คุณคือ "ผู้พเนจรจากฟากฟ้า" (Wanderer) หรือ "เมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว" (Star Seed) หรือไม่??

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 20 มีนาคม 2010.

แท็ก: แก้ไข
?
  1. คำตอบที่ "ใช่" รวมได้ < 12 คะแนน

    2 vote(s)
    66.7%
  2. คำตอบที่ "ใช่" รวมได้ 12 - 15 คะแนน

    1 vote(s)
    33.3%
  3. คำตอบที่ "ใช่" รวมได้ 1ุ6 - 19 คะแนน

    0 vote(s)
    0.0%
  4. คำตอบที่ "ใช่" รวมได้ 20 คะแนนขึ้นไป

    0 vote(s)
    0.0%
  1. action_jai

    action_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2007
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +241
    ...เราจะกลับไปสู่สภาวะความเป็นแสง ที่เบา ไว และทะลุทะลวงไปได้ทุกที่ ด้วยการฝึกจิตให้เบาจากกิเลส กว้างขวางไม่คับแคบด้วยการแผ่พลังเมตตา และเชื่อมโยงไปสู่ตัวตนที่เหนือกว่า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยการหมั่นระลึกและน้อมเข้ามาใส่ตัว...
    ...ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานี้อาจดูเหมือนความรู้ใหม่ ที่ขัดกับแนวปฏิบัติของเถรวาท...แต่ถ้าเปิดใจให้กว้าง ...จนกว้างพอที่จะยอมรับว่า สรรพสิ่งแท้จริงแล้วเป็นสิ่งเดียวกัน...อย่าเอาอัตตาไปแบ่งแยก อย่าตัดสิน อย่าแบ่งทุกสิ่งเป็นสอง...ก็จะพบว่า สิ่งที่คุณชยุตกล่าว มันอาจจะใช่จริงๆ
    ..สำหรับข้าพเจ้า ใช่ มันอาจเป็นใบไม้นอกกำมือ... แต่นั่นไม่ใช้สาระสำคัญ เพราะพวกเราในที่นี้ไม่ได้กล่าวว่า สิ่งที่พูดมาคือใบไม้ในกำมือ...มันอาจเป็นความหลง (หลงเพราะมันไม่ใช่ทางนิพพาน) แต่มันไม่ใช่ความหลงที่มีรากมาจากกิเลส แต่มันเป็นสิ่งที่เราทั้งหลายเลือกแล้ว และจะขับเคลื่อนมันไปด้วยอิทธิบาทสี่...เพราะในยุคนี้ มีเพียงพลังแห่งเมตตาเท่านั้นที่จะช่วยโลกไว้ได้...พลังแห่งปัญญา แก้ปัญหาได้ในระดับปัจเจก...
    ....เพราะเราทั้งหลายได้เลือกแล้ว และรู้แล้วว่าเพราะอะไรจึงต้องมาอยู่ที่นี่ ...
     
  2. action_jai

    action_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2007
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +241
    ระหว่างที่กำลังมีสมาธิอยู่ขณะที่นั่งทำงาน อยู่ดีๆ ก็มีความคิดผุดขึ้นมาในหัว (ไม่ทราบว่าเกิดจากสัญญาเก่า หรือเป็นข้อความจากผู้ใดมาป้อนให้) ชั่งใจอยู่นานว่าจะมาโพสต์ดีหรือไม่ และแล้วก็ตัดสินใจมาโพสต์ เผื่อว่าอาจจะเป็นประโยชน์แก่ใครได้บ้าง

    จากที่เราเคยทราบมาก่อนหน้านี้ว่า
    มิติที่ ๑ คือ เส้นตรง
    มิติที่ ๒ คือ กว้าง x ยาว
    มิติที่ ๓ คือ กว้าง x ยาว x ลึก
    เราทั้งหลายมีชีวิตอยู่ในภาวะรับรู้แค่มิติที่ ๓ คือเห็นภาพที่เป็นรูปทรงต่างๆ โดยที่เราเชื่อว่ามันมีอยู่จริง เพราะประสาทสัมผัสเรารับรู้เช่นนั้น
    มิติที่ ๔ คือ เวลา ซึ่งเราทั้งหลายก็เชื่อว่าเวลามีอยู่จริง เวลาเหมือนกรงขังเราให้เราเชื่อว่า ในอดีตเราเคยเป็นสิ่งนั้น ในอนาคตเราจะเป็นสิ่งนั้น เราจึงส่งจิตออกไปปรุงแต่ง จนเกิดภพน้อยใหญ่มากมาย ในเวลาที่จิตหยุดนิ่งอยู่กับปัจจุบันในขณะที่จิตอยู่ในสมาธิ พบว่า เวลาหายไป เหลือแค่ความว่าง และในมิติที่ ๔ นี้ เป็นมิติที่เราสามารถไปพบเจอกับปรากฎการณ์ต่างๆ มากมาย เช่น โลกแห่งวิญญาณ หรือแม้กระทั่งการระลึกชาติที่เราสามารถสัมผัสได้
    มิติที่ ๕ แรงโน้มถ่วง ซึ่งในความเข้าใจของข้าพเจ้า มันเป็นแรงดึงแห่งวิบากให้ติดอยู่ในภพ ในภูมินั้นๆ แรงดึงของแต่ละภพที่มีแต่ละดวงจิตจึงไม่เท่ากัน

    ดังนั้น การที่เราจะก้าวขึ้นไปสู่มิติที่ ๖ ได้ก็ด้วยการไม่ตกอยู่ในหลุมพรางของมิติระดับ ๓ ๔ ๕ เราจึงต้องเข้าใจหลุมพรางของมิติ (ซึ่งข้าพเจ้าไม่ได้หมายถึง การไปด้วยกายเนื้อ หากแต่ เข้าใจวิถี และวิธีการของมัน)
    การออกจากหลุมพรางของมิติที่ ๓ ด้วยการรู้ว่ารูป รส กลิ่น เสียง ต่างๆ ที่มากระทบ มันเป็นเพียงมายาภาพเท่านั้น สิ่งใดมากระทบก็รู้เท่าทัน
    การออกจากหลุมพรางของมิติที่ ๔ ด้วยการทำจิตให้อยู่กับปัจจุบัน ไม่ส่งจิตออกไปปรุงแต่งอดีตและอนาคต เมื่ออยู่กับปัจจุบันได้ เราก็ไม่ตกเป็นเหยื่อของเวลา เพราะมีแค่ปัจจุบันขณะ
    การออกจากหลุมพรางของมิติที่ ๕ ด้วยการปล่อยวางอัตตาตัวตน กิเลส ตัณหา อุปาทาน จนจิตเบา สามารถอยู่เหนือโลกและความเคยชินที่เคยสั่งสมมาได้ จนในที่สุด อยู่เหนือวิบากกรรมทั้งปวงที่จะฉุดรั้งเราให้อยู่ภายใต้แรงโน้มถ่วงในแต่ละภพภูมินั้นๆ

    ...ขอเล่าประสบการณ์ในวัยเด็กที่เกิดขึ้นกับข้าพเจ้า
    - ในวัยเด็ก (สองขวบครึ่ง) จมน้ำทะเลซึ่งระดับน้ำลึกมาก ขณะที่จมลงเห็นภาพในน้ำชัดมาก กว่าคนจะดำลงไปช่วย เป็นเวลาประมาณเกือบห้านาที แต่ข้าพเจ้ากลับรอดมาได้โดยที่ไม่ต้องผายปอด ซึ่งปกติถ้าสมองขาดอ๊อกซิเจนนานขนาดนั้น น่าจะมีผลต่อระบบสมอง แต่ข้าพเจ้ากลับไม่เป็นอะไร ...ดังนั้น เวลาจึงอาจไม่มีอยู่จริง เพราะในความรับรู้ของข้าพเจ้าในขณะนั้น เหมือนเวลาหยุดเพื่อรอการช่วยเหลือ
     
  3. khunfongbeer

    khunfongbeer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    578
    ค่าพลัง:
    +668
    ขอบคุณค่ะ สำหรับบทความดีๆ
     
  4. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772
    ลองเข้าไปอ่านข้อมูลในกระทู้นี้ดูนะครับ
    แล้วเปรียบเทียบดูว่า
    มันเหมือนหรือต่างกับความเข้าใจของเราไหม๊
    เผื่อจะได้ไอเดียอะไรเพิ่มเติมอีกหนะครับ


    "ข้อความจากต่างมิติ-ข้อมูลเกี่ยวกับมิติต่างๆ-และ-โลกคู่ขนาน-มิติคู่ขนาน-และอื่นๆ"

    http://palungjit.org/threads/ข้อควา...ๆ-และ-โลกคู่ขนาน-มิติคู่ขนาน-และอื่นๆ.492683/

    ...............................
     
  5. action_jai

    action_jai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2007
    โพสต์:
    205
    ค่าพลัง:
    +241
    ขอบคุณคุณชยุดสำหรับข้อความที่คัดลอกมาให้อ่าน...
    ในความเข้าใจของข้าพเจ้า มันมีทั้งจุดต่างและจุดเชื่อมโยงกันอยู่หลายประเด็น หากแต่เส้นทางแห่งความเข้าใจและคำศัพท์ทำให้เข้าใจต่างกันออกไป

    ...ความรู้ที่ผุดขึ้นมาหลังจากได้อ่านข้อความของคุณชยุต
    ๑.ทำไมพระบางองค์จึงถ่ายรูปไม่ติด? ต้องให้ท่านอนุญาตก่อนจึงจะถ่ายได้ ....เป็นไปได้มั๊ยว่าในขณะนั้นแม้กายของท่านจะดำรงอยู่ในมิติที่ ๓ แต่ในขณะนั้นภูมิจิตของท่านกำลังอยู่ในความสั่่นสะเทือนในมิติที่สูงกว่า ท่านกำลังอยู่ในมิติที่ ๓ อย่างแผ่วเบา แต่ยังปรากฎรูปให้เราเห็น...
    ๒.หากเราทั้งหลายในที่นี้ มาจากมิติที่ ๖ จริง ก็ไม่แปลกอะไร แต่ก็ใช่ว่าจะวิเศษอะไรอีกเช่นกัน (นอกเสียจากความเสียสละ) และเราเองก็ต้องวิวัฒน์ตัวเองไปสู่การพัฒนาจิตวิญญาณที่สูงยิ่งขึ้นไป... เพราะไม่ว่ามิติที่ ๗ ๘ ๙.... ที่สูงไปกว่ามิติที่ ๖ จะมีความพิศดารพันลึกอะไรมากมาย แต่ในมิติสุดท้าย ทุกอย่างก็ไปรวมยังจุดๆ หนึ่ง ที่เป็นต้นกำเนิด คือ ความว่าง ความไม่มีอะไร ...เปรียบเสมือน สีหลายสีที่รวมเข้าด้วยกัน แต่กลับได้ผลลัพธ์คือสีขาว....

    พระพุทธองค์ท่านจึงกล่าวได้อย่างถูกต้องที่สุด ว่าสุดท้าย ก็ไม่มีอะไร....
    เราทั้งหลายในที่นี้ หากมั่่นใจว่าเป็นผู้ที่อาสาลงมาช่วยปรับเปลี่ยนวิถีโลก นอกจากภารกิจที่จะต้องช่วยให้มนุษย์ได้มีวิวัฒนาการทางจิตที่สูงขึ้นแล้ว..
    ก็ยังจะต้องอาศัยประสบการณ์อันเลวร้ายบนโลกมนุษย์เพื่อยกระดับจิตวิญญาณภายในให้สูงขึ้นเช่นกัน....

    หากแม้นข้อความของข้าพเจ้าจะไปอ้างอิง พุทธศาสนามากจนเกินไป จนผิดไปจากความมุ่งหมายของคุณชยุตที่บอกว่าแท้จริงแล้ว สิ่งที่กล่าวมาไม่ใช่เนื้อหาของพุทธศาสนา แต่เป็นความรู้ในมิติที่สูงกว่าและมีความเป็นสากลนั้น...
    สำหรับข้าพเจ้า.....พุทธะ แปลว่า ตื่นรู้
    พระพุทธเจ้า.....ท่านเป็นผู้ตื่นรู้
    ท่านเป็นผู้มาวางรากฐานแห่งการตื่นรู้....
    หากพระพุทธองค์ท่านไม่ได้ประกาศความรู้มาก่อนหน้านี้...พวกเราจะใช้ฐานข้อมูลไหนในการอธิบายเส้นทางแห่งการตื่นรู้นั้นให้มนุษย์โลกเข้าใจ...
    ความรู้ทางวิทยาศาสตร์เพียงอย่างเดียว ขาดมิติแห่งความลุ่มลึก ประกอบด้วยอัตตา มุ่งชนะคะคาน จนละทิ้งมิติด้านจิตวิญญาณ....
    สิ่งที่พระพุทธองค์ตรัสสอนก็เป็นเรื่องสากล...แต่จะอธิบายให้ผู้อื่นรู้ตามได้อย่างไรหากไม่ประกาศให้ผู้อื่นทราบและปฏิบัติตามในรูปแบบของศาสนา...ที่อาจจะต้องถูกห่อหุ้มด้วยพิธีกรรมบางอย่างบ้าง..เพื่อไม่ให้แก่น หรือเนื้อใน สูญเสียไปก่อนเวลาอันควร...ก่อนเวลาที่มนุษย์จะมีวิวัฒนาการหรือเข้าถึงความรู้อันนี้ได้... ในเมื่อยุคนั้น ก็มีเพียง พ่อค้า ฤาษีชีพราหณ์ ไม่มีนักวิทยาศาสตร์เลยซักคน....
    ...ข้าพเจ้าจึงเห็นว่า สิ่งที่คุณชยุตคัดลอกมาให้อ่าน ก็เป็นเพียงความรู้แขนงหนึ่งของพุทธนั่นเอง ไม่ว่า จะเข้าถึงด้วยเส้นทาง วิธีการหรือคำศัพท์ใดๆ ก็ตาม...

    เพราะเราทั้งหลาย ก็เป็นชาวเมือง "ตื่น" เช่นเดียวกับพระองค์

    อย่างไรก็ดี ข้าพเจ้ารู้สึกซาบซึ้งใจคุณชยุตเป็นอย่างมาก ที่จุดประกายเส้นทางแห่งการตื่นรู้ ให้พวกเราในที่นี้....ทำให้พวกเราทั้งหลายไม่รู้สึกหดหู่ ลังเล สับสน กับสภาวะอันเลวร้ายในปัจจุบันนี้ ที่ไม่รู้ว่าตัวเองเกิดมาเพื่อทำอะไร....ได้กลับมาตระหนักกถึงภารกิจแห่งการพัฒนาจิตวิญญาณของโลกมนุษย์นี้ไปพร้อมๆ กัน.... ขอบคุณด้วยใจจริง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 กันยายน 2013
  6. อจิตตะ

    อจิตตะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มกราคม 2012
    โพสต์:
    305
    ค่าพลัง:
    +1,840
    คุณ kindred...ได้ post ไว้เมื่อปี 2010...
    ดูเหมือนเป็นข้อความที่ยังประโยชน์อยู่จนถึงปีนี้...
     
  7. หนุ่มยาดอง

    หนุ่มยาดอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +680
    The law of one wanderers.อ่านล้วหนาวไปถึงขั้วหัวใจเลยคับคุณเดรต
     
  8. l3igbite' XD

    l3igbite' XD Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +45
    มาดันกระทู้ครับหลังจากที่ตามอ่านมา 3-4 วัน
    กระทู้นี้ผมพบโดยบังเอิญนะครับและมันถูกตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2010 นั่นก็ 4 ปีมาแล้ว
    ก่อนอื่นผมต้องขอขอบคุณคุณชยุตและคุณเดรคมากๆครับที่แปลสาระดีๆมาให้อ่านผมเชื่อว่าคงมีสตาร์ซี้ดอีกหลายคนที่ได้ตื่นขึ้นเพราะคุณชยุตและคุณเดรคครับ ผมอ่านกระทู้นี้แล้วเหมือนได้เจอเพื่อนๆเลยครับผมรู้สึกว่ายังมีคนแบบผมอยู่ 5555555 เพราะปกติพอเล่าให้เพื่อนฟังเพื่อนจะบอกปัญญาอ่อน ผมเกิดหลัง 1990 ไม่กี่ปีเองครับถ้าผมเป็นสตาร์ซี้ดจริงผมคงเป็นรุ่นที่ 3 เพราะเกิดหลัง 1990 จากการทำแบบทดสอบทั้งเด็กและผู้ให้ผมได้คะแนนเยอะมาก แบบเด็กได้ 25 แบบผู้ใหญ่ได้เกินครึ่ง มาจากดาวลูกไก่เกินครึ่ง น่าทึ่งมากครับ ผมรู้สึกว่าพ่อแม่ตอนนี้ไม่ใช่พ่อแม่แท้จริงรู้สึกไม่ค่อยสนิทแต่ก็รักผู้ให้กำเนิดอย่างพวกท่านนะครับ มีสายตาทิพย์(มั้ง)ครับ สามารถมองเห็นอะไรไม่รู้ที่ตกมาจากฟ้ามันเป็นเนื้อเดียวกับท้องฟ้าแต่ผมมองเห็นมัน มองเห็นออร่าคนได้ และมองอะตอมขนาดเล็กอะไรสักอย่างมีสีน้ำเงิน แดง เล็กๆ เล็กกว่ามดครับลอยอยู่ทุกที่ในโลกมันสามารถทะลุผ่านทุกอย่างในโลกนี้ได้ผมว่ามันคงเล็กมากจริงๆ มีหูที่ได้ยินคลื่นอะไรมากระทบอยู่ตลอดเวลาดังวีๆๆๆๆๆ เป็นคลื่นยาว บางทีถี่สูงจนปวดหู และเห็นพวกเวลา11:11 12:12 13:13 12:34 อะไรแบบนี้ครับเห็นทุกวันตั้งแต่เช้ายันนอนบางวันเห็นครบทุกเวลาเลยครับแต่บางวันก็เห็นน้อยหน่อย และมีซิกเซ้นส์ด้านเวลาที่สามารถมองเห็นอนาคตอันใกล้ได้ อย่างมากสุดก็หนึ่งอาทิตย์ข้างหน้า ความสามารถพวกนี้มีมาตั้งแต่จำความได้ครับ แต่ด้านเวลามันชัดมาเรื่อยๆตั้งแต่ ม. 2 เป็นต้นมาจนถึงตอนนี้ครับ ประสบการณ์ยูเอฟโอเคยเจอครั้งแรกบินเร็วมากกระพริบรัวๆตอนแรกคิดว่าเป็นดาวไปๆมาๆพุ่งเร็วปี้ด และฝันว่าได้ขึ้นบนยานแต่ผมเอาแต่ร้องไห้อยู่ริมประตูทางขึ้นเลยไม่รู้อะไร มนตด.พวกนั้นหน้าคล้ายสิงโตครับมีขนด้วยตอนนั้นกลัวมาก ยานทรงบองลูนสีเงิน บินได้เงียบมากๆ
    แล้วเคยเห็นยานยูเอฟโอแบบโปร่งแสงด้วยมันเป็นเนื้อเดียวกับท้องฟ้าและก้อนเมฆครับแต่ผมเห็นมัน เร็วมากกระพริบตาครั้งเดียวก็หายวับไปแล้ว มันใหญ่ยิ่งกว่าเรือไททานิกซะอีกมั้งครับถ้าประมาณจากสายตา และตัวผมมีปฏิกิริยากับไฟทางเพราะถ้าผมผ่านมันจะดับ แต่บางทีเดินผ่านดวงนี้ดวงข้างหน้าดับแทน เรื่องนี้ผมเคยพิสูจน์กับเพื่อนมาแล้วโดยตอนแรกให้เพื่อนผ่านไฟนั้นไม่เกิดอะไร แต่พอผมผ่านบ้างไฟดับเลย แล้วก็ติดขึ้นมาต่อ แล้วก็ตอนไปตามต้นไม้หรือสถานที่ต่างๆก็จะเห็นปราณมั้งครับเห็นเค้าว่ามาแบบนั้นนะครับ แต่มันไม่ตรงตรงที่ผมขาวซี้ด หรือตาสี เพราะผมเป็นคนเอเชีย แต่มีเพื่อนบอกเหมือนฝรั่งๆทั้งๆที่พ่อแม่คือไทยแท้ แพ้แสงตรงมากผมไม่ชอบแสงแดดพอมองนิดเดียวแล้วน้ำตาไหลเลย ผมมีน้ำมูกตลอดและสเลดบ่อยๆผมไม่รู้ว่าใช่เป็นไซนัสรึป่าวเห็นมีคห.นึงบอกเป็นไซนัสเรื้อรังก็เกี่ยว ตอนอากาศร้อนผมจะเป็นหวัดทันทีน้ำมูกจะไหลผมต้องรีบวิ่งไปหาที่เย็นถึงจะหาย ผมเลยชอบอยู่ที่เย็นๆ รู้สึกว่าฝุ่นเยอะในขณะที่คนอื่นเฉยๆ(แย่มากอันนี้)555555 สำหรับผีเจอบ่อยครับแม่บอกเป็นพี่สาวผมเอง(เพราะแม่เคยแท้ง) มาช่วยตลอดไม่ว่าจะล้มรถหรืออะไรผมเลยไม่เจ็บหนักแถมเหมือนมีบอดี้การ์ดอยู่ตลอด 55555 (แอบกลัวเหมือนกันในบางที) และตาผมเห็นดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ซ้อนกันอีกวงนึง มองเห็นพระจันทร์จะเหมือนมีพลังงานอะไรบางอย่างวิ่งรอบอยู่ตลอดและมองเห็นละอองแสงจันทร์ตามที่มันสาดส่องแสงลงมา ส่วนพระอาทิตย์เห็นแค่ซ้อนกันครับ ส่วนเรื่ิองนั่งสมาธิแล้วเป็นออร่าสีขาวผมไม่มีหรอกครับ แต่ผมมองเห็นพลังงานกลมๆสีขาวแสงจ้ามาในห้องแสบตาจนต้องปิดตา บางทีมาเจ็ดสีแบบสีรุ้งลอยมาเยอะแยะแสบตา มาแว๊บเหมือนแสงแฟลชแล้วก็หาย (ตอนนั้นปิดไฟบ้านแล้วจะนอนแล้วครับ แต่จริงๆก็เจอในตอนเช้าบ่อย) มีอีกอย่างครับ มีดวงตาดวงนึงคอยตามมองผมผมไม่ชอบเลยมันเป็นดวงตาใครไม่รู้ลักษณะเหมือนดวงตาที่ชาวอียิปต์ชอบวาดมั้งครับ บางทีมาตอนผมแก้ผ้าอาบน้ำ ผมไม่ชอบเลยจริงๆ แย่ มันซ่อนตัวเป็นสีโปร่งแสงมันกลืนกับที่ที่มันแอบดูแต่ผมมองเห็นมัน มันคงไม่รู้ บางทีมันมาเป็นดวงตาออร่าสีแดงสีม่วงแต่มันก็โปร่งแสงอยู่ดี ส่วนเรื่องติดต่อกับต่างดาวหรือโทรจิตยังไม่มีครับ แค่บางทีเพื่อนด่าในใจแต่ผมรู้ 5555555555 บางทีคนที่เค้าดีกับเราแต่ในใจเค้าด่าเราอยู่นี่ก็แย่ครับ เค้าคุยดีกับผมแต่ในใจด่าผมผมก็ยังไปรู้อีกเลยตีตัวออกห่าง โอเคครับจริงๆลายละเอียดมีเยอะกว่านี้อีก ถ้าใครอยากให้ผมขยายความส่วนที่ผมได้พิมพ์ไปสามารถถามได้นะครับ หรือถ้าใครอยากฟังอย่างละเอียดก็บอกได้ครับ ยังมีอีกเป็นสิบๆเหตุการณ์ที่ทำให้ผมรู้ว่าผมมีพลังพวกนี้ ถ้าเป็นคนอื่นเค้าจะบอกว่าผมบ้าตอนแรกเพื่อนสนิทก็ไม่เชื่อแต่พออยู่นานๆไปมันมีหลายเหตุการณ์ที่ทำให้พวกเค้าเชื่อผมครับ 5555555555 ตอนนี้มันถามเรื่องอนาคตตลอดผมก็ไม่ได้รู้ทุกอย่างหรอกครับ เค้าคงอยากให้ผมรู้เฉพาะเรื่ิองที่ผมควรรู้ครับ ใครว่าเห็นอนาคตแล้วจะรู้ทุกอย่างมันไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ ฮ่าๆ คิดใหม่นะครับ พิมพ์เยอะไปล่ะครับ อิอิ ใครไม่เชื่อให้มองเป็นนิทานสนุกๆเรื่องนึงนะครับ ผมแค่อยากระบายให้คนที่เป็นแบบผมได้อ่าน รู้สึกไม่อยากเก็บเรื่องพวกนี้ไว้คนเดียว แต่ผ่านมาถึง 4 ปี แล้วชาวสตาร์ซี้ดคงก้าวไปสู่มิติที่ 5 กันหมดแล้ว ถ้าผมเป็นผมคงมาเห็นกระทู้นี้ช้าไป 4 ปี 555555555555 / หากข้อความของผมทำให้ใครเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีหรือทำให้ใครไม่พอใจ ผมก็ขออโหสิกรรมให้ผมด้วยนะครับ
    ปล.โพสต์นี้ผมพิมพ์เหนื่อยมาก ครั้งแรกพิมพ์ได้เยอะอยู่มือถือก็ดับงงเลยตอนนั้นตี 03.10 ของเมื่อคืน ส่วนครั้งที่สองตอน 11.35 วันนี้พิมพ์ๆอยู่เน็ตหลุด นี่ครั้งที่สามผมไม่ยอมแพ้หรอกครับ 55555555 พอผมเจอเรื่องอะไรแบบนี้คอมหรือโทรศัพท์จะป่วยทันที ไม่อยู่เน็ตหลุดก็ดับ ถ้าไม่ดัยก็เครื่องค้าง เหมือนเค้าไม่อยากให้ผมรู้งั้นอ่ะ 555555555 สวัสดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2014
  9. รอสักครู่

    รอสักครู่ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +7
  10. mawmee

    mawmee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    309
    ค่าพลัง:
    +622
    ประสบการณ์คล้ายๆกันค่ะ คุณไม่ได้บ้าหรอก
     
  11. Chayutt

    Chayutt รูปเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยครับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    6,408
    ค่าพลัง:
    +50,772

    ยินดีต้อนรับสู่การตื่นนอนซะทีนะครับ
    แต่ว่า..พวกเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวทั้งหลายนั้น
    ที่ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเองมานานแล้ว
    ก็ยังไม่น่าที่จะมีใครไปไหนหรอกมั๊งครับ
    เพราะว่าภาระกิจของพวกเขา ไม่ใช่มาที่นี่
    เพื่อมา "หนีทุกข์" หรือเอาตัวรอดไปอยู่ในที่ๆ
    เรียกว่า ได้ "พักผ่อนชั่วนิรันดร์" หรอกนะครับ

    เพราะว่าพวกเขามาเพื่อให้ความช่วยเหลือ
    หรือเรียกว่า มาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของ
    กระบวนการยกระดับขึ้นของคนทั้งโลก (Planetary Ascension) นั่นเอง
    และเพราะฉะนั้น หลายๆคน เท่าที่ผมรู้จักมา
    จากเวปนี้บ้าง จาก Facebook บ้าง
    ถึงแม้ว่าจะได้เจอกับบททดสอบหนักหนาเพียงใด
    และอยากที่จะหนีไปให้พ้นๆเพียงใดก็ตาม
    แต่ภาระกิจของพวกเขา ก็ไม่อนุญาตให้ทำเช่นนั้นได้

    ก็เลยต้องทนอยู่กันต่อไป เพราะว่า คำว่า "ภาระกิจ" ที่ว่านี้
    ก็คือสิ่งที่พวกเขา ในระดับจิตวิญญาณแล้ว
    ได้เลือกและอาสากันลงมาทำเอง ด้วยความเต็มอกเต็มใจนั่นเอง
    และพวกเขาก็ไม่ได้มาเดี่ยวๆเลย เพราะว่ามีทวยเทพและผู้นำทาง
    แวดล้อมอยู่รอบๆตัวพวกเขาเสมอ จำนวนมากมาย

    และในกรณีของคุณ เพราะว่าคุณอาจจะเป็นรุ่นที่ 3
    ดังนั้น DNA ของคุณ และต่อมไพเนียลในสมองของคุณ
    จึงทำงานได้มีประสิทธิภาพมากกว่ารุ่นก่อนๆหน้านี้
    ซึ่งก็เหมือนกับโทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆนั่นแหละครับ
    ที่ยิ่งใหม่ก็ยิ่งมี option มากขึ้น และเจ๋งมากขึ้นเรื่อยๆ

    แต่ว่ารุ่นเก่าๆทั้งหลาย พวกเขาก็กำลังอยู่ในระหว่าง
    การ upgrade ระบบของตัวเองอยู่นะครับ ทั้งทางกายภาพและทางพลังงาน
    ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงทั้งหลาย ทั้งทางกายภาพและทางพลังงาน
    จึงกำลังเกิดขึ้นกับชีวิตของพวกเขาเองอยู่ตลอดเวลา
    ซึ่งแน่นอนว่าหลายๆการเปลี่ยนแปลง
    มันก็ไม่ได้ทำให้พวกเขารู้สึกสะดวกสบายแต่อย่างใดเลย
    และอาจจะเจ็บปวดด้วยซ้ำไป
    แต่นั่นก็เป็นวิถีของมัน ที่มันจะต้องเป็นไปแบบนี้หละ

    มันมีข้อมูลที่คุณควรจะรู้อยู่อีกมากมาย
    เพราะว่าถ้าคุณได้มาเจอกระทู้นี้แล้ว ก็ย่อมเป็นสัญญาณให้รู้แล้วว่า
    มันถึงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงอะไรซักอย่างในตัวคุณเองบ้างแล้วหละ
    ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งมันก็จะนำไปสู่ "ภาระกิจ" ของตัวคุณเองต่อไป
    แต่ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง หรือรีบเร่งแต่อย่างใดหรอกนะครับ
    เพราะว่า เชื่อเถอะว่า ทวยเทพ และผู้นำทางทั้งหลาย
    รวมถึงจิตวิญญาณของตัวคุณเองด้วย
    พวกเขารู้มาก และ ฉลาดมากกว่าที่ตัวคุณเองรู้และฉลาดซะอีก
    ดังนั้น พวกเขาก็จะมีวิธีการที่จะนำทางคุณไป
    บนเส้นทางสายนี้ได้อย่างเป็นธรรมชาติและอย่างแนบเนียน

    แล้วคุณก็จะได้พบว่า สิ่งที่เป็นพรสวรรค์ของคุณ
    และสิ่งที่คุณชอบ และทำอยู่แล้วนั่นแหละ
    คือสิ่งที่เกี่ยวข้องกับภาระกิจของคุณหละ
    ซึ่งมันไม่จำเป็นจะต้องเป็นเรื่องที่ใหญ่โตมโหฬารเสมอไป

    แต่การตื่นนอนที่ว่านี้ บางทีมันก็ไม่ใช่เรื่องสบายนะครับ
    เพราะว่า "วิธีการคิด-พูด-ทำ" แบบที่คนอื่นๆคิด-พูด-ทำกันหนะ
    บางทีมันก็จะเอามาใช้กับคุณไม่ได้ เพราะว่าคุณต่างจากพวกเขา
    และเพราะฉะนั้น ผมถึงบอกว่ามันยังมีหลายสิ่งหลายอย่าง
    ที่คุณจะต้องตามเก็บ เพื่อรับรู้ และทำความเข้าใจกับมันอีกอยู่
    ซึ่งโดยธรรมชาติของคุณและ starseed คนอื่นๆแล้ว
    เมื่อได้อ่านข้อความที่มัน "ใช่" สำหรับพวกเขาแล้ว
    พวกเขาก็จะรู้ได้โดยสัญชาตญาณในทันที ว่ามัน "ใช่"
    และบางทีข้อความนั้นๆ มันก็อาจจะทำให้พวกเขารู้สึกประทับใจอย่างมาก
    และสั่นสะท้านจนไปถึงข้างใน โดยไม่ทราบสาเหตุก็ได้
    เพราะว่า แท้ที่จริงแล้ว มันเป็นข้อมูลที่พวกเขารู้และเข้าใจดีอยู่แล้วนั่นเอง
    เพียงแต่ว่า ตอนนี้ ได้ลืมไปแล้วชั่วคราวเท่านั้นเอง

    ลองค้นหากระทู้ต่างๆที่คุณชอบที่ผมแปลเอาไว้ให้แล้ว
    จาก tag ที่ชื่อ chayutt ดูนะครับ เผื่อมันจะช่วยอะไรคุณได้บ้าง

    ................................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2014
  12. หนุ่มยาดอง

    หนุ่มยาดอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +680
    ผมมีความในใจมากมาย มากจนไม่อาจจะกล่าวออกมาเป็นภาษาได้:'(
    ปล.บางครั้งก็อยากตะโกนขึ้นฟ้า.บอกไปว่า"ผมพร้อมแล้วว จะรออะไรอีกห๊า?555+++ประมาณนี้คับ..
     
  13. หนุ่มยาดอง

    หนุ่มยาดอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2011
    โพสต์:
    678
    ค่าพลัง:
    +680
    ผมมั่นใจมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่า.บางครั้งผมจะรู้สึกโดดเดี่ยวไปบ้างกับเส้นทางที่ผมตัดสินใจก้าวเดิน..แต่ผมก็พร้อมที่จะสู้กับมัน เพระผมมั่นใจว่า ผมมาถูกทางแล้วจริงๆ.

    ผมรักพ่อแม่ของผม แต่ผมกลับคิดว่า เค้าไม่น่าจะใช่พ่อแม่ผมจริงๆ ความคิดนี้ ทำให้ผมรู้สึกผิด เสียใจ และก็ร้องไห้(บ่อยครั้ง) ท่านรักผมมาก ผมรู้ จนพี่น้องมองว่า ท่านลำเอียง รักผมมากกว่าพวกเขา เพราะผมผิวขาว ผิวพรรณดี กว่าพวกเค้า555++(เค้ามองกันแบบนั้นน่ะครับ.เพราะพี่น้องของผม จะยึดทางโลกมากโขอยู่)) มันก็เป็นเรื่องแปลกที่ผมไม่ค่อยจะเหมือนใครในบ้าน ผมรู้สึกโดดเดี่ยว เหมือนมาหลงทางอยู่ยังไงยังงั้น.(กระซิกๆ)

    ตะก่่อนผมคิดว่า ผมบ้า และเพ้อเจ้อ ชอบมองท้องฟ้ามากๆๆๆๆ มองแล้วก็คิดว่า เราน่าจะเคยอยู่ที่นั่นมาก่อน อิๆ..(คิดว่าตัวเองน่าจะมาดี..ประมาณนั้น555++)

    จนกระทั่ง..มาเจอกระทู้คุณพี่ชยุต ผมก็เลยถึง บางอ้อ อ๋อ..เราไม่ได้บ้านี่หว่า..

    ดีใจมากครับ ขอบอกว่า ดีใจมากๆที่เจอเพื่อนๆที่นี่ เรามาถูกทางแหล่ะ.ยินดีด้วยจริงๆครับผม..(f)
     
  14. l3igbite' XD

    l3igbite' XD Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +45

    สวัสดีคุณชยุตอีกรอบนะครับ จริงๆไม่คิดว่าคุณชยุตจะตอบแต่จู่ๆก็รู้สึกว่ามีคนพูดถึงเลยคิดว่าไปฝากข้ออะไรไว้ที่ไหนที่แท้ในกระทู้นี้นี่เองจริงๆผมอ่านตั้งแต่ตีสามแล้วครับแต่พึ่งมาตอบ รู้สึกกลัวๆครับเพราะถ้าผมเล่าเรื่องแบบนี้ให้ใครฟังผมจะโดนดี โดนดีของผมอาจหมายถึงพลังพิเศษทั้งหมดหายไปบางทีหายเป็นเดือนเลยครับกว่าจะกลับมา หรืออย่างเมื่อคืนนี้มีออร่าสีดำตกมาจากหลังคาเลอะเต็มห้องไปหมดเหมือนน้ำมันเลอะห้องอ่ะครับตามผนังห้องนี่ย้อยเต็มเลยผมขนลุกเลยกำลังจะพิมพ์ตอบเลยเลิกพิมพ์แล้วมีดวงแสงสีส้มแบบพระอาทิตย์ลอยอยู่บนเตียงแล้วพุ่งมาจะทำร้ายผมแต่ผมหลบทันแล้วมันก็หายวับไปเลยผมเลยนอนดีกว่า กระทู้นี้รวมถึงคุณชยุตมีพลังงานวิ่งวนอยู่ตลอดเลยนะครับ เป็นออร่าสีขาวอ่อนวนเป็นวงพายุแล้วตีเข้าหน้าผมอยู่ตลอดเวลาที่อ่านเลยครับ ฮ่าๆ ดีจัง แต่แปลกดีครับปกติถ้าผมได้คุยกับใครไม่ว่าจะทางไหนก็ตามผมจะสามารถรู้ถึงอนาคตของเค้าได้อ่อนๆ(คือหมายถึงรู้ไม่มากก็น้อยอ่ะครับ) แต่ผมสัมผัสคุณชยุตไม่ได้เลยครับแม้ผมจะพยายามเพ่งไปที่รูปโปรไฟล์ของคุณแล้วก็ตามแปลกดีครับไม่เคยเจออะไรแบบนี้เลย ผมมองเห็นแต่ความว่างเปล่ากับรูปโปรไฟล์เปล่าๆ จริงๆผมเคยช่วยเพื่อนมาหลายคนแล้วครับอย่างเคสล่าสุดเพื่อนผมคนนึงผมเห็นควันสีดำตามเค้าใหญ่มากใหญ่เหมือนก้อนเมฆสีดำตอนฝนตก(แต่ผมไม่ได้เห็นด้วยตาเปล่านะครับผมเห็นในความรู้สึก)วันนั้นเค้าโทรมาหาผมผมเลยบอกเค้าว่าไปทำบุญด้วยนะก่อนวันศุกร์(แต่ตอนนั้นวันอังคาร)ผมบอกถ้าไปวันเสาร์ไม่ทันแล้วนะเพราะจะมีอุบัติเหตุเจ็บหนักเลือดตกยางออกไปทั้งตัวสรุปผมไปทำสังฆทานกับเค้าวันพฤหัสแต่ควันดำนั่นมันไกลออกไปแต่ยังอยู่สรุปเพื่อนไปหาหมอน้ำ(หมอน้ำคือคนที่ดูอดีตอนาคตด้วยน้ำ)เค้าบอกแม่ผัวทำของใส่ทำจากกระดูกคนตายเป็นคุณไสยของฝั่งอิสลามอ่ะครับเค้าเลยแก้เสร็จควันดำนั่นก็หายไป เพื่อนบอกแกนี่รู้ดีเนอะคิดถูกแล้วที่เราโทรมาหาแก แล้ววันศุกร์นั่นก็มีระเบิกครับเพื่อนผมบอกจะไปแถวนั้นพอดี(บ้านผมอยู่สามจังหวัดอ่ะครับ) สรุปคือผมยิ่งมั่นใจว่าผมเห็นมันผมไม่ได้จินตนาหรืออุปาทานขึ้นมาวันที่ผมไปทำสังฆทานเสร็จพระท่านก็ถามเพื่อนผมว่ามีอะไรจะถามมั๊ย เค้าถามเพื่อนผมแต่มองมาทางผม ในใจเค้าอยากให้ผมถามครับผมอ่านใจท่านออกแต่ผมไม่กล้าถามเพราะไม่สนิทกับท่านและพระท่านก็เหมือนจะอ่านใจผมออกเหมือนกัน เพื่อนกระซิบบอกข้างหูครูบาต้องรู้แน่ๆว่าแกมีของ(เค้าเรียกว่าครูบาอ่ะครับเพราะศิษย์ที่กุฏิเค้าเยอะมาก) ผมเลยกราบลาท่านแล้วท่านก็ยิ้มให้เล็กๆผมก็ยิ้มให้ท่านแล้วออกมา นี่เป็นเคสล่าสุดครับจริงๆมีอีกหล่ยเคสเลยผมอาจมาเพื่อการนี้ก็ได้ ฮ่าๆ / ขอบคุณคุณชยุตนะครับสำหรับกระทู้ที่แนะนำก่อนจะมาเจอกระทู้นี้ผมเคยอ่านกระทู้ของชยุตมาหลายกระทู้แล้วครับ แต่ผมจะอ่านมันซ้ำอีก

    **///// ผมขอสอบถามนิดนึงครับว่าคุณชยุตพอจะทราบเรื่องดวงตาที่ตามดูผมมั๊ยครับว่ามันคืออะไร ผมเคยอ่านเจอเค้าบอกเป็นดวงตาปีศาสมันเป็นความเชื่อของคนอินเดียอ่ะครับ แต่ผมว่าอันที่ตามผมอยู่มันไม่ใช่ มันเหนือกว่าผม ไม่ว่าผมจะทำดี ทำบุญ ทำอะไรก็ตามมันก็ยังอยู่ ผมเคยด่าทอแบบหยาบคายสุดๆมันก็ยังนิ่งอยู่ครับมันเหมือนไม่รู้เรื่องไม่มีความรู้สึก -__- และเหมือนมันอยู่เหนือกฏแห่งกรรมไปแล้วอ่ะครับ แต่พอมันมาผมขนผมลุกไปหมดผมต้องมองหาทันทีว่ามันอยู่ไหนเหมือนพลังมหาศาลของมันแผ่ออกมามากจนผมรู้สึกอ่ะครับ มันมากกว่าผมด้วยซ้ำ แต่บางทีมันมาแบบว่างเปล่าไม่มีพลังงานใดๆเหมือนเอารูปดวงตามาแปะไว้ที่ผนังอ่ะครับ แต่ในความว่างเปล่าเหมือนมันไม่ได้ว่างเปล่าคุณชยุตพอเข้าใจไหมครับ -__-อยากสอบถามคุณชยุตอีกเรื่องนึงครับถ้าเราเป็นสตาร์ซี้ดจริงเราจะเดินทางมาเกิดที่โลกนี้ยังไงครับ ผมเห็นภาพตัวเองเกิดจากอะตอมเล็กๆมากมาย ทั้งสีน้ำเงิน สีแดง สีเงิน สีทองแดง สีทอง สีบลอนด์ สีน้ำตาล สีขาว สีเขียวแก่ (หรือมีอีกแต่ผมจำไม่ได้) เป็นอะตอมที่มีแสงในตัวเองครับแสงประมาณดวงดาวอ่ะครับมารวมตัวกันกลายเป็นพลังงานกลมๆลูกเดียวสีขาวจ้าแล้วพุ่งมาที่โลกแบบดาวตกด้วยสีโลหะผสมสีทองแดงอ่ะครับ ผมเห็นแค่นี้แหละครับตอนแรกไม่รู้ว่าเห็นอะไรแต่ความรู้สึกมันบอกว่า "นี่แหละคือแกตอนเกิดแหละก้อนพลังงานนั่นก็คือแกนั่นแหละที่กำลังจะมาเกิด" แต่ตอนนี้ผมเกิดมาแล้วผมกลับมองเห็นอ่ะตอมบนโลกได้แค่ 4 สี คือ แดง น้ำเงิน ขาว และเหลืองอ่อนๆ ผมคิดว่าพลังงานและธาตุบางอย่างคงไม่มีในโลกแน่ๆ แต่มีบางทีที่เห็นอะตอมสีรุ้งคล้ายนกลอยอยู่ในห้องเป็นกลุ่มช้าๆ ผมดูชอบมากดูแล้วเพลินอารมณ์ดี บางทีผมร้องไห้มันก็จะโผล่มาลอยจนอารมณ์เศร้าผมหายไปเลย 555555 รู้แค่นี้ครับผมเลยอยากรู้ว่าเรามาเกิดยังไงหรือแค่ผมจินตนาการและอุปาทานขึ้นมา ผมพิมพ์เยอะอีกแล้วครับขอโทษด้วยครับ ถ้าคุณชยุตไม่ว่างอ่านหรือตอบก็ไม่เป็นไรนะครับ ฮ่าๆ เพราะมันยาวจริงๆบางทีก็เข้าใจว่าขี้เกียจอ่านเพราะคุณชยุตคงมีการมีงานทำ และถ้าข้อความของผมทำให้ใครไม่สบายใจหรือลำบากใจหรือไม่พอใจ ผมต้องขออโหสิกรรมไว้ ณ ทีนี้ด้วยนะค3รับ _/|\_ *สวัสดีนะครับคุณชยุต* ^^
     
  15. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    l3igbite' XD ลองอ่าน บทความของครายออนดูสิ อิอิอิ

    เรื่องของพลังงาน ถ้าเราสนใจ หรือ จดจ่ออยู่กับเรื่องด้านลบ คุณไสย มนต์ดำ เราก็จพเจอเหตุการณ์แบบนั้นบ่อยๆ ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม เพราะเราดึงดูดมาเอง อิอิอิ
     
  16. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    พอดีคุณชยุตกำลังอยู่ระหว่างเดินทางกลับเมื่องไทยน่ะครับ
    แกฝากผมมาส่งข่าว ให้คุณ l3igbite' XD อ่านด้วยน่ะครับ
    ข้างล่างนี้เลยครับ


    สวัสดีครับ ผมอยากฝากคุณ mead เข้าไปอ่านและตอบคำถามของคุณ L3igbiet XD ในกระทู้ starseed ช่วยผมหน่อยครับ



    [​IMG]เพราะผมใช้โทรศัพท์พิมพ์ ไม่สะดวกหนะครับ




    [​IMG]เรื่อง แรกเรื่องดวงตาที่คอยตามเขาอยู่ ผมรู้สึกแวปมาตั้งแต่แรกแล้วหละว่า นั่นอาจจะเป็นตัวตนที่สูงกว่าของเขาเองก็ได้ รวมถึงเป็นทวยเทพและผู้นำทางของเขาเองก็ได้ ซึ่งใครๆก็มีกันทั้งนั้นแหละ เพียงแต่ว่าเขาโชคดีที่สามารถมองเห็นได้ แต่พวกเราคนอื่นๆมองไม่เห็น และบางทีเพราะว่าจิตของเขาไปรับรู้สิ่งที่เป็นหลากมิติ เป็นพลังงานที่อยู่เหนือช่องว่างและกาลเวลา ดังนั้น บางที่ก็เลยอาจจะทำให้สมองของเขา ซึ่งอยู่ในมิติที่สาม แปลความหมายมันออกมาเป็นแบบเส้นตรงแบบนั้นก็ได้ ซึ่งแท้ที่จริงแล้วมันอาจจะเป็นพหูพจน์และซับซ้อนมากกว่านั้นอีกก็ได้




    [​IMG]เรื่อง ที่สองคือเรื่องพลังงานที่เขาเห็น เกี่ยวกับตอนมาเกิดของเขา อันนี้ผมว่าคุณมีดสามารถอธิบายได้ เพราะว่าเราทุกคนล้วนเป็นประกายหนึ่งของแหล่งกำเนิดเดียวกัน
     
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    แล้วก็ อยากฝากให้คุณ mead คัดลอกข้อความจากครายออนที่ผมตัดบางส่วนมาประกอบรูปภาพข้างล่างนี้ ไปโพสต์ในกระทู้นั้นด้วยนะครับ

    [​IMG]

    Chayutt Naowarat

    "โอ..จงฟังให้ดีนะ มนุษย์โลกผู้ประเสริฐคือรูปธรรมชีวิตในจักรวาลที่ยอมเสียสละตัวเอง เพื่อมาเกิดบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ด้วยความเต็มอกเต็มใจ และก็ยินยอมพร้อมใจที่จะมาอยู่ในร่างกายเนื้ออันเปราะบางนี้ และยินยอมที่จะเก็บซ่อนความดีเลิศและความสง่างามของตัวเองเอาไว้ และยินยอมที่จะเก็บซ่อนความดีเลิศและความสง่างามของเมอร์ขะบะห์ของตัวเอง และสีสันของตัวเองเอาไว้ด้วย ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะได้มายืนเคียงข้างอยู่กับมวลหมู่มนุษยชาติทั้งหลาย และก็เพื่อที่จะพยายามจดจำตัวตนที่แท้จริงของตัวเองให้ได้ มันไม่มีความรักใดที่จะยิ่งใหญ่ไปกว่านี้อีกแล้ว จึงทำให้พวกคุณยอมเสียสละตัวเองมากมายถึงขนาดนี้ได้ ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะได้มาอยู่ที่นี่ และมาทำให้โครงสร้างทั้งผืนของจักรวาลเปลี่ยนแปลงไป!

    ใช่แล้ว..พวกคุณฟังไม่ผิดหรอก เพราะว่าสิ่งที่พวกคุณกำลังทำอยู่ที่นี่ บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ และในภพชาตินี้นั้น มันจะไปเปลี่ยนแปลงความเป็นไปของสิ่งต่างๆมากมาย ในแบบที่พวกคุณคิดไม่ถึงเลยทีเดียวหละ เพราะฉะนั้น พวกเราจึงอยากจะขอใช้โอกาสนี้เพื่อล้างเท้าให้กับพวกคุณสักครู่ (หยุด) ซึ่งนี่ก็เป็นแบบแผนและวิธีการอย่างหนึ่งของครายออน ที่ในระหว่างการสอน ก็จะเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักเสมอ"

    ....KRYON....
     
  18. rossaleen@hotmail.com

    rossaleen@hotmail.com สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +2
    สวัสดีค่ะคุณมี๊ดดด คุณชยู๊ตตต ทักทาย เวอร์ชั่น โรสค่ะ อิอิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. l3igbite' XD

    l3igbite' XD Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +45


    ขอบคุณคุณชยุตมากครับที่มาช่วยตอบแม้จะไม่ว่างและขอบคุณคุณ mead มากครับ ที่เอาข้อความของคุณชยุตมาตอบให้อีกที ขอบคุณสำหรับเรื่องดวงตาครับตัวตนที่สูงกว่าก็คือผมอีกคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่ใช่มั๊ยครับอย่างที่ผมได้อ่านกระทู้นี้ในหน้าที่ผ่านๆมาใช่มั๊ยครับ ตอนนี้เค้ายังอยู่กับผมเกือบตลอดเวลาทั้งที่ตั้งแต่เกิดมาจะเห็นไม่บ่อยมากนัก แต่ตอนนี้เค้าซ่อนอยู่ในดวงตารูปภาพอันนึงในห้องผมครับเค้าไม่ยอมไปและถึงห้องผมจะมีรูปหลายรูปก็ตามแต่ผมก็รู้ว่าอยู่ที่รูปไหนเพราะมีตาแค่รูปเดียวในห้องที่ปล่อยคลื่นพลังงานสีขาวอ่อนๆออกมาตลอดเวลา ผมเคยบอกตอนคห.ก่อนว่าถ้าผมเล่าเรื่องตัวเองให้ใครฟังอะไรที่มีในตัวมันจะหายไป(ความารถพิเศษ)ตอนนี้หายไปหมดแล้วครับไม่รู้วันไหนจะกลับมาอีกพอพลังไหลออกผมก็ป่วยเลยตอนนี้นอนอยู่ครับ ฮ่าๆ เหมือนภูมิต้านทานมันหายไปอ่ะครับ คือเหมือนโดนลงโทษเลยครับเหมือนถ้าผมเล่าเค้าจะขอพลังคืนประมาณนั้นป่าวไม่รู้ แต่ผมก็เลือกที่จะเล่าเพราะอยากระบาย -__- 5555 ส่วนข้อความประโยคที่คุณชยุตบอกว่าผมอาจเห็นอะไรได้ในหลากมิติได้ผมนึกออกอย่างนึงทันทีครับมีคนเคยบอกว่าผมสามารถเห็นสสารมืดได้ซึ่งมันไม่ได้อยู่ในมิติที่3(รึป่าว) ที่ผมบอกคห.ก่อนว่าจะเห็นอะตอมสีเหลือง แดง น้ำเงิน ที่เล็กมากเล็กกว่าหมดและทะลุทุกอย่าง ผมไม่รู้ว่าสสารมืดมันคืออะไรนะครับยังไม้ได้หาอ่านด้วย แต่ที่แน่ๆมันวิ่งอยู่ทุกที่ในโลกครับ มันสามารถลอยทะลุวัตถุและสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ได้ทุกอย่างง่ายดายเลย จากที่เคยทดสอบตัวเองถ้าผมตีธรรมดามันจะลุมือผมไปแต่ถ้าผมลองตั้งสมาธิสักนิดแล้วตีไปในอากาศพวกนั้นที่ลอยอยู่มันจะหยุดทันทีแล้วแล้วพอประมาณ 10 วิมันก็จะกลับไปลอยลิ่วเหมือนเดิม สำหรับดวงตาและหูตอนนี้ผมสามารถกำหนดได้แล้วครับว่าจะให้เห็นหรือไม่เห็นมันอาจจะไม่หายไปซะทีเดียวแต่มันจะจางลง อย่างตาตอนนี้เห็นไอพวกอะตอมหรือปราณอะไรพวกนี้ลางๆแล้วครับจากตอนเด็กที่เห็นจนรำคาญมองไม่เห็นวัตถุไรเลยตอนนี้เลยลองเลิกสนใจมันแล้วจดจ่อกับวัตถุที่จะมองสีของอะตอมและปราณมันจะอ่อนลงทันทีถ้าผมกำหนดให้เห็นมันก็จะชัดแจ๋วสีเข้มขึ้นมาเลยครับ ส่วนหูที่มีเสียงวีๆๆมาตลอดก็เลิกรำคาญแล้วมาจดจ่อกับเสียงที่จะฟัง เสียงวีๆๆมันก็จะจางลงแต่ยังได้ยินนิดๆ คือเหมือนจับจุดได้เพราะอยู่กับมาตั้งแต่เกิด (อันนี้อยากเล่าเฉยๆครับ) 55555555555555555 / สวัสดีครับคุณชยุตว่างๆอย่าลืมเข้ามาตอบผมอีกนะครับ ปล.จริงข้อความนี้ผมพิมพ์ตั้งไว้ตั้งแต่วันที่ 15 แล้วครับ แต่ผมลองไม่ตอบดูเผื่อความสามารถของผมมันจะกลับมาแต่วันนี้มันวีนที่ 29 แล้วครับมันยังไม่มาเลยผมเลยคิดว่ามาตอบดีกว่า ฮ่าๆ แต่ตอนนี้มันก็เริ่มมาเรื่อยๆแล้วหล่ะครับ สวัสดีอีกึครั้งนะครับทั้งคุณชยุตและคุณmead
     
  20. l3igbite' XD

    l3igbite' XD Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +45
    ขอบคุณคุณ mead มากๆเลยครับที่สละเวลามาเอาบทความครายออนมาให้ผมอ่านว่างๆผมจะลองหาอ่านแบบเต็มๆดูนะครับ ขอบคุณคุณ mead มากๆนะครับตอนนี้เข้าใจแล้วครับ ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...