ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แฮกเกอร์โจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โสมขาว

    [​IMG]

    บริษัทผู้ดำเนินงานโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของเกาหลีใต้ เผย ถูกแฮกเกอร์เจาะระบบคอมพิวเตอร์เข้าไปจารกรรมข้อมูล พร้อมขู่ให้ปิดโรงไฟฟ้า ขณะที่ทางการเผยว่ามีเพียงความเสียหายเล็กน้อยเกิดขึ้นและไม่กระทบต่อการดำเนินงานของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

    วันจันทร์ 22 ธันวาคม 2557 เวลา 16:47 น.
    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ว่า ทางการเกาหลีใต้ และตัวแทนจากบริษัทพลังงานนิวเคลียร์และพลังงานน้ำแห่งเกาหลี (เคเอชเอ็นพี) ซึ่งเป็นหนึ่งในเครือของบริษัทการไฟฟ้าเกาหลี (เคปโก) รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานของประเทศ เผย ระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัท ถูกคนร้ายเจาะระบบเข้ามาโจมตีและจารกรรมข้อมูลบางส่วนออกเผยแพร่บนอินเตอร์เน็ต แต่ยืนยันว่าเป็นเพียงพฤติกรรมการก่อกวน ซึ่งไม่มีข้อมูลสำคัญใดรั่วไหลออกไป และไม่มีผลกระทบด้านความปลอดภัยต่อโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้ง 23 แห่งด้วย

    นายชอง ยัง-โฮ รมช.กระทรวงพลังงานเกาหลีใต้ กล่าวว่า การทำงานของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ไม่สามารถถูกรบกวนหรือควบคุมผ่านการโจมตีทางอิเล็กทรอนิกส์ได้ เนื่องจากระบบควบคุมการทำงานถูกแยกเป็นอิสระจากระบบอื่นๆ และมีความปลอดภัยสูง โดยในการเปิดเผยข้อมูลทั้งจากบริษัทและทางการ ไม่มีการกล่าวพาดพิงถึงเกาหลีเหนือแต่อย่างใด

    ก่อนหน้านี้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์ ซึ่งระบุว่าเป็นประธานกลุ่มต่อต้านนิวเคลียร์ที่มีสำนักงานอยู่ในรัฐฮาวายของสหรัฐ แอบอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุและข่มขู่ว่า หากไม่ยุติการดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เก่าแก่ 3 แห่ง ภายในวันพฤหัสบดีนี้ จะมีการนำเอกสารลับที่ถูกจารกรรมออกเผยแพร่เพิ่มเติม จากการตรวจสอบไอพีแอดเดรสของผู้ที่เผยแพร่ข้อมูลลงในบล็อก สามารถย้อนรอยไปถึงผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งในเมืองทางใต้ของประเทศ ซึ่งเขาปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้พร้อมอ้างว่ารหัสของเขาถูกจารกรรมไป

    ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้เร่งดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับการรั่วไหลของข้อมูลดังกล่าว ซึ่งมีทั้งแบบพิมพ์เขียวของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ต่างๆ แบบแผนการจ่ายกระแสไฟฟ้า และแบบประเมินปริมาณการปล่อยรังสีด้วย.

    แฮกเกอร์โจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์โสมขาว | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อนดล แซ่เล้า
    พบเชื้ออหิวาเทียม ใน เลือดไก่ จากเมนูข้าวมันไก่-ลาบไก่
    โพสต์เมื่อ : 23 ธันวาคม 2557 เวลา 10:18:14
    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    [​IMG]

    กรมควบคุมโรค พบเชื้ออหิวาเทียม ใน "เลือดไก่" จากเมนูข้าวมันไก่-ลาบไก่ ระบาดต่อเนื่อง กระจาย 7 จังหวัด เตรียมแจ้งโรงงานที่ผลิต

    เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2557 นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า นักระบาดวิทยาจำนวน 20 คน ได้ลงพื้นที่ตรวจหาอันตรายจากโรคติดเชื้อต่าง ๆ ตั้งแต่โรคอาหารเป็นพิษจนถึงโรคติดเชื้อรุนแรง ซึ่งจากข้อมูลใน จ.เชียงใหม่ พบการระบาดของโรคอาหารเป็นพิษที่เกิดจากการรับประทานข้าวมันไก่ ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนกันยายน 2557 ถึง 15 เหตุการณ์ และเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าเชื้อดังกล่าวเป็นเชื้ออหิวาเทียม (Vibrio parahaemolyticus) ถึง 13 เหตุการณ์ ซึ่งเกิดจากก้อนเลือดไก่ในข้าวมันไก่ โดยเป็นเลือดไก่ที่มาจากโรงงานผลิตแห่งหนึ่ง และขณะนี้ยังพบการระบาดอย่างต่อเนื่อง

    นพ.โสภณ กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงธันวาคมที่ผ่านมา พบรายงานการระบาดของโรคอาหารเป็นพิษที่เกี่ยวข้องกับไก่และผลิตภัณฑ์จากไก่ 20 เหตุการณ์ จำนวน 1,410 ราย กระจายไป 7 จังหวัด ได้แก่ จ.กาฬสินธุ์ ขอนแก่น หนองบัวลำภู อุดรธานี บึงกาฬ มหาสารคาม และร้อยเอ็ด พบการระบาดมากที่สุดในเดือนพฤศจิกายน โดยตั้งข้อสงสัยมาจากอาหารที่มีเลือดไก่เป็นส่วนประกอบ อาทิ ข้าวมันไก่ ลาบไก่ที่ผสมเลือด ตามลำดับ ซึ่งขณะนี้ได้แจ้งไปยังโรงงานผลิตเลือดไก่ พร้อมขอให้ปรับปรุง โดยเร็ว ๆ นี้ ทางกรมควบคุมโรคได้เตรียมลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบซ้ำอีกครั้ง

    อย่างไรก็ดี นพ.โสภณ กล่าวว่า นักระบาดวิทยาตอนนี้กำลังขาดแคลนอย่างหนัก เนื่องจากติดปัญหาในค่าตอบแทน ซึ่งตนได้เสนอให้เพิ่มเบี้ยเลี้ยงในการลงภาคสนาม จากวันละ 100 บาท เป็น 200 บาท ขณะเดียวกันก็เร่งผลิตบุคลากรกลุ่มนี้เพิ่ม ด้วยการอบรมบุคลากรสายเชี่ยวชาญอื่น ๆ มาช่วย เนื่องจากการผลิตนักระบาดระดับผู้เชี่ยวชาญโดยตรง อาจจะค่อนข้างยาก

    พบเชื้ออหิวาเทียม ใน เลือดไก่ จากเมนูข้าวมันไก่-ลาบไก่
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong ผ่าน เนชั่นสุดสัปดาห์ NationWeekend

    'ประสาร'ร่วมลงนามแลกเปลี่ยนเงินหยวนและบาท
    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]
    ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)
    ภาพข่าว ภาพประกอบข่าว

    ผู้ว่าการฯธปท.ลงนามในความตกลงทวิภาคีเพื่อแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาท แต่งตั้งธนาคารชำระดุลเงินหยวนในไทย

    นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ได้ร่วมลงนามในความตกลงทวิภาคีเพื่อแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาท และบันทึกความเข้าใจด้วยการแต่งตั้งธนาคารชำระดุลเงินหยวนในประเทศไทย กับ Ms. Hu Xiaolian รองผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Bank of China – PBC) ในวันที่ 22 ธันวาคม 2557 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนอย่างเป็นทางการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี

    สำหรับความตกลงทวิภาคีเพื่อแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาท (Bilateral Swap Agreement) ฉบับนี้ ซึ่งกำหนดวงเงินที่ 70 พันล้านหยวน หรือ 370 พันล้านบาท มีอายุความตกลง 3 ปี จัดทำขึ้นเพื่อทดแทนความตกลงฉบับเดิมที่ได้หมดอายุลงเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2557 โดยการทำธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลหยวนและบาทระหว่าง ธปท. และ PBC นี้ จะทำให้ธนาคารกลางทั้งสองสามารถเข้าถึงแหล่งสภาพคล่องเงินสกุลท้องถิ่นของคู่สัญญาได้ ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นแก่ภาคธุรกิจและสถาบันการเงินในการใช้เงินสกุลหยวนและบาทในการค้าและการลงทุนระหว่างกัน

    การแต่งตั้งธนาคารชำระดุลเงินหยวนในประเทศไทย จะทำให้ไทยสามารถเข้าถึงแหล่งสภาพคล่องเงินหยวนของจีนได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารพาณิชย์ไทยสามารถลดต้นทุนในการทำธุรกรรมเงินหยวน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศไทยและจีนได้ด้วย โดยในขั้นตอนต่อไป PBC จะเป็นผู้พิจารณาและประกาศแต่งตั้งธนาคารพาณิชย์จีนในประเทศไทยในการทำหน้าที่ชำระดุลเงินหยวนในประเทศไทย

    Tags : ประสาร ไตรรัตน์วรกุล • หยวน • บาท

    '
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong ได้แชร์โพสต์ของ Science News Of ASTV-Manager

    ข้อมูลชี้ การเปลี่ยนแปลงของอากาศส่งผลเลวร้าย ทำปริมาณ “อาหารโลก” หายไปเกือบ 1 ใน 5 ภายในปี 2050 โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 ธันวาคม 2557 00:57 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - ผลการศึกษาล่าสุดชี้ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกจะส่งผลเสียอย่างสำคัญต่อ “การผลิตอาหาร” หล่อเลี้ยงประชากรโลก ระบุ ปริมาณอาหารโลกอาจหายไปจากระบบราวร้อยละ 18 หรือเกือบ 1 ใน 5 ภายในระยะเวลา 35 ปี นับจากนี้ หรือภายในปี ค.ศ. 2050

    ผลการศึกษาดังกล่าวซึ่งมีการตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร “เอนไวรอนเมนท์ รีเสิร์ช เล็ตเทอร์” ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลกจะส่งผลกระทบเลวร้ายอย่างสำคัญต่อการผลิตอาหารของมนุษยชาติ และว่า ผลกระทบดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วภายในช่วงชีวิตของประชากรส่วนใหญ่ของโลกในปัจจุบัน

    ด้าน ไมเคิล โอเบอร์สไตเนอร์ หนึ่งในผู้ร่วมทำการศึกษาในครั้งนี้ ปัญหาที่เด่นชัดที่สุดจากผลพวงของการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลก คือ ปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตรซึ่งจะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะปัญหาที่มีสาเหตุมาจากการบริหารจัดการน้ำที่ไร้ประสิทธิภาพ

    อย่างไรก็ดี ผลการศึกษาครั้งนี้ระบุว่า ทวีปยุโรปมีแนวโน้มที่จะสามารถ “พึ่งพาตนเอง” และรอดพ้นจากวิกฤตขาดแคลนอาหารและน้ำได้มากที่สุดจากความสำเร็จในการบริหารจัดการการผลิตอาหารและการจัดสรรน้ำของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สวนทางกับทวีปแอฟริกาซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่จะยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าสินค้าประเภทอาหาร จากต่างประเทศต่อไปอีกยาวนาน

    ทั้งนี้ ผลการศึกษาดังกล่าวระบุว่า หากรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเทศต่างๆ ทั่วโลก สามารถบริหารจัดการความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้อย่างเหมาะสม ก็มีโอกาสไม่น้อยที่ปริมาณการผลิตอาหารทั่วโลกอาจปรับเพิ่มขึ้นได้ราว 3 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2050 แทนที่จะปรับลดลงถึง 18 เปอร์เซ็นต์ตามที่รายงานระบุไว้

    อ่านเพิ่มเติม
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “โลกร้อน” ทำชาติหมู่เกาะแปซิฟิกเผชิญสภาวะ “ปะการังฟอกขาว” ครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 22 ธันวาคม 2557 12:39 น.

    [​IMG]

    เอเอฟพี - นักวิทยาศาสตร์วันนี้ (22 ธ.ค.) ระบุว่า หมู่เกาะมาร์แชลกำลังเผชิญปรากฏการณ์ “ปะการังฟอกขาว” ครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะที่สภาวะโลกร้อนกำลังจะเป็นภัยคุกคามต่อปะการังทั่วน่านน้ำตอนเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก

    บรรดานักวิจัยทางทะเลชี้ว่า ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เริ่มเกิดสภาพอากาศแบบเอลนีโญออกมาให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้อุณหภูมิน้ำทะเลขยับตัวสูงขึ้น และทำให้ปะการังอ่อนแอลง

    คาร์ล เฟลเลเนียส นักวิทยาศาสตร์ทางทะเล ที่มีฐานในกรุงมาจูโร เมืองหลวงของหมู่เกาะมาร์แชล และมหาวิทยาลัยฮาวายกล่าวกับเอเอฟพีว่า “นับตั้งแต่กลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ได้เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของหมู่เกาะมาร์แชลเรื่อยมา”

    ซี มาร์ก อีกิน ผู้จัดการโครงการเฝ้าระวังแนวปะการังของสำนักงานบริหารพื้นมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศอากาศแห่งชาติสหรัฐฯ (NOAA) ระบุว่า จากการสังเกตการณ์เมื่อไม่นานมานี้ พบว่าปัญหาเริ่มขยายวงกว้างไปทั่วน่านน้ำอันกว้างใหญ่ไพศาล ทางเหนือของมหาสมุทรแปซิฟิก

    เขาระบุว่า “จุดที่พบว่าเกิดสภาวะฟอกขาวอย่างรุนแรงคือเกาะกวม และหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา หมู่เกาะฮาวายด้านตะวันตกเฉียงเหนือ หมู่เกาะมาร์แชล และคิริบาตี”

    “ระดับความเค้นเนื่องจากความร้อน (Thermal stress) ส่งผลให้เกิดสภาวะปะการังฟอกขาวแถบหมู่เกาะนอร์เทิร์นมาเรียนา และหมู่เกาะฮาวายทางตะวันตกเฉียงเหนือ สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ และเป็นครั้งแรกที่เราพบว่า ปะการังกว้างบริเวณหมู่เกาะฮาวายใหญ่ฟอกขาวเป็นวงกว้าง”

    เฟลเลเนียสกล่าวว่า แม้ว่าสภาวะปะการังฟอกขาวจะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่ก็ยังไม่เคยเกิดขึ้นเป็นวงกว้างอย่างที่พบเห็น ณ ปัจจุบัน

    “โลกร้อน” ทำชาติหมู่เกาะแปซิฟิกเผชิญสภาวะ “ปะการังฟอกขาว” ครั้งเลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์
    หมู่เกาะคิริบาตี

    “แม้ว่าสภาวะปะการังฟอกขาวสามารถเกิดขึ้นบริเวณน่านน้ำบางจุดที่แทบจะไม่มีการไหลเวียนของน้ำ ในช่วงวันที่มีอากาศร้อน (เช่น) ในช่วงที่น้ำทะเลบริเวณปะการังแนวราบลดต่ำมาก แต่ก็อาจกลายเป็นปัญหาสำคัญระดับโลกได้ เนื่องจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ส่งผลให้อุณหภูมิขยับตัวสูงขึ้นในช่วงที่สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง”

    เขากล่าวว่า อุณหภูมิผิวน้ำขยับตัวสูงขึ้นกว่าปกติ เฉลี่ยครึ่งดีกรีเซลเซียสหลายเดือนแล้ว พร้อมกับระบุเพิ่มเติมว่า “แม้ว่าจะฟังดูไม่มากเท่าไร แต่ก็สามารถสร้างความแตกต่างอย่างมหาศาลให้แก่ปะการังได้”

    เฟลเลเนียสกล่าวว่า ครั้งล่าสุดที่เกิดปรากฏการณ์ปะการังฟอกขาวครั้งใหญ่คือในปี 1997 เมื่อระบบเอลนีโญอันรุนแรงผิดปกติส่งผลกระทบต่อแนวปะการังราว 1 ใน 4 ของโลก

    เขาชี้ว่า สัญญาณบ่งชี้ก็คือสภาวะฟอกขาวครั้งล่าสุดได้ส่งผลกระทบต่อปะการังเล็กๆ ถึง 75 เปอร์เซ็นต์ และปะการังขนาดใหญ่ 25 เปอร์เซ็นต์ ในบางจุดของหมู่เกาะมาร์แชล

    เขาระบุว่า ปะการังที่ฟอกขาวกำลังถูกปกคลุมไปด้วยสาหร่าย ทำให้ไม่มีโอกาสฟื้นตัวได้อีก

    ในการแถลงนอกรอบการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ณ กรุงลิมา เปรู องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ได้ออกมาเตือนว่า อุณหภูมิของน้ำทะเลกำลังขยับตัวสูงขึ้นในเดือนนี้ พร้อมกับระบุว่า ปี 2014 เป็นปีที่มีอากาศร้อนที่สุดในประวัติการณ์ ซึ่งเป็นผลมาจากสภาวะภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง เนื่องจากน้ำมือมนุษย์

    มิเชล จาร์โรด์ ประธาน WMO ระบุว่า “สิ่งที่ผิดปกติเป็นอย่างยิ่ง และเป็นสัญญาณเตือนในปีนี้คืออุณหภูมิผิวน้ำของมหาสมุทรขยับตัวสูงขึ้นเป็นวงกว้าง”

    เมื่อเดือนที่แล้ว ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียกล่าวเตือนว่า สภาวะปะการังฟอกขาวเกิดขึ้นเป็นวงกว้างจะส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อหมู่เกาะหลายแห่งในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งส่วนใหญ่มีรายได้หลักจากการท่องเที่ยว

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “14 แพทย์ผู้ดี” ถอนตัว หลังเซียร์ราลีโอนใช้ “ยาโรคหัวใจ” ทดสอบรักษาอีโบลา หลัง WHO ประกาศยอดดับแตะ 7,518 ราย โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 ธันวาคม 2557 12:37 น.


    [​IMG]
    (ซ้ายล่าง)แพทย์ศัลยกรรมโรคหัวใจชาวอีตาลี จีโน สตราดา(Gino Strada)

    เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - หลังจากองค์การอนามัยโลกประกาศตัวเลขจำนวนผู้ป่วยอีโบลาเสียชีวิตล่าสุดในแอฟริกาตะวันตกที่ 7,518 ราย ที่มีผู้เสียชีวิตในเซียร์ราลีโอนล่าสุดที่ 2,556 ราย และมีผู้ติดเชื้อถึง 8,939 เจ้าหน้าที่สมาชิกการแพทย์อังกฤษ 14 รายประกาศถอนตัวออกจากเซียร์ราลีโอนหลังพบ Emergency หน่วยงานการแพทย์อิตาลีที่ไม่แสวงหาผลกำไรใช้ “ยารักษาโรคหัวใจ” “แอมิโอดาโรน” (Amiodarone) ที่ไม่ได้รับการทดสอบต่อต้านไวรัสทั้งในสัตว์และมนุษย์ใช้รักษาผู้ป่วยในศูนย์อีโบลาในฟรีทาวน์

    เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(22)ว่า เจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่กู้ชีพฉุกเฉิน ชาวอังกฤษรวม 14 คนประกาศถอนตัวออกจากศูนย์การแพทย์ลาคกา(Lakka)ขนาด 22 เตียงในฟรีทาวน์ เซียร์ราลีโอน หลังตระหนักถึงความเสี่ยงต่างๆ และอันตรายจากการใช้ยารักษาโรคหัวใจที่ Emergency หน่วยงานการแพทย์อิตาลีที่ไม่แสวงหาผล ซึ่งก่อตั้งโดยแพทย์ศัลยกรรมโรคหัวใจชาวอีตาลี จีโน สตราดา(Gino Strada) นำมาใช้ในศูนย์การแพทย์แห่งนี้ด้วยความหวังว่า จะนำระบบการรักษามาตรฐานโลกด้านการศัลยกรรมหัวใจมายังเซียร์ราลีโอน

    โดย Emergency ประกาศความมุ่งมั่นจะให้ผู้ป่วยอีโบลาชาวเซียร์ราลีโอนประจำศูนย์การแพทย์ลาคกา และศูนย์การแพทย์แห่งใหม่ โกเดริช(Goderich)ขนาด 100 เตียงได้รับการรักษาเหมือนเฉกเช่นที่ชาวยุโรปได้รับในทวีปยุโรป ซึ่งศูนย์การแพทย์โกเดริชสร้างโดยกองทัพอังกฤษ และได้รับทุนอุดหนุนโดยกระทรวงการพัฒนาระหว่างประเทศของอังกฤษ (DFID)

    แต่ทว่าทีมแพทย์อังกฤษที่ถูกส่งไปทำงานประจำศูนย์การแพทย์ลาคกาในปลายเดือนพฤศจิกายน มีความเห็นว่า การตัดสินใจในการใช้”ยารักษาโรคหัวใจ” ที่ยังไม่เคยได้รับการทดสอบถึงประสิทธิภาพรักษาไวรัสอีโบลาทั้งในสัตว์และคนนั้นเป็นการกระทำที่ขาดความยั้งคิด และอาจทำให้ยอดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยที่ศูนย์แห่งนี้สูงกว่าศูนย์การแพทย์อื่น

    ซึ่งล่าสุดรอยเตอร์รายงานในวันจันทร์(22)ว่า องค์การอนามัยโลก หรือ WHO รายงานตัวเลขรวมของผู้ป่วยอีโบลา19,340 ราย และยอดเสียชีวิตรวม 7,518 ราย โดยไลบีเรียยังเป็นประเทศที่มียอดเสียชีวิตมากที่สุดที่ 3,376 ราย และผู้ป่วยติดเชื้อ 7,830 ราย และเซียร์ราลีโอนมียอดเสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 2ที่ 2,556 ราย และมีผู้ป่วยติดเชื้อ8,939 ราย นอกจากนี้ กีนามียอดเสียชีวิตรวม 1,586 คน และยอดผู้ติดป่วย2,571 คน ตามลำดับ

    โดยยอดเสียชีวิตใน 3ประเทศนี้เพิ่มสูงมากกว่า 175 รายหลังจากวันที่ 20 ธันวาคมเป็นต้นมา

    ทั้งนี้ Emergency ยอมหยุดการทดลองใช้ยา “แอมิโอดาโรน” (Amiodarone) หลังจากได้รับคำขอจาก DFID ที่ได้รับการร้องจากเจ้าหน้าที่แพทย์อังกฤษ อย่างไรก็ตาม Emergency ประกาศจะเริ่มการทดลองการใช้ แอมิโอดาโรนอย่างเป็นทางการ

    สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้ป่วยอีโบลาประจำศูนย์การแพทย์ลาคกาได้รับการแจกจ่ายยาเป็นจำนวนมาก รวมถึง ยาแอมิโอดาโรน ผ่านทางท่อที่ต่อเข้าเส้นเลือดที่เรียกว่า "Cannulae" ซึ่งเจ้าหน้าที่การแพทย์แจ้งว่าวิธีการนี้อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อน และการใช้เข็มฉีดยาบ่อยครั้งจะทำให้เกิดความเสี่ยงกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงาน โดยพบว่ามีแพทย์ 2 รายก่อนหน้านี้ประจำศูนย์การแพทย์ลาคกา ฟรีทาวน์ ติดเชื้ออีโบลา และถูกส่งตัวไปรักษายังเยอรมันและอิตาลีในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนตามลำดับ

    ถึงแม้ยาแอมิโอดาโรนจะเป็นยาที่ได้รับอนุญาตสามารถใช้ในการควบคุมการเต้นของหัวใจ และในการทดลองยาชนิดนี้กับโรคอีโบลาของหน่วยงาน Emergency ในเซียร์ราลีโอน โดยอ้างอิงจากการวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ในเดือนสิงหาคมล่าสุดของกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันในฮาโนเวอร์ ชี้ว่า “ยาแอมิโอดาโรน” สามารถใช้ยับยั้งไม่ให้ไวรัส เช่น อีโบลา เข้าสู่เซลล์ได้จากผลการทดลองในห้องวิจัยทางวิทยาศาสตร์ แต่ทางกลุ่มแพทย์อังกฤษแย้งว่า ยังไม่มีการทดลองทางคลินิกในการใช้ยาชนิดนี้ในการทดลองกับสัตว์หรือมนุษย์เพื่อตรวจถึงผลร้ายที่อาจเกิดขึ้นในอวัยวะของคนเช่น “ตับ” “ไต” “หรือปัญหาทางการหายใจ” ซึ่งเป็นอาการที่มักเกิดขึ้นหลังติดเชื้ออีโบลา

    อย่างไรก็ตาม รอสเซลลา มิคซิโอ(Rossella Miccio) เจ้าหน้าที่ประสานงานของ Emergency ประจำเซียร์ราลีโอนอ้างว่า ถึงแม้ทางหน่วยงานมีแผนที่จะทดลองตัวยาแอมิโอดาโรน แต่ทว่าในขณะนี้นั้น “ยาตัวนี้ถูกใช้ด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม และการช่วยเหลือฉุกเฉิน” นอกจากนี้ยาชนิดนี้ไม่ใช่ยาขั้นทดลองแต่ถูกใช้อย่างแพร่หลายมานานกว่า 50ปี และผลข้างเคียงต่างเป็นที่ปรากฏดังนั้นจึงทำให้หน่วยงานรู้สึกมั่นใจที่จะใช้ยาตัวนี้กับผู้ป่วย

    แต่เจ้าหน้าที่การแพทย์อังกฤษแย้งว่า สภาพร่างกายผู้ป่วยอีโบลาในเซียร์ราลีโอนต่างจากสภาพคนไข้ที่มีปัญหาระบบการเต้นหัวใจในยุโรป เพราะผู้ป่วยอีโบลามีปัญหาตับถูกทำลายอย่างหนัก และปัญหาระดับสารเคมี Electrolyteในเลือด ซึ่งเจ้าหน้าที่อังกฤษยืนยันว่า มีการให้ยาแอมิโอดาโรนโดยไม่มีการคอยควบคุม และไม่ได้รับความยินยอมจากคนไข้ “เจ้าหน้าที่ Emergency ตรวจสอบอย่างละเอียดว่าคนไข้อีโบลาได้รับยา Emergency มากกว่าที่จะตรวจสอบคนไข้เหล่านั้นได้รับของเหลวอย่างพอเพียง มีสุขอนามัยดี และได้รับความสะดวกสบาย” เจ้าหน้าที่การแพทย์อังกฤษเขียนในรายงาน และพบว่ามีคนไข้บางส่วนเริ่มมีอาการอักเสบหลังจากได้รับยาชนิดนี้จากท่อที่ต่อตรงผ่านเข้าเส้นเลือดหลักใกล้ตำแหน่งหัวใจ

    และเจ้าหน้าที่การแพทย์อังกฤษยังแสดงความกังวลที่ Emergency สั่งจ่ายยาขับปัสสาวะให้กับคนไข้อีโบลาประจำศูนย์การแพทย์ในฟรีทาวน์ ซึ่งยามีฤทธิทำให้คนไข้อีโบลาที่มีปัญหาไตล้มเหลวจากการติดเชื้อไวรัสอีโบลา ต้องขับถ่ายปัสสาวะมากกว่าปกติ และเป็นผลทำให้คนไข้ต้องประสบปัญหาขาดน้ำอย่างหนัก

    แต่ทาง Emergency กลับอ้างว่า ทางหน่วยงานได้เติมของเหลวให้กับคนไข้อีโบลา และใช้ยาขับปัสสาวะเพื่อล้างไตของคนไข้ และยังติดตามอาการของคนไข้อีโบลา พร้อมกับมีห้องทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ตั้งอยู่ภายในศูนย์ที่เรียกรหัส “เรด โซน”

    ทั้งนี้ DFID ได้ส่งจดหมายร้องให้ Emergency หยุดใช้ยาแอมิโอดาโรนเพราะยาตัวนี้ไม่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษ “ทันทีที่ทางกระทรวงการพัฒนาระหว่างประเทศของอังกฤษได้รับแจ้งถึงปัญหานี้ เราขอให้ Emergency หยุดการใช้ยาแอมิโอดาโรน พร้อมกับถอนเจ้าหน้าที่การแพทย์อังกฤษออกจากศูนย์แห่งนี้ ซึ่งทาง Emergency ยอมปฎิบัติตามคำขอของทางกระทรวงทันที และทางเราได้ร่วมมือใกล้ชิดกับหน่วยงานไม่แสวงหาผลกำไรทางการแพทย์ของอิตาลีนี้เพื่อทำให้มั่นใจว่ากระบวนการทางแพทย์ที่ศูนย์การแพทย์โกเดริชจะเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยระดับชาติ” โฆษกของDFID กล่าว

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong ได้แชร์รูปภาพของ ก้องภพ อยู่เย็น

    [​IMG]

    วันที่ 26-28 ธันวาคม นี้จะเป็นวันสำคัญทางดาราศาสตร์ที่ควรติดตาม คือมีการเรียงตัวระหว่าง ดวงอาทิตย์ ดาวพุธ ดาวศุกร์ และ ดาวพฤหัส เป็นเส้นตรง โดยในวันที่ 29 ธันวาคม นั้น ดวงอาทิตย์ โลก และ ดวงจันทร์ เรียงตัวกันเป็นแนวตัวฉาก

    ในการสังเุกตการณ์ความสัมพันธ์ของเหตุปัจจัยต่างๆในระบบสุริยะนั้น ให้สังเกตปฏิกริยาดวงอาทิตย์เป็นหลัก เช่น พายุสริยะ การเปลี่ยนแปลงของปริมาณจุดดับ สำหรับการเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติบนโลกในช่วงเวลาดังกล่าวเช่นกัน ในรูปแบบของการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศ และปฏิกริยาใต้ผิวโลกครับ
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong ได้แชร์รูปภาพของ Logistic thailand Forum

    ‘เส้นทางสายไหมใหม่’ โครงการเปลี่ยนโลกแห่งศตวรรษที่ 21

    [​IMG]

    ถ้าหากทุกสิ่งทุกอย่างบังเกิดขึ้นมาตามแผนการ (และเป็นไปตามความฝันอันบรรเจิดของคณะผู้นำของจีน) โครงการ “เส้นทางสายไหมเใหม่” ก็จะกลายเป็นโครงการแห่งศตวรรษที่ 21 อีกทั้งเป็นเรื่องราวเล่าขานทางการค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในระยะเวลาหลายๆ ทศวรรษข้างหน้า วอชิงตันอาจจะมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการเข้าไป “ปักหมุดในเอเชีย” ทว่าปักกิ่งกลับมีแผนการของตนเองในการเต้นระบำหมุนตัวอย่างเริงร่าเข้าไปในยุโรป โดยเดินทางตัดข้ามมหาทวีปยูเรเชีย

    วันที่ 18 พฤศจิกายน 2014 ควรจะเป็นวันที่จดจำกันเอาไว้ในประวัติศาสตร์ไปตลอดกาล ในวันนั้น ที่เมืองอี้อู (Yiwu) ในมณฑลเจ้อเจียง ของจีน ซึ่งอยู่ห่างจากนครเซี่ยงไฮ้ไปทางใต้ราว 300 กิโลเมตร รถไฟขบวนแรกที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 82 ตู้บรรจุสินค้าส่งออกน้ำหนักรวมกันมากกว่า 1,000 ตัน เดินทางออกจากกลุ่มอาคารคลังสินค้าขนาดมหึมาของเมืองนี้ มุ่งหน้าไปยังกรุงมาดริด ประเทศสเปน และไปถึงจุดหมายปลายทางในอีก 21 วันต่อมา นั่นคือ วันที่ 9 ธันวาคม

    ขอต้อนรับเข้าสู่ ทางรถไฟทรานส์ยูเรเชีย (trans-Eurasia) สายใหม่ครับ

    ด้วยระยะทางกว่า 13,000 กิโลเมตร เส้นทางสายนี้จะกลายเป็นเส้นทางรถไฟบรรทุกสินค้าซึ่งมีความยาวที่สุดในโลก (นับเฉพาะที่มีการเดินทางกันเป็นประจำ) ได้อย่างไม่ยากไม่เย็นอะไรเลย เพราะจะมีความยาวยิ่งกว่า “ทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย” (Trans-Siberian Railway) ซึ่งกลายเป็นตำนานไปแล้วถึงราว 40% ทีเดียว สินค้าที่ลำเลียงในเส้นทางสายนี้ จะเดินทางข้ามประเทศจีนจากภาคตะวันออกสู่ภาคตะวันตก จากนั้นก็ผ่านคาซัคสถาน, รัสเซีย, เบลารุส, โปแลนด์, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, และไปถึงสเปนในท้ายที่สุด

    คุณๆ อาจจะนึกอะไรไม่ออกแม้สักน้อยนิดว่า เมืองอี้อู นี่อยู่ตรงไหน แต่สำหรับพวกนักธุรกิจซึ่งกำลังสาละวนอยู่กับการค้าขายข้ามยูเรเชีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกที่มาจากโลกอาหรับด้วยแล้ว พวกเขาต่างยึดโยงผูกพันตัวเองเข้ากับเมือง “ที่กำลังเกิดสิ่งมหัศจรรย์!” แห่งนี้เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้เรากำลังพูดถึงเมืองที่เป็นศูนย์กลางค้าส่งขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับสินค้าผู้บริโภคขนาดเล็กๆ ทั้งหลาย ตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงของเด็กเล่น เป็นไปได้ทีเดียวว่ามันเป็นศูนย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกด้วยซ้ำ ไม่ใช่แค่เฉพาะในจีนเท่านั้น

    ทางรถไฟข้ามยูเรเชียเชื่อมต่อระหว่าง อี้อู-มาดริด สายนี้ เป็นตัวแทนการเริ่มต้นของโครงการการพัฒนาขนาดใหญ่โตมโหฬารชุดหนึ่ง ซึ่งมีศักยภาพที่จะพลิกเกมทำให้ความสัมพันธ์และการแข่งขันด้านต่างๆ ในโลกของเราต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ทางรถไฟสายนี้จะกลายเป็นช่องทางโลจิสติกส์ทรงประสิทธิภาพที่มีระยะยาวยาวเหยียดอย่างเหลือเชื่อ และก็จะเป็นตัวแทนของความคิดเชิงภูมิรัฐศาสตร์ชนิดที่คำนึงถึงมนุษย์ โดยเป็นการถักร้อยผู้ค้ารายเล็กๆ เข้ากับตลาดขนาดมหึมาข้ามผืนแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล นอกจากนั้น ทางรถไฟสายนี้ยังกลายเป็นตัวอย่างรูปธรรมของกระบวนการผนวกดินแดนมหาทวีปยูเรเชียเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ซึ่งเป็นกระบวนการที่กำลังดำเนินอยู่อย่างคึกคักในเวลานี้ และสิ่งสำคัญที่สุดยิ่งกว่าอื่นใด ทางรถไฟสายนี้คือส่วนประกอบส่วนแรกใน “เส้นทางสายไหมใหม่” (New Silk Road) ของจีน ซึ่งมองเห็นกันว่าเป็นโครงการแห่งคริสต์ศตวรรษที่ 21 อีกทั้งจะกลายเป็นเรื่องราวเล่าขานทางการค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกในระยะเวลาหลายๆ ทศวรรษข้างหน้า

    ในสหรัฐอเมริกาช่วงที่มีการบุกเบิกภาคตะวันตก วลีหนึ่งซึ่งถูกหยิบยกขึ้นมาพูดกันก็คือ “Go west, young man” อันเป็นการแนะนำคนหนุ่มสาวทั้งหลายให้เดินทางไปแสวงโชคยังดินแดนตะวันตก เราสามารถที่จะนำวลีนี้มาปรับใช้กับสถานการณ์ในปัจจุบันเช่นกัน คำแนะนำของผมสำหรับคนหนุ่มสาวชาวจีนฮั่นก็คือ “Go west, young Han” ในวันหนึ่งข้างหน้า ถ้าหากทุกสิ่งทุกอย่างบังเกิดขึ้นมาตามแผนการ (และเป็นไปตามความฝันอันบรรเจิดของคณะผู้นำของจีน) ทุกสิ่งทุกอย่างจะกลายเป็นของพวกคุณ และขนส่งโดยทางรถไฟไฮสปีดด้วย การเดินทางจากจีนไปยังยุโรปจะเป็นเรื่องที่ใช้เวลาเพียงแค่ 2 วัน ไม่ใช่ 21 วันอย่างในขณะนี้ อันที่จริงแล้ว ขณะที่ขบวนรถไฟสินค้าแล่นออกจากเมืองอี้อู ขบวนรถไฟความเร็วสูง D8602 ก็กำลังออกจากเมืองอูรุมชี (Urumqi) เมืองเอกของมณฑลซินเจียง (ซินเกียง) มุ่งหน้าไปยังเมืองฮามิ (Hami) เมืองที่อยู่ทางภาคตะวันตกสุดของประเทศจีน นั่นเป็นทางรถไฟไฮสปีดสายแรกที่สร้างขึ้นในซินเจียง และทางรถไฟทำนองเดียวกันนี้จะปรากฏออกมาเพิ่มขึ้นอีกในเร็วๆ นี้ตลอดทั่วทั้งประเทศจีน ด้วยอัตราความเร็วซึ่งน่าจะทำให้เกิดอาการคลื่นเหียนวิงเวียนได้ทีเดียว

    ทุกวันนี้ การค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์ (container trade การค้าแบบที่ขนส่งสินค้าด้วยการนำไปบรรจุในตู้คอนเทนเนอร์) ของทั่วโลก 90% ทีเดียวยังคงเดินทางขนส่งกันทางทะเล และนี่คือสิ่งที่ปักกิ่งมีแผนการที่จะเปลี่ยนแปลง โครงการเส้นทางสายไหมใหม่ของจีน ซึ่งยังอยู่ในขั้นเป็นตัวอ่อนในครรภ์และเดินหน้าไปค่อนข้างช้า จะกลายเป็นตัวอย่างแรกของการทะลุทะลวงกรอบเดิมๆ เพื่อไปสู่การปฏิวัติการค้าด้วยตู้คอนเทนเนอร์ ชนิดที่จะเดินทางข้ามทวีปกันด้วยเส้นทางบก ไม่ใช่ข้ามน้ำข้ามทะเลกันอีกต่อไป

    การปฏิวัติดังกล่าวนี้จะก่อให้เกิดข้อตกลงแบบ “วิน-วิน” ที่ทุกฝ่ายต่างได้ชัยชนะ ในอนาคตข้างหน้า เป็นต้นว่า ต้นทุนค่าขนส่งจะต่ำลง, พวกบริษัทก่อสร้างของจีนจะขยายตัวไกลออกไปอีกในบรรดาประเทศแถบเอเชียกลางที่มีชื่อลงท้ายว่า “สถาน” (stan) ทั้งหลาย ตลอดจนเข้าไปในยุโรป, ก่อให้เกิดเส้นทางที่สะดวกขึ้นและรวดเร็วขึ้นในการลำเลียงเคลื่อนย้ายแร่ยูเรเนียมและโลหะหายากทั้งหลายจากเอเชียกลางไปยังพื้นที่อื่นๆ ของโลก, และเป็นการเปิดตลาดใหม่ๆ จำนวนมากมายนับไม่ถ้วนซึ่งประกอบด้วยประชากรหลายร้อยล้านคน

    ดังนั้น ถ้าหากวอชิงตันมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการเข้าไป “ปักหมุดในเอเชีย” แล้ว จีนก็มีแผนการของตนเองอยู่ในใจเหมือนกัน ลองคิดดูเถอะ พวกเขาไม่ได้ “ปักหมุด” แต่กำลังเต้นระบำหมุนตัวอย่างเริงร่าเข้าไปในยุโรป โดยเดินทางตัดข้ามมหาทวีปยูเรเชีย

    เปลี่ยนข้างหันมาอยู่กับฝ่ายตะวันออกจะดีกว่าไหม?

    อัตราความเร็วที่สิ่งต่างๆ ทั้งหมดนี้กำลังบังเกิดขึ้น อยู่ในระดับที่น่าพิศวงงงงวย ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ประกาศเปิดตัว “แถบเศรษฐกิจเส้นทางสายไหมใหม่” (New Silk Road Economic Belt) ที่กรุงอัสตานา ประเทศคาซัคสถาน ในเดือนกันยายน 2013 อีก 1 เดือนถัดมา ขณะที่อยู่ในกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของอินโดนีเซีย เขาประกาศเรื่อง “เส้นทางสายไหมทางทะเลแห่งศตวรรษที่ 21” (21st-century Maritime Silk Road) ปักกิ่งให้คำนิยามสรุปแนวความคิดโดยองค์รวมที่อยู่เบื้องหลังการวางแผนของตนเหล่านี้เอาไว้ว่า คือ “หนึ่งเส้นทางและหนึ่งแถบเศรษฐกิจ” (one road and one belt) ขณะที่ในความเป็นจริงแล้วสิ่งที่จีนกำลังขบคิดอยู่ มีลักษณะเป็นพหุพจน์ มีลักษณะเป็นเครือข่ายอันสลับซับซ้อนชวนปวดเศียรเวียนเกล้า ของเส้นทางถนน, เส้นทางราง, เส้นทางเดินทะเล, และแถบเศรษฐกิจ จำนวนมากมาย ที่มีลู่ทางโอกาสจะจัดสร้างขึ้นมาและนำมาต่อเชื่อมกัน

    ดังนั้น สิ่งที่เรากำลังพูดกันอยู่จึงเป็นยุทธศาสตร์แห่งชาติซึ่งมีจุดมุ่งหมายที่จะอาศัยอิทธิพลบารมีในประวัติศาสตร์ของเส้นทางสายไหมโบราณ ซึ่งได้ทำหน้าที่เป็นสะพานและตัวเชื่อมต่ออารยธรรมต่างๆ ทั้งตะวันออกและตะวันตก ขณะเดียวกับที่สร้างพื้นฐานสำหรับการจัดตั้งเขตความร่วมมือทางเศรษฐกิจทั่วทั้งยูเรเซียขึ้นมา เขตดังกล่าวนี้อาจจะประกอบด้วยหลายๆ เขตที่มาต่อเชื่อมประสานเข้าด้วยกันจนกลายเป็นพื้นที่ขนาดกว้างขวางมหึมา ทั้งนี้คณะผู้นำจีนได้เปิดไฟเขียวให้จัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 40,000 ล้านดอลลาร์ขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว โดยที่มีธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศจีน (China Development Bank) เป็นผู้ทำหน้าที่กำกับดูแล กองทุนนี้จะสร้างถนน, ทางรถไฟความเร็วสูง, และสายท่อส่งน้ำมันและก๊าซ ผ่านกลุ่มมณฑลต่างๆ ของจีน ในไม่ช้าไม่นานกองทุนนี้ยังจะขยับขยายออกไปครอบคลุมสนับสนุนโครงการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่ในเอเชียใต้, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, ตะวันออกกลาง, ตลอดจนหลายๆ ส่วนของยุโรป อีกด้วย แต่ถึงอย่างไร เอเชียกลาง ก็จะเป็นเป้าหมายเฉพาะหน้าที่ถือว่าสำคัญที่สุด

    บริษัทจีนแห่งต่างๆ จะเข้าไปทำการลงทุน และไปเข้าร่วมการประมูลก่อสร้างจัดทำโครงการ ในประเทศต่างๆ หลายสิบประเทศซึ่งอยู่ตามแนวทางของเส้นทางสายไหมที่วางแผนกันเอาไว้เหล่านี้ หลังจากแดนมังกรผ่านช่วง 3 ทศวรรษแห่งการพัฒนา ซึ่งตลอดระยะเวลาดังกล่าวมีการดูดซับเงินลงทุนต่างประเทศด้วยอัตราความเร็วอย่างเร็วจี๋น่ากลัวมาก เวลานี้ยุทธศาสตร์ของจีนกำลังปรับเปลี่ยนไปเป็นตรงกันข้าม ด้วยการเปิดไฟเขียวอนุญาตให้เงินทุนของแดนมังกรเอง หลั่งไหลออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งนี้บริษัทจีนเป็นผู้ชนะประมูลได้ทำสัญญาด้านต่างๆ คิดเป็นมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แล้วในคาซัคสถาน และได้อีกประมาณ 15,000 ล้านดอลลาร์ในอุซเบกิสถาน นอกจากนั้นจีนยังให้เงินกู้ 8,000 ล้านดอลลาร์แก่เติร์กเมนิสถาน และอีก 1,000 ล้านดอลลาร์แก่ทาจิกิสถาน

    ในปี 2013 ความสัมพันธ์ที่แดนมังกรมีอยู่กับคีร์กิซสถาน ได้รับการอัปเกรดขึ้นสู่ระดับที่ฝ่ายจีนใช้คำว่า “ระดับยุทธศาสตร์” ขณะเดียวกัน จีนก็กลายเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของประเทศ เหล่านี้ทุกๆ ราย ยกเว้นเฉพาะอุซเบกิสถานเท่านั้น และถึงแม้อดีตสาธารณรัฐสังคมนิยมของสหภาพโซเวียตในเอเชียกลางเหล่านี้ ยังมีข้อผูกพันกับเครือข่ายสายท่อส่งน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย แต่จีนก็ไปทำงานในประเทศเหล่านี้ด้วย โดยกำลังสร้างเครือข่ายสายท่อส่งของตนเองขึ้นมา รวมทั้งสายท่อส่งก๊าซสายใหม่ที่ต่อไปจนถึงเติร์กเมนิสถาน และก็ยังจะมีโครงการทำนองนี้ติดตามออกมาเพิ่มขึ้นอีก

    เราสามารถคาดหมายได้เลยว่า การแข่งขันกันในระหว่างมณฑลต่างๆ ของจีน เพื่อให้ได้ส่วนแบ่งมากๆ จากธุรกิจเหล่านี้ ตลอดจนส่วนแบ่งโครงการทางด้านโครงสร้างพื้นฐานซึ่งจะติดตามมากับธุรกิจ จะต้องดำเนินไปด้วยความดุเดือดอย่างแน่นอน ซินเจียงนั้นกำลังได้รับการจัดวางจากปักกิ่งอีกครั้งหนึ่งแล้ว เพื่อให้อยู่ในฐานะศูนย์สำคัญแห่งหนึ่งภายในเครือข่ายยูเรเชียใหม่ของแดนมังกร ส่วนกวางตุ้งที่มีฉายาว่า “โรงงานของโลก” เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนปีนี้ ได้รับโอกาสให้เป็นเจ้าภาพจัดงานนิทรรศการนานาชาติครั้งแรกซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับเส้นทางสายไหมทางทะเลของประเทศจีน และปรากฏว่ามีตัวแทนชาติต่างๆ ไปเข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่า 42 ประเทศ

    ตัวประธานาธิบดีสี ในขณะนี้กำลังกระตือรือร้นที่จะเสนอขายมณฑลบ้านเกิดของเขา ซึ่งคือมณฑลซานซี เพื่อให้เป็นศูนย์กลางการขนส่งศูนย์หนึ่งของศตวรรษที่ 21 ทั้งนี้ในอดีต เมืองซีอาน ที่เป็นเมืองเอกของมณฑลซานซี ก็เคยเป็นจุดตั้งตนของเส้นทางสายไหมในประวัติศาสตร์มาแล้ว สี กำลังทำให้เส้นทางสายไหมใหม่ของเขาบรรจุเอาซานซีเข้าไปอยู่ในแนวเส้นทางด้วย เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ อีกหลายๆ ราย ไม่ว่าจะเป็น ทาจิกิสถาน, มัลดีฟส์, ศรีลังกา, อินเดีย, และ อัฟกานิสถาน

    ทำนองเดียวกับเส้นทางสายไหมในประวัติศาสตร์ เวลาที่เราคิดถึงเส้นทางสายไหมใหม่ ก็จำเป็นจะต้องนึกคิดในลักษณะที่มันเป็นพหุพจน์ เราจะต้องวาดภาพจินตนาการว่ามันจะมีลักษณะเป็นเครือข่ายเส้นทางถนน, เส้นทางราง, และสายท่อส่ง ที่มีเส้นแยกอยู่มากมาย ส่วนที่เป็นเส้นทางสายหลักส่วนหนึ่งจะวิ่งผ่านทะลุเอเชียกลาง, อิหร่าน, และตุรกี โดยที่มีนครอิสตันบูลเป็นจุดทางแยกที่อาจต่อเชื่อมไปยังที่อื่นๆ ต่อไปอีก ทั้งนี้ อิหร่านและเอเชียกลาง ต่างกำลังส่งเสริมสนับสนุนเส้นทางแยกที่ประเทศตนจะไปเชื่อมกับอิสตันบูลกันแล้วอย่างกระตือรือร้น

    ส่วนของเส้นทางสายหลักอีกส่วนหนึ่ง จะเดินไปตามทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรีย โดยที่มีกรุงมอสโกเป็นข้อต่อที่สำคัญ ทันทีที่การรีมิกซ์เส้นทางรางสายทรานส์ไซบีเรียให้กลายเป็นทางรถไฟไฮสปีดสำเร็จสมบูรณ์ การเดินทางระหว่างปักกิ่งกับมอสโกก็จะใช้เวลาลดฮวบลงจาก 6 วันครึ่งในปัจจุบัน เหลือเพียงแค่ 33 ชั่วโมงเท่านั้น ในท้ายที่สุด เมืองรอตเตอร์ดัม, ดุยสบวร์ก, และเบอร์ลิน ก็อาจจะกลายเป็นข้อต่อของ “ทางหลวง” แห่งอนาคตนี้ไปทั้งหมด โดยที่พวกผู้บริหารของภาคธุรกิจชาวเยอรมันกำลังแสดงความกระตือรือร้นเกี่ยวกับโอกาสลู่ทางในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

    สำหรับเส้นทางสายไหมทางทะเลจะเริ่มต้นในมณฑลกวางตุ้ง จากนั้นก็ต่อไปยังช่องแคบมะละกา, มหาสมุทรอินเดีย, จะงอยแอฟริกา (Horn of Africa), ทะเลแดง, และทะเลเมดิเตอร์เรเนียน โดยไปสิ้นสุดกันที่นครเวนิส ประเทศอิตาลี ซึ่งถือว่าเป็นการลงเอยที่ยุติธรรมและงดงามมาก เมื่อเราลองคิดดูว่า นี่คือการเดินทางย้อนรอยเส้นทางของมาร์โค โปโล (Marco Polo) นั่นเอง

    ทั้งหมดเหล่านี้ได้รับการกำหนดกรอบเวลาให้เสร็จสิ้นภายในปี 2025 ระหว่างการดำเนินโครงการอันใหญ่โตมโหฬารนี้ ก็เป็นโอกาสที่จีนจะได้สั่งสมสร้าง “อำนาจละมุน” (soft power) ในอนาคตไปด้วย อำนาจชนิดนี้เองที่จีนในปัจจุบันยังคงขาดแคลนอย่างสาหัส เมื่อตอนที่ประธานาธิบดีสี ประกาศว่าจะผลักดันให้ “ทลายส่วนตีบตันที่กำลังขัดขวางการติดต่อเชื่อมโยง” ตลอดทั่วทั้งเอเชียนั้น เขาก็ให้คำมั่นสัญญาไปด้วยว่า จีนจะให้สินเชื่อเพื่อการนี้แก่ประเทศต่างๆ จำนวนมาก

    คราวนี้ เมื่อเราเอายุทธศาสตร์เส้นทางสายไหมใหม่นี้ มาผสมเข้ากับความร่วมมือที่กำลังเพิ่มมากขึ้นในระหว่างพวกประเทศกลุ่มบริกส์ (BRICS อันได้แก่ บราซิล, รัสเซีย, อินเดีย, จีน, และแอฟริกาใต้) แล้วบวกด้วยความร่วมมือที่กำลังยกระดับขึ้นในหมู่สมาชิกขององค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (Shanghai Cooperation Organization ใช้อักษรย่อว่า SCO) และรวมเข้ากับการที่จีนกำลังมีบทบาทและอิทธิพลเพิ่มมากขึ้นในหมู่ 120 สมาชิกของขบวนการไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (Non-Aligned Movement หรือ NAM) ก็ทำให้ไม่มีอะไรน่าแปลกใจเลย ที่ในตลอดทั่วทั้งกลุ่ม “Global South” (บรรดาประเทศกำลังพัฒนาทั่วโลก) กำลังมีความรับรู้ความเข้าใจกัน ว่า ขณะที่สหรัฐฯยังคงยุ่งเกี่ยวพัวพันอยู่ในสงครามอันไม่จบไม่สิ้นของตนอยู่นั้น โลกก็กำลังพากันเปลี่ยนข้างหันมาอยู่กับฝ่ายตะวันออก

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pst Nong ได้แชร์รูปภาพของ Bank of Thailand Scholarship Students

    [​IMG]

    (Dec 22) จีนยินดีให้ความช่วยเหลือรัสเซีย หลังเงินรูเบิลร่วงหนัก : นายหวัง ยี่ รมว.ต่างประเทศจีน เปิดเผยว่า จีนยินดีจะให้ความช่วยเหลือแก่รัสเซีย หลังจากที่สกุลเงินรูเบิลของรัสเซียอ่อนค่าลงอย่างหนัก ขณะที่ทางการรัสเซียเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากสหรัฐและยุโรป

    นายหวังกล่าวในช่วงสุดสัปดาห์ว่า จีนมีความเชื่อมั่นว่ารัสเซียมีศักยภาพที่จะแก้ไขปัญหาการดิ่งลงของค่าเงินรูเบิลได้ โดยรูเบิลได้แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของรัสเซีย ได้ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง

    สถานีโทรทัศน์ของฮ่องกงรายงานว่า นายหวังกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หากรัสเซียต้องการความช่วยเหลือ จีนก็จะให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นภายในขอบเขตศักยภาพของประเทศ

    อย่างไรก็ตาม รมว.ต่างประเทศจีนไม่ได้ระบุรายละเอียดความช่วยเหลือ หรือข้อเสนอที่เฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด

    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล

    ภาพจาก Bloomberg
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    22 ธ.ค. ระทึก! หนุ่มใหญ่ตะโกน “อัลลอฮุอักบัร” ขับรถพุ่งใส่ทางเท้าในฝรั่งเศส- บาดเจ็บ 11 สาหัส 2 ราย

    [​IMG]

    เกิดเหตุคนร้ายตะโกน “อัลลอฮุอักบัร” (อัลเลาะห์ทรงยิ่งใหญ่) ขับรถพุ่งใส่ทางเท้าในเมืองดิฌง (Dijon) ทางภาคตะวันออกของฝรั่งเศส ส่งผลให้มีคนเดินเท้าได้รับบาดเจ็บ 11 คน เมื่อวานนี้(21ธ.ค.) โดยก่อนหน้านั้นเพียง 1 วันก็มีชายอีกคนที่ถูกยิงเสียชีวิตเพราะถือมีดไล่แทงตำรวจ และป่าวร้องถ้อยคำเดียวกัน

    ตำรวจระบุว่า เหยื่อที่ถูกรถชน 2 รายได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่วนตัวคนขับถูกจับกุมแล้ว

    “ชายซึ่งเกิดในปี 1974 คนนั้นมีสติไม่สมประกอบ และเคยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจิตเวชมาก่อน” แหล่งข่าวใกล้ชิดพนักงานสอบสวนให้สัมภาษณ์ พร้อมระบุว่า “เวลานี้เรายังไม่ทราบแรงจูงใจที่ชัดเจน”

    แหล่งข่าวคนเดิมบอกว่า ชายคนนี้ขับรถพุ่งใส่คนเดินเท้า 5 จุดรอบๆ เมืองดิฌง โดยใช้เวลาปฏิบัติการประมาณครึ่งชั่วโมง

    “มีผู้บาดเจ็บเล็กน้อย 9 คน ส่วนอีก 2 คนอาการสาหัส แต่ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต” เขากล่าว

    เจ้าหน้าที่ในแวดวงสอบสวนอีกคนเปิดเผยว่า ผู้เห็นเหตุการณ์แจ้งต่อตำรวจว่าคนขับรถรายนี้ตะโกน “อัลลอฮุอักบัร” และประกาศว่าลงมือ “เพื่อเด็กๆ ในปาเลสไตน์”

    นายกรัฐมนตรี มานูเอล วอลลส์ แห่งฝรั่งเศส ได้โพสต์ทวิตเตอร์ให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้

    ก่อนหน้านั้น 1 วัน ชายชาวฝรั่งเศสเชื้อสายบุรุนดีซึ่งเพิ่งเปลี่ยนไปนับถืออิสลามก็ถูกยิงเสียชีวิตขณะถือมีดเข้าทำร้ายตำรวจที่เมือง ฌู-เลส์-ตูร์ (Joue-les-Tours) และได้ตะโกนคำว่า “อัลลอฮุอักบัร” เช่นกัน

    คนร้ายซึ่งมีชื่อว่า แบร์ทรองด์ โซอาโบนาโย วัย 20 ปี ใช้มีดฟันเข้าที่ใบหน้าตำรวจ 1 นาย และทำให้ตำรวจอีกนายได้รับบาดเจ็บ

    เหตุการณ์นี้ได้ทำให้รัฐบาลฝรั่งเศสสั่งเพิ่มมาตรการเฝ้าระวังสถานีตำรวจ และสถานีดับเพลิงทั่วประเทศ

    โซฮาโบนาโย ไม่ได้มีชื่ออยู่ในบัญชีเฝ้าระวังของตำรวจฝรั่งเศสแม้จะเคยก่อคดีลหุโทษหลายครั้ง ทว่าพี่ชายของเขาเป็นที่ทราบว่ามีแนวคิดหัวรุนแรง และเคยวางแผนเดินทางไปซีเรีย

    แผนกต่อต้านการก่อการร้ายของสำนักงานอัยการฝรั่งเศสได้ตั้งทีมสอบสวนคดีดังกล่าว เพื่อระบุให้แน่ชัดว่าเป็นการกระทำซึ่งเกิดจากค่านิยมอิสลามแบบสุดโต่งหรือไม่

    ทางการเมืองน้ำหอมเชื่อว่า มีพลเมืองหรือผู้พำนักในฝรั่งเศสราว 1,200 คนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายนักรบญิฮาดในอิรักและซีเรีย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

    เหตุบุกจี้ตัวประกันที่นครซิดนีย์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วทำให้รัฐบาลทั่วโลกหันมาตระหนักถึงภัยคุกคามของพวก “หมาป่าโดดเดี่ยว” (lone-wolf attacks) ซึ่งอาจจะเป็นพลเมืองที่เดินทางไปร่วมต่อสู้กับนักรบญิฮาดในต่างแดนและกลับมาวางแผนทำลายบ้านเกิด หรือไม่ก็บุคคลที่คล้อยตามแนวคิดของกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งเรียกร้องให้ชาวมุสลิมก่อเหตุรุนแรงในประเทศที่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรต่อต้านไอเอส

    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Kaokala Fc
    23 ธ.ค. เหมืองรัสเซียพบหินประหลาด!! มีเพชรเม็ดเล็กๆ 30,000เม็ด มากกว่าปกติ 1 ล้านเท่า!

    [​IMG]

    คนงานเหมืองเพชร อูดัชนายา ในเมือง อัลโรซา ทางตอนเหนือของรัสเซีย ขุดพบหินประหลาดมีแดงแกมเขียวขนาดความกว้างเพียง 30 มิลลิเมตร แต่ที่แตกต่างออกไปจากที่เคยขุดพบมาคือ ภายในหินก้อนเล็กๆ นั้นมีเพชรอยู่ภายในมากถึง 30,000 เม็ด ที่ถือเป็นปริมาณเพชรที่เข้มข้นมากกว่าปกติถึง 1 ล้านเท่าเลยทีเดียว

    เหมืองเพชรดังกล่าวมอบก้อนหินก้อนนี้ให้กับสถาบันวิทยาศาสตร์แห่งรัสเซียไว้เพื่อการศึกษา เนื่องจากแม้จะมีเพชรอยู่มากมายก็จริง แต่ก็เป็นเพชรขนาดเล็กที่ไม่สามารถนำมาใช้ในเชิงพาณิชย์ได้

    หลังจากนักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบด้วยการสแกนหินประหลาดดังกล่าวด้วยเครื่องเอกซเรย์ พบว่า เพชรแต่ละเม็ดภายในหินก้อนนี้มีขนาดเพียง 1 มิลลิเมตร และอยู่ในรูปทรงแปดเหลี่ยมที่เหมือนกับเอาปิรามิด 2 ชิ้นมาประกบเข้าด้วยกันบริเวณฐานทั้งหมด สีแดงและสีเขียวนั้นเกิดจากสีของผลึกขนาดใหญ่กว่า ที่เป็นผลึกการ์เนต, โอลิวีน และไพร็อกซีน

    ลาร์รี เทย์เลอร์ นักธรณีวิทยาจากมหาวิทยาลัยเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมตรวจสอบหินประหลาดนี้ ระบุว่ามันประหลาดและชวนตื่นเต้นเนื่องจากมีเพชรเล็กๆ ในรูปทรงแปดเหลี่ยมสมบูรณ์เต็มไปหมด แต่ไม่ใช่เพชรเม็ดใหญ่เม็ดเดียว เทย์เลอร์เชื่อว่าเพชรทั้งหมดจะต้องก่อรูปขึ้นพร้อมๆ กันในคราวเดียว และมีคุณค่าในเชิงการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจกระบวนการเกิดเพชรซึ่งยังไม่รู้กันชัดเจนนัก

    ทั้งนี้ แม้ว่าจะเป็นที่รู้กันดีว่าเพชรเป็นผลึกของคาร์บอนบริสุทธิ์ ที่เกิดขึ้นเมื่ออยู่ภายใต้แรงกดดันและความร้อนมหาศาล

    แต่นักวิทยาศาสตร์ยังไม่รู้ว่า ปฏิกิริยาทางเคมีที่เป็นที่มาของเพชรนั้นเป็นอย่างไร

    หินประหลาด!! มีเพชร30,000เม็ด มากกว่าปกติ 1 ล้านเท่า! : มติชนออนไลน์
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พู่กัน ทอง ได้แชร์รูปภาพของ บีบีซีไทย - BBC Thai

    เกาหลีเหนือทำสงครามคำพูดขู่จะโจมตีสหรัฐ

    [​IMG]

    เกาหลีเหนือออกแถลงการณ์ขู่ว่าจะโจมตีทั้งทำเนียบขาว กระทรวงกลาโหม “แผ่นดินสหรัฐทั้งหมด” และทำสงครามทุกรูปแบบรวมทั้งสงครามทางไซเบอร์

    สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือเป็นผู้เผยแพร่แถลงการณ์ดังกล่าวที่ออกมาสองสามวันหลังจากที่สหรัฐกล่าวหาเกาหลีเหนืออย่างเป็นทางการว่าโจมตีทางไซเบอร์ล้วงข้อมูลบริษัทโซนี พิคเจอร์ส จนทำให้ต้องระงับการฉายภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับการสังหารนายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ซึ่งเกาหลีเหนือปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีดังกล่าว

    สตีเฟน อีวานส์ ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำเกาหลีใต้ บอกว่าเป็นปกติอยู่แล้วที่เกาหลีเหนือมักจะใช้ถ้อยคำรุนแรงทำนองนี้ตอบโต้กับทั้งสหรัฐและเกาหลีใต้ และเป้าประสงค์ของเกาหลีเหนือก็เพื่อให้คนทั้งในและนอกประเทศได้รับรู้ อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ล่าสุดนี้มีน้ำหนัก เพราะมาจากคณะกรรมาธิการด้านกลาโหม ซึ่งมีนายคิม จอง อึน นั่งเป็นประธาน

    ผู้สื่อข่าวบีบีซีบอกว่ารายละเอียดในแถลงการณ์เกาหลีเหนือมีข้อโต้แย้งอยู่สองประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้น คือ “เกาหลีเหนือไม่ได้ทำ” และ “ใครก็ตามที่ทำเรื่องนี้ถือว่าทำถูกต้องแล้ว”

    แถลงการณ์ยังให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่เอฟบีไอระบุว่ามีรหัสทางคอมพิวเตอร์ที่บ่งชี้ว่าเกาหลีเหนืออยู่เบื้องหลังการโจมตีบริษัทโซนีฯ แต่เกาหลีเหนือบอกว่ารหัสคอมพิวเตอร์ที่ว่าเป็นรหัสที่ใช้กันทั่วไปไม่ได้พิสูจน์ว่าเกาหลีเหนือเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

    ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐ ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นว่า กำลังพิจารณาว่าจะขึ้นชื่อเกาหลีเหนือในบัญชีรายชื่อรัฐที่สนับสนุนก่อการร้ายอีกครั้ง หรือไม่ ทั้งนี้ เกาหลีเหนือเคยถูกสหรัฐขึ้นชื่อในบัญชีรัฐที่สนับสนุนการก่อการร้ายมาเป็นเวลาถึงยี่สิบปี ก่อนที่จะได้รับการลบชื่อออกเมื่อปี 2551 หลังเกาหลีเหนือยินยอมให้นานาชาติเข้าตรวจสอบสถานที่ดำเนินกิจกรรมทางนิวเคลียร์อย่างเต็มรูปแบบ
    #SonyPictures#NorthKorea
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Krispy Kreme
    ปรากฏการณ์ Pancake ice เกิดขึ้นในทะเลสาบประเทศสกอตแลนด์

    [​IMG]
    .
    นักวิทยาศาสตร์จาก The River Dee ได้เดินทางไปพบปรากฏการณ์ Pancake ice ในวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา บริเวณ Lummels Pool ในเมืองแอเบอร์ดีน ประเทศสกอตแลนด์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะมีขนาดเท่าจานอาหาร
    สำหรับปรากฏการณ์ Pancake iceเกิดขึ้นมาจากการจับตัวของน้ำที่เย็นจัดก่อตัวจนกลายเป็นแผ่นๆ ซึ่งจะมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตั้งแต่ 30- 300 เซนติเมตร มีความหนาได้ถึง 10 เซนติเมตร ทั้งขนาดและความหนาขึ้นอยู่กับสภาวะแวดล้อมของแต่ละสถานที่
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศิษย์อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร
    ดาวมฤตยูวิกลคติเพื่อที่จะเดินในวิถีจักรปกติ ณ ราศีมิน ที่ ๑๘ องศา ๓๐ ลิปดา

    [​IMG]

    ปฏิทินโหราศาสตร์ประจำปี ๒๕๕๗ ตามแนวทางท่าน อ.เทพย์ สาริกบุตร กล่าวไว้ว่า ช่วงระยะ ๑๐-๑๑ วันนี้ (ทั่วโลก) มักมีภัยพิบัติทางน้ำ อุบัติเหตุใหญ่และอัคคีภัย ฯลฯ

    โดยในวันนี้ (๒๒ ธค.๒๕๕๗) นอกจากดาวมฤตยูวิกลคติแล้ว ดาวจันทร์ยังอมาวสี (ดับ) ที่ ๖ องศาเศษ ในราศีธนู

    เราท่านที่มีลัคนา, ดาวสำคัญ, จุดศูนย์กลางภพ ,ราหูสารัมภ์ ในตำแหน่งดังกล่าว (ราศีมินและราศีกันย์ สำหรับดาวมฤตยู และราศีธนูสำหรับดาวจันทร์ดับ) ให้พึงระมัดระวังอุปัทวอันตรายให้จงหนัก โดยดาวมฤตยูอยู่ห่างจากโลกมาก ดังนั้นระยะเวลาในการวิกลคติเพื่อที่จะเปลี่ยนวิถีจักร จึงใช้เวลานาน

    ขณะนี้ ดาวพฤหัสบดี ดาวเกษตร์ประจำทั้งสองราศี ยังคงโคจรพักรถอยหลังอยู่ในนวางค์ขาด ซึ่งอ่อนกำลัง ดังนั้น อย่าได้ตั่งตนในความประมาทเด็ดขาด

    การมีสติ การสวดมนต์ภาวนา ทำสมาธิ คงจะบรรเทาทุกข์โทษไปได้บ้างพอควร

    admin ดิลก แสงอุทัย
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Boon Ratarasarn ได้แชร์รูปภาพของ พิรัตน์ โลกาพัฒนา

    [​IMG]

    สาธารณสุข แนะวิธีการเล่นหิมะเกลือบริสุทธิ์ ณ บริเวณ Think Park ถนนมานเหมินท์
    นายแพทย์ไพศาล ธัญญาวินิชกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึง โครงการ Think Park บริเวณสี่แยกรินคำ ถนนนิมมานเหมินท์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ได้จัดกิจกรรมต้อนรับนักท่องเที่ยวภายใต้ชื่อว่า นิมมาน Nimman Snow Festival หรือเมืองหิมะ ด้วยการนำเกลือบริสุทธิ์ หลายพันกระสอบ น้ำหนักรวมหลายสิบตันมาเทลงบนพื้นจำลองตุ๊กตาหิมะและเกล็ดหิมะ ตั้งแต่เย็นวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา และจัดไปจนถึงวันที่ 4 มกราคม 2558
    ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าเป็น เกลือบริสุทธิ์แบบแห้ง 99.85 % ( Refined Salt ) ไม่มีไอโอดีนมีความชื้น 0.15 % เป็นเกลือบริสุทธิ์ มีความเด่นในด้านมีสีขาวความสะอาด ปราศจากสีเจือปน และจุลินทรีย์ ส่วนใหญ่ใช้ประโยชน์ในโรงงานอุตสาหกรรม ใช้ทางยา แต่หากนำมาเป็นหิมะกลางแจ้ง อาจทำให้เกิดการปนเปื้อนได้จากสิ่งแวดล้อมและจากการเหยียบย่ำของประชาชน เนื่องจากเกลือมีความเค็มสูง และฝุ่น / กลิ่น จาก ไอระเหยของเกลือ อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมได้ ฉะนั้นในการเล่นควรเล่นอย่างระมัดระวัง
    ตามข้อแนะนำ ดังนี้
    1. เด็กเล็กๆควรระมัดระวังไอระเหยจากเกลือที่สูดดมเข้าไป ไม่ควรปล่อยให้เด็กเล็กเล่นตามลำพัง และไม่ควรเล่นนานเกิน 30 นาที
    2. ควรระมัดระวังไม่ให้เกลือเข้าปาก / จมูก หากมีบาดแผลที่มือ เท้า แขน ขา ควรปิดพลาสเตอร์ ก่อนการเล่น
    3. ควรสวมรองเท้าขณะเล่นหิมะเกลือ เพื่อป้องกันการปนเปื้อน
    4. ไม่ควรนำอาหาร / เครื่องดื่ม เข้าไปในบริเวณที่มีหิมะเกลือ เพราะอาจจะหกโดนเกลือ ทำให้เกลือ ละลายปนเปื้อน น้ำ / อาหาร สู่คนได้
    5. ควรสวมเสื้อผ้าที่มิดชิด ป้องกันการสัมผัสโดยตรงกับผิวหนัง
    6. ไม่ควรเล่นหรืออยู่ในบริเวณที่มีเกลือหิมะนานเกิน 1 ชั่วโมง เพราะไอระเหยของเกลือจะกระทบ กับระบบหายใจ ทำให้แสบคอ จมูก และแสบตาได้ หากมีอาการดังกล่าวให้รีบออกจากสวน
    หิมะเกลือโดยเร็ว และให้กลั้วคอด้วยน้ำสะอาดทันที
    7. ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ภูมิแพ้ ความดันโลหิตสูง ฯลฯควรหลีกเลี่ยงการเล่นและอยู่ในบริเวณที่มีไอ ระเหยของเกลือหิมะ หากมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่ออก เหนื่อยหอบ ให้รีบออกจากบริเวณดังกล่าวโดยเร็วและให้กลั้วคอด้วยน้ำสะอาด ทันที่ 2 – 3 ครั้ง หรือจนกว่าจะมีอาการดีขึ้น
    ข้อควรระมัดระวัง ควรเล่นด้วยความระมัดระวังตามข้อแนะนำ
    ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
    0 5321 1048-50
    ข่าววันที่ 22 ธันวาคม 2558
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักเคมี ชี้ไม่มีที่ไหนในโลกใช้เกลือทำหิมะเทียม เหตุตัวเร่งปฏิกิริยาเกิดสนิม
    เขียนวันที่ วันจันทร์ ที่ 22 ธันวาคม 2557 เวลา 13:25 น.เขียนโดยisranewsหมวดหมู่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม | ข่าว |

    [​IMG]

    เกลือเป็นเหตุ!! นักเคมี ยันไม่มีที่ไหนในโลกทำหิมะเทียม เหตุเป็นตัวเร่งให้เกิดสนิม ชี้พ่อแม่จูงลูกหลานเข้าสัมผัสอาจระคายเคืองผิวหนังได้ แนะวิธีทำความสะอาดดูด-ตักไปทิ้งเท่านั้น ห้ามล้างหวั่นกระทบพื้นที่เกษตรฯ กระชังเลี้ยงปลา

    จากกรณีที่ศูนย์การค้า Think Park บริเวณสี่แยกรินคำ ถนนนิมมานเหมินท์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จัดกิจกรรมต้อนรับเทศกาลปีใหม่ภายใต้ชื่อ Nimman Snow Festival @Think Park โดยนายตัน ภาสกรนที นำเกลือบริสุทธิ์มาทำหิมะเทียม จนหลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมนั้น

    สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ออกมาระบุ การนำเกลือ 230 ตันมาสร้างหิมะ หากเก็บกวาดไม่หมด หรือมีการล้างพื้นทำความสะอาด เกลือจะแพร่กระจาย ลงท่อระบายน้ำ แค่ 1 ใน 4 ก็เท่ากับ 10-50 ตัน ระบายลงคูเมือง และระบายต่อลงแม่น้ำปิง จากแม่น้ำปิงลงไปเจอฝายผันเข้าคลองซอยเข้าพื้นที่เกษตรกรรมทางฟากลำพูน น้ำที่มีสารละลายเกลือมากกว่าปรกติมีผลเสียกับพื้นที่เกษตรกรรม โดยจะทำให้เกิดภาวะดินเค็มเหมือนในพื้นที่ภาคอีสาน ฟื้นฟูยาก หรือแม้การระบายน้ำไม่เข้าคลองซอย ก็เจอกระชังเลี้ยงปลา อาจทำให้ปลาตายยกกระชังได้

    พร้อมกันนี้ สมาคมต่อต้านภาวะโลกร้อน ยังเรียกร้องให้นายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ ออกมารับผิดชอบต่อเรื่องดังกล่าว

    ด้านรศ. ดร. วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ด้านเคมีอินทรีย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวกับสำนักข่าวอิศราถึงการนำเกลือจำนวนมหาศาลมาทำหิมะเทียมว่า ในวงการสื่อโฆษณา จะเน้นการสร้างภาพ ดังนั้นการนำเกลือมาทำหิมะเทียมในสื่อโฆษณาก็เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ไม่ได้นำมาใช้ในชีวิตจริง ที่มีพ่อแม่ผู้ปกครองจูงมือลูกหลานเข้าไปชมดินแดนหิมะเกลือ

    อาจารย์ด้านเคมีอินทรีย์ มก. กล่าวว่า เกลือที่นำมาทำหิมะเทียมมหาศาลนั้น นักเคมีเรียกว่า Sodium Chloride (NaCl) แม้จากข้อมูลไม่เป็นพิษต่อมนุษย์ แต่ทำให้เกิดความระคายเคือง และหากมีการชำระล้างเกลือลงแหล่งน้ำ อาจทำให้ปลาน้ำจืดตายได้

    สำหรับผลกระทบต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น รศ. ดร. วีรชัย กล่าวว่า คือ การระคายเคืองต่อตา อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง ซึ่งไม่ควรให้เด็กได้สัมผัส หรือกินเข้าไป เพราะอาจระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารด้วย หรือแม้แต่การสูดดมก็อาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินหายใจได้เช่นกัน

    “ทางเคมีอีกด้านที่น่าห่วงคือ เกลือมีผลกระทบสูงต่อสภาพแวดล้อมข้างเคียง เพราะเกลือ หรือ Salt (Sodium Chloride, NaCl) เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาในการเกิดสนิม การเกิดสนิมเป็นปฏิกิริยาอ๊อกซิเดชันของเหล็ก และเกลือเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาการเกิดสนิมชั้นเยี่ยม หรือแม้แต่รถที่เพียงขับผ่านไปมา”

    อาจารย์ด้านเคมีอินทรีย์ มก. กล่าวถึงการใช้เกลือในต่างประเทศ อย่างดูไบ ทำหิมะเทียมจะนำกล็ดน้ำแข็งจริงๆมาทำ ส่วนนิวยอร์ก สหรัฐฯ ก็ใช้เกลือเพื่อช่วยละลายหิมะตามถนน แต่เมื่อพบ ทำให้รถที่สัญจรไปมาเกิดสนิมเร็วขึ้น ต่อมาก็มีการยกเลิกใช้เกลือละลายหิมะ ไปใช้สารเคมีตัวอื่น

    ส่วนวิธีการทำความสะอาดนั้น รศ. ดร. วีรชัย กล่าวว่า ต้องดูดออกไป หรือ ตักไปทิ้งเท่านั้น ห้ามล้าง ให้เช็ดออก และนำน้ำที่เช็ดล้าง ไปทิ้งที่อื่นด้วย

    ขณะที่นายตัน โพสต์ข้อความลงเฟชบุคส่วนตัว ชี้แจงเรื่องเกี่ยวกับหิมะเทียมที่ใช้ในการจัดงาน Nimman snow festival ว่า หิมะทั้งหมดคือ “refined salt” เกลือบริสุทธิ์ใช้เป็นปกติในงานถ่ายโฆษณา ตอนถ่าย “อิชิตันทัวร์ยกแก๊งฮอกไกโด” ปีก่อนก็ใช้เกลือแบบเดียวกัน "ผมกับทีมนอนคลุกอยู่ 2 วันเต็มๆ การจัดงานครั้งนี้ควบคุมด้วยทีมงานมืออาชีพ หลังใช้งานเสร็จจะจัดเก็บเกลือทั้งหมดส่งคืนกลับไปให้ผู้ขายเอาไปกำจัดอย่างถูกวิธี หรือนำไปใช้ในอุตสาหกรรมบำบัดน้ำเสีย บ่อกุ้ง ฯลฯ ใต้เกลือในพื้นที่จัดงานรองด้วยพลาสติคเพื่อปิดฝาท่อระบายน้ำทั้งหมดมิดชิดมั่นใจได้"

    ล่าสุด ทีมงานโรงแรมอีสตินตัน และ think park ทั้งหมดกำลังเร่งทำความสะอาด ดูดฝุ่นบริเวณฟุตบาท ผิวถนนไม่ให้เกลือปลิวไปในพื้นที่สาธารณะ และกำลังเร่งปูหญ้าเทียมรอบบริเวณให้เสร็จ เพื่อป้องกันไม่ให้หิมะเทียมลงสู่ถนน

    http://www.isranews.org/thaireform-...299-sodium-chloride.html#.VJfHBD5WcVk.twitter
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โจพุฒิพงศ์ ก้อนวิมล

    [​IMG]

    วันนี้22 ธันวาคม 2014 เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่าจุดเหมายัน (เห-มา-ยัน) หรือ ทักษิณายัน เป็นปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ ที่เกิดขึ้นในซีกโลกด้านเหนือ คือโลกจะเอียงหนีจากแสงอาทิตย์มากที่สุดในรอบปีทำให้เกิดฤดูหนาว ภาษาไทยโบราณเรียกว่า “ตะวันอ้อมข้าว” ดวงอาทิตย์อยู่ในตำแหน่งต่ำมากทางทิศใต้ เป็นเหตุให้ “วันนี้กลางวันจะสั้นที่สุด” และแน่นอนในทางกลับกัน “วันนี้จะเป็นวันที่มีกลางคืนยาวที่สุด”
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    PlSk M Veev

    ธนาคารรัสเซียจ่อล้มละลาย ปชช.แห่ถอนเงินสด หลังศก.วิกฤต"รูเบิลดิ่งเหว"
    updated: 23 ธ.ค. 2557 เวลา 14:39:57 น.
    ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

    [​IMG]

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.ว่า ธนาคาร"Trust Bank"ของรัสเซีย ได้ประสบภาวะใกล้ล้มละลายแล้ว หลังจากเจอสถานการณ์ผู้คนแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร จากวิกฤตสถานการณ์ค่าเงินรูเบิลดิ่งตก โดยประชาชนได้พากันถอนเงินและแลกเป็นสกุลเงินดอลลาร์ เนื่องจากหวั่นภาวะค่าเงินรูเบิลร่วงไม่หยุด และภาวะราคาสินค้านำเข้าพุ่งทะยาน ขณะที่ธนาคารกลางรัสเซียประกาศว่า จะจัดสรรเงินกู้จำนวน 545 ล้านดอลลาร์ให้แก่ธนาคารนี้ เพื่อกู้สถานการณ์สภาพคล่องและคุ้มครองเงินฝากของลูกค้าด้วย

    รายงานระบุว่า สถานการณ์นี้มีขึ้นหลังจากค่าเงินรูเบิลได้ดิ่งร่วงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ และทางการรัสเซียได้นำเงินจากคลังสำรองเข้าแทรกแซงค่าเงินรูเบิล รวมทั้งประกาศจะใช้หลายมาตรการที่จะฟื้นสถานการณ์ของสถาบันการเงินของรัส เซีย รวมทั้งการอัดฉีดเงินจำนวน 16,000 ล้านดอลลาร์ให้แก่ธนาคารรัสเซียในปีหน้า และแผนค้ำประกันเงินฝากที่มีจำนวนมากกว่า 23,000 ดอลลาร์ด้วย

    ขณะที่นายอเลเซีย คูดริน อดีตรัรฐมนตรีคลังรัสเซียเตือนว่า รัสเซียกำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบแล้ว โดยตัวเลขจีดีพีจะหดตัวในระดับ 4 เปอร์เซนต์ในปีหน้า หากราคาน้ำมันยังคงอยู่ในระดับที่ 60 ดอลาร์ต่อบาร์เรล และคาดว่า ในปีหน้า กิจการรัสเซียจะเจอภาวะผิดนัดชำระหนี้กันเป็นแถว และรัสเซียจะถูกตัดลดอันดับความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจด้วย

    ทั้งนี้ ถึงขณะนี้ อัตราเงินกู้ระหว่างธนาคารของรัสเซีย ได้อยู่ที่ระดับเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว หรือคิดเป็นจำนวน 25 เปอร์เซนต์ ซึ่งชี้ว่าวิกฤตเงินทุนรัสเซียได้เริ่มต้นสู่ภาวะเลวร้ายอย่างแท้จริงแล้ว


    ธนาคารรัสเซียจ่อล้มละลาย ปชช.แห่ถอนเงินสด หลังศก.วิกฤต"รูเบิลดิ่งเหว" : ประชาชาติธุรกิจออ
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ส้มโอมือ หอมเย็นชื่นใจ

    เส้นทางผ่านรัสเซียด้วย รัสเซียขาดอะไรสั่งจีนได้เลย
    วันที่ 18 พฤศจิกายน 2014รถไฟขบวนแรกที่บรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 82 ตู้บรรจุสินค้าส่งออกน้ำหนักรวมกันมากกว่า 1,000 ตัน ด้วยระยะทางกว่า 13,000 กิโลเมตร เส้นทางสายนี้จะกลายเป็นเส้นทางรถไฟบรรทุกสินค้าซึ่งมีความยาวที่สุดในโลก จากเมืองอี้อู ประเทศจีนมุ่งหน้าไปยังกรุงมาดริด ประเทศสเปน
    เมืองอี้อูเป็นศูนย์กลางค้าส่งขนาดใหญ่ที่สุดสำหรับสินค้าผู้บริโภคขนาดเล็กๆ ทั้งหลาย ตั้งแต่เสื้อผ้าไปจนถึงของเด็กเล่น เป็นไปได้ทีเดียวว่ามันเป็นศูนย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลกด้วยซ้ำ ไม่ใช่แค่เฉพาะในจีนเท่านั้น
    http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,589
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    1. ภาคผนวกซีรี่ส์
    เกมที่โอบามาและปูตินเล่นกันอยู่นี้คือศึกชิงเมือง มีบ้านเมืองเป็นเดิมพัน ภาษาฝรั่งเรื่ยกว่า Winners take all ใครชนะกินเรียบไปเลย
    รัสเซียแพ้สหรัฐฯในสงครามเย็นในปี1991 อาณาจักรโซเวียตล่มสลายแตกกระจุยเป็น15ประเทศคือ
    1. Armenia
    2. Azerbaijan
    3. Belarus
    4. Estonia
    5. Georgia
    6. Kazakhstan
    7. Kyrgyzstan
    8. Latvia
    9. Lithuania
    10. Moldova
    11. Russia
    12. Tajikistan
    13. Turkmenistan
    14. Ukraine
    15. Uzbekistan (ภาพที่1)

    [​IMG]
    ในขณะเดียวกัน บริวารประเทศของรัสเซีย คือโปแลนด์ เยอรมันตะวันออก เช็กโกสโลวาเกีย ฮังการรี่ โรมาเนียบูลการเรียโดนสอยไปด้วย (ภาพที่2)

    [​IMG]

    ในสงครามเย็นสงครามร้อนของ2015 ถ้ารัสเซียแพ้อั้งม้อ ประเทศจะโดนรุมทึ้ง โดยเฉพาะบ่อน้ำมัน บ่อก๊าซและป่าไซบีเรียที่อุดมสมบูรณ์ของTaiga (ภาพที่3) ที่ปูตินพูดถึงว่าพวกอั้งม้อหมายปองมาก คราวนี้รัสเซียจะหมดตัวจริงๆ ไม่เหลือความเป็นประเทศ
    thanong
    19/12/2014
     

แชร์หน้านี้

Loading...