แสงยามค่ำคืน

ในยามค่ำคืนคนโบราณจะชอบสังเกตแสงแปลกๆที่เมื่อลอยไปหยุดที่ไหนให้สันนิษฐานว่าตรงนั้นมีของดี อันนี้เราเคยลองสังเกตดูเมื่ิอตอนที่อาศัยอยู่บ้านหลังเก่าสมัยเด็กต้นไม้เยอะมาก ทั้งกอไผ่ ต้นข่อย ต้นยางนา ต้นโมก ต้นมะขาม ต้นมะม่วง. ต้นมะพร้าว แต่ส่วนที่เราชอบไปเล่นที่สุดคือจอมปลวกยักษ์ที่ก่อคร่อมโคนก่อไผ่จนกลายเป็นจอมปลวกขนาดยักษ์ เคยขุดดินจอมปลวกมาทำเตาถ่านบ่อยๆเพราะดินจอมปลวกเมื่อผสมน้ำจะเนื้อเหนียวดีใช้ทำเตาถ่านดีนักเชียว ขุดจนเป็นโพรงยักษ์ บางทีตอนกลางวันก็มักไปนั่งเล่นดินในโพรง เพราะดินตรงนั้นเย็นดี วันหนึ่งเผลอนอนหลับไป มีตาแก่ๆมาจากไหนก็ไม่รู้มาเอาไม้เท้าเคาะปลุก ว่าเอ้า อีหนูน้อยเล่นทั้งวันจนหลับ กลับบ้านไปกินข้าวกินปลาได้แล้วซนจริงๆ. เรางัวเงียตื่น มองหน้าคุณตาแวบหนึ่งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพราะเด็กพึ่งตื่นนอน เดินกลับบ้านไป จากต้นนั่นถึงบ้านเราไม่ไกลนะค่ะ ไม่น่าจะเกิน 50 เมตร พออาบน้ำกินข้าวเสร็จ ก็นั่งเล่นชมดาวอยู่ระเบียงบ้านใจก็คิดว่าเอ ตาแก่ๆใส่ชุดขาวคนนั้นใครน้อไม่คุ้นเลย มองไปแถวๆจอมปลวกแถวๆกอไผ่เห็นเป็นแสงสีขาวดวงใหญ่ลอยวนและหายเข้าไปในกอไผ่ เราก็คิดว่าโอโห คงเป็นหิ่งห่อยยักษ์เนาะ เดี๋ยววันหลังเฝ้าดูอีกสวยดี.. แต่ก็สงสัยอยู่ทำไมหิ่งห้อยมีตัวเดียว... และชอบเห็นช่วงวันพระ ประมาณเวลา ตี3-ตี4 เวลาไล่เลี่ยกันช่วงวันพระ..เก็บความสงสัยไว้นานทนไม่ไหวเลยลองถามพ่อแม่ดู... แม่บอกมีของดีอยู่ตรงนั้นตำราโบราณเขาบอกไว้แม่บอกไม่ใช่หิ่งห้อยหรอก..หิ่งห้อยอะไรจะมีตัวเดียว...เอาละซิด้วยความซนยังไม่รู้จักกลัว..เดี๋ยวจะไปเอาของดีอิๆคิดตาประสาเด็กๆก่อนจะออกไปหาของดีนั่งรอจนถึง2-3ทุ่มไม่ยอมเข้าบ้าน... แม่เลยมาเรียก.. พร้อมกลับหลอกว่าเดี๋ยวผีหรอกนะ..เอาซิคราวนี้เริ่มกลัวรีบวิ่งกลับบ้านไปนอนทันที..นอนหลับไปเห็นตาแก่ๆใส่ชุดขาวมาคุยด้วยบอกถ้าอยากได้ของดีให้นั่งสมาธิถึงตี4..นะ..แล้วให้ไปเอาน้ำฝนสะอาด..ใส่ถังไปขุดรูในจอมปลวกที่อยู่ตรงโคนกอไผ่ลงไปลึกๆเทน้ำลงไปเอามือล้วงดูก็จะได้ของดี..ไปเงียบๆคนเดียวนะ..... พอเรา ทำตามทุกขั้นตอน..หลังจากขุดรูแล้วราดน้ำเอามือล้วงไปเจอแต่หินก้อนเบ้อเร้อคล้ายๆขึ้โคลนหรือหินอะไรสักอย่างย้วยๆเกาะตัวกันเป็นรังเหมือนผึ้งหลายๆตัวเกาะติดกันอยู่สีดำๆ...เอาวะ...ของดีก็ของดีเอ้าแบกกลับบ้านเอาเข้าไปไว้ในห้องนอนตรงหัวที่นอน แค่นั้นแหละได้เรื่อง..วันแรกๆพ่อฝันเหมือนพญานาคลอยทะลุผ่านไปผ่านมาใน.บ้าน..แม่เองก็ฝันเห็นเหมือนของเหลวสีดำๆไหลมาตามพื้นบ้าง..ส่วนเราจะฝันเห็นเป็นหินหมุนอยู่กลางอากาศเป็นรัศมีสีทอง.....พอเริ่มศึกษาเกี่ยวกับสิ่งเร้นลับเขาเรียกหินนั้นว่า คตปลวก....ที่ดินตรงนั้นเดี๋ยวนี้ถมเป็นพื้นราบแล้วแต่ยังมีเหตุการณ์ประหลาดอยู่จนถึงปัจจุบัน...คือซื้อวัวมาแล้วเอาไปผูกล่ามไว้ในสวน ตรงอื่นไม่เป็นไรนะค่ะแต่ถ้าผูกตรงนั่นอยู่ๆวัวจะตาขวางขึ้นทันทีแล้วก็เหมือนเสียสติวิ่งจนเชือกที่ล่ามขาดชนต้นกล้วยล้มระเนระนาด ข้ามถนนชนบ่อปูนเลี้ยงกบของเพื่อนบ้านแตกกระจุยกระจายเหมือนโดนอะไรสิงหรือกลัวอะไรมากๆจนสติแตก...ที่แรกคิดว่าอาจบังเอิญ..แต่พอเกิดเหตุซ้ำๆ2-3ครั้งเริ่มคิดแล้วว่าตรงนั่นอาจมีของรักษาอยู่ค่ะ...เคยมีเด็กวัยรุ่นเมาแล้วไปฉี่ใส่แถวนั้นวิ่งหัวตั้ง..ไม่รู้ว่ากลัวอะไรค่ะ

 

เมื่อก่อนพ่อดิฉันก็ไปทำไร่ ไร่จะติดกับป่าของลุงอีกคน แกว่าบางวันจะเห็นแสงลอยพุ่งขึ้นจากดิน เห็นบ่อยๆแกเลยไปเล่าให้เจ้าของที่ลองขุดดู แต่เจ้าของไม่เชื่อ อยู่มาวันนึงมีคนจากกรุงเทพมาหาซื้อของเก่า แกเลยล่าให้เขาฟังและบอกให้คนรับซื้อของเก่าไปขุดดู ถ้าเจอก็เอาไปได้เลย คิดว่าที่แกพูดแบบนั้นเพราะแกไม่เชื่อ คนนั้นเลยจ้างรถขุดดินไปขุดก็เจอพระพุทธรูปองค์ใหญ่กับพระเครื่ององค์เล็กๆ คนนั้นเลยเอาพระพุทธรูป ส่วนพระเครื่ององค์เล็กเขาเลยให้เจ้าของที่ พอเจอแล้วลุงเจ้าของที่คงได้แต่เสียดายที่ไม่เชื่อพ่อเรา

 

ท่านคงอยากให้เจ้าของที่พบแต่เพราะเจ้าของที่ไม่เชื่อหรืออาจจะกลัวเลยอดได้ของดีน่าเสียดายอยู่เหมือนกันนะค่ะ

 

แต่ถ้าแสงวิ่งมาหาละเผ่นเลยนะ

 

เสือเผ่น

 

ไม่เคยมีประสบการณ์แบบนี้ เคยเห็นแต่ดวงไฟเล็กๆ มากมาย วนอยู่รอบๆตัว นอนกลางวันค่ะเกือบๆเย็นแล้วครึ่งหลับครึ่งตื่นไม่ได้ฝันแน่นอน ได้ยินเหมือนคนแก่คุยกันอยู่ข้างๆหูด้วย สงสัยมากไม่รู้คืออะไร

 

ประสาทสัมผัสพิเศษ

 

เคยเห็นครั้ง1เป็นทรงกลมสวยมากเหมือนพระจันทรทรงกรดแต่พอชีให้สามีดูกลับกลับเคลื่อนตัวเร็วมากจนมองไม่เห็น แต่ไม่รู้ว่าอะไร

 

อาจเป็นดวงจิตของเทพหรือ ผู้สำเร็จธรรมขั้นสูงค่ะ

 

ห้อยพระเถอะ

 

ขอบคุณที่ให้คำกระจ่างค่ะ แต่สามีมองไม่เห็นนะคะ

 

คนเรามีสัมผัสได้ไม่เหมือนกันนะค่ะ