ความรู้สึกของบางคนที่ได้พบคู่บารมี

สื่อได้ซึ้งจังเลย รู้สึกอบอุ่นแต่ก็เหงาๆ เศร้าๆ นะ
แต่อ่านแล้วงงๆ คือผู้หญิงที่คนที่ว่าเนี่ย คุณแสงอุ่นเห็นในฝันเหรอคะ
คือที่บรรยายอ่านแล้วเหมือนเจอกันในฝันหรือในนิมิตร

 

เหตุการณ์ทั้งหมด เกิดขึ้นในโลกแห่งความจริงครับ ไม่ได้นอนหลับฝันครับ
คล้ายต้องมนต์ ภาพดังความฝัน แต่อยู่ในความจริงครับ บางท่านเรียกว่า บุญฤิท หรือ ปาฏิหาร ที่เกิดจากการรักษาสัจจะสัญญา ของผู้ปฏิบัติธรรม

 

ครับเราชอบพอ เพราะความสวย หรือป่าวครับ ในสังปัจจุบันมีเยอะมากครับ

 

รูปโฉมโนมพรรณนั้นเป็นปราการด่านสำคัญในการพบเจอกันในสังคมครับ อันนี้เราไม่สามารถปฎิเสธได้เลยว่าร้อยทั้งร้อยเราจะต้องเกิดความพึงพอใจในความสวยหรือความหล่อนั้นก่อนเป็นอันดับแรงเมื่อพบเห็น (นั่นก็เพราะเราท่านต่างมีกิเลสตัณหานอนเนื่องอยู่ในกมลสันดานทุกคน)

มีพุทธพจน์บทหนึ่งสอนภิกษุว่า "สำรวมกายเป็นการดี สำรวมวาจาเป็นการดี สำรวมใจเป็นการดี...ผู้สำรวมทุกทางย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวง"

ดังนั้นหากเรานำความสำรวมระวังมาใช้ในชีวิตจริงแล้ว จะพบว่าเราไม่ควรปล่อยใจไปติดอยู่กับความหลงใหลเพลิดเพลิน(นันทิ) ด้วยเห็นสำคัญเพียงแค่รูปโฉมภายนอกเท่านั้น

แต่ควรมองดูให้ลึกซึ้งถึงอัธยาสัยวิถีแห่งจิต ที่หยั่งรากฝังลึกอยู่ในจิตวิญญาผ่านแววตาคู่นั้นยามสนทนา หรือแม้แต่อากัปกิริยาอาการที่แสดงออกทางกาย ทางวาจา ความนึกคิดทางจิตใจ ว่าเราทั้งสองน้อมไปในความสำรวมระวังที่เป็นฟักฝ่ายแห่งบุญกุศลเหมือนกันหรือไม่

เพราะความหมายของคำว่าคู่บารมีที่แท้จริงนั้นจะต้องปรารภในธรรมอันเป็นเหตุให้ตนและผู้อื่นถึงความพ้นทุกข์ หาใช้คู่บาปคู่รักมายาเพลิงโลกีย์อันเป็นเหตุให้ท่องเที่ยวไปในวัฎฎะสงสารอันยืดยาวไร้จุดหมายปลายทางที่แน่นอน

เมื่อเราวิเคราะห์พิจารณาได้ดังนี้แล้ว ก็หวนกลับมามองดูสำรวจตัวเองทั้งชายหญิงเลยนะครับว่า เรานั้นมีเข็มทิศดำเนินวิถีชีวิตไปทิศทางใดเป็นปริโยสาน ท่านจะพบว่ากำลังใจที่จะนำตนเองและผู้อื่นให้พ้นจากทุกข์(ทั้งทางโลกและทางธรรม)
มีมากน้อยประการใด(กำลังความดี)

และผู้ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตนั้นช่วยเสริมหรือหักล้างคุณงามความดีของท่านบ้างหรือไม่? เมื่อท่านพบเจอพูดคุยอยู่ใกล้กันแล้วนอกจากความรู้สึกอบอุ่นผูกพันอย่างประหลาดที่เกิดขึ้น จิตของท่านเร้าให้เกิดกุศลหรืออกุศลอยู่โดยมาก!

ตรงจุดนี้แหล่ะครับสำคัญมาก ก่อนจะตัดสินใจให้ใครมาเป็นคู่แท้คู่บารมีคู่ชีวิต
ต้องใช้ระยะเวลาคลุกคลีดูจิตดูใจกันก่อน อย่าเพิ่งกล่าวคำว่า"แค่มองตาก็รู้ใจ" เพราะในเมื่อท่านก็ยังเป็นผู้มีกิเลสอยู่ จะแน่ใจได้อย่างไรว่าตาท่านมิได้บอดด้วยอำนาจสิเน่หาความกำหนัดรักใคร่(เป็นใหญ่)

ในฐานะผู้ปรารถนาโพธิฯ ก่อนหน้านั้นหลายปีมาแล้วข้าพเจ้าเคยนึกสนุกไปดูหมอดูแบบเล่นๆเขาดูลายมือแล้วบอกจะมีคู่ครองสองคน จิตวัยรุ่นในขณะนั้นคิดไปว่าอะไรกันว่ะตอนนี้ยังไม่มีสักคนเลยมั่วเปล่า?(ทั้งที่หน้าตาก็ไม่ได้ขี้เหร่อ่ะนะ ^_^)

เขาก็ย้ำว่าดวงเป็นอย่างนั้น ต้องมีสองแน่นอน! พื้นดวงมีคู่ครองหลายคน...ข้าพเจ้าเดินจากมาแล้วตั้งปณิธานว่าเราจะต้องมีคนเดียว ดวงจะมาทำอะไรได้ หากต้องทำให้ใครเสียใจแล้วก็อย่ามีมันเลยสักคนดีกว่า!

ตั้งแต่บัดนั้นจนถึงบัดนี้สัจจะบารมีของข้าพเจ้าก็ยังมั่นคงอยู่ ด้วยเหตุปัจจัยที่เกื้อหนุนหลายประการ ข้าพเจ้าไม่เคยแสวงหาใครให้ใจเป็นทุกข์ หลายคนผ่านเข้ามาทั้งที่สามารถก็มีอันคลาดเคลื่อนไปอย่างน่าประหลาด

ข้าพเจ้ามิได้อวดอ้างตน ทั้งที่ตนก็ยังมีกิเลสราคะอยู่มาก แต่การที่จะละวาสนาเดิมได้นั้น(นิสัยสันดานเดิมในราคะจริตที่สั่งสมข้ามภพชาติ) มิใช่บุรุษธรรมดาๆจะสามารถข้ามผ่านสัญชาตญาณไปได้โดยง่าย แต่สำหรับข้าพเจ้าแล้วมันคือบททดสอบกำลังใจในรูปแบบเฉพาะตน

หากแม้ว่าคู่บารมีเป็นสิ่งที่สำคัญในการบำเพ็ญแล้ว เชื่อแน่ว่าคู่บารมีของข้าพเจ้านางคงกำลังบำเพ็ญคุณงามความดีอยู่ที่ใดสักแห่ง เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาที่เราจะโคจรมาพบเจอกัน(หรืออาจเจอกันแล้ว ใครจะไปรู้ดีเท่ากะตัวเราเอง!)ความเป็นผู้ฉลาดในอุบายธรรมอันเป็นเหตุให้ตนและผู้อื่นพ้นทุกข์ได้(ตามกำลัง) เป็นสิ่งที่ทั้งข้าพเจ้าและนางต่างชื่นชมยิ่งนัก!!

นั้นแหล่ะคือลักษณะคู่แท้คู่บารมีตามทัศนะของข้าพเจ้า อาจไม่เป็นรูปแบบมาตรฐานสากลทั่วไป แต่เมื่อไหร่ที่ข้าพเจ้าเจอตัวเป็นๆแล้ว ตามกรรมจัดสรรค์(หรือไม่เจอชาตินี้ก็ไม่เป็นไร ไม่ตายสักหน่อย)ก็คงเป็นอะไรที่คำพูดไม่สามารถอธิบายได้ครอบคลุมทั้งหมดหรอกครับ

แค่รู้ว่าเธอคอยอนุโมทนาในการสั่งสมบุญบารมีในทุกขณะจิตของเราอยู่ แค่นั้นก็มากพอแล้วไม่จำเป็นต้องครองคู่อยู่ร่วมกันเลย ^_^

 

ปุญญังโน อนุโมทันตุ จิรัง รักขันตุ วะตาขะตา
กล่าวได้ชอบแล้ว สาธุ

 

:'( เวลามีผู้ชายมาพูดจาแรงๆกับคุณตรงๆกับคุณ ทำตัวเย็นชากับคุณ คุณจะชอบเค้ามั้ย (ถ้าคุณไม่ชอบ) คุณก็สมควรจะผิดหวัง และต้องรับชะตากรรมแบบนี้ต่อไป ไม่ต้องน้อยใจ มันเป็นกรรมของคุณที่ไม่ดูคนจากภายใน

 

ขนาดภายนอกยังขนาดนั้น แล้วภายในจะขนาดไหนและเนี่ย อิอิ
ถ้าแรงและตรงเป็นบางที่ ด้วยความปราถนาดี ไม่อยากให้เดือดร้อนลำบากกันภายหลัง ก็สมควรอยู่
แต่ถ้าตรงและแรงตามนิสัย เป็นปกติ ก็ไม่ไหวเหมือนกันนะ ใครจะทนอยู่กับคนแบบนั้นได้ ชีวิตจะไปมีความสุขได้อย่างไร จะตายเพราะความเครียดรับประทานซะก่อนนะซิ

 

ที่กล่าวไว้ถูกต้องครับ

 

แล้วคู่ของดิฉันเป็นประเภทไหนหนอ

เคยฝันเห็นเขาตั้งแต่ยังไม่เคยเจอกัน พอเจอกันเขาก็ปิ๊งๆๆเราตั้งแต่วันแรกเลย จนได้แต่งงานกันและร่วมสุขร่วมทุกข์กันมาหลายปี บางทีด้วยอารมณ์ขี้โมโหขี้หงุดหงิดของเขาก็ทำให้ทะเลาะเบาะแว้งกันก็บ่อย เราไม่อยากทะเลาะด้วยเลย แต่เวลาเขาพูดหรือทำอะไรไม่ถูกไม่ควรเราก็ต้องตอบโต้ ทั้งรักทั้งชังแต่ก็ยังอยู่ด้วยกัน ยังเคยฝันว่ามีคนแก่บอกว่าเราจะอยู่ด้วยกันจนเขาอายุ 91ไม่รู้จะจริงหรือเปล่า

 

ต้องรอผู้รู้มาตอบนะครับ
แต่ผมขอบอกไว้เพียงว่า ไม่ว่าจะคู่แบบใหนก็ตาม ถ้าได้ลงเอยกันแล้ว ต้องเข้าใจกันและการทะเลาะเป็นเรื่องที่ อาจจะต้องเกิดขึนได้เสมอ

 

ตามอ่านค่ะ ของข้าเจ้าคล้ายคห.เห็นบนๆที่ว่าดวงข้าเจเาต้องแต่ง มีคู่2คน ดวงเจ้าชู้ แต่พอฟังหมอดูว่าก็ตั้งใจว่าถ้าดวงแย่ๆต้องไปแย่งใครเขา หรือดวงต้องเป็นหลวง ต้องช้ำใจเพราะรัก ขออยู่เป็นโสด ถ้าหนีกรรมไม่ได้จริงๆ จะเต็มใจชดใช้ให้ แต่จะไม่ไปทำร้ายใครให่้เดือดร้อน. ถ้าต้องมีจริงขอเจอคนที่มาเกื้อหนุนให้ทำแต่ความดีร่วมกัน

 

รักเธอเป็นคนสุดท้าย เพราะจะไม่รักใครเพิ่มอีกแล้ว

 

งั้นก็สมควรตามกรรม อย่าไปโอดครวญ ผู้ชายที่พูดจาตรงๆแรงๆ เค้าไม่พูดพร่ำเพื่อ ไร้สาระหรอก ถ้าไม่จำเป็นเค้าไม่พูด แต่เมื่อเค้าพูดคือเค้ายากให้รู้และปรับปรุงซะ ไม่งั้นคนที่ซวยก็ไม่ใช่เค้า ก็คุณนั่นแหละ เค้าไม่ได้เดือดร้อนด้วยเลย เค้าแค่ไม่สนใจซะ แค่นี้ก็จบ เพราะอะไร เพราะผุ้หญิงที่รับไม่ได้ แสดงว่าจิตใจยังคงติดและหลงอยู่กับภาพลวงจอมปลอม อยู่ด้วยก็คงจะไม่ก้าวหน้า ไม่ได้ดีทั้งทางโลก และทางธรรม เพราะกระแสมันไปคนล่ะทาง บางครั้งเรารู้ว่าเค้าทำแบบนี้ต้องเป็นสัตว์นรก แล้วก็แค่บอก แค่เตือน มันไม่ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง แล้วเราจะไปยุ่งทำไมกับสัตว์นรก ให้ตัวเองลงไปนรกด้วยเหรอ ปัญญามีก็ให้เค้าคิดเอง

 

แหะ แหะ เล่นแรงนะดอกบัว คนแบบนี้มีผุ้หญิงแอบชอบเยอะนะ ทำนองแบบมนตืรกอสรไง
โอม อย่าเป่ามาเลยมนต์รักอสูร เง้อ จบดีกว่า แหะ แหะ

 

เอิ่ม.....คิดว่าสาวๆ หลายคน ก็ไม่ชอบดูละครช่อง 3 ช่อง 7 สักเท่าไหร่นะคะ
เพราะนอกจากหาสาระอันเป็นประโยชน์สร้างสรรค์สุขภาพจิต หรือแง่คิดดีๆ ใดๆ ไม่ได้แล้ว
ยังนำเสนอแต่ความรุนแรงทางอารมณ์ อิจฉา ริษยา อาฆาต มาดร้าย
พลอตเรื่องง่ายๆ ไม่ซับซ้อน จะกี่ปี กี่ปี กี่เรื่องๆ ก็เนื่อเรื่องคล้ายๆ วนไปวนมาก ยังงั้นแหละ
ดูมาก เสพมาก นอกจากทำให้เสียเวลา และเปลืองทรัพยากรแล้ว ก็มีแต่บ่อนทำลายสติปัญญา และอาจเป็นทางไปสู่อบายได้ เพราะมักเสพแต่อารมณ์ โกรธ เกลียด ชิงชัง อิจ
ฉา ริษยา อาฆาต มาดร้าย บางคนอารมณ์ค้าง หลังจากดูละครก็มี พระท่านว่า คนที่มีโทสะมาก เป็นเหตุปัจจัยสู่การเกิดเป็นสัตว์นรก ซะด้วยนา

 

ขออภัยอีกรอบ ที่เราไม่ได้ตอบอย่างต่อเนื่อง ใหนๆก็เข้ามาแล้ว เรา
เห็นเพื่อนๆ แสดงความคิดเห็นส่วนตัวในแง่มุม ต่างๆ เราเองก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะบางทีไม่ใช่คำถาม เป็นความคิดเห็น หรือการบอกเล่า เราจึงไม่ได้ตอบ ต้องขอภัยด้วยนะครับ

 

กดตัวเลือกผิดต้องขออภัย

 

ถ้าอีกคนมักมาก จู่ๆ วันนึง มาเจอกัน แล้วรู้สึก แปลบๆที่ใจ ต่างคนต่างรู้นิสัยกันพูดอะไรออกมาทันกันหมดประมาณว่าอ่านใจกันได้โดยไม่ต้องพูด ทั้งที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน อีกคนรัก แต่อีกคนทั้งรักทั้งเกลียดเพราะเหมือนฝังใจมาจากชาติที่แล้ว เพราะเขามักมาก จนชาติปัจจุบันเขาก็ยังนิสัยเดิม แบบนี้เรียก ว่า อะไร??ครับ..... คู่เวร?

 

ย้อนกลับมาอ่านอีกครั้งค่ะ
ดูๆไปแล้ว ส่วนใหญ่คงเป็นคู่บุญกันมากกว่าคู่กรรมหรือคู่บารมีนะคะ

 

เคยนะคะ เป็นเรื่องที่แปลกเหมือนกัน
ไม่เคยพบกันมาก่อน แต่รู้ใจกัน รู้ว่าเขาต้องการ ไม่ต้องการอะไร
อุปนิสัยต้องกัน แค่อยู่ใกล้กันไม่ต้องสนทนากันก็ดูเหมือนมีความสุข
เฮ้อ! โลก