สื่อสารความคิดทางสมองระยะไกล -โทรจิตดิจิตอล

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย pongio, 6 กันยายน 2014.

  1. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,851
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทีมนักวิจัยของสหรัฐประสบความสำเร็จในการทดลองการสื่อสารทางไกลทางสมอง ผ่านคลื่นที่เชื่อมโยงกับอินเตอรเนท โดยสามารถสื่อสารจากทวีปหนึ่งไปอีกทวีปหนึ่ง


    รายงานระบุว่า ในการทดลองดังกล่าว นักวิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดของสหรัฐ ประสบความสำเร็จสามารถส่ง"ข้อความทางความคิด"จากบุคคลหนึ่งซึ่งอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ไปยังอีกบุคคลที่อยู่ในประเทศอินเดีย ซึ่งอยู่ห่างไกลกันกว่าพันไมล์ ด้วยการใช้อุปกรณ์สื่อสารไร้สายครอบศีรษะ ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการแปลงค่าการอ่านความคิดทางสมอง โดยเป็นการทำงานระหว่างอุปกรณ์สื่อสารสองตัว ซึ่งตัวหนึ่งเป็นตัวส่งสัญญาณความคิด และอีกตัวเป็นตัวรับสัญญาณความคิด ผ่านการส่งคลื่นทางอินเตอร์เนท


    โดยผู้ทดลองจะนึกคำง่าย ๆ ก่อนที่ข้อมูลสื่อสารดังกล่าว หรือความคิดดังกล่าว ไปยังอีกบุคคลหนึ่งที่ใช้อุปกรณ์ตัวสัญญาณความคิด โดยคอมพิวเตอร์จะทำหน้าที่แปลงคำพูดดังกล่าวให้เป็นโค้ดดิจิตอลแบบคู่ขนาน ก่อนที่อุปกรณ์ดังกล่าวจะแสดงภาพจำลองข้อมูลทางความคิดจากต้นทาง เป็นรูปของประกายแสง แต่จะไม่สามารถได้ยิน หรือเห็นความคิดดังกล่าวได้เหมือนการสื่อสารระยะใกล้ปกติ


    ด้านกลุ่มนักค้นคว้าเผยว่า กลุ่มต้องการจะพิสูจน์ว่าการสื่อสารโดยตรงระหว่างบุคคลด้วยการอ่านกิจกรรมทางสมองของอีกฝ่าย เป็นสิ่งที่สามารถเป็นไปได้หรือไม่ โดยเฉพาะการสื่อสารผ่านระยะทางไกล ๆ และใช้อินเตอร์เนทเป็นเหมือนสะพานเชื่อม และว่า การทดลองนี้เป็นรูปแบบการใช้เทคโนโลยีเพื่อสื่อสารทางโทรจิต ที่ไม่ได้หลอกลวงเหมือนการใช้มายากล


    โดยกลุ่มฯได้ใช้เทคโนโลยีสร้าง"ปฎิสัมพันธ์เชิงแม่เหล็กไฟฟ้า"กับสมองคนเรา และว่า ทีผ่านมา ได้มีนักวิทยาศาสตร์ได้พยายามจะส่งข้อความทางความคิดของบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งมาเป็นเวลานับทศวรรษ ซึ่งสามารถพิสูจน์ได้จากวารสารการแพทย์ที่ผ่านมา


    ขณะที่นักวิจารณ์กล่าวว่า การทดลองนี้ทำให้โอกาสที่มนุษย์จะสามารถสื่อสารทางโทรจิตได้คล้ายภาพยนตร์ไซไฟดังอย่าง X-Men หรือตัวละครอย่าง"ดร.ชารลส์ ซาร์เวียร์"มีความจริงมากขึ้น - See more at: นี่มัน X-men? นักวิทย์เจ๋ง! ทดลองสำเร็จ สื่อสารความคิด ทางสมองระยะไ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • io.jpg
      io.jpg
      ขนาดไฟล์:
      56.5 KB
      เปิดดู:
      727
  2. mesus

    mesus Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2014
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +35
    ชาวตะวันตกมีการศึกษาทางวิชาการด้านวิทยาศาสตร์ทางจิตมาได้ระยะหนึ่งแล้ว เชื่อว่าองค์ความรู้ด้านนี้ของชาวตะวันตกก็จะพัฒนาขึ้นในทุกขณะ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่มีข่าวทำนองนี้เผยแพร่ออกมาเสมอๆ ซึ่งต้องขอขอบคุณเจ้าของกระทู้ ที่ได้นำมาเล่าไว้ให้อ่านกันด้วยครับ
     
  3. (-*-)

    (-*-) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +1,060
    พิมพ์คุยกันผ่านเว็บพลังจิตนี้ล่ะครับ .. คือหนึ่งในการสื่อสารระยะไกลกันได้
     
  4. rasa84000

    rasa84000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +263
    การรู้ความคิดของคนอื่น โดยใช้พลังจิตมีจริงค่ะ เจอมากับตัวเองหลายหนแล้ว
    แต่ไม่ใช่ทางพ้นทุกข์ค่ะ

    การภาวนาอย่างง่ายๆนำมาฝากค่ะ
    การทำสมาธิเช่นรู้ลมหายใจ ในชีวิตประจำวัน หรือรู้กายในอิริยาบทต่างๆ ก็จะเกิดสติสัมปชัญญะและสมาธิมากขึ้น จะเป็นการสั่งสมไปตามลำดับ
    จิตจะคุ้นเคยกับความสงบ ตั้งมั่น เพราะตั้งแต่ปฐมฌานจะมีความตั้งมั่น เมื่อฝึกไปเรื่อยๆ จิตจะฝึกละทิ้งอารมณ์ ที่เป็นบาปอกุศล

    แล้วจิตจะคุ้นเคยกับกุศลมากขึ้น และตั้งมั่นขึ้นมาได้ จึงสามารถเห็นการ
    เกิดดับเปลี่ยนแปลง ของจิตหรือวิญญาน เมื่อเห็นตามความเป็นจริง จึงเริ่มเบื่อหน่ายคลายกำหนัด และปล่อยวางได้มากขึ้น
    (อ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิม หนังสือกลัวเกิดไม่กลัวตาย)
     
  5. a5g1aeka

    a5g1aeka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    728
    ค่าพลัง:
    +1,579
    :cool:ในที่สุดการสื่อสารทางโทรจิตก็สามารถใช้เครื่องมือทางวิทย์ฯมาใช้ได้สำเร็จและมีจริง เหล่าพระอริยสงฆ์ที่มีอภิญญา ท่านสามารถสื่อสารกันทางจิตได้มานานแล้ว จึงไม่ต้องสงสัยกันอีก ขอบคุณจขกท.ที่ช่วยเผยแผ่ข่าวดีเช่นนี้ให้ทราบกันถ้วนทั่วครับ...:cool:(k)({):cool:(k)
     
  6. kachangwa

    kachangwa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +33
    ถ้ารู้ใบไม้ในกำมือนี้ ก็จะรู้ใบไม้ทั้งป่า
    ไม่ต้องไปรู้คนอื่นหรอกครับ แค่คุณศึกษาตัวเอง รู้จักตัวคุณเอง คุณก็จะรู้ความคิด ทุกๆคนบนโลกใบนี้
    แต่...ต้องรู้จักตัวคุณ ตามความเป็นจริงนะ ไม่ใช่ทึกทักเอา ว่ารู้จัก
     
  7. toypo

    toypo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2011
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +131
    เก่งจัง
     
  8. Pelagia

    Pelagia เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    790
    ค่าพลัง:
    +1,198
    ก็คือใช้เซนเซอร์ติดที่หัวคนที่จะส่งข้อความใช่ไหม ซึ่งเซนเซอร์ก็จะจับการทำงานของสมองซึ่งมีไฟฟ้าวิ่งไปมาในแต่ละจุด และก็จะส่งสัญญาณนั้นไปยังคนรับซึ่งก็จะมีเซนเซอร์ติดที่หัวคนในตำแหน่งเดียวกัน ซึ่งก็เหมือนการก็อปสัญญาณไฟฟ้าที่วิ่งในหัวคนนึงไปยังอีกคนนึง

    ซึ่งก็จะทำให้คนรับนึกเหมือนคนส่ง
     
  9. MasterMovieHD

    MasterMovieHD Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +76
    การสือสารแบบนี้ จะคล้ายกับที่เราส่งสารกันแบบแก้วสองใบแล้วมีสายเชื่อกเชื่อมกันหรือป่าว ที่ช่วยพัฒนามาเป็นการสื่อสารทางโทรศัพท์ แต่ถ้าการสื่อสารทางโทรจิตดิจิตอลมี ก็ใช้ครื่องมือทางวิทยาศาสตร์เข้ามาในการจับการทำงานของคลื่นสมอง ถ้าเป็นทางฝั่งบ้านเรานั้น ก็น่าจะเกี่ยวกับจิตของเรามากว่า เพราะว่าชาวต่างชาติชอบทดลองอะไรที่สามารถพิสูจน์ได้ แต่เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นแล้วก็ดีคะ ขอบคุณนะคะที่ช่วยแชร์สิ่งดี ๆ คะ
     
  10. moonoiija

    moonoiija เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2014
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +198
    ถ้าสื่อสารผ่านโทรจิตได้ อาจไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์หรือเปล่าค่ะ :cool:
     
  11. apple_lin

    apple_lin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    584
    ค่าพลัง:
    +704
    อย่างใช้โทรจิตได้บ้างจัง
     
  12. นักรบธรรม

    นักรบธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    970
    ค่าพลัง:
    +1,178
    ดีนะครับ ถ้าทำได้ คนตาบอด หรือคนพิการ พูดไม่ได้ หูหนวก จะสามารถสือสารกันได้ พี่เลี้ยงคนเดียวดูแลได้ เป็น10 คน ถ้าไม่คิดเอาไปทำลายล้างกันนะ
     
  13. blackangel

    blackangel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,750
    ค่าพลัง:
    +1,919
    แค่ ยกศอกคุยกัน อย่างทุกวันนี้ก็หรูแล้ว
     
  14. LamGuZa

    LamGuZa สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +9
    อยากรู้ว่าจริงมั๊ย ทำ ปฐมฌาณ ให้เกิดครับ แล้วเราจะรู้ว่าใครมีฌาณระดับเดียวกับเรา เราก็สามารถคุยโทรจิต กับคนนั้นได้
     
  15. ิBat of light

    ิBat of light เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2012
    โพสต์:
    687
    ค่าพลัง:
    +842

    จากข้อความข้างบน เราแปลงให้เป็นคำถาม ทางตรรกะได้สองข้อ ดังนี้

    ๑ ปฐมฌาน ใช้งานโทรจิต ได้หรือไม่
    ๒ ปฐมฌานแล้วจะรู้ว่าใครมีฌานระดับเดียวกับเรา ใช่หรือไม่

    ถอดความมาเป็นค่าความจริงแล้ว แปลได้ว่า

    ปฐมฌานน่าจะต้องยากเย็นมากแน่ๆ ไม่ง่ายอย่างที่ใครคิด
    เพราะคนใช้โทรจิตได้ ไม่เห็นจะมีมากซักเท่าไหร่เลยนะครับ
    หรือว่ามีแยะ แต่แอบซ่อนกันอยู่ ก็ไม่ทราบได้นะ เนอะ

    หรือว่าปฐมฌานก็มีหลายระดับ หลายเกรด
    อาจมีปฐมฌานของแท้ ของเทียม ของเลียนแบบ
    หรือแบบให้ทดลองใช้ได้บางส่วน แบบชั่วคราว
    หรือใช้งานได้เป็นบางครั้ง หรือแบบบังเอิญ
    อืม..พอแจกแจงออกไป ก็ชักปวดหัวซะแล้วสิ

    ค่าสัจธรรมของคำนี้ คือปฐมฌานนี้น่ะนะ
    ก็มีหลากหลายสำนัก หลายอาจารย์ให้คำนิยามเอาไว้

    แล้วที่ถูกต้องที่สุด คืออะไรกันน๊า


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง

    .
     
  16. บุดดาสอน

    บุดดาสอน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2014
    โพสต์:
    7
    ค่าพลัง:
    +9
    อย่าต่อต้านหรือปฏิเสธว่าไม่จริงถ้าคุณไม่ลองทำดู

    นำเสนอเรื่ิองจริงโดย ลิงน้อย. ลูกพ่อลิงดำ. หลานท่านปาน. น้องท่านเล็ก. แฟนน้องสายไหม

    "ผมเป็นคนหนึ่งที่โทรจิตได้. แต่คุยได้แค่. 3ท่าน คือ. 1 พระไม่ใช่คน1 พระยังมีชีวิตกับอีกหนึ่งคนธรรมดา". แบบฝึกเป็นหุ่นยนต์ของพระ ทำให้ได้วิชานี้มา โทรจิตกับชีวิตที่ไร้ความดิ้นรนทั้งร่างกายและจิตใจครับ

    การฝึกนั้นไม่ยากครับ. ขอแค่ท่านไม่ดื้อหรือต่อต้านท่านเป็นพอ. ผลที่ได้คือ. จิตคุณและการกระทำของคุณจะต้านทานความทุกข์ทุกชนิด. ความโกรธหายไปเหลือเป็นความไม่พอใจเท่านั้นจะรู้ชัดเจน. ความคิดจะถูกควบคุมให้เหลือแต่ความต้องการที่แท้จริงของตัวท่านเองคนที่เดินผิดทางจะถูกทำให้เดินถูกทางตามความต้องการที่แท้จริงหนึ่งเดียวในใจตัวเองขึ้นอยู่ว่าอายุกับความสามารถขณะนั้นควรไปทางไหนและจะยืนอยู่ได้จากปัจจุบันไปจนกระทั่งเสียชีวิต. จิตจะสงบจากความคิดไม่ดีทุกชนิดมันจะหายไปเลย. หมายถึงความคิดที่จะทำให้เราเป็นทุกข์จะถูกพระท่านตัดออก. คิดดีก็ไม่ใช่คิดชั่วก็ไม่มีก็ประมาณว่าทุกอย่างจะทำให้กลมกลืนกับสิ่งแวดล้อมและบุคคลรอบข้าง และทำให้คุณสบายทุกขณะจิตทุกการกระทำอะไรที่ทำแล้วรู้สึกเป็นทุกข์จะถูกตัดออกให้หมดและทำสิ่งนั้นไม่ได้จะมีความรู้ต่อต้านภายในที่รุนแรงเห็นชัดคือทำแล้วคุณจะรู้สึกเหมือนอยากตายอึดอัดแน่นหน้าอกร่างกายหยุดนิ่งในที่นั่นและลุกหนีทันที. คือมีการตอบโต้ทั้งการกระทำและวาจาที่ทั้งผู้ฟังและผู้พูดเองก็คาดไม่ถึง คำพูดอาจถูกลบออกไปโดยจะถูกเปลี่ยนคำพูดที่สมบูรณ์แบบต่อผู้พูดและผู้ฟังที่สุดคือถึงจะหยาบจะด่าแต่ไม่รู้สึกโกรธจนรุนแรงเหมือนก่อนจะรู้สึกสบายใจทุกคำพูดคำไหนพูดไม่ได้จะรู้สึกติดและพูดไม่ออกเพราะพรพท่านเซนเซอร์ให้นั่นเอง. การเดินการนอนการนั่งการกระทำต่างจะเป็นไปอย่างอัตโนมัติจนคุณรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ตัวคุณเอง เพราะถ้าต่อต้านคุณจะรู้สึกแน่นนิดหน่อยที่หน้าอกชัดเจนและกระวนกระวายทำสิ่งนั้นไม่ได้จะรู้สึกเหมือนจิตจะระเบิดถ้าทำต่อ. ยกตัวอย่างเรื่องการกินของผมในชีวิตประจำวันก็เป็นอัตโนมัติแต่ทุกอย่างที่ทำจะเป็นเพราะความต้องการของร่างกายของคุณเอง คุณจะรู้สึกว่าเบื่ออาหารบางอย่างชัดเจนคือถ้าหยิบเข้าปากอาจทำให้เราอึดอัดใจตายได้แต่วันต่อมาหรือวันไหนก็ตามคุณอาจจะกินมันได้. ทุกอย่างจะรู้สึกได้ชัดเจนแบบชนิดที่ว่าคุณไม่ต้องคิดก่อนว่าจะกินอะไรดี ความรู้ต่างๆที่คุณเรียนมาถูกล้างออกหมดเพราะความต้องการปรับเปลี่ยนร่างกายของคุณเองถ้าคุณไม่ต่อต้านคุณก็จะไม่เป็นโรคทำให้ร่างกายเป็นทุกข์และจิตใจเป็นทุกข์แน่นอน. อาหารบางอย่างมีประโยชน์มากแต่ร่างกายของคุณเองต้องการน้อยก็จะทำให ้คุณรู้สึกกินมันไม่ได้จะอ๊วกและคายทิ้งทันทีแต่ตอนเย็นวันนั้น อีกวันหรือหลายๆวันต่อมาคุณอาจจะกินมันได้โดยไม่รู้สึกอึดอัดใจขัดใจทุกอย่างจะไม่แน่นอนครับ. อย่างผมบางวันกินอาหารเช้าไม่ได้ทั้งๆที่เป็นอาหารจานโปรดมากและอยากกินแต่กินไม่ลงความรู้สึกเป็นแบบนั้น เคยลองต่อต้านดู. โถคุณพระจะหยิบเจ้าปากแทบอ๊วก เข้าปากไปนิดหน่อยแทบคายทิ้งไม่ทัน. มันรู้สึกแบบว่าจะตายเสียให้ได้ตอนนั้น ถ้าฝืนกลืนอาหารนั้นลงคอ.แต่พระท่านจะพาไปเซเวนหรือร้านอื่นครับคือแบบว่าท่านจะให้เรานึกถึงร้านที่มีอาหารที่ร่างกายเราต้องการครับเราถึงจะกินลงและรู้สึกว่ามีความสุขกับมื้ออาหารนั้น บางคนอาจคิดว่าเราไม่ควรกินอาหารชนิดนั้นต่อไปแต่ไม่ใช่. ไม่ต้องกังวลครับหลายวันต่อมาก็กลับมาทานอาหารชนิดนั้นได้เหมือนเดิมอย่างมีความสบายใจ สรุปว่าเรื่องอาหารที่เหมาะสมกับร่างกายคุณนั้นร่างกายของคุณจะเป็นคนกำหนดด้วยตัวของมันเองครับว่ามื้อไหนคุณควรกินอะไรเข้าไป สังเกตได้อย่างไรคือถ้าร่างกายคุณขณะนั้นยังไม่ต้องการถึงคุณจะหยิบขึ้นมาแล้วเดี๋ยวรอสักแปปคุณจะคิดว่านี่ยังไม่ใช่และคิดจะกินแต่จะรู้สึกเบื่อหรือจะอ๊วกหรืออึดอัดใจบางอย่างมือคุณจะจับมันวางที่เดิม. แต่ถ้าอันไหนตรงกับความต้องการของร่างกายคุณขณะนั้นละมันจะหยิบส่งให้แม่ค้าคิดเงินทันทีอันนี้รับรองได้ว่าอาหารมื้อนั้นคุณจะไม่อึดอัดอยากอ๊วกหรือกินไม่ลงและกินได้อย่างสบายใจครับอธิบายให้ชัดเจนอีกหน่อยนะสมมติว่าเป็นมื้อเย็น เย็นนี้คุณจะไปตลาดและคิดไว้แล้วว่าจะทำแกงต้มข่าไก่. แต่พอไปถึงตลาดคุณจะเดินไปหาเครื่องทำแกงข่าไก่แต่เชื่อผมเถอะถ้าร่างกายของคนในบ้านส่วนใหญ่ไม่ต้องการแล้วละก็แกงข่าไก่ไม่ได้ทำแน่เพราะเมื่อไปถึงที่ร้านจริงๆคุณหยิบเครื่องแกงข่าไก่มาแล้วแต่ถ้าคุณหยุดดูใจคุณสักพักคุณจะรู้สึกว่าไม่อยากทำขึ้นมาทันทีรวมถึงไม่อยากกินด้วยทั้งๆทีมันอาจเป็นของโปรดที่คุณไม่ได้กินมานานหลายวันแล้วก็ตามและคุณจะจับของนั้นวางที่เดิมอัตโนมัติ แต่ไม่เป็นไรให้คุณเดินหาเรื่อยๆแล้วคุณจะเจอเองแหละว่าคุณควรทำอาหารอะไรหรือกินอะไรในปริมาณเท่าไหร่ หยุดดูความรู้สึกนิดเสี้ยววินาทีถ้ามันถือและยื่นให้แม่ค้าเป็นอันจบ รับรองเป็นอาหารทีคุณชอบและกินได้อย่างมีความสุขและคุณเองทำมันได้ไม่ต้องไปเปิดตำราเรียนเพิ่ม. และแกงข่าไก่ที่ไม่อยากทำอยากกินในวันนี้วันข้างหน้าถ้าร่างกายมันต้องการคุณก็จะกินมันได้และอร่อยมีความสุขแน่นอน. แต่ถ้าคุณดื้อต่อต้านทำแกงข่าไก่ในวันนั้นล่ะก็คุณจะทำมันเสียปล่าวโดยที่คุณกินมันไม่ลงอยากจะอ๊วกและคายทิ้งเมื่อเข้าปากอย่างแน่นอน คือชัดเจนกินไม่ได้ก็คือกินไม่ได้ฝืนยังไงก็ทำไม่ได้ครับต้องหาอย่างอื่นกินแทนซึ่งก็นั่นแหละพระท่านจะทำให้คิดถึงร้าค้าที่มีอาหารที่เรากินลงและออกไปหามากิน ไม่ต้องกังวลครับออกไปแล้วได้กินแน่นอน อย่างผมเงินน้อยพระดลใจและพาไปจบที่ร้านเซเว่นใกล้บ้านตลอด. ไม่ขนมปังก็มาม่าพระพาเดินวนไปวนมาในเซเว่นอยู่นานหยิบนั่นดูนี่หยิบแล้วกลับไปวางที่เดิม กว่าจะได้ของที่กินได้กินลงไม่รู้สึกอึดอัดหรืออยากอ้วกก็เล่นไปหลายนาทีครับ แต่ผมมันคนมีเวลาเยอะครับเพราะไม่ต้องทำงานอะไรพระเลยฝึกผมซะแบบว่าอายก็รู้ว่าอายแต่ฝืนไม่ได้ใจมันเหมือนจะขาดเป็นเสี่ยงๆน่ะครับ เหมือนเป็นคนทดลองวิชาน่ะครับ. คนอื่นพระท่านอาจเดินเข้าไปหยิบๆๆๆและเดินไปที่แคชเชียเลยก็ได้. ส่วนผมเดินเข้าเซเว่นไปต้องไปที่หนังก่อนและเดินวนไปวนมาจะหยิบของที่อยากก็ไม่ได้จิตใจจะขาดแถมหยิบมาแล้วก็เอาไปวางที่เดิมจนได้ก่อนเข้าเซเว่นพระท่านจะเตือนสติให้นับเงินในกระเป๋าก่อนทุกครั้งครับออกมาเงินหมดตลอดแต่ได้ความสบายใจครับเมื่อจบภารกิจของที่ซื้อของที่กินนี่ทำให้เรามีความสุขได้แน่นอน ส่วนของที่หยิบมาตามใจอยากและแกะจะกินผมรับประกันได้เลยคุณเอามันเข้าปากปุ๊บได้คายทิ้งแน่นอนเพราะกินเข้าไปใจขาดตายตรงนั้นแน่เป็นความรู้สึกน่ะและก็ฝืนไม่ได้ด้วยครับ. ต้องคายทิีงออกไปแน่ หรือไม่ก็ไปให้หมาที่บ้านครับ กินไม่ได้จริงๆตอนนั้นลองแล้วแต่ในเวลาต่อมาอาจจะกินได้เวลาไม่แน่นอนครับ. ทางที่ดีอย่าฝืนครับ. ถ้าดื้อมากมีหวังได้เข้าโรงบาลบ้าแบบผมแน่. ทางที่ดีหัดเป็นคนว่านอนสอนง่ายไว้ครับ คือให้ตามดูพฤติกรรมกับความคิดของตัวเองอย่างเดียวครับ. ไม่ว่าจะคิดดีหรือไม่ดี จะทำดีหรือไม่ดีปล่อยเป็นหน้าที่พระท่านไปครับ. คุณจะได้เห็นและได้ทำทุกด้านแน่นอน. สุดท้ายถ้าคุณผ่านการทดสอบทั้งด้านดีและไม่ดี. ความไม่ดีและความดีที่คุณทำทั้งหมด. บทสรุปมันจะทำให้คุณมีชีวิตอยู่ในความพอดีเหมาะกับจิตใจและตัวคุณและรอบข้างตัวคุณที่คุณต้องติดต่อสัมพันธ์ด้วยทั้งหมดตลอดชีวิตของคุณจะสมดุลกันไปหมดแบบพอเหมาะพอเจาะพอดีสมบูรณ์แบบตามวิถีชีวิตที่คุณต้องดำเนินและทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งคุณเป็นผู้กำหนดมาแล้วตั้งแต่เรียนรู้ชีวิตมาตั้งแต่กำเนิดเป็นตัวตนของคุณรู้ใจตัวคุณเองต้องการจะยืนอยู่ตรงไหนและมีความสุขที่สุดหยุดความดิ้นรนค้นหาแบบไร้จุดหมายและทำให้มันเป็นจุดเดียวที่คุณจะอยู่ได้ตลอดไปตั้งแต่ชาตินี้ไปและเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆทุกๆชาติแบบไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้นกับชีวิตคุณตลอดไปสิ้นกาลนานเช่นถ้าคุณเป็นคนฆ่าสัตว์แล้วคุณรู้สึกสบายใจแบบว่ามีงานมีเงินใช้เลี้ยงครอบครัวได้ เพราะคุณลองคิดสิถ้าไม่มีพวกคนฆ่าสัตว์แล้วจะมีคนไหนได้กินเนื้อที่เราฆ่าบ้างคือฆ่าจนรู้สึกชินแล้วไม่มีความรู้สึกว่าสงสารหรือทรมานหดหู่ใจถ้าไม่มีความรู้สึกที่ว่านี้แสดงว่าคุณก็อยู่กับมันได้ไม่เป็นทุกข์ส่วนคนกินเนื้อก็ควรโมทนาคนฆ่าสัตว์ด้วยเพราะเราต้องการเนืีอแต่เราฆ่าไม่เป็นแต่มีคนมาฆ่าแทนแล้วก็ถือว่าดีแล้วไม่ใช่เหรอ. ถือว่าเป็นหน้าที่เค้าและเป็นกรรมของสัตว์ไปละกัน. กินเนื้อไม่กินเนื้อก็ไม่เห็นจิตใจใครจะสบายมากว่ากัน. สู้ใช้ชีวิตตามที่ตัวเองต้องการก็ไม่ได้สบายใจกว่าเยอะ. ขอแค่รู้ว่าตัวเองอยู่กับสิ่งไหนแล้วสบายใจที่สุดไปจนตลอดชีวิตก็พอแล้ว. ซึ่งวิชาทั้งหมดนี้ผมฝึกมาแล้วและกรุณาอย่าลองของหริอลองผิดลองถูกเป็นอันขาด. ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจำไว้ให้ดูใจกับกาย ที่ทำกิจกรรมต่างๆไปอย่างเดียว. และอย่าอยากเป็นนั่นเป็นนี่. พนมมือต่อหน้าพระแล้วถามพระโดยเขียนลงในกระดาษหลายๆใบหลายๆอาชีพที่ติดอยู่ในใจและใช้ปล่อยรู้สึกบอกโดยไม่ต้องอ่านข้อความในใบนั้นความรู้บอกฉีกแล้วมือฉีกก็ฉีกแล้วถ้าเหลือใบสุดท้ายพระดึงใจและมือของเราให้เอากระดาษคำตอบอาชีพที่เป็นไปได้สำหรับเราไปไว้ที่ฐานพระโดยไม่ฉีกกระดาษทิ้งไปก่อนแล้วละก็สิ่งนั้นแหละที่เราต้องอยู่และต้องเป็นในชาตินี้ครับ.
    สวัสดี
     
  17. athip999

    athip999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    82
    ค่าพลัง:
    +151
    อำนาจของจิตคลอบคลุมไปทุกพื้นที่ไม่ถูกจำกัดด้วยขอบเขต

    จิต คือ พลังงานที่ทรงพลังกว่าระเบิดที่มนุษย์คิดค้นได้
     
  18. meliodas

    meliodas สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
  19. moonoiija

    moonoiija เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กันยายน 2014
    โพสต์:
    184
    ค่าพลัง:
    +198

แชร์หน้านี้

Loading...