ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc

    20 ต.ค. ชาวเน็ตแชร์คลิป 'พายุหมุน' ดูดน้ำในบ่อกุ้งขึ้นมาบนฟ้า ที่อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา

    [​IMG]

    ชมคลิป ชาวเน็ตแชร์คลิป 'พายหมุน'ดูดน้ำในบ่อกุ้งขึ้นมาบนฟ้า - VoiceTV

    ผู้ใช้ชื่อเฟซบุ๊กว่า กีกี้ สิทธิพร อินทคง ได้โพสต์คลิปวีดีโอที่มีความยาว 03.47 นาที โดยเขียนบรรยายว่า ครั้งแรกในชีวิตพายุหมุนบ่อกุ้งพังหมดต่อหน้าต่อตา ซึ่งในคลิปวีดีโอดังกล่าวเป็นพายุหมุนอย่างรุนแรงที่กำลังทำลายบ่อกุ้ง ที่อำเภอระโนด จังหวัดสงขลา

    โดยคนในคลิปได้มีการพูดคุยกันว่า ตอนเเรกอยู่ใกล้ๆเค้า เเต่มันก็เคลื่อนไปเรื่อยๆเเละใหญ่ขึ้น อาจสร้างความเสียหายเเก่กุ้งที่อยู่ในบ่อเเละเครื่องจักรในบ่อกุ้งได้

    ชาวเน็ตแชร์คลิป 'พายหมุน'ดูดน้ำในบ่อกุ้งขึ้นมาบนฟ้า - VoiceTV
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc

    20 ต.ค. กองกำลังเคิร์ดขอบคุณ “สหรัฐฯ” ชี้ทิ้งร่มส่งอาวุธ “ช่วยได้เยอะ”

    [​IMG]

    สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินทิ้งร่มสัมภาระซึ่งมี อาวุธ , เครื่องกระสุน และอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับชาวเคิร์ดในซีเรียที่เมืองโคบานีเป็นครั้งแรก กองบัญชาการกลางสหรัฐฯ (CENTCOM) แถลงวานนี้ (19ต.ค.) ขณะที่การสู้รบกันอย่างดุเดือดเพื่อแย่งชิงเมืองสำคัญแห่งนี้ยังคงโหมกระหน่ำรุนแรงต่อไป

    รีดูร์ เซลิล โฆษกหน่วยพิทักษ์ประชาชน (วายพีจี) ออกมายืนยันการจัดส่งอาวุธดังกล่าว และระบุว่า นักรบชาวเคิร์ดหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติม

    “ความช่วยเหลือทางทหารที่เครื่องบินอเมริกันทิ้งลงมาที่เมืองโคบานีเมื่อช่วงรุ่งเช้าเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ และเราขอขอบคุณอเมริกาสำหรับความช่วยเหลือครั้งนี้”
    “มันจะมีผลดีต่อการปฏิบัติการทางทหารต่อพวกเดียช และเราหวังว่าจะได้รับเพิ่มเติมอีก” เขากล่าวเสริม โดยใช้ตัวย่อภาษาอาหรับเรียกกลุ่มรัฐอิสลาม

    เขาปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับอาวุธที่ถูกส่งมา แต่ระบุว่า สิ่งเหล่านี้จะ “ช่วยได้อย่างดีเยี่ยม” ขณะที่นักรบชาวเคิร์ดกำลังต่อสู้เพื่อป้องกันเมืองโคบานี หรือที่รู้จักในชื่อ ไอน์ อัล-อาหรับ จากการบุกรุกของนักรบญิฮาดกลุ่มไอเอส
    เซลิล ระบุว่า มีการ “ประสานงานกัน” ระหว่างเจ้าหน้าที่สหรัฐฯและกองกำลังวายพีจีในเรื่องการจัดส่งอาวุธดังกล่าว แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม

    ปัจจุบัน นักรบญิฮาดกลุ่มไอเอสควบคุมราวครึ่งหนึ่งของเมืองโคบานี ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่ทางยุทศาสตร์ตามแนวยาวของพรมแดนระหว่างตุรกี-ซีเรีย ซึ่งโดยส่วนมากอยู่ภายใต้การควบคุมของอิสลามิสต์กลุ่มนี้

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc

    ตุรกีอนุญาตชาวเคิร์ดข้ามชายแดนไปรบต้าน IS
    by Nattachai Tantirapan 20 ตุลาคม 2557 เวลา 21:25 น.

    ตุรกีอนุญาตให้กองกำลังชาวเคิร์ดจากอิรักข้ามชายแดนตุรกีไปร่วมรบเพื่อป้องกันเมืองโคบานีได้ หลังสหรัฐฯส่งเสบียงและอาวุธให้กับชาวเคิร์ดในเมืองโคบานีเพียงไม่กี่ชั่วโมง

    ตุรกีอนุญาตให้กองกำลังชาวเคิร์ดจากอิรักหรือ "เปชแมร์แก" สามารถข้ามชายแดนตุรกีไปรบต่อต้านกลุ่มรัฐอิสลามหรือ IS เพื่อปกป้องเมืองโคบานี ทางตอนเหนือของซีเรีย ติดกับชายแดนตุรกี ซึ่งการตัดสินใจของตุรกีนี้สร้างความประหลาดใจให้กับนานาชาติเพราะตุรกีมีนโยบายต่อต้านชาวเคิร์ดมาโดยตลอด ทั้งยังเกิดขึ้นหลังสหรัฐฯประกาศว่าส่งเสบียงและอาวุธทางอากาศให้กับชาวเคิร์ดในเมืองโคบานีเพียงหนึ่งชั่วโมงเท่านั้น

    นายเมฟลุท คาวูโซกลู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของตุรกี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ของตุรกีได้ประเมินสถานการณ์แล้วว่า การส่งเสบียงและอาวุธทางอากาศของสหรัฐฯในเมืองโคบานีเป็นเพียงการสนับสนุนกองกำลังเปชแมร์แกที่จะเข้าไปป้องกันเมืองโคบานีเท่านั้น ตุรกีจึงอนุญาตให้กองกำลังเปชเมอร์แกข้ามไปฝั่งซีเรียได้ และตุรกีก็ไม่ต้องการเห็นเมืองโคบานีแตก

    อย่างไรก็ตาม นายคาวูโซกลูกล่าวเสริมว่า ตุรกีไม่มีนโยบายสนับสนุนพรรคสหภาพประชาธิปไตยหรือ PYD ของชาวเคิร์ดในซีเรีย แนวร่วมของพรรคแรงงานเคอร์ดิสถานหรือ PKK ศัตรูของรัฐบาลตุรกีแต่อย่างใด ขณะที่หลายฝ่ายมองว่าการตัดสินใจครั้งนี้เกิดจากการที่รัฐบาลตุรกีถูกชาวเคิร์ดในประเทศกดดันอย่างหนักให้ตอบโต้กลุ่ม IS ซึ่งการตัดสินใจครั้งนี้เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญทางนโยบายของตุรกีเลยทีเดียว

    ด้านนายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความเข้าใจต่อการตัดสินใจของตุรกีซึ่งถือว่าเป็นเรื่องยากพอสมควรสำหรับรัฐบาลตุรกี เพราะสหรัฐฯทราบดีว่า ตุรกีมีความขัดแย้งกับกองกำลังติดอาวุธชาวเคิร์ดของ PKK ที่ทำสงครามต่อกันมาตลอด 30 ปี อย่างไรก็ตาม สหรัฐฯจะขอรับหน้าที่เป็นตัวกลางเพื่อประสานส่วนต่างๆเข้ามาร่วมต่อสู้กับกลุ่ม IS เพื่อปกป้องเมืองโคบานีเอาไว้

    ก่อนหน้านี้ หน่วยบัญชาการกลางของสหรัฐฯหรือเซ็นคอม ระบุว่า เซ็นคอมได้ส่งเครื่องบินขนส่งแบบ C-130 เข้าส่งเสบียงและยุทโธปกรณ์ทางอากาศเพื่อสนับสนุนกองกำลังชาวเคิร์ดทั้งในอิรักและซีเรีย เพื่อต้านทานกลุ่ม IS ที่จะเข้ายึดเมืองโคบานีได้อย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น โดยการส่งเสบียงทางอากาศครั้งนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เครื่องบินทุกลำเดินทางกลับสู่ฐานทัพอากาศอย่างปลอดภัย

    ตุรกีอนุญาตชาวเคิร์ดข้ามชายแดนไปรบต้าน IS - VoiceTV
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    21 ต.ค. ญี่ปุ่นขวางจีน! 2ชาติแย่งเค้กเศรษฐกิจไทย ทูตญี่ปุ่นพบรองนายกฯ ยื่นคำขาด บีบ ต้องเลือกข้างลงทุน

    [​IMG]

    นายยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังนายชิเกะคะสุ ซะโตะ (H.E. Mr. Shigekazu Sato) เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยเข้าเยี่ยมคารวะที่ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาลว่า สิ่งที่หารือกันเป็นงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่มีต่อสังคม เช่น เรื่องการทำขนส่งระบบราง ดาวเทียม ซึ่งญี่ปุ่นมีความเป็นห่วงว่าตกลงว่าไทยจะร่วมมือกับจีนหรือญี่ปุ่น ซึ่งเอกอัคราชทูตสอบถามว่าไทยจะมีกลไกอย่างไร ซึ่งตนตอบไปว่าเราจะพิจารณาว่าแต่ละประเทศมีจุดแข็งหรือจุดอ่อนอย่างไร แต่จะพิจารณาอย่างรอบคอบในการร่วมมือกับประเทศต่างๆ
    นายยงยุทธ กล่าวด้วยว่า ญี่ปุ่นมีความสำคัญที่เคยมีความร่วมมือและประสบความสำเร็จอย่างมาก อาทิ อุตสาหกรรมรถยนต์ และผมยังเสนอว่าอนาคตในสังคมผู้สูงอายุเป็นประเด็นใหญ่ระดับโลกคิดว่าน่าจะมีอุตสาหกรรมที่เป็นความร่วมมือไทยกับญี่ปุ่นเช่นการทำหุ่นยนต์เพื่อช่วยผู้สูงอายุ หรือผู้พิการ หรือเทคโนโลยีด้านต่างๆที่จะช่วยผู้สูงอายุและผู้พิการ ซึ่งการหารือยังคุยด้วยว่าน่าจะมีการดึงบริษัทญี่ปุ่นที่มีความไฮเทค อาทิ บริษัท ไนเดค (NIDEC) ที่ทำเรื่องมอเตอร์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ว่าไทยให้ความสำคัญและยินดีที่ส่งเสริมถ้าอุตสาหกรรมด้านนี้จะมาตั้งฐานการผลิตที่ประเทศไทย เพราะมองว่าเรื่องอุตสากรรมคอมพิวเตอร์ ไอทีและหุ่นยนต์สำหรับผู้สูงอายุถือว่ามีความสำคัญรองลงมาจากอุตสาหกรรมรถยนต์ เพราะเป็นประโยชน์กับสังคมไทยและด้านพาณิชย์

    [​IMG]

    หลังจากนั้นเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยได้เข้าพบ ม.ร.ว.ปรีดียาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ โดย ม.ร.ว.ปรีดียาธร เปิดเผยหลังหารือกับ นายชิเกะคะสุ ซะโตะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยว่า ทางญี่ปุ่นได้สอบถามถึงการจัดทำสำนักงานปฏิบัติการระดับภูมิภาคหรือ เทรดดิ้ง อินเตอร์เนชั่นแนล เฮดควอเตอร์ ) ในประเทศไทย เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการค้าในภูมิภาค โดยทางเราก็บอกว่าจะทำ เพราะบริษัทญี่ปุ่นมาตั้งบริษัทลูกที่ไทยเป็นจำนวนมาก โดยจะต้องมีการแก้กฎหมายเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบริษัทต่างประเทศที่ในประเทศไทย โดยขณะนี้ที่ไทยยังไม่มีการตั้งสำนักงานดังกล่าวขึ้น เพราะมีกฎเกณฑ์มาก ทั้งเรื่องภาษีและที่ไม่ใช่ภาษี จึงต้องแก้ไขให้ใกล้เคียงกับสิงคโปร์ มาเลเซีย และฮ่องกง ที่สนับสนุนเรื่องดังกล่าวอยู่แล้ว โดยหากแก้ให้ได้เสร็จสิ้น จะทำให้เกิดกิจกรรมทางการค้ามีกำไรเพิ่มมากขึ้นและเพื่อที่บริษัทจะสามารถเข้ามาควบคุมบริหารบริษัทลูกที่มาตั้งในไทยได้ทั้งนี้ในอีก2 สัปดาห์ จะแก้กฎหมายดังกล่าวก่อนเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพื่อการพิจารณา

    [​IMG]

    ขณะเดียวกันญี่ปุ่นยังได้สอบถามถึงความคืบหน้าการพัฒนาโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายและพื้นที่ที่เกี่ยวข้องในประเทศเมียนมาร์ ซึ่งเป็นความร่วมมือในระดับรัฐบาลของไทยกับเมียนมาร์ โดยการเข้ามาร่วมของญี่ปุ่นนั้น ไทยก็พร้อมที่จะสนับสนุน แต่ก็ต้องหารือกับรัฐบาลเมียนมาร์ก่อนว่า จะร่วมมือในแนวทางอย่างไรบ้าง ขณะเดียวกันในเรื่องของการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิตอล ซึ่งประเทศญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญนั้น ล่าสุดยังไม่ได้หารือถึงเรื่องดังกล่าว
    2ชาติแย่งเค้กเศรษฐกิจไทย ทูตญี่ปุ่นพบรองนายกฯ บีบ ต้องเลือกข้างลงทุน : มติชนออนไลน์
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc

    20 ต.ค. "โนมอร์ วูล์ฟ" อุปกรณ์ช่วยน้องหมาพูดภาษาคน

    [​IMG]

    คนเราพยายามเหลือเกินที่จะสื่อสารกับบรรดาสัตว์เลี้ยงแสนรักทั้งหลาย โดยเฉพาะเจ้าสุนัขน้อยใหญ่ที่เป็นที่นิยมเลี้ยงกันอยู่ทั่วโลก ที่ผ่านมาเราสื่อสารกับมันด้วยคำสั่ง ท่าทาง ส่วนที่เหลือก็ใช้การ คาดเดา เอาเป็นหลัก
    แต่ตอนนี้ทีมวิจัยและออกแบบอุตสาหกรรมจาก สมาคมเพื่อนวัตกรรมและการค้นพบแห่งนอร์ดิค (เอ็นเอสไอดี) ในเมืองมัลโม ประเทศสวีเดน ช่วยกันพัฒนาอุปกรณ์สำหรับสวมศีรษะน้องหมาทั้งหลาย เพื่อใช้เป็นสื่อกลาง เป็นเครื่องมือในการพัฒนาการสื่อสารระหว่างคนกับสุนัขให้เข้าใจซึ่งกันและกันมากยิ่งขึ้น โดยตั้งชื่อให้อุปกรณ์สวมหัวหรือเฮดเซต ตัวนี้เอาไว้ว่า "โนมอร์ วูล์ฟ"
    โนมอร์ วูล์ฟ ติดตั้งเซ็นเซอร์ตรวจจับคลื่นสมองอยู่ในตัว สำหรับใช้ทำหน้าที่จับคลื่นสมองของบรรดาน้องหมาทั้งหลาย หลังจากสวมโนมอร์ วูล์ฟเข้าไป ตัวเซ็นเซอร์จะเข้าไปตรวจจับสัญญาณที่เกิดขึ้นในสมองของสุนัขเหล่านั้นซึ่งจะมีรูปแบบเฉพาะแล้วแต่ตามสภาวะของตัวสุนัขเอง อาทิ เหนื่อยล้า หิว และตื่นเต้นดีใจ ข้อมูลที่ตรวจจับได้จะถูกส่งไปยังไมโครคอมพิวเตอร์ เพื่อประมวลผลแล้ว แปล ออกมาเป็นภาษาคน ผ่านลำโพงของชุดอุปกรณ์ ซึ่งในตอนนี้มีแต่ภาษาอังกฤษ แต่ทีมพัฒนาหวังว่าจะสามารถทำให้น้องหมาพูดได้อีกหลายภาษาในอนาคต
    โนมอร์ วูล์ฟ เตรียมผลิตออกมาใน 3 ขนาด เพื่อให้เหมาะสมสำหรับบรรดาสุนัขทุกตัว ทุกสายพันธุ์ ตั้งแต่แต่รุ่นไมโคร ขนาดเล็ก, รุ่นสแตนดาร์ด สำหรับสุนัขขนาดมาตรฐานทั่วไป และซุปพีเรีย โมเดล ที่ใช้สำหรับสุนัขใหญ่โดยเฉพาะ
    ต้นแบบที่อยู่ระหว่างการพัฒนานี้ ยังมีขีดความสามารถจำกัดอยู่บ้าง เพราะสามารถอ่านรูปแบบ ความคิด ของน้องหมาของเราได้เพียง 4 รูปแบบเท่านั้น แต่ทีมพัฒนาของเอ็นเอสไอดีหวังว่านี่จะเป็นก้าวแรก ก้าวสำคัญที่จะนำไปสู่การทำความเข้าใจซึ่งกันและกันได้อย่างแท้จริง
    อุปกรณ์นี้จะช่วยให้เรารู้ก่อนล่วงหน้าว่า เจ้าน้องหมาตัวน้อยอยากจะออกไปข้างนอก ก่อนที่มันจะตัดสินใจปล่อยของเสียเรี่ยราดไว้ทั่วบ้าน
    ตามแนวทางพัฒนาในอนาคต นอกจากทีมเอ็นเอสไอดีจะพยายามทำให้น้องหมาพูดได้หลายภาษาแล้ว ยังเตรียมพัฒนาอุปกรณ์ทำนองเดียวกันนี้สำหรับผู้เลี้ยง เพื่อสร้างการสื่อสารสองทาง สร้างชุดอุปกรณ์สำหรับช่วยในการควบคุมอวัยวะเทียมที่ติดตั้งให้กับสุนัข และรวมทั้งนำหลักการเดียวกันนี้ไปพัฒนาเป็นชุดอุปกรณ์ช่วยเหลือในการฝึกสุนัขอีกด้วย
    พูดง่ายๆ ว่า ในอนาคตนอกจากสุนัขในบ้านเราสามารถพูดออกมาเป็นภาษาคนได้แล้ว ...คนเรายังจะพูดภาษาหมาได้อีกต่างหาก
    "โนมอร์ วูล์ฟ" ช่วยน้องหมาพูดภาษาคน : มติชนออนไลน์
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc

    20 ต.ค. อึ้ง!พบแมงมุมยักษ์ตัวเท่าลูกหมา ขายาว 1 ฟุต

    [​IMG]

    นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันพบแมงมุมพันธุ์ยักษ์หายาก “โกลิอัธ เบิร์ดอีเทอร์” ขนาดตัวเท่าลูกสุนัข เฉพาะส่วนขาอย่างเดียวยาว 1 ฟุต

    [​IMG]

    เว็บไซต์ข่าวสหรัฐ “ยะฮู นิวส์” รายงานจากประเทศกายอานา เมื่อวันที่ 20 ต.ค.ว่า นายพิโอตร์ นาสเคร็คกี นักกีฏวิทยาและช่างภาพประจำพิพิธภัณฑ์สวนสัตว์ของมหวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในสหรัฐเผย พบแมงมุมยักษ์พันธุ์หายาก “โกลิอัธ เบิร์ดอีเทอร์” ขณะเดินอยู่ในเขตป่าฝนในประเทศกายอานา ทางตอนเหนือของทวีปอเมริกาใต้ เขาเล่าว่า ในคืนนั้นเขาเดินเข้าไปในป่าแล้วเกิดไปเหยียบสัตว์ตัวหนึ่งซึ่งตอนแรกคิดว่าเป็นหนูหรือสิ่งมีชีวิตมีขนประเภทอื่นแต่สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าคือแมงมุมหายากขนาดใหญ่

    [​IMG]

    แมงมุมตัวดังกล่าวเป็นเพศเมียและเป็นพันธุ์ที่ได้รับการบันทึกสถิติโดยกินเนสส์ เวิลด์ เรคคอร์ดส ว่าเป็นแมงมุมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก หากเหยียดขาของของมันออกทั้งหมดจะมีความยาวถึงราว 30 เซนติเมตร ลำตัวมีขนาดเท่ากำปั้นมนุษย์ มีน้ำหนักราว 170 กรัม โดยรวมสามารถพูดได้ว่า แมงมุมชนิดนี้มีขนาดตัวเทียบเท่าลูกสุนัขก็ว่าได้

    วิธีการป้องกันตัวของมันคือ หากมีศัตรูเข้ามาใกล้ มันจะถูขาหลังกับหน้าท้องเพื่อสลัดขนและเงี่ยงขนาดเล็กมากใส่ อาวุธนี้ถ้ากระจายเข้าตาหรือถูกเนื้อเยื่อก็จะทำให้แสบและคัน นอกจากนี้ มันยังมีเขี้ยวยาวราว 5 เซนติเมตรที่ใช้กัดผู้รุกรานได้ แม้จะไม่ถึงตายเพราะไม่มีพิษแต่ก็สามารถทำให้ได้รับความเจ็บปวด
    โกลิอัธ เบิร์ดอีเทอร์ กินสัตว์จำพวกกบ แมลงและหนอน ไม่ทำร้ายมนุษย์ ไม่ดุร้าย ทั้งนี้ นายนาสเคร็คกี ได้พามันกลับมายังพิพิธภัณฑ์สหรัฐเพื่อทำการศึกษาวิจัยต่อไปอีกด้วย

    ขอบคุณภาพ : นายพิโอตร์ นาสเคร็คกี

    อึ้ง!พบแมงมุมยักษ์ตัวเท่าลูกหมา | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc

    20 ต.ค. ชื่นชม ! จนท. แพทย์ หายขาดอีโบลา กลับไปช่วยผู้ป่วยที่แอฟริกาอีก
    สุดยอด จนท. แพทย์ หายขาดอีโบลา ก็กลับไปช่วยผู้ป่วยที่แอฟริกาอีกครั้ง

    [​IMG]

    เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2557 เว็บไซต์เดอะมิเรอร์ของอังกฤษ รายงานว่า เจ้าหน้าที่แพทย์ชาวอังกฤษผู้ติดเชื้ออีโบลาจากผู้ป่วยในแอฟริกาตะวันตก เดินทางกลับไปทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วยและต่อสู้กับอีโบลาในแอฟริกาตะวันตกแล้ว หลังกลับมารักษาที่อังกฤษจนปลอดเชื้อ เผยจะพยายามทำทุกอย่างเพื่อหยุดยั้งการระบาดของอีโบลา
    เจ้าหน้าที่แพทย์รายนี้คือ นายวิลเลียม พูลีย์ วัย 29 ปี เขาเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ติดเชื้ออีโบลาเสียเองระหว่างทำงานอยู่ในเซียร์ราลีโอน ซึ่งหลังจากพบว่ากลายเป็นผู้ป่วยอีโบลา พูลีย์ก็ถูกส่งตัวกลับไปรักษาที่ประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยรับการรักษาในโรงพยาบาลรอยัล ฟรี ในกรุงลอนดอน ก่อนที่ต่อมาจะได้รับการประกาศว่าหายขาดและสิ้นสุดการเป็นผู้ป่วยอีโบลาแล้ว
    อย่างไรก็ดี ประสบการณ์การได้รับเชื้ออีโบลาจากผู้ป่วยเสียเองครั้งนี้ ไม่ได้ทำให้พูลีย์หวั่นกลัวต่อการทำงานช่วยเหลือผู้ป่วยอีโบลาในพื้นที่ระบาดแต่อย่างใด ล่าสุด หลังจากหายดีแล้ว พูลีย์ก็ตัดสินใจบินกลับไปยังเซียร์ราลีโอน เพื่อทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้ป่วยต่อ โดยเปิดเผยว่าเขารู้สึกดีใจที่จะได้ไปช่วยเหลือผู้ป่วยและทีมแพทย์ในการต่อสู้กับการระบาดของอีโบลาอีกครั้ง
    "ภาวะฉุกเฉินที่แท้จริงนั้นอยู่ในแอฟริกาตะวันตก และทีมแพทย์ที่นั่นต้องการทุกการสนับสนุนจากเราทุกคนถ้าหากพอจะทำได้" พูลีย์ กล่าว
    ทั้งนี้ สำหรับสถิติผู้ป่วยอีโบลาล่าสุดจากองค์การอนามัยโลก ระบุตัวเลขผู้ป่วยที่ 8,997 ราย และเสียชีวิตแล้ว 4,493 ราย แต่ถึงอย่างนั้น เชื่อว่าตัวเลขผู้ป่วยจะสูงกว่านี้ เพราะประชาชนหลายรายยังซ่อนผู้ป่วยจากการตรวจพบของทางการอยู่อีกไม่น้อยเลย และนั่นก็เป็นสาเหตุให้อีโบลาควบคุมได้ยากในแอฟริกาตะวันตก
    สุดยอด จนท. แพทย์ หายขาดอีโบลา ก็กลับไปช่วยผู้ป่วยที่แอฟริกาอีกครั้ง
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc

    20 ต.ค. ไทยรั้งอันดับ 6 โลก รวยกระจุกจนกระจาย-อันดับ 1 รัสเซีย

    [​IMG]

    ไทยติดอันดับ 6 ประเทศกระจายรายได้ไม่เป็นธรรม ความมั่งคั่งกระจุกแต่ในมือคนรวย
    ธนาคารเครดิตสวิส เปิดเผยรายงานความมั่งคั่งของโลก ว่า ประเทศไทย ติดอันดับ 6 ของประเทศที่มีการกระจายรายได้ไม่เป็นธรรมของโลกในปี 2014 โดยเศรษฐีที่มั่งคั่งที่สุดในประเทศที่มีอยู่เพียง 10% ของประเทศนั้น กลับถือ ครองความมั่งคั่งทั้งหมดคิดเป็นถึง 75% ของทั้งประเทศ ซึ่งปรับเพิ่มขึ้นจากปี 2013 ที่อยู่ที่ 73.8% และจัดอยู่ในกลุ่มประเทศ ที่มีอัตราการกระจายรายได้ไม่เป็นธรรมสูง คือ เศรษฐีถือสินทรัพย์มากกว่า 70%

    [​IMG]

    นอกจากนั้น การกระจายรายได้อย่างไม่เป็นธรรมของไทยในช่วงระหว่างปี 2007-2014 ถือว่ามีความรุนแรงและเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2007 เศรษฐีมั่งคั่งที่สุด 10% ถือสินทรัพย์อยู่ที่ 69.3% เท่านั้น ก่อนที่จะเพิ่มเป็น 75% ในปีล่าสุดนี้ ขณะที่เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ปรากฏว่าไทยอยู่ในอันดับ 3 ประเทศที่มีการกระจายรายได้ไม่เป็นธรรมรองจากอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์
    สำหรับอันดับ 1 ของโลก ได้แก่ รัสเซีย โดยเศรษฐี 10% ที่ร่ำรวย ที่สุดของประเทศถือครองความมั่งคั่งคิดเป็นถึง 84.8% ของทั้งหมดของประเทศ ส่วนอันดับ 2 คือ ตุรกีที่ 77.7% อันดับ 3 ฮ่องกง 77.5% อันดับ 4 อินโดนีเซีย 77.2% และอันดับ 5 ฟิลิปปินส์ 76%
    อันดับ 7 ได้แก่ สหรัฐ 74.6% อันดับ 8 ได้แก่ อินเดีย 74% อันดับ 9 อียิปต์ 73.3% และอันดับ 10 คือ บราซิล 73.3%
    สำหรับประเทศที่มีการกระจายเป็นธรรมมากที่สุดของโลกนั้น คือเศรษฐีถือสินทรัพย์น้อยกว่า 50% ได้แก่ เบลเยียม ซึ่งเศรษฐี 10% ได้ถือครองความมั่งคั่งคิดเป็นเพียง 47.2% ของความมั่งคั่งของทั้งหมดของประเทศ ตามมาด้วยญี่ปุ่นที่เศรษฐีถือสินทรัพย์อยู่ 48.5% ซึ่งทั้งสองประเทศนี้ถือเป็นประเทศที่มีการกระจายรายได้เป็นธรรมมากที่สุดในโลก

    [​IMG]

    วันเดียวกัน ที่สหราชอาณาจักร ประชาชนกว่า 9.75 หมื่นคน ได้ออกมาเดินขบวนประท้วงค่าแรงที่ไม่เป็นธรรมภายในประเทศ
    ไทยรั้งอันดับ6โลกรวยกระจุกจนกระจาย - โพสต์ทูเดย์ ข่าวรอบโลก
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc

    20 ต.ค. เจ๋ง! ญี่ปุ่นโชว์ภาพลอยได้เหมือนสัญญาณเรียก “แบทแมน”

    [​IMG]

    ล้ำไปอีกขั้น! บริษัทญี่ปุ่นโชว์เทคโนโลยีภาพลอยได้กลางอากาศที่ยิงด้วยลำแสงเลเซอร์คล้ายสัญญาณเรียก “แบทแมน” เพิ่มโอกาสในการส่งข้อความได้แม้ในวันฟ้าใสไร้เมฆ เหมาะแก่การแจ้งเตือนภัยทีมาประชิดตัวอย่าง “สึนามิ”

    [​IMG]

    บริษัท บูร์ตัน (Burton Inc.) ในญี่ปุ่น เผยเทคโนโลยีสร้างภาพลอยได้กลางอากาศภาพลอยได้นี้สร้างขึ้นด้วยหลักการคล้ายการเล่นรวมแสงแดดด้วยแว่นขยายของเด็ก โดยอุปกรณ์ที่ทางบริษัทพัฒนาขึ้นจะรวมแสงเลเซอร์ไว้ที่จุดเล็กๆ กลางอากาศ ซึ่งทำให้โมเลกุลอากาศบริเวณดังกล่าวปลดปล่อยแสงขาวออกมา คล้ายแสงจากหลอดแอลอีดี

    [​IMG]

    “คุณสมบัติที่สำคัญของเทคโนโลยีเราก็คือเรารวมแสงไว้ที่จุดเดียวได้ แล้วทำให้ปลดปล่อยแสงตรงจุดที่เราต้องการ” อากิระ อาซาโนะ (Akira Asano) นักวิจัยและผู้อำนวยการของบริษัทระบุ

    [​IMG]

    การปลดปล่อยแสงนั้นเกิดขึ้นหลายร้อยครั้งใน 1 วินาที และเมื่อลำแสงเคลื่อนไหวก็จะปรากฏต่อตาเปล่าเหมือนภาพที่มี 3 มิติ
    ทางด้านนักวิจัยกล่าวว่าระบบซึ่งมีคุณค่าต่อการโฆษณาประชาสัมพันธ์นี้ ยังใช้ส่งข้อความเตือนภัยและคำแนะนำในการอพยพเมื่อเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงได้ เนื่องจากข้อความเหล่านี้สามารถเห็นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยไม่ต้องอาศัยจอภาพ
    เทคโนโลยีสร้างภาพลอยได้นี้เผยขึ้นที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมอุบัติใหม่แห่งญี่ปุ่น (National Museum of Emerging Science and Innovation) ในโตเกียว เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2014 โดยความสามารถในปัจจุบันของเทคโนโลยีฉายภาพได้ที่ความสูง 5 เมตรเหนือเครื่องกำเนิดแสง แต่ทางบริษัทตั้งเป้าที่จะส่งข้อความให้ได้สูงกว่านี้
    บริษับูร์ตันซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองคาวาซากิทางตะวันตกเฉียงใต้ของโตเกียว คาดหวังว่าจะได้เริ่มเจรจากับภาคธุรกิจและหน่วยงานท้องถิ่นในปีหน้า เพื่อวางระบบสู่การใช้งานจริง
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    20 ต.ค. เผยความน่ารัก"โคอาลาน้อย" สวนสัตว์เชียงใหม่ โผล่จากกระเป๋าหน้าท้องแม่แล้ว

    [​IMG]

    วันที่ 20 ตุลาคม 2557 น.สพ.กาญจน์ชัย แสนวงค์ ผู้อำนวยการสวนสัตว์เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายนิพนธ์ วิชัยรัตน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฯ ว่า ทีมเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลโคอาลา แจ้งข่าวดีว่าลูกโคอาลาที่เกิดจากแม่โคอาลาน้ำปิงและพ่อโคอาลาไบรอัน เริ่มคลานออกจากกระเป๋าหน้าท้องแม่มาให้เห็นแล้วในวันนี้ หลังจากที่อาศัยอยู่ในกระเป๋าหน้าท้องแม่นานถึง 6 เดือน

    [​IMG]

    "สมาชิกตัวใหม่เกิดจากแม่โคอาลาน้ำปิงที่ผสมพันธุ์ตามธรรมชาติกับพ่อโคอาลาไบรอันสุขภาพแข็งแรงดีแต่ขณะนี้ยังไม่ทราบเพศแน่ชัดโดยอยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดพี่เลี้ยง ส่งผลให้ล่าสุดสวนสัตว์เชียงใหม่มีสมาชิกโคอาลารวมทั้งหมด 7 ตัว จากเดิมเพศผู้ 2 ตัว เพศเมีย 4 ตัว เด็กๆ เตรียมส่งชื่อเพื่อร่วมประกวดชิงทุนการศึกษาได้เร็วๆ นี้"
    ทั้งนี้โคอาลาเป็นสัตว์ในกลุ่มจำพวกจิงโจ้ ตัวเมียจะมีกระเป๋าหน้าท้องสำหรับให้ลูกอ่อนอาศัย แต่จากลักษณะและรูปร่างหน้าตาคล้ายสัตว์ในตระกูลหมี ทำให้คนส่วนมากเรียกว่าหมีโคอาลา (Koala bear)

    [​IMG]

    สำหรับโคอาลาที่อยู่ในสวนสัตว์เชียงใหม่ เป็นความร่วมมือระหว่างองค์การสวนสัตว์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สวนสัตว์ทารองก้า และสวนสัตว์เวสเทอร์น เพลน ประเทศออสเตรเลีย นำโคอาลา 4 ตัว คือ ฟุลลา ไบรอัน ซิมป์สัน และโคโค่ มาอยู่ในความดูแลของสวนสัตว์เชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2549 โดยเป็นการแลกเปลี่ยนกับช้าง ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นขวัญใจของชาวออสเตรเลียในขณะนี้เช่นกัน

    [​IMG]

    เผยความน่ารัก"โคอาลาน้อย" สวนสัตว์เชียงใหม่ โผล่จากกระเป๋าหน้าท้องแม่แล้ว : มติชนออนไลน์
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    20 ต.ค. สาวแฉทั้งน้ำตา เกาหลีเหนือสุดป่าเถื่อน ประหารคนดูหนังตะวันตก

    [​IMG]

    [​IMG]

    สาวเกาหลีเหนือเผยทั้งน้ำตา กว่าจะดิ้นรนออกมาหาอิสรภาพได้ ต้องผ่านชีวิตโหดร้ายกดขี่ในดินแดนโสมแดงอย่างสาหัส แค่ดูหนังตะวันตกก็ถูกลงโทษประหาร
    เรื่องเล่าจากปากคำของชาวเกาหลีเหนือที่เล็ดรอดหลบหนีออกมาจากบ้านเกิดของตัวเองได้สำเร็จ ว่าแผ่นดินเกิดของตนนั้นโหดร้ายกดขี่เพียงใด จึงยอมเสี่ยงตายหนีออกมาหาอิสรภาพ และ ยองมี ปาร์ค (Yeonmi Park) ก็เป็นอีกหนึ่งคนที่มาบอกเล่าเรื่องราวชีวิตไร้อิสรภาพในเกาหลีเหนือ

    [​IMG]

    วันที่ 19 ตุลาคม 2557 เดลี่เมล รายงานว่า ยองมี ปาร์ค สาวชาวเกาลีเหนือวัย 21 ปี ได้ขึ้นกล่าวบนเวที วัน ยัง เวิลด์ ซัมมิท 2014 (One Young World Summit 2014) ที่กรุงดับลิน ของไอร์แลนด์ บอกเล่าเรื่องราวชีวิตก่อนจะได้มีอิสรภาพอย่างเช่นทุกวันนี้

    (ชมคลิป

    The Remarkable Harrowing Speech By Yeonmi Park - YouTube

    )
    ยองมีเผยว่า ในเกาหลีเหนือทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐ ที่นี่แบนทั้งการใช้อินเทอร์เน็ต การฟังเพลง การอ่านหนังสือ การโทรศัพท์ระหว่างประเทศ และการออกเสียงแสดงความคิดเห็น โทรทัศน์มีออกอากาศอยู่เพียงช่องเดียว และหากมีหนังฉายก็จะเป็นหนังชวนเชื่อสร้างความภักดีต่อผู้นำเท่านั้น เธอไม่เคยรู้จักหนังรักระหว่างชายหญิงเลยตลอดเวลาที่เติบโตขึ้นมาที่นั่น

    [​IMG]

    ความทรงจำหนึ่งที่เลวร้ายที่สุดคือการถูกเชิญไปดูการยิงเป้านักโทษซึ่งเป็นแม่ของเพื่อนเธอเอง และความผิดที่ทำให้ต้องถูกประหารชีวิตนี้ เพียงเพราะเธอแอบดูหนังของฮอลลีวูดเท่านั้น
    ผู้คนที่เกาหลีเหนือมีชีวิตอยู่ด้วยความเคร่งเครียด หวาดกลัวการถูกลงโทษหากเผลอกระทำผิด โดยเฉพาะการวิจารณ์ผู้นำประเทศ จะมีโทษทำให้ครอบครัว 3 ชั่วโคตรต้องติดคุก ถูกทรมาน หรือถึงขั้นประหารชีวิต
    ในที่สุดครอบครัวของยองมีก็ตัดสินใจเสี่ยงตายหนีออกจากดินแดนแห่งนี้ ทั้งหมดเดินเท้าข้ามทะเลทรายโกบี โดยมีเพียงเข็มทิศนำทาง และเมื่อมันพังไปก็ได้แต่เดินตามดวงดาว ซึ่งเธอเรียกมันว่า "ดวงดาวแห่งเสรีภาพ" ระหว่างทางนั้นเธอต้องสูญเสียบิดา เธอแอบฝังศพเขาอย่างเงียบ ๆ ไม่มีเวลาแม้แต่จะร้องไห้ เพราะกลัวว่าจะมีคนตามมาจับเธอกลับไปเกาหลีเหนืออีก
    จวบจนวันนี้ ยองมีได้ครอบครองเสรีภาพดังที่เธอปรารถนามาตลอด เสรีภาพที่จะได้ใช้ชีวิตตามที่ตนได้เลือกเดินเอง เธอกลายเป็นนักพูดในฐานะชาวเกาหลีเหนือผู้ได้รับอิสรภาพ และพยายามเรียกร้องสิ่งนี้ให้กับเพื่อนร่วมแผ่นดินคนอื่น ๆ ด้วย ไม่ว่าหนทางความเป็นไปได้จะริบหรี่แค่ไหนก็ตาม
    "เราต้องใส่ใจเรื่องระบอบการปกครองให้น้อยลง แล้วสนใจความเป็นอยู่ของผู้คนที่ถูกลืมเหล่านี้ให้มากขึ้น เพราะมีเพียงพวกเราที่จะทำให้เขามีตัวตนขึ้นมาได้" เธอกล่าว
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สามประตู นายยู Weing-ampol ได้แบ่งปัน อัพเดตสถานะ ของ Science News Of ASTV-Manager

    ชอบๆ อยากถ่ายรูปทางช้างเผือกบ้างจัง!!!

    มาจับช้างให้นิ่ง...ให้กล้องวิ่งตาม
    โดย ศุภฤกษ์ คฤหานนท์ 20 ตุลาคม 2557 16:34 น.

    [​IMG]
    @ตัวอย่างภาพถ่ายทางช้างเผือกบนขาตั้งกล้องแบบตามดาว โดยการถ่ายภาพด้วยกัน 2 ภาพ คือภาพแรกเป็นการถ่ายภาพในส่วนของวิวทิวทัศน์บริเวณฉากหน้าด้วยขาตั้งกล้องแบบนิ่งอยู่กับที่ จากนั้นตามด้วยการถ่ายภาพที่ 2 ด้วยการแทรกตามวัตถุท้องฟ้า แล้วนำภาพทั้งสองมารวมกัน (ภาพโดย : ศุภฤกษ์ คฤหานนท์ / Camera : Canon 5D Mark ll / Lens : Canon EF 16-35mm. / Focal length : 16mm. / Aperture : f/2.8 / ISO : 1000 / Exposure : 182s)

    สำหรับช่วงนี้ก็เข้าสู่ฤดูหนาวกันแล้วนะครับ และก็ถือได้ว่าเป็นช่วงปลายฝนต้นหนาว ท้องฟ้าในช่วงนี้ต้องขอบอกว่าจะใสเคลียร์แบบสุดๆ ซึ่งเป็นโอกาสทองของการถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ก็ว่าได้ และหลายก็คนมักเข้าใจว่า จะไม่สามารถถ่ายภาพทางช้างเผือกได้แล้ว แต่ในทางกลับกัน ส่วนตัวผมถือว่าเป็นช่วงที่ดีช่วงหนึ่งเลยทีเดียว เพราะเราจะสามารถถ่ายภาพใจกลางทางช้างเผือกได้ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ไม่ต้องอดตาหลับขับตานอนเหมือนช่วงก่อน ดังนั้นสำหรับคอลัมน์นี้ก็ยังคงเป็นเทคนิคและเรื่องราวเกี่ยวกับทางช้างเผือกอีกรูปแบบหนึ่ง หวังว่าจะยังไม่เบื่อกันนะครับ

    ในการถ่ายภาพทางช้างเผือกนั้นก็มีหลากหลายเทคนิควิธการ ซึ่งผมก็ได้แนะนำไปในคอลัมน์ก่อนๆแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการหาตำแหน่งของใจกลางทางช้างเผือก เทคนิคการโฟกัสดาวในเวลากลางคืน เวลาในการเปิดกหน้ากล้องที่เหมาะสม (Rule of 400/600) การปิดกันสั่นและระบบออโต้โฟกัส หรือแม้แต่การตั้งค่ากล้องต่างๆ แต่สำหรับคอลัมน์นี้เราจะมา “จับช้างให้อยู่หมัด โดยมัดมันไว้กับขาตามดาว” ใช้แล้วครับสิ่งที่ผมพูดถึงคือ การถ่ายภาพทางช้างเผือกแบบตามดาวนั้นเอง แต่เทคนิคและวิธีการจะเป็นอย่างไร ตามได้ในรายละเอียดดังนี้ครับ

    การสังเกตแนวทางช้างเผือกในช่วงเดือนตุลาคม

    [​IMG]
    @ตำแหน่งแนวทางช้างเผือกในช่วงหัวค่ำ ของเดือนตุลาคมตั้งแต่เวลา 19.00 น. ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะสามารถสังเกตเห็นได้หลังจากดวงอาทิตย์ตกลับขอบฟ้าไปแล้ว


    ในช่วงนี้ก็ถือได้ว่าใกล้ถึงปลายทางของการไล่ล่าทางช้างเผือกกันแล้ว เนื่องจากแนวทางช้างเผือกบริเวณใจกลางนั้น จะเริ่มสังเกตเห็นได้ในช่วงหัวค่ำทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และในช่วงดึกก็จะคล้อยต่ำลง และตกลับขอบฟ้าไปในเวลาประมาณ 22.00 น. ซึ่งเป็นไปตามกฏการเคลื่อนที่ของโลกนั้นเอง ซึ่งอย่างที่เราทราบกันดีว่า ในส่วนของใจกลางทางช้างเผือก (Galactic Center) นั้นจะอยู่ตรงบริเวณระหว่างกลุ่มดาวแมงป่องกับกลุ่มดาวคนยิงธนู และเมื่อเข้าใกล้เดือนพฤศจิกายน มากเท่าไหร่ ดวงอาทิตย์ก็จะเคลื่อนเข้ามาใกล้กับกลุ่มดาวแมงป่องหรือกลุ่มดาวราศีพิจิก มากขึ้นเท่านั้น และเมื่อเข้าสู่กลางเดือนพฤศจิกายน เมื่อไหร่ก็ถือว่าเป็นการสิ้นสุดการล่าทางช้างเผือก ต้องรอไปอีกจนถึงเดือน กุมภาพันธ์ของอีกปีจึงจะเริ่มถ่ายได้อีกครั้งครับ

    เทคนิคและวิธีการ
    สำหรับเทคนิคและวิธีการถ่ายภาพทางช้างเผือกแบบตามดาวนั้น จริงๆ แล้วมันก็คือหลักการ การถ่ายภาพทางดาราศาสตร์ด้วยขาตั้งกล้องแบบตามดาวทั่วไปนั่นเอง แต่วิธีการอาจแตกต่างกับการถ่ายภาพแบบ Deep Sky Object อยู่บ้าง โดยการถ่ายภาพด้วยกัน 2 ภาพ คือภาพแรกเป็นการถ่ายภาพในส่วนของวิวทิวทัศน์บริเวณฉากหน้า โดยยังไม่มีการแทรกตามดาวแบบนิ่งอยู่กับที่ จากนั้นตามด้วยการถ่ายภาพที่ 2 ด้วยการเปิดมอเตอร์ให้อุปกรณ์ตามดาวแทรกตามแนวใจกลางทางช้างเผือก แล้วจึงนำภาพทั้งสองมารวมกัน

    [​IMG]

    จากภาพตัวอย่างด้านบน เป็นภาพถ่ายทางช้างเผือกแบบ Composite โดยภาพแรก (ซ้ายบน) เป็นภาพที่ถ่ายเพื่อเก็บฉากหน้าแบบนิ่งอยู่กับที่ ซึ่งจะเห็นว่าเมื่อถ่ายด้วยเวลานานๆ ดาวจะยืดเป็นเส้น และต่อด้วยการถ่ายภพาที่สอง (บนขวา) เป็นการถ่าย โดยให้อุปกรณ์ตามดาวแทรกตามแนวใจกลางทางช้างเผือก และขั้นตอนสุดท้ายนำภาพทั้งสองมารวมกันโดยลบดาวพื้นหลังที่ยืดของภาพแรกออกแล้วนำมารวมกับภาพที่สอง จะได้ดังภาพตัวอย่าง

    ด้วยวิธีการดังกล่าว ทำให้เราสามารถถ่ายภาพของฉากหน้าได้ใสเคลียร์ที่ ISO ต่ำ โดยไม่ต้องใส่ใจกับดาวพื้นหลังที่ยืด และสามารถถ่ายภาพทางช้างเผือกแบบตามดาวด้วย ISO ที่ต่ำเช่นกัน และเปิดหน้ากล้องได้นานตามต้องการ ทำให้ได้ Signal to Noise ที่ดี มีความยืดหยุ่นในการดึงรายละเอียดและสีสันของแนวทางช้างเผือกได้ง่ายและดีมากขึ้น ทำให้ใครที่ใช้กล้องที่ไม่สามารถดัน ISO สูงๆได้ หันมาใช้วิธีการนี้ได้ก็ทำให้ภาพที่ดุเดือนเช่นกัน

    วิธีการที่ผมเล่าให้ฟังนี้ นักถ่ายภาพท้องฟ้ามุมกว้างของหอดูดาวต่างประเทศก็ใช้วิธีการนี้กันทั้งนั้นครับ เนื่องจากวิธีการถ่ายภาพแบบตามดาวจะทำให้เราสามารถถ่ายภาพของวัตถุท้องฟ้าได้เวลาที่นานตามที่ต้องการ โดยไม่ทำให้ดาวยืดเป็นเส้นนั้นเองครับ ซึ่งผมจะขอสรุปเป็นข้อๆ เพื่อให้ง่ายแก่การทำความเข้าใจดังนี้ครับ

    [​IMG]

    @ตัวอย่างการใช้เทคนิคการถ่ายภาพบนขาตามดาวแบบพกกา ของนักถ่ายภาพของหออดูดาวต่างประเทศ โดยในภาพช่างภาพกำลังทำการ Polar Alignment ก่อนการถ่ายภาพด้วยอุปกรณ์ตามดาวแบบพกพายี่ห้อ Vixen polarie star tracker

    1. ควรไปถึงสถานที่ถ่ายภาพก่อนฟ้ามืด และทำการตั้งขาตั้งกล้องแบบตามดาวในตำแหน่งของขาที่ชี้ไปยังขั้วเหนือท้องฟ้าคร่าวๆ เพื่อความสะดวกในการทำ Polar Alignment หลังจากเห็นดาวเหนือ

    *** การทำ Polar Alignment คือการตั้งขาตั้งกล้องโดยให้ฐานตามดาวชี้ไปยังตำแหน่งของขั้วเหนือท้องฟ้าอย่างถูกต้อง โดยวิธีการใช้ดาวเหนือ เป็นดาวอ้างอิง เนื่องจากดาวทุกดวงบนท้องฟ้าจะเคลื่อนที่หมุนรอบแกนอ้างอิงนี้ ดั้งนั้นในการถ่ายภาพนั้นเราต้องพยายามปรับขาตามดาวให้ Align กับขั้วหมุนของท้องฟ้าเพื่อให้ขาตามดาวเลียนแบบการหมุนของท้องฟ้าให้ถูกต้องที่สุด***

    [​IMG]

    @การทำ Polar Alignment ของอุปกรณ์ตามดาวแบบพกพา Barn-door Tracker โดยให้แกนหมุนชี้ไปยังตำแหน่งดาวเหนือ ซึ่งใช้เป็นจุดอ้างอิงบนท้องฟ้า

    ตัวอย่างการทำ Polar Alignment ของอุปกรณ์ตามดาวแบบพกพา “ส่วนตัวผมเองก็มักจะเลือกใช้ Barn-door Tracker เนื่องจากใช้ง่ายสะดวกและรวดเร็วมากในการทำ Polar Alignment รวมทั้งการใช้ Laser Pointer ในการชี้และปรับตำแหน่งแกนหมุนของอุปกรณ์ตามดาว” ซึ่งในการตั้งขาตั้งกล้องแบบตามดาวนั้น เราต้องปรับให้แกนหมุนของอุปกรณ์ชี้ไปยังตำแหน่งขั้วเหนือท้องฟ้า โดยอุปกรณ์ตามดาวในการถ่ายภาพด้วยเลนส์มุมกว้าง เราจะสามารถใช้ดาวเหนือ (Polaris) เป็นจุดอ้างอิง ได้เลยครับ

    จากภาพจะเห็นว่าผมใช้ กลุ่มดาวค้างคาว (Cassiopeia) ช่วยหาตำแหน่งของดาวเหนือ ซึ่งกลุ่มดาวค้างค้างในช่วงนี้ จะปรากฏให้เห็นทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ ภายหลังจากการทำ Polar Alignment เสร็จแล้ว เราก็สามารถปรับทิศทางของกล้องถ่ายภาพให้หันไปตามทิศทางที่ต้องการได้

    2. ศึกษาทิศทางของแนวทางช้างเผือกล่วงหน้า โดยอาจใช้แอพพลิเคชั่นบนมือถือ เช่น Star Chart ในการหาตำแหน่งและทิศทางของแนวใจกลางทางช้างเผือก เพื่อช่วยในการจัดองค์ประกอบภาพหรือเลือกตำแหน่งของวิวทัศน์ของฉากหน้า ก่อนที่ท้องฟ้าจะมืดสนิท

    3. หลังจากทำ Polar Alignment และติดกล้องถ่ายภาพบนขา พร้อมกับหาตำแหน่งทิศทางแนวทางช้างเผือกเสร็จแล้ว ให้ทำการถ่ายภาพของวิวทิวทัศน์สำหรับเพื่อใช้เป็นฉากหน้าไว้ก่อน ด้วยการให้กล้องอยู่นิ่งกับที่ (ยังไม่มีการแทร็คตามดาว) ซึ่งช่วงที่ท้องฟ้ายังไม่มืดสนิทนั้น จะทำให้เราเก็บแสงฉากหน้าได้ดีใสเคลียร์ โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงแสงดาวที่จะยืดแต่อย่างใด

    4. เมื่อถ่ายภาพฉากหน้า (วิวทิวทัศน์) เสร็จแล้ว ก็อาจรอเวลาเพื่อให้ท้องฟ้ามืดสนิทจนเห็นแนวทางช้างเผือกได้ชัดเจน และอยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ จึงเริ่มเปิดระบบตามดาวของอุปกรณ์ และถ่ายภาพแนวทางช้างเผือกด้วยค่า ISO ที่ต่ำๆ และด้วยเวลาการเปิดหน้ากล้องที่นานขึ้นตามต้องการ

    ***เทคนิคที่ผมใช้ขาตามดาวแบบพกพาทั่วไป ปกติขาแบบนี้มักจะมีความคลาดเคลื่อนที่เฟืองบ้างในช่วงแรกๆ ของการเปิดมอเตอร์ ดั้งนั้นผมมักจะเปิดมอเตอร์ให้หมุนไปสัก 10 วินาที เพื่อให้เฟืองขบกันสนิทก่อน จึงจะเริ่มลั่นชัตเตอร์ เพื่อความนิ่งและลดความคลาดเคลื่อนในการถ่ายภาพ***

    5. การตั้งค่ากล้องถ่ายภาพโดยการเปิดหน้ากล้องเป็นเวลานาน หลายๆนาทีนั้น ควรเปิดระบบ Long Exposure Noise Reduction เพื่อช่วยในการลดสัญญาณรบกวนร่วมด้วยเสมอ

    6. ค่าความไวแสง ISO ไม่มีค่าตายตัวครับ แต่ส่วนตัวผมสำหรับท้องฟ้าที่มืดสนิท และใสเคลียร์ผมมักใช้ค่า ISO ที่ 1000 และถ่ายด้วยเวลาเปิดหน้ากล้องประมาณ 3 นาที หรือหากต้องการถ่ายนานขึ้น ก็สามารถลด ISO อีก ก็จะทำให้ภาพที่ใสเคลียร์มีสัญญาณรบกวนที่ต่ำลงอีกด้วย ซึ่งค่านี้ไม่มีค่าตายตัวครับ ขึ้นกับสภาพท้องฟ้าของสถานที่นั้นๆ ต้องลองปรับดูหลังกล้องเองครับ

    [​IMG]

    @ ปัจจุบันอุปกรณ์ตามดาวแบบพกพากำลังเป็นที่นิยมของนักถ่ายภาพดาราศาสตร์แนว Skyscape กันอย่างแพร่หลาย โดยสำหรับยี่ห้อที่ผมเคยเห็นมีขายในไทย โดยมีตัวแทนจำหน่ายน่าจะเป็นยี่ห้อ Vixen Polarie Star Tracker กับ iOptron SkyTracker (แต่ Barn-door Tracker ไม่มีขายนะครับต้องทำเอง) ส่วนยี่ห้ออื่นๆผมไม่แน่ใจนะครับ ต้องลองหาดูในอินเทอร์เน็ตกันดูครับ ซึ่งเท่าที่ผมใช้มาอุปกรณ์แต่ละยี่ห้อก็จะมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป และราคาก็ต่างกันด้วยครับ แต่หลักการใช้งานของทุกยี่ห้อก็ใช้เหมือนกันคือ การตั้งให้แกนหมุนของอุปกรณ์เล็งไปยังดาวเหนือทั้งสิ้น ซึ่งผมจะขออธิบายข้อดีข้อเสียของเจ้าอุปกรณ์เหล่านี้ในคอลัมน์ต่อๆ ไปครับ

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยูเอ็นเผย!!! เจ้าหน้าที่ขององค์กร เสียชีวิตจากอีโบลาเป็นคนที่ 3 แล้ว!!
    21-10-2014 13:19 คอลัมน์ : ทวีปแอฟริกา / ต่างประเทศ

    [​IMG]

    ยูเอ็นเผย!!! เจ้าหน้าที่ขององค์กร เสียชีวิตจากอีโบลาเป็นคนที่ 3 แล้ว!!
    เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติในเซียร์ราลีโอน เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลาเป็นคนที่ 3 แล้ว หลังจากถูกกักตัวตั้งแต่เมื่อสัปดาห์ก่อน

    วันนี้(21 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ได้แถลงว่า เจ้าหน้าที่ขององค์กรที่ทำงานอยู่ในเซียร์ราลีโอน เสียชีวิตจากเชื้ออีโบลาแล้ว เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

    จากรายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตเป็นคนขับรถของสำนักงานยูเอ็นในเซียร์ร่าลีโอน โดยเขาถูกกักตัวตั้งแต่วันอังคาร์ที่ผ่านมา(14 ต.ค.) หลังจากที่ภรรยาของเขาแสดงอาการเหมือนผู้ติดเชื้ออีโบลา ซึ่งในขณะนี้ ภรรยาของเขายังคงรักษาตัวอยู่

    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่แพทย์ยูเอ็นชาวซูดานได้เสียชีวิตจากการติดเชื้อในไลบีเรียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำให้ล่าสุด มีเจ้าหน้าที่ยูเอ็นเสียชีวิตไปแล้วรวม 3 คน

    ขณะเดียวกัน จากรายงานขององค์การอนามัยโลก ระบุว่า ล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลาแล้วเกือบ 4,600 คน และได้รับเชื้อรวมแล้วเกือบ 10,000 รายแล้ว โดยส่วนใหญ่อยู่ในแอฟริกาตะวันตก

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โดนเละ!!! WHO ถูกตำหนิ หลังดำเนินการเรื่องอีโบลา ล่าช้า!!
    21-10-2014 10:55 คอลัมน์ : ทวีปแอฟริกา / ต่างประเทศ

    [​IMG]

    โดนเละ!!! WHO ถูกตำหนิ หลังดำเนินการเรื่องอีโบลา ล่าช้า!!
    WHO ถูกวิพากวิจารณ์หนักจากนานาชาติ ถึงการไม่เตรียมพร้อมรับมือการระบาดของเชื้ออีโบลาที่กำลังระบาดหนักในแอฟริกาตะวันตก

    วันนี้(21 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ถูกนานาชาติวิจารณ์อย่างหนักถึงมาตรการในการรับมือการแพร่ระบาดของเชื้ออีโบลาที่ล่าช้า

    การระบาดของเชื้ออีโบลาในครั้งนี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนธันวาคมปีก่อนที่ประเทศกีนี แต่ WHO เริ่มจะเข้ามาดูแลและตังหน่วยงานรับผิดชอบในช่วงเดือนมีนาคมของปีนี้ ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า ปัญหาได้รับการละเลยเป็นเวลาถึง 4 เดือน

    องค์การอนามัยโลกไม่ได้คาดถึงถึงการระบาดในประเทศแถบแอฟริกาตะวันตกมาก่อน แม้ว่าจะได้รับการรายงานจากทีมแพทย์ในท้องที่ว่า กีนีกำลังพบกับการระบาดของเชื้ออีโบลาที่ค่อนข้างรุนแรง แต่ตัวแทนของ WHO ได้ออกมาตอบโต้ว่า เจ้าหน้าที่แพทย์ ว่าปล่อยข่าวเกินจริง เพราะเป็นการระบาดในบางพื้นที่เท่านั้น ซึ่งทำให้การระบาดบานปลายจนมาเป็นเช่นในปัจจุบัน

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ampaipan Wachaporn

    [​IMG]
    Cr:ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    วันที่ 21 ต.ค. 57 อีโบลา โรคที่ มีอะไรที่แฝงลึกกว่าโรคติดต่อระบาด
    ประธานาธิบดีจอห์น มาฮามา แห่งกาน่า เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากนานาชาติและขบวนรถลำเลียงเวชภัณฑ์ทยอยเข้าถึงพื้นที่ที่เชื้อไวรัสอีโบลา แพร่ระบาดใน 3 ประเทศของแอฟริกาตะวันตกคือ กินี ไลบีเรีย และเซียร์ร่า ลีโอน
    ผู้นำเขาร้องขอให้หน่วยงานต่างๆ ทำงานให้มีความสอดคล้องกันเพื่อหลีกเลี่ยงความซ้ำซ้อน จากที่โรคระบาดทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 4,500 ศพ โดยผู้ติดเชื้อนี้ประมาณร้อยละ 70 คือผู้เสียชีวิต

    [​IMG]

    ซึ่งในเวลาเดียวกัน โครงการอาหารโลกของสหประชาชาติ เริ่มการลำเลียงส่งถุงยังชีพให้หลายพื้นที่ของทั้ง 3 ประเทศเช่นกัน นอกไปจากการแจกจ่ายเสื้อคลุมและอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ

    [​IMG]

    มีเรื่องน่าแปลก เกี่ยวกับการระบาดของโรคอีโบลา เท่าที่รวบรวมได้ คือ
    1. ปีนี้เป็นปีที่อุณภูมิเฉลี่ยของโลก ในทุกพื้นที่สูงที่สุดในรอบ 134 ปี โดยเฉพาะพื้นที่แอฟริกาตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นพื้นที่อุณภูมิสูงที่สุดกว่าพื้นที่อื่น ?..การระบาดของโรคในขณะนี้อยู่ตรงนั้น ??
    2. อเมริกา และ EU ถอยกรูด ชลอการโจมตีทางอากาศกลุ่ม IS , ไม่สนใจยุ่งเรื่องยูเครน , เลิกแหย่รัสเซีย , ลดโทนออกหน้าม็อบฮ่องกงแหย่จีน , มะกันเอง หยุดการส่งซีรั่มอีโบลาช่วยเหลือประเทศอื่น
    พฤติกรรมของชาติตะวันตกนี้ เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มติดอาวุธ IS ขู่ว่าจะใช้ "อีโบล่าพลีชีพ" บุกตะลุยดินแดน อเมริกา และ EU เพราะต้องไม่ลืมว่า กลุ่ม IS ก็คือ "พลเมืองของชาติตะวันตกเอง" จำนวนมาก ซึ่งสามารถทำได้อย่างง่ายดายมาก แค่คนติดเชื้อนี้ นั่งรถไฟฟ้าสาธารณะในเมืองใหญ่ทุกเมือง ไปๆ มาๆ..แค่นี้ก็โกลาหลแล้ว ?
    3. รัสเซีย , จีน ที่เป็นโลกตะวันออก ต่างบอกว่าผลิตยารักษาโรคนี้ได้ แต่ไม่ให้ ?? จะเอาไว้ใช้ในประเทศตนเอง เพราะหากสูตรยาหลุดออกไป นั่นหมายถึงถึงความพ่ายแพ้ หากต่อสู้กันด้วยสงครามชีวภาพ..ทำนองเอ็งอย่ามายุ่งกับข้า !!
    4. คนแอฟริกา ประเทศอื่นที่ใกล้เคียงการระบาด หนีตายอพยพ บินเข้าไปยุโรป กันหลายล้านคน ? เพราะประเทศยุโรปบางประเทศ เช่น เบลเยี่ยม เป็นศูนย์กลางการบินมาจากแอฟริกา ?
    5. การระบาดของโรคในครั้งนี้ ยาวนานถึงกว่า 7 เดือน ต่างจาก 20 ครั้งที่ผ่านมาจากปี 2519 ที่ระยะเวลาการระบาดเพียงไม่เกินครั้งละ 1 เดือนเท่านั้น..ธรรมชาติของโรคเดียวกัน แม้ไวรัสต่างสายพันธ์ต่างกันแบบนี้ได้เชียวหรือ ?

    [​IMG]

    ยังมีเรื่องแปลกๆ ปริศนาเกี่ยวกับอีโบล่า อีกมากมายหลายอย่าง ที่ดูเหมือนว่าโรคนี้ มีคนกำลังฝืน บิดเบี้ยวธรรมชาติ ด้วยวัตถุประสงค์ใดสักอย่าง
    @ เสธ น้ำเงิน4
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เผยพิชิตความอ้วน ด้วยศาสตร์แพทย์แผนจีน
    รายงานพิเศษ

    [​IMG]

    ความอ้วนเป็นโรคชนิดหนึ่ง ตามหลักศาสตร์แพทย์แผนจีนเกิดจากปัญหาภายในตัวเอง คือม้ามที่เป็นธาตุดิน เผาผลาญไม่ดี และระบบขับถ่ายของเสียทำงานบกพร่อง ทางการแพทย์แผนจีนบ่งบอกว่า มีไขมันคอเลสเตอรอล เสมหะ ซีสต์ เนื้องอก รวมเรียกว่า "ถาน" แปลว่า มี "เสมหะ" สะสมอยู่ข้างใน ทำให้ม้ามอ่อนแอ

    [​IMG]

    คณาเวชคลินิกการแพทย์แผนไทยอธิบายว่า "ถาน" เกิดจากไฟหรือธาตุหยางในกระเพาะพร่อง สาเหตุเกิดจากพฤติกรรมการทานอาหารเป็นหลัก อาทิ รับประทานของเย็น เช่น ไอศกรีม น้ำแข็ง น้ำเย็น ของหวาน ของมันๆ เป็นประจำ

    [​IMG]

    รวมถึงถูกความเย็นกระทบบริเวณท้อง ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานบกพร่อง จนอาจกระทบถึงระบบม้าม และในเมื่อกระเพาะอาหารพร่อง จึงไม่มีแรงขับดันของเสียลง สู่ลำไส้ ทำให้ตกค้างกลายเป็นเสมหะ เมื่อสะสมมากขึ้น ก็ไปอุดตันในอวัยวะต่างๆ กลายเป็นโรคต่างๆ ตามมาได้

    ถานแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.ถานที่มองเห็นสัมผัสได้ หรือมองเห็นเสมหะที่ถูกขับออกมา 2.ถานที่มองไม่เห็น หรือเป็นเสมหะที่เกาะอยู่ในอวัยวะข้างใน ถ้าไปเกาะที่มดลูกนานๆ จะกลายเป็นเนื้องอก ถ้าไปเกาะที่ตับจะเปลี่ยนเป็นไขมัน

    ถ้าจะพิชิตความอ้วน ต้องทำให้ระบบม้ามแข็งแรง เผาผลาญได้ดี และสามารถขับสิ่งสกปรกออกมาเป็นอุจจาระ


    วิธีการรักษาโรคอ้วนตามหลักศาสตร์แพทย์แผนจีน เริ่มต้นจากการตรวจร่างกาย เพื่อดูว่าม้ามอ่อนแอหรือพร่อง จากนั้นแพทย์จะรักษาตามอาการหนัก เบา ซึ่งขึ้นอยู่กับความอ้วนของแต่ละบุคคล ถ้าอ้วนมากแพทย์จีนจะใช้วิธีฝังเข็ม ควบคู่กับยาสมุนไพรเพื่อปรับความสมดุล และลดไขมัน เสริมให้ม้ามแข็งแรง เป็นต้น

    ตัวยาสมุนไพรจีนที่เข้มข้น อาทิ ซานจา มีสรรพคุณช่วยย่อยขจัดอาหารตกค้าง, ปั๊วแห่ ช่วยขับชื้นละลายเสมหะ กดชี่ย้อนปรับกระเพาะให้สมดุล ระงับอาเจียน สลายเสมหะก้อน, แปะไก้จี่ ช่วยขจัดน้ำส่วนเกิน เสมหะใส และเสมหะที่คั่งใต้ผิวหนังได้ดี อีกทั้งยุบบวม,

    ก๊วกเหม่งจี้ เพิ่มความชุ่มชื้นในลำไส้ ช่วยระบบขับถ่าย ล้างไขมัน ในตับ บำรุงสายตา, หวยหมั่วยิ้ง ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ลำไส้ และโสม ช่วยบำรุงหยวนชี่ บำรุงม้าม ใช้รักษาชี่ม้ามพร่องอ่อนแอ ซึ่งการใส่โสมเป็นการเพิ่มพลังชี่ ป้องกันความอ่อนเพลียจากการ ขับถ่าย และเพิ่มภูมิต้านทาน

    สมุนไพรทั้งหมด จึงมีสรรพคุณเพิ่มประสิทธิภาพการย่อย ขจัดของเสีย ลดคอเลสเตอรอล เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการขับพิษ เสมหะ หรือของเสียออกจากร่างกาย หรือลดน้ำหนัก หากรับประทานติดต่อกัน 1 อาทิตย์ น้ำหนักจะลดลง 1 กิโลกรัม และไม่ทำให้อ่อนเพลีย

    หากผู้ใดสนใจพิชิตความอ้วนด้วยหลักศาสตร์แพทย์แผนจีน สอบถามได้ที่ Guasha, Cupping, คณาเวชคลินิก,คลินิก,กัวซา, ครอบแก้ว,

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แผ่นดินไหว 6.0 เขย่าภาคเหนือเอกวาดอร์ ยังไม่มีความเสียหาย
    โดย ไทยรัฐออนไลน์ 21 ต.ค. 2557 03:56

    [​IMG]

    เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรง 6.0 ที่เมืองทางเหนือของประเทศเอกวาดอร์ แต่ในเบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหาย...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างข้อมูลจากสำนักสำรวจธรณีวิทยาแห่งชาติสหรัฐฯ (ยูเอสจีเอส) ว่า เกิดแผ่นดินไหวความรุนแรง 6.0 แมกนิจูด ที่เมืองแซง กาบริเอล ทางเหนือของประเทศเอกวาดอร์ เมื่อวันจันทร์เวลา 14:33 น. (02:33 น. วันอังคาร ตามเวลาไทย) จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวอยู่ที่ความลึก 10 กม. ห่างจากตัวเมืองแซง กาบริเอล ไปทางใต้เพียง 9 กม.

    จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวยังอยู่ไม่ไกลกรุงกีโต โดยอยู่ห่างไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 113 กม. และส่งแรงสั่นสะเทือนไปถึงเมืองปาสโต เมืองเอกของเขตนาริญโญ่ ของประเทศโคลอมเบียด้วย แต่ไม่เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน

    แผ่นดินไหว 6.0 เขย่าภาคเหนือเอกวาดอร์ ยังไม่มีความเสียหาย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐเพิ่มความเข้มงวดการแต่งกายเจ้าหน้าที่สู้อีโบลา

    [​IMG]

    รัฐบาลสหรัฐออกมาตรการแต่งกายใหม่ให้กับเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องทำงานใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลา โดยให้การแต่งกายต้องมิดชิดที่สุดและห้ามเผยผิวหนังหรือเส้นผมเด็ดขาด

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/xly861KvUYQ?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    วันอังคาร 21 ตุลาคม 2557 เวลา 10:46 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ว่าศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐ ( ซีดีซี ) ออกแถลงการณ์เรื่องการเพิ่มความเคร่งครัดให้กับระเบียบปฏิบัติของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในประเทศในกระณีต้องใกล้ชิดและคลุกคลีกับผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลา โดยเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องเข้ารับการฝึกอบรมการใช้อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย และเมื่อถึงเวลาปฏิบัติจริงต้องสวมใส่อุปกรณ์เหล่านี้อย่างถูกต้อง ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจุดเฝ้าระวังที่สำคัญ คือต้องไม่มีการเผยผิวหนังและเส้นผมเด็ดขาด

    นพ.ทอม ฟรีเดน ผู้อำนวยการของซีดีซี กล่าวหลังแถลงการณ์ฉบับล่าสุดได้รับการเผยแพร่ออกไป แสดงความหวังว่า จะไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดติดเชื้อไวรัสมรณะเพิ่มอีก หลังซีดีซีออกมาตรการเพิ่มความเข้มงวดในการแต่งกายของเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลา ซึ่งต่างจากกฎระเบียบขององค์การอนามัยโลก ( ฮู ) เล็กน้อย ตรงที่เจ้าหน้าที่ของฮูต้องสวมเครื่องป้องกันอย่างมิดชิดเช่นกัน แต่สามารถเผยผิวหนังบางส่วนได้

    แถลงการณ์ของซีดีดซีได้รับการเผยแพร่ออกมาหลังสหรัฐพบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลาในประเทศแล้ว 3 คน คนแรกเป็นชายชาวไลบีเรีย คือนายโธมัส เอริค ดันแคน แสดงอาการเมื่อปลายเดือนก.ย.ก่อนเสียชีวิตเมื่อต้นเดือนต.ค. ขณะที่อีก 2 คนเป็นพยาบาลประจำโรงพยาบาลเทกซัส เฮลธ์ เพรสบิเทียเรียน ในเมืองดัลลัส รัฐเทกซัส สถานที่รักษาตัวของดันแคน

    สหรัฐเพิ่มความเข้มงวดการแต่งกายเจ้าหน้าที่สู้อีโบลา | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กลุ่มไอเอสโจมตีดาวกระจายในซีเรีย-อิรัก

    [​IMG]

    กลุ่มนักรบหัวรุนแรงไอเอสปฏิบัติการโจมตีดาวกระจายต่อเป้าหมายหลายแห่งทั้งในซีเรียและอิรัก โดยเน้นฐานที่มั่นของชาวเคิร์ดเป็นหลัก

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/wjfvnLKWWgw?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    วันอังคาร 21 ตุลาคม 2557 เวลา 11:58 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองโคบานี ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ว่ากลุ่มรัฐอิสลาม ( ไอเอส ) ปฏิบัติการโจมตีดาวกระจายถล่มเป้าหมายราว 15 แห่งในเมืองโคาบานี ทางเหนือสุดของซีเรียเมื่อวันจันทร์ โดยส่วนใหญ่เน้นโจมตีฐานที่มั่นของกองกำลังป้องกันตนเองชาวเคิร์ด ขณะที่ในเวลาเดียวกันมีรายงกลุ่มไอเอสกระจายกำลังโจมตีเป้าหมายหลายแห่งบริเวณเขื่อนโมซูล แหล่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่สุดของอิรัก ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศ และภูเขาซินจาร์ที่อยู่ในภูมิภาคเดียวกันด้วย

    อย่างไรก็ตาม ความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากปฏิบัติการครั้งล่าสุดของกลุ่มไอเอส ซึ่งต้องการยึดครองทั้งเมืองโคบานีและเขื่อนโมซูลยังไม่แน่ชัดนัก ขณะที่กลุ่มนักรบชาวเคิร์ดยืนยันสามารถต้านทานการรุรานของกลุ่มไอเอสในครั้งนี้ได้ และสังหารนักรบหัวรุนแรงไปได้หลายศพ กระนั้นกลุ่มชาวพื้นเมืองยืนยันสหรัฐแะลพันธมิตรควรให้ความช่วยเหลือมากกว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ

    ในวันเดียวกัน เครื่องบินลำเลียงของสหรัฐหลายลำบินโปรยถุงยังชีพจำนวนมากให้กับชาวเคิร์ดในเมืองโคบานี ซึ่งภายในบรรจุทั้งอาหาร ยารักษาโรค ข้าวของจำเป็นสำหรับการยังชีพ และอาวุธที่รวมถึงกระสุนปืน ขณะที่รัฐบาลตุรกีเผยเตรียมอนุญาตให้กลุ่มนักรบชาวเคิร์ดข้ามแดนเข้าไปให้ความช่วยเหลือกลุ่มนักรบชาวเคิร์ดในเมืองโคบานีต่อสู้กับกลุ่มไอเอส

    กลุ่มไอเอสโจมตีดาวกระจายในซีเรีย-อิรัก | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,646
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความรุนแรงคร่าชีวิตเด็ก 5 นาทีต่อคน

    [​IMG]

    รายงานขององค์การยูนิเซฟเผย ปัจจุบันอัตราการเสียชีวิตจากเหตุรุนแรงของเด็กในโลกสูงถึง 5 นาทีต่อคน และจะสูงขึ้นกว่านี้หากทุกฝ่ายไม่สนใจอย่างจริงจัง

    <iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/W7eXzUfH730?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    วันอังคาร 21 ตุลาคม 2557 เวลา 14:03 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ว่ากองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ ( ยูนิเซฟ ) ออกรายงานเมื่อวันจันทร์ในชื่อ "ชิลเดร้น อิน แดนเจอร์ : แอ็ก ทู เอนด์ ไวออเลินซ์ อะเกนสต์ ชิลเดร้น" ระบุปัจจุบันมีเพียง 41 ประเทศในโลกเท่านั้นที่มีการออกกฎหมายห้ามใช้ความรุนแรงต่อเด็ก และมีบทลงโทษอย่างจริงจังต่อผู้กระทำผิด

    ทั้งนี้ หากในอนาคตประชาคมโลกไม่ร่วมกันให้ความใส่ใจในเรื่องนี้อย่างจริงจังภายในปี 2573 ในอนาคตตั้งแต่ปีหน้าจะมีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เสียชีวิตจากความรุนแรงวันละ 345 คน ขณะที่อัตราในปัจจุบันอยู่ที่ทุก 5 นาทีจะมีเด็กในโลก 1 คนเสียชีวิตจากเหตุรุนแรง โดยเป็นที่น่าสังเกตด้วยว่า ราวร้อยละ 75 ของเหตุการณ์รุนแรง 75 กลับไม่ได้เกิดขึ้นในประเทศที่กำลังอยู่ในภาวะสงครามหรืออยู่ในสภาวะขัดแย้ง แต่เป็นประเทศชั้นนำหรือประเทศกำลังพัฒนาทั่วไป ซึ่งต่างกำลังเผชิญกับความเหลื่อมล้ำทางสัมคมในหลายด้าน

    อย่างไรก็ตาม อัตราการเสียชีวิตจากเหตุรุนแรงของเด็กในภูมิภาคที่ด้อยพัฒนามักอยู่ในเกณฑ์สูง อาทิ อัตราการเสียชีวิตจากเหตุรนุแรงของเด็กในลาตินอเมริกาสูงกว่าเด็กในอังกฤษถึง 70 เท่า นอกจากนี้ เหตุรุนแรงยังส่งผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจ ซึ่งอาจกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้ในระยะยาว

    ความรุนแรงคร่าชีวิตเด็ก 5 นาทีต่อคน | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     

แชร์หน้านี้

Loading...