มีเรื่องน่าสนใจและน่าสงสัยจะถาม

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย deity, 15 ธันวาคม 2014.

  1. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    อยากถามว่า ถ้าตอนที่พวกเรายังมีชีวิตอยู่และตาบอดทั้ง 2 ข้าง พอถึงเวลาเสียชีวิตไป

    ตาจะกลับมามองเห็นได้หรือไม่ครับ
     
  2. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    ดวงวิญญาณจะมีโอกาสได้เห็นผู้ที่ตนเองเคยรู้จักตอนยังมีชีวิต แต่ว่าไม่เคยได้เห็นหน้าช่วงตอนที่ตาเสียได้หรือไม่ อาทิเช่น พ่อแม่ญาติพี่น้อง ลูกๆหลานๆ มิตรสหาย ฯลฯ

    อาจจะรวมถึงเห็นคนทั่วไปและก็สภาพแวดล้อมทั่วๆไปต่างๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2014
  3. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    ผมคิดว่าหลายๆท่านก็คงจะมีความสนใจและความสงสัยในเรื่องนี้ครับ
     
  4. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,851
    เรื่องแหวกแนว ผมก็ชอบศึกษาน่ะ

    ตอบ
    ขึ้นอยู่กับบุญกุศล บารมีของผีครับ

    ถ้าร่างกายปกติ แต่เป็นคนไม่เคยทำบุญหรือทำน้อย เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต แขนขาด ขาขาด ตายไปก็คงรูปแบบนั้นเลยครับ คือต้องแขนขาด ขาด้วนเลย ทั้งที่จริงแล้ว เขาใช้ชีวิตอยู่ด้วยร่างกายปกติมาทั้งชีวิต แต่ตอนตายเมื่อเสียชีวิตกลับมีร่างกายไม่ครบ

    แต่ถ้ามีบุญมาก กายทิพย์ต้องสมบูรณ์ครับ ไม่ใช่ตาระดับคนปกติน่ะ แต่ต้องยึ่งกว่า เช่นอาจมองเห็นถึงภายในอวัยวะของมนุษย์ เชื้อโรค บรา บรา... เพราะกายทิพย์นั้น มันไม่มีข้อจำกัดแบบกายหยาบครับ




    เรื่องที่ ๑๓๙ ตายจากช้างมาเกิดเป็นคนแล้วบวชเป็นแม่ชี

    ได้มีผู้มาเล่าให้อาตมาฟังถึงทุกข์ตอนที่อยู่ในท้องแม่ ซึ่งคนเล่าได้ตายไปนานแล้ว
    เรื่องมีอยู่ว่าเวลานั้นอาตมาบวชได้ ๒ พรรษา ได้มีแม่ชีอายุประมาณ ๖๐ ปีเศษ อยู่จังหวัดสุรินทร์ ท่านเล่าว่าก่อนที่ท่านจะมาเกิดเป็นคน ท่านเป็นลูกช้าง เจ้าของอยู่ตำบลหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ สมัยนั้นที่แม่เป็นช้างเคยนำลูกช้างไปอาบนํ้าที่บึงๆ หนึ่ง นํ้าเย็นมากมีความสุข ต่อมาลูกชายของเจ้าของบ้านขี่คอท่านนำไปอาบนํ้า ตอนกลับทางที่ผ่านมีกิ่งไม้ กิ่งไม้มันตํ่า ท่านบอกท่านก็ย่อตัวถึงที่สุดเข้าใจว่าพ้นแล้ว ก็เงยหน้าขึ้นมา ก็พอดีลูกชายเจ้าของบ้านสะดุดกิ่งไม้ตกจากคอช้าง เขาก็โกรธพอขึ้นคอได้ก็เอาขอสับเอาๆ ก็วิ่งกลับบ้าน ท่านบอกขอสับนี่เจ็บมาก

    ต่อมาไม่นานเขาก็บอกให้พ่อเขาขาย บอกว่าช้างตัวนี้คบไม่ได้ทรยศ พ่อกับแม่บอกลูกชายว่าไม่ควรจะขาย พ่อกับแม่ช้างก็อยู่ที่นี่ดีอยู่ แต่ลูกชายไม่ยอม ในที่สุดก็ต้องขายอย่างจำใจเพราะลูกชายต้องการให้ขาย เมื่อขายแล้วลูกช้างก็ไปอยู่กับเจ้าของใหม่ ท่านบอกว่าคิดถึงเจ้าของเก่า ก็เลยกินไม่ได้นอนไม่หลับ ผอมลงๆ ไม่ช้าก็ตาย

    พอตายแล้วจิตที่ออกจากร่างช้างมันเป็นคนมีเสื้อใส่มีผ้านุ่ง

    เมื่อออกมาแล้วอาศัยจิตเดิมคิดถึงเจ้าของเดิม (คนนี้ระลึกชาติได้ชาติหนึ่ง) ก็ตั้งใจจะไปหาเจ้าของเดิม เดินลัดป่าลัดทุ่งไปบ้าง วันนั้นถึงเวลาตอนเพลลัดเข้าไปในวัด หมาวัดมันไล่กัด ท่านบอกหลบหมาเสียเกือบตาย หมาเก่งเพราะเห็นผีได้ เวลานั้นท่านเป็นผี เลิกเป็นช้างเป็นคนแล้ว พอมาถึงบ้านที่เจ้าของเดิมอยู่ ปรากฏว่าไม่มีบ้านเขาถอนไปแล้ว ท่านก็ถามเทวดาที่นั่น ท่านก็บอกว่า "เจ้าของบ้านเขารื้อไปอยู่ต่างตำบล" ท่านก็ตามไปจนพบ เมื่อพบแล้วก็เข้าบ้านไม่ได้ พอจะเข้าเขตบ้าน ภุมเทวดาก็ห้ามเข้าเพราะเป็นผีภายนอกเข้ามาไม่ได้ เกรงจะทำอันตรายเจ้าของบ้าน ท่านก็ต้องยืนคอยอยู่ปากตรอก ๓ วัน

    พอวันที่ ๓ ตอนเย็นพ่อบ้านไม่ทราบว่าไปไหนมา พอถึงปากตรอกบ้านก็ยืนปัสสาวะ ท่านเลยได้โอกาสโดดเกาะคอเข้ามา พอเกาะคอเจ้าของบ้านเข้ามา เทวดาเจ้าของที่ก็ว่าไม่ได้ เพราะถือว่าเจ้าของบ้านให้เข้ามา จึงปล่อยไป

    พอเข้าไปถึงบ้านท่านบอกว่า เข้าไปอยู่ในห้องๆ หนึ่งมันกว้างชวางมาก นั่งสบายนอนสบาย แต่ความจริงห้องที่อยู่นั่นคือมดลูกของแม่นั่นเอง เวลานั้นไม่ได้เข้าใจว่าเป็นท้องแม่ แต่มารู้ภายหลัง หนักเข้าๆ ก็รู้สึกว่าตัวมันโตขึ้นมาทีละหน่อยๆ ใจไม่โทษตัวโตแต่ไปโทษห้องมันเล็กลง ชักคับห้องทุกที ผลที่สุดเหยียดแขนเหยียดขาไม่ไหว ก็งอแขนงอขา หนักเข้าๆ มันทนปวดเมื่อยไม่ไหว มันเป็นทุกข์ก็ต้องหาทางออก ออกมาก็เป็นลูกชาวบ้าน

    อาตมาถามว่า "โยมชีเมื่อทราบอย่างนี้แล้ว อยากจะเกิดอีกไหม"

    ท่านตอบว่า "ไม่ต้องการเกิดแล้วค่ะ เลิกเกิด"

    รวมความว่าการอยู่ในครรภ์มารดา มันก็ทุกข์อย่างนี้ มันทุกข์มาตั้งแต่ก่อนเราคลอด ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า "ความเกิดเป็นทุกข์" มันทุกข์ตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา แต่เราจำไม่ได้




    จากด้านบนที่ผมเน้นไว้ จะเห็นได้ว่าตอนเป็นช้างไม่มีเสื้อผ้าใช่ไหม พอตายเป็นผีแล้วมีเสื้อผ้านุ่งห่มทันที เป็นเพราะบุญเดิมของเขาให้ผล นอกจากนี้ยังระลึกชาติได้ด้วย ถ้าเป็นคนธรรมดาระลึกชาติไม่ได้หรอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ธันวาคม 2014
  5. teww

    teww เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    604
    ค่าพลัง:
    +1,534
    สังเกตุด้วยตัวเองง่ายๆ
    เวลาหลับฝัน แล้วฝันว่าตัวเองเป็นปกติหรือตาบอด
    คิดว่าน่าจะฝันว่า ตัวเองเป็นปกติ
     
  6. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,884
    วิญญาณไม่ได้มองจากตา มองจากดวงจิตและดวงจิตแต่ละคนจะมีสีแสดงถึงตัวคนๆนั้น

    เจ้ากรรมนายเวรเค้าถึงตามหากันเจอไง เพราะดูจากพลังของดวงจิตที่แสดงออกมา

    ถ้ามีฤทธิ์หน่อยก็สัมผัสได้ว่าเคยเกิดเป็นใครมาก่อนตามกำลังบุญ
     
  7. chaokhun

    chaokhun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +5,701
     
  8. Norlnorrakuln

    Norlnorrakuln เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    3,813
    ค่าพลัง:
    +15,095
    ตาบอดแม้นฝันยังจินตนา
    รูปแสงสีโลกมายาบ่เห็น
    เวทนาชัดสัมผัสร้อนเย็น
    ขี้เหร่งามซ่อนเร้นเป็นเช่นไร

    ตาบอดคลำช้างตำนานเล่าขาน
    ตาดีถามบอดวิจารณ์ถูกไฉน
    จิตต่างวาระกรรมปรุงแต่งใจ
    ฝึกจิตใสได้แจ่มชัดเจนจริง!

    สิ้นภพหากวิบากยังส่งผล
    ก่อเกิดกำเนิดดลทุกข์เข็ญ
    สัมพันธ์เก่าก่อนรู้ได้ยากเย็น
    อายตนะเน้นเด่นผัสสะกาย

    ตาบอดใจไม่บอดด้วยกรรมฐาน
    จิตหยั่งรู้รูปนามตามวิถี
    ใจบอดตาสว่างล้วนมากมี
    หมอดูบอดตาดีที่เจตนา

    อดีตช้ำขอเพียงปัจจุบันเปลี่ยน
    ปัจจุบันเพียรอนาคตย่อม สดใส
    จักถามหากรรมอดีตพลั้งไปใย
    เราล้วนเวียนเกิดตายเท่าเทียมกัน

    สงสัยควรคลี่คลายดูจิต
    อจินไตยปัญหาติดมิควรไข
    ทิฎฐิลงไตรลักษณ์ชัดเพียงไร
    มรรคาแจ้งสว่างใสได้ตาปัญญา!

    ปัญญาแท้ตาดีย่อมรู้เห็น
    ตนนั่นเองที่เป็นไปในภพสาม
    ตนนั่นเองที่มืดมนอนธการ
    ทิ้งรูปนามถึงที่สุดภพจบพระนิพพาน!
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    เด่วช่วยเสริมครับ..เพื่อพอจะมีประโยชน์บ้าง...
    ปกติการมองเห็นนามธรรมต่างๆนั้น.จำไว้อย่างหนึ่งว่า
    ถ้ายังเห็นเป็นภาพได้แสดงว่ายังไม่พ้นการปรุงแต่ที่เกิดจากตัวจิตเรา
    หรือตัวจิตภายนอก หรือทั้งจากตัวจิตเราและตัวจิตภายนอกร่วมกัน..

    ที่นี้การมองเห็นนามธรรมนั้น..จะมีแต่ตัวจิตที่เป็นตัวทำหน้าที่ในการเห็นสิ่งๆ
    ต่างๆเพราะฉนั้นจึงไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับร่างกาย..ทั้งนี้ทั้งนั้นใช้อ้างอิงได้แม้ว่า
    จะมีแต่ตัวจิตหรือยังมีตัวจิตอยู่ในร่างกายก็ตามครับ..การที่บุคคลมองเห็นนามธรรม
    ภายนอกได้ด้วยตาเปล่านั้นเพราะตัวจิตที่มองเห็นแต่มองผ่านการที่มีร่างกาย
    เราอาจจะเข้าใจได้ว่าเราเห็นด้วยลูกนัยต์ทั้ง ๒ ข้าง..แต่หากว่าเราได้มีโอกาสเคลื่อน
    ย้ายตัวจิตให้พ้นจากร่างกายแล้วไปมองดูนามธรรมภายนอก เราจะพบว่าการเห็นของ
    เราจะไม่ได้เห็นแบบผ่านลูกในตาทั้ง ๒ แต่เป็นการเห็นผ่านตัวจิตออกมา.ทั่วๆไปบุคคล
    มักจะมองเห็นเป็นสภาพแวดล้อมแบบวงกลมเพราะจิตมันเป็นรูปร่างกลมๆไงครับ
    ยกเว้นกลุ่มที่ใช้คำภาวนาเฉพาะด้านอื่นๆครับ...
    ประเด็นต่อมา การที่จิตจะเห็นอะไรได้นั้น ขึ้นอยู่กับสัญญาความจำได้ที่มีอยู่ในดวงจิตดวงนั้นๆ
    ที่เป็นสัญญาความจำได้ขึ้นอยู่กับว่าจะจำอะไรได้ที่ค่อนข้างมีกำลัง(คือ จำได้แม่น จำได้ดีกว่าทั่วๆไป) จิตก็จะมี
    กำลังจากสัญญาตรงนี้เพื่อเชื่อมไปยัง ต้นสัญญานั้นๆ.เป็นเหตุให้จิตเห็นญาติพี่น้อง
    เห็นสถานนี่นั้น โน้นนี่ได้ครับ...พออยู่ไปนานๆเข้ากำลังตรงนี้ก็จะค่อยๆหายไป.จนกระทั่ง
    ญาติพี่น้องได้ลมหายเปลี่ยนภพภูมิเปลี่ยนร่างกายไป..ก็จะเริ่มมาจำได้อีกครั้งเมื่อดวงจิต
    ที่เคยมีสัญญาเดิมๆนั้นมาอยู่ในระยะที่ตัวจิตนั้นๆสามารถเข้าถึง.
    แม้ว่าจะอยู่ในร่างกายอื่นๆก็ตาม.จิตตัวนั้นก็จะไปตามสัญญาเดิม
    อีกรอบ...ที่เราเข้าๆใจก็คือเค้ามาบอกว่าเคยเป็นโน้นเป็นนี่นั่นหละครับ..
    ที่นี้ความสามารถในการสร้างสัญญาต่างๆนั้น เช่น สร้างเป็นรูปร่างสวยงาม
    การสร้างเสียงต่างๆ การสร้างรูปต่างๆ การเข้าฝันเพื่อสื่อต่างๆ การสร้าง
    ความรู้สึกที่กายต่างๆนั้น ฯลฯ ก็ขึ้น
    อยู่กับกำลังของดวงจิตดวงนั้นๆ ที่จะพยายามมาเชื่อมกับดวงจิตที่ต้องการ
    กำลังตรงนี้ก็จะได้จากผลบุญต่างๆที่เคยสะสมมา ที่จะเป็นเสมือน
    ตัวที่จะมาหนุนกำลังที่จะทำให้จิต สร้างสัญญาต่างๆเพื่อความจำได้
    ไม่ว่าจะในฝัน ให้เป็นเสียง
    ปรากฏให้เห็นได้ อะไรต่างๆตามที่ได้เล่าให้ฟังมาประมาณนี้หละครับ.
    ..
     
  10. montmayatawan

    montmayatawan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +47
    ถ้าตามความเห็นส่วนตัวของมนต์
    คิดว่านะจะมองเห็นได้ตามปกติค่ะ

    แล้วมีข้อสงสัยเพิ่มอีก 1 อย่างล่ะ
    แล้วในกรณีสาวประเภท 2 หรือแบบอื่นๆเสียชีวิต

    ดวงวิญญาณจะกลับคืนเพศสภาพเดิม
    หรือคงรูปตามเดิมก่อนที่จะเสียชีวิต
     
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    อยู่ที่สัญญา(ความจำได้)หลังจากที่ดวงจิตออกจากร่างกายครับ..
    ถ้ายังอยู่ในภูมิระดับชั้นความสูงเดียวกันกับโลกเรา คือไม่ใช่ภูมิเทวดาขึ้นไป
    เพราะตั้งแต่ภูมิเทวดาขึ้นไปเราเกิดมาก็จะรับทราบในสัญญาที่ออกมา
    เป็นรูปร่างสวยงามเป็นทุนเดิมครับ.เพราะฉนั้นการเห็นจึงเป็นการสร้าง
    สัญญาจากตัวจิตเราเช่นกันและที่ทำให้เราเห็นอย่างนั้นได้เพราะว่า
    มีกำลังบุญพอสมควรที่แปรเป็นกำลังจิตนั้นหละครับ....
    และที่นี้กรณีที่ถามถ้าดวงจิตเค้าและกำลังบุญ
    ไม่ได้อยู่ในระดับที่สามารถมีกำลังเพียงพอที่จะสร้างสัญญาตัวใหม่
    เพื่อให้คนอื่นๆเห็นได้ เพื่อให้เราจำได้ ให้เราเรียกได้ถูกแล้ว
    ด้วยการเปลี่ยนสัญญาตรงนี้เป็นอะไรก็ตามที่สวยงามกว่า.
    ตอนที่เค้าเป็นมนุษย์เค้า
    เป็นอย่างไรก็เป็นอย่างนั้นครับ

    เช่น ดวงจิตที่ออกจากร่างกายแบบไม่ได้เป็นไปตามธรรมชาติ
    หรือดวงจิตที่ยังต้องเสวยวิบากกรรมต่างๆจากการยึดติดในวัตถุ
    ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม.หรือดวงจิตที่วิบากกรรมยังไม่มา เพราะมี
    กรรมดีคอยหนุนก่อนแต่ยังไม่ขึ้นถึงภูมิเทวดาเป็นต้น
    .แต่ถ้าสามารถได้รับ..ซึ่งในขณะ
    ที่รับก็ยังจะต้องวางใจเป็นกลางด้วยนะครับ..กำลังบุญตรงนี้ถึง
    จะส่งผลให้ตัวจิตยกระดับพัฒนาขึ้นไปจนถึงระดับที่ไม่มีเรื่องเกี่ยว
    กับเพศได้ครับ หรือสร้างสัญญาเป็นอื่นๆได้เพื่อให้เราทราบว่า
    เค้าดีขึ้นแล้วนะ เค้าได้รับบุญจากเราทำให้เค้ามีการเปลี่ยนแปลงแล้วนะ
    ทำนองนี้ครับ....เรื่องพวกนี้เราพยายามตัดสัญญาเกี่ยวกับร่างกายที่รวม
    มาเป็นรูปร่าง ไม่ว่า เพศชาย เพศหญิง หรือจะกึ่งหญิงกึ่งชาย
    อะไรพวกนี้ออกให้หมดและดูองค์ประกอบในการเปลี่ยนแปลง
    รูปร่างจากกำลังบุญเป็นเกณฑ์ไว้ครับ...เราก็พอจะคาดคะเนการเปลี่ยนแปลง
    ของดวงจิตต่างๆเหล่านั้นได้..โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องมีประสบการณ์ตรง
    ก็จะพอทำให้เราเข้าใจประเด็นนี้ได้เช่นกันครับ
    ..
     
  12. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    เข้าใจแล้วครับ ทุกอย่างขึ้นกับกุศลกรรมและอกุศลกรรมเป็นหลัก
     
  13. chaokhun

    chaokhun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +5,701
    กรณีสาวประเภท 2 เมื่อถึงแก่กรรมไปแล้ว วิญญาณก็จะคงรูปเดิมก่อนที่จะเสียชีวิตคือเป็นสาวประเภท 2 พวกนี้แม้เกิดในร่างของผู้ชาย แต่กรรมก็กำหนด
    ให้มีจิตใจเป็นผู้หญิง
     
  14. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    ถ้ามีบุญบารมีไม่มากพอก็คงจะอยู่ในสภาพเดิมครับ หลายๆท่านในนี้บอกไว้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2014
  15. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    คุณ nopphakan และ คุณ pongio บอกว่าทุกอย่างขึ้นกับบุญและบาปที่เคยสร้างไว้ในสมัยเป็นมนุษย์เป็นหลักครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2014
  16. deity

    deity เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2010
    โพสต์:
    1,139
    ค่าพลัง:
    +1,645
    ผมเองก็เชื่อเช่นนั้นนะครับ ชีวิตหลังความตายจะขึ้นหรือลงทุกอย่างขึ้นกับกรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2014
  17. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,851
    ขอเสริมหน่อยละกันครับ ประเด็นนี้จะได้จบครับ


    พระพุทธประวัติ ตอนที่ ๑๑๖ : ทรงโปรดพุทธมารดา

    <!-- Main -->
    ท้าวสักกรินทร์เทวราช จึงเสด็จไปตามพระสิริมหามายาเทวบุตร ณ ดุสิตพิภพ พระพุทธมารดาซึ่งอยู่ในเพศเทพบุตรในสวรรค์ชั้นดุสิต ได้สดับทรงพระปีติปราโมทย์ รีบมาฟังธรรมจากพระพุทธองค์ เมื่อพระพุทธมารดา เสด็จมายังดาวดึงส์เทวพิภพสู่สำนักพระบรมครู ถวายนมัสการประทับนั่งอยู่เบื้องขวาแห่งพระผู้มีพระภาค พลางดำริว่า อาตมานี้มีบุญยิ่งนัก มีเสียทีที่อาตมาอุ้มท้องมา ได้พระโอรสอันประเสริฐเห็นปานนี้ ”
    http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=travelaround&date=14-05-2009&group=37&gblog=35


    จากข้อมูลด้านบน เมื่อพระพุทธมารดาทรงจุติเป็นเทพบุตร ทั้งที่เดิมท่านเป็นเพศหญิง เนื่องจากพระองค์มีบุญคุญกับพระพุทธเจ้าเป็นอันมาก (ในการอุ้มท้อง) จนในที่สุดพระพุทธเจ้าต้องเสด็จไปโปรดฯ ด้วยพระองค์เอง ยกอีกกรณี

    สมมติแม่ชีคนหนึ่ง ตั้งใจทำความดีและเจริญสมาธิมาก เมื่อตายไปแล้วจุติเป็นพรหมก็เปลี่ยนเพศครับ



    ในคติพุทธศาสนา พระพรหม เป็นชาวสวรรค์ชั้นสูงขั้นหนึ่งที่สูงกว่าเทวดาทั่วไป เรียกว่า "พรหม" พระพรหมยังอยู่ในกามาวจรภพ มีการวนเวียนว่ายตายเกิด อยู่ในสวรรค์ที่เรียกว่าชั้นพรหม (พรหมภูมิ)
    พระพรหมแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ พรหมที่มีรูป เรียกว่า "รูปพรหม" มีทั้งหมด 16 ชั้น และพรหมที่ไม่มีรูป เรียกว่า "อรูปพรหม" มีทั้งหมด 4 ชั้น โดยอรูปพรหมจะสูงกว่ารูปพรหม
    "พระพรหม" ในทางพระพุทธศาสนา เป็น "พระพรหมผู้วิเศษ" ล้วนแต่บุรุษเพศทั้งสิ้น ไม่ต้องกินไม่ต้องบริโภคอาหาร เหมือนสัตว์ในภูมิอื่น ด้วยว่าแช่มชื่นอิ่มเอิบโดยมีฌานสมาบัติเป็นอาหาร จึงไม่ต้องมีการถ่ายคูตรมูถ คืออุจจาระ ปัสสาวะอันลามกเหม็นร้าย สรีระร่างกายหน้าตาแห่งบรรดาพระพรหมนั้น มีสัณฐานกลมเกลี้ยงสวยงามนัก มีรัศมีออกจากกายตัวเลื่อม ประภัสสรรุ่งเรืองกว่ารัศมีพระอาทิตย์ และพระจันทร์ หลายพันเท่า เพียงแต่หัตถ์หนึ่งเล่าอันพระพรหมทั้งหลายเหยียดยื่นออกไปหวังจะให้ส่อง รัศมีไปทั่วห้วงจักรวาลก็ย่อมจักทำได้ อวัยวะร่างกายที่ต่อกัน คือ หัวเข่าก็ดี แขนก็ดี มีสัณฐานกลมเกลี้ยงเรียบงามนัก จักได้เห็นที่ต่อกันนั้นหามิได้ เกศเกล้าแห่งพระพรหมทั้งหลายนั้นงามนัก ปรากฏโดยมากมีศีรษะประดับด้วยชฎา สถิตย์เสวยสุขพรหมสมบัติอยู่ ณ พรหมภูมิที่ตนอุบัติตราบจน กว่าจะสิ้นอายุ ซึ่งเป็นเวลานานแสนนาน

    สรุป ถ้าสาวประเภทสองทำความดีไว้มาก เมื่อตายแล้วเพศต้องกลับคืนเดิม เนื่องจากชาติที่เป็นมนุษย์ เป็นชาติที่ต้องชดใช้กรรม ต้องเป็นกระเทยต้องแปลงเพศ แต่เมื่อชดใช้กรรมหมดในชาติที่เป็นมนุษย์เสร็จแล้ว ชาติหน้าผลบุญจะให้ผลกับคืนเพศเดิม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2014
  18. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    สรุปให้อีกที คำตอบคือ ถูกทุกข้อค่ะ .ที่แต่ละท่านโพสบอกนั้น ดิฉันว่าถูกหมด แต่ไม่ยอมรวมๆ ให้คนอ่านเลย สรุปคือ ท่านเจ้าคุณบอกก็ถูก ท่าน deity บอกก็ถูก ท่าน pinup บอกก็ถูก .(ส่วนท่านนพนี้ ภูมิธรรมสูง มิก้าวล่วง ค่ะ )

    เมื่อนำมาต่อกันจะได้ประมาณว่า .สาวประเภทสอง เมื่องวิญญาณออกจากร่าง จะยังคงรูปเป็นสาวประเภทสองอยู่ก่อน (อันนี้คงเป็นกรณี ตายก่อนหมดอายุไข ส่วนจะซีดรึสวย อันนี้คงอยู่ที่บุญตอนช่วงนั้นๆ และสัญญาต่างๆ แต่ถ้ามาตายตอนหมดอายุไข ก็คงจะไปจุติตามบุญบาปที่เคยกระทำ อันนี้ก็อาจจะเปลี่ยนไปเป็นพรหม เทวดา.นางฟ้า รึจะอสุรกาย สัตว์ ใดๆ ลงสู่ที่ต่ำใดๆ ก็ขึ้นกับกระแสบุญนั้น .ส่วนจะมีกรณีอื่นอีกปะ อันนี้ ไม่ทราบค่ะ ^_^
     
  19. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,884
    ลักษณะจะเกิดจากพลังของบุญที่สะสมไว้ ถ้าก่อนตายจิตไม่ผ่องใสยังนึกถึงบุญไม่ได้

    ก็จะเป็นลักษณะเดิมตามจิตก่อนตายรับรู้ไว้ นั่นคือถ้าขาขาด ก็ปรากฏรูปขาขาดทั้งๆที่ไม่มีร่างกายแล้ว

    หากมีกำลังบุญเพียงพอ จะเปลี่ยนรูปเช่นไรก็ได้ตามใจปรารถนาด้วยอำนาจแห่งบุญ


    ส่วนพระพุทธมารดาเป็นตำแหน่ง มีเทพบุตรรับหน้าที่นี้ เค้าตกลงกันไว้แล้วให้ใครทำ รับตั้งครรภ์ 5 องค์

    พรหมไม่มีเพศ แต่ลักษณะไม่ออกทางผู้หญิง คล้ายลักษณะทางชายมากกว่า
     
  20. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    ก็แล้วแต่เสียชีวิตแล้วไปไหน
     

แชร์หน้านี้

Loading...