ถามศีลข้อ4

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย patiphat2499, 15 กันยายน 2014.

  1. patiphat2499

    patiphat2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +183
    การพูดจาตลก ออกแนวไร้สาระ แต่ไม่เป็นคำหยาบ คือเจตนาพูด เพื่อสร้างไมตรี กับเพื่อนร่วมงาน ผิดศีลข้อ4 ไหมครับ ถ้าเข้าข่ายที่ผิดจะได้ละเว้น ขอบคุณครับ กลัวศีลไม่บริสุทธิ์ นะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 กันยายน 2014
  2. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ไม่ผิดศีล เพราะเพื่อนไม่ได้เสียประโยชน์ ไม่ถือว่าเป็นการโกหกครับ
    แต่ถ้าจะให้ดี พูดตลกและมีสาระด้วยก็ดีครับ เพราะบางทีตลกแบบไร้สาระ เพื่อนอาจจะรำคาญได้ครับ
     
  3. patiphat2499

    patiphat2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +183
    ขอบคุณคับ ก่อนพูดผมจะ สังเกต อารมณ์ ผู้ฟัง ดูโอกาส ด้วย คับ มีสติ เสมอ
     
  4. ฐสิษฐ์929

    ฐสิษฐ์929 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    876
    ค่าพลัง:
    +1,844
    "เจตนาหังภิกขเว" ดูที่เจตนาเป็นหลักครับ
    ศ๊ลข้อ 4 มีสาระ 4 ประการคือพูดเพ้อเจ้อ ส่อเสียด นินทา โกหก
    เจตนาพูดเพื่อสร้างไมตรีเป็นเจตนาที่ดีย่อมไม่ย่อมผิดศีล แต่การพูดแนวไร้สาระ เขาจะมองว่าเราเป็นคนไร้สาระ เปลี่ยนเป็นตลกแบบมีสาระได้ไหมละครับ
     
  5. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    ไม่ผิดศีล 5
    แต่จะไม่ได้ในข้อ วจีกรรม 4
    เกี่ยวกับการพูดไร้สาระ
    ในกุศลกรรมบถ 10 ครับ ซึ่งเป็นธรรมสูงสุดของมนุษย์ (ถ้าสูงกว่านี้จะเป็นบรรพชิต)
    ใครทำกุศลกรรมบถ 10 ได้ตลอด ก็ได้ไปสวรรค์ชัวร์ ๆ แบบไม่ต้องกลัว ไม่ต้องสงสัย
    กุศลฯ 10 มี ทางกาย 3 ทางวาจา 4 ทางใจ 3 ลองไปศึกษาเพิ่มเติมนะครับ
    เคยมีคนที่ทำกุศลฯ 10 เวลาตายไป ก็เลือกชั้นสวรรค์ ได้เลย อยากเกิดอันไหน

    กลับมาที่การพูดตลก ออกแนวไร้สาระ นะครับ
    อันนี้เป็นการกระทำที่ไม่ได้บาป และไม่ได้บุญ ครับ
    เป็นเรื่องดีครับ ทำให้เพื่อน หัวเราะ มีความสุข ไม่เครียด สำหรับทางโลกก็โอเค
    เขาจะมองเราเป็นคนอารมณ์ดี ไม่เครียด อยู่ด้วยแล้วสนุก
    แต่ระวัง ถ้าเยอะเกิน เขาจะมองเราเป็นคนไร้สาระ แล้วไม่น่าเชื่อถือ ครับ

    สำหรับทางธรรม เขาจะมองอีกแบบครับ
    สำหรับผม ผมมองอย่างนี้
    เรื่องตลก เรื่องหนึ่งพูดไป หัวเราะแปปหนึ่ง เดียวก็ลืมแล้ว
    ต้องหาเรื่องใหม่ มาเรื่อย ๆ

    มุขคิดมาเยอะแค่ไหนก็ใช้ได้แค่ครั้งเดียว (ต่อคน)
    ต้องหามุขใหม่มาอีก ไม่จบไม่สิ้น
    จะหาสาระเอามาใช้จริง ก็หาไม่ได้
    แต่เสียเวลาเยอะ แต่ประโยชน์ที่ได้กลับมาน้อยยิ่งนัก (หรือแทบไม่มี)
    ในขณะที่ บางทีจะพูดให้สนุก อาจจะต้องใส่ไข่ ใส่อารมณ์
    ซึ่งก็ง่ายต้องการ มุสา ส่อเสียด นินทา ครับ (แต่เวลาเมาท์มันก็สนุกจริงนะขอบอก)
    เพราะฉะนั้น การพูดตลก ออกแนวไร้สาระ สำหรับผม
    เปรียบเสมือน กระดาษทิชชู่ ครับ ใช้แล้วทิ้ง ใช้แล้วทิ้ง
    แล้ววันไหนที่พูดจาผิดหัวกัน
    ไอ่พูดตลก นั้นก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยครับ
    พูดตลกเป็นร้อยครั้ง พันครั้ง พูดไม่ดีครั้งเดียว ก็ฆ่าความสัมพันธ์ได้เลยครับ

    แต่ธรรมดี ๆ ที่มีประโยชน์ นั้น หากกินใจ
    ฟังครั้งเดียว ก็จำไปตลอดชีวิตครับ
    เปรียบเสมือน ภาพโปสเตอร์ แปะอยู่บนฝาผนังห้อง
    จะกิน จะนอน จะเดิน ก็ยังแปะ อยู่อย่างนั้น
    เมื่อไรที่นึกถึง ก็มองไป ก็จะเห็นภาพเสมอ...
    แต่ธรรมนั้นมันต้องโดนตัวเขา
    ยกตัวอย่างนะครับ
    ผมมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง ตอนเด็ก เขามีโอกาสได้ยินพระพูดอยู่ประโยคหนึ่งว่า
    เธอโตมาให้ไปเที่ยวต่างประเทศปีละครั้ง
    และเขาก็จำมาจนถึงทุกวันนี้ครับ และก็นำมาปฏิบัติ
    หรือบางที เราได้ยินคำสอนของพ่อ ของแม่ ของครู หรือของผู้ใหญ่
    อะไรทำนองนั้นแหละครับ

    เพราะฉะนั้น การพูดจาตลกออกแนวไร้สาระ (ผมก็เคยทำเมื่อก่อน)
    ถ้าไม่ได้คิดอะไรมาก ทำแล้วรู้สึกดี ก็ทำต่อไป

    แต่ถ้าในทางธรรมแล้ว
    ถ้าพูดแล้วไม่เกิดประโยชน์ (ให้จิตใจสูงขึ้น) ก็ไม่รู้จะพูดทำไม
    ไม่พูดเสียดีกว่า พูดไปก็เสียเวลา
    เพราะจะพูดหรือไม่พูด ก็มีค่าเท่ากัน ไม่ถึง 5 นาที เดี๋ยวเรื่องนั้นก็ลืมแล้วครับ

    อันนี้จากประสบการณ์ตรงครับ












     
  6. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    ยกตัวอย่างเพิ่มอีกนิดนะครับ
    พูดตลก เหมือนเราทำงานฟรี
    เหมือนเราไปทำงานเป็นเด็กเสริฟยืน วันละ 8 ชม. แต่ไม่ได้เงินนะครับ

    ความหมายก็คือ เราพูดตลกมาตลอดชีวิต แต่เรากลับไม่ได้บุญ
    (บุญส่วนอื่น ทาน ศีล อะไรก็ได้ไป แต่ในส่วนวาจา เราไม่ได้ แทนที่จะได้คะแนนเต็ม 10
    ก็อาจได้แค่ 5 6 7 อะไรทำนองนี้)

    เพราะอย่าลืมว่า การพูดทำได้ง่ายสุด
     
  7. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    แล้วธรรมที่ดีที่สุด คือธรรมที่ตรัสออกมาจากพระพุทธเจ้าครับ
    เพราะฉะนั้น การที่เราเอาคำพระพุทธเจ้ามาพูด จึงเป็นการ safe ตัวเองที่สุด
    แต่การที่เราจะพูดได้ เราก็ต้องหมั่นศึกษา... ใช้คำว่าหมั่นศึกษา นะครับ
    หมั่นค้นคว้า หาอ่านเพิ่มเติม ขยันดูโน้น นั้น นี้ สะสมไปเรื่อย ๆ
    ที่สำคัญต้องนำไปปฏิบัติด้วยนะครับ!

    แล้วพอเราอ่านเยอะเข้า ๆ + กับเราเข้าใจ + กับเราปฏิบัติได้
    เด่วเวลาเราพูด มันก็จะพูดแบบเป็นธรรมชาติ เป็นคำพูดของเรา
    ที่มีพื้นฐานอยู่บน concept ของพระไตรปิฎก
    โดยไม่มีการผิดเพี้ยน
    และก็ไม่ต้องปรุงแต่ง อะไรให้มันมากมาย ครับ

    แล้วคนที่เขาศึกษามาเหมือนเรา เขามาเห็น
    เขาก็จะบอกว่า โอ้ ใช่ ใช่ ใช่
    แบบนี้นะครับ

    การปฏิบัติธรรม คือการศึกษา หรือเรียนรู้จากพระพุทธเจ้า
    ซึ่งเป็นทางที่เร็วที่สุดครับ
    ถ้าศึกษามาดี ไม่ต้องกลัว ไม่มีหลงครับ

    จะพระ หรือ อุบสาก หรือ อุบาสิกา ก็เหมือนกันแหละครับ
    เป็นนักศึกษาเหมือนกันหมด เพียงแต่พระเขาปฏิบัติเยอะกว่า
    อุบาสก อุบาสิกา ก็เหมือนกับคนที่กำลังสอบ เอ็น โควต้า อยู่
    คนที่บวชก็คือคนที่เข้ามาอยู่ปี 1 แล้ว
    โสดาบันก็ปี 2 สกิทาก็ปี 3 อานาคามี ก็ปี 4
    ส่วนใครอรหันต์แล้ว ก็คือจบแล้ว
    อะไรประมาณนี้นะครับ
     
  8. (-*-)

    (-*-) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +1,060
    ถ้าอยากสร้างอารมณ์ขัน ก็ต้องพยายามฝึกไปครับ..
    ฝึกให้เรื่องตลกนั้นมีสาระ ด้วยครับ
     
  9. patiphat2499

    patiphat2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +183
    ตอบLOVEPYOU คำตอบโดนใจ เข้าถึงใจ ผมมากๆคับ กุศลกรรมบท10 ผมก็ทำคับ ถ้าพระพุทธเจ้าว่าไม่ดี ผมก็ไม่ทำคับ ผมรู้สึกเหมือนคุณเลยคับ
     
  10. (-*-)

    (-*-) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +1,060
    วันก่อนหิวมากเลยแวะร้านลูกชิ้นปิ้ง ..
    เห็นเค้าบอกว่าไม้ละ 5 บาท ..
    เลยแกล้งหยอกแม่ค้า .. "3 ไม้ 5 บาทได้มั๊ยอ่ะ?"
    แม่ค้าเลยจัดให้ .. "ได้สิจ๊ะ"

    [​IMG]
     
  11. วิริยะ13

    วิริยะ13 สติเป็นโล่ห์ ปัญญาเป็นอาวุธ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    2,880
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,515
    ค่าพลัง:
    +12,460
    ศีลข้อ ๔ องค์ประกอบสำคัญ คือ มุ่งทำลายผู้อื่นให้เสียหาย พินาศย่อยยับ
    ถ้าพูดเพื่อให้คนอื่นสบายใจ เพ้อเจ้อ ไร้สาระ ตลกไปวัน ๆ ถือว่ายังไม่เข้า
    องค์ประกอบใหญ่ ผิดเหมือนกัน แต่โทษนั้นน้อย ..
     
  12. patiphat2499

    patiphat2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +183
    ไม่สามารถตอบทุกความเห็นได้ เล่นเน็ตโทรศัพพิมก็ช้าๆ กว่าจะโพสข้อความได้ บางทีก็ERR ต้องเข้าเวปใหม่ ถ้าตอบทุกข้อความเป็นชั่วโมงถึงละคับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2014
  13. patiphat2499

    patiphat2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +183
    เอาเป็นว่าผมอ่านทุกข้อความ ได้ความรู้ทุกข้อความของทุกท่าน ขอบคุณทุกท่านครับ
     
  14. patiphat2499

    patiphat2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +183
    ความเห็นของทุกๆท่านดี และ สำคัญ โดนใจ มีประโยชน์แก่ผม มากๆคับ ขอบคุณทุกๆท่าน มากๆคับ
     
  15. (-*-)

    (-*-) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +1,060
    การสร้างไมตรี .. ใช้วิธีการสังเกตุเพื่อหาจุดชมหรือจุดทักทาย เป็นพื้นจะดีกว่าครับ
    เช่น ทักว่าไปตัดผมมาเหรอ หรือเรื่องเสื้อผ้า เครื่องแต่งกาย ข่าวเด่นๆ ประจำวันก็สามารถยกมาทักกันได้
    ถ้านึกอะไรไม่ออก ก็ทักแล้วยิ้มให้ หรือจะถามว่าสบายดีไหม? ก็ได้
    ส่วนเรื่องตลกไม่สามารถหาได้ตลอดต้องรอจังหวะครับ ดังนั้นอย่าไปคาดหวังครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2014
  16. (-*-)

    (-*-) เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    664
    ค่าพลัง:
    +1,060
    นี่ถ้ามีคนถามคำถามคุณให้ตอบ! คงไม่ได้เป็นการทำร้ายคุณมากไปนะครับ .. อิอิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กันยายน 2014
  17. patiphat2499

    patiphat2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +183
    อิๆ ดีนะไม่มีใครถาม ให้ตอบ อิๆ
     
  18. Greenpleace

    Greenpleace เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มกราคม 2012
    โพสต์:
    895
    ค่าพลัง:
    +8,768
    องค์ประกอบของการพูดเพ้อเจ้อ มี ๒ ประการ คือ
    ๑. นิรตฺถกถาปุเรกฺขาโร ตั้งใจกล่าววาจาที่ไม่มีประโยชน์
    ๒. กถนํ กล่าววาจานั้นออกไป

    สัมผัปปลาปะ เป็นการกล่าวคําไม่จริง แต่ก็มีความแตกต่างกับมุสาวาท คือ เจตนาที่มุ่งจะกล่าวเรื่องไร้สาระอย่างเดียว แต่ถ้าเป็นเจตนาที่เป็นไปโดย ต้องการให้เขาเข้าใจคลาดเคลื่อนแล้วทําประโยชน์ของเขาให้เสียหาย อย่าง นี้เป็นมุสาวาท

    เกี่ยวกับคําพูดที่ไม่เป็นประโยชน์ เรียกว่า ดิรัจฉานกถา เพราะเป็นสิ่ง ที่ขวาง มรรค ผล นิพพาน

    ดิรัจฉานกถา มี ๓๒ ประการ
    ๑. พูดเรื่อง พระมหากษัตริย์ และ ราชวงศ์
    ๒. พูดเรื่อง โจร
    ๓. พูดเรื่อง ราชการ การเมือง
    ๔. พูดเรื่อง ทหาร ตํารวจ
    ๕. พูดเรื่อง ภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้น
    ๖. พูดเรื่อง อาวุธยุทโธปกรณ์
    ๗. พูดเรื่อง อาหารการกิน
    ๘. พูดเรื่อง เครื่องดื่ม สุราเมรัย
    ๙. พูดเรื่อง การแต่งตัว เสื้อผ้าอาภรณ์
    ๑๐. พูดเรื่อง การหลับนอน
    ๑๑. พูดเรื่อง ดอกไม้ การจัดประดับดอกไม้
    ๑๒. พูดเรื่อง กลิ่นหอมต่าง ๆ
    ๑๓. พูดเรื่อง วงศาคณาญาติ
    ๑๔. พูดเรื่อง รถ เรือ ยานพาหนะต่างๆ
    ๑๕. พูดเรื่อง หมู่บ้าน ร้านค้าต่างๆ
    ๑๖. พูดเรื่อง นิคมต่างๆ (หมู่บ้านใหญ่,เมืองขนาดเล็ก)
    ๑๗. พูดเรื่อง เมืองหลวง จังหวัด
    ๑๘. พูดเรื่อง ชนบท
    ๑๙. พูดเรื่อง ผู้หญิง
    ๒๐. พูดเรื่อง ผู้ชาย
    ๒๑. พูดเรื่อง หญิงสาว
    ๒๒. พูดเรื่อง ชายหนุ่ม
    ๒๓. พูดเรื่อง วีรบุรุษ ความกล้าหาญ
    ๒๔. พูดเรื่อง ถนนหนทาง
    ๒๕. พูดเรื่อง ท่าน้ํา แหล่งน้ํา
    ๒๖. พูดเรื่อง ญาติ เรื่องคนที่ตายไปแล้ว
    ๒๗. พูดเรื่อง ต่างๆ นานา
    ๒๘. พูดเรื่อง โลกและผู้สร้างโลก
    ๒๙. พูดเรื่อง มหาสมุทร และการ สร้างมหาสมุทร
    ๓๐. พูดเรื่อง ความเจริญ และความ เสื่อมต่างๆ
    ๓๑. พูดเรื่อง ป่าต่างๆ
    ๓๒. พูดเรื่อง ภูเขาต่างๆ

    "คําพูดแม้ตั้งพัน แต่ไม่ประกอบด้วย ประโยชน์ ย่อมสู้คําเดียวที่เป็นประโยชน์ไม่ได้ บทเดียวที่เป็นประโยชน์ซึ่งฟ๎งแล้วทําให้สงบได้ นั้น ประเสริฐกว่า" (คาถาธรรมบท สหัสวรรค)


    ผลบาปของการพูดเพ้อเจ้อ
    ผลของบาป ในปฏิสนธิกาล
    เมื่อการพูดเพ้อเจ้อสําเร็จลงโดยมี องค์ประกอบทั้ง ๒ ครบ จัดเป็น อกุศลกรรมที่สมบูรณ์ เมื่อกรรม เช่นนี้ส่งผล จะนําไปเกิดใน อบายภูมิ

    ผลของบาป ในปวัตติกาล (เมื่อยังมีชีวิตอยู่ ไม่ตาย อาจจะเป็นชาตินี้หรือชาติต่อ ๆ ไปก็ได้)
    กรรมนี้จะส่งผลได้ในปวัตติกาล คือ ทําให้ ได้เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้ลิ้มรส ได้ สัมผัส ได้รับอารมณ์ และพิจารณา อารมณ์ที่ไม่ดี เศษกรรมที่จะตามมาส่งผลหลังจาก ที่ได้รับทุกข์ในอบายภูมิแล้ว ยังสามารถตามมาส่งผลทําให้เป็น บุคคลที่ไม่มีใครเชื่อถือในคําพูด ไม่มีอํานาจ หรือ วิกลจริต

    คำพูด จะทำให้คนตกอับก็ได้ ทำให้คนได้ัรับการยกย่องนับถือก็ได้ ทำให้ลงนรกก็ได้ ไปสวรรค์ก็ได้ สำเร็จมรรคผลในชาตินี้ก็ได้ อยู่ที่เราว่าจะใช้ปากของเราสร้างความสุขหรือความทุกข์ให้กับตัวเราเอง
     
  19. patiphat2499

    patiphat2499 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    73
    ค่าพลัง:
    +183
    ขอบคุณ คับ
     
  20. yutpichai

    yutpichai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +306
    ถ้าตลกแบบกวนบาทาคนอื่นล่ะครับ อิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...