เรื่องเด่น EBOLA: อนามัยโลกผวาผู้เสียชีวิตจากอีโบลาพุ่ง 1 หมื่นคน/สัปดาห์ หากสกัดการระบาดไม่ได้

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย itsame, 15 ตุลาคม 2014.

  1. Pizzaa

    Pizzaa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +66

    ที่มา FB : Somkiat Osotsapa

    เคยโพส เมื่อเดือนสิงหาคม เรื่อง ปฏิบัติการป้องกันอีโบล่าของประเทศไทย
    ที่นี่ครับ http://palungjit.org/threads/คนพลังจิตกับการรับมือภัยพิบัติ-อีโบล่า.536068/page-3#post9191788
     
  2. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    ว่าด้วยเรื่องมนุษย์บนโลกนี้มีเยอะเกินไป ทรัพยากรบนโลกนี้มีไม่พอเพียง
    ไม่มีการควบคุมการเกิดของคนในประเทศโซนโลกที่สาม การศึกษาให้ความรู้ยังไม่พอเพียง มนุษย์เกิดมาอย่างมดปลวก แทะกินโลกใบนี้สะพรุน ชาวผิวดำลงเรือแบบผิดกฎหมายข้ามทะเลมาฝั่งยุโรปทุกวัน ดังที่เป็นข่าวเรือล่มจมทะเลกันบ่อยๆ ปารีสเต็มไปด้วยคนผิวดำที่เข้าเมืองแบบผิดกฎหมาย

    ณ วันนึงมีคนที่คิดว่าเป็นพระเจ้าคิดจะกำหนดบทลงโทษมนุษย์โดยการลดประชากรของโลก โดยการสมรู้ร่วมคิดของประเทศมหาอำนาจใหญ่ ประเทศใหญ่ที่กำลังล้มละลายคนตกงานเต็มท้องถนน คนพวกนี้ได้รับเงินค่าเลี้ยงชีพเนื่องจากไม่มีงานทำ รัฐไม่มีเงินจ่าย จะทำยังไง ปัญหาระดับชาติ จึงจำเป็นต้องตัดหนี้เสีย หรือ หนี้สูญ ดังนั้นการลดประชากรเพื่อจัดระเบียบโลกใหม่จึงต้องมีขึ้น (จะช้าหรือจะเร็วก็ต้องมีสิ่งนี้เกิดขึ้นแน่นอน) ณ วันนี้ตัวเร่งการล้มละลายกำลังกระชั้นชิดเข้ามา
    แล้วทำไมต้องเป็นประเทศที่สาม ???? เพราะอัตราการเกิดของประเทศที่สามเป็นแบบ 2x2 ส่วนของยุโรปเป็น 2/2

    Ebola ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เป็นการตายเพื่อเกิดใหม่ในสิ่งที่คนที่ทำตัวเป็นพระเจ้าคิดว่าดีกว่า


    ถ้าหากว่าโรคนี้ระบาดไปทั่วโลก คนที่จะรอดคือพวกที่เก็บตัวอยู่แต่เรือกสวนไร่นาของตนเอง ไม่ออกไปพบปะผู้คนหรือเข้าชุมชน พอเพียงในระดับชุมชนเล็กๆ แปลว่าโอกาสเสี่ยงรับเชื้อโรคแทบจะไม่มีเลย ยุคข้าวยากหมากแพงกำลังจะมาเยือนแล้วนั่นเอง ใครมีเรือกสวนไร่นาก็จะไม่อดตาย ตนเป็นที่พึ่งของตนเองนั่นแล
     
  3. itsame

    itsame เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    240
    ค่าพลัง:
    +287
    คุณ apinya17 หมายถึงเกี่ยวกับ ILLUMINATI หรือไม่ครับ

    [​IMG]
     
  4. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,288
    ค่าพลัง:
    +12,620
    คนที่คิดแทนพระเจ้า หรือพระเจ้าคิดเองก็แล้วแต่
    ถ้ามีจิตเมตตาสักนิสส์ การมองเห็นผู้คนในโลกที่สามเป็นเหมือน
    มดปลวก ที่มาแย่งกินแย่งใช้ทรัพยากรบนโลก
    เลยหาทางกำจัดด้วยอาวุธชีวภาพเพื่อสร้างสมดุลย์
    ระหว่างทรัพยากรกับคน คงจะไม่คิดทำวิธีนี้???
    จิตของพระเจ้าเป็นผู้สร้างเป็นผู้ให้ความมีความเป็น
    คือ
    เมตตาอย่างเดียวต่างหาก
    ใครว่าเป็นผู้ทำลาย!!!?
    จึงเหลือแต่"คน"ที่ไปแอบอ้าง โดยอ้างว่านเป็นพระบัญชา
    ของพระเจ้า ให้จัดสมดุลย์โลก

    ดังนั้น คนพวกนั้นกลุ่มนั้น
    ในสายตาชาวพุทธพวกเขาคือ
    คนไม่ใช่คน และในมุมมองชาวพุทธเช่นเดียวกันพวกเขาเป็น
    ตัวแทนของชาชาติไหน??หรือสัญชาติใดๆ
    สะท้อนความเห็นแก่ตัว และอำมหิตเกินคน
    ของชนเผ่าพวกเขา
    และไม่มีความเป็นนักกีฬา ที่ทำผิดแล้วโยนให้ผิดให้พระเจ้า

    น่ากลัวว่าชนชาติที่กระทำ หรือร่วมกันกระทำ
    จัดสมดุลย์โดยวิธีการทำลานคนให้ตาย
    แบบยกรังเหมือน
    มดเหมือนปลวก
    แค่เหตุผลว่าถูกแย่งกินแย่งใช้ทรัพยากร
    จากคนในโลกที่3 จึงต้องกำจัดออกไปเพื่อให้เหลือพอสมดุลย์
    คนพวกนี้แม้จะเจริญทางวัตถุและครอบครอง
    วิทยาการเลิศล้ำขนาดไหน เพียงใด
    ก็ตามที
    ลุงแมวคิดว่า
    ไม่นานพวกเขาต้องพากันเข้าสู่ทางตันยกชาติ
    ยกประเทศ เช่นเดียวกัน
     
  5. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    เหตุการณ์จริง

    <iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/ZBbsnyqlihs" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

    <iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/xUBpoyKxArU?list=PL4CGYNsoW2iChy_z6LyrMMETAx3BslA4X" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2014
  6. ชัยบวร

    ชัยบวร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2011
    โพสต์:
    928
    ค่าพลัง:
    +1,642
    อืม...น่าคิดนะครับ แต่ขอบอกอะไรเพิ่มเติมสักนิด เรื่องอีโบลานี้เป็นโรคที่สามารถบอกได้เลยว่าเป็นโรคยุคใหม่ แม้จะมีมาก่อนแล้วก็ตาม ยังมีโรคยุคใหม่อีกหลายโรคที่ยัง....ยัง.... และอาจจะมา นอกจากนี้ยังมีโรคยุคเก่าที่คนคิดว่าชนะมันแล้วก็อาจจะกลับมาอีก รวมทั้งภาวะการดื้อยาของเชื้อโรคและการกลายพันธ์ ทั้งหมดแค่เริ่มต้นเท่านัั้นครับ เป็นไปตามเสี้ยวหนึ่งของพุทธทำนาย
     
  7. นางไพจิตต์

    นางไพจิตต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +956
    ..................
    ใช่เลย...ยังมีได้อีกในตะกูลไวรัส..มีพี่น้องเยอะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Virus.doc
      ขนาดไฟล์:
      406 KB
      เปิดดู:
      93
  8. นางไพจิตต์

    นางไพจิตต์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    320
    ค่าพลัง:
    +956
    เป็นอีกหนึ่งที่รุนแรงยิ่งกว่าเรียกมาร์บวร์ก ฟีเวอร์...ตามลิงค์นี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Virus.doc
      ขนาดไฟล์:
      406 KB
      เปิดดู:
      115
  9. raphiphan

    raphiphan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +426
    เรียกร้องให้เลิกกินเนื้อสัตว์ป่าหลังอีโบลาระบาด

    บีบีซีรายงานว่า หลังจากอีโบลาระบาด มีเสียงเรียกร้องให้ผู้คนในแอฟริการะงับการบริโภคเนื้อสัตว์ป่าซึ่งเป็นที่มาของเชื้ออีโบลา แต่นักวิจัยเชื่อว่าสาเหตุที่ทำให้อีโบลาระบาดหนักมากกว่าในระยะหลังคือการติดเชื้อจากคนสู่คน

    เนื้อสัตว์ป่าที่ว่านี้มีทั้งเนื้อของลิงชิมแปนซี กอริลลา ค้างคาว และลิงประเภทอื่นๆ แม้แต่งู หนู ซึ่งในบางพื้นที่ที่ห่างไกล เนื้อสัตว์เหล่านี้เป็นอาหารสำคัญสำหรับชาวบ้าน นักวิจัยยอมรับกันว่า สัตว์หลายอย่างมีเชื้อโรคต่างๆอยู่ในตัว เช่นค้างคาว ทั้งขี้ค้างคาวรวมทั้งอาหารเช่นผลไม้ที่มันกินจะติดเชื้อจากมันไปด้วย และค้างคาวสามารถส่งต่อเชื้อโรคเหล่านี้ไปยังสัตว์ชนิดอื่นได้ เช่นลิงซึ่งอาจจะเจ็บป่วยล้มตายได้เช่นกัน ขณะที่ค้างคาวจะไม่เป็นอะไร

    อันที่จริงนักวิจัยบอกว่า คนเราสามารถรับไวรัสมาจากสัตว์พวกนี้ได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านอะไร แม้ว่าการติดเชื้อจากสัตว์โดยตรงทีเดียวนั้นไม่ง่าย เพราะว่าไวรัสจะต้องสามารถเข้าไปฝังตัวในเซลล์ที่มันจะขยายตัวได้เป็นอันดับแรก คนที่จะติดเชื้อจากสัตว์ป่าได้น่าจะเป็นคนที่ไปล่าหรือไม่ก็แล่เนื้อสัตว์นั้นๆ ไม่ใช่คนที่กินของที่สุกแล้ว แต่เนื่องจากชุมชนเหล่านี้เป็นชุมชนที่กินเนื้อสัตว์ค่อนข้างมาก การพูดถึงการห้ามล่าและกินเนื้อสัตว์เพื่อระงับการระบาดของอีโบลาจึงเป็นเรื่องเป็นไปได้ยากมาก อีกอย่างหนึ่ง คนที่ล่าและกินเนื้อสัตว์ป่ามักเชื่อว่ามันเป็นอาหารที่มีคุณภาพและเป็นเรื่องยากที่จะเปลี่ยนความคิดของพวกเขา ที่กานา มีการล่าและกินเนื้อค้าวคาวกันปีละกว่าแสนตัวแต่ละปี

    ขณะเดียวกันข่าวก็ระบุว่าไม่ใช่ว่าคนที่กินเนื้อค้างคาวแล้วจะติดเชื้ออีโบลาทุกคน เพียงแต่ว่าเนื่องจากค้างคาวและสัตว์ป่ามีเชื้ออีโบลา จึงมีผู้เชื่อกันว่าสัตว์ป่าเหล่านี้เองเป็นที่มาของการระาดของอีโบลา สื่อหลายรายรายงานว่า การระบาดของอีโบลาเป็นจังหวะอันดีที่ทางการในประเทศในอาฟริกาจะห้ามการล่าและกินเนื้อสัตว์ป่า บางรายตั้งคำถามว่า ทั้งๆที่อีโบลาระบาดขนาดหนักเช่นนี้เหตุใดผู้คนจึงยังล่าและกินเนื้อสัตว์ป่ากันอยู่ แต่นักวิจัยบอกว่า การระบาดของอีโบลาไม่ได้มาจากการกินเนื้อสัตว์มากขนาดนั้น แต่มันเริ่มต้นและมาจากกรณีเดียว คือการระบาดจากค้างคาวไปยังเด็กสองขวบคนหนึ่งหมู่บ้านในประเทศกีนิ ครอบครัวของเด็กคนนั้นไปล่าค้างคาวมาสองชนิด ซึ่งทั้งสองชนิดมีอีโบลา แต่นักวิจัยบอกว่านั่นเป็นกรณีเริ่มต้น การระบาดหลังจากนั้นเป็นการติดต่อจากคนสู่คน ซึ่งเป็นวิธีการระบาดที่รุนแรงยิ่งกว่า

    From BBC Thai : https://www.facebook.com/BBCThai/ph...071940947174/1569051089982592/?type=1&theater
     
  10. raphiphan

    raphiphan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +426
    ข้อมูลเกี่ยวกับโรค ที่ควรทราบเพื่อป้องกันการตื่นตระหนก และทราบวิธีการป้องกันครับ

    โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา-มาร์บูร์ก
    (EBOLA-MARBURG VIRAL DISEA
    SES)

    1. ลักษณะโรค : เป็นโรคติดเชื้อไวรัสชนิดเฉียบพลันรุนแรงที่มีอัตราป่วยตายสูง เกิดจากเชื้อไวรัสอีโบลา (Ebolavirus)และเชื้อไวรัสมาร์บูร์ก (Marburgvirus)

    2. ระบาดวิทยา : สถานการณ์ทั่วโลก : การระบาดของโรคพบการระบาดครั้งแรกในปี พ.ศ. 2519 ที่จังหวัดแห่งหนึ่งในซูดาน 800 กิโลเมตรจากแซร์อีร์ (ปัจจุบัน เป็นประเทศคองโก) ตรวจพบเชื้อครั้งแรกในผู้ป่วยที่ติดเชื้อจากการชำแหละลิงชิมแปนซี ที่ไอวอรี่โค้ด ปี พ.ศ. 2547

    สถานการณ์โรคในประเทศไทย : โรคติดเชื้อไวรัสอีโบลา-มาร์บูร์ก เป็นกลุ่มโรคไข้แล้วมีเลือดออกชนิดหนึ่งอัตราการแพร่ระบาดสูงและ เร็ว และอัตราค่อนข้างสูง(50-90%) ในประเทศไทย ยังไม่มีข้อมูลการป่วยด้วยโรคนี้และโรคนี้ยังไม่อยู่ในระบบเฝ้าระวัง อย่างไรก็ดี การท่องเที่ยวของประเทศไทย ก็อาจเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งที่เชื้ออาจมาจากพื้นที่ระบาดของโรคเข้ามาในประเทศมาได้ ดังนั้น อาจต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษสำหรับกลุ่มประชากรบางกลุ่ม

    3. อาการของโรค : ไข้สูงทันทีทันใด อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ และปวดศีรษะมาก ตามด้วยอาการเจ็บคอ อาเจียนท้องเสีย และมีผื่นนูนแดงตามตัว (maculopapular rash) ในรายที่รุนแรงหรือในบางรายที่เสียชีวิต อาการเลือดออกง่ายมัก
    เกิดร่วมกับภาวะตับถูกทำลาย ไตวายอาการทางระบบประสาทส่วนกลาง และช็อก โดยอวัยวะหลายระบบเสื่อมหน้าที่

    4. ระยะฟักตัวของโรค : ประมาณ 2 - 21 วัน

    5. การวินิจฉัยโรค : อาจใช้วิธี RT-PCR หรือการตรวจหาแอนติเจนโดยวิธี ELISA ในตัวอย่างเลือด นํ้าเหลือง หรือจากอวัยวะ การวินิจฉัยมักจะเป็นการตรวจผสมผสานระหว่างการตรวจหาแอนติเจนหรือ RNA ร่วมกับหาแอนติบอดี IgM หรือ IgG (การตรวจพบแอนติบอดี IgM แสดงให้เห็นว่าเพิ่งพบการติดเชื้อไม่นานมานี้) การแยกเชื้อไวรัสโดยการเพาะเชื้อหรือการเลี้ยงในหนูตะเภาต้องทำให้ในห้องทดลองที่มีการป้องกันอันตรายระดับสูงสุด (BSL-4) การตรวจด้วยวิธี ELISA จะใช้เพื่อตรวจหาความเฉพาะเจาะจงกับแอนติเจนชนิด IgM และ IgGในนํ้าเหลือง (serum) ของผู้ป่วย บางครั้งอาจตรวจพบเชื้อได้จากการส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์อิเล็กตรอนในชื้นเนื้อจากตับ ม้าม ผิวหนัง หรืออวัยวะอื่นๆ การชันสูตรศพโดยการตรวจชื้นเนื้อ (Formalin-fi xed skin biopsy)หรือการผ่าศพพิสูจน์ด้วยการตรวจหาภูมิคุ้มกันหรือองค์ประกอบทางเคมี
    ของเซลล์และเนื้อเยื่อสามารถทำได้การตรวจหาเชื้อด้วยวิธี IFA เพื่อหาแอนติบอดี มักทำให้แปลผลผิดพลาด โดยเฉพาะในการตรวจน้ำเหลืองเพื่อดูการติดเชื้อในอดีต เนื่องจากโรคนี้มีอันตรายต่อมนุษย์สูงมากดังนั้นการตรวจและศึกษาทางห้องปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับโรคนี้ กระทำได้เฉพาะในระบบป้องกันอันตรายที่อาจเกิดแกผู่ป้ ฏิบัติงาน รวมทั้งชุมชนในระดับสูงสุด (BSLระดับ 4)

    6. การรักษา : ไม่มีการรักษาจำเพาะ ในรายที่มีอาการรุนแรงต้องการการดูแลอย่างใกล้ชิด ให้สารนํ้าอย่างเพียงพอ

    7. การแพร่ติดต่อโรค : การติดเชื้อไวรัสอีโบลาของคน เกิดขึ้นจากสาเหตุ ดังนี้

    1. ในทวีปแอฟริกา เกิดขณะจัดการหรือชำแหละสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ตายในป่าที่มีฝนตกชุก
    2. สำหรับไวรัสอีโบลา สายพันธุ์เรสตัน จะพบการติดต่อสู่คน โดยการสัมผัสโดยตรงกับเลือดหรือเครื่องในของลิง cynomolgus ที่ติดเชื้อ และยังไม่พบรายงานจากการติดเชื้อผ่านทางละอองฝอยที่ลอยในอากาศ การติดต่อจากคนสู่คนเกิดจากการสัมผัสโดยตรงกับเลือดที่ติดเชื้อ สารคัดหลั่ง อวัยวะ หรือนํ้าอสุจิ นอกจากนี้การติดเชื้อในโรงพยาบาลก็พบได้บ่อยผ่านทางเข็มและหลอดฉีดยาที่ปนเปื้อนเชื้อ

    8. มาตรการป้องกันโรค : ยังไม่มีวัคซีนหรือการรักษาแบบเฉพาะเจาะจงสำหรับทั้งไวรัสอีโบลาหรือมาร์บูร์กควรป้องกันการมีเพศสัมพันธ์หลังการเจ็บป่วยเป็นเวลา 3 เดือน หรือจนกระทั่งตรวจไม่พบไวรัสในนํ้าอสุจิ

    9. มาตรการควบคุมการระบาด : แยกผู้ป่วยสงสัยจากผู้ป่วยอื่นๆ และเฝ้าระวังผู้สัมผัสใกล้ชิด ใช้มาตรการป้องกันการติดเชื้อในสถานพยาบาลอย่างเข้มงวด รวมถึงดำเนินการให้ความรู้แก่ชุมชนอย่างเหมาะสมและรวดเร็ว

    เอกสารอ้างอิง:

    1. Heymann DL., Editor, Control of Communicable Diseases Manual 19th Edition, American Association of
    Public Health, 2008.
    2. Mandell GL, Bennett JE, Dolin R. Mandell, Douglas, and Bennett’s, editor. Principles and Practice of
    Infectious Diseases. 7th ed. Vol.2. Philadelphia (USA): Elsevier; 2010 : p.2260.
     
  11. teakone

    teakone Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +49
    อยากรู้จังว่ายาแอนติบอดีรักษาโรคอีโบล่า ที่แพทย์ศิริราชคิดค้นขึ้นตอนนี้ ไปถึงขั้นไหนแล้ว
    ความจริงนี่ถือว่าเป็นความหวังหนึ่งของโลกเลยนะนี่
     
  12. gun2555

    gun2555 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    701
    ค่าพลัง:
    +1,205
    ไหนๆ ก็ทราบแล้วว่า อีโบล่า มีพื้นมาจากสัตว์ป่า กรมตอไม้ที่เมืองไทยทำไมไม่ใช้เหตุการณ์นี้โฆษณา เพื่อการอนุรักษ์สัตว์ป่าในประเทศไทย จำกันได้ช่วงหนึ่ง คนกินนก ป่ากัน นกป่าแทบสูญพันธุ์ พอ มี H1N1-H7N9-H5N1 คนไม่ค่อยกล้ากินนกทำให้ประชากรนกเพิ่มขึ้นมาถึงปัจจุบันสร้างความสมดุลในระบบธรรมชาติได้
     
  13. คนไม่รุ้

    คนไม่รุ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +116
    thaxx
     
  14. Apinya17

    Apinya17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    775
    ค่าพลัง:
    +3,023
    สถาณะการณ์ Ebola ไฟลามทุ่ง ตอนนี้เกาหลีเหนือตื่นตัว เตรียมปิดประเทศ สกัดกั้น ebola

    ต่อไปฉากใหญ่จะเริ่มที่อเมริกาละ (แผนการลดต้นทุนหนี้สูญ)
     
  15. ZOMZARN

    ZOMZARN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    218
    ค่าพลัง:
    +950
    ผู้ป่วยที่รอดชีวิตจากโรคไข้เลือดออกอีโบล่ามีสาเหตุมาจากระบบภูมิคุ้มกันของเขาที่แข็งแรงและสมบูรณ์เพียงพอ

    การป้องกันและการบำบัดรักษาโรคไข้เลือดออกอีโบล่า

    1. เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและเอ็นไซม์ของร่างกายให้สูง-สมบูรณ์อยู่เสมอ

    1.1 กินอาหารครบ 5 หมู่อย่างพอเหมาะ โดยเฉพาะผักสด ผลไม้สด

    1.2 ออกกำลังกายแบบแอโรบิค (ได้รับออกซิเจนสม่ำเสมออย่างน้อย 20 นาที) เช่น จ๊อกกิ้ง ถีบจักรยาน ว่ายน้ำ เต้นแอโรบิค

    1.3 พักผ่อนให้เพียงพอวันละ 7-8 ชม.

    1.4 ฝึกสมาธิ ช่วยให้จิตใจ สมอง ระบบประสาทผ่อนคลาย

    1.5 กินอาหารเสริมบางชนิดที่จะช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้สูงอยู่เสมอ และสามารถสร้างเซลล์ภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะ natural killer cells ได้สูงถึง 437% และสร้างได้อย่างรวดเร็วภายใน 36 ชม.หากร่างกายได้รับ antigen ชนิดใหม่ เพราะยังไม่มีวัคซีนที่จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันสำหรับไวรัสชนิดนี้ และการสร้างภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนต้องใช้เวลาหลายวัน นอกจากนี้ยังสามารถช่วยในการสร้างเกร็ดเลือดใหม่ให้เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็วมาก เพราะโรคไข้เลือดออกอีโบล่าจะทำให้เกร็ดเลือดต่ำ เลือดจึงไม่แข็งตัวและไหลออกไม่หยุด

    อัตราการเพิ่ม natural killer cells ให้แก่ร่างกายของอาหารชนิดต่าง ๆ มีดังนี้
    น้ำลูกยอ = น้ำว่านหางจรเข้ = 15%, bovine colostrum = 26%, ถั่งเฉ้า (cordyceps) = 28%, เห็ดหลินจือ = 42%, ดอกโคนสีม่วง (echinacia) = 43%, betaglucan = spirulina = 48%, IP6 = 49%, สารสกัดจากผลมังคุด (BIM 100) = 76%

    1.6 กินอาหารที่มีเอ็นไซม์ให้มากเพียงพอ เอ็นไซม์มีมากในผักสด ผลไม้สด เนื้อดิบ (มีอันตราย และมีความเสี่ยงต่อพยาธิและเชื้อโรคหลายชนิด) และต้องกินในปริมาณมากจนอาจกินไม่ไหว อาหารที่สุกแล้วหรือที่ผ่านความร้อนเกิน 45 C เอ็นไซม์จะตายหมด
    สามารถกินน้ำหมักป้าเช็งเพื่อเสริมเอ็นไซม์ได้ แต่ควรผลิตเองเพราะสามารถควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยได้ ปัญหาที่ต้องระวังคือภาชนะที่ใช้หมัก ควรเป็นโหลแก้วใบใหญ่ซึ่งมีราคาสูงแต่ปลอดภัยและคุ้มค่า สามารถใช้ได้ยาวนาน หรือหากใช้ภาชนะพลาสติคก็ต้องเป็นพลาสติคชนิดดีที่เฉื่อยต่อการทำปฏิกริยาทางเคมีกับกรดหรือด่างและไม่ควรมีสี หากใช้พลาสติคคุณภาพไม่ดีจะได้รับสารพิษ dioxin (สารก่อมะเร็งร้ายแรง) จากพลาสติค หรืออาจใช้ภาชนะเซรามิคที่ปราศจากสี (สารตะกั่ว)
    หรือสามารถกินอาหารเสริมที่สกัดเอ็นไซม์ออกมาแล้วทดแทนได้
    เหตุที่ต้องกินเอ็นไซม์เสริมก็เพราะมนุษย์ทุกคนที่อายุเกิน 27 ปี ร่างกายจะลดการผลิตเอ็นไซม์ลงค่อนข้างมาก และเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นก็จะยิ่งลดการผลิตเอ็นไซม์ลงไปอีก ทำให้ร่างกายมีเอ็นไซม์ไม่เพียงพอ ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง ทั้งโรคที่ติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ เช่น หวัดเรื้อรัง ท้องเดินบ่อย ความดันสูง หัวใจ เบาหวาน ไตวาย มะเร็ง สะเก็ดเงิน รูมาตอยด์ SLE ภูมิแพ้ ไมเกรน ฯลฯ
    กองทัพสหรัฐได้กำหนดไว้ในแผนยุทธศาสตร์ว่า จะใช้เอ็นไซม์ในการปกป้องชีวิตทหารและพลเมืองชาวอเมริกาจากอาวุธชีวภาพ

    "แพทย์ที่เก่งที่สุดในโลก คือ เซลล์ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย และยาที่ดีที่สุดในโลก คือ เอ็นไซม์"

    1.7 กินวิตามินและเกลือแร่เสริมให้เพียงพอ เพราะทั้งสองอย่างนี้ คือ co-enzyme (สิ่งที่ทำงานร่วมกับเอ็นไซม์)

    2. ดื่มน้ำด่างอย่างสม่ำเสมอทุกวัน เพราะไวรัสทุกชนิดจะสามารถติดต่อ ฝังตัวใน host cells และขยายตัวไปยังเซลล์อื่น ๆ ได้ก็ต้องอาศัยสภาวะแวดล้อมที่มีค่าความเป็นกรดอย่างอ่อน ๆ เพราะค่า pH ภายในตัวของมัน = 6.0 (สภาวะกรด) ดังนั้น หากมันจะฝังตัวเข้าไปใน cellular membranes ของ host cells ของเนื้อเยื่อใด ๆ ได้ สภาวะแวดล้อมในบริเวณนั้นก็ต้องมีค่า pH น้อยกว่า 7 (pH = 7 เป็นค่ากลาง / neutral) ด้วย หากเราสามารถทำให้สภาวะแวดล้อมภายในร่างกายมีค่า pH = 8.0 (สภาวะด่าง) ได้ ไวรัสก็ไม่สามารถติดต่อ ฝังตัว และขยายตัวไปยังเซลล์อื่น ๆ ได้
    ด้วยเหตุผลข้อเท็จจริงเรื่องความสมดุลของสภาวะกรด-ด่างภายในร่างกายซึ่งมีอิทธิพลต่อการติดเชื้อไวรัสและการเกิดโรคดังกล่าวแล้ว จึงควรดื่มน้ำด่างที่มีค่า pH = 8.5-9.0 อยู่เสมอทุก ๆ วัน และห้ามดื่มน้ำอัดลมอย่างเด็ดขาด เพราะน้ำอัดลมทุกชนิดโดยเฉพาะน้ำโซดา (ที่กำลังฮิตติดอันดับอยู่ในขณะนี้) มีค่า pH = 3.0 มีค่าความเป็นกรดสูง มีแต่โทษ และยังเอื้อต่อการก่อโรคมะเร็งและช่วยให้เซลล์มะเร็งขยายตัวได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย เพราะเซลล์มะเร็งก็ชอบสภาวะแวดล้อมที่เป็นกรดเช่นเดียวกับไวรัส และตัวเซลล์มะเร็งเองก็มีค่า pH = 6.0 เท่ากับไวรัส น้ำด่างจึงช่วยป้องกันและช่วยบำบัดรักษาโรคมะเร็งด้วย
    บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์หลายแห่งในโลกที่มีผู้คนนิยมตักเอามาดื่มเพื่อบำบัดรักษาโรค หากตรวจวัดด้วยกรรมวิธีทางวิทยาศาสตร์จะพบว่า มีค่า pH อยู่ระหว่าง 9.0-11.0

    3. อาบแดดบ้างตามโอกาส ถ้าสามารถอาบได้สัปดาห์ละ 1-2 ครั้งได้จะดีมาก อย่าอาบตอนที่แสงแดดร้อนแรงเกินไป จะได้รับอันตรายจากรังสี UV และรังสี near infrared @ mid infrared ในแสงแดดมีรังสี far infrared (Far Infrared Ray / FIR) ที่ให้คุณต่อร่างกาย สามารถทะลุทะลวงลึกเข้าไปภายในร่างกายได้มาก FIR ไม่เผาไหม้ผิวหนัง สามารถบำบัดรักษาโรคได้หลากหลายชนิด ช่วยให้สุขภาพแข็งแรง นอกจากนี้ ในแสงแดดยังมีพลังงาน scalar และพลังจักรวาลที่เข้มข้นรวมอยู่ด้วย ซึ่งล้วนแต่ให้คุณ โดยพลังงาน scalar สามารถช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกายได้ 149%

    4. ผู้ที่เคยเรียน-ฝึก พลังจักรวาล-พลังปราณ-พลังชี่-เรกิ ควรปฏิบัติสมาธิส่งพลังเข้ากระแสเลือดที่จุดชีพจรครั้งละประมาณ 5-15 นาทีทุกวัน เพราะเลือดจะเข้าถึงทุกเซลล์ในร่างกาย เช่น กรณีถูกยุงกัดหลายแห่ง หากส่งพลังเข้ากระแสเลือดแล้ว จะหายคันเร็วกว่าปกติหลายเท่า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤศจิกายน 2014
  16. comfx22

    comfx22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2011
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +234
    โรคนี้ยังอยู่แค่ระดับ 4 สูงสุดคือระดับ 5 ข่าวว่าเชื้อมันแรงจึงติดต่อได้ง่าย คิดว่าต่อไปถ้าเชื้อโรคที่ร้ายแรงระบาดมากกว่านี้ อาจเป็นเพราะการควบคุมกันเองของเชื้อโรคตามธรรมชาติ หรือระบบนิเวศของมันอาจเสียสมดุลไป เพราะกิจกรรมต่างๆของมนุษย์ และสภาพอากาศโลกทีผิดปรกติไป
     
  17. Spammer

    Spammer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    976
    ค่าพลัง:
    +3,498

แชร์หน้านี้

Loading...