สิ่งมีชีวิตในดวงอาทิตย์

ขอบคุณทุกความเห็นครับ มันก็คือความเห็นที่ทุกคนพบเจอกันมา และมาแสดงทัศนคติกับสิ่งที่เรา รู้ จะจริงเท็จ ประการใด ก็พิจารณาด้วยปัญญากันครับผม เพราะไม่มีผิดถูก มันมีมันกำหนด ตามแต่มุมมองใคร จะเห็นในสิ่งใด คนที่ยอมรับผู้อื่น แล้วพัฒนาตนไปสู่สิ่งที่ดีกว่า ย่อมจะมีอัตราการสร้างบารมี มากกว่า คนที่ยังยึดติดกับบางสิ่งที่ คิดวา่ตนเอง ดีเด่น แล้วเห็นว่าถูกเสมอ การยอมรับฟัง การ เรียนรู้ และการหันมามอง บางคนที่สูงกว่า ต่ำกว่า หรือเทา่กัน แล้วเรา พยายามที่จะเข้าใจจากเล็กๆๆไป จนถึง นับอนันต์มันคงเป็นการดี

อย่างที่บอก คำว่าเพ้อเจ้อ คำว่า ไม่น่าจะมีจริง หรือคำว่า สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์

ผมเลยอยากถามว่า แต่ละคนเข้าใจในแต่ละสิ่งเท่าใด

ยกตัวอย่าง การ ศึกษาโครงมนุษย์ ที่มีผลต่อ การดำรงชีวิต มีการวิจัย สารอาหาร แนวทางที่จะรักษาโรค เสริมความแข็งแรง สร้างสมุดลุย์ให้อายุยืน มันหยุดอยู่กับที่ไหมนะ

อะไรที่เกิดมาก่อนแล้วสามารถพัฒนาไปตาม กาลเวลาที่มีคนมีบารมี(อาจมาจากต่างภพภูมิในทางวิทยาศาสตร์ก็คือ มนุษย์ต่างดาวต่างมิติ) มีอะไรที่หยุดอยู่กับที่มั่ง กลไกเครืองมือ การวิจัยหาสารต้านต่างๆๆ ก็มีมาโดยตลอด แม้กระทั่ง ไปมองเรื่อง หลักวิศวกรรมต่างๆหรือ พวกอิเล็กโทรนิคที่พัฒนาก้าวกระโดด 20-30ปีก่อน จะมีไหม โทรสับแบบนี้ คิดได้ไหม หรือคนอายุ40ปีกลับไป10ปี คุณคิดว่าจะมีมือถือทำอย่างปัจจุบันได้ไหม

ก็ตอบว่าคงมีน้อยมากๆๆๆ มีแต่พวก ที่มองแค่ปัจจุบันคิดต่างไม่เป็นก็บอกว่า เหลวไร บ้า ไร้สติ นั่นแหละ ใครในที่นี้ อยู่ในคนจำพวกนี้บ้าง ถ้ายังอยู่ ก็ยังคงมองแค่ปัจจุบัน ไม่มองข้ามไป หลายสเต็ป ที่นอกกรอบ คุณก็ยังไม่ใช่ผู้ที่ถูกเลือก มาสร้างกระแส บางสิ่งเพื่อ ทำลายบางอย่าง หรือถูกใช้มา(ขำๆๆครับ)

เรืองที่ต่าง ก็ กลั่นกรองความคิดให้ดีก่อน ว่า สิ่งที่ทำกำลังสื่ออะไร การมองดวงอาทิตย์ การรับพลัง ดวงจันทร์ ดวงดาว หรือ ธาตุล้อมหาย ดิน น้ำ ลม ไฟ ที่เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของการเกิดส่ิงที่คุณๆๆสัมผัสกันอยู่

ก็ให้วางกลางแล้วค่อย ปุจฉาวิสัชชนา ถามมาครับ ผมตอบให้ตามจิตรู้ (ไม่ได้ตอบมั่วหรอกนะ) ผมไม่เคยกร่างว่าผม เก่งกว่าใคร ผมน้อมรับ ทุกคน ที่จะช่วยกันสร้างสรรไม่ทำลาย คิดค้นการป้องกันจากพวกแอบแฝง สร้างแรงจูงใจให้ บทเริ่มต้นของทุกคน เป็นคนดี มีคุณธรรมความดี ยึดหลักนี่เลย มงคล 38ประการ แต่ใช้ตามกาลที่เหมาะสม ทำโดย ่ไม่อคติ แต่ ต้องรู้ขอบเขตของตน อย่าทำบางสิ่งจนตนต้อง ลำบากจนถึงวาระความตาย(ผมทำแบบนี้นะเล่นกับความตาย พวกจิตมารทั้งหลายรวมทั้งเทพที่ไม่พอใจส่งไรบ้าบอมาก็ไม่รู้ (จิตคิดไปอย่าคิดมากครับ) (พิมพ์ๆอยู่มันก็เจาะเกราะมาทำลายอยู่ได้นี่ยังไม่ทำสงครามปลอ่ยพลังที่มีนะมีแต่สะท้อน ก็อย่าทำให้ผมได้ลงมือเองละกัน ขำๆๆครับอย่าคิดมากกับคนไม่รู้) ส่วนพวกที่รู้ก็ระวังตัวไว้ ผมมีดี คุณทำอะไรผมไม่ได้หรอก 555


ระบายนิดๆๆพอดีมีอาการหน่อยๆๆ ต่อๆๆ

การมองดวงอาทิตย์ถามถึงประโยชน์ก็ตอบได้ว่า ผมมองผมสามารถรักษาคนได้ ่ผมมองผมร้องขอบางสิ่งไป สุริยะก็จัดแจงมาตามกาลเวลา แห่งอนันตกรรม

จงคิดซะว่าสุริยะยิ่งกว่า องค์เทพศาสดาองค์ใดๆๆ จุดกำเนิดสร้างคน ก็น่าจะมาจากพลังเหล่านั้น และถ้าไปมองใน จุดที่คนยังไม่สัมผัส มันมีมากโขทีเดียว

ถ้าเราศรัทธาสุริยะเทพ สังคมเราจะไม่เป็นดังทุกวัน เขาสร้างคนขึ้นมา สร้างมหาปัญญาให้มนุษย์ แต่มนุษย์คิดเทียบชั้น วางรากฐานให้ลืมเลือน (ยังมีพวกไม่อยากให้คนรับรู้ ตั้งศาสคร์วิทยาศาสตร์ให้กลัวการมองดวงอาทิตย์ ก็ถามไปว่า โลกนี้มีใครมองดวงอาทิตย์แล้วตาบอดมั่ง คุณยืนถ่างตามอง จนตาคุณบอดไหม ข่าวมีอะไรที่ทำให้คนตาบอดตาเสีย หรือเบี่ยงประเด็นไปว่าแสงจากดวงอาทิตย์ทำลายสายตาย วิทยาศาสตร์จะจริงเท็จแค่ไหน ทำอะไรให้สังคมได้สร้างสรร คนดีมั่ง มีแต่ สั่งสม อัตราการเพิ่มกิเลส มากล้นทุก วินาทีที่ผ่านไปว่าไหม

อยากได้ ไอโฟน 6 อยากได้รถ อยากได้ความสุข เคยคิด ถึงบ้านไม้ราบเรียบ มีต้นไม้ล้อมกาย มีสระน้ำ มีบรรยากาศทีร่มรื่น ชีวิตจะสุขกว่าโลกปัจจุบันไหมนะ ทำไมคนมักไข่วคว้าอยากได้อยากดีกันจัง (แต่ผมก็อยากได้ไอโฟน 6พลัสนะ น้องน่าจะซื้อให้64หรือ128จิ๊กนิกะเกินครึ่งแสนนะ )

ผมยังคงมีกิเลส และต้องพัฒนาตน เพราะผมไม่ได้เกิดมาบริสุทธิ์ ผมต้องไปพบกับคนต่ำสุด และสูงสุด ในฐานทางการเงิน ฐานะของจิตใจ ไปทุกกลุ่มที่จะเข้าถึง

ก็พิจารณาเอา ใครทำอะไรแค่ไหนใน บอร์ดนี้ สร้างสรรเพียงใด ว่าตัวแค่ไหน ให้ยอมรับว่า เราคือเด็ก แต่เด็กที่จะพัฒนาและเพิ่มอัตราการพัฒนาไม่หยุดยั้ง และไม่ได้พัฒนาเพียงคนเดียว

ต้องร่วมพัฒนาไปด้วยกัน แต่วาระจะดำเนินไป ช่วงชีวิตที่เหลืออยู่ก็สร้างสรรสิ่งดีงามไปเถอะ อย่าอิจฉา ใส่ร้าย แล้วทำลายกันเลย

คิดได้จะประเสร็จแล

ปล.ดวงอาทิตย์เราร้องขอสำเร็จทุกประการ ถ้าเรารู้จักคำและความหมายที่แผ่ออกที่เกินหลัก ทุกอย่างที่รู้กัน

หัดนอกกรอบ แต่ไม่นอกใจซึ่งคุณธรรมความดีกันนะครับ

ขอบคุณที่ติดตาม จะแวะมาแสดงทัศนคติอีกที ราตรีสวัสดิ

 

วันนึงจะเป็นประโยชน์ให้คนรู้ถึงอันตรายว่า? ..
ไม่ควรมองด้วยตาเปล่า เด๋วตาจะเสีย? (กรุณาใช้แว่นกันแดด ในการรับชมพระสุริยะ)

 

มนุษย์มองเห็นสิ่งต่างๆได้มากมาย แต่น้อยนักที่จะมองเห็นกิเลสของตน

 

ทุกอณูมีธาตุรู้ของมันครับ

ไฟฟ้า ก็มีธาตุรู้ของมัน
ไฟ ก็มีธาตุรู้ของมัน
น้ำ ก็มีธาตุรู้ของมัน
ดิน ก็มีธาตุรู้ของมัน
ลม ก็มีธาตุรู้ของมัน

 

คน ที่ยังไม่เข้าถึงมนุษย์ ที่ยึดหลักวิทยาศาสตร์เขาคงไม่เข้าใจมั้งครับ 555 แต่เมื่อเขาคิดนอกกรอบเขาจะรู้ว่า ความร้อนที่พื้นผิวดวงอาทิตย์ แค่เอาน้ำไปก็ระเหยไม่ถึงเสี้ยววินาที แต่จะคิดต่างจากวิทยาศาสตร์ที่ รู้ๆกันมาแค่ไหนนะ ก็พยายามให้ คนเหล่านั้นได้เข้าใจ (เอ๋ผมตีความผิดไหมนะ) ธาตุรู้เพื่อก่อกำเนิดและวัดค่าออกมาเป็น บรรทัดฐานที่เข้าใจตรงกัน แต่ถ้าไม่ตรงกันก็เพราะเขาไม่ได้วัดที่โลกนี้น่า จะเอาโลกมาบัญญัตจะได้ไหมนะ 555

 

นี่แสดงว่ายังไม่รู้จัก สิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่ นับเป็นปีแสงได้เลย
จากสิ่งมีชีวิตบนโลก พัฒนามาเป็นระดับดวงดาว ระดับจักรวาล
จนใหญ่ขนาดหลายสุริยะจักรวาลรวมกัน ก็ไม่รู้ว่าใช้เวลาพัฒนากี่ล้านปี

จากตำนานที่เราทราบมานะ ว่า

มีช่วงหนึ่ง ที่โลกได้พบกับชาวต่างดาว แต่ด้วยความแตกต่างกันมากเกินไป
ทำให้ไม่สามารถสื่อสารกันได้รู้เรื่อง ในที่สุดก็ต้องทำสงครามกัน
ปีแล้วปีเล่า สูญเสียด้วยกันทั้งสองฝ่าย ฆ่าฟันกันไม่จบไม่สิ้น

จนวันหนึ่ง ขณะที่กองยานรบทั้งสองฝ่าย ระดมพลครั้งใหญ่
พร้อมรบเต็มอัตราศึก ประจันหน้ากันกลางอวกาศอันกว้างใหญ่ และแล้ว

สิ่งมีชีวิตนี้ก็ตัดสินใจทำบางอย่าง หลังจากเฝ้าดูอยู่ระยะนึงแล้ว
และตัดสินใจว่าจะทำอะไร เพื่อยุติสงครามยืดเยื้อ ฆ่าฟันกันไปมา ไม่จบสิ้น

เอ่อ...พอดีกว่า ขี้เกียจเล่าแล้ว จำไม่ค่อยได้แล้วด้วย
อ่านมาตั้งแต่อายุสิบหกล่ะมั้ง นะ นิยายวิทยาศาสตร์เรื่องนี้ ๕๕๕


กระต่ายกลายพันธุ์ / นักรบแสงกะยานรบขนาดกลาง
.

 

ปีแสง .. ไม่ใช่หน่วยของเวลานะครับ แต่เป็นหน่วยระยะทาง ที่แสงเดินทางในเวลา 1 ปี

 

นิยายล้วนๆ ..

แบบนี้ผมก็มั่วได้ .. เคยเห็นแมวออกลูกเป็นไข่ม๊ะ

 

ทราบครับ
และเราก็ใช้คำไม่ผิดนะ ว่า
มีขนาดใหญ่นับเป็นปีแสงได้เลย

แปลว่า ใหญ่ขนาดแสงเดินทางเป็นปีโน่นแน่ะ
เอ...แล้วแสงเดินทางปีนึงได้ไกลแค่ไหนหว่า
เดี๋ยวนะ ไปตามอากู๋ก่อน แป๊บนึง

อันแรก จากวิกิพีเดีย เค้าว่า
อัตราเร็วของแสง (speed of light) ในสุญญากาศ มีนิยามว่าเท่ากับ 299,792,458 เมตรต่อวินาที
(หรือ 1,079,252,848.8 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
หรือประมาณ 186,282.397 ไมล์ต่อวินาที
หรือ 670,616,629.4 ไมล์ต่อชั่วโมง)


อืม..ขี้เกียจคูณเองแฮะ ไปหาอีกเวบดีกว่า
คราวนี้สุ่มได้จากเวบ กูรู ว่า

เคยมีคุณ wow กูรูอีกท่านแจ้งตอบไว้แล้ว ขออนุญาตยกคำตอบมาให้นะคะ

"นักดาราศาสตร์กำหนดหน่วยวัดชนิดหนึ่งขึ้นมา ซึ่งเรียกว่า ปีแสง
เพื่อเป็นหน่วยวัดความยาวของแสงดวงดาวที่อยู่ห่างจากโลก
ปีแสงเป็นระยะทางที่แสงเดินทางได้ภายใน 1 ปี
ลองคำนวณดูก็ได้ว่า 1 ปีแสงนั้นมีความยาวเท่าไร
เมื่อ 1 วินาที แสงเดินทางได้ 300,000 กิโลเมตร
ใน 1 ปีจะมี 31,536,000 วินาที
ดังนั้นแสงจะเดินทางได้ประมาณ 9,460,800,000,000 กิโลเมตรใน 1 ปีแสง"

(อันนี้เรื่องตลก อย่าเครียดนะครับ ในหน้ากูรูนั้น มีคนตอบด้วยนะว่า
ในหนึ่งปี แสงเดินทางได้ 365 วันแสง
หรือ 12 เดือนแสง ๕๕๕ ตลกจัง)

ก็สรุปว่า สิ่งมีชีวิตนั้น มีขนาดใหญ่กว่าตัวเลขแยะๆ ข้างบนอีกน่ะครับ


นิยายล้วนๆ ..
แบบนี้ผมก็มั่วได้ .. เคยเห็นแมวออกลูกเป็นไข่ม๊ะ

ก็นิยายน่ะสิครับ ตอนท้ายก็บอกแล้ว ว่าอ่านมาจากนิยายวิทยาศาสตร์
ไม่ใช่เหตุการณ์ของโลกเรา ในอนาคตข้างหน้านะครับ

แต่แมวออกลูกเป็นไข่นี่ ไม่เคยอ่านผ่านตามาจากที่ไหนเลยนะ
แม้แต่ในนิทานก็ไม่มี คงไม่เคยมีใครจินตนาการไปถึง ล่ะมั้ง นะ


กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
.

 

โลกกับดวงอาทิตย์
อันไหนเกิดก่อนกันล่ะ

ถ้าอันไหนเกิดก่อนก็เป็นพี่ใช่ป่าวล่ะ
ทรงกลดสองวันซ้อนหมายความว่าไงหว่า

 

ทุกอย่าง หลายๆคนจะรับรู้มาต่างที่ต่างแดน ตามวาระที่เราอาจจะมาจากจุดต่างๆของจักรวาลที่แตกต่าง ถ้าเคยติดตามบทความเก่าๆสมัยปีก่อนของผม จินตนาการ นิยาย และสิ่งที่ไม่มีจริงในโลกใบนี้ เพียงแต่คนคิดสร้างสรรด้วยความต่างของจินตนาการ มันคือสิ่งที่แตกต่างกันไปตามชะตาที่เราจะพบเจอและเข้าใจมัน ยกตัวอย่างคำว่าปีแสง มันอาจมีหลายความหมาย จะขนาด ความเร็ว หรือมีมากกว่านั้น ก็รับฟังพิจารณา คิดค้น ถามหา วางเฉย อะไรก็เป็นไปได้ ยกตัวอย่าง

มหาจิตกุศลอนันตมหาจักรวาล ผมก็เอาความหมายที่รับทราบกันมารวมๆกันตามจิตรู้ ส่งกุศลที่ ทำได้ ทุกสิ่งในพื้นฐานไม่นอกกรอบตรากฎโลก นั่นคือมันเป็นคำที่เป็นความลับจักรวาล

ขอบคุณทุกความเห็นที่สร้างแนวคิดให้ร่วมกัน แสดงความเห็นครับ

 

ในพระไตรปิฎก กล่าว่าโลกเกิดก่อน .. ส่วนพระอาทิตย์และพระจันทร์มาทีหลังแต่น่าจะมาพร้อมกัน

 

จินตนาการมีคุณมหาศาล เพราะ? ทำให้นำไปถึงสิ่งที่ยังไม่เคยไปถึง
ซึ่งหมายถึงว่าเมื่อวันที่เราไปถึงได้ จึงเห็นคุณของจินตนาการ

แต่จินตนาการที่ไม่ได้เป็นไปบนเหตุและผล และไม่สามารถไปได้ถึง..
จึงคงเป็นได้แค่ความบันเทิง!

 

ยากที่จะเข้าใจจริงๆ

 

ในมุมมองนั้นก็คงเป็นจริงเมื่อทุกคนในโลกยังคงเป็นกบในกะลาครอบโลก ถ้ายังไม่คิดต่างและไม่พบด้วยตนเองก็ยังคงคิดว่าจินตนาการทำไม่ได้

มันไม่ผิดครับเพราะพวกคุณยังไม่พบ สิ่งที่ผมพบ เคยกล่าวถึงพลังรักษาโรคที่ แพทย์ทั้งโลกยังรักษาไม่หาย แต่ผมก็รักษาหายนะ พลังที่มำความต่างของสภาพอากาศ จะว่าเรียกลมฝน ก็ได้ แต่การกล่าวอ้าง อาจมองว่าเพ้อเจ้อ แต่ผมก็ทำให้แพทย์ประจักษ์กับโรคเชื้อราขึ้นสมองและเอดส์ ก็ลองไปตามหาดูที่ รพ.ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ในปีที่แล้ว 2013ช่วงถ้าจำไม่ผิดน่าจะมีนาคม มั้ง ซึ่งแพทย์ก็คงไม่ต่างกับนักวิทยาศาสตร์ ผมก็ไม่เห็นว่าเขาจะถามว่สหายอย่างไร ไม่มีการทดสอบในเรื่องที่วิทยาศาสตร์อธิบายไม่ได้

มันก็คือสิ่งที่ค้นพบในปีที่แล้ว และพัฒนามาเป็นจิตรู้ที่ไปรับรู้ความต่าง

คงจะมีคำถามว่าทำไมไม่ไปรักษาสร้างชื่อเสียงช่วยเหลือผู้คน ก็คงตอบว่าวาระยังคงไม่ถุง ยังต้องมีการพัฒนา มากกว่า และต้องการให้คนยอมรับตามวาระ เพราะการจะออกไปที่ใด โดยที่เรายังไม่รู้ลึกซึ้งในแต่ละเรื่องย่อมอันตรายในสิ่งที่มองไม่เห็น

มันก็นานาทัศนคติครับ จิตผมรู้ผมทำ ปิดทองหลังพระไป มันก็จะสอดคล้องว่า เมื่อมีคนมีบางสิ่งที่จะสร้างความต่างและเข้าใกล้สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้มันเป็นไปได้ ทำจินตนาการให้มันเป็นไปได้

ก็จะมีคำถามว่าจะมีใครร่วมศึกษาจินตนาการทำให้มันเป็นจริง หรือจะยังยึดกับบางสิ่งที่พัฒนาไปในด้านที่อาจจะถูกหรือผิด เพราะไม่อาจควบคุม เช่นนวตกรรม ทางการแพทย์ที่รักษาคนได้จากโรคที่รักษาในอดีตไม่หายและทำให้หายได้ แต่พวกที่คิดค้น มันก็ตีราคาขึ้นมากับการวิจัยไม่คิดถึงการรักษาแบบช่วยเหลือ ไม่หวังผล คนจนคงตายไม่มีโอกาศได้รับการรักษาว่ามะ

มันก็แค่เทียบไปกับสิ่งที่ผมมี ดังนั้นลองมาคิดสิ จะทำไงให้เกิดสังคมที่มีนวตกรรมควบคู่กับคุณธรรม ยกระดับจิตใจ

ที่เอาคุณธรรมมาเสริม เพราะอยาากให้ตระหนักสังคมโลก ให้มีการสร้างสรรมากกว่าเห็นแก่ตัว(ออกทะเลไปไกลละ5555)

ยกตัวอย่างแพทย์ที่ทำการรักษาคนที่ป่วยเป็นเชื้อราขึ้นสมอง เพราะเขาติดเชื้อเอดส์ เจาะไขสันหลังมาหลายรอบ และตัดไตด้วย ทำไมอาการที่หมอบอกว่า จะให้สบายที่นี่หรือจะไปทรมานที่บ้าน มันหมายความว่าไงนะ จนผมต้องทำการรักษาให้เห็นต่อหน้าจากคนไร้สติ ร้องคร่ำครวญอย่างเจ็บปวด จนหมอบอกไม่รอด กลับลุกขึ้นมากินมาเดินพูดจาในภาษาคนที่เข้าใจ

ตรงนี้คือสิ่งใด คนที่เรียนหมอมาที่คาดว่าจะมีการศึกษาสูงกว่าหลายๆสาขา(จากการวัดในไทย มั้งนะ ในสมัยผม แพทย์ คนจะเรียนได้ก็อันดับต้นๆของโรงเรียนเท่านั้นที่จะสอบติด)

ทำไมเขาไม่ถามในสิ่งที่เกิดขึ้น ทำไมนะ มันตอบไม่ได้ด้วยหลักทางการแพทย์ใช่ไหม มันก็อาจเทียบเคียง ถึงจะมีความต่างกับสิ่งที่เกิดขึ้น กับวิทยาศาสตร์ด้านดาราศาสตร์นี้กระมัง ถ้าไม่มีหลักเหตุและผลก็ไม่มีความจริงจะเกิดให้เห็น พวกนักวิทยาศาสตร์ก็จะหัวชนฝา แบบที่เห็นว่าไม่มีจริงว่ามะ

ความบริสุทธ์ใจที่จะพัฒนานวตกรรมเพื่อจรรโลงใจสร้างสังคมให้มีคุณธรรมความดีมันมีน้อย นวตกรรมที่มีเลยยังล้าหลัง เพราะยึดแต่ในสิ่งที่หาผลประโยชน์ แต่อ้างว่าทำเพื่อ โลก ทำเพื่อสังคม ลองมองสิ่งที่สร้างกันขึ้นมาสิ มันสร้างโลกจริงหรือไม่นะ วิทยาศาสตร์อาจเรียกว่าจอมปลอมทางด้านคุณธรรมก็ได้นะ

เทียบกับพลัง ในอดีตการรักษา (เผิอญที่เทียบเพราะผมไม่ได้ไปคิดค้นนวตกรรมทันสมัยแต่ผมคิดค้นพลังรักษา) มือเปล่ากับคำที่ต่าง กับการควบคุมสรรพธาตุนี้แหละรักษาคนได้ ใยต้องไปคิดค้นเครื่องมือกับนักวิจัย ที่มองเห็นแต่ผลประโยชน์ว่ามะ

คิดค้นสิ่งใด ก็จดสิทธิบัตร ใครจะนำไปสร้างบางสิ่งก็ต้องตอบแทนกับการเสียเวลาคิดค้นมีค่าใช้จ่าย ในโลกเราไม่มีของฟรีหรอกมีแต่หาเงิน หันหน้าเข้าหากันก็ใส่หน้ากาก เงินตรานำทุกสิ่ง ก็เห็นๆกันอยู่ในสังคม

ผมไปรักษาคนด้วยนอกกรอบทุกสิ่ง มีไหมจะเรียกเก็บเงิน แล้วถ้าจะหาเงินจะยากไหม ก็ไม่ยากนะ แต่วาระมันไม่ใช่ เวลายังไม่ถึงก็ไม่ทำ จะทำตามกาล สั่งสอนด้วยบางสิ่งบนโลกไปก่อนแล้วคอยดูไปใครจะปรับตัวได้เท่าใด

คน ที่มีวาระซึ่งกันและกันจึงได้พบและรักษาดูแลแก้ไขมอบให้

ขอโทษที่กล่าวอ้างอาจเกินความเป็นจริงแต่ก็มีหลักฐาน หรือจะทดสอบได้นะยินดี เพราะทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟรน(เอ๋ใช้ถูกไหมนะกับคำเปรียบเปรย)

ก็ลองถามสิ่งที่อยากถามมาครับผมจะตอบตามจิตรู้ว่าผมสามารถตอบได้มากน้อยเท่าใดนะ ถ้าสิ่งที่ผมไม่รู้ก็ขอเนื้อหาสักหน่อยแล้วจะตอบตามจินตนาการที่ผมจะสร้างให้ดู

ขอบคุณที่มีความเห็นให้ผมได้มีเรื่องราวเล่าสู่กันฟังครับ (ออกไปไกลไปไหมนะ ไม่เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตในดวงอาทิตย์ แต่เป็นจุดกำเนิดที่สามารถอธิบายไปถึงได้ไหมนะ) โยงกันเอานะครับ

 

คิดแล้วก็น่ากลุ้มใจเหมือนกันนะ เก่งแต่ไม่มีโอกาส
เคยคิดนะว่า ถ้าเลือกไปเกิดได้ที่ญี่ปุ่น คงมีใครช่วยกันทำวิจัยได้แน่ เฮ้อ..เบื่อบ้างป่าวครับ

ไม่รู้คนอ่านเวบนี้ มีเศรษฐีเงินเยอะๆ และเลือดบ้าแยะๆ อยู่บ้างไม๊น๊า
อยากเจอจัง ประเภทพร้อมทุ่มเพื่อสนองกิเลสตัวเอง เจ๊งไม่กลัว กลัวไม่รู้จริงอ่ะ

นี่ถ้าเรามีเงินแยะๆ นะ คงได้ทำอะไรดีๆ กับใครหลายๆ คนในนี้ไปนานแล้วล่ะครับ
แต่จะว่าไป เราก็ขี้เกียจแม้แต่จะดิ้นรนหาเงิน ถ้ามีใครสนับสนุนจริง ก็อาจจะเหลวก็ได้นะ

แต่ท่านโจ๊กงู (ชื่อท่านมีความหมายเช่นนี้ ถูกหรือไม่ครับ ๕๕๕)
คงจะขยันนะครับ ถ้ามีใครมาช่วยหนุนท่านก็คงจะดี
ฟามลับหลายอย่างในโลก ก็อาจเป็นที่เปิดเผยได้ซะที เนอะ


กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง
.

 

มอบให้ จขกท



:boo:

 

แนะนำ...ลองไปอ่าน นิทาน เรื่องจุไรท่องดวงดาว ของพระเดชพระคุณองค์หลวงพ่อฤาษีดู

แล้วจะหายสงสัยครับ

 

ตอนนี้หัดเล่นกล้อง DSLR ถึงไหนแล้วตาโจ๊ก สอบถามเทคนิคจากผมได้นะ เดี๋ยวให้ยืมเลนส์ 800 ซูมดูพระอาทิตย์ใกล้ๆให้สะใจกันไปเลย
http://palungjit.org/threads/ภาพถ่ายดวงดาราจักรวาล-ในยามค่ำคืน.503165/

 

จุจุจุ