอาคำสอนของพระป่าในการตัดสิน

    แม้แต่คำสอนของพระป่าเองก็ตามหากมีคำสอนของท่านใดที่ผิดจากหลักธรรมพระพุทธเจ้าสอน ก็ต้องบอกว่าคำสอนของท่านนั้นไม่ถูกต้องเช่นกัน

    อย่างไรก็ตาม แนวทางที่หลวงพ่อปราโมทย์สอนนั้น ถูกต้องตรงตามหลักพระธรรมวินัยทุกอย่าง หาที่ติไม่ได้เลย เนื่องจากไม่พบว่ามีจุดใดผิดเพี้ยนจากหลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ที่สอนให้พ้นทุกข์ตามแนวทาง ศีลสิกขา จิตสิกขา ปัญญาสิกขา
     
  4. ปราบผี

    ปราบผี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +365
    แม้ในทางธรรม หลวงพ่อปราโมทย์ก็เป็นผู้บริสุทธิ์ ไม่มีความผิดแต่ประการใด

    ทางธรรมนั้น คณะสงฆ์ได้ทำการตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีการอวดอุตริมนุษยธรรมแต่อย่างใด ดังข่าวใน สื่อ คมชัดลึก ดังนี้
    ---------------------------------------------------
    ผลสอบพระปราโมทย์ไม่เข้าข่ายอวดอุตริ

    พระปราโมทย์โล่งอกหลังผลสอบคณะผู้ตรวจระบุ คำสอนพระชื่อดังไม่เข้าข่ายอวดอุตริ ด้านเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี เผยส่งผลสรุปให้ส่งเจ้าคณะภาคทราบแล้ว ขณะที่สวนสันติธรรมออกจดหมายเปิดผนึกแจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ชี้พระปราโมทย์ไม่คิดจะฟ้องร้องผู้ให้ร้าย เหตุต้องการอโหสิกรรมให้

    คววามคืบหน้ากรณีกลุ่มชาวพุทธยื่นเรื่องร้องเรียนต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ให้ตรวจสอบทรัพย์สินของพระปราโมทย์ ปาโมชโช เจ้าสำนักสวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พร้อมทั้งยื่นหนังสือต่อสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ให้ตรวจสอบคำสอนของพระปราโมทย์ เนื่องจากกลุ่มผู้ร้องเรียนเห็นว่า คำสอนของพระปราโมทย์อาจจะเข้าข่ายอวดอุตริ ซึ่งจะมีโทษถึงขั้นอาบัติปาราชิก ทั้งนี้ในส่วนของเรื่องร้องเรียนการตรวจสอบคำสอนของพระปราโมทย์นั้น ล่าสุดได้มีผลสอบระบุออกมาว่า คำสอนดังกล่าวไม่ได้เข้าข่ายการอวดอุตริแต่อย่างใด

    เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะผู้ตรวจสอบคำสอนของพระปราโมทย์ ซึ่งมีพระเทพสุทธาจารย์ เจ้าคณะจังหวัดชลบุรี (ธรรมยุต) เป็นประธานได้ทำการตรวจสอบคำสอนของพระปราโมทย์เสร็จสิ้น พร้อมสรุปว่า คำสอนของพระปราโมทย์ที่กลุ่มชาวพุทธยื่นเรื่องร้องเรียนไม่ได้เข้าข่ายการอวดอุตริแต่อย่างใด ซึ่งขั้นตอนต่อไปคณะผู้ตรวจสอบคำสอนของพระปราโมทย์ได้สรุปผลการตรวจสอบทั้งหมดส่งไปให้แก่พระพรหมเมธี เจ้าคณะภาค 1,2,3 และ 12,13 (ธรรมยุต)

    พระเทพสุทธาจารย์ กล่าวเพียงว่า ผลการตรวจสอบคำสอนของพระปราโมทย์ ขณะนี้ได้ตรวจสอบเสร็จแล้ว และได้ส่งผลการตรวจสอบไปยังพระพรหมเมธี เจ้าคณะภาค 1,2,3 และ 12,13 (ธรรมยุต) รับทราบแล้ว โดยพระพรหมเมธี บอกว่า จะไม่การเปิดแถลงข่าวในเรื่องดังกล่าว หากใครต้องการทราบผลการตรวจสอบให้มาถามที่พระพรหมเมธีเอง

    วันเดียวกัน สวนสันติธรรมออกจดหมายเปิดผนึกชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ตรวจพบบัญชีเงินฝากของหลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชโช และอุบาสิกาอรนุช สันตยากร เพิ่มเติมอีก 15 บัญชี ซึ่งเป็นบัญชีที่มีการปกปิดไว้และไม่ได้มีการชี้แจงก่อนหน้านี้ โดยสวนสันติธรรมขอให้ข้อเท็จจริงว่า สวนสันติธรรมยืนยันว่าได้แสดงบัญชีเงินฝากทั้งหมดของสวนสันติธรรมต่อส่วนราชการที่เกี่ยวข้องแล้ว พร้อมทั้งร่วมมือในการส่งมอบข้อมูลให้แก่เจ้าพนักงานด้วยความยินดี อีกทั้งไม่เคยปกปิดเรื่องที่มีบัญชีเงินฝากของหลวงพ่อปราโมทย์ และได้แสดงความพร้อมที่จะเปิดเผยให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องตรวจสอบได้เสมอ ส่วนการออกข่าวว่า หลวงพ่อปราโมทย์มีบัญชีลับถึง 15 บัญชีนั้น เป็นการนำเสนอข่าวที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง และกลายเป็นประเด็นที่ถูกนำมาใช้กล่าวหาทำลายชื่อเสียงของหลวงพ่อปราโมทย์ เช่นเดียวกับการกล่าวหาในกรณีอื่นๆ นั่นเอง

    ทั้งนี้ ขอชี้แจงว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมากว่า 2 ปี หลวงพ่อปราโมทย์ถูกใส่ร้ายโจมตีอยู่ตลอดเวลา ด้วยเรื่องที่ขาดเหตุผลทั้งด้านข้อเท็จจริง พระธรรมวินัย และกฎหมาย และเรื่องใดที่ข้อเท็จจริงปรากฏออกมาแล้วก็จะพบว่าล้วนแต่เป็นการสร้างเรื่องใส่ร้ายทั้งสิ้น ส่วนสาเหตุที่หลวงพ่อปราโมทย์สงบนิ่ง (ทั้งที่นักกฎหมายแนะนำว่าสามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้) และทนรับการดูหมิ่นเหยียดหยามจากสังคมมาโดยตลอดหลายปีนั้น ไม่ใช่เพราะไม่สามารถอธิบายความจริงได้ เพราะทุกเรื่องสามารถอธิบายปัญหาและที่มาได้ทั้งสิ้น แต่เป็นเพราะหลวงพ่อปราโมทย์ไม่ต้องการสร้างความร้าวฉานในวงการของชาวพุทธ และไม่อยากเปิดเผยเรื่องที่อาจสร้างความเสียหายให้ผู้อื่น แม้ผู้นั้นจะเป็นผู้ที่เคลื่อนไหวโจมตีหลวงพ่อปราโมทย์อย่างรุนแรงเพียงใดก็ตาม สิ่งที่หลวงพ่อปราโมทย์กระทำให้แก่บุคคลเหล่านี้ ก็คือการให้อโหสิกรรมแก่ทุกคนเท่านั้น


    วันศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2553
    http://www.komchadluek.net/mobile/detail/20101015/76429/76429.html
     
  5. ปราบผี

    ปราบผี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +365
    สำนักพระพุทธฯชี้ ให้ชีถือบัญชี…ไม่ผิดวินัยสงฆ์

    ตามที่มีผู้กล่าวหา หลวงพ่อปราโมทย์ ว่าให้แม่ชีอรนุช สันตยากร ถือบัญชี นั้น เป็นการทำผิดวินัยสงฆ์ นั้น สำนักพระพุทธศาสนา ชี้แจงไว้ว่าไม่ผิดวินัยสงฆ์แต่อย่างใด
    ------------------------------------
    นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ รองผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า จากการส่งเจ้าหน้าที่ส่วนคุ้มครองพระพุทธศาสนา พศ. ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีพระปราโมทย์ ปาโมชฺโช สวนสันติธรรม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ถูกร้องเรียนให้ตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของที่พักสงฆ์และที่ดินที่ของสวน สันติธรรมที่จะขอตั้งวัดนั้น ได้รับรายงานเบื้องต้นว่าการตรวจสอบที่ดินของสวนสันติธรรม 48 ไร่ที่จะขอจัดตั้งเป็นวัดเป็นที่ดินที่ถูกต้องตามกฎหมายสามารถจัดตั้งวัดได้

    คาดว่าในวันที่ 20 กันยายน เจ้าคณะจังหวัดชลบุรี
    จะสรุปผลว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิดกันแน่
    อย่างไรก็ตามกรณีพระปราโมทย์มอบให้แม่ชีอรนุช
    เป็นผู้ถือบัญชีถือว่าไม่ผิดวินัยสงฆ์


    “ตั้งแต่เกิดกรณีดังกล่าวขึ้นนับว่ามีผลกระทบต่อพระพุทธศาสนามาก
    เพราะศาสนาคือสิ่งที่สูง พระคือผู้แทนคอยอบรมสั่งสอนพุทธศาสนิกชน
    แต่อยู่ๆ กลายเป็นข่าวเสื่อมเสีย
    ดังนั้นย่อมมีผลกระทบต่อภาพลักษณ์พระสงฆ์แน่นอน” นายนพรัตน์กล่าว

    Dhammada News: สำนักพระพุทธฯชี้ชีถือบัญชีไม่ผิดวินัยสงฆ์ | Dhammada.net หลวงพ่อปราโมทย์ : ธรรมะ คือ ธรรมดา
    บิ๊กสำนักพุทธศาสนาชี้พระปราโมทย์ให้อดีตเมียคุมเงิน ไม่ผิดวินัย : มติชนออนไลน์
     
  6. ปราบผี

    ปราบผี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +365
    การไม่บิณฑบาตนั้น ถือว่าผิดศีล ผิดวินัยสงฆ์ จริงหรือ?

    คำตอบ คือ การไม่บิณฑบาตนั้น ไม่ถือว่าผิดศีล รวมทั้งไม่ผิดวินัยสงฆ์แต่อย่างใด

    ทั้งนี้ ผู้ที่นำเรื่องนี้มากล่าวหาใส่ร้ายหลวงพ่อปราโมทย์นั้น นับได้ว่าเป็นผู้ไร้เดียงสาในทางธรรมอย่างมาก เพราะข้อเท็จจริงคือ

    - การบิณฑบาตเป็นวัตร(เป็นประจำ)นั้น ไม่ได้อยู่ในศีล 227 ข้อที่พระต้องถือปฏิบัติ แต่เป็นหนึ่งในธุดงค์วัตร 13 ประการ ซึ่งเป็นข้อปฏิบัติเพิ่มเติมเพื่อเป็นอุบายขัดเกลากิเลส ที่ใครจะถือปฏิบัติหรือไม่ก็ได้ นอกจากนี้ยังไม่จำเป็นต้องถือครบทั้ง 13 ข้อด้วย แค่ตั้งใจถือเพียงบางข้อ ก็เรียกว่าถือธุดงควัตรแล้ว
    ซึ่งรายละเอียดนั้นสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ --> ธุดงค์ 13

    นอกจากนี้ยังมีสมาชิกท่านหนึ่งเคยให้ความเห็นไว้ว่า

    - ผู้ที่อยากจะให้พระทุกรูปต้องบิณฑบาตนั้นคือ "เทวทัต" ซึ่งเทวทัตเป็นผู้กล่าวข้อเสนอ 5 ประการ เพื่อสร้างภาพว่าตัวเองเป็นผู้เคร่งในการปฏิบัติ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ การเสนอข้อกำหนดให้พระทุกรูปต้องบิณฑบาตเป็นศีลที่พระต้องปฏิบัติ !!!!!

    ข้อเสนอของเทวทัต 5 ประการ (วัตถุ 5) ดังกล่าวได้แก่
    1. ภิกษุทั้งหลายพึงถือการอยู่ป่าเป็นวัตรตลอดชีวิต รูปใดอาศัยบ้านอยู่ รูปนั้นพึงต้องโทษ
    2. ภิกษุทั้งหลายพึงถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตรตลอดชีวิต รูปใดยินดีกิจนิมนต์ รูปนั้นพึงต้องโทษ
    3. ภิกษุทั้งหลายพึงถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตรตลอดชีวิต รูปใดยินดีคหบดีจีวร รูปนั้นพึงต้องโทษ
    4. ภิกษุทั้งหลายพึงถือการอยู่โคนไม้เป็นวัตรตลอดชีวิต รูปใดเข้าอาศัยที่มุงที่บัง รูปนั้นพึงต้องโทษ
    5. ภิกษุทั้งหลายไม่พึงฉันปลาและเนื้อตลอดชีวิต รูปใดฉันปลาและเนื้อ รูปนั้นพึงต้องโทษ

    ซึ่งพระพุทธเจ้ารับสั่งว่า อย่าเลย เทวทัต
    1. ภิกษุใดปรารถนา(ที่จะอยู่ป่า) ภิกษุนั้นจงถือการอยู่ป่าเป็นวัตร รูปใดปรารถนา(ที่จะอยู่ในเขตบ้าน) จงอยู่ใน(เขต)บ้าน
    2. รูปใดปรารถนา(บิณฑบาตเป็นวัตร) จงถือเที่ยวบิณฑบาตเป็นวัตร รูปใดปรารถนา(กิจนิมนต์) จงยินดีกิจนิมนต์
    3. รูปใดปรารถนา(ผ้าบังสุกุล) จงถือผ้าบังสุกุลเป็นวัตร รูปใดปรารถนา(คหบดีจีวร) จงยินดีคหบดีจีวร
    4. เราอนุญาตโคนไม้เป็นเสนาสนะ ๘ เดือน
    5. เราอนุญาตปลาและเนื้อที่บริสุทธิ์โดยส่วนสาม คือ ไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่รังเกียจ



    - ที่ผ่านมาก็มีพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหลายรูปที่ ไม่ได้ออกบิณฑบาต เช่น ภิกษุพระยานรรัตน์ราชมานิต หรือ เจ้าคุณนรฯ เป็นต้น

    - นอกจากนี้ ทางสวนสันติธรรมยังได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในแถลงการณ์ฉบับที่ ๔ ดังนี้
    ---------------------------------------
    ตามที่มีผู้ตั้งประเด็นว่าไม่เห็นหลวงพ่อปราโมทย์ออกบิณฑบาตนั้น ในความเป็นจริงตั้งแต่อุปสมบทมา หลวงพ่อปราโมทย์ก็ออกบิณฑบาตเป็นประจำทุกวันเว้นแต่วันที่อาพาธ แม้กระทั่งเมื่อย้ายมาอยู่สวนสันติธรรมใหม่ๆ ท่านก็ออกบิณฑบาตตามปกติ แต่ในปัจจุบันท่านจำเป็นต้องงดการออกบิณฑบาต เพราะมีปัญหาด้านการขับถ่าย และเนื่องจากน้ำหนักมากโดยกรรมพันธุ์ จึงมีปัญหาเกี่ยวกับข้อเท้าและเหนื่อยหอบง่ายทำให้ไม่สามารถเดินไกลได้ แม้กระทั่งการเดินจากกุฏิไปที่ศาลา บางวันก็ยังมีอาการเหนื่อยหอบอยู่เสมอ คณะศิษย์จึงเสนอให้ท่านงดออกเดินบิณฑบาต

    อย่างไรก็ตามหลวงพ่อปราโมทย์ได้ดำเนินตามแบบอย่างที่ครูบาอาจารย์เคยทำ คือรับอาหารบิณฑบาตจากพระลูกศิษย์ซึ่งไปบิณฑบาตกลับมา โดยพระอุปัฏฐากเป็นผู้จัดอาหารใส่บาตรถวายให้


    ข้อมูลจาก
    - ธุดงค์ 13 http://www.84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=342
    - วัตถุ 5 ประการของเทวทัต http://www.84000.org/tipitaka/read/?7/383-384
    - แถลงการณ์เรื่องบิณฑบาตจากสวนสันติธรรม http://wimutti.net/announcement-04.php
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2014
  7. ปราบผี

    ปราบผี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +365
    ของจริง กับ ของปลอม ดูไม่ยาก เรื่องของพระปราโมทย์ กับ ฐิตินาถ ณ พัทลุง

    "การมองไม่เห็นโลกที่ดีงาม น้ำใจไมตรี ความรัก ความช่วยเหลือ การมองไม่เห็นความจริงอย่างที่โลกเป็น แต่สร้างโลกขึ้นมาตามความคิดเห็น ความปรารถนา ความเคยชิน เหนียวแน่นมากจนถูกมันครอบงำ ไม่เคยมีโอกาสเป็นตัวของตัวเอง ไม่เคยตั้งคำถามกับตัวเอง เพราะไม่เคยหยุดรู้ทัน เลยถูกสิ่งที่อยู่ภายในบงการจนทำลายตัวเองอย่างสิ้นเชิง"

    จากเรื่อง "ป่วน" หน้า 99 หนังสือ เข็มทิศชีวิต II ตอน กฎแห่งเข็มทิศ เขียนโดย ฐิตินาถ ณ พัทลุง

    กรณีพระปราโมทย์ ปราโมชโช เจ้าสำนักสวนสันติธรรม ถูกนางสาวฐิตินาถ ณ พัทลุง ผู้เขียนหนังสือเข็มทิศชีวิตเล่ม 1 และ เล่ม 2 อันโด่งดัง และคณะที่มีนายเทิดศักดิ์ เตชะกิจขจร อาจารย์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายวีรณัฐ โรจนประภา เจ้าของนิตยสารบางกอก และประธานมูลนิธิ บ้านอารีย์ กล่าวหาว่า มีพฤติกรรมยักยอกเงินบริจาค และที่ดิน อวดอุตริมนุสธรรม และความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับแม่ชีอรนุช อดีตภรรยา เป็นข่าวต่อเนื่องมานานสามสัปดาห์แล้ว

    ฝ่ายผู้กล่าวหา คงจะชำนาญเรื่องการประชาสัมพันธ์สร้างข่าวไม่น้อย จึงเลือกใช้วิธี อ่อยเหยื่อ ค่อยๆ เปิดประเด็นข้อกล่าวหาทีละประเด็น เพื่อหลอกล่อให้ติดตาม โดยมีเครื่องเคียงเรียกร้องความสนใจประเภท "ทีเด็ด" เทปลับ "คลิบเสียง" และ จดหมายน้อยถึงลูกรัก 2 ฉบับ

    ดูๆไปก็คล้ายกับวิธีการของแกนนำเสื้อแดงคนหนึ่ง ที่ชอบใช้วิธีตีปี๊บ สร้างกระแส ด้วยการอ้างเทปลับ คลิบวิดิโอ ที่เหมือนกันอย่างกับแกะก็คือ เมื่อเปิดหลักฐานที่อ้างว่าเป็นข้อมูลเด็ดเหล่านี้แล้ว กลับปรากฏว่า ไม่ได้มีสาระ หรือนัยสำคัญที่จะสร้างน้ำหนักให้ข้อกล่าวหาเหล่านั้นได้

    ตลอดระยะเวลาเกือบเดือน ที่ฝ่ายนางสาวฐิตินาถ กับพวก เป็นฝ่ายเปิดเกมรุกอยู่ข้างเดียว โดยพระปราโมทย์ ถือคติ "พระไม่ตีกับโยม" ไม่ตอบโต้ แต่ชี้แจงเท่าที่จำเป็น ปรากฏว่า ฝ่ายพระปราโมทย์ ชี้แจงได้ทุกข้อกล่าวหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เงินบริจาค ที่ทำไมต้องโอนให้นางอรนุช อดีตภรรยา ซึ่งมาบวชชีอยู่ในสำนักสวนสันติธรรม เป็นผู้ดูแล ทำไมต้องโอนที่ดินให้ภรรยา รายละเอียดเกี่ยวกับ บัญชีรายรับรายจ่าย สถานะของสวนสันติธรรม ฯลฯ

    รวมทั้ง ความสัมพันธ์กับอดีตภรรยา ที่ฝ่ายที่กล่าวหาให้ข้อมูลว่า มีกุฎิอยู่ใกล้กัน หน้าต่างตรงกัน มองเห็นกันได้โดยไม่มีสิ่งใดๆขวางกั้น ซึ่งจากการเข้าไปตรวจสอบของสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 25 กันยายนที่ผ่านมา ชี้ชัดว่าข้อกล่าวหาเรื่องนี้เป็นเท็จ เพราะกุฎิของพระปราโมทย์กับอุบาสิกาอรนุช อยู่ห่างกันประมาณ 120 เมตร มีถนนคอนกรีต มีต้นไม้กั้น ไม่สามารถมองเห็นกันได้ ทั้งยังมีกุฎิของพระอุปัฏฐาก อยู่ใกล้กุฎิพระปราโมทย์ เพื่อคอยดูแล ซึ่งการวางผังที่ตั้งกุฏินี้ น.ส.ฐิตินาถ เป็นผู้กำหนดแบบไว้ตั้งแต่ก่อสร้าง และยังขอให้มีการสลับกุฏิกับพระอุปัฏฐาก เพื่อความปลอดภัยของพระปราโมทย์ นอกจากนี้กุฏิของพระปราโมทย์ และอุบาสิกาอรนุช ยังอยู่ในระยะไม่ไกลจากบ้าน อนาลโย ของ น.ส.ฐิตินาถ ก่อนที่จะมีการสร้างรั้วคอนกรีตกั้นในภายหลัง

    ไม่เพียงแต่คำชี้แจงของลูกศิษย์พระปราโมทย์เท่านั้น แต่บรรดาข้อกล่าวหาต่างๆของ น.ส. ฐิตินาถ และนายวีรณัฐ ที่ยื่นเป็นหนังสือให้ สำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำการสอบสวน นั้น ล้วนได้รับการรับรองยืนยันจากสองหน่วยงานว่า ไม่พบความผิดปกติ โดยนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ได้รับรายงานจากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ชลบุรีว่าผลการตรวจสอบเรื่องของที่ดิน และเงินของสำนักสวนสันติธรรมไม่มีปัญหา เนื่องจากทางสำนักสวนสันติธรรม ได้มีการชี้แจงรายละเอียดอย่างชัดเจนว่านำเงินไปทำอะไรบ้าง ส่วนเรื่องของที่ดินที่ขอตั้งวัดก็ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง

    สอดคล้องกับการให้สัมภาษณ์ของนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่บอกว่า การตรวจสอบข้อร้องเรียนทั้งกรณีเรื่องเงินบริจาคและที่ดิน ที่ผู้ร้องอ้างว่ามีการถ่ายโอนทรัพย์สินให้เป็นชื่อของอุบาสิกาอรนุช อดีตภรรยา นั้น ยังไม่พบว่าพระปราโมทย์กระทำความผิดจริง โดยพระปราโมทย์ดำเนินการอย่างถูกต้องทั้งเรื่องของเงินบริจาค เรื่องที่ดินที่ขอจัดตั้งเป็นวัด เรื่องความใกล้ชิดกับอุบาสิกาอรนุชที่ถูกร้องเรียนว่ากุฏิอยู่ใกล้กัน รวมไปถึงการสอนที่ถูกร้องว่าอวดอุตริมนุษธรรม ก็ไม่พบว่าพระปราโมทย์มีการกระทำใด ๆ ที่ผิดต่อพระธรรมวินัย และระหว่างการให้สัมภาษณ์ยังมีการเปิดเผยบัญชีเงินฝากของทางสวนสันติธรรม ทั้งหมด 7 บัญชี ให้ผู้สื่อข่าวดู

    ส่วนข้อหาอวดอุตริมนุสธรรมนั้น หลักฐานที่ น.ส. ฐิตินาถ อ้าง มีเพียงคลิปเสียงพระปราโมทย์ ข้อความว่า

    ".....โยนิโสมนสิกาสำคัญที่สุด ถ้าไม่มีครูบาอาจารย์คอยบอก โยนิโสมนสิกาสำคัญที่สุด ต้องสังเกต อย่าเชื่อง่าย เราจะรู้ว่าไม่ใช่ จิตไม่ได้ค้นคว้าของมันอยู่ พูดอีกก็หลุดอีก พอหลายๆทีเข้า ก็โอ้ชาตินี้ทำไม่ได้แล้ว ไม่รู้จะไปทางไหน มันจบมุมเหมือนหลังชนกำแพง ถ้ารู้ที่วิเศษเป็นตัวทุกข์ล้วนๆ เลย บางคนเห็นว่าไม่ใช่ตัวเรา เห็นแล้วมันวาง

    แต่ว่าต้องมีโยนิโสมนสิกากำกับการดูนะ ถ้าดูไปเฉยๆ บางทีใจไปค้างไว้ข้างใน หลวงพ่อเคยเจอ ตอนนั้นผ่านชั้นที่ 2 แล้ว เข้าไปดูอย่างโสรัจ พอดีไปเจอ ... เจอหน้าแล้วท่านยิ้มหวานเลย ผู้รู้ๆ ออกมาอยู่นอกๆ นี้ ตอนนั้นงงเลย ทำไมต้องมาอยู่ข้างนอก ท่านก็ให้บอกต่อ กิเลสอยู่ข้างนอกเนี่ย ตอนที่บรรลุลงไปข้างในก็เผลอไปหมดแล้ว มีภายในมีภายนอก...."

    เอาความรู้ในเรื่องธรรมะชั้นไหนไปสรุปว่า คำพูดทำนองนี้คือ การอวดอุตริมนุสธรรม

    ทั้ง น.ส. ฐิตินาถ นายวีรณัฐ เคยเป็นลูกศิษย์ใกล้ชิดพระปราโมทย์ มานานเกือบสิบปี เหตุใดจึงไม่สามารถหาหลักฐานที่หนาแน่นกว่านี้ มาพิสูจน์ข้อกล่าวหาที่มีต่อพระปราโมทย์ ในทุกๆเรื่องได้

    เมื่อฝ่ายที่ถูกกล่าวหา สามารถอธิบายข้อกล่าวหาได้ทุกเรื่อง ก็แสดงว่า ข้อกล่าวหาเหล่านี้ เป็นเรื่องเท็จ ที่ถูกกุขึ้นมา เพื่อใส่ร้ายพระปราโมทย์ ถึงเวลาที่ น.ส. ฐิตินาถกับพวก จะต้องตอบคำถามแล้วว่า เหตุใดจึงกุเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา

    พระที่ได้ชื่อว่า เป็นพระดี มีลูกศิษย์ ลูกหาศรัทธาเลื่อมใสมากมาย หากจะต้องมีเรื่องมัวหมอง ก็หนีไม่พ้นสองเรื่องคือ สีกา กับเงินๆทองๆ

    เช่นเดียว กัน บรรดาอุบาสิกา แม่ยกทางธรรมก็มีจุดตายอยู่สองเรื่องคือ เรื่องเงินๆทองๆ กับ อยากเป็นเจ้าของพระ

    ในอดีต พระรูปงาม ห้อมล้อมด้วยสีกามากหน้า เกิดความหึงหวง ชิงพระหักสวาท จนนำไปสู่การเปิดโปงพฤติกรรมของพระ จนต้องสึกก็มีมาแล้ว

    สำหรับสีกาฐิตินาถ เรื่องเงินๆทองๆ นั้น เธอแสดงความต้องการชัดเจนอยู่แล้วว่า ขอทวงเงิน 4 ล้าน 3 แสนบาท ที่เคยบริจาคให้พระปราโมทย์คืน เพราะพระปราโมทย์ โอน เงิน ที่ดินที่ซื้อมาด้วยเงินบริจาคไปให้อดีตภรรยาดูแล ซึ่งเธอเห็นว่า เป็นการยักยกอกเงินที่มีผู้บริจาค ไปเป็นสมบัติส่วนตัว

    เหตุที่สีกาเกิดเสียดายเงิน ออกปากทวงทั้งที่บริจาคไปแล้ว พระอนุโมทนา ให้พร รับบุญ กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลกันไปแล้ว ลูกศิษย์พระปราโมทย์ ให้ข่าวผ่านทนายความมาว่า เพราะเธอผิดหวัง ที่อุตส่าห์ลงทุนไปมากแล้ว แต่กลับไม่ได้เป็น somebody ในสำนักสวนสันติธรรม เพราะพระปราโมทย์ไม่ไว้ใจในพฤติกรรมบางอย่าง

    เป็นอาจารย์ ลูกศิษย์กันมาสิบปี ศิษย์ยังเห็นความไม่ดีของอาจารย์ ในหลายเรื่อง ทำไมอาจารย์จะไม่ล่วงรู้เลยหรือว่าศิษย์คิดอะไรอยู่

    เรื่องนี้ เป็นอุทธาหรณ์ว่า เข็มทิศ ช่วยได้แค่ชี้ทาง แต่จะเดินไปถึงจุดหมายปลายทางหรือไม่ ใจเป็นเครื่องกำหนด

    http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000136614
     
  8. ปราบผี

    ปราบผี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +365
    การที่พระกับชีอยู่ในวัดเดียว หรือ พระไม่ได้หย่าขาดจากภรรยาก่อน นั้นผิดจริงหรือ?

    นี่เป็นอีกเรื่องที่มีผู้โจมตีหลวงพ่อปราโมทย์ ด้วยเรื่องผู้หญิงซึ่งเคยเป็นอดีตภรรยาตอนสมัยฆราวาส มาบวชเป็นแม่ชีด้วยความเลื่อมในศรัทธาในพุทธศาสนา ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

    ทั้งนี้ข้อกล่าวหาดังกล่าวเป็นข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย เนื่องจากความจริงคือ
    - ไม่มีพระวินัยข้อใด กำหนดไว้ว่า ห้าม พระกับชีที่เคยเป็นอดีตภรรยาสมัยฆราวาสอยู่วัดเดียวกัน

    - ไม่มีกฏหมาย หรือ กฏของมหาเถระสมาคม ที่กำหนดให้ ผู้บวชเป็นพระต้องหย่าขาดจากภรรยาเสียก่อนจึงสามารถบวชได้

    - การบวชนั้น พระพุทธเจ้าไม่ได้บอกว่า ต้องขออนุญาตภรรยาก่อนจึงบวชได้ แต่พระพุทธเจ้าบอกว่าต้องได้รับอนุญาตจากบิดามารดาก่อนเท่านั้นจึงบวชได้

    - แม้แต่สมัยพุทธกาลนั้น มีทั้งภิกษุและภิกษุณี พระพุทธเจ้ายังมีพุทธบัญญัติให้ ทั้งภิกษุและภิกษุณีต้องอยู่ในเขตวัด(อาวาส)เดียวกันด้วยซ้ำ เพื่อป้องกันคนทำร้ายภิกษุณี

    - กรณีของสวนสันติธรรมนั้น กุฏิพระกับกุฏิแม่ชีและกุฏิของผู้ปฏิบัติธรรมอยู่แยกกันเป็นสัดส่วน มีต้นไม้กั้น ไม่สามารถเห็นกันและกันได้ รวมทั้งหลวงพ่อปราโมทย์และ แม่ชี อรนุช ไม่ได้อยู่ในกุฏิเดียวกัน จึงไม่ผิดแต่อย่างใด

    - นอกจากนี้ยังมีพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบอีกหลายรูปที่ ไม่ได้หย่าขาดจากภรรยา และภรรยาก็ตามมาบวชเป็นชีในวัดเช่นนี้เหมือนกัน โดยที่ไม่ได้มีเรื่องเสื่อมเสียแต่อย่างใด


    สรุปก็คือ
    1) พระกับชี(ไม่ว่าจะเป็นชีที่เคยเป็นอดีตภรรยาสมัยฆราวาสหรือไม่ใช่ก็ตาม)
    ถ้าอยู่วัดเดียวกันแต่ ไม่ทำผิดศีล ก็ไม่ได้ถือว่าผิดแต่อย่างใด
    ถ้าอยู่วัดเดียวกันแล้วทำ ผิดศีล ก็ถือว่าไม่ถูกต้อง เช่น
    - คุยกัน 2 ต่อ 2 ไม่มีบุรุษผู้รู้เดียงสา อยู่ก็ถือว่าผิดศีลพระ
    - จับมือถือแขนช้องผม ฯลฯ ด้วยจิตกำหนัด ก็ถือว่าผิดศีลพระ
    - มีเพศสัมพันธ์ก็ถือว่าทำผิดศีลพระขั้นปาราชิก
    ทั้งนี้ไม่มีหลักฐานบ่งชี้ว่า หลวงพ่อปราโมทย์ได้ทำผิดศีลแต่ประการใด

    2) การบวชพระนั้นไม่จำเป็นต้องหย่าขาดทางกฏหมายจึงบวชได้ เพราะไม่มีพระวินัยและข้อกฏหมายข้อใดกำหนดไว้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2014
  9. ปราบผี

    ปราบผี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +365
    พระป่าไม่ได้สอนแบบหลวงพ่อปราโมทย์จริงหรือ?

    ในส่วนนี้ขอรวบรวมความเห็นจาก กระทู้ใน pantip มาลง
    -------
    กระทู้ "หลวงพ่อปราโมทย์" http://pantip.com/topic/30651050 ความเห็นที่ 29
    ผมเห็นมีการโจมตีหลวงพ่อปราโมทย์ทีไร ก็มักกล่าวว่าท่านไม่ให้ทำสมาธิ ทุกที ซึ่งไม่จริงครับ ท่านที่โจมตีในเรื่องนี้ แสดงว่า ข้อมูลไม่ครบถ้วนตั้งแต่แรกแล้ว เหมือนที่ผมบอกว่า ฟังไม่ไ้ด้ศัพท์ จับมากระเดียด นั่นแหละครับ

    ความเป็นจริงก็คือ หลวงพ่อปราโมทย์ ท่านสอนหลายแบบครับ ความเป็นจริง ไม่ใช่สอนดูจิตอย่างเดียว สอนดูกายก็มี แต่ส่วนน้อย เพราะท่านบอกว่า การดูกาย ต้องทำสมาธิก่อนให้ถึงฌาน 2 เพื่อให้ส่วนความคิด (วิตก วิจาร) ดับไปก่อน จึงจะดูกายได้ตามความเป็นจริง (ซึ่งตรงนี้ ก็ตรงกับแนวทางของพระป่าส่วนมากที่ทำสมาธิก่อน แต่หลวงพ่อทูล ซึ่งเป็นพระป่าเหมือนกัน ท่านก็สอนดูจิต ไม่ได้ดูกายเหมือนกัน ไม่เห็นมีคนเอามาเล่า)

    ส่วนเรื่องสมาธินั้น ผมบอกได้เลยว่า หลวงพ่อปราโมทย์่ท่านสอนละเอียดมาก แยกแต่ละแบบของสมาธิ และในส่วนของสมถะกรรมฐานนั้น ท่านเคยสอนไปถึงระดับ อรูปฌาน ด้วยซ้ำไปครับ (ผมแน่ใจว่า พวกที่โจมตี ไม่เคยฟัง เพราะพูดโจมตีทีไร ก็เน้นที่ประเด็นว่า หลวงพ่อไม่ใ้ห้ทำสมาธิ อยู่นั่นแหละ ทั้งๆที่จริงๆ ท่านสอนหมด แต่ไม่ได้สอนบ่อย แล้วสอนแจกแจงด้วยว่าสมาธิมีกี่แบบ แบบไหนใช้ทำอะไร)

    ผมเองแต่ก่อนไม่เข้าใจว่า อรูปฌาน มีลำดับการเจริญอย่างไร อ่านหนังสือก็ไม่เข้าใจ มาเข้าใจก็ตอนท่านอธิบายให้ฟังเนี่ยแหละครับ

    โดยคุณ Bgate
     
  10. ปราบผี

    ปราบผี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +365
    พระป่าไม่ได้สอนแบบหลวงพ่อปราโมทย์จริงหรือ? ตอนที่ 2

    จากกระทู้ http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2009/06/Y7984206/Y7984206.html

    ความเห็นที่ 53

    ผมเองเคยไปกราบครูบาอาจารย์ท่านนึง ซึ่งถือว่าเป็นพระอาวุโสในสายพระป่าองค์หนึ่ง โดยปกติ
    เวลาท่านสอนทั่วไปท่านก็สอนแบบพระป่าแหล่ะครับ แต่เชื่อไหมครับ ผมเข้าไปกราบ
    ท่านเพื่อขอให้ท่านชี้แนะ ท่านหลับตาไปนานๆๆๆๆๆๆมาก แล้วท่านก็สอนผมพร้อมกับแก้
    การติดขัดที่ผมมี ด้วยวิธีดูจิตแบบหลวงพ่อปราโมทย์ครับ น่าแปลกไหมครับครูบาอาจารย์
    พระป่าแท้ๆปกติไม่เคยสอนคนอื่นแบบนี้เลย แต่กับผมท่านทราบว่าผมภาวนายังไง ท่านก็แก้
    อย่างนั้นครับ แต่ก็ได้ท่านนี่แหล่ะที่ทำให้ผมก้าวหน้าไปอีก ใครว่าพระป่าที่ทำสมาธิ
    นำปัญญา จะสอนปัญญานำสมาธิไม่ได้หรือไม่ยอมสอนแบบนี้นี่ผมขอเถียงเลยครับ ^__^

    โดยคุณ ประมุขพรรคบัวขาว
     
  11. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ถ้าลูกศิษย์
    เชื่อฟังคำสอนครูอาจารย์
    คงไม่บานปลาย

    ผมว่าคงจะดีที่สุด
     
  12. ปราบผี

    ปราบผี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2013
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +365
    ครูบาอาจารย์สูงสุดคือพระพุทธเจ้า
    ท่านสอนไว้เมื่อประมาณ 2600 ปีแล้วในมหาสันนิบาตอรหันตสาวก 1250 รูปว่า

    ๏ ขันติ คือความอดกลั้น เป็นตบะอย่างยิ่ง
    พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวว่า นิพพานเป็นบรมธรรม
    ผู้ทำร้ายคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิตเลย
    ผู้เบียดเบียนคนอื่น ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะ

    ๏ การไม่กล่าวร้าย 1
    การไม่ทำร้าย 1
    ความสำรวมในปาติโมกข์ 1
    ความเป็นผู้รู้จักประมาณในอาหาร 1
    นั่งนอนในที่อันสงัด 1
    มีความเพียรในอธิจิต 1
    นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

    แต่มีคนบางกลุ่ม ไม่เชื่อฟังพระพุทธเจ้าผู้ซึ่งเป็นครูสูงสุดทางจิตวิญญาณ โดยการมุ่งร้ายเบียนเบียดหลวงพ่อปราโมทย์ ด้วยการกระทำอันเป็นการโจมตีใส่ร้าย รวมถึงกล่าวร้ายใส่ความด้วยวิธีต่างๆ ทั้งๆที่ หลวงพ่อปราโมทย์นั้นเป็นผู้บริสุทธิ์ และมีขันติอดทนต่อผู้ไม่ประสงค์ดีเหล่านั้น


     

แชร์หน้านี้

Loading...