กุมารเทพ กุมารทอง ต่างกันอย่างไรคะ

กุมารทองมีสองแบบคือกุมารเทพ และกุมารพราย
กุมารเทพ ไม่หิว ไม่ต้องเลี้ยงอาหารเกือบทุกวันซึ่งต่างจากกุมารพราย ส่วนใหญ่ที่คนเลี้ยงกันจะเป็นกุมารพราย ซึ่งปกติจะเลี้ยงเหมือนลูกจึงไม่ค่อยมีโทษ ไว้ช่วยงาน หรือค้าขาย เฝ้าบ้าน คุ้มครอง บ้างก็เลี้ยงเพราะสงสาร (พวกนี้ตายเพราะโดนทำแท้งมา) บางคนหามาเลี้ยงเอง แต่บางคนก็มีมาเข้าฝันขออยู่ด้วย ปกติไม่ได้มาร้ายหรอก ต้องการอาหารกับบุญกุศล บ้างก็มาช่วยทำให้รวยก็มีแต่ขึ้นกับว่ามีฤทธิ์มากน้อยแค่ไหน

ว่ากันว่าถ้ากุมารกินอาหารก่อนจะทำให้ไม่ค่อยเชื่อฟัง

ไม่จำเป็นต้องมีร่าง แต่ถ้ามีกุมารต้องคอยเฝ้า

 

ขอบคุณมากคะ เรื่องพวกนี้เป็นอจินไตย จะรู้ด้วยตัวเองอธิบายไม่ได้ คะนอกจากคนที่เขามีประสบการณ์ เขาก็จะเข้าใจ เราคิดดีทำดี เขาก็ให้แต่สิ่งดีๆ จริงด้วยคะ

 

เรื่องเทวดาประจำตัว จะมีหรือไม่มีก็แล้วแต่คนเชื่อ ของพวกนี้เป็นอจินไตย ใครที่เขาสามรถพบได้หรือสื่อสารได้เขาก็คงไม่มาเล่าให้ฟังกันหรอกคะ แต่ก่อนก็ไม่เคยเชื่อ คงไม่มีแต่เดี่ยวนี้เชื่อไม่ลบหลู่หรอกคะ

 

เด่วจะเล่าให้ฟังนะครับ แบบรวมๆ..ในสมัยก่อนเราคงเคยได้ยินเรื่องกุมารทอง
ที่เค้าเอาศพทารกมาทำพอๆจะนึกออกเนาะ.หรือจะเรียกกุมารพราย
อะไรก็สุดแล้วจะเรียกครับ...ประมาณว่าเอาวิญญานเด็ก
ที่เคยอยู่ในร่างกายนั้นมาเป็นหลักในการทำ ประมาณว่าไม่ค่อยดีแน่ๆเลย
ออกแนวๆหมอผีแห๋มๆร่วมด้วย เพราะว่าสามารถเอาวิญญานต่างๆ
ที่ไม่ใช่เด็กมายัดใส่ตุ๊กตาเด็กก็ได้ แต่พวกที่ไม่ใช่เด็กเราจะเรียกว่า
ภูตหรืออสูรกายครับ.....ก็เลยคิดว่า จะดีหรือที่จะเป็นมิตรด้วย
หรือไม่ควรเป็นมิตรด้วยดี...และต่อมาในปัจจุบันเราก็มาได้ยินคำว่า
กุมารเทพ..แต่ก็ไหงๆ แต่งตัวเหมือนกุมารทองอีก..และกุมารเทพที่เค้าๆเรียกกัน
ที่แต่งตัวเหมือนกุมารทองนี้ผู้ที่ปลุกเสกเป็นระดับห่มเหลืองมีชื่อซะด้วยซิ..
คือถ้าเป็นห่มเหลืองที่ไม่มีคุณสมบัติจริงๆ.ยังไงก็ทำเป็นกุมารไม่ได้ครับ.
แต่ก็มีฆารวาสที่พอจะทำได้ก็ยังคงจะพอหาได้ยากอยู่..
และในความจำได้ของเรา คำว่าเทพน่าจะเป็นบรุษหนุ่มรูปงามหาที่ติไม่ได้อีก..
แล้วตกลงเป็นอย่างไรน้อ แล้วพราย ภูติ อสูรกาย ก็เป็นอะไรที่ออกแนว
น่ากลัวเล็กน้อยและออกไปทางอกุศล..และกุมารทอง กุมารเทพเนี่ย
จะเอาอะไรเป็นตัววัดจะเอาอะไรเป็นหลักสังเกตุ.
.และก็ยังตามด้วยข้อสงสัยว่า กุมารทองและกุมารเทพ
เนี่ยทำไมบางคนถึงมีประสบการณ์ในการที่เค้ามาขออยู่ร่วมด้วย..ปัญหาก็คือ
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นกุมารทองหรือกุมารเทพ.และควรจะทำอย่างไรเพื่อให้อยู่
ร่วมกันได้ในสภาพสังคมปัจจุบันนี้ครับ..
ที่นี้หลักสังเกตุนะครับ..ที่แตกต่างกันเลยจะมี ๓ เรื่องหลักๆครับ..
๑.นิสัย ๒.การกำเนิด และ ๓.ความสามารถทางจิต
นิสัยของกุมารทองจะยังมีลักษณะคล้ายๆเหมือนเด็กซนทั่วๆไปครับ..
การปรากฏตัวสามารถปรากฏได้ทุกทิศทุกทางคล้ายๆว่ายังอ่อนเรื่อง
มารยาทในการปรากฏตัวเล็กน้อยถึงมาก...
จะพอเรียกชื่อเราได้ แต่จะฟังคล้ายๆเสียงคนเรียกทั่วๆไปและเสียงไม่นิ่มนวล
ความสามารถทางจิตจะเทียบเท่าภูมิน้องๆเทวดาที่มีเขตอาศัยอยู่บริเวณ
เดียวกับโลกเรา คือก็พอมีความเป็นทิพย์ให้เราพอเข้าถึงเราได้ง่ายๆ แต่เรื่องความ
สามารถทางจิตแบบพิเศษๆจะไม่ค่อยมี แต่มีความสามารถในการช่วยป้องกัน
ได้ในระดับหนึ่ง ช่วยเหลือทางด้านการค้าขายได้ระดับหนึ่ง.แต่ถ้าถามว่าดีไหม
ตอบว่า ยังไม่ดีครับ เพราะกำลังจิตระดับนี้ยังอยู่ด้วยแรงบุญเป็นตัวหนุนหลักๆ
และยังติดสัญญาแบบทางโลกๆคือยังต้องการอาหาร เครื่องดื่ม ฯลฯ
ส่วนอีกประเภทที่เค้าบอกว่าเป็นกุมารทอง แต่ยัดพวกภูตหรืออสูรกายพอมีฤิทธิ์
ลงไป สังเกตุง่ายๆถ้าเราบูชา มันจะโน้มให้จิตใจเราออกแนวห้าวๆ ไม่ค่อยกลัวคน
ไม่ค่อยยอมคน.และมีหลักสังเกตุอีกอย่างคือ เวลาเราจะทำบุญมันมักจะโน้ม
ให้เราเป็นพวกท่ามากลีลาเยอะ ต้องแบบนั้นแบบโน้นทำนองนี้ครับ..
หรือไม่ก็เป็นคนแบบที่มีเงื่อนไขเยอะ
แม้ว่าพวกนี้จะพอมีหิริโอตัปปะบ้าง แต่ก็เป็นในระดับที่ไม่มั่นคงและ
ก็ยังสามารถให้โทษเราได้ครับถ้าหากเราขาดการดูแล
และการเปลี่ยนภพภูมิแม้ว่าเราจะมีความสามารถในการส่งบุญแค่ไหน
ก็ยังไม่เคยว่าปรากฏเปลี่ยนหนุ่มเป็นสาวอะไรนะครับ.ที่เห็นมีแต่เอา
ไปแปรเป็นโน้นเป็นนี่ เล่นซนทั่วๆไป ยกเว้นว่าพวกที่เปลี่ยนภูมิไปเลย
แต่ก็ว่าน้อยที่กลุ่มที่เปลี่ยนไปอีกรูปเลยจะกลับมาหาเจ้าของด้วยครับ.
.ถ้าเป็นไปได้แม้ว่าเราจะสัมผัสได้ แต่เราควรอุเบกขารับรู้ไว้ครับ.
เพราะกุมารทองบางกลุ่มด้วยการถูกบังคับมา เป็นเหตุให้ภูมิจิตเค้ายัง
เทาๆปนดำได้อยู่ครับ หากว่าเราดวงตก หรือกำลังใจตกจะส่งผลต่อเราได้
ครับยิ่งเป็นพวกภูติจะยิ่งหาทางแอบแทรกควบคุมจิตเรา เพื่อหวังผล
จากทุกๆบุญที่เราได้สร้างขึ้นมาครับ..
เพราะฉนั้นเป็นไปได้ก็ควรเลี่ยงครับ
และปกตินะครับกุมารทองที่เค้ามักจะมาขอ
อยู่กับคนที่พอมีสัมผัสมาก่อนแม้ว่าจะไม่ได้ฝึกสมาธิอะไรก็ตามครับ..
แต่ถ้าเป็นพวกภูติมักจะชอบมาอยู่กับคนที่ของเก่าในอดีตมาเยอะ
แต่ไม่สนใจการฝึกสร้างสติและสนเรื่องสมาธิและเดินปัญญา
แต่ว่าชอบเรื่องความสามารถพิเศษที่ทำให้ตนเองดูเหมือนว่า
เหนือมนุษย์ต่างๆจะเป็นกลุ่มที่พวกภูมิภูติจะชอบเป็นพิเศษครับ..
ส่วนพวกภูมิอสูรกายนั้น.ไม่ต้องห่วงครับถ้าเราไม่มีความสามารถ
ทางจิตในระดับที่พอใช้ฤิทธิ์อะไรบางอย่างได้แบบพวกกรรมฐานพิเศษ
กองที่โน้มไปทางฤิทธิ์ต่างๆ พวกนี้ไม่มาหาเราแน่นอน
เพราะว่าเสียเวลาเค้าครับ..

 

และโดยภาพรวมนะครับ.ถ้าเราไม่แน่ใจว่าเราจะสร้างความดีได้สม่ำเสมอหรือ
ไม่ได้ค้าขายอะไร หรือใช้ทำอะไรก็ไม่ควรไปข้องเกี่ยวครับ.
ถ้าอยากจะค้าขายบูชาเทพจะดีกว่าครับ.หรือถ้าจะให้เฝ้าขอให้ก็ทำบุญให้
เจ้าที่ๆบ้านท่านดูแลดีกว่าครับ และถ้าคิดว่าจะเอาไว้ป้องกันตัวนะครับ..
อย่าไปหวังอะไรมากเลยครับ..เคยเห็นพวกกุมารทองโดนคนพอมีอาคม
เค้าเอาไปจับเอาวิญญานไปมัดแขนมัดขาถ่วงน้ำมาแล้วเยอะแยะครับ..
ยังไงๆก็สู้การเคารพนับถือพระรัตนตรัยให้มั่นเพื่อให้จิตเราเชื่อมผ่านวัตถุ
ที่เราเรียกได้ว่าเป็นมงคล ไม่ว่าจะพระเครื่อง หรือเครื่องลางอะไรก็ตาม
ที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากครูบาร์ หรือจากห่มเหลืองที่มีชื่อไม่ได้ครับ.
กำลังจิตมันคนละระดับกันครับ...
แต่ถ้าเป็นความชอบส่วนบุคคล จะเลี้ยงไว้เพื่ออะไร
ก็สุดแล้วแต่จะพิจารณากันเองครับ
จบเรื่องกุมารทองตรงนี้ก่อนครับ..


ต่อมาขอพูดถึงอีกกลุ่มคือ กุมารเทพ เป็นกลุ่มที่สร้างร่างกาย
ที่ทำให้เราดูว่ายังเป็นเด็กครับแต่ว่านิสัยไม่ใช่เด็กครับ
ความสามารถทางจิตจะสูง คือเรียก
ได้ว่าพอมีฤิทธิ์ การส่งเสริมตัวเราจะเป็นไปตามระดับความประพฤติ
ของเราด้วยครับ..เรียกว่าถ้าคุณสร้างความดีพร้อม ทุกสิ่งทุกอย่างที่
ทำก็จะอาจราบรื่น..ไม่มีปรากฏตัวแบบรบกวนจิตใจเรา การปรากฏตัว
จิตเราจะไม่รู้สึกความกังวลและความไม่ปลอดภัย..ถ้าสามารถเห็นได้
จะปรากฏต่ำกว่าหัวไหล่เราเล็กน้อย และจะได้ยินเสียงพูดทางหูด้านขวา
และถ้าเห็นตอนยืนจะยืนนิ่งๆ ดูอวบๆมีพุงเล็กน้อย
ใบหน้าอมยิ้มและดูสุภาพ.
.การกำเนิดของกุมารเทพนั้น
สามารถกำเนิดได้จากกำลังสมาธิบวกกับบารมีของผู้ที่ทำการอฐิษฐานจิต
และความสามารถทางจิต
.เรียกว่าเป็นโอปาติกะประเภทหนึ่ง
คือกำเนิดมาแล้วเป็นอย่างนั้นเลย..และไม่ต้องไปกังวลเรื่องอาหารการกิน
เพราะไม่ติดพวกสัญญาการกินแบบชาวโลก..
เพียงส่งแต่บุญที่เราทำให้สม่ำเสมอครับ..และสามารถที่จะเปลี่ยน
สลับเข้าออกกันได้ครับ..เพราะว่าจริงๆแล้วมาจากกลุ่มที่มาสร้างบารมีแต่
มาอยู่ในรูปของสัญญาที่แสดงเป็นรูปแบบของเด็กเฉยๆครับ
และเอาจริงก็มาตามบุญบารมีของผู้ที่ทำการปลุกเสก
นั่นหละครับถ้าผู้อฐิษฐานจิตมีบารมีมาก ตลอดจนคนที่
ไหว้บูชาหมั่นอุทิศส่วนกุศลบ่อยๆ จะไม่ได้มีแค่ดวงจิตเดียวนะครับ
ในหุ่นกุมารเทพหนึ่งหุ่นครับ
..เหมือนๆกลุ่มๆที่อยู่ในวัตถุบางอย่างที่เราเชื่อว่ามีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
หรืออยู่ข้างในนั่นหละครับ..บางหุ่นมีแม้กระทั่งกลุ่มที่มีความสามารถสูงๆ
มาอยู่ก็มีครับ..อย่าง ลป.อะไรนี่หละครับ อายุ เก้าสิบต้นที่มรณภาพไปแล้ว
ที่อยู่ ปราจีนบุรี ท่านนี้อฐิษฐานจิตนอกจากจะมีกุมารเทพแล้วยังมีครุฑติดมาด้วย
และพวกนี้กำลังจิตสูงพอที่จะเรียกชื่อเล่นเราทางหูด้านขวาได้
แต่ว่าเสียงจะมีความนิ่มนวลปนสุภาพครับ..
โดยมากบุคคลที่มีกลุ่มนี้จะมาขออยู่ด้วยนั้น มักจะเป็นนักปฏิบัติ ที่พอจะสร้าง
บุญด้วยการอุทิศส่วนกุศลมาบ้าง หรือมีพื้นฐานทางจิตในเรื่องนามธรรมมาบ้าง
แต่ไม่ใช่ว่าจะเป็นคนดีอะไรมากมายหรือว่าความสามารถทางจิตสูงอะไรครับ
ต่อให้คุณขี้เหล้าเมายา แต่คุณอุทิศส่วนกุศลบ่อยๆ และจิตพอมีสัมผัสทางนาม
ธรรมได้ พวกนี้ก็ขอมาอยู่ด้วยแล้วครับ..ไม่ใช่เรื่องประหลาดอะไรครับ....
และที่เหมือนกันก็คือ ถ้ามีทั้ง ๒ กลุ่มมาวุ่นวายอะไรกับเรา เราไม่จำเป็นต้องรับครับ
แม้ว่ากุมารจะมาขออยู่กับเรา.
แต่ก็เป็นเพื่อการหนุนให้เราสร้างความดีเพิ่มเติมครับ.
ไม่ใช่ว่าจะมาเป็นเครื่องป้องกันตัวเราให้รอดปลอดภัย
จากสิ่งไม่ดีต่างๆ จากผู้ไม่ประสงค์ดีต่างๆ หรือจากภพภูมิ
ต่างๆที่เป็นมิจฉาทิฐิได้นะครับ เพราะขอบเขตความสามารถ
ทางจิตยังค่อนข้างอยู่ในวงจำกัดพื้นที่ครับพูดง่ายๆความทะลุทะลวงยังไม่สูง.
และก็ไม่ใช่ว่าจะเห็นได้ง่ายๆครับ..เพราะถ้าไม่ใช่เหตุสำคัญจริงๆ
มักจะไม่ค่อยปรากฏตัวครับ.
.ถ้าปรากฏได้บ่อยๆแบบทำให้เรารำคาญด้วย
ทำของตกแล้วเสียหายหรือ
ทำให้เรารู้สึกกลัวอย่างนี้จะเป็นกุมารทองแบบที่เล่าก่อนหน้านี้ได้
ซึ่งถ้าเราทนได้ก็สุดแล้วแต่ครับ..
และถ้าเรามีแล้วและเข้าใจว่ากุมารเทพ
มาเพื่อหนุนให้เราสร้างความดีต่อไปแล้ว...สิ่งหนึ่งที่เราจะได้ก็คือ
ถ้าหากว่าเราสามารถสร้างความดีต่อได้
และไม่สนใจกุมารเทพแล้วนั้นคือไม่ได้ยึดติดนะครับ ก็คือมีแต่ไม่ยึด
โอกาสที่เราจะมีระดับที่มีฤิทธิ์กว่านี้ เก่งกว่านี้ และเผลอๆยังช่วยสอนเราได้ด้วย
จะเพิ่มสูงมากขึ้นครับ แม้ว่าทั้งกุมารเทพและกุมารทองอาจจะมีเรื่องโชคบ้าง
ก็สุดแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคลครับ...
และสุดท้ายไม่ว่าจะเป็นกุมารเทพหรือกุมารทองนะครับ
เป็นไปได้เราอย่าไปให้ความสำคัญมากครับ เพราะเราติดยึดกับภูมิอะไรมากๆ
ภูมิจิตเราจะกลายเป็นระดับนั้นอย่างที่เราคาดไม่ถึงได้ครับ..เพราะฉนั้นควรเลือก
ที่จะยึดในสิ่งที่สูงสุดไว้ก่อน แต่เราไม่ได้แบ่งแยก เรียกว่าให้ความเคารพนับถือกันอยู่
เหมือนกับว่าเค้าก็อยู่ร่วมกับเราบนโลกใบนี้เป็นปกติครับ.เพราะเค้ามีของเค้าอยู่
ก็จะทำให้อนาคตเรา..จะมีภูมิจิตที่กำลังสูงกว่านี้ ช่วยเราได้ทุกสถาณการณ์มา
อยู่เป็นเหมือนพันธมิตรคู่กายเราได้ครับ ถ้าเรายึดมั่นนับถือในครูบาร์อาจารย์
ต่างๆที่มีชื่อตามแต่เราจะชอบท่านใดๆ..
ก็เหมือนกับว่าเรามีท่านคอยให้ความคุ้มครองนั่นหละครับ กำลังจิต บารมี
ความสามารถทางจิตและความเกรงใจที่จะได้รับจากภพภูมิมันแตกต่างกันมากๆ
กับกุมารเทพหรือกุมารทองครับ..คล้ายๆว่าเราต้องนั่งเรือข้ามไปเพื่อให้ถึง
อีกฝั่งที่ท่านๆที่พ้นแล้วท่านยืนอยู่ ก็เสมือนเรามีคนคอยพายเรือให้เรา
และก็ยังทำหน้าที่คอยป้องกันพวกที่จะมาขอขึ้นเรือกับเรา
แต่พอเราเผลอแล้วเค้าอาจจะผลักเรา
ให้ตกจากเรือได้ครับ..
ปล.ประมาณนี้หละครับ แค่เพียงแต่เล่าให้ฟังครับ

 

เพื่อนเล่าให้ฟังว่าฝันเหมือนโดนอำ นอนอยู่มีเด็ก4-5คนเข้ามาขออยู่ด้วย แต่เพื่อนไม่ให้อยู่ ไล่ให้ออกไปจากห้อง เด็กๆเหล่านั้นก็โกรธปาตุ๊กตาที่ติดตัวมาด้วยเขวี้ยงใส่ๆ เพื่อนก็โทรมาปรึกษา เราเลยบอกว่าเขาคงอยากอยู่ด้วยจริงๆแต่คงไม่ใช่กุมารทองหรอก เพราะไม่ได้สวมชุดไทย แต่เป็นชุดธรรมดา
คือว่าบอกเพื่อนไปอย่างนี้ ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกมั๊ย ก็บอกทำบุญไปให้พวกเขาก็แล้วกัน... พอมาอ่านกระทู้นี้เลยเข้าใจ โชคดีของเพื่อนที่ไม่ได้อนุญาต คงลำบากหาอะไรให้อีกเป็นแน่เลย

 

ขอบคุณคะได้ความรู้มากเลยคะ เรื่องนี้เพิ่งมีประสบการณ์มาบ้างคะเมื่อไม่นานนี้เองคะ โดนเจ้ากุมารมาล้อเล่น ให้เห็นแบบตาเนื้อเลยคะ ไม่ได้ฝันหรอกคะ เขาซนคะ ที่แรกก็ไม่รู้หรอกคะเพราะถือว่าตัวดิฉันเองไม่ได้เลี้ยงแต่มันเป็นของเพื่อนที่เสียชีวิตไปแล้วคะ และไม่รู้ด้วยว่าเพื่อนมีกุมารทองเขาเสียชีวิตไป เกือบ 30 ปีแล้วคะ พอดีไปเห็นในกล่องเก็บของสมบัติของเพื่อนเห็นมีรูปปั้นกุมารทององค์เล็กๆนอนอยู่ดิฉันก้เลยคิดว่าเป็นของเพื่อน ที่เลี้ยงเอาไว้ ก็เลยเก็บเอาไปไว้ใต้ฐานพระ แต่ก็ไม่คิดอะไร ไม่ได้ให้อะไรเขากินด้วย ก็ได้แต่ ทำบุญ และทำสมาธิ และแผ่เมตตาเท่านั้นเองคะ ดิฉันคิดว่า เขาคงอนุโมทนาบุญกับดิฉันระมังคะ ไม่ได้มาหลอกมากวนอะไรแค่มาล้อเล่นตามประสาเด็กคะถ้ารู้เสียแล้วก็ไม่กลัวคะ

 

อืมดีแล้วครับที่เข้าใจประมาณนี้
..ส่วนตัวโดยภายรวมก็คิดๆว่าไม่มีปัญหาอะไรหรอกครับ..
ที่เขียนไปก็พยายามจะสื่อให้เห็นในมุมอื่นๆบ้างๆ..เพื่อเสริมไว้ประดับความรู้
ความเข้าใจในบางมุมมองที่เราๆอาจจะมองข้ามและคาดไม่ถึงได้เท่านั้นเองครับ
เพื่อเอาไว้เป็นหลักในการสังเกตุถ้าหากว่าอนาคตใครมีโอกาสได้สัมผัสได้เจอบ้าง....
อืมมมม....ส่วนตัวพอจะทราบครับพวกบุคคลที่พอจะรู้อะไรๆอยู่แล้วและก็พอมีเรื่องพิเศษๆ
อะไรๆอยู่แบบที่กระแสคลื่นสมองมันเชื่อมกับครูบาร์อาจารย์ทางภพภูมิ
และจิตมันมีกระแสของความสามารถสัมผัสนามธรรมแบบนี้อยู่
ส่วนตัวไม่ค่อยไปห่วงไปวุ่นวายอะไรมากครับ
.แค่มาเล่าให้ฟังแบบขำๆ ฮาๆทั่วๆไปเท่านั้นหละครับ.

 

เมื่อกลับเมืองไทยที่ผ่านมา เขามาล้อเล่น เขาเล็กมากๆ จนดิฉันมองไม่ออกว่าคืออะไรคล้ายๆ ฟุตบอล วิ่งอยู่ด้านหลังวิ่งไปวิ่งมาพอดิฉันสงสัยว่าคืออะไร แล้วเขาก็วิ่งหายไปดิฉันตามหาว่ามันคืออะไร มองหาตามโต๊ะ และใต้โต๊ะ ก็ไม่มี หลังจากนั้นก็เลิกหาเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจไม่ได้เล่าให้ใครฟัง แต่อีกไม่กี่วันมาอีกแล้ววิ่งผ่านดิฉันไปเร็วยิ่งกว่าจรวจหรืออะไรๆที่เปลี่ยบไม่ได้ วิ่งขึ้นบันไดไปดิฉันเห็นมันอะไร ยิบไม้เรียวเล็กๆ วิ่งตามขึ้นบันใด ถ้าเจอนะจะดีให้ดู ปราฏกว่า ไม่เห็นมีอะไร หายไปอีกแล้ว ตอนนั้นไม่คิดว่าเป็นกุมารทองมาล้อเล่น แต่ก็ไม่รู้ว่าอะไรไม่เคยเห็นแบบนี้ พอกลับต่างประเทศเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกคงเป็นกุมารทอง งั้นก็คงใช่เพราะมันมีอะไรๆ แปลกหลายอย่างกลับไปเมืองไทยครั้งนี้คะ ก็ไม่ได้คิดอะไรและไม่ได้ยึดติด ถ้าเขาจะอยู่ด้วย ก็ไม่ว่าอะไรเพราะก็ไม่ได้ทำอะไรให้ดิฉันเดือนร้อน และดิฉันก็ไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรจากเขาคะ ถ้าเขาจะอยู่ก็เหมือนคนในครอบครัวคะ ไม่ได้กลัวด้วยคะ เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นเขาคะ

 

อืมๆครับ โดยภาพรวมคิดคล้ายกันเลยครับ.แต่คงไม่ถึงขั้นหยิบไม้เรียวเพื่อไปตีนะครับ ๕๕๕
ส่วนตัวแค่นอนหลับทำเป็นไม่สนใจเฉยๆครับ..พวกกุมารเทพก็มีมาขออยู่ด้วยแต่ก็ไม่ได้สนใจ
เท่าไรครับ..สมัยช่วงหนึ่ง กุมารทองก็ชอบมาเล่นด้วยครับ
แต่ก็ไม่ค่อยได้สนใจเหมือนกันครับ อย่างว่าหละครับ เด็กก็คือเด็ก เค้าก็มี
ความเป็นวัยของเค้าอยู่.กุมารเทพก็มีวิธีทางเดินของเค้าอยู่ครับ..
.ส่วนเรื่องอื่นๆที่มีผลตอบแทนมาถึงเราได้ ส่วนตัวมอง
ว่าแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล สุดแล้วแต่ครับ..
อืมๆๆ แต่พอจะมีประเด็นที่มีประโยชน์ที่คิดว่าน่าจะเล่าให้ฟังไว้เล่นๆนะครับ
กุมารเทพจะมีข้อดีอย่างหนึ่งก็คือ ถ้าปรากฏให้เราเห็นได้ด้วยตาเปล่าแล้ว
ในระดับที่ต่ำกว่าหัวไหล่เราหน่อยนะครับ ช่วงนั้นให้เราเร่งทำบุญให้มากๆครับ
เพราะว่า ช่วงนั้นเจ้ากรรมนายเวรตามมาถึงตัวเราแล้วครับ คล้ายๆว่ากุมารเทพ
จะเป็นเสมือนตัวที่คอยบอกคอยเตือนและคอยกลั้น เจ้ากรรมนายเวรไว้ให้เราก่อน
ที่เค้าจะเข้าถึงตัวเราได้ครับ..การเข้าถึงตัวคือ
เช่นถ้าจับขาเราได้ ขาเราจะหักครับ.
หรือช่วงนั้นทำอะไรเหมือนๆจะได้ง่ายๆแต่สุดท้ายไม่ได้ครับ ฯลฯ...
ปล.ประมาณนี้ ลองอ่านๆดูไว้เล่นๆนะครับ

 

เขาชอบมาแตะหัวเข่าเบาๆ ดิฉันก็ไม่รู้คะว่ามันถืออะไร เพราะไม่คิดว่าเป็นกุมารทอง เพราะคิดว่าตัวเองไม่ได้เลี้ยง ที่จับไม้เรียวจะตีนั้นไม่ได้คิดจะตีเขาคะ เพราะที่บ้านที่เมืองไทยมีแมวอยู่สองตัวไม่ถูกกันคะ แบ่งโซนกันอยู่คะ อีกตัวอยู่ข้างบน อีกตัวอยู่ข้างล่างตัวอยู่ข้างบนเขาอยู่มานานเป็นเจ้าของบ้านแต่ไม่ยอมเป็นมิตรกับใครแม้นแต่ดิฉัน และแม่คะ เขาจะเอาแค่คนเดี๋ยวน้องสะไภ้คะ สว่นอีกตัวอยู่ข้างล่างเขาเข้ามาอยู่ใหม่เขาเป็นแมวจรจัดคะเขาฉลาดมากเข้าได้กับทุกคน แม้กะทั้งหมาในบ้าน เขาจะมาประจบ มาบีนนวดให้คะ และอะไรที่ดีๆ คะ คือว่าเขาอยากอยู่บ้านนะคะ แต่พอเผลอไม่ได้ขึ้นไปกัดเจ้าตัวข้างบนทุกที ดิฉันก็เลยต้องคอยระวัง ที่กุมารทองมาล้อดิฉันไม่ได้คิดว่าเป็นกุมารทองคิดว่าแมวข้างล่างจะขึ้นไปกัดตัวข้างบน จึงถือไม้เรียวจะไปไล่ตีแต่แปลกใจว่าทำไมมันไวมากๆ แมวอะไรวิ่งไวจัง พอมองที่โต๊ะนั่งเล่นที่มันนอนอยู่ มันก็ยังอยู่ตรงนั้น แล้วมันอะไรกันแน่น ไม่มีเจตนาคะเพราะเข้าใจผิด แต่ตอนนี้รู้แล้วคะ

 

พูดถึงการเห็น ดิฉันจะเห็นอยู่ เหนือหัวไหล่คะ บางครั้งก็สูงกว่าหัวไล่ สี่จะออกเป็นเงินยวง แวบๆ คะบางครั้งก็อยู่สูงกว่านั้นคะ บางครั้งก็มีกลิ่มหอมเหมือนดอกไม้ กระจ่ายรอบๆ ตัวคะ มันจะรู้เลยคะถ้าเขามาหรืออยู่รอบๆ ตัวดิฉัน แต่ไม่ได้ขออะไร จากเขาหรอกนะคะ เพราะไม่ได้หวังผลตอบแทนอะไรคะถ้าจิตนิ่งสงบยิ่งชัดเจนคะ

 

ตอบครั้งสุดท้ายนะ ไม่ใช่กุมารทอง เป็นวิญญาณเด็กเร่ร่อนจับพลังด้านลบได้เลยเกาะมา

เด็กขาวๆหน่อย อายุราวๆ 8 ขวบไม่ได้อยู่เฉยๆช่วยเหลือบ้าง แต่ตัวคุณจะเริ่มมีอาการเหม่อลอย

คุณเองก็พอรู้ว่าไม่ใช่พลังดีเพราะเริ่มมีนิสัยแปลกๆ แต่ยังอยากจะเก็บไว้

 

:d

 

ดิฉันปกติคะ ไม่แปลกอะไรคะ (kiss)

 

ชอบที่คุณนพตอบนะค่ะ ยึดมั่นพระรัตนตรัยดีกว่า การเลี้ยงกุมารด้วยความชอบอันนั้นอาจจะเป็นเหตุผลส่วนตัว แต่ชอบประโยคนี้มากๆ

ถามว่าเจ้าตัวรู้มั้ย ตามที่ดิฉันเข้าใจ สิ่งเหล่านี้มันไม่ได้มีตัวตน เป็นความรู้สึก ถ้าเราไม่ได้เจริญสติได้แบบเก่งจริงๆ ก็จะคล้อยตามไปเอง โดยคิดว่าเป็นตัวเรา
ดิฉันเคยเขียนเรื่องแม่ดิฉัน(อาจจะอ่านผ่านไปแล้วบ้างค่ะ แม่ไม่รู้ตัวเลยค่ะ)

ถ้ากุมารเก่งจริงเอาตัวรอดไปเกิดดีกว่าค่ะ การเวียนว่ายตายเกิดเพื่อปฎิบัติธรรมแล้วพ้นทุกข์ถาวร กุมารน่าจะสนใจมากกว่าคอยขโมยบารมีคนอื่นเขา ทำเองบุญเองได้แน่ๆ รอแต่บุญอุทิศมันไม่ชัวร์ (คหสต.ค่ะ )

 

ถูกต้องเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งคะ

 

เรื่องทุกอย่างมันเกิดอยู่ที่จิตใจเรา ถ้าจิตใจเราไม่ปรุงแต่งอะไรๆ ก็เกิดขึ้นกับเราไม่ได้ ไม่งั้นองค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า จะสอนให้เรามีสติตลอดเวลารู้เท่าทันจิตดูจิตตัวเอง ทำจิตให้อยู่ในปัจุบันเท่านั้นคะ