{{รวมพลังโชว์พระแท้สากลนิยม}}@@แนวทางสำหรับผู้เริ่มสะสมพระ@@สมเด็จ พระกรุ พระเกจิ

ในห้อง 'วิธีดูพระเครื่อง-เครื่องรางของขลัง' ตั้งกระทู้โดย Amuletism, 21 เมษายน 2014.

  1. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
    พระหนึ่งองค์ มีมากกว่า 1 คำตอบครับ สำหรับพระเนื้อชิน
    นาคปรก หรือพระเนื้อชิน มเหศวร
    ยกตัวอย่างเช่นองค์ที่เห็นนี้คือ....
    พระนาคปรกเนื้อชินเงินย้อนยุค วัดพนัญเชิงวรวิหาร พระนครศรีอยุธยา
    พร้อมหลักฐาน ซึ่งไม่ใช่พระกรุ
    แต่เป็นพระที่สร้างย้อนยุค

    อ้างอิง...จากเว็บพลังศรัทธา
    เนื้อชินองค์นี้ก็เเช่นกันเพราะพระมเหศวร
    มีการสร้างย้อนยุคด้วยครับลองตรวจสอบดู
     
  2. SUPABUNG

    SUPABUNG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +793
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    ชุดเหรียญโบสถ์ลั่น หลวงพ่อแดง หลวงพ่อเจริญ
    ลงให้ตามสัญญานครับรูปไม่ค่อยสวยนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 2 พฤษภาคม 2014
  3. captainzire

    captainzire เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,551
    ค่าพลัง:
    +2,822

    พระพุทธรูปสุโขทัย เป็นยุคที่ผมชอบที่สุด
    ศิลปสวย แบบคนที่มีสุข
    แต่คงไม่มีโอกาสเช่าบูชา
    คงต้องขอเป็นย้อนยุคแล้วครับ
     
  4. modpong

    modpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,609
    ค่าพลัง:
    +17,933
    ..........................
    ..โทษทีครับ..ผมไม่ค่อยได้เข้ามาห้องนี้..ปกติเข้าแต่ห้องประสพการณ์...เลยตอบช้าไปหน่อย..
    ...คำว่า"คราบรักน้ำเกลี้ยง"..นี้..พวกนักเลงพระรุ่นหลังมาเรียกกันเอง..ครับ..สมัยก่อนเขาไม่ได้เรียกแบบนี้..แม้ว่าเซียนส่วนใหญ่ยุคโน้นจบแค่ประถม..มัธยม..เขาก็เข้าใจใข้ภาษาไทยไทยดี..ไม่เพี้ยนแบบยุคนี้..
    ...คำว่า"คราบ"..หมายถึงสิ่งอื่นใด..ที่มาติด..มาทิ้งรอยให้เห็น..อยู่บนวัตถุนั้นๆ...คือ..ไม่ได้มีมาแต่แรก..ขยายความคือ..สิ่งที่ว่านี่..เป็นสิ่งที่เกิดแบบไม่ตั้งใจ..หรือ..เกิดขึ้นมาตามธรรมชาติในภายหลัง....
    ..ดั่งเช่น..คราบเยี่ยว..คราบอสุจิ..คราบเลือด..คราบน้ำลาย..คราบฝุ่น..คราบกรุ..คราบสนิม ฯลฯ...........
    ..ต่างกันครับ..กับ..รัก..นั่นเป็นของที่มีมาแต่เดิม..แล้วก็ตั้งใจทาไว้....
    .....ดังนั้น..จะเรียก"คราบ"..นำหน้าไม่ได้ครับ...
    ...ต้องเรียกว่า.."ร่องรอยของรักน้ำเกลี้ยงที่ยังติดอยู่"
    ทำนองนี้..จะเหมาะสมกว่า..แต่เรียกให้ง่าย..ก็คือ..
    ..ดู"รักที่ยังติดอยู่"..แค่นี้ก็พอ....
    ..เรื่องนี้..ผมเขียนไปเยอะแล้ว..ไม่อยากเขียนซ้ำ..คุณเด็กโกลก..ลงเข้าไปในห้องประสพการณ์..
    ..ดูในกระทู้ "ผม..พระ..และสาระยุคก่อน"ที่ผมเขียนไว้จะมีครับ..แต่อยู่ช่วงไหนไม่ทราบ..ผมจำไม่ได้แล้ว.....
    ....อีกคำนะครับ..ที่ใช้กัน..ผิดความหมายไปหมด..
    และฮิตมากยุคหลังนี่..สมัยก่อน..เขาก็ไม่ใช้คำนี้กัน
    ..............สหธรรมมิก..............
    ..ลองไปเปิดพจนนานุกรม..ตามในเน็ต..ดูความหมายเอาก็ได้......
    ..หมายถึง...ผู้ที่ยึดถือธรรมแบบเดียวกัน....ไม่ได้แปลว่า...เพื่อน..หรือ..สนิทกัน..แบบที่เอามาใช้กันเละเทะ.......
    ...พระ..ชี..อุบาสก..อุบาสิกา...ทั่วประเทศที่ยึดถือธรรมของพระพุทธเจ้าอย่างเคร่งครัด....ทุกคนหรือทุกท่าน..ล้วนเป็น...สหธรรมมิก..กันทั้งสิ้น..ทั้งๆที่
    ไม่เคยเห็นหน้า..หรือ..พูดคุย..รู้จัก..ซึ่งกันและกัน..
    ...ขอฝากไว้ด้วยครับ..ผมคนแก่..ไม่อยากเห็น..ภาษาไทย..วิบัติ.......
    ........................
    ...อ้อเกือบลืม..ผมว่าที่นี่โชคดี..นะ..ที่คุณSTOES..
    กลับมาให้ความรู้อีก..ขอบคุณครับ..ที่ยังนึกถึงผม..
     
  5. captainzire

    captainzire เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,551
    ค่าพลัง:
    +2,822
    [​IMG]

    [​IMG]


    รูปหล่อหลวงพ่อทบ 2 องค์นี้
    ปัจจุบันแทบจะต้องบอกว่าเป็นพระ
    ระดับตำนานไปแล้ว ที่สุดจริงๆ ครับ
     
  6. กำแพงพระ

    กำแพงพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,025
    ค่าพลัง:
    +1,966
    เห็นด้วยกับพี่ทั้ง 2 ท่านครับ
    ถ้าจะลงต้องมั่นใจว่าแท้ และใจเปิดกว้าง
    พร้อมจะรับความเห็น และพร้อมจะลบภาพ

    ผมว่าแฟร์นะ ถ้าเขาลบภาพแล้ว
    ผมก็พร้อมจะลบ comment ออกด้วย
    ถือเป็นการให้เกียรติซึ่งกันและกันครับ

     
  7. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
    พิมพ์รัศมีอายุประมาณ 100 ปีทีเดียว สวย สวย
    2 องค์นี้อ้างอิงจาก โจ พระราม 4 และ โต้ ท่าพระจันทร์

    <img style="-webkit-user-select: none; cursor: -webkit-zoom-in;" src="http://palungjit.org/attachments/a.3143446/" width="257" height="384"><img style="-webkit-user-select: none; cursor: -webkit-zoom-in;" src="http://palungjit.org/attachments/a.3143447/" width="254" height="380">
    <img style="-webkit-user-select: none; cursor: -webkit-zoom-in;" src="http://palungjit.org/attachments/a.3143448/" width="252" height="378"><img style="-webkit-user-select: none; cursor: -webkit-zoom-in;" src="http://palungjit.org/attachments/a.3143449/" width="249" height="374">
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. คิงคอง99

    คิงคอง99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    3,277
    ค่าพลัง:
    +23,769
    คิงคอง99 ขอบพระคุณ คุณ captainzire มากนะครับ รูปหล่อโบราณ หน้าฝรั่ง ฐานสูง บล๊อกนี้ 2องค์นี้ หาสวยสมบูรณ์แบบนี้ยากจริงๆครับ ผมยังคงเก็บภาพใส่กรอบไว้ตลอดครับเพราะตอนไม่มีหน้าฝรั่ง ผมแอบปิ๊งองค์ของคุณtoeykengในตอนแรกที่เห็นภาพพระ แต่ต่อมานับเป็นวาสนาของผมจริงๆที่องค์พ่อบล๊อกเดียวกันนี้มาโปรดผมถึงบ้านครับ(smile)(smile)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. เด็กโก-ลก

    เด็กโก-ลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    1,374
    ค่าพลัง:
    +3,061
    ขอคุณพี่ modpong ครับ
    ผมเพิ่งมาเล่นพระได้ปีเศษ ยังไงก็ขอฝากตัวพี่ๆทุกคนด้วยครับ
     
  10. SUPABUNG

    SUPABUNG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +793
    [​IMG]
    ขอบคุณครับพี่โต องค์นี้ประกวดได้ที่1 งานทีพิจิตร ที่3งานพื้นที่ ที่สามพราน ที่3อีกครั้งงานใหญ่ที่ศูนย์ราชการต้นปี56ครับ
    พระองค์นี้ภูมิใจสุดๆคับเพราะเป็นพระองค์แรกที่ผมดูเองว่าแท้และเลือกเก็บสะสมพระตั้งแต่นั้นมาคับ
    ใจแข็งฝ่าฟันเสียงวิพากวิจารว่าเก๊มาสาราพัด ไม่มีใครบอกแท้เรย ยกเว้นผมกับผู้ใหญ่ที่นับถืออีกท่านหนึ่ง
    พอมีงานประกวด ส่งประกวดหลายงานใหญ่ ติดรางวัลหลายงาน ทุกอย่างจึงชัดเจนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 3 พฤษภาคม 2014
  11. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
    เลื่อยฉลุเป็นอุปกรณ์ช่างที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก
    โดยทำหน้าที่ในการเลื่อยโลหะ หรือพลาสติกบาง

    <img style="-webkit-user-select: none" src="http://palungjit.org/attachment.php?attachmentid=3143493&amp;stc=1&amp;d=1399019250">
    คิดว่าน่าจะเป็นเลื่อยประเภทนี้ครับ
    ไว้ผมจะลองถามผู้รู้ที่เป็นช่างอีกทีครับคุณ jaturong
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. paper_white

    paper_white เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    2,021
    ค่าพลัง:
    +4,804
    รบกวนถ่ายใหม่ครับ เป็นไปได้ที่จะเป็นเนื้อผงยาจินดามณี ผสมผงใบลาน ไม่ใช่ผงยาจินดามณี จุมรัก (ที่นิยมที่สุด) ครับ แต่จากภาพมองพิมพ์ไม่ชัด เนื้อหามองยากครับ
     
  13. Amuletism

    Amuletism เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2009
    โพสต์:
    5,779
    ค่าพลัง:
    +18,372
    เรียนพี่ I3UNG ด้วยความเคารพเลย
    อยากให้ลองถ่ายรูปใหม่ครับ อีกเสียงครับ
    พูดตรงๆ นะครับ พี่ถ่ายรูปได้ดูเก๊มากๆ
    อาจจะเป็นเรื่องการใช้แสง หรือมุมมอง
    ซึ่งผมเองก็เคยถ่ายจน เขาดูว่าโค็ตเก๊เลย
    ทั้งๆ ที่เป็นพระแท้
     
  14. SUPABUNG

    SUPABUNG เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +793
    ได้ครับมีเวลาเด๋วจัดทำให้คับ ผมเข้าใจคับรูปผมกากจริงๆ ถ้ามีสมาชิกว่าไม่ชอบไม่ดี ผมลบรูปได้ครับ ไม่ซีเรียดใดๆครับ
     
  15. ทิพย์มงคล

    ทิพย์มงคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2011
    โพสต์:
    3,892
    ค่าพลัง:
    +8,215
    เอาใจช่วย ครับพี่ I3UNG ลองถ่ายรูปสวยๆมาให้ชมใหม่ครับ พิมพ์นี้ผมเห็นมาหลายเนื้อหา ปู่บุญท่านสร้างพระไว้มากมายหลายพิมพ์ พิมพ์เดียวกันยังมีแยกย่อยไปอีก ครับ

    [​IMG]
     
  16. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050

    เห็นด้วยจริง ๆ กับคุณpaperและอาจารย์หนุ่ม
    เรื่องถ่ายรูปใหม่ สำคัญมาก ๆ ครับคุณI3UNG
    และขอบคุณพี่ modpong ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2014
  17. ae noi

    ae noi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    4,134
    ค่าพลัง:
    +1,880
    หลวงพ่อคล้ายหลังคู้อุดกริ่งครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMGP6583.JPG
      IMGP6583.JPG
      ขนาดไฟล์:
      917.3 KB
      เปิดดู:
      101
    • IMGP6587.JPG
      IMGP6587.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      127
  18. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
    ความรู้เกี่ยวกับรักน้ำเกลี้ยงครับ พี่modpong ช่วยเสริมได้ครับ

    โดยสูตรการทำรักน้ำเกลี้ยง(มีหลายสูตร)นั้นท่านอาจารย์ให้นำรักดิบซึ่งเพิ่งกรีดใหม่ๆผสมกับรักดิบเก่าในอัตราส่วนประมาณ 5ต่อ1 แล้วนำน้ำมันจากถั่วเหลืองครึ่งส่วนผสมกันตั้งไฟเคี่ยวจนร้อนจัดกลางแดดแล้วกวนประมาณ 4-5 ชั่วโมงแล้วจึงช้อนน้ำรักที่ลอยอยู่ที่ผิวบนด้วยกระบวยไม้ไผ่เก็บไว้ในภาชนะที่ไม่เกิดปฏิกิริยาทางเคมีเช่นตุ่ม,ไห,โอ่งก็จะได้รักน้ำเกลี้ยง(หากไม่ใช้น้ำมันถั่วเหลืองให้ใช้ยางสนแทน)
    รัก

    รักที่ปรากฏในพระเครื่องไม่ว่าจะเป็นการลงรักบนองค์สมเด็จของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)คำว่า “รักน้ำเกลี้ยง”หรือพระปิดตาเนื้อผงคลุกรักของเกจิอาจารย์หลายๆท่านอีกทั้งความแตกต่างของ “รักจีน” กับ “รักไทย”จึงมาเล่าสู่กันฟังเรื่อง “รัก”เพื่อเป็นแนวทางการศึกษาและความกังขาของทุกท่าน
    รักจีนเป็นรักเก่าสีออกน้ำตาลอมแดง ถ้าเป็นรักไทยสีจะดำเข้ม จึงสรุปกันว่าพระที่มีรักจีนเป็นพระเก่าซึ่งก็ถูกแต่ถ้าจะให้ลึกซึ้งต้องทำความเข้าใจเรื่อง “รัก”และความสัมพันธ์กับพระเครื่องด้วย
    เมื่อพูดถึง “รัก”แทบทุกคนจะนึกถึง “ต้นรัก”ที่มีดอกสีม่วงสีขาว และมียางสีขาวซึ่งความจริงแล้วเป็นรักคนละตระกูลกันไม่สามารถกรีดยางมาทำ “รักดิบ”ได้ ต้นรักที่นำมาใช้ในวงการพระเครื่อง ตลอดจนการทำเครื่องเขิน ลงรักปิดทอง งานจิตกรรม-สถาปัตยกรรม เป็นรักที่อยู่ในตระกูลANCARDIACEAEในประเทศไทยทางเหนือเรียกว่า “รักหลวง”ชาวกระเหรี่ยงเรียก “ซู”เป็นไม้ขนาดใหญ่กิ่งก้านแน่นหนา(ให้นึกถึงต้นยางแถบภาคใต้)ใบใหญ่คล้ายใบมะม่วงออกดอกเป็นพุ่ม มีดอกเล็กๆคล้ายดอกต้นสัก อายุที่จะให้ยางรักได้จะต้องมากกว่า10ปี
    ส่วนรักต่างประเทศ ที่มีคุณภาพและเป็นที่มาของการพิจารณาพระที่มี “รัก” ได้แก่ “รักจีน” และ “รักญี่ปุ่น”ซึ่งมีการเพาะปลูกจนเป็นอุตสาหกรรมส่งออกมาตั้งแต่สมัยโบราณเมืองไทยซื้อรักจากจีนมาจนกระทั่งสิ้นสุดราชวงศ์เช็ง (ราว พ.ศ.2454)รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนจึงงดส่งออกรักมาพบรักจีนอีกครั้งเมื่อสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯทรงเป็นองค์ประธานการบูรณะวัดพระศรีรัตนศาสดารามหรือวัดพระแก้ว ในคราวฉลองกรุง 200 ปีด้วย พระอัจฉริยะและการเจริญสัมพันธไมตรีจึงได้รักจีนมารช่วยในงานตกแต่งบูรณะสถาปัตยกรรมในวัดพระแก้วนอกจากรักจีนและรักญี่ปุ่นแล้วยังมี
    รักเวียตนาม และรักไต้หวัน แต่คุณภาพสู้รักจีนและรักญี่ปุ่นไม่ได้ความนิยมใกล้เคียงกับรักไทย รักพม่า รักลาว และรักกัมพูชา ซึ่งเป็นรักสายเดียวกัน
    กรรมวิธีการให้ได้มาซึ่ง “ยางรัก” หรือ “รักดิบ”นั้นก็จะคล้ายกับการ “กรีดยาง”ของภาคใต้ยางรักที่ได้จากต้นรักจะมีคุณสมบัติคือยางรักที่กรีดใหม่ๆจะมีสีขาวเหลืองคล้ายน้ำนมเมื่อถูกแดดและอากาศจะเปลี่ยนเป็นสีเข้มขึ้นเรื่อยๆสามารถกันน้ำได้เมื่อแห้งตัวจะแข็งเป็นเงามันงดงามกว่าการเคลือบทางวิทยาศาสตร์ทุกชนิดคนโบราณนิยมเก็บไว้ในไหหรือตุ่มเพื่อจะคงความเหลวไม่จับตัวเป็นก้อนความไม่บริสุทธิ์ของยางรักจะเกิดจากฝุ่นละออง เปลือกไม้ น้ำฝน สนิมของภาชนะที่เก็บหรือมีการปลอมปนซึ่งจะส่งผลต่อคุณภาพของ “รัก”โดยตรง
    ลักษณะที่น่าสังเกตของยางรักแต่ละชนิด มีดังนี้
    -รักจีนเมื่อกรีดใหม่ๆจะออกสีขาวอมเทาคล้ายน้ำนมเมื่อทิ้งไว้จะออกสีน้ำตาลอมแดงเป็นรักที่มีคุณภาพที่สุด
    -รักญี่ปุ่น ลักษณะคล้ายรักจีนแต่สีเข้มกว่าเล็กน้อยได้รับความนิยมสูง
    -รักเวียตนามจะคล้ายรักไทยเมื่อแห้งจะเปราะบางและมีสีดำ
    -รักไทย รักพม่า และรักกัมพูชาเมื่อปล่อยไว้ให้แห้งจะมีสีดำสนิทคุณภาพสู้รักจีนและรักญี่ปุ่นไม่ได้ข้อแตกต่างอีกประการหนี่งคือแห้งตัวช้ากว่ารัก
    จีนและรักญี่ปุ่นและจะมีสีดำสนิทกว่ารักเวียตนาม

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2014
  19. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
    รักกับพระเครื่อง ถ้ามีประโยชน์ก็อ่าน ขออภัยครับยาวจริง ๆ

    รักกับพระเครื่อง

    โบราณาจารย์และพุทธศาสนิกชนในอดีตได้อาศัยรักในการจัดสร้างพระเครื่อง เครื่องรางของขลังเพราะรักมีคุณสมบัติพิเศษที่สามารถรักษาเนื้อพระและสภาพองค์พระให้สมบูรณ์ตามเดิมแม้เวลาจะล่วงเลยไปหลายร้อยปีส่วนการสร้างพระปิดตาที่เรียกว่า “เนื้อผงคลุกรัก” น่าจะหมายถึงการสร้างพระเนื้อผงตามแบบโบราณแล้วนำรากต้นรักซ้อน , กาฝากรัก , ดอกรัก , ยางต้นรักอันเป็นไม้มงคลนามผสมผสานกันโดยมียางรักเป็นตัวประสานเฉกเช่นคณาจารย์บางท่านใช้น้ำมันตังอิ๊วบางท่านใช้น้ำอ้อยเป็นต้น
    ส่วนคำว่า “จุ่มรัก” นั้นหมายถึงการนำพระทั้งองค์จุ่มลงไปในรักดิบหรือยางรักแล้วผึ่งให้แห้งเพื่อรักษาเนื้อหามวลสารขององค์พระเอาไว้เช่นตำนานการสร้างพระปิดตาหลวงพ่อแก้ว “วัดเครือวัลย์”ที่จุ่มรักหรือชุบรักเพื่อมิให้ผู้ใดขูดผงบนองค์พระนำไปทำเสน่ห์เล่ห์กลผิดลูกผิดเมียผู้อื่นและนอกจากนี้การจุ่มรักเมื่อผึ่งองค์พระให้แห้งหมาดๆเมื่อนำทองคำเปลวมาติดเป็นพุทธบูชาจะสามารถติดได้แน่นสนิทสวยสดงดงามเป็นอันมาก
    แต่การจุ่มรักหรือชุบรักนั้นแม้เป็นการรักษาเนื้อพระที่คนโบราณมักจะใช้แช่ทำน้ำมนต์บ้างหรือฝนกินตลอดจนอมไว้ในปาก น้ำรักมักจะบดบังพุทธศิลปะแห่งองค์พระไปจึงมีผู้คิดวิธีทำ “รักน้ำเกลี้ยง” คือเป็นรักที่เกิดจากยางรักเช่นกันหากแต่มีสีขาวใสเหมือนทาแชลแล็คเคลือบไว้สามารถแลเห็นพุทธศิลปะขององค์พระเช่นเดิม โดยสูตรการทำรักน้ำเกลี้ยง(มีหลายสูตร)นั้นท่านอาจารย์ให้นำรักดิบซึ่งเพิ่งกรีดใหม่ๆผสมกับรักดิบเก่าในอัตราส่วนประมาณ 5ต่อ1 แล้วนำน้ำมันจากถั่วเหลืองครึ่งส่วนผสมกันตั้งไฟเคี่ยวจนร้อนจัดกลางแดดแล้วกวนประมาณ 4-5 ชั่วโมงแล้วจึงช้อนน้ำรักที่ลอยอยู่ที่ผิวบนด้วยกระบวยไม้ไผ่เก็บไว้ในภาชนะที่ไม่เกิดปฏิกิริยาทางเคมีเช่นตุ่ม,ไห,โอ่งก็จะได้รักน้ำเกลี้ยง(หากไม่ใช้น้ำมันถั่วเหลืองให้ใช้ยางสนแทน)
     
  20. stoes

    stoes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    8,343
    ค่าพลัง:
    +9,050
    พิจารณาความแท้จาก “รัก”

    การพิจารณาความแท้ขององค์พระจาก “รัก”

    เป็นที่น่าแปลกใจที่ “พระแท้” เท่าที่พบโดยเฉพาะพระเครื่อง พระปิดตา และเครื่องรางประเภทตะกรุด,ลูกอมของเกจิอาจารย์ผู้โด่งดังสามารถวิสัชนากันได้โดยยึดหลักการดู “รัก”เป็นส่วนใหญ่จากความพยายามค้นคว้ามานั้น พบว่า พระคณาจารย์ตั้งแต่ปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาจนถึงปลายรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงเทพทวาราวดีศรีรัตนโกสินทร์ส่วนใหญ่ที่สร้างพระเครื่องและของขลังพากันใช้ “รักจีน” เป็นหลัก เมื่อดูจากบริบททางประวัติศาสตร์ก็จะพบว่าในระยะนั้นไทย เวียตนาม ลาวกัมพูชามิได้เพาะปลูกต้นรักผลิตยางรักเป็นอุตสาหกรรมส่งออกนอกประเทศแต่เป็นการผลิตชนิดที่เรียกว่า “ของป่า”อาศัยเก็บเกี่ยวยางรักที่ขึ้นอยู่เองตามธรรมชาติใช้กันภายในอีกทั้งคุณภาพตลอดจนปริมาณที่ได้ก็ไม่เพียงพอที่จะส่งออกจะเห็นว่าไทยกับจีนมีสัมพันธภาพที่ดีทางการค้ามาเป็นเวลายาวนานช่วงกลางกรุงศรีอยุธยาลงมาจนถึงรัตนโกสินทร์ไทยรับเอาอิทธิพลทางด้านการเคลือบจากจีนอย่างเด่นชัดนับตั้งแต่การสร้างแหล่งเตาเผาชามสังคโลกบริเวณแม่น้ำน้อย จ.สิงห์บุรี สมัยสมเด็จพระนครินทราชาการติดต่อสั่งทำถ้วยชามเบญจรงค์อาทิชามเจ้าตากสมัยกรุงธนบุรี การนิยมศิลปะจีนในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3เรื่อยมาจนถึงรัชกาลที่5 จุดที่น่าสังเกตุคือบรรดาคณาจารย์ที่ใช้ “รักจีน”นั้นล้วนแต่เป็นผู้เกี่ยวข้องเป็นอาจารย์ของบรมวงศานุวงศ์หรือชนชั้นสูงในระยะนั้นแทบทั้งสิ้นเช่น เจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี),หลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง,หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าเป็นต้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...