เก็บไว้ให้คิด...คนเล่นวิชชาต่ำ

เวสสุวรรณ ยังต้องไหว้พระนะ ถ้าจะให้บอกว่าได้ก็ได้ พระท่านไม่ถือหรอกแต่จริงๆมาว่าถึงความเหมาะสมมันก็ไม่เหมาะไม่ควรครับที่จะห้อยรวมกัน แต่ถ้าจะตั้งบูชาที่โต๊ะหมู่ก็วางท่านให้ต่ำกว่าพระครับ แบบนี้ทำได้ ติดไว้หน้าประตูบ้านก็ได้ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าพวกเล่นภูติเล่นพราย ก็เขาจะไม่ติดหน้าบ้านแต่ถ้าคุณก็ควรติดเอาไว้แหละดีแล้วเพราะบ้าน อยู่จุดศูนย์รวมทางสามแพร่งเลย และอย่าลืมทำความสะอาดหิ้งเทพต่างๆด้วยนะ

 

ขอบคุณมากครับ คุณประพน

 

รับพลังพระพฤหัสกันเถิด(แรงที่สุด)

วันที่ 17 มิ.ย. 57 เป็นวันที่พระพฤหัสให้ผลในตัวเรามากที่สุด ให้ทุกคนเตรียมของไหว้กลางแจ้งดังนี้

1 พระพุทธรูปขัดสมาธิ หันไปทางตะวันออก
2 ผลไม้รสหวาน สีเหลืองห้าสี
3 ดอกดาวเรือง หนึ่งพวง ธูปห้าดอก เทียนห้าเล่ม

ผู้ไหว้ต้องหันไปทางทิศตะวันตก ว่าบทสวดดังนี้

ตั้งนะโม 3 จบ

บทบูชาดาวพฤหัส

ปูเรนตัมโพธิสัมภาเร นิพพัตตัง โมระโยนิยัง

เยนะ สังวิหิตารักขัง มะหาสัตตัง วะเนจะรา

จิรัสสัง วายะมันตาปิ เนวะ สักขิงสุ คัณหิตุง

พรัหมะมันตันติ อักขาตัง ปะริตตันตัมภะณามะ เหฯ

คาถาบูชาดาวพฤหัส
ภะ สัม สัม วิ สะ เท ภะ 19 จบ

ปล. สวดเสร็จให้อฐิษฐานในสิ่งที่ดีๆ ต่อพระพฤหัส หากผู้ใดเตรียมของไม่ทันให้ทำในวันพฤหัสที่ 19 มิ.ย. 57 นี้ได้

 

กราบสวัสดีครับ พี่ประพน ไม่เจอกันนานคิดถึงจังเลย

 

พี่ประพนครับ สิ่งที่เตรียมมาทั้งหมดเอาไว้บนพานทั้งธูป เทียน ผลไม้
แล้วต้องจุดธุปกี่ดอกกลางแจ้งครับพี่

 

ตอนนี้ผมรู้สึกว่าที่บ้านผมเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีแล้วครับ

 

ครับ ดีแล้วครับ ขอแค่ทำตามที่ผมบอกโดยศรัทธาเต็มเปี่ยมและตัดความสงสัยไปมันจะสำเร็จแน่นอนครับ

 

ขอรบกวนคุณประพนค่ะ ดิ






ขอรบกวนค่ะ ดิฉันมีปัญหามากมาย จิตตกมาก ๆ แม้จะพยายามสวดมนต์ไหว้พระ สมาธิ
แต่ทำไมเจอแต่ปัญหาและเรื่องเครียดๆ จนท้อมากๆเลย คุณประพนช่วยชี้แนะและการปฏิบัติ การแก้ไขเพื่อให้ชีวิตดีขึ้น หลุดพ้นจากทุกข์ต่าง ๆ ด้วยค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ

 

รอ...อย่างมีความหวัง

 

เบื้องต้นเลยนะ ไปไหว้ศาลหลักเมืองนครนายก ขอพรเจ้าจากพ่อหลักเมือง ขอสมบัติเก่าที่ลูกได้ทำมาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบัน ลูกขอนำมาใช้ในปัจจุบันชาตินี้เพื่อสั่งสมสร้างบุญบารมีสืบไป ไปขอท่านเพราะ เรากับเขาเคยผูกพันกันมาเขาช่วยคุณแน่นอน และยิ่งคุณอยู่ที่นั่นด้วยจึงควรจะไปไหว้เขาอย่างน้อยเดือนละครั้งและแผ่เมตตาบ่อยๆ ให้กับหลักเมือง อันนี้เป็นเบื้องต้นนะ ลึกๆเดี๋ยวค่อยคุยกัน

 

ขอบพระคุณคุณประพนธ์อย่างสูงสำหรับคำตอบที่ได้รับ
ยินดีปฏิบัติตามด้วยใจเคารพ เหมือนมีแสงไฟส่องนำทางให้ค่ะ

รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาอีกมากมาย หากมีอะไรแนะนำเพิ่มเติม หรือต้องทำอย่างไร
ขอให้คุณประพนช่วยเพิ่มเติมนะคะ ขอบคุณด้วยใจจริงค่ะ ขอให้คุณเจิญยิ่งขึ้นไปและเป็นที่พึ่งให้กับผู้คนได้พ้นห้วงทุกข์ บุญนี้ยิ่งใหญ่จริงๆค่ะ

 

ขอรบกวนอีกนิดค่ะ ลูกสองคนชงทั้งคู่เลยค่ะ มะเมีย ระกา รบกวนท่านช่วยชี้แนะให้พ้นภัยด้วยค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ

 

ผมนำมาให้อ่านครับมีประโยชน์

ดูหมอด้วยมโนมยิทธิ

ถาม : .................
ตอบ : เรื่องของการดูดวง ดูหมอ โดยมโนมยิทธิ จริง ๆ แล้วทำได้จ้ะ แต่ว่ากฎเกณฑ์มีอยู่ อันดับแรก ที่หลวงพ่อสั่งไว้ชัดเจนเลย คือว่าอย่าไปประจันหน้าต่อหน้าคนถาม คนถามไม่รู้จักพอ บางอย่างบอกได้แค่ที่พระหรือเทวดาท่านบอก แต่มันจะซักเอารายละเอียด อันนั้นไม่ได้เลย ท่านบอกว่าให้อยู่ในห้องพระอย่างเดียว แล้วให้เขาเขียนคำถามส่งเข้ามา หาคนของเรา รับคำถามส่งเข้ามา แล้วกำหนดใจถามพระท่านดู รู้อย่างไร ? เขียนตอบไปอย่างนั้น อย่าให้เขาซักต่อหน้า ซักถามต่อหน้า ถ้าหากว่า กำลังใจไม่มั่นคงจริง จะเกิดอคติขึ้นในใจ คือลำเอียงเพราะรัก ลำเอียงเพราะโกรธ ลำเอียงเพราะหลง ลำเอียงเพราะกลัวอะไรก็ตาม จะทำให้ความรู้ของเราผิดเพี้ยนไปได้ อันดับที่สอง สิ่งที่รู้มา ถ้าหากว่ามีความคล่องตัวในมโนมิยทธิจริง ๆ เขาจะรู้ว่าต้องตอบเท่าไหร่ ? ไม่ใช่รู้ร้อยบอกร้อยหนึ่ง แต่ว่าอาจจะรู้ร้อยหนึ่ง บอกได้แค่หนึ่งแค่สองเท่านั้นก็ได้ เรื่องนี้บางคนทำใจไม่ได้อกจะแตกตายเหมือนกัน รู้ ๆ อยู่แต่พูดไม่ได้

เพราะฉะนั้น คนที่จะใช้มโนมยิทธิเพื่อดูหมอจริง ๆ ดี เพราะว่าอย่างน้อย ๆ เป็นการควบคุมกำลังใจของตนให้ใสสะอาดอยู่เสมอ ไม่อย่างนั้นดูหมอไม่ได้ แต่ว่าต้องมีข้อจำกัดอยู่ในลักษณะนี้ แล้วอีกอย่างหนึ่ง เมื่อดูหมออย่าใช้คำว่า "ค่าครู" ถ้าต้องการรายได้ บอกเขาเลยว่า จะเป็นค่าดู ค่ากิน ค่าอยู่ของหมออะไรก็ว่าไป อย่าใช้คำว่า "ค่าครู" ค่าครูเมื่อไหร่ ? เราใช้เองไม่ได้ (หัวเราะ) ค่าครูต้องเอาไปถวายเป็นสังฆทาน หรือใส่บาตรเป็นอาหารพระไปเลยเท่านั้น

ถาม : แต่ก่อนหลวงพ่อเคยสั่งห้ามเอาไว้ว่า ไม่ควรที่จะเอาไปใช้ในทางที่ (ไม่ชัด) ?
ตอบ : จริง ๆ แล้วมโนมยิทธิ หลวงพ่อท่านเคยพูดว่า ต้องคล่องตัวขนาดดูหมอได้ ถึงจะใช้ได้ แต่ว่าขณะเดียวกัน ให้ดูในลักษณะสงเคราะห์เขา ไม่ใช่ดูเพื่อตั้งใจจะเอาผลประโยชน์จากเขา

มีลูกศิษย์หลวงพ่อคนหนึ่ง ตอนนั้นเป็นอาจารย์อยู่วิทยาลัยครูพระนครศรีอยุธยา ปัจจุบันนี้ก็คงเป็นสถาบันราชภัฏไปแล้ว ขนาดตอนนั้นพันเอกณรงค์ กิตติขจร จะตั้งพรรคการเมือง ขอเชิญไปเป็นที่ปรึกษา เพราะเขารู้จริง แม่นด้วย พูดอะไรเป็นอย่างนั้นเลย เพราะว่าเขารักษาใจของเขาดี แกปฏิเสธ คือให้ลาออกจากครูแล้วต้องการเงินเดือนเท่าไหร่ ? เขาให้ แต่แกไม่เอา คือต้องลักษณะอย่างนั้น ไม่ใช่ถึงเวลา ลาภยศ ชื่อเสียงมาถึง แล้วหลงใหลตามไป บรรดาหมอดูด้วยมโนมยิทธิระยะหลังที่เสียมากเพราะว่า เมื่อถึงเวลาปล่อยให้ใหลตาม รัก โลภ โกรธ หลง แล้ววิชาการก็เสื่อมลง เพราะพระท่านไม่สงเคราะห์อีก มีเยอะจ้ะ

ถาม : ที่ว่า "ง่าย" แต่จริง ๆ ทำยาก ก็ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร ? เทคนิค ?
ตอบ : พอทำเป็นแล้ว ซ้อมบ่อย ๆ ซ้อมทุกวัน ทั้งวันยิ่งดี

ถาม : เหมือนกับตอนนี้ สำหรับผมเองเรื่องของมโนมยิทธิ เรื่องของการกำหนดลมหายใจ ง่าย บอกลูกเหมือนกัน วิธีการคือว่า เราดูว่าเราหายใจเข้า แต่จริง ๆ นั้นทำได้ยาก
ตอบ : คือแค่รู้ตามเฉย ๆ ส่วนใหญ่แล้วจะไปเผลอบังคับให้รู้ อย่างนั้นไม่ได้ลักษณะบังคับรู้ เราต้องมีความเชี่ยวชาญในการทรงฌานแล้ว คล่องตัวมากแล้ว ลักษณะอย่างนั้นเหมือนกับการบังคับรู้ คือกำหนดใจเมื่อไหร่ ? เป็นไปได้ แต่ถ้าหากว่าฝึกแรก ๆ เขาแค่กำหนดรู้ตามไปเฉย ๆ อย่าไปบังคับลมหายใจ

แล้วอีกอย่างหนึ่ง การจะรักษามโนมยิทธิให้แจ่มใสนั้น อย่าทิ้งภาพพระเป็นอันขาด แต่ละวัน ๆ ทั้งวันอย่างน้อย ๆ ความรู้สึกส่วนหนึ่งต้องเห็นภาพพระอยู่นี่ อยู่บนศีรษะของเราก็ดี ครอบกายของเราอยู่ก็ดี ต้องเห็นอยู่ตลอด ให้ท่านแจ่มใสชัดเจนอยู่เสมอ จิตจะสะอาด ปราศจากนิวรณ์ เป็นการแบ่งความรู้สึก อาจจะสัก ๒๐-๓๐ เปอร์เซนต์ นึกถึงเบา ๆ สบาย ๆ ท่านก็นั่งของท่านอยู่อย่างนี้ เขาถามอะไร ? เราก็แค่นึกถึงท่าน คำถามนี้อยากจะตอบอย่างไร ? ความรู้สึกจะไหลออกมาเอง แล้วอีกประมาณ ๗๐-๘๐ เปอร์เซ็นต์ เราก็บังคับให้ร่างกายทำงานทำการของเราไปตามปกติ ถ้าทำใจอย่างนี้ได้ จิตสะอาดมาก การรู้เห็นจะคล่องตัวมาก แต่ว่าส่วนใหญ่ก็คือว่า จับ ๆ แล้วก็หายไป พอรู้ตัวขึ้นมา ก็จับใหม่ อันนี้ก็ยังดี แต่ส่วนใหญ่หายแล้วหายเลย

ช่วงแรกของเล่ม "เมืองลับแล"
สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ (พระครูวิลาศกาญจนธรรม)
เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๔๖(ต่อ)
ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

 

วิธีดูคนต้องธรณีสาร...(แบบง่าย)

มาพูดถึงคนที่ต้องธรณีสารกันก่อน คนที่ต้องธรณีสารนี้จะเป็นพวก จิตใจหยาบโลน ชอบทำในสิ่งที่คนอื่นเขาไม่ทำ เช่น เอาของต่ำไปไว้ที่สูง เสพกามแบบแปลกผิดคนธรรมดา พูดจาไร้แก่นสาร เป็นคนอกตัญญูไม่รู้คุณคน ฯ และอีกนัยหนึ่งของคนต้องธรณีสาร คือพวกที่ผิดครูบาอาจารย์ข้อใดข้อหนึ่ง โดยส่วนมากพวกนี้จะเป็นพวกที่มีอาชีพ หมอดู หมอแผนโบราณ พวกเข้าทรง ฯ

พวกที่อ้างมาทั้งหมดนี้ เมื่อผิดไปแล้วจะเกิดอาารต่างๆนานา อย่างแรงสุดก็มีอันเป็นไป มีหนี้ท่วมหัวบ้าง ติดคุก ต้องคดี ต่างๆ เป็นโรคร้ายอย่างไม่มีสาเหตุ ทำมาหากินไม่ขึ้น ต่อให้ทำบุญไปมากแค่ไหนก็ช่วยอะไรไม่ได้ในชาตินี้

วิธีสังเกตุทางตาเปล่า
1 ง่วงซึมอยู่เสมอ ไม่มีชีวิตชีวา
2 นอนกรนเสียงดัง นอนกัดฟัน น้ำลายไหลเวลานอน
3 ร่างกายมีกลิ่นแรง
4 น้ำกามมีกลิ่นฉุนมาก

ให้จำว่าถ้าพวกเรามีอาการแบบตามที่กล่าวมานี้ จงไปหาผู้รู้ให้เขาแก้ให้โดยเร็วแล้วชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่อทำการแก้ไข

 

พี่ประพนครับ แล้วผมต้องทำอย่างไรบ้าง ตอนนี้วุ่นวายน่าดู

 

การแก้ไขของแต่ละบุคคลย่อมแตกต่างกัน เพราะแต่ละคนทำผิดไม่เหมือนกัน เล่าเหตุที่คุณต้องธรณีสารให้ผมฟังในข้อความครับ

 

ผมสังเกตุมีคนบางคนมักมีแต่เรื่องซวยตลอด
และคิดถึงน้ำมนต์ธรณีสารพอดี เพราะน้ำมนต์นี้น่าจะช่วยได้
แต่วิชานี้ถ้าสามารถทำเป็นวัตถุมงคนน่าจะดีครับเพื่อนำมาเป็นน้ำมนต์รด
เมื่อวานเพิ่งนึกถึงพอดีคุณประพนมาเล่าให้ฟัง
อยากทราบรายละเอียดอีกครับว่าคนที่มักซวยนี่
ถ้าจะรดน้ำมนต์ล้างจะสามารถทำพิธีใดได้บ้างโดยง่าย

 

ไม่รู้ว่าอย่างผม เรียกว่าต้องธรณีสารด้วยหรือเปล่า เพราะเจอแต่เรื่องไม่ค่อยดี

 

ผมคิดว่าผมไม่เกี่ยวกับเรื่องธรณีสารมั้ง เพราะอาการไม่คล้าย แต่ซวยจัง อายด้วย

 

พอดีเพิ่งมาเจอกระทู้ของคุณ ประพน ติดตามกระทู้ของคุณมาสองคืนติดต่อเนื่องกันจนหน้าสุดท้าย (หน้าปัจจุบัน ณ ขณะนี้ พอดีทำงานกะกลางคืน)และติดตามมาตลอด
มีสาระทำให้รับรู้ได้ประโยชน์เรื่องไสยศาสตร์และเรื่องลี้ลับเกี่ยวกับ อาถรรพ์มากขึ้นเรียกว่า ได้เปิดหูเปิดตา กันได้ดีทีเดียวแบบว่าชอบเรื่องผจญภัยแนวนี้ด้วยครับ
อีกทั้งยังช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน ประสบทุกข์ภัย จากความไม่รู้หรือเพราะ กรรมบันดาลก็แล้วแต่ (ขออนุโมทนาบุญ ด้วยนะครับ)

ผมมีเรื่องจะรบกวนคุณประพน ช่วยตรวจสอบให้ด้วยครับว่า ทำไมชีวิตช่างมีอุปสรรคเยอะจัง ทั้งการงาน การเงิน หนี้สิน ชีวิตช่างดำเนินยากจัง ติดขัดอยู่ตลอดเวลา

-ส่วนหนึ่งเป็นเพราะที่อยู่อาศัยด้วยหรือไม่ หรือเพราะสิ่งใดต้องแก้ไขอะไรบ้าง ขอคำแนะนำด้วยนะครับ หากต้องการรายละเอียดส่วนไหนเพิ่มผมจะ PM. ให้นะครับ

-บ้านที่อาศัยปัจจุบัน ผมต้องการเอาหิ้งพระ(พระพักตร์)หันออกไปทางหน้าบ้าน แต่ติดปัญหาที่ว่า ผนังนั้นอีกด้านเป็นห้องน้ำ
ถ้าเอาหิ้งพระไปไว้ก็แลดูไม่เหมาะไม่ควร มีวิธีแก้อย่างไรบ้างครับ ถ้าผมจะเอาพระพุทธรูปไว้ในตู้โชว์แต่ทำเป็น หิ้งพระ ในตู้โชว์จะแก้ไขได้หรือไม่

บ้านเลขที่ 35/214 เจ้าของบ้านพุธกลางคืน

ขอบคุณ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

ขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ปราศจากหมู่มาร ผจญ ครับ