เตรียมการรับภัยพิบัติโดยไม่ต้องย้ายบ้านหนีไปไหน

ถอดคำบรรยายจากคลิป(youtube) ชื่ออบรมลูกศิษย์ใหม่จากอเมริกา

มีผู้ถามว่า เรื่องภัยพิบัติจะเกิดตอนไหน
หลวงปู่ตอบว่า ภัยพิบัติใดๆก็ตาม มันไม่หนักเท่าภัยพิบัติกิเลสตัณหาที่อยู่ในตน ถ้าบ้านถูกไฟไหม้ ถูกแผนดินไหวตาย หากได้เรียนรู้ธรรมะไว้ก็เกิดในสวรรค์ แต่ถ้าไม่เรียนรู้ธรรมก็เหมือนตกนรกทั้งเป็นอยู่แล้ว แต่คนประเภทกลัวตายแต่ไม่เรียนธรรมอยู่ไหนก็ต้องตาย ภัยพิบัติมันต้องเกิดอยู่แล้ว เพราะเราอยู่บนเปลือกโลกที่เลื่อนไปมาตลอด ให้แก้ภัยพิบัติโดยการเรียนรู้ เกิด แก เจ็บ ตาย มันเป็นทุกข์ ถ้าสร้างกุศลเราจะได้ไปสวรรค์ แค่หวงสมบัติมีความโลภจะเป็นสัตว์เดรัจฉาน ไปนรก

ถ้ารู้ว่ากำลังจะตาย ก็คิดถึงพระพุทธเจ้า คิดถึงคำสอน ไม่จำเป็นต้องรู้ว่าภัยเกิดที่ไหน ไม่ต้องคิดหนี ไม่จำเป็นต้องย้ายบ้าน ถ้าหนีไปแล้วก็เจอภัยพิบัติอีก ก็ต้องหนีแล้วถ้าเจออีกก็หนีอีก สุดท้ายจะหนีไปไหน
เราต้องเรียนรู้ว่ามันเป็นธรรมดาของโลก แต่เราต้องไม่ยึดสมบัติในโลก ภัยพิบัติกลัวตายนั้นแหละอันตราย.

 

อยู่กับปัจจุบันให้ได้ก็ดีนะครับ ไม่ต้องฟุ้งซ่าน.....เจริญในธรรมทุกๆท่านครับ สาธุ

 

รออยู่เหมือนกันภัยพิบัติ

จะหนีทำไม มีเรื่องราวมากมายที่ต้องทำในเวลานั้น

ทั้งครอบครัว ญาติพี่น้อง สัตว์เลี้ยง บริวาร เพื่อน

และคนที่ไม่รู้จัก

มีโอกาสมาก ที่จะได้ทำอะไร เพื่อใครๆ

แม้ว่าจะทำอะไรได้แค่ไหนมันอีกเรื่อง

แต่..ไม่มีโอกาสไหน ดีเท่าเวลานี้อีกแล้ว

 

คุณ no money ไม่ทราบว่าหลวงปู่ที่คุณกล่าวถึงท่านชื่ออะไร อยู่ที่ไหนคะ ถ้าทีโอกาสอยากไปกราบท่านบ้างจัง

 

โลกนี้มันเป็นกรรมร่วม
(ก็ร่วมทำลายล้างโลกกันซะขนาดนี้)
ถ้าทำดีแล้วก็ไม่ต้องกลัวโลกหน้า..
มีเหตุปัจจัยเท่าไรก็ใช้สติตามเหตุปัจจัยที่มี..
กินมังสวิรัติ ปลูกต้นไม้บ้าง ก็ดี

ภัยพิบัติทางการดำรงชีวิตก็เกิดขึ้นอยู่แล้ว ข่าวยากหมากแพง น้ำมันแพง อากาศแปรปรวนวิปริต .. เมืองหลวงค่าใช้จ่ายก็อยู่ยากขึ้นทุกวัน..

แต่ถ้าเป็นพวกทำชั่ว อกตัญญูแผ่นดินเกิด พวกนี้ไม่ค่อยเชื่อเรื่องกรรมอันซับซ้อน หวังแต่ความเจริญและวัตถุนิยมกันไป แต่ถึงเป็นพวกกลัวภัยพิบัติขึ้นสมอง แล้วจะหนีไปถึงไหนถึงไหน ได้..จริงหรือ..??
แต่ถึงหนีได้ สักวันก็หนีความตายไม่พ้น โลกหน้าไม่น่ากลัวกว่าภัยพิบัติหรือ??

ตามเหตุปัจจัย
พวกมีบุญ เขาก็ไปใช้ชีวิตพอเพียงเรียบง่ายเป็นสุขได้ ก็มี
พวกสร้างบารมี ก็ต่อสู้เพื่อชาติต่อไป ก็มี..
จิปาถะ ฯลฯ
ทำดีแล้ว โลกหน้าก็พึงหวังได้

 

หนีน้ำอาจเจอหนาวเหน็บ เเละพายุลูกเห็บก้อนเท่ายูนิค
หนีเเผ่นดินไหว อาจไปเจอภูเขาไฟคืนชีพจากที่หลับอยู่
หลายร้อยปี

หนีสงครามกลางเมือง อาจไปเจอเชื้อไวรัสที่ระบาดออก
จากป่าติเต่อจากคนสู่คนในพื้นที่ทุรกันดาร

อยู่ที่เดิมกับอพยพไปที่ใหม่มีความเสี่ยงพอกัน!!!
ดังนั้น อยู่เเบบเดิมๆ เเต่เปลี่ยนวิธีคิดใหม่ คิดตามหลัก
พุทธวิธี ตามหลักไตรลักษณ์

 

ท่านคือหลวงพ่อเกษม วัดสามแยก จ.เพชรบูรณ์ค่ะ