@ปัญหาชีวิต ฯลฯ@

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย phuang, 14 กรกฎาคม 2005.

  1. LNS@BDZ

    LNS@BDZ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    419
    ค่าพลัง:
    +1,585
    กลุ้มครับ เรื่องผู้หญิง L ไปแอบชอบผู้หญิงคนนึง ห้องข้างๆ เธอน่ารักมากๆ แต่เธอคนนั้นไม่ได้ชอบ L กลับเลย L ยอมรับว่าหน้าตา L ก็ไม่หล่อ อย่างอื่นก็เด่นไม่พอที่เธอคนนั้นจะชอบ ตอนนี้เธอคนนั้นไม่กล้าคุยอะไรกะ L เลยครับ คอยแต่จะหลบหน้า L ตลอด L เองก็อยากจะให้เธอเข้าใจ L จริงๆ L ไม่ต้องการให้เธอเป็นแฟน L หรอก แค่ให้ความเป็นเพื่อนกับ L เหมือนที่เคยเป็นก็เพียงพอแล้ว ทำตัวกับ L เหมือนที่เคยเป็น แต่ตอนนี้เธอคงไม่รับฟัง L แล้ว จะทำยังไงดีครับ ตอนนี้นั่งสมาธิไม่ไหวเลย เห็นเธอกันทุกวัน จะเลี่ยงก็ไม่ได้ L ก็ชอบมองบ่อยๆ ด้วย
    ตอนนี้ L คิดจะทำอะไรบางอย่าง(ฆ่าตัวตาย) L คิดว่าถ้าเราตาย เธอคงมาสนใจเราบ้าง คนเราจะมาสนใจบางคนก็ต่อเมื่อตายเท่านั้นใช่มะ แต่ L ไม่ต้องการหรอก ที่เธอจะมาบอก L ตอนที่ L ตายแล้ว L อยากให้เธอมาเข้าใจตอนนี้เลย ได้มั้ยครับ แล้วตอนนี้จะทำยังไงดีครับ ให้เธอเข้าใจ L ก็พอ
    ป.ล.L อายุ 14 ครับ คุณคงเข้าใจ L แล้วสินะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 สิงหาคม 2007
  2. BirdSoul

    BirdSoul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2007
    โพสต์:
    4,248
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +12,020
    น้องจ๋า น้องยังเด็กเหลือเกิน ยังมีเวลาที่จะเจอใครอีกมากมาย ผู้หญิงในโลกก็มีอีกเยอะ ความรักเป็นสิ่งงดงามแต่ไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิต น้องมีโครงการที่ดีที่คิดจะทำ พี่ว่าดีนะ เด็กอายุขนาดน้องคิดทำอะไรแบบนี้ พี่ทึ่ง ตอนพี่ 14 ยังเอาแต่อ่านการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่เลย ลองมุ่งความสนใจไปยังโครงการที่คิดจะทำดีกว่าแล้วน้องจะลืมเธอไปเอง
    พี่ว่าเธอคนนั้นมีเหตุผลทีจะไม่คุยกับน้อง เพราะเธอไม่อยากให้ความหวังน้อง
    ในฐานะที่พี่เป็นผู้หญิง เอ้อไม่อยากคุย ตั้งตอนโน้นนน อาจจะนานมาแล้วสักหน่อย ก็มีนะ มีไอ้หนุ่มหน้ามืดตามัวมาเมียงมองพี่อยู่หลายคนเหมือนกัน...แต่ถ้าพี่คิดว่าเค้าไม่ใช่ ไม่เป๊ค พีก็ไม่อยากจะไปเสวนาให้เสียเวลา เพราะไม่อยากให้เค้าเข้าใจผิดคิดว่าเรามีใจให้...น้องก็อย่าไปโกรธเธอเลย ในท่าทีที่เธอแสดงต่อน้อง และอย่าน้อยอกน้อยใจในความไม่ค่อยหล่อและไม่ค่อยเด่นของตัวเอง ผู้หญิงไม่ได้ดูผู้ชายที่หน้าตาอย่างเดียวหรอก อย่างพี่ชอบผู้ชายที่มีความคิดอ่านดีมากกว่าหน้าตาดี และพี่เชื่อว่าน้องซึงกำลังคิดทำโครงการดีๆแบบนี้ น่าจะได้เติบโตเป็นชายหนุ่มที่ดี คิดดีทำดี และสักวันน้องจะได้เจอผู้หญิงที่ดีเช่นเดียวกับน้อง
    เป็นกำลังใจให้นะ อนาคตยังอีกยาวไกล อย่าด่วนตัดสินใจทำในสิ่งผิดพลาด ผู้หญิงเค้าไม่สนหรอก ถ้าน้องจากไป แต่คนที่รักน้องมากที่สุดในชีวิต จะต้องเสียใจไม่มีวันหาย...(ping)
     
  3. wayamo

    wayamo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +396
    เงิน งาน การศึกษาต้องมาก่อน อย่าพิ่งจรหารักการจักเสีย
    ขาดเงิน ขาดงาน พาลขาดเมีย การไม่เสียเงินก็มาพาเจริญ
    น้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเถอะ ดูแล้วน้องก็มีความคิดที่ดีสำหรับวัยนี้
    ประสบความสำเร็จในการศึกษาและทำงานเมื่อไรค่อยคิด
    ที่ใดมีรักที่นั้นมักมีทุกข์ครับ ความรักนี่ละมารตัวสำคัญสำหรับการใช้ชีวิต
    ทำให้คนเสียคนมามากนัก
     
  4. สายนำแก่ง

    สายนำแก่ง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +73
    ผมมีปัญหาคล้ายๆกับป้าเม้าท์ครับ แต่ผมหนักกว่าตรงที่ครอบครัวไม่เข้าใจผม
    ..แต่ทุกวันนี้อยู่ได้ก็เพราะผมห่วงลูก..เวลาทำงานดึกๆแฟนก็ไม่เข้าใจคิดว่าเราไม่ให้ความสำคัญกับครอบครัว แต่ไม่จริงครับเพราะผมต้องหาเงินให้ได้เยอะๆจะได้พอใช้หนี้...ผมเคยคิดฆ่าตัวตายมาหลายครั้งแล้วครับ...เคยคิดมากกว่านั้นอีก...จน ณ ปัจจุบันนี้ผมก็ยังคิดไม่ออกเลยว่าจะแก้ปัญหาได้หรือเปล่า...
    เห็นหน้าลูกทีไรเหนื่อยใจทุกทีครับ...
     
  5. BirdSoul

    BirdSoul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2007
    โพสต์:
    4,248
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +12,020
    โธ่คุณสายนำแก่ง ฉันมีพี่น้องรวมห้าคน พี่ฉันสามคนและฉันอีกคนเป็นหนี้บัตร
    เครติต และติดแบล๊คลิสทั้งสี่คน เห็นมั้ย แค่ครอบครัวเดียวนะเนี่ย แล้วลองคิด
    ดูถึงคนทั้งประเทศ ถ้าทุกคนคิดแบบคุณ สงสัยคนไทยคงฆ่าตัวตายเกือบหมด
    ประเทศแล้ว (พี่สาวคนโตเลี้ยงลูกโดยลำพัง ตอนนี้ทยอยใช้หนี้เกือบหมดแล้ว
    พี่ชายอีกคน ก็ใช้หมดไปแล้ว ส่วนฉันก็เหมือนกันทยอยใช้ไปได้ครึ่งแล้ว)

    ที่แฟนคุณไม่เข้าใจนี่ ไม่เข้าใจก็บอกเธอสิ ไม่เห็นยาก
    คุณมาพิมพ์บอกแค่ไม่กี่ประโยค ฉันอ่านแล้วยังเข้าใจเลย
    นับประสาอะไร คุณเจอหน้าเธอทุกวัน อธิบายให้เธอเข้าใจ
    คงไม่ยากเกินความพยายามหรอก จริงมั้ย

    แล้วที่คุณเห็นหน้าลูกแล้วเหนื่อยใจก็เหมือนกัน เปลี่ยนเป็นเห็นแล้วชื่นใจ กลับ
    มามีกำลังใจดีกว่ามั้ง นี่แสดงว่าคุณมองอะไรก็แย่ไปหมดไม่ดีไปหมด คุณต้อง
    เปลียนมุมมองใหม่ วันนี้คุณเป็นหนี้ คุณได้อะไร คุณได้ประสบการณ์จากมันใช่
    มั้ย ถึงคุณไม่เป็นวันนี้ วันหน้าคุณก็อาจต้องเป็น เป็นมันเสียวันนี้ วันที่คุณยังมี
    เรี่ยวมีแรงหาเงินมาใช้หนี้ ยังดีกว่าไปเป็นวันที่คุณแก่ไม่มีแรงทำงานหาเงินใช้หนี้ จริงมั้ยคะ

    ส่วนประโยคที่คุณบอกว่า...เคยคิดมากกว่านั้นอีก... ขอให้คุณเลิกคิดไปเลย
    ฉันละเบื่ออ่านข่าวประเภทนี้ คุณพาครอบครัวหนีไป กรรมมันก็ต้องมาตกที่พ่อ
    แม่พี่น้องอยู่ดี แล้วคุณคิดจะหนีกรรมพ้นเหรอ ชาติต่อๆไปคุณก็ต้องกลับมาชด
    ใช้อยู่ดี และจะหนักหนาสาหัสกว่าหลายเท่า

    ฉันเอาลิงค์เว็บบอร์ดที่พูดคุยปัญหาเรื่องพวกนี้ แวะเข้าไปอ่านศึกษาดู
    น่าจะช่วยเป็นแนวทางให้คุณคิดแก้ปัญหาของคุณได้
    http://www.consumerthai.org/debt_club/index.php

    เกิดเป็นลูกผู้ชาย และได้เป็นพ่อคนแล้ว ต้องเข้มแข็งอย่ายอมแพ้นะคะ ฉันยังสู้เลย คุณจะยอมแพ้ฉันเหรอ อิอิ

    (b-smile)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2007
  6. สายนำแก่ง

    สายนำแก่ง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +73
    ขอบคุณมากครับพี่ BirdSoul สำหรับคำแนะนำ เป็นประโยชน์มากครับ
    ต่อไปนี้ผมจะสู้ และหวังว่าทุกท่านที่มีปัญหาเหมือนกับผมจะมีสตินะครับ
    ....สาธุ
     
  7. ใต้ดอกบัว

    ใต้ดอกบัว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +26
    วันนี้ (12/12/2550) ภรรยาได้บอกเลิกกับผมแล้วครับ ผมเองก็อยากเลิกกับเขาเหมือนกัน เราทั้ง 2 คบกันมา 9 ปีกว่า ๆ มีลูกสาวด้วยกัน 1 คนอายุ 5 ขวบ เราพึ่งจะมาอยู่ด้วยโดยเช่าบ้านกันอยู่ติด ๆ กับบ้านแม่ยาย เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2550 ที่ผ่านมา เราทั้ง 2 จึงตัดสินใจแยกกับบ้านไปอยู่กันเหมือนเดิม ตลอดเวลา 4 ปีกว่า ๆ ที่ผ่านมา

    เพราะก่อนหน้านั้น ภรรยาและลูกสาวผมได้อาศัยอยู่กับครอบครัวของเขาซึ่งมีพ่อและแม่ สุนัขอีก 7 ตัว ระยะเวลาที่ผ่านมา ผมได้พักอาศัยอยู่กับแม่และน้อง ๆ ของผม ทุก ๆ วันผมจะขี่รถจากคลอง 4 ลำลูกกา เพื่อไปสะพาใหม่ ไปหาลูกไปหาภรรยาที่หน้าบ้านทำแบบนี้มาตลอด พร้อมทั้งส่งลูกไปร.ร เพราะเป็นทางผ่านไปทำงาน

    ตลอดระยะเวลาลูกผมอายุจะครอบรอบ 5 ขวบ วันที่ 28 นี้ ผมรับผิดชอบทุก ๆ อย่างตั้งแต่แรกเกิด พาเมียไปฝากครรภ์ทำคลอดเสียทีเป็นหมื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การศึกษาลูกร.ร.เอกชน ค่าใช่จ่ายพยาบาลประกันต่าง ๆ ค่านมและขนม ยกเว้นเสื้อผ้าและค่าอาหารตอนเย็น ส่วนแฟนผมไม่ได้ทำงาน ผมให้ใช้วันละ 100 บาทโดยเฉลี่ยต่อวัน ในแต่ละครั้งให้ที 300-500 บาทต่อครัง

    ทุกวันนี้แฟนผมไม่ได้ทำงาน ตั้งแต่ผมส่งเสียให้เธอเรียนจบ ป.ตรี พึ่งทำงานได้แค่ครั้งแรก ทำงานได้ 10 เดือน ลาออกอยู่กับบ้านจนถึงปัจจุบัน ผมก็ให้เธอไปหางานจะได้ช่วยเหลือกัน กับมาด่าว่าผมต้องการเงินเดือนจากเธอ เพราะก่อนหน้านี้เขาทำงานผมไม่เคยได้เงินจากภรรยแม้สักบาทเดียว ผมเข้าใจเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน แถมผมต้องเสียค่าชุดพนักงาน+ค่ากินรายวัน+ไปรับไปส่งอีก จนในที่สุดเธอเองก็ไปหางาน สมัครงานอยู่หลาย ๆ ที่ แต่เธอก็ไม่มีการติดกลับเพื่อไปทำงานเลย แม่ของเธอเป็นแม่บ้านอยู่กับบ้าน ส่วนพ่อของเธอทำงานกับรัฐวิสาหกิจเงินเดือน 7 หมื่นบาท

    ทุกวันนี้เงินเดือนผม 12,000 บาท ผมต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน ค่ากินลูกและภรรยาผมให้เธอวันละ 100 บาท ให้แม่ผมด้วยประมาณ 2000 บาท บางครั้งผมเครียดมาก ๆ บางครั้งนั่งร้องไห้คนเดียว ถึงขั้นยากตาย ผมเองมีนิสัยใจเย็น ใจร้อนบาง ไม่เที่ยว ไม่เล่นการพนัน ไม่สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าบางโอกาสระยะนี้ไม่ดื่มเพราะเก็บตังค์ไว้ให้ลูก ไม่เคยตีลูกเมีย ไม่มีชู้ ผมมีบัตรเคดิตอยู่หลาย ๆ ใบ บางทีก็กดเงินมาใช้เพราะมันไม่พอ พอสิ้นเดือนก็ต้องใช้คืนติดลบมาเรื่อย ๆ แต่ภรรยาผมก็ไม่เข้าใจ เอาแต่ด่าว่าผมเช้า-เย็น หาว่าไม่รับผิดชอบ แม่ยายก็มายืนชี้หน้าด่าผมหน้าบ้านหลังที่เช่าอยู่ด้วยกัน เพราะภรรยาผมไปฟ้องแม่ยายหาว่าปล่อยให้เขาอด ๆ ยาก ๆ ผมทำดีที่สุดแล้ว แต่ที่สุดมันก็ยังไม่ดีอีก

    ก่อนหน้า ที่จะมาอยู่ด้วยกันช่วงที่มีลูก ก็ทะเลาะเรื่องเงินโดยมาตลอด ความไม่พอเพียง แต่ว่าลูกกับภรรยากินกับบ้านแม่ยายครอบครัวของเขามันก็ช่วยกระเป๋าผมได้บาง แต่ยังไม่นับไปเที่ยวกัน ซื้อเสื้อผ้าให้รวมถึงของลูกในบางครั้งบางทีต้องรูดจากบัตรเครดิต

    แต่ครั้งที่เราสองคนทะเลาะกันแม่ยายก็ยุให้เลิกกับลูกของเขา ที่ผ่านมาแม่ยายก็ไม่ชอบขี้หน้าผม ยุให้เลิกกันมาโดยตลอดเพราะผมมันจน แต่เวลาไปต่างจังหวัด ใช้รถกระบะขนของ ไปวัดไกล ๆ แม่ยายก็มาอาศัยผมให้ผมยืมรถกะบะที่ทำงานไปช่วย ทำไมแม่ยายไม่นึกถึงความดีของผมบางเลย ผมทำอะไรดี ๆ หลาย ๆ อย่าง ทั้ง ๆ ที่บ้านภรรยาผมมีรถตั้ง 2 คันแต่ไม่ใช้ ผมไปไหนมาไหนก็ชอบซื้อของฝากมาเอาใจ ทำดีต่อหน้าและลับหลัง คิดแต่สิ่งดี ๆ เปรียบเหมือนแม่ของผม

    ตลอด 5 ปีที่ผ่านมาเท่ากับอายุของลูกสาวผม วัน ๆ แม่ยายชอบด่าว่าเสียงดัง ลูกชายน้องภรรยาของผมชอบด่าว่าแม่แรง ๆ จนกระทั้งแม่ยายร้องไห้ก็มี บางทีภรรยาผมก็ชอบด่าพ่อของเธอเอาคำจากสวนสัตว์มาใช้ด้วย แต่ผมก็รักและเข้าใจ เพราะนิสัยใจคอเหมือนแม่ยาย

    ทุก ๆ ครั้งผมเองอยากจะหนีไปไกล้ ๆ แต่ผมก็อดคิดถึงลูกไม่ได้ คิดถึงวันเก่า ๆ ที่ผมและภรรยาเคยหนีออกมาใช้ชีวิตด้วยก่อนจะมีลูก ประมาณ 4 ปี เพราะปัญหาแม่ของเขา เราสองคนไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด เธอเอาใจผมเก่ง และก็พูดเพราะกับผมไม่เคยด่าว่าผมถึงแม้ผมจะทำผิดไปบาง ผมเองก็ดูแลเธอเป็นอย่างดี

    แต่ปัจจุบันมันตรงกันข้ามหลังจากคลอกลูกเธอย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านกับครอบครัวของเธอนิสัยต่าง ๆ นา นา กับเปลี่ยนเป็นคนละคนด่าว่าพ่อแม่ เถียงแบบผมไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนทำได้แบบนี้ ตีลูกแบบไม่เหตุผล วัน ๆ เอาแต่นอน ดูทีวี กี๊ด ๆ กับดาราเกาหลี

    ล่าสุดเมื่อวานตอนเย็นผมรับลูกไปนอนบ้านผม ผมก็ขอคุยแต่เธอไม่อยากคุยกับผม ผมก็พยายามขอ 5 นาที จนเธอรำคาญก็เลยตัดสินใจคุยด้วย เธอบอกว่าทุกวันนี้พ่อแม่เธอไม่พอใจที่ให้กินให้ใช้วันละ 100 บาท มันเป็นเพียงแค่เศษเงิน ลูกเขาลำบาก ผมก็พูดว่าไม่ใช่แค่ 100 บาท ผมก็พาไปเที่ยวซื้อของที่เธออยากได้ แต่ทำไมเราไม่ช่วยกันทำมาหากินเหมือนชาวบ้าน หรือคนอื่น ๆ จะได้ช่วยกันเก็บจะได้มีเงินไปซื้อบ้านอยู่ด้วยกันชีวิตจะได้ดีขึ้นอายุก็ใกล้ 30 ปีกันแล้ว และเธอเลิกด่าว่าเสียทีเราไม่ได้ทำอะไรให้เธอก็บ่น และด่าว่า เลิกเอานิสัยแม่เธอมาใช้ได้ไหม ทำตัวให้เป็นคนมีเหตุผลได้ไหม เป็นเมียที่ดีมีเมตตา กรุณา ไม่ใช่วัน ๆ อยู่เฉย ๆ เอาแต่นินทราชาวบ้าน เห็นใครดีเกินกว่าไม่ได้ต้องอิจฉาคนอื่น ๆ เธอตัดบทบอกว่าเราแยกทางกันอยู่ดีกว่าเพื่ออะไรมันจะดีขึ้นมา

    ที่ผ่านมาภรรยาผมได้รับคำชี้นำจากแม่ยาย สอนในทางที่ผิดต่าง ๆ มากหมาย เห็นเงินมีค่ามากกว่าจิตใจที่ดีของมนุษย์ บางที่วันพระหรือวันเข้าพรรษาแม่ยายนุ่งขาวห่มขาว ไม่กินเนื้อสัตว์ แทนที่จะช่วยขัดเกลาจิตใจให้ผ่องใสแต่กลับไม่ ชอบด่าว่าแม่ตัวเองยายของภรรยาผมจนร้องให้ ทำให้ผมเห็นกรงกรรมกรงเวียนในที่สุดลูกทั้ง 2 ก็ไปด่าว่าพ่อว่าแม่เมื่อไม่ได้อะไรดั่งใจ ถึงวันนี้ลูกผมมันฉลาดมาก ๆ เริ่มที่จะเถียงตา ยาย และแม่ของลูก

    และล่าสุดลูกไม่สบายไปนอนโรงพยาบาล เป็นปอดบวม แทนที่จะโทรมาบอกผมว่าลูกเข้าโรงพยาบาล ผมต้องโทรไปหาเองช่วงจังหวะไปหาลูก แต่ไม่เห็นลูกอยู่หน้าบ้าน แม่ยายก็ทำเป็นเฉย ๆ แทนที่จะบอกกันสักนิด แต่เอาเถอะ ลูกนอน 3 คืน ผมกลับต้องจ่ายค่าส่วนเกินหักจากค่าประกันสุขภาพลูกที่ทำเอาไว้ จำนวนเงิน 4,482 บาท ผมแทบตกใจว่าทำไมมันแพงจังภรรยาผมไม่พอใจ ที่มันแพงก็เพราะค่ารักษาลูก ทำเพื่อลูกไม่ได้หรอ ! แต่ผมมารู้ที่หลังภรรยาสั่งเป็นห้องเดียว ประกันจ่ายให้ค่าห้องคืนละ 1200 บาท ห้องเดียวพิเศษมันราคา 2,694 บาทต่อวัน สรุปว่าว่าต้องจ่ายส่วนเกินต่อวัน 1,494 บาท ผมถามว่าแล้วทำไมไม่ปรึกษาผม ถ้าลูกนอนห้องคู่ผมต้องเสียส่วนเกินแค่วันละ 500 บาทเอง เอาเงินไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์เพื่อลูกเพื่อเธอดีกว่า ภรรยาผมบอกว่าเพื่อความสุขสบายของลูกและครอบครัวเธอ เวลาแม่ภรรยามาเยี่ยม จะได้เป็นส่วนตัวไม่ต้องไปยุ่งกับใคร ผมคิดในใจผมใจดีกับเธอมาเยอะมาก ๆ แทนที่เธอจะขอโทษ หรือทำหน้าสงสาร ผมก็จะยกโทษให้ ผมก็เลยบอกว่าคนล่ะครึ่งดีไหม เธอเงียบแล้วไปปรึกษาแม่ของเธอ เธอตอบกลับมาบอกว่าได้ ตั้งแต่วันนั้นเธอก็ไม่พูดกับผมเอง หาว่าผมไม่มีความรับผิดชอบทำเพื่อลูกไม่ได้ ผมไม่รู้จะทำไงดี (u)

    ผมแค่ขอความกรุณาเพื่อน ๆ ในเว็บพลังจิตช่วยชี้นำทางให้ผมที ผมสับสน ไม่มีที่พึ่งทางใจ ผมมีแม่ก็ไม่อยากต้องให้ลำบากใจกับความผิดหวังทางครอบครัวผม ผมจะหาวิธีแก้ไขทุกข์นี้ได้อย่างไรดีครับ มันทรมานเหลือเกิน ถ้าผมทุบตี หรือทำร้ายพ่อแม่และภรรยาผม หรือให้อด ๆ ยาก ๆ จริง หรือไปมีคนใหม่ ผมก็จะไม่ทุกข์ ปานนี้ผมไปมีความสุขไปถึงไหนแล้ว แต่เพราะผมรักครอบครัวของผมไม่รู้จะหาวิธีแก้ไขอย่างไรดีครับ แนะนำทีครับ ถือว่าช่วยสัตว์โลก
     
  8. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,595
    ค่าพลัง:
    +6,346
    เรียนผู้ที่มีกองทุกข์ทั้งหลายดังนี้

    ผมขอให้ท่านอ่านคำสอนของพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
    ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่ใช่ของเรา เราตาย เราเกิด ก็เพียงแค่คนเดียว (ยกเว้นตายหมู่หรือแฝด) นี้ละครับคือสัจธรรมบนพื้นฐานของมนุษย์ที่จะต้องแก้ปัญหากับการดำเนินชีวิตบนวิบากกรรมของแต่ละคนที่วิบากกรรมไม่เหมือนกัน เพราะคุณเป็นผู้สร้างมันมาจากชาติปางก่อน ภพนี้คุณก็ต้องชดใช้กรรมที่กระทำเอาไว้ขึ้นอยู่สภาพจิตใจของผู้เป็นทุกข์ว่าสามารถแก้ไขได้ไหมบนวิบากกรรมนี้ ในภายชาติหน้าจะได้ไม่ต้องเจอวิบากกรรมนี้อีก

    ทุกข์เพราะคนรักหนีจากไป
    โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก



    สามีภรรยาคู่หนึ่งรักใคร่กันดี แต่พอประสบปัญหาเศรษฐกิจไม่ดี ก็เริ่มมีปากเสียงกันและมากขึ้นๆ จนภรรยาทนไม่ได้ขอกลับไปอยู่กับแม่ ต่อมาเมื่อสามีได้อ่านหนังสือ “ทุกข์เพราะคิดผิด” ก็ได้คิดสำนึกรู้ตัวว่าตัวเองก็ผิดมากเพราะใช้อารมณ์และบ่นมากไป จึงไปเจรจาขอให้ภรรยากลับบ้าน แต่ภรรยาไม่ยินยอม คงพูดถึงเรื่องเก่าๆ ด้วยความเจ็บใจ สามีก็เป็นทุกข์เพราะทั้งห่วงและหวงภรรยา จึงมีจดหมายมาปรับทุกข์กับพระอาจารย์

    พระอาจารย์สอนว่า

    อาตมาได้รับจดหมายจากคุณโยมแล้ว รู้สึกว่าเห็นใจคุณโยมเหมือนกัน แต่ว่าคุณโยมก็ควรพิจารณาให้เข้าใจ และยอมรับความจริงของชีวิต คุณโยมคงจะรู้สึกเป็นทุกข์และคิดว่าตัวเองเป็นคนที่โชคร้ายมากคนเดียวในโลก แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่คุณโยมกำลังประสบอยู่ก็เป็นธรรมดาของมนุษย์ทุกชีวิต ไม่มากก็น้อย ไม่ปัจจุบันก็ในอนาคต ไม่วันใดก็วันหนึ่ง

    ความรู้สึกผิดหวัง ไม่สมปรารถนา เสื่อมลาภ ทุกข์ เป็นโลกธรรมฝ่ายที่ให้โทษ แต่ทุกคนก็ล้วนต้องประสบ ถ้าเราศึกษาพุทธประวัติ จะพบว่าแม้แต่พระพุทธองค์เองก็ประสบเหมือนกัน เมื่อครั้งพระพุทธองค์เสด็จหนีออกจากวังไปบวชเพื่อแสวงหาความพ้นทุกข์ เพื่อช่วยตนเองและผู้อื่นนั้น แม้ว่าเป็นเจตนาที่ดีก็ตาม แต่เมื่อดูความรู้สึกของพระบิดา พระมเหสี พระโอรส และพระญาติของพระองค์ ก็คงมีความรู้สึกเหมือนคุณโยมในปัจจุบันนี้เช่นกัน

    นอกจากนั้น ลูกศิษย์ของพระองค์เองคือ พระเทวทัต ก็ได้พยายามฆ่าพระองค์อยู่หลายครั้ง และมีช่วงหนึ่งพระราชาผู้ซึ่งเป็นโยมอุปฐากของพระพุทธองค์มีเหตุให้ต้องยกกองทัพไป ฆ่าพระญาติของพระองค์ทั้งหมด พระพุทธองค์ได้ทรงห้ามถึง 3 ครั้ง จนถึงครั้งที่ 4 พระองค์ทรงพิจารณาแล้วว่าเป็นกรรม ไม่สามารถห้ามได้ เป็นเหตุให้ราชวงศ์ศากยะถูกฆ่าหมด พระพุทธองค์หมดสิ้นพระญาติตั้งแต่บัดนั้น และครั้งหนึ่งพระองค์เสื่อมเอกลาภถึงขนาดที่ทั้งพระองค์และหมู่ภิกษุต้อง ฉันอาหารที่ใช้เลี้ยงม้าตลอดทั้งพรรษา

    ในบางพรรษา ลูกศิษย์ของพระพุทธองค์มีเรื่องขัดแย้งถึงแตกสามัคคีกัน พระองค์ทรงห้ามอย่างไรก็ไม่เชื่อฟัง พระองค์จึงเสด็จหนีไปจำพรรษาอยู่ในป่าตามลำพัง อีกครั้งหนึ่งที่โลกธรรมฝ่ายที่เป็นโทษเกิดแก่พระพุทธเจ้า คือเมื่อ พระองค์ถูกชาวเมืองนินทาว่าร้าย เพราะถูกนักบวชนอกศาสนาใส่ความว่า พระองค์ทำให้อุบาสิกาตั้งท้อง

    ให้คุณโยมน้อมพิจารณาดู แม้แต่พระพุทธองค์ผู้ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นมหาบุรุษของโลก ชีวิตของพระองค์ก็ไม่ราบรื่นเช่นกัน พระพุทธองค์ก็ได้ตรัสสอนว่า “ชีวิตเป็นทุกข์”

    “ทุกข์สัจจะ” ได้แก่

    1. ความเกิด ความแก่ ความเจ็บ ความตาย เป็นทุกข์
    2. ความประสบกับสิ่งไม่เป็นที่ชอบใจ ก็เป็นทุกข์
    3. ความพลัดพรากจากสิ่งเป็นที่รักที่พอใจ ก็เป็นทุกข์
    4. ความผิดหวัง ไม่ได้รับสิ่งที่ต้องการ ก็เป็นทุกข์

    สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความจริงของชีวิต
    เราจึงควรยอมรับความจริงเหล่านี้
    ไม่มีชาวโลกคนใดจะหนีพ้นได้

    ปัญหาคุณโยมกับภรรยานั้น ถ้าพูดถึงความถูกผิดแล้ว
    ต่างก็ผิดเหมือนกัน ถูกผิดเท่ากัน
    ดังนี้ ต่างคนควรหาข้อเสียของตัวเอง

    สิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ก็เป็นความพอดีกับการกระทำที่แต่ละคนได้ทำมา
    ถ้าผิดฝ่ายเดียว ปัญหาคงไม่เกิด
    เหมือนกับตบมือข้างเดียว เสียงย่อมไม่ดัง

    ดังนั้น สิ่งที่ควรปฏิบัติ คือ

    ประการที่หนึ่ง ทำความรู้สึกปล่อยวาง เพื่อให้ใจสงบ

    ประการที่สอง เจริญเมตตา พยายามส่งกระแสใจที่เป็นความปรารถนาดี เป็นความรักที่บริสุทธิ์ให้แก่ภรรยา อาจใช้วิธีนึกเห็นมโนภาพ เห็นหน้าเห็นตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใจของเขา ไม่ว่าเขาจะอยู่ที่ไหนกับใคร ขอให้เขามีความสุข ให้พยายามเจริญเมตตา คิดดี พูดดี ทำดี ทั้งแก่ตัวเราเองและแก่ภรรยา ผลก็คือ ตัวเราก็จะเกิดความสุขด้วย

    ประการที่สาม ถ้าพูดในระยะยาวถึงเรื่องภพชาติแล้ว คุณโยมและภรรยาคงเคยผูกพันกันมาตั้งแต่อดีตชาติ จึงเป็นเหตุให้ชาตินี้ได้เป็นสามีภรรยากัน และต่อไปในชาติหน้าก็อาจจะได้ใช้ชีวิตร่วมกันอีก

    ถ้าคุณโยมไม่แก้ปัญหาให้เกิดความเข้าใจกัน
    ไม่ได้ให้อภัยและอโหสิกรรมให้แก่กันในชาตินี้
    ชาตินี้เป็นอยู่อย่างไร ชาติหน้าก็จะเป็นเหมือนกับที่เป็นอยู่ในชาตินี้เช่นกัน

    ใครได้เปรียบในชาตินี้ ชาติหน้าก็จะเสียเปรียบ
    ใครเสียเปรียบในชาตินี้ ชาติหน้าก็จะได้เปรียบ
    เรื่องกรรมก็เป็นเช่นนี้
    ใครฆ่าเราในชาตินี้ ชาติหน้าเราก็ฆ่าเขา

    ถ้าชาตินี้เขาทอดทิ้งเรา ชาติหน้าเราก็ทอดทิ้งเขา
    ถ้าชาตินี้ใครนอกใจเรา ชาติหน้าเขาก็จะถูกนอกใจเช่นกัน
    เรื่องที่คุณโยมประสบอยู่ในขณะนี้
    ชาติก่อนคุณโยมอาจเป็นฝ่ายทำเขาก่อนก็เป็นได้

    ดังนั้น ถ้าเรามองจากทั้ง 2 ฝ่ายในระยะยาวแล้ว
    ต่างคนจึงต่างเป็นผู้ผิด
    เหมือนไก่กับไข่ซึ่งไม่มีเงื่อนงำว่าอะไรเกิดก่อนกัน
    ในเรื่องนี้ก็ไม่สามารถตัดสินได้ว่าใครผิดก่อนกัน

    เมื่อเราเข้าใจเช่นนี้แล้ว พิจารณาดูจะเห็นว่า
    สิ่งที่เป็นอยู่ในขณะนี้เป็นสิ่งที่น่ากลัว
    เพราะถ้ายังอยู่ในสภาพนี้ ชาติต่อๆ ไป ก็จะเป็นเช่นนี้เรื่อยไป
    ทำให้ต้องทุกข์ต่อไปหลายภพหลายชาติ

    ผู้ที่ไม่ประมาทจึงควรแก้ปัญหาในชาตินี้
    ดังนั้น สิ่งที่เราทำได้ คือคิดแก้ปัญหาที่ตัวเราก่อน แก้ที่ใจเรา

    สิ่งที่ควรปฏิบัติ คือ

    (1) ยอมรับความจริงดังกล่าว
    (2) ปล่อยวางอดีต ให้เหมือนกับไม่มีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น
    (3) ให้อภัย เจริญเมตตา ไม่ถือโกรธ ไม่อาฆาตพยาบาทเขา
    (4) ทำใจเราให้สงบ

    เมื่อทำได้เช่นนี้จริงๆ เราจะอยู่ด้วยกันในชาตินี้ก็ดี ชาติหน้าก็ดี
    ก็อยู่ด้วยกันอย่างปกติสุขได้

    การคืนดีกันในชาตินี้ จะได้หรือไม่ ไม่ควรถือว่าสำคัญ
    ขอให้เรามีจิตใจที่จะคืนดีแก่เขาอยู่ในตัวเราก่อน
    ปฏิบัติตนเป็นคนดี คิดดี พูดดี ทำดี
    จนเขารู้จัก เข้าใจ และเห็นใจเรา
    และควรจะปฏิบัติให้มีการอโหสิกรรมแก่เขา
    ซึ่งก็เหมือนช่วยตัวเองด้วย อย่างน้อยเราก็จะมีชีวิตที่เป็นสุขได้

    ในเรื่องภรรยาและลูกก็ไม่ต้องห่วงอะไรมากนัก
    ขณะนี้เราอาจจะมีความรู้สึกว่าเขาหนีจากเราไป
    ถ้าลองเปลี่ยนความคิดดู “พลิกนิดเดียว”
    ลองคิดว่า เราจะหนีจากเขาบ้าง
    ลองมาบวชดูชั่วคราว
    หรือจะบวชตลอดไปก็ได้ ถ้ามีความสุข
    เพราะความสุขความสบายจากการอยู่คนเดียวก็มีเหมือนกัน

    อย่างที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้ว่า
    “การไม่มีภรรยา เป็นลาภอันประเสริฐ”
    ถึงจะอยู่คนเดียว ก็พยายามอยู่ให้มีความสุข
    เขาจะกลับมาก็ได้ ไม่กลับมาก็ได้

    สุดท้ายนี้ ขอให้คุณโยมพิจารณาให้ดีๆ
    ปฏิบัติให้ถูกต้องตามหลักพุทธธรรม สมเหตุ สมผล
    และขอให้บรรเทาทุกข์ พ้นทุกข์โดยเร็วๆ นี้
    ขอให้มีความสุขยิ่งๆ ขึ้นไป..... เจริญพร


    ....................................................

    คัดลอกบางตอนมาจาก ::
    หนังสือพลิกนิดเดียว
    โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
    ตอนพระอาจารย์ตอบจดหมายโยม<!-- / message -->
     
  9. BirdSoul

    BirdSoul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2007
    โพสต์:
    4,248
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +12,020
    ได้อ่านกระทู้ที่คุณตั้งขึ้นมาแล้วนะคะ ทั้งคุณเนอร์วาน่า คุณไอโอ และคุณธรรมทิพย์ ได้ตอบและให้คำแนะนำที่ดีมากเลย คุณคงจะอ่านมาแล้ว

    ความจริงปัญหาแบบนี้มีให้พบเจอมากมายในสังคมเรา เราว่ามันคือเรื่อง
    ธรรมดาที่เราต่างต้องประสบพบเจอ เรื่องระหว่างสามีภรรยาเป็นเรื่องของ
    คนสองคน คนนอกคงให้ได้เพียงข้อแนะนำเบื้องต้น เพราะที่สุดแล้ว
    คุณและภรรยาต้องแก้ปัญหานี้กันเอง การพูดคุยกันเป็นการแก้ปัญหาที่
    ตรงจุดที่สุด ขึ้นอยู่ที่ตัวคุณเองว่าจะหาวิธีคุยอย่างไรให้เธอเข้าใจได้

    คนเรามักชอบคาดหวังกับอีกฝ่ายว่าต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ภรรยาคุณก็
    คาดหวังว่าคุณต้องเป็นแบบที่เธอต้องการ คุณก็เช่นกัน ก็คาดหวังว่าเธอ
    ต้องเป็นในแบบที่คุณต้องการ และเมื่อต่างฝ่ายต่างไม่เป็นตามที่ตนหวังไว้
    ก็เกิดปัญหาขึ้น ลองลดความคาดหวังลงมาบ้างดูนะคะ คนเราเกิดมาใน
    ครอบครัวที่แตกต่างกัน ถูกเลี้ยงดูมาไม่เหมือนกัน ก็ต้องต่างกันธรรมดา
    เมื่อคุณเข้าใจและยอมรับความจริงข้อนี้ คุณก็ไม่ต้องมานั่งทุกข์กับการ
    กระทำของเธอและครอบครัวของเธอ เค้าถึงบอกว่า ชีวิตครอบครัวนี่
    ต้องอาศัยความเสียสละ อดทน และการยอมรับในข้อเสียของอีกฝ่ายให้ได้

    อยากให้คุณลองปล่อยวางบ้าง ธรรมะจะเป็นที่พึ่งที่ดีที่สุด เมื่อทุกข์ใจ
    หาทางแก้ปัญหายังไม่ได้ ก็ลองปล่อยวางดูบ้าง นั่งสมาธิเจริญสติให้
    จิตใจสงบ บางทีปัญหาที่เราว่ามันหนักหนา มันอาจไม่ได้หนักหนาจริงๆก็ได้
    สิ่งที่คุณได้ทำมาตลอดเก้าปี ฉันคิดว่าคุณได้ทำดีที่สุดแล้ว เมื่อไม่มีคนเห็น
    ความดีของเรา ก็อย่าเพิ่งท้อใจ ทำดียังไงก็ได้รับผลตอบแทนที่ดีมาวันยังค่ำ
    ไม่ได้ชาตินี้ ก็ชาติหน้า

    เป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้คุณเข้มแข็งและทำความดีต่อไป
     
  10. อักขรสัญจร

    อักขรสัญจร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    4,514
    ค่าพลัง:
    +27,181
    การพลัดพรากจากคนที่รัก สิ่งที่รัก ของที่รัก
    การพบเจอคนที่เกลียด สิ่งที่เกลียด ของที่เกลียด
    เป็นธรรมดาของชีวิต
    ขึ้นชื่อว่าชีวิต ไม่มีทางได้อย่างใจ
     
  11. ยิ้ม..ยิ้ม

    ยิ้ม..ยิ้ม สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ท้อแท้และรู้สึกเหนื่อยกับชีวิตทุกคนมีปัญหาทั้งนั้นแหละค่ะเราต้องรักตัวเราและดูแลตัวเรานะคะ
     
  12. nattap_596

    nattap_596 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    ได้ยินข่าวผู้ชายฆ่าตัวตายเพราะผู้หญิงแล้ว เสียดาย เสียดายข้าวปลาอาหารและนมจากอกแม่ที่เลี้ยงดูมาจนโต มันน่าจะตายตั้งแต่วันที่เกิด พ่อแม่จะได้ไม่ลำบากเลี้ยงดู
     

แชร์หน้านี้

Loading...