จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ธรรมะ พุทธะ - วัฏสงสาร ภพภูมิที่มนุษย์ทุกคนต้องเวียนว่ายตายเกิด - YouTube

วัฏสงสารหรือ สังสารวัฏ หรือ สงสารวัฏ
คือ
ภพภูมิที่มนุษย์ทุกคนต้องเวียนว่ายตายเ­กิดขึ้นมาในตามหลักของพุทธศาสนาซึ่งบัญญัต­ิไว้ว่ามีทั้งสิ้น 31 ภูมิด้วยกัน​

 

ธรรมะ พุทธะ - ปริยัติธรรมกับธรรมปฏิบัติ - YouTube

คนในยุคนี้ส่วนมากเราเรียนเอาคำสอนกัน
น้อยนักที่จะลงมือปฏิบัติจนได้ปฏิเวธ
ธรรมของพระองค์ในปฏิธรรมนี้จริงแท้แน่นอนไ­ม่มีผิด
แต่เรานั่นเองที่ไม่น้อมนำมาปฏิบัติจนแห็น­แจ้งอย่างพระองค์เอง
​

 

..
.สาธุๆๆครับ ผมพอเข้าใจวิธีทางที่เราจะอุทิศบุญ
.ว่าควรทำตอนไหน และทำอย่างไรเราจะได้บุญให้ผู้รับมาก
.ไม่ได้เลือกว่าบุญนั้นที่เราทำนั้นเล็กหรือใหญ่
..มากหรือน้อย
..ไม่แปลกใจที่ผู้ใหญ่สอนให้เราอุทิศบุญหลังจากที่ทำ.
..แต่ขณะทำก็ต้องสุขใจด้วยถึงจะได้บุญมาก
..
..
..เหมือนเวลาที่ผมไปกราบพระธาตุ แล้วก็เกิดปลื้มปีติใจมาก..
..ผมก็รีบอุทิศบุญให้ลูกๆ อิอิ...
..ขอบคุณคุณภูมากๆ มากระจ่างแจ้งในครั้งนี้เอง
..สาธุๆๆ..
..

 

.
..สาธุๆกับทุกท่านครับ ได้ความรู้เพิ่ม เก็บต่อ

 

..
..อ่านแล้วน้ำตาไหล นึกภาพที่ชาวบ้านและเด็กดึงรั้งท่านไว้เลย
..สาธุๆๆๆ
..เคยอ่านนานแล้ว แต่รู้สึกว่าไม่ได้ละเอียดขนาดนนี้..
..

 

​

นิพพานไม่สูญ​

การแปลความแบบนี้ ก็เพื่อจะยืนยันความคิดนึกเดาเอาตามมติของตนเองว่า
นิพพานคือภาวะดับสูญอย่างเด็ดขาด ซึ่งมีค่าเท่ากับที่ลัทธิศูนยวาท
ว่าไว้ว่าไม่มีอะไร ๆ ก็หายสาปสูญไปหมด เรียกไม่รู้ กู่ไม่กลับ นั่นเอง

นิพพานไม่ใช่แดนสูญอย่างที่เข้าใจกันเลย ! นิพพานเป็นแดนทิพย์คล้ายพรหมโลก
แต่สวยงามวิจิตรพิสดารยิ่งกว่าพรหมโลก ผู้สำเร็จพระอรหันต์เข้าสู่แดนพระนิพพานนั้น
มีร่างทิพย์ที่ละเอียดที่นฤมิต ไม่ใช่กายทิพย์ธรรมดาเหมือนโอปปาติกะทั้งหลาย

กายทิพย์ หรือ ธรรมกาย ของพระอรหันต์ในแดนนิพพาน เป็นกายทิพย์ที่นฤมิตขึ้นด้วยธรรม
ไม่ได้เกิดขึ้นเองเป็นเองโดยธรรมชาติของโลกวิญาณ ร่างธรรมกายของพระอรหันต์ เป็นทิพย์ละเอียดใสสะอาด
ใสเป็นประกายคล้ายแก้วประกายพรึก มีรัศมีสว่างไสวมากกว่าพระพรหมอย่างเทียบกันไม่ได้เลย
มีความสุขที่สุดอย่างไม่มีอะไรเปรียบเทียบ เพราะความรู้สึกอื่นไม่มี

มีแต่จิตสงเคราะห์ !พระพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวกทั้งหลาย
ที่เข้าสู่แดนพระนิพพานไปนมนานกาเลแล้วนั้น ไม่ได้สูญพันธุ์ไปหมด
เหมือนไดโนเสาร์เต่าพันปี ดังที่เข้าใจ

พระพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวกทั้งหลายยังอยู่ ทรงอยู่ในสภาพของจิตคล้ายดาวประกายพรึก
แต่เป็นดวงจิดที่รอบรู้สัพพัญุตญาณคือ ความเป็นผู้รู้แจ้งแทงตลอด หมดสิ้นในเรื่องของสกลจักรวาล
รู้ทุกสิ่งทุกอย่างถูกต้องแม่นยำไม่มีผิดพลาด โลกเราเป็นวัตถุก้อนหนึ่ง ล่องลอยโคจรไปในอวกาศอันกว้างใหญ่ไพศาล
หาขอบเขตไม่ได้ เปรียบไปก็คล้ายเป็นยานอวกาศลำกระจ้อยร่อยเหลือเกิน

เมื่อเปรียบเทียบกับความกว้างใหญ่ไพศาลของจักรวาล เวลานับแสนนับล้านปีของโลกเรา
ที่หมุนไปอาจจะเป็นเสี้ยววินาทีเดียวของเวลาสากลจักรวาลก็ได้

ดังนั้นเวลา 2525 ปี นับตั้งแต่พระพุทธเจ้าเสด็จเข้าสู่พระนิพพานไป อาจจะเป็นเวลาเพียง
เศษหนึ่งส่วนล้านวินาทีของเวลาในแดนพระนิพพานก็ได้ พระพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวก
ยังอยู่ในแดนพระนิพพาน ไม่ได้หายลับดับสูญไปไหน !

ท่านพระอาจารย์มั่น ภูริ ทัตตเถระ เล่าไว้อย่างน่าสนใจว่า หลังจากท่านบรรลุธรรมชั้นสูงสุดแล้ว
ในคืนวันต่อมา พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสาวกอรหันต์สาวกจำนวนมากได้เสด็จมาทางนิมิตรสมาธิ
แสดงอนุโมทนาวิมุติกับท่าน คือแสดงความยินดีที่ท่านพระอาจารย์มั่นบรรลุอรหันตผล



ขอเจริญในธรรม ด้วยจิตคารวะ

newwave1959

ปาราเมศ จบ. ๑๔​

 

​

 

อะแฮ่ม ช่วงนี้ลินดาก็ลังผ่าตัดชีวิตพอดีเลยค่ะ สัปดาห์ที่ผ่านมาก็วนเวียนดูแตงโมผ่าซีกอยู่ หุหุ:VO

 

ธรรมทานฉบับสั้นๆ แต่มีความหมายจาก
จิตบำเพ็ญคุณพร
​

อือ...สำรอกกิเลสน่ะ ให้มันโผล่ออกมาให้หมดค่ะ แล้วมีอาการนี้อยู่นานมั้ยค่ะ ไอ้ห่วงหาอาดูรเนี่ย

- ช่วงเช้ามีอาการอยู่อย่างนี้สัก 15 นาทีค่ะ พอตกเย็นประมาณ 18.30 น. มีอาการอย่างนี้ลากยาวไปยังวันนี้เลยค่ะ
มีอาการเบื่อสิ่งรอบตัว ไม่ทุกข์ ไม่สุข ยังคุยสนุกสนานได้ค่ะ
มีอาการแต่ไม่ได้ป่วยไปตามอาการนั้น สาธุค่ะ

อารมณ์ที่กระทบระหว่างวัน
- เมื่อวานเย็นกลับไปบ้าน นั่งพักสักครู่ ก็ออกไปช่วยพี่เก็บของที่ร้าน(พี่ที่พูดไม่ดีด้วย)ทำด้วยความเต็มใจ
และอยากช่วยจริงๆ มีความคิดว่าอาการร้อนแบบนี้พี่ทำงานขายของอยู่ที่บ้านคงร้อนและเหนื่อยสงสารพี่
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เคยรู้สึกแบบนี้กับพี่คนนี้บ้างมั้ยค่ะ

- วันนี้โดนใช้งานอีกแล้วค่ะ ทำอย่างที่ครูบอกเลยค่ะ ยิ้มรับและทำอย่างเต็มใจ จริงใจ พอนั่งโต๊ะได้ก็อุทิศบุญกุศลให้เขาไปค่ะ
ดีมาก สาธุค่ะ คอยสังเกตุดูน่ะ ถ้าต่อไปคุณพรยังได้ทำงานที่นี้อยู่ เพื่อนๆ กลุ่มนี้เค้าจะรู้สึกดีกับคุณพรน่ะ

- ครูค่ะวันนี้ กิเลสเด้งมาเป็นบางครั้งเริ่มน้อยลงจากเมื่อวาน
ดีแล้วค่ะ เดี๋ยวมันจะค่อยๆ น้อยลงไปเรื่อยๆ น่ะ

คุณพรมั่นใจมั้ยว่ารู้ที่ไปของจิตตัวเองแล้ว....แล้วที่นั้นคือที่ไหนค่ะ
ไปอยู่กับเสด็จพ่อค่ะ ^^

ว่าแล้วก็ ขอถามย้ำอีกทีค่ะว่า ณ ตอนนี้ คุณพรเห็นว่าร่างกายนี้มันยังเป็นเรา เป็นของเราอยู่มั้ยค่ะ ตอบบรรยายมาให้หมดจดจากจิตเลยค่ะ
-ไม่แล้วค่ะ กายนี้ไม่เที่ยง มีการเกิด ตั้งอยู่ ดับไป ไม่มีใครหนีกฎนี้ได้ เรายืมเขามาใช้สักวันหนึ่ง
กายเราต้องกลับสู่ ดิน น้ำ ลม ไฟ เราแค่อาศัยกายนี่เป็นที่อยู่ชั่วคราว ร่างกายแม้จะดับสูญ
แต่จิตยังคงอยู่ ถ้ายังไม่ถึงซึ่งนิพพาน ก็คงต้องเวียนว่ายตายเกิดในวัฎสงสารนี้เรื่อยไป

-ตั้งแต่ฝึกมาสิ่งที่ได้เรียนรู้คือ กายกับจิต นั้นเป็นสิ่งที่แยกกัน กายจะเกิด แก่ เจ็บ ตาย แต่จิตของเรานั้นไม่ได้เป็นไปตามกาย จิตไม่ได้ตาย
-กายนี้เต็มไปของไม่สะอาด มีแต่ของเน่าของเสีย กินไปดีเท่าไหร่ ก็ออกมาเป็นของเน่าเหมือน
กันหมด

- พรมีอาการ คือไม่ทุกข์ ไม่สุข เหมือนโลกสีเทาๆ ใจนิ่งๆ เอื่อยๆ เรื่อยๆ อารมณ์กลางๆ สุขไม่สุด ทุกข์ไม่สุด อยากไม่มาก พรอธิบายได้ประมาณนี้ค่ะ
555 สาธุ๊ ก็ไอ้อาการแบบนี้แหล่ะ ที่ผู้ปฏิบัติทั้งหลายเค้าตามหากันอยู่ ไม่ใช่จะเจอได้ง่ายๆ น่ะ ให้ทรงอารมณ์นี้ไว้ค่ะ

ภาพพระ มาเป็นบางครั้ง
อย่าลืมที่เราบอกคุณพรไปในเมล์ที่แล้วน่ะ เรื่องอารมณ์ในการนึกถึงพระ จำได้มั้ย แล้วได้ลองทำรึยังค่ะ

โมทนาสาธุ

ครูเกษ

ขอบคุณสำหรับความเมตตาของครูทุกท่านด้วยนะค่ะ
อนุโมนา สาธุค่ะ
พร _/\_

 

เทียบกับบารมี 10

1.ทานบารมี (การให้โดยไม่หวังผล) มีจิตปรารถนาจะสละด้วยการให้ทานอยู่เสมอ
ผ่านค่ะ เพราะอยากเป็นผู้ให้ เพื่อหลุดจากคำว่าอยาก ให้โดยไม่ต้องคิดว่า
สิ่งที่เราให้จะเป็นประโยชน์ต่อเขาไหม เขาจะไปทำอะไรต่อ จบต้องแต่คิด
จะให้ค่ะ

2.ศีลบารมี(รักษาศีล 5 เป็นปกติ) มีความรักในศีลห้า มีความตั้งใจทรงศีลห้าให้บริสุทธิ์ครบถ้วนอยู่เสมอ
ผ่านค่ะ ตอนแรกจะกลัว เกร่งไปหมด เวลาพูดบางทีแรกๆต้องนึกถวนคำพูดตัวเอง
กลัวทำให้คนฟังเข้าใจผิด ถ้าไม่รู้ก็บอกเลยไม่รู้ ถ้าโดนคาดคั้นก็จะบอกเลยว่านี่เป็น
การคาดเดาจากความคิดตัวเองนะ ไม่รู้ว่าผิดหรือถูก (โดนข้อเรื่องศีลข้อ2บ่อย)


3.เนกขัมมะบารมี(การถือบวช) บวชด้วยใจ คือสำรวมกาย วาจา ใจ อยู่เสมอ
ผ่านค่ะ ตอนนี้เริ่มมีการพิจารณาค่ะ ไม่วู่วาม พอมีอารมณ์ โกรธ น้อยใจ ไม่พอใจ
ขึ้นมา จะเริ่มจากระงับวาจาก่อน ต่อมาคือกายไม่แสดงถึงความไม่พอใจ สุดท้าย
ใจ ที่จะไม่โกรธ ไม่ทุกข์ ไม่สุด เมื่อก่อนที่ไม่ได้ฝึกจิตเกาะพระ ก็เหมือนคนทั่วไปค่ะ
สุขสุดๆ ทุกข์ระทม โมโหจี๊ด

4.ปัญญาบารมี(ความรู้) ทรงปัญญาพิจารณาอยู่เสมอ ยอมรับว่าโลกนี้ไม่เที่ยง ไม่มีการทรงตัว ยอมรับทุกอย่างตามความเป็นจริง
ผ่านค่ะ เคยอ่านธรรมะมาก็พอสมควรแต่ไม่เคยใส่ใจ แต่ตอนที่นั่งรถไปเชียงเม้ง
สิ่งนี้เกิดขึ้นในใจอย่างชัดเจนค่ะ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ย่อมมีเกิดขึ้น ตั้งอยู่
ดับไป แม้แต่ธรรมชาติก็เช่นกัน ไม่มีสิ่งใดหนีกฏข้อนี้ไปได้

5.วิริยะบารมี(ความเพียร) มีความพากเพียร ไม่ย่อท้อ ต่อสู้อุปสรรคด้วยประการทั้งปวง
ไม่ผ่านค่ะ หลายครั้งที่คิดท้อ แต่ก็จะกลับมาสู้ได้ในทุกครั้ง
ข้อนี้ได้ทำการปรับจิตปรับความเข้าใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะเป็นไปไม่ได้ ที่ผ่านทุกข้อ แล้วจะมาติดที่ข้อนี้ข้อเดียว มันติดที่ตัวสังขารขันธ์ของเค้านิดเดียวค่ะ

6.ขันติบารมี(ความอดทนอดกลั้น) มีความอดทนอดกลั้น ไม่หวั่นไหวต่ออารมณ์ต่าง ๆ
ผ่านค่ะ เพิ่งโดนมาเร็วๆนี้เอง รู้สึกอยากชดใช้กรรมให้หมด ไม่อยากแล้ว เชื่อว่า
ทุกอย่างต้องมีเหตุ จึงมีผลส่งมา ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว ยินดียอมรับ
และชดใช้ โดยไม่ต่อรองค่ะ

7.สัจจะบารมี(ความตั้งใจจริง เอาจริง จริงใจ) มีความจริงใจ ตั้งใจไว้อย่างไรจะทรงไว้อย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง
ผ่านค่ะ ขอยกตัวอย่างนะค่ะ เมื่อก่อนจะสวดมนต์และขอให้เจอครูที่จะเราบรรลุธรรมขั้นสูง(ตอนนั้นอยากไปนิพพานเลยค่ะ แต่ดูตัวเองแล้วยังติดทางโลกอยู่มาก เลยขอ
แค่ธรรมขั้นสูง คิดว่าชาตินี้คงไม่ได้แน่ เอาบุญไปต่อชาติหน้าก็ได้) ขออยู่อย่างนี้
ตั้งแต่อายุ 31 ปี ปัจจุบัน 39 ค่ะ ถ้าไม่เจอครูก็จะขอไปเรื่อยๆค่ะ

8.อธิษฐานบารมี(ความตั้งใจมั่น ไม่เปลี่ยนแปลง) ตั้งกำลังใจไว้ว่า เราปฏิบัติความดีทุกอย่างเพื่อพระนิพพาน
ผ่านค่ะ ผ่านอย่างไม่มีติดขัด ตอนนี้ใครจะเอาคืนพร ไม่ว่าจะเบียดเบียน ทางกาย
วาจา ใจ ยินดีไม่โกรธ ผูกกรรมกัน เวียนวายตายเกิดมาหลายชาติแล้ว ไม่เอาแล้ว
ยิ่งพอครูบอกจะสอนจนกว่าจะยกจิตได้ พรโล่งเลยพรใช้เวลานาน เกรงใจครูทุกท่านเลย ตั้งใจแล้วไม่เปลี่ยนเลย

9.เมตตาบารมี(ความรักด้วยความปรานี) คิดว่าเรารักคนและสัตว์ทั้งหมด ไม่ถือว่าใครเป็นศัตรูกับเรา
ผ่านค่ะ ถ้าครูถามก่อนหน้านี้คงตอบว่าไม่ผ่าน เพราะเมื่อก่อนพรจะติดการเมืองมาก
จะเชียร์ให้ฝ่ายตนชนะค่ะ ขอให้ศัตรูย่อยยับ แต่ตอนนี้ไม่แล้วค่ะ ปลงแล้วเนื่องจาก
เห็นความไม่เที่ยง ไม่มีใครเก่งเกินกรรม ใครทำอะไร ย่อมได้สิ่งนั้น

10.อุเบกขาบารมี(ความวางเฉย) วางเฉยต่ออารมณ์ทุกอย่าง
ผ่านค่ะ เมื่อก่อนหน้านี้มีคนดังคนหนึ่งให้สัมภาษณ์โกหก ถ้าเป็นเมื่อก่อนพรบ่น ด่า
ไม่เหลือ เยอะค่ะ แต่ตอนนี้เฉยๆ เขาโกหกก็ช่างเขา แต่อย่าเอาใจของเราไปผูกกรรมของเขาเลย ฟังแล้วให้มันผ่านไป ไม่เอาจิตออกไปยุ่งเรื่องชาวบ้านแล้ว ไม่มี
ประโยชน์ แม้แต่เรื่องคนตัวเหม็น ถึงพยายามจะช่วยเพียงใด สุดท้ายช่วยไม่ได้ก็ต้องปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินต่อไป


เทียบกับรัก โลภ โกรธ หลง อธิบายอารมณ์ที่ทรงอยู่ในกิเลส 4 อย่าง ซึ่งเกี่ยวข้องกับ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ว่าตัดได้มากน้อยเพียงใด ไม่เอาคำตอบสวยหรู เอาคำตอบที่ออกมาจากจิตเท่านั้น บอกเล่าไปตามจริงที่อารมณ์นั้นทรงอยู่หรือเป็นอยู่

1.รัก เป็นอารมณ์รักเพื่อนมนุษย์ รักแบบหวังดี รักแบบเมตตา ไม่ได้อยากเป็นเจ้าของ ไม่ได้รักแบบทุรนทุรายค่ะ

2.โลภ ไม่ได้อยากได้แล้วค่ะ เพราะไม่รู้ได้มาแล้วยังไงต่อ ทุกอย่างมันไม่เที่ยง
มีรถ มีบ้านแล้วไง เอาไปไม่ได้ แล้วจะเอามาทำไม กายเราใช้เสร็จก็ยังต้องคืน
หาประโยชน์จากการอยากได้ไม่มี

3.โกรธ หาประโยชน์จากการโกรธไม่มี เป็นอารมณ์ที่ไม่ได้ใช้แก้ปัญหาหรือเกิดปัญญา ไม่เกิดประโยชน์แก่ตัวเองหรือผู้อื่น

4.หลง (รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส) อันนี้ต้องยกความดีให้การดูอสุภะบ่อยๆค่ะ
ที่หลง(รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส)อยู่นาน ชอบคนหน้าตาดี อาหารอร่อย น้ำหอม
คนตัวหอม เสื้อผ้าเนื้อดีๆ มือนิ่มๆ พอได้เห็นความจริง เหลือแค่จำเป็นต่อชีวิตพอแล้ว กินเพื่ออยู่ เสื้อผ้าก็ใส่เพื่อห่อหุ้มร่างกายพอ

ปล.ขอโมทนาสาธุบุญกับจิตบำเพ็ญทั้งสองท่านค่ะ...จิตแก่งอมเต็มทีแล้วทั้งสองท่านเลยค่ะ...อีกไม่นานเกินรอ...พวกเราคงจะได้ร่วมโมทนาบุญใหญ่กับทั้งสองดวงจิตในเร็ววันนี้แน่นอน สาธุ​

chearrchearrchearr​

 

Spirit of South Korea

นายกรัฐมนตรี ชอง ฮง วอน แห่งเกาหลีใต้ ประกาศลาออก รับผิดชอบการช่วยเหลือเหตุเรือเฟอร์รี่ ล่าช้า

อยากให้ประเทศอื่นๆ เอาอย่างบ้าง
เห็นความทุกข์ของปชช.หรือผู้อื่น มาก่อนตนเองเสมอ
(((ผมขอลาออก!)))
ก่อนจะลาออก โดนขวดน้ำไปหลายขวด ญาติของผู้เสียชีวิตไม่พอใจ
คนที่มีสปิริต ก็มีเกิ๊น...

จิตเกาะพระ..ขอชมเชย ผู้นำเกาหลีใต้
​

 

Spirit ของผู้นำทางโลก เห็นแล้วยังอดชื่นชมยกย่อง ไม่ได้ ... แต่เห็น Spirit ของผู้นำทางธรรม ที่จะนำพาผู้คนให้ออกจากทุกข์ ดั่ง ครูบาอาจารย์ทุกท่าน ในกระทู้นี้ ข้าพเจ้าขอกล่าวคำเดียวว่า
มหาโมทนาสาธุการ

 

คนมีปัญญา
รู้จักทำใจให้เป็นสุข
แม้แต่ในเรื่องที่ไม่น่าสุข

คนไม่มีปัญญา
สามารถทำใจให้เป็นทุกข์ได้
แม้ในเรื่องที่ไม่น่าทุกข์

Cr:บ่าวเคิ้น บ่าวเคิ้น​

 

"โยนิโสมนสิการ" ..
แปลว่า การคิด การพิจารณาโดย "แยบคาย"

"แยบคาย" ก็คือ ..

"การคิด การพิจารณาด้วยเหตุด้วยผล ตามหลักความเป็นจริง
ตามสัจจะธรรม ไตรลักษณ์ อันมี อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็นตัวตัดสิน

จนเกิดความรู้ ความเข้าใจหายสงสัยในเรื่องนั้น ๆ หากยังไม่เข้าใจ
ไม่หายสงสัย ก็เรียกว่า ยังไม่แยบคาย ยังไม่ใช่โยนิโสมนสิการ" .

Cr:บ่าวเคิ้น บ่าวเคิ้น​

 

บุคคลผู้มี มานะ ทิฏฐิ อันแรงกล้า
แม้มีชีวิตอยู่ 100 ปี
ก็ไม่แตกต่างอะไรกับ ตาบอดคลำช้าง

Cr:บ่าวเคิ้น บ่าวเคิ้น​

 

กราบครูแนทที่เคารพ

หนูตั้งจิตขอเอาใจช่วย แม่นี ให้สมประสงค์ หลับตา ตั้งจิต เห็นแสงใสวิ่งเป็นครึ่งวงกลมจากตาขวาไปซ้าย พร้อมกลิ่นธูปจางๆ สาธุ สาธุ สาธุ กับแม่นีค่ะ
ขณะขณะอ่านคำสอนครูภู ได้กลิ่นธูปเบาบาง 2-3 ครั้ง
จิตติดใจเฝ้าตีความ ...
นาทีทองนี้ ไม่มีธรรมอันใดสำคัญเลย นอกจากจิตตนเองคืออยู่เหนือรูปนาม
คือจิตที่อยู่กับภาวะทุกข์กาย ทุกข์ใจ อย่างไม่ทุรนทุราย
จิตของเราที่แยกเอาออกจากกายหยาบได้แล้วก็ยังไม่เอา
แม้แต่จิตก็ยังไม่เอา
ความลับเส้นลัดไม่กลับมาเกิด
ยึดจิตคือยึดภพชาติ
จิตไม่ยึด ไม่มีภพชาติ
ว่าง ไม่สุข ไม่ทุกข์ ไม่มีอะไรในสรรพสิ่งและตัวที่เห็นความว่างที่จะไปนิพพาน
เหล่านี้คือสิ่งที่หนูตีความได้ค่ะ ว่าง ไม่สุข ไม่ทุกข์ ตัวรู้ว่าว่าง

ด้วยความเคารพ

อ้อ
Boonnippan

 

จง ให้เหตุผล อยู่เหนืออารมณ์
อย่า ให้อารมณ์ อยู่เหนือเหตุผล

ให้ ความดี ชนะความชั่ว

Cr:บ่าวเคิ้น บ่าวเคิ้น​

 

โมทนาสาธุกับจิตของคุณBoonnippanด้วย
ที่สามารถจับกระแสจิต กระแสธรรมนั้นได้
แสดงถึงจิตละเอียดมากทีเดียว
จิตท่านนี้ ไม่ได้อยู่เพียงแค่นี้แน่
ตอนนี้ ท่านพบประตูอะไรสักอย่างนึง
แต่ไม่สามารถบอกกล่าวมาในที่นี้ได้

ผู้ปฎิบัติธรรม พึงละปล่อยวางก็เพื่อความหลุดพ้นกันนี่แหล่ะ
มิใช่ละแค่หยาบ แต่ขอเก็บ ยึด เกาะนามอันละเอียดของตนไว้ก่อน
อันนี้ถือว่า ยังไม่หลุดพ้นแน่ๆ
เพราะคำว่า หลุดพ้นนั้น จะหมายถึงจิตหรือผู้ที่อยู่เหนือคำว่าจิต คือผู้ดูนั้น
อยู่เหนือคำว่ารูปนาม หรือขันธ์๕ ตนเอง
โมทนาสาธุ ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป..สาธุ

ปล.ขอโมทนาสาธุกับจิตคุณพร มา ณ ที่นี้ด้วย เช่นกัน
เดี๋ยวพวกเราคอยโมทนาบุญกับสองดวงจิตนี้ไปพร้อมๆกันนะครับ

ขอโมทนาบุญกับครูผู้สอนและศิษย์ มา ณ ที่นี้ด้วย
และขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ปฎิบัติหรือคิดว่าจะลงมือปฎิบัติธรรม ทุกๆท่านด้วยครับ..สาธุ

 

บัวตูม บัวบาน
ไหนหล่ะ ดอกบัวตูม ดอกบัวบาน
เมื่อไหร่จะขึ้น เมื่อไหร่จะโผล่ขึ้นพ้นน้ำ เหนือน้ำสักทีนึง
ก็เลยหาบัวมาให้แล้ว เลือกเอาตามใจชอบ
(พูดถึงจิตบุญใหม่)

พูดถึงดอกบัว เสียงคุณพี่พอใจมารอที่หูเลย
ยังระลึกนึกถึงกันอยู่เหมียนเดิมนะจ๊ะๆ​

 

สูงสุด คือ พระพุทธเจ้า​

หลวงพ่อปราโมทย์ ปาโมชฺโช​

สูงสุดของเรา คือพระพุทธเจ้า ใจเราต้องยึดถือท่านนะ คิดถึงท่านเรื่อยๆ คิดถึงคุณงามความดีของท่าน

ท่านไม่ใช่เป็นอะไรกับเราซักหน่อย ทำไมมีความเมตตากรุณานะ ยอมลำบากยากเข็ญตั้งนานแสนนาน เพื่อจะค้นคว้าธรรมะมา ได้ธรรมะมาแล้ว แทนที่ท่านจะเสพสุข เป็นพระอรหันต์มีความสุขจะตายไป ท่านกลับทุกข์ทรมานนะ ต้องออกมาสู้กับพวกมิจฉาทิฏฐิ สู้กับกิเลส มิจฉาทิฏฐิก็พยายามบอมบ์ท่านนะ ถึงขนาดจ้างผู้หญิงมาแกล้งว่าทำเป็นท้องกับท่านก็มี จ้างคนมาด่าท่านก็มี ทำได้สารพัดเลยที่จะเล่นงานท่าน ต่างๆนานา ท่านต้องสู้กับพวกมิจฉาทิฏฐิ ต้องสู้กับกิเลสของพวกเราแต่ละคนด้วย เวลาฟังคำสอนของท่านเนี่ย เป็นคำสอนที่ฝืนกิเลสพวกเรา เราบางคนรับไม่ไหวนะ พวกกิเลสแรง รู้สึกคำสอนของพระพุทธเจ้าไม่เอาดีกว่า

เนี่ยท่านต้องมาต่อสู้นะ กว่าจะตั้งศาสนาขึ้นมาได้ ถ่ายทอดสืบทอดมาถึงเราเนี่ย ท่านยากลำบากมากมาย เพราะปัญญาของท่านมหาศาล ที่จะค้นพบธรรมะได้เอง ขนาดธรรมะที่ท่านค้นแล้ว เอามาสอนเรา เรายังทำได้บ้างไม่ได้บ้างเลย เห็นมั้ย ปัญญาของท่านมาก ความกรุณาของท่านมากนะ ถ้าเราหัดภาวนาไปเรื่อย ใจของเราสงบ สะอาด สว่างนะ เข้าถึงความบริสุทธิ์มากขึ้นๆ เราก็จะรู้ถึงความบริสุทธิ์ของพระพุทธเจ้าด้วย เนี่ยพอใจของเรายิ่งภาวนาไป ใจเรายิ่งห่างไกลความทุกข์ เราจะยิ่งเคารพ ยิ่งรักพระพุทธเจ้าแน่นแฟ้นนะ ศรัทธาของเราจะมีกำลังมากขึ้นๆ

งั้นบางวันถ้าหมดศรัทธานะ พยายามนะ คิดถึงคุณของพระพุทธเจ้าไว้ พยายามคิดถึงคุณของท่านไว้ แล้วพอเราคิดถึงคุณของท่าน ใคร่ครวญถึงคุณงามความดีของท่านนะ ใจก็เกิดศรัทธาขึ้นมาอีก หรือเราคบกับคนที่เค้ามีศรัทธา ถ้าเราคบคนที่มีศรัทธานะ เราก็จะโน้มนำไปให้เกิดศรัทธา เราไปคบพวกมิจฉาทิฏฐิไม่มีศรัทธานะ มันก็พาเราเสื่อมศรัทธาไปด้วยนะ เรื่องคบคนก็สำคัญนะ เนี่ยหลวงพ่อก็สอนพวกเราทุกวัน ต้องไหว้พระ ต้องสวดมนต์ คิดถึงคุณของพระ อันนี้คือพัฒนาพลังของศรัทธาขึ้นมา
​

​