ติดตามสถานะการณ์

บีบหัวใจ! 2 มือปืนฝรั่งเศสโดนตามล่า- จับตัวประกันอย่างน้อย 1 คนไว้ในโกดัง (ชมคลิป) โดย ไทยรัฐออนไลน์ 9 ม.ค. 2558 16:56



สุดระทึก ...ปฏิบัติการไล่ล่า 2 มือปืนฝรั่งเศสงวดเข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ..คนร้าย ‘ไม่ส้ินลาย’ จับตัวประกันอย่างน้อย 1 คนไว้ในโกดังแห่งหนึ่ง ในเมือง ดองมาร์แตง ออง โกเลอ ห่างจากกรุงปารีส ราว 35 กม.ขณะที่กำลัง ตร.เร่งค้นหาคนร้าย พร้อมส่งเฮลิคอปเตอร์ 5 ลำบินวนจับตาความเคลื่อนไหว

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าปฏิบัติการไล่ล่า 2 มือปืนก่อเหตุบุกกราดยิง สำนักงานนิตยสาร ชาร์ลี เอบโด Dammartin-en-Goele ในกรุงปารีส ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 ศพ ว่า จากการเปิดเผยของแหล่งข่าวในสายตำรวจ ระบุ 2 คนร้ายได้จับตัวประกันอย่างน้อยหนึ่งคนไว้ในโกดัง ที่เมืองดองมาร์แตง ออง โกเลอ (Dammartin-en-Goele) ห่างจากกรุงปารีส เมืองหลวง ไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ราว 35 กม.


ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ทางการส่งเฮลิคอปเตอร์ตำรวจ 5 ลำบินวนจับตาดูความเคลื่อนไหวของคนร้าย เหนือเขตอุตสาหกรรม นอกเมือง ดองมาร์แตง ออง โกเลอ โดยรมว.มหาดไทยฝรั่งเศส ยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฏิบัติการตามล่า 2 คนร้ายอยู่ในบริเวณดังกล่าวจริง และขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามค้นหาคนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ในหมู่บ้านกลางป่า ก่อนจะมืดค่ำลง.

บีบหัวใจ! 2 มือปืนฝรั่งเศสโดนตามล่า- จับตัวประกันอย่างน้อย 1 คนไว้ในโกดัง (ชมคลิป) - ข่าวไทยร

 

จริงดิ? เที่ยวบินระหว่างประเทศที่สั้นที่สุดในโลก10 นาทีถึง
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 9 ม.ค. 2558 17:30



สื่อนอก เผย เที่ยวบินระหว่างประเทศที่สั้นที่สุดในโลก เป็นของสายการบินฟลายนิกิ (Flyniki Airline) ของประเทศออสเตรีย จากกรุงเวียนนา ไปเมืองบราติสลาว่า ในสโลวาเกีย ใช้เวลาแค่ 10 นาทีถึงแล้ว ว่าแต่ขอกินน้ำจะทันไหม...

เว็บไซต์ Mashable อ้างรายงานข่าวของ เทเลกราฟ สื่อของอังกฤษ ที่รายงานว่า สายการบินต้นทุนต่ำของออสเตรีย ชื่อ ฟลายนิกิ แอร์ไลน์ (Flyniki Airline) ได้เปิดเส้นทางระหว่างประเทศใหม่ โดยเป็นเส้นทางการบินระหว่างประเทศที่สั้นที่สุดในโลก ในระยะทาง 30 ไมล์ ประมาณ 50 กม. ใช้เวลาบินเพียง 10 นาที จากกรุงเวียนนา เมืองหลวงออสเตรีย ไปเมืองบราติสลาว่า ประเทศสโลวาเกีย โดยจะเริ่มให้บริการในวันที่ 1 เม.ย.2558 หรือ วัน April Fools' Day

แม้ว่าบางคนจะมองว่าเป็นเรื่องตลกของวันเมษาหน้าโง่ แต่สายการบินฟลายนิกินี้ก็เปิดรับจองที่นั่งจริง บนเว็บไซต์ โดยราคาตั่วบินแบบไปเที่ยวเดียวอยู่ที่ 29 ยูโร หรือ 35 เหรียญสหรัฐฯ ใครที่มาเห็นเรื่องนี้คงต้องงงกันอีกแน่นอน

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ยังถกเถียงว่า เส้นทางกรุงเวียนนา-บราติสลาว่า ของ ฟลายนิกิ เป็นเที่ยวบินที่สั้นที่สุดในโลกจริงหรือไม่ เพราะ เทเลกราฟ สื่อของอังกฤษ ระบุว่า เส้นทางนี้ยาวกว่าเที่ยวบินของสายการบิน แคมแอร์-โค ของแคมเมอรูน ที่มีระยะทางเพียง 20 ไมล์ จาก กรุงกินชาซา - เมืองบราซาวิลล์ ของสาธารณรัฐคองโก แต่ว่าใช้เวลานานกว่าฟลายนิกิ เพราะเครื่องบินของฟลายนิกิบินได้เร็วกว่า

ทางสายการบินฟลายนิกิ เชื่อว่า เส้นทางการบินใหม่นี้จะช่วยอำนวยความสะดวก ในการเดินทางระหว่างทั้ง 2 เมืองหากต้องลงเครื่องที่นี่แล้วนั่งรถไปต่อต้องใช้เวลาถึง 53 นาที ตามการอ้างอิงจากกูเกิลแม็ปส์ การมีเที่ยวบินต่อไปยังเมืองบราติสลาว่า ช่วยประหยัดเวลาเพียงแค่เพียงแค่ขับรถไปที่สนามบิน ผ่านด่านตรวจความปลอดภัย แล้วนั่งไปกับเครื่องบิน 10 นาทีก็ถึงแล้ว.

ที่มา : mashable

จริงดิ? เที่ยวบินระหว่างประเทศที่สั้นที่สุดในโลก10 นาทีถึง - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

เพนตากยกเครื่องฐานทัพในยุโรปครั้งใหญ่



กลาโหมสหรัฐเผยแผนยุบ-ย้ายฐานทัพหลายแห่งในยุโรป ตามแผนงานปรับโครงสร้างเพื่อเสริมศักยภาพการปฏิบัติงานและตัดลดรายจ่าย ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้หลายชาติที่เป็นที่ตั้งของฐานทัพสหรัฐ

วันศุกร์ 9 มกราคม 2558 เวลา 18:19 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐ (เพนตากอน) แถลงเมื่อวันพฤหัสบดีว่า กองทัพสหรัฐเตรียมดำเนินแผนปรับโครงสร้างเพื่อเสริมศักยภาพกองทัพ และตัดลดค่าใช้จ่าย ซึ่งคาดว่าจะประหยัดงบประมาณได้ราว 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (กว่า 16,443 ล้านบาท) ต่อปี จากการปิดฐานทัพอากาศมิลเดนฮอลล์ ในมณฑลซัฟฟอล์ก ทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งเป็นฐานทัพหลักของสหรัฐในอังกฤษ และจะยุบรวมและโอนย้ายกองกำลังออกจากฐานทัพอีก 14 แห่งทั่วยุโรป ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ส่วนอื่นๆ ของกองทัพและทหารรวม 67,000 นาย ไปยังอิตาลีและเยอรมนีแทน ตามกำหนดการที่จะกินระยะเวลานานหลายปีนับจากนี้

ทางการโปรตุเกสแสดงความผิดหวังอย่างยิ่ง ต่อการตัดสินใจฝ่ายเดียวของเพนตากอนที่จะปิดฐานทัพอากาศลาเจส บนเกาะเตร์เชรา ในหมู่เกาะอะโซเรส ในมหาสมุทรแอตแลนติก ทางตะวันออกของกรุงลิสบอน เนื่องจากกังวลต่อผลกระทบทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ที่อาจเกิดขึ้นตามมา โดยรัฐบาลท้องถิ่นกล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้ของสหรัฐเปรียบเสมือนการตบหน้ารัฐบาลโปรตุเกสอย่างแรง

ขณะที่อังกฤษมีปฏิกิริยาเพียงเล็กน้อยต่อเรื่องดังกล่าว แม้จะผิดหวังต่อแผนการของสหรัฐ แต่ก็มองว่าเป็นมาตรการที่จำเป็น โดยนอกจากการปิดฐานทัพอากาศมิลเดนฮิลล์และฐานทัพย่อยอื่นๆ แล้ว สหรัฐมีแผนจะจัดตั้งสถานีประจำการสำหรับฝูงบินรบเอฟ-35 ที่ฐานอากาศลาเคนฮีธ ในมณฑลซัฟฟอร์ก ซึ่งนายไมเคิล ฟอลลอน รมว.กระทรวงกลาโหมอังกฤษ กล่าวว่า การเลือกตั้งฐานปฏิบัติการเอฟ-35 แห่งแรกของยุโรปในอังกฤษ สะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่าง 2 ชาติ ที่มีมายาวนาน รวมถึงพันธสัญญาที่สหรัฐมีต่อสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และยุโรปด้วย

นายชัค ฮาเกล ผู้นำเพนตากอน กล่าวในแถลงการณ์ว่า การปรับโครงสร้างฐานทัพครั้งนี้จะช่วยให้ปฏิบัติการของกองทัพสหรัฐในยุโรปเป็นไปอย่างเต็มศักยภาพ และเสริมสร้างความสัมพันธ์กับมิตรประเทศในยุโรป เพื่อให้การสนับสนุนด้านความมั่นคงแก่ประเทศเหล่านั้นได้อย่างเต็มที่ โดยก่อนหน้านี้ สภาคองเกรสได้อนุมัติงบประมาณเพื่อจัดตั้งฐานทัพและใช้ในปฏิบัติการซ้อมรบร่วมกับชาติพันธมิตรในยุโรปตะวันออก.

ขอบคุณภาพจาก Home - East Anglian Daily Times

เพนตากยกเครื่องฐานทัพในยุโรปครั้งใหญ่ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ข่าวกรองอังกฤษเตือนอัล-กออิดะห์เตรียมก่อเหตุใหญ่



ผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับ “เอ็มไอ 5” ของอังกฤษ ออกมาเตือนกลุ่มประเทศแถบตะวันตก หลังพบเบาะแสกลุ่มอัล-กออิดะห์ในซีเรียเตรียมก่อการร้ายครั้งใหญ่

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/lIHJxIcEMBM?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

วันศุกร์ 9 มกราคม 2558 เวลา 14:49 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ว่านายแอนดรูว์ ปาร์คเกอร์ ผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับ “เอ็มไอ 5” แถลงที่สำนักงานใหญ่ในกรุงลอนดอน เมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องการสืบพบเบาะแสความเคลื่อนไหวของกลุ่มอัล-กออิดะห์ในซีเรีย เตรียมก่อวินาศกรรมครั้งใหญ่ในประเทศแถบตะวันตก โดยมีเป้าหมายเป็นระบบขนส่งมวลชนซึ่งเป็นสถานที่มีประชาชนรวมอยู่เป็นจำนวนมาก เพื่อให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

ปาร์คเกอร์เชื่อว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกแห่งทั้งในและต่างประเทศต่างมีเบาะแสในเรื่องนี้เป็นของตัวเอง และพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะยับยั้งไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครสามารถหยุดทุกสิ่งได้ในเวลาเดียวกัน แม้เอ็มไอ 5 พยายามอย่างหนักในการป้องกันอังกฤษจากภัยก่อการร้าย แต่ยังมีประชาชนหัวรุนแรงในประเทศราว 500 สามารถเดินทางเข้าไปในซีเรีย เพื่อร่วมรบกับกลุ่มหัวรุนแรงไอเอส ซึ่งเอ็มไอ 5 มองว่า คนกลุ่มนี้ "อันตราย" ต่อสังคมอย่างมาก เนื่องจากเดินทางกลับมาอีกครั้งพร้อมความคิดที่ "บิดเบือน" จนยากจะแก้ไข

ถ้อยแถลงของผู้อำนวยการเอ็มไอ 5 ซึ่งเป็นหน่วยสืบราชการลับของอังกฤษที่เน้นงานในประเทศ ต่างจาก "เอ็มไอ 6" ที่เน้นงานต่างประเทศ มีขึ้นเพียง 1 วัน หลังเกิดเหตุกราดยิงที่สำนักพิมพ์ของหนังสือพิมพ์ "ชาร์ลี เอ็บโด" ในกรุงปารีส ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ศพ ในจำนวนนี้รวมบรรณาธิการและนักเขียนการ์ตูนระดับแนวหน้า 4 คน ขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสระดมเจ้าหน้าที่ฝ่ายความั่นคงจำนวนมากตามล่าตัวคนร้าย ซึ่งเป็นมือปืน 2 พี่น้อง

ข่าวกรองอังกฤษเตือนอัล-กออิดะห์เตรียมก่อเหตุใหญ่ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

เงินยูโรทำสถิติร่วงสุดในรอบ 9 ปีครั้งใหม่



ค่าเงินยูโรทำสถิติต่ำสุดในรอบ 9 ปีครั้งใหม่ ท่ามกลางการจับตามาตรการคิวอีของธนาคารกลางยุโรป และสถานการณ์ทางการเมืองในกรีซ

<iframe width="640" height="360" src="//www.youtube.com/embed/dv4E3KRR37U?feature=player_embedded" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

วันศุกร์ 9 มกราคม 2558 เวลา 08:13 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ว่าสกุลเงินยูโรทำสถิติอ่อนค่าที่สุดในรอบ 9 ปีครั้งใหม่ โดยลดลงเหลือเพียง 1.17540 ยูโร ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2548 ก่อนปรับตัวขึ้นเล็กน้อยมาปิดที่ 1.1789 ยูโร ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากราคาเมื่อวันพุธราว 0.41% ขณะที่นักวิเคราะห์เชื่อว่า กระแสข่าวเรื่องธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี ) เตรียมออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ ( คิวอี ) ครั้งใหญ่ในอีกไม่ช้า เพื่อแก้ไขวิกฤติเงินฝืดในภูมิภาค คือปัจจัยสำคัญที่กำลังสร้างความกังวลให้กับนักลงทุน

นอกจากนี้ สถานการณ์การเมืองในกรีซที่กลับมาไร้เสถียรภาพอีกครั้ง เนื่องจากมีการยุบสภาเตรียมจัดการเลือกตั้งก่อนกำหนดในัวนที่ 25 ม.ค. ส่งผลต่อการตัดสอินใจของนักลงทุนเช่นกัน ทั้งนี้ กรีซเป็นหนึ่งในประเทศกลุ่มยูโรโซนที่ยังคงต้องขอความช่วยเหลือด้านการเงินจากกลุ่ม "ทรอยกา" ได้แก่ สหภาพยุโรป ( อียู ) กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ ) และอีซีบี

เงินยูโรทำสถิติร่วงสุดในรอบ 9 ปีครั้งใหม่ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

เรือเครนใหญ่ที่สุดในโลกเดินทางถึงเนเธอร์แลนด์



เรือเครนลำใหญ่ที่สุดในโลก ที่สามารถเคลื่อนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีน้ำหนักมากกว่าหอไอเฟลได้ถึง5เท่า เดินทางถึงท่าเรือรอตเตอร์ดัม เนเธอร์แลนด์แล้ว เพื่อต่อเติมส่วนอื่นให้เสร็จสมบูรณ์ก่อนนำออกเดินเรือ

วันศุกร์ 9 มกราคม 2558 เวลา 03:01 น.
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองรอตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ เมื่อวันที่9ม.ค.ว่า เรือเครนปีเตอร์ เชลท์ ฮีรีมา ความยาวเกือบ400เมตร เดินทางถึงท่าเรือรอตเตอร์ดัม ซึ่งเป็นท่าเรือที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของยุโรปแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา จากประเทศเกาหลีใต้ที่ดำเนินการต่อเรือลำดังกล่าว สำหรับเคลื่อนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันและวางท่อในช่วงฤดูร้อนที่จะถึงนี้ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในเรือเครนที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ทั้งนี้นายเจรอน ฮาเกลสไตน์ แห่งบริษัทออลซีส์ เจ้าของเรือลำดังกล่าวเผยว่า ขนาดความกว้างและความยาวของเรือลำนี้เทียบเท่ากับสนามฟุตบอลถึง8สนาม สามารถยกแท่นขุดเจาะน้ำมันที่มีน้ำหนักกว่า48,000ตันได้

ขณะที่ชื่อของเรือได้ถูกตั้งตามชื่อบิดาของผู้ก่อตั้งบริษัทออลซีส์ ซึ่งกลายเป็นประเด็นที่ได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากในเนเธอร์แลนด์ เนื่องจากนายปีเตอร์ เชลท์ เคยเป็นหนึ่งในหน่วยเอสเอสของนาซี ขณะที่เยอรมนีทำการปิดล้อมเนเธอร์แลนด์ช่วงสงครามโลกครั้งที่2 ก่อนจะเข้าเป็นหนึ่งในขบวนการต่อต้านนาซีภายหลัง

เรือเครนลำนี้ต่อโดยบริษัทแดวู โดยจะทำการต่อเติมส่วนอื่นให้เสร็จสมบูรณ์ที่ท่าเรือรอตเตอร์ดัม และเมื่อผ่านการทดสอบความสมบูรณ์ของเรือในทะเลแล้ว จะเริ่มปฏิบัติภารกิจแรกในการย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันเยม ชายฝั่งทะเลของนอร์เวย์ ขณะที่ทางออลซีส์ประกาศเมื่อปี2556ว่า จะดำเนินการต่อเรือเครนสำหรับเคลื่อนย้ายแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใหญ่กว่าอีกหนึ่งลำภายในปี2563

เรือเครนใหญ่ที่สุดในโลกเดินทางถึงเนเธอร์แลนด์ | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์

 

ภาคกลาง-ตะวันออกสหรัฐฯเจออุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง ต้องปิดร.ร.ในหลายเมือง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 มกราคม 2558 02:00 น.

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/N0AwS-Dwkfo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="560" height="315" src="//www.youtube.com/embed/90aKXGU7FtM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

รอยเตอร์ - โรงเรียนในชิคาโก บอสตันและเมืองใหญ่อื่นๆต้องปิดการเรียนการสอนในวันพฤหัสบดี(8ม.ค.) ขณะที่การเดินรถไฟและการสัญจรทางอากาศต้องประสบปัญหายุ่งเหยิง หลังภาวะอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งและลมหนาวปกคลุมภาคกลางกับภาคตะวันออกของสหรัฐฯเป็นวันที่ 3 ท่ามกลางคำเตือนของนักอุตุนิยมวิทยาที่บอกว่าสภาพอากาศจะเลวร้ายต่อไปเช่นนี้จนถึงช่วงสุดสัปดาห์



สำนักงานพยากรณ์แห่งชาติสหรัฐฯเผยว่ากระแสลมอาร์กติกพัดจากแคนาดาเข้าซัดแถบมิดเวสต์ มิดแอตแลนติกและนอร์ทอีสต์ของสหรัฐฯ ส่งผลให้หลายพื้นที่มีอุณหภูมิราวๆ-23 องศาเซลเซียส

"ผมรู้สึกเหมือนถูกแผ่นน้ำแข็งตีเข้าที่หน้าเลย" บาร์ท แอดลัม วัย 40 ปีบอกระหว่างปั่นจักรยานผ่านไทม์ส สแควร์ เพื่อไปทำงานตอนเวลา 08.00 น.ในนิวยอร์ก ซิตี ที่วัดอุณหภูมิขณะมีกระแสลมได้ -12 องศาเซลเซียส แต่รู้สึกเหมือน -18 องศาเซลเซียส ส่วนที่สวนแอดิรอนแดค ทางเหนือของรัฐนิวยอร์ก อุณหภูมิในหมู่บ้าน ซาราแนคเลค ดำดิ่งสู่-24องศาเซลเซียสในยามค่ำคืน

คริส บรอยส์ นักอุตุนิยมวิทยาจากสำนักงานพยากรณ์แห่งชาติ บอกว่า "ขณะที่ดูเหมือนว่าความกดอากาศสูงจะทำให้มีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีกอย่างน้อย 1 หรือ 2 วัน ก่อนเคลื่อนตัวไปทางตะวันออก แต่ลมหนาวอีกระลอกหนึ่งจะพัดเข้ามาสู่รัฐต่างๆทางภาคกลางตอนบนในช่วงสุดสัปดาห์"

สำนักงานพยากรณ์อากาศเตือนว่าเนื้อเยื่อผิวหนังอาจถูกทำลายเพราะความเย็นจัดภายในเวลาแค่ 15 นาทีหลังสัมผัสกับอากาศที่หนาวเหน็บ และแนะนำประชาชนอย่าออกไปในที่โล่งแจ้ง ขณะที่ผู้ขับขี่ก็ควรระมัดระวังสภาพการจราจรที่เป็นอัตรายในพื้นที่ซึ่งท้องถนนถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและน้ำแข็ง

โรงเรียนรัฐบาลหลายแห่งในชิคาโก เขตการศึกษาใหญ่สุดอันดับ 3 ของสหรัฐฯ ซึ่งมีสถาบันการศึกษาเกือบ 800 แห่งและมีนักเรียนรวมกันราว 400,000 คน ประกาศให้นักเรียนหยุดอยู่บ้านและให้อยู่แต่ในที่พักอาศัย 2 วันติดต่อกันแล้ว ท่ามกลางอุณหภูมิที่ดำดิ่ง ขณะเดียวกันโรงเรียนในบอสตัน มิลวอกี และอินเดียนาโปลิส ก็งดการเรียนการสอนเช่นกัน

สภาพอากาศอันเลวร้ายส่งผลกระทบต่อเส้นทางเดินรถของรถบัสรับส่งนักเรียน ทำให้โรงเรียนหลายแห่งไล่ตั้งแต่เมืองปอร์ทแลนด์ ในรัฐเมนไปจนถึงชิคาโก ต้องปิดเรียนโดยปริยาย ส่วนการเดินรถไฟประสบปัญหาล่าช้า หลังอากาศเย็นจัดทำให้รางแตก ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารจำนวนมากในวอชิงตัน ดีซี นอกจากนี้เว็บไซต์ FlightAware.com.ยังบอกว่ามีเที่ยวบินในสหรัฐฯ ต้องยกเลิกถึง 675 เที่ยวและอีก 279 เที่ยวประสบปัญหาล่าช้า

หน่วยงานพยากรณ์อากาศออกประกาศเตือนสภาพอากาศหนาวเหน็บในชิคาโก มินนีอาโปลิสและเมืองอื่นๆ โดยหลายพื้นที่อุณหภูมิยามค่ำคืนอาจดำดิ่งแตะระดับ -26 องศาเซลเซียส ถึง - 31 องศาเซลเซียส

นอกจากนี้แล้วสำนักงานพยากรณ์แห่งชาติสหรัฐฯ ยังคาดหมายว่าพื้นที่บางส่วนของนอร์ทดาโคตาและมินนิโซตา จะเผชิญสภาพอากาศเลวร้ายในวันพฤหัสบดี(8ม.ค.) ส่วนในเซาต์ดาโคตา พยากรณ์ว่าจะมีหิมะโปรยปรายและทัศนวิสัยต่ำตลอดทั้งวัน "สภาพอากาศเลวร้ายแบบนี้เป็นอันตรายต่อการเดินทาง" บรอยส์ระบุ

 

In Pics : อินโดฯ พบ “สัญญาณปิงกล่องดำแอร์เอเชีย 8501” ใกล้บริเวณพบส่วนหาง โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 มกราคม 2558 11:34 น.



เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - หลังจากพบส่วนหางของเครื่องบินแอร์เอเชีย 8501 แล้วล่าสุดวันนี้ (9 ม.ค.) เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียประกาศเป็นครั้งแรกที่สามารถตรวจจับสัญญาณปิงของกล่องดำเที่ยวบินมรณะได้ในทะเลชวา ใกล้เคียงกับบริเวณที่ค้นพบส่วนหาง โดยทีมประดาน้ำจะใช้เวลาทั้งวันในวันนี้เพื่อดำตามหากล่องดำ

เอเอฟพีได้รับข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงอินโดนีเซียในวันศุกร์ (9) ยืนยันถึงสัญญาณปิงที่ถูกจับได้ครั้งแรก ซึ่งเชื่อว่ามาจากกล่องดำของเครื่องบินแอร์เอเชียเที่ยวบิน 8501

“เรือค้นหาสามารถตรวจพบสัญญาณ และในขณะนี้ทีมกู้ภัยประดาน้ำกำลังพยายามค้นหา และจุดที่รับสัญญาณปิงนี้อยู่ใกล้กับบริเวณที่พบส่วนหางเครื่องบิน” เอส. บี. สุปรียาดี (S.B. Supriyadi) เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์กลางกู้ภัยประจำปังกาลันบันให้สัมภาษณ์

ทั้งนี้ เอบีซีสื่อออสเตรเลียรายงานเพิ่มเติมว่า เครื่องบินเที่ยว 8501 นั้นมีกล่องดำติดตั้งใกล้กับส่วนหางของเครื่อง แต่อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่เตือนว่ากล่องดำอาจจะม่อยู่กับส่วนหางของเครื่องบินก็เป็นได้

ด้านซานโตโซ ซาโยโก (Santoso Sayogo) เจ้าหน้าที่สอบสวนจากคณะกรรมการความปลอดภัยอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ดูเหมือนว่ากล่องดำจะไม่อยู่ในบริเวณส่วนหางของเครื่องบินแล้ว “เราได้รับรายงานจากทีมประดาน้ำว่าเครื่องค้นหาสัญญาณปิงสามารถจับสัญญาณปิงของกล่องดำได้แล้ว และเราได้หวังล่วงหน้าว่าจะเป็นสัญญาณมาจากกล่องดำของเครื่องบินเที่ยว 8501 แต่ทีมประดาน้ำต้องยืนยันในเรื่องนี้ แต่น่าเสียดายที่ไม่พบกล่องดำในส่วนหางของเครื่อง ซึ่งทีมประดาน้ำต้องเป็นผู้ยืนยันตำแหน่งของกล่องดำที่แน่นอนอีกครั้ง” ซาโยโกให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ และย้ำว่าในวันนี้ (9) ทางทีมประดาน้ำจะใช้เวลาในวันศุกร์ (9) เพื่อตามหากล่องดำ

ทั้งนี้ ลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมด 162 ชีวิตตายยกลำ แต่สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ยังคงเป็นปริศนา ท่ามกลางความหวังว่ากล่องดำซึ่งบันทึกข้อมูลการบินและเสียงสนทนาในห้องนักบินจะคลี่คลายความกระจ่างสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด

ส่วนหางของเครื่องบินถูกพบเมื่อวันพุธ (7) ในสภาพหงายกลับด้านจมอยู่ใต้ก้นทะเล ณ ความลึกราว 28-32 เมตร ห่างจากจุดสุดท้ายที่ทราบตำแหน่งของเครื่องบินราว 30 กม.ขณะที่ท้องทะเลที่ผันผวน คลื่นแรงและทัศนวิสัยอันย่ำแย่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อปฏิบัติการค้นหาตลอดหลายวันที่ผ่านมา ได้กัดเซาะความพยายามของเจ้าหน้าที่อีกครั้งในวันพฤหัสบดี (8) รวมแล้วมีนักประดาน้ำ 84 คนอยู่บนเรือที่ล่องอยู่ใกล้เคียงกับซากเครื่องบินในวันพหัสบดี และทีมประดาน้ำก็เริ่มดำเนินการค้นหาส่วนหางตอนเวลา 0.645 น. แต่สภาพทัศนวิสัยที่เลวร้ายและกระแสน้ำรุนแรงก็ยังคงเป็นอุปสรรคต่อการค้นหา


In Pics :

 

น้ำมันทรงตัว หุ้นสหรัฐฯ พุ่ง-ทองคำลงหวังอีซีบีกระตุ้น ศก.ยุโรป
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 มกราคม 2558 05:33 น.



เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันทรงตัวเมื่อวันพฤหัสบดี (8 ม.ค.) แต่นักวิเคราะห์ชี้นักลงทุนยังกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรงและทองคำขยับลงเล็กน้อย หลังเฟดแสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจอเมริกาและความหวังที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด ของตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 14 เซ็นต์ ปิดที่ 48.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 19 เซ็นต์ ปิดที่ 50.96 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

เหล่านักวิเคราะห์จากคอมเมิร์ซแบงก์ ระบุว่า “ราคาน้ำมันฟื้นตัวเล็กน้อยมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังดิ่งลงอย่างหนักมากกว่าร้อยละ 10 ในช่วง 2 วันซื้อขายก่อนหน้านั้น" อย่างไรก็ตาม พวกเขาชี้ว่าตลาดน้ำมันยังไม่พลิกกลับจากแนวโน้มขาลง

คอมเมิร์ซแบงก์อ้างถึงรายงานคลังน้ำมันสำรองรายสัปดาห์ของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ที่เผยให้เห็นว่าแม้สต๊อกน้ำมันดิบจะลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็อยู่ต่ำกว่าระดับสูงสุดตลอดกาลแค่เล็กน้อย ขณะเดียวกัน สต๊อกเบนซินและน้ำมันกลั่นก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก บ่งชี้ว่าอุปสงค์ในชาติผู้บริโภคยักษ์ใหญ่ของโลกแห่งนี้ยังอ่อนแอ

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสบดี (8 ม.ค.) พุ่งแรงและดอลลาร์แข็งค่า หลังเฟดแสดงความเชื่อมั่นค่อเศรษฐกิจอเมริกาและจากความหวังว่าธนาคารกลางยุโรปจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 323.35 จุด (1.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,907.87 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 36.24 จุด (1.76 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,062.14 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 85.72 จุด (1.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,736.19 จุด

วอลล์สตรีทเคลื่อนไหวในทางบวกต่อเนื่องจากวันพุธ (7 ม.ค.) ที่ปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 5 วัน จากข้อมูลการจ้างงานภาคเอกชนและรายงานที่ประชุมเฟดที่สร้างความอุ่นใจแก่นักลงทุนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ แห่งนี้จะไม่เร่งรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ในสัญญาณล่าสุดที่แสดงถึงความแข็งแกร่งของสหรัฐฯ พบว่ายอดผู้เข้ารับสิทธิประโยชน์คนว่างงานรายใหม่ลดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และตัวเลขการปลดคนงานลดลงอย่างมากในเดือนธันวาคม บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานกำลังฟื้นตัวขึ้นเรื่อยๆ

ขณะเดียวกัน ในยุโรป นายมาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบี ก็บอกว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรปแห่งนี้ พร้อมใช้มาตรการพิเศษถ้าจำเป็นเพื่อกำจัดภาวะเงินฝืดที่ยืดเยื้อมานาน

ปัจจัยดอลลาร์ที่แข็งค่าสุดในรอบ 9 ปี จากความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯและแนวโน้มอีซีบีจะลงมือกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ส่งผลให้ราคาทองคำเมื่อวันพฤหัสบดี (8 ม.ค.) ขยับลงเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 2.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,208.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

Thanong Fanclub



Angela Merkel เป็นจุดอ่อนที่ต้องถูกกำจัด
ให้สังเกตุดูการ์ตุนล้อเลียนผู้นำโลก ยังไม่เห็นชิ้นไหนที่แสดงให้เห็นเลยว่าปูตินอ่อนด้อยกว่าโอบามาหรือผู้นำโลกคนอื่นๆ แสดงว่านักเขียนการ์ตูนฝรั่งดูออกเหมือนกันว่าปูตินไม่ได้เพลี้ยงพล้ำอะไรมาก
การ์ตูนภาพนี้ของObserversเหมือนกัน ชี้ให้เห็นว่าปูตินเล่นเกมสนุ๊กได้แพรวพราวกว่าทั้งโอบามาและMerkelมาก
ภายในเยอรมันเองก็เกรงกลัวWW3มาก และไม่ต้องการเผชิญหน้ากับปูติน แต่Merkelยังแข็งกร้าวเสมอต้นเสมอปลายกับปูตินไม่เปลี่ยน ถ้าหากว่าการเมืองภายในเยอรมันไม่มีการเปลี่ยนแปลง เยอรมันมีหวังโดนปูตินโซ้ยแน่ เนื่องจากเยอรมันเป็นฐานขีปนาวุธที่สำคัญที่สุดของนาโต้ด้วย
ถ้าจะเลี่ยงสงครามกับรัสเซีย มีทางเดียวเท่านั้นคือการเมืองภายในเยอรมันต้องเอาMerkelลงจากอำนาจให้ได้
thanong
9/1/2014

 

Thanong Fanclub



เราไม่ได้จะไปทำสงคราม เรามาถึงสงครามแล้ว
Chris Martenson แห่งPeak Prosperity | Insights for Prospering as Our World Changes เขียนบทความยาวให้ชื่อว่าถนนไปสู่สงครามกับรัสเซีย เขาสรุปว่าเราไม่ได้จะไปทำสงคราม เรามาถึงสงครามแล้ว
การก่อวิกฤติยูเครนโดยสหรัฐฯ การก่อสงครามเย็นรอบใหม่ การแซงชั่นรัสเซีย การถล่มค่าเงินรูเบิ้ล การทุบราคาน้ำมัน การออกกฎหมายติดอาวุธให้ยูเครนเพื่อรบกับรัสเซียโดยสภาสหรัฐฯ The Ukraine Freedom Support Act และการออกHouse Resolution758 ประกาศสงครามกับรัสเซีย การที่Victoria Nuland ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯและนายDaniel Glaserผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯแถลงต่อคณะกรรมธิการด้านการต่างประเทศของสภาสหรัฐฯว่าเป้าหมายของการแซงชั่นรัสเซีย คือการล้มปูติน ล้วนแล้วแต่เป็นความพยายามที่จะจุดปะทุการเผชิญหน้าทางทหารกับรัสเซีย
Christ Martensonบอกว่า ถ้ามันดูเหมือนเป็นสงคราม กระทำการเหมือนเป็นสงคราม และมีกลิ่นไอเหมือนเป็นสงคราม มันต้องเป็นสงครามแน่ๆ
ทำไมต้องทำอย่างนั้น?
เขาบอกว่ารัสเซียคิดว่าพวกนีโอคอน หรือพวกเหยี่ยวขวาจัดที่มีอิทธิพลในสหรัฐฯไม่ใช่เป็นพวกที่จะพุยคุยเจรจากันรู้เรื่อง พวกสายเหยี่ยวคิดว่าตัวเองอยู่ในฐานะที่ได้เปรียบรัสเซีย พวกนี้มีอำนาจล้นฟ้าบนโลก ไม่ต้องการเจรจา แต่ต้องการสั่งให้ทุกคนทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ
ปัญหาคือสหรัฐฯกำลังเสื่อม ไม่ได้มีอำนาจเหมือนเดิม และมิตรประเทศกำลังตีจาก เพราะว่าขาดการลงทุนในพื้นฐานไม่ว่าจะเป็นการศึกษาหรือโครงสร้างพื้นฐาน
ถ้าจะต้องมีการเผชิญหน้ากันต่อไปในรูปแบบนี้ระหว่างสหรัฐฯและรัสเซีย จะไม่มีใครชนะ แต่คำถามง่ายๆที่คนอเมริกันไม่ตั้งคำถามกัน คือทำไมถึงปล่อยให้ผู้นำเล่นเกมนิวเคลียร์รัสเซี่ยนรูเล็ทท์กับรัสเซีย โดยที่คนอเมริกันไม่ได้อะไรเลย?
thanong
9/1/2015
Russia Holds The Keys To The Future: Chris Martenson | Peak Prosperity

 

Thanong Fanclub



ผู้นำเยอรมันเสียงแตกในกรณีแซงชั่นรัสเซีย, เตือนภัยสงครามกับปูติน
นอกจากนายFrancoise Hollandeประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่ต้องการยกเลิกการแซงชั่นรัสเซียอย่างทันที นายSigmar Gabrielรองนายกรัฐมนตรีเยอรมัน และนายFrank-Walter Steinmeierรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเยอรมันมีความเห็นตรงกันว่ายุโรปควรจะเพลามือในการแซงชั่นรัสเซีย เพราะว่าการไล่บี้รัสเซียจากเหตุวิกฤติยูเครนจะนำไปสู่สภาวะที่อันตรายสำหรับยุโรป
ส่วนนางAngela Merkelนายกรัฐมนตรียังเสียงแข็งเหมือนเดิม คือให้แซงชั่นรัสเซีย หรือล่อรัสเซียหนักๆจนกว่ารัสเซียจะยอมถอยจากวิกฤติยูเครน จุดยืนที่แข็งกร้าวของMerkel เหมือนกับจุดยืนDavid Cameron นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ นายTony Abbott นายกรัฐมนตรีของออสเตรเลีย นายStephen Harper นายกรัฐมนตรีของแคนนาดา และนายโอบามาประธานาธิบดีของสหรัฐฯ
Gabrielบอกว่าถ้าหากเกิดความไร้เสถียรภาพในรัสเซียจากแรงกดดันของการแซงชั่น รัสเซียจะเป็นภัยอัตรายสำหรับยุโรป "เป้าหมายต้องไม่ผลักดันให้รัสเซียเจอความวุ่นวายทางการเมืองและทางเศรษฐกิจ ใครก็ตามที่ต้องการเช่นนั้นจะกระตุ้นให้เกิดสถานการณ์ที่อันตรายสำหรับพวกเราในยุโรปทุกคน" เขากล่าว
Victoria Nuland ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯและนายDaniel Glaserผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐฯแถลงต่อคณะกรรมธิการด้านการต่างประเทศของสภาสหรัฐฯว่าเป้าหมายของการแซงชั่นรัสเซีย คือการทำให้ประชาชนชาวรัสเซียประสบภาวะความลำบากจากการแซงชั่นจนกระทั่งเครมลินต้องยอมจำนนต่อสหรัฐฯและยอมให้มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายใน หรืออีกนัยหนึ่งคือต้องมีการโค่นล้มอำนาจของปูติน
ฝรั่งเศสพยายามเลี่ยงไม่ให้เกิดสงครามระหว่างรัสเซียและยุโรป ส่วนเยอรมันยังเสียงแตกภายในประเทศ อังกฤษและสหรัฐฯมีจุดยืนร่วมในการบี้รัสเซียเพื่อโค่นล้มปูติน ภาวะปัจจุบันนี้นับว่าล่อแหลมยิ่งนัก เพราะว่าปูตินถอยจนหลังชนฝาแล้ว รอสวนหมัดกลับเท่านั้นเอง
thanong
9/1/2015
ภาพประกอบ 1. Sigmar Gabrielรองนายกรัฐมนตรีเยอรมัน 2. นายFrank-Walter Steinmeier รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศ 3. Angela Merkelนายกรัฐมนตรีเยอรมัน
TOP STORIES | DW.DE
From Energy War to Currency War: America’s Attack on the Russian Ruble | Global Research

 

Thanong Fanclub

เวลาประมาณ6โมงเย็นกว่าๆวันนี้ผมจะวิเคราะห์การก่อการร้ายในปารีสในTVช่องNOW26 ว่ามีเบื้องหลังอะไรบ้าง ไม่รู้ว่าจะพูดได้มากแค่ไหน เพราะว่ามีข่าวว่าพวกISISโยงกับประเทศในตะวันออกกลางเกี่ยวข้องด้วย ที่ผ่านมาฝรั่งเศสเป็นเสียงที่มีเหตุผลในยุโรปที่ต้องการยกเลิกการแซงชั่นรัสเซีย เลยดูเหมือนว่าจะกลายเป็นหมาหัวเน่า การก่อการร้ายในปารีสอาจจะเป็นจุดหักเหที่สำคัญของสถานการณ์โลกที่อ่อนไหวมากในเวลานี้

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 9 ม.ค.58 ผู้ก่อการร้ายในฝรั่งเศส จับตัวประกันไว้ และปิดสนามบินแล้ว
ตำรวจฝรั่งเศส เปิดปฏิบัติการไล่ล่า 2 มือปืนก่อเหตุบุกกราดยิง สำนักงานนิตยสาร ชาร์ลี เอบโด ในกรุงปารีส 2 คนร้ายได้จับตัวประกันอย่างน้อยหนึ่งคนไว้ในโกดัง ที่เมืองดองมาร์แตง ออง โกเลอ ห่างจากกรุงปารีส เมืองหลวง ไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ราว 35 กม. ตำรวจได้พยายามที่จะเจรจาให้คนร้ายปล่อยตัวประกัน ขณะที่คนร้ายปฎิเสธ และยอมตาย
ทางการส่งเฮลิคอปเตอร์ตำรวจ 5 ลำบินวน จับตาดูความเคลื่อนไหวของคนร้าย เหนือเขตอุตสาหกรรม นอกเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามค้นหาคนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ในหมู่บ้านกลางป่า ก่อนจะมืดค่ำลง การไล่ล่า 2 พี่น้อง เกิดขึ้นบนถนนไฮย์เวย์ 2 สาย แต่การจับตัวประกันเกิดที่บริษัทแห่งหนึ่ง อยู่ห่างปารีส 40 กม.
มีการสั่งปิดรันเวย์ 2 ใน 4 ของท่าอากาศยานชาร์ลส เดอ โกลด์ ที่ห่างจากจุดที่เกิดการไล่ล่าเพียง 12 กม. ตำรวจเตือนประชาชนให้อยู่แต่ในบ้านและปิดไฟระหว่างการปฏิบัติการของตำรวจในขณะนี้ มีอาการอพยพประชาชนออกจากอาคารบางแห่งใกล้จุดที่ผู้ต้องสงสัยเข้าไปหลบอยู่
------------------------------>
ลุกลามบานปลายไปกันใหญ่แล้ว จากเกิดเหตุกลางเมืองหลวง สู่ท้องถนน สู่ป่า และสนามบิน แถมต้องแก้วิกฤติตัวประกันอีก คนร้ายมีอาวุธสงครามร้ายแรง ทั้งปืนกล จรวดยิงประทับป่า ระเบิดขว้าง และสารพัดอาวุธ เต็มคันรถ
ลองดูว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร ถ้ามืดค่ำ เขาอาจหนีออกจากโกดัง และลัดเลาะข้ามพรมแดนไปเบลเยี่ยมได้ พวกเขาถูกทหารมะกันฝึกมา ให้รบแบบกองโจร ...ระอุยิ่งกว่าฉากสงครามอีก
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 9 ม.ค.58 เตือน..พายุลมแรง ลูกเห็บ ฝนตกถนนลื่น หนาวลงอีกฉับพลัน
ช่วงวันที่ 9 - 10 ม.ค. 2558 จะมีลักษณะอากาศแปรปรวนโดยจะมีพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน อาจมีลูกเห็บตกได้บางแห่งในระยะแรก หลังจากนั้นอุณหภูมิจะลดลงได้อีก 3 - 5 องศาเซลเซียส ทำให้มีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป
สภาพอากาศที่แปรปรวน ท้องฟ้าครึ้ม และมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง มีลมกระโชกแรง ทำให้ป้ายไวนิลโฆษณาหลายแห่งหลุดลุ่ยจากแรงลม ถนนหลายสายลื่น จนเกิดอุบัติเหตุทางถนน ทั้งแฉลบลงข้างทาง และเบรกไม่อยู่ ชนกันระนาวไปหมด
ขอให้ประชาชน ระมัดระวังนับจากนี้ไปจะมีลมแรง ฝนตก ถนนลื่น เกิดอุบัติเหตุ ลูกเห็บตกใส่ และหนาวลงฉับพลัน ตอนนี้อุณภูมิหลายๆ ประเทศลดลงวูบอย่างรวดเร็วมาก
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 9 ม.ค.58 ฝรั่งเศสระอุ..เตรียมกำลังมากเรือนแสนเสมือนจะเข้าสู่สงคราม
กองกำลังรักษาความมั่นคงของฝรั่งเศสกว่า 80,000 นาย พร้อมเฮลิคอปเตอร์ติดตั้งกล้องส่องตอนกลางคืน ไล่ล่า นาย เชรีฟ คูอาชี วัย 32 ปี และนายซาอิด คูอาชี วัย 34 ปี พี่น้องชาวฝรั่งเศส-อัลจีเรีย ที่ก่อเหตุ สะเทือนขวัญด้วยการบุกโจมตีสำนักงานของนิตยสารรายสัปดาห์แนวเสียดสี "ชาร์ลี เอ็บโด" ในกรุงปารีส ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 12 คน
นายเชรีฟ คูอาชี เคยต้องโทษจำคุกสามปีเมื่อปี 2551 ในข้อหาเป็นสมาชิกกลุ่มติดอาวุธที่ส่งนักรบจิฮัดไปยังอิรัก ตำรวจได้ร่องรอยคนร้ายที่ปล้นปั๊มน้ำมันก่อนจะทิ้งรถไว้ และเดินเท้าเข้าไปในป่า หน่วยพิเศษเพื่อต่อต้านการก่อการร้ายของฝรั่งเศส ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายในแคว้นปิการ์ดีทางตะวันออกเฉียงเหนือ
ตามที่เฮลิคอปเตอร์ตำรวจบินสำรวจพบทั้ง 2 คนซ่อนตัวอยู่ในป่า ระหว่างหมู่บ้านลองปองต์กับคอร์ซี และเมือง วิลเลอร์-คอเตอเรต์ ล่าสุด เกิดเหตุปะทะขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจฝรั่งเศส ปิดล้อมเมือง Dammartin-En-Goele ที่อยู่บริเวณตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปารีส
ซึ่งตำรวจสงสัยว่าผู้ต้องสงสัยกราดยิงออฟฟิศนิตยสารชาร์ลี เอ็บโด กลางกรุงปารีส จะหลบซ่อนอยู่ในบริเวณดังกล่าว โดยระหว่างการค้นหาตัวผู้ต้องสงสัย เกิดเสียงปืนดังขึ้น แต่ยังไม่มีรายละเอียดตรงจุดนี้
และมีผู้ถูกจับเป็นตัวประกันในย่านกลางเมือง ใกล้สนามบินชาร์ล เดอโกล ขณะที่ตำรวจยังคงปิดล้อมบริเวณดังกล่าวอยู่
------------------------------->
ฝรั่งเศส ตอนนี้วุ่นวายมาก และการก่อการร้ายครั้งนี้เริ่มมีกลิ่นทะแม่งๆ เพราะหน่วยข่าวกรองของอเมริกา และฝรั่งเศส รู้ล่วงหน้า และคอยประกบเขา 2 คนอยู่นานแล้ว แต่กลับปล่อยให้ลงมือได้ง่ายๆ กลางเมืองหลวง และหนีไปได้เสียด้วยในช่วงแรก
ส่วน 2 คนที่ลงมือนี้ ตามการข่าวน่าจะสังกัดกลุ่มอัลกออดะห์ในเยเมน ซึ่งกลุ่มนี้เป็นเด็กในคาถาของซาอุฯ ที่ฝึกอาวุธกับมือ โดยมีครูฝึกเป็นทหารมะกันกับ CIA ตอนนี้การเมืองในซาอุฯ เองก็ร้อนระอุ สัปสนอลม่าน จากราคาน้ำมันที่ลดลง และการชิงอำนาจกัน
เพราะซาอุฯ ก็เตือนแรงๆ ชาติตะวันตกมานานราวเดือนกว่าแล้วว่า จะมีการก่อการร้ายเกิดขึ้น แต่คล้ายๆ กับว่าฝรั่งเศส และมะกันไม่รู้มีแผนใด จึงมีการปล่อยให้ทำได้ หรือฝรั่งเศสถูกแบล็คเมล์จากมะกัน ทำให้เกิดเหตุโจมตีในฝรั่งเศสได้ และสามารถทำให้ฝรั่งเศส ระดมกำลังทหาร ตำรวจ ได้เป็นแสนได้ เพียงจับคน 2 คน
อีกทั้งสามารถประกาศกฎอัยการศึกได้ ถ้าประธานาธิบดีต้องการ แต่การก่อการร้ายครั้งนี้ มันลึกซึ้งกว่าสิ่งที่ปรากฎข่าวต่อชาวโลกค่อนข้างแน่นอน
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 8 ม.ค.58 ยุโรป หนาวจัด และจะเข้าสูภาวะเงินฝืดแล้ว
ยามสภาวะอากาศหนาวจัดในยุโรป บางประเทศจะรุนแรงมาก ในภาพคือที่สวิตเซอร์แลนด์ อุณภูมิติดลบ ขนาดคลื่นจาก ลมในแหล่งน้ำใหญ่ซัดมา มันกลายเป็นน้ำแข็งในทันที (ภาพประกอบเนื้อหา) ประชาชน จำเป็นต้องพึ่งเครื่องทำความร้อนในบ้าน หรือ ตามอาคารต่างๆ อย่างมาก
ประเด็นเนืีอหาในตอนนี้ ที่จะสื่อคือ แก็สที่นำมาให้ความร้อนในยุโรป ได้มาจากตะวันออกกลาง 33% และจากรัสเซีย 67% ผ่านมาทางเยอรมัน แล้วท่อแยก ไปประเทศยุโรปต่างๆ เพื่อทำความร้อน เช่น ผลิตไฟฟ้า ฯลฯ ทำให้ คนยุโรปแทบทุกคน จึงได้ไออุ่นรอดตายจากอากาศหนาว เพราะรัสเซีย ดังนั้นรัสเซียรู้ว่า ยุโรป ขาดแก็สไม่ได้แน่นอน ประชาชนเล่นงานรัฐบาลตนเองตายแน่
รัสเซียก็เลยทำมึนๆ ขายแก็สให้ EU เก็บค่าแก๊สเป็นดอลลาห์ จากนั้นก็เอามาซื้อทองคำส่งกลับประเทศ ล่าสุดพี่หมีซื้อไปเพิ่มอีก 19 ตัน ทำให้ EU เริ่มเดือดร้อน เพราะทองคำในตลาดหายไป ราคาทองคำจึงขยับขึ้นนิดหน่อย
จริงๆ แล้วราคาทองคำที่ลดลงช่วงที่ผ่านมา เป็นลักษณะไม่เป็นจริง เพราะเอาทองไปเทียบกับดอลลาห์ ไม่ใช่ราคาทองลดลงจริงๆ ตอนนี้เมื่อดอลลาห์เริ่มเน่า ราคาทองคำจึงดีดกลับขึ้นไป เพราะเมื่อไปเทียบกับค่าเงินสกุลอื่นแล้ว ทองมันแพงขึ้น เนื่องจากมันหายไปจากตลาด
เพราะพี่หมีขาว กับ กังฟูแพนด้านี่แหละ เล่นกว้านซื้อทองในตลาดไปจนเกลี้ยง คำสั่งซื้อเขามาถี่ยิบ ผลคือ เงินยูโร เน่าเลย เพราะหาทองคำมาค้ำไม่ได้ ที่มีอยู่ก็แพงขึ้น เมื่อเทียบค่ากับเงินยูโร ที่ด้อยค่าลงกว่า 30% (ค่าเงินอเมริกาอิงน้ำมันเรียก เปโตดอลล่าห์ แต่ประเทศอื่นอิงทองคำ ใครมีทองมาก ค่าเงินก็แข็ง พิมพ์เงินเพิ่มได้มาก มีทองน้อย พิมพ์เงินใหม่เพิ่มได้น้อย)
เงินยูโร จะไปต่อไหวไหม และ จะไหวได้สักกี่วัน เพราะมันได้เกิดภาวะเงินยูโรน็อค จาก "ภาวะเงินฝืด" เข้าให้แล้ว ใครส่งสินค้าออกไปขายยุโรป เตรียมหาตลาดอื่นรองรับได้เลย เพราะหลังจากนี้คนยุโรป จะแทบไม่ใช้เงิน นักท่องเที่ยวก็จะขี้เหนียวขึ้น
เงินจะหายไปจากตลาดหมุนเวียนเอาดื้อๆ เพราะคนยุโรปจะเก็บอย่างเดียวโดยไม่ใช้เงิน ปรากฎการณ์แบบนี้ มันจะน็อคธุรกิจการค้าใน EU เร็วๆ นี้แน่ จะเห็นคนถูกให้ออกจากงานเพิ่มมากขึ้น ฝรั่งเศส อิตาลี จะเจอแรงกดดันหนัก
จะได้เห็นม็อบคนตกงาน มาก่อหวอดประท้วง ปะทะเดือดกับเจ้าหน้าที่ในไม่นานจากนี้ คนไทยบางคนเกิดมา ไม่เคยเจอภาวะเงินฝืดว่าเป็นแบบไหน ให้ศึกษา EU ตอนนี้ไว้เป็นบทเรียน
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 8 ม.ค.58 เจ๊งหมดกัน.. ธนาคารในอเมริกา สถานะสั่นคลอนหนัก
ผลจากหุ้นในอเมริการ่วงมหาวินาศ จากราคาน้ำมันนตลาดโลกลดลง จนต่ำกว่า 50 US ต่อบาร์เรล ส่งผลให้บริษัทน้ำมันในอเมริกา เจ้งกันวินาศสันตะโร เพราะธุรกิจน้ำมันในอเมริกา ส่วนใหญ่ผลิตจาก "หินน้ำมัน" (Shale Oil) ไม่ได้ขุดเจาะในทะเล จึงมีต้นทุนสูงกว่าคือ 60 US ต่อ บาร์เรล
จึงทำให้บริษัทน้ำมันในอเมริกา ขาดทุนบักโกรก แทบทรงตัวอยู่ไม่ได้ เนื่องจากนโยบายที่ผิดพลาด ของรัฐบาลโอบามา ความหายนะไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น เพราะมันได้ลุกลามไปยังบรรดา "ธนาคาร" ที่ปล่อยกู้ให้บริษัทน้ำมันของมะกัน
เมื่อลูกหนี้เจ้ง ก็ไม่มีเงินมาจ่ายดอก จ่ายต้น ธนาคารทั้งหลายก็เงิน "ช็อต" ขาดสภาพคล่องทางการเงิน จะกู้ยืมระหว่างธนาคาร ต่างคนก็ต่างกระเป๋าแห้ง เพราะลูกหนี้บริษัทน้ำมันต่างเบี้ยวหนี้ เกิดอาการ "ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย" อย่าว่าแต่สภาพคล่องเลย ต้องเรียกว่า "หมดสภาพ " จะเหมาะสมกว่า
ยอดเงินที่อาจเป็นหนี้สูญ (NPL) ครั้งนี้คือราว 6.4 ล้านล้านบาท..อุแม่เจ้า อีกไม่นาน อาจได้เห็นธนาคารในอเมริกา ล้มคว่ำเป็นโดมิโน เมื่อธนาคารทะยอยล้ม ธุรกิจอื่นที่ต้องพึ่งเงินทุนธนาคาร ก็พลอยขาดแหล่งทุนในประเทศ ต้องบากหน้าไปกราบกรานแหล่งทุนนอกประเทศ
ประเทศ EU ก็กรอบเป็นข้าวเกรียบป่น เพราะตอนนี้เกิดสถานการณ์ประหลาด คือ อัตราเงินเฟ้อติดลบ ส่งผลให้เกิดภาวะน็อคของเงิน เรียกว่า "ภาวะเงินฝืด" อันนี้น่ากลัวมาก เพราะคนที่ถือเงิน ยูโร จะไม่ยอมใช้เงินตัวเอง เก็บเงียบสนิท สินค้าอะไรก็จะขายไม่ได้ การค้าเงียบกริบ
ค่าเงินยูโร ที่ตอนนี้อ่อนค่าไปแล้ว 30% จะหัวทิ่มบ่อดิ่งลงไปอีก กรรมไม่แบแน่ๆ , ส่วนซาอุฯ ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว กินบุญเก่าจนเกลี้ยงแล้วจ้า และตอนนี้ซาอุฯ เริ่มเกิดปัญหาขัดแย้งการเมืองภายในซะแล้ว ตั้งงบประมาณประจำปีอดออม แบบลดลงอย่างไม่น่าเชื่อว่าเป็นเศรษฐีเก่า คนเคยรวย ส่อวุ่นวายเร็วๆ นี้
ส่วนญี่ปุ่น เลิกคุยได้เลย เพราะหนี้สาธารณะตนเองโด่งไปกว่า 220 % ของ GDP ลูกหนี้ใหญ่ คือ อเมริกา ไม่เคยใช้หนี้มานานแล้ว และอเมริกาเอาแต่เงินไป ทิ้งพันธบัตรไว้ ให้ญี่ปุ่นถือไว้ดูต่างหน้า จนต้องทำ QE ไปหลายรอบแล้ว , ส่วนรัสเซีย ก็เป็นอริต่อกันอย่าหวังไปกู้เขาได้ , จีน..พอได้..แต่ !! จีนคงต้องขอมีหุ้นใหญ่ ในธุรกิจที่มาขอกู้
ใครก็รู้ว่าจีนใช้แนวนโยบายนี้ ทุกธุรกิจต่างชาติ ที่ไปลงทุนในจีน และการจะฮุบ แล้วกลืนกิจการธุรกิจในต่างประเทศ ก็ใช้สูตรเดียวกัน แต่เพิ่มเงื่อนไขอื่นประกันความเสี่ยงเข้าไป เช่น ต้องเป็นธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐาน คิดอัตราดอกเบี้ยสูงลิ่ว ฯลฯ
แล้วจีนก็เอารายได้จากธุรกิจนอกประเทศตนเอง ปั้มไดโว่สูบเงิน US นั้น แล้วแปลงเป็นซื้อสินทรัพย์มั่นคงทองคำ ส่งกลับเข้าประเทศของตนเอง US ก็ทิ้งไว้นอกประเทศดั่งเดิม นี่แหละคือเหตุผลที่แท้จริงที่มะกัน ไม่กล้า โจมตีค่าเงินหยวน เพราะธุรกิจของตนเอง ก็จะวินาศไปเร็วกว่านี้อีก
มะกัน จึงเลือกโจมจีค่าเงินรูเบิ้ล ของหมีขาว เพราะไม่ค่อยมีธุรกิจที่หุ้นกัน เหมือนของจีน มีหลักๆ ก็แค่หุ้นธุรกิจน้ำมันที่แถวทางเหนือรัสเซีย แต่ก็โดนหมีขาวย้อนเกล็ดด้วยกลยุทธ์ "งูกินหาง" ตามที่เคยเล่าให้ฟังตอนที่แล้ว
นี่แหละคือ ฝีมือตอบโต้แบบ "กลืนกิน " ของจีน และ "งูกินหาง" ของรัสเซีย มันจะกินกัดกร่อนตัวตนอเมริกา ที่จุดแกนหลักของธุรกิจเลย จนไม่อาจดำรงความเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ดั่งเดิมได้อีกแล้ว
เหลือรอเพียงจะแยกตัวเป็นอิสระกี่ประเทศ และต้องแบ่งดินแดน ให้เจ้าหนี้จีนเช่า 99 ปี เพื่อหักบัญชีหนี้เท่านั้น วอชิงตัน ดี ซี อาจเป็นพื้นที่เหมาะ ที่จีนจะสถาปนาเป็นมณฑลเอก ในรัฐอาณานิคมตะวันตก โดยส่งผู้ว่าชาวจีน ไปปกครอง
ส่วนจวนผู้ว่าจีน ก็ไม่ต้องสร้างใหม่ ก็เอาทำเนียบขาวนั่นแหละ เป็นที่ทำการไปเลย ส่วนตึกเพนตากอน ก็ทุบผนังดัดแปลงนิดหน่อย เอามาทำช็อปปิ้งมอลล์ซะ หรือ ทำสวนสนุก "เพนตากอนแลนด์" ก็จะปั้มเงิน แปลงเป็นทองคำส่งกลับไปจีนได้อีก
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 8 ม.ค.58 หิมะตกหนัก ในประเทศทะเลทราย ตะวันออกกลาง
ที่เห็นในภาพ ไม่ใช่อเมริกา หรือยุโรป แต่คือดินแดนในทะเลทรายที่เคยแดดร้อนระอุเปรี้ยงๆ หาแหล่งน้ำไม่ได้ คือ อิสราเอล ซีเรีย จอร์แดน เลบานอน ปาเลสไตน์ ที่อากาศแปรปรวนหนัก โดนหิมะถล่มหนามากอย่างรวดเร็ว จนประชาชนปรับตัวไม่ทัน มีหนาวตายไปบ้างแล้ว
ในเขตแดนแถวเลบานอน มีประชาชนผู้อพยพหนีภัยสงครามจากซีเรียอยู่ในค่ายกักกันประมาณ 400,000 คน พวกเขาไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำประปา ไม่มีไฟก่อผิงกันหนาว ไม่มีอาหารเพียงพอ ไม่มีแม้แต่น้ำมันจะใช้ ทั้งที่ดินแดนพวกเขาเอง อุดมไปด้วยน้ำมัน
แต่ชาติตะวันตก ที่ไม่มีน้ำมันมาก กลับมีแท่นขุดเจาะเต็มไปหมดในประเทศพวกเขา สูบเอาทรัพยากรน้ำมันจากดินแดนพวกเขาไป เอาไปซื้อแก๊สมาทำความอบอุ่นในบ้านเรือน ซื้อผ้าห่มนวมหนาๆ ซื้อเสื้อโคท ถุงมือ หมวกไหมพรม ถุงเท้า หนาๆ มาห่อหุ้มร่างกาย
แถมชาติตะวันตกเอาเงินรายได้จากน้ำมันในตะวันออกกลางเหล่านั้น มาหนุนอาวุธในกลุ่มก่อร้ายในประเทศ ไล่ฆ่าพวกเขาต้อนจนมุม ไปอยู่ในซอกหลืบภูเขาเล็กๆ เพื่อไม่ให้พวกเขาออกมาวุ่นวาย มาแย่งส่วนแบ่งน้ำมันจากชาติตะวันตกไป
อากาศหนาวที่ว่าโหดร้ายทารุณ ยังไม่อาจเทียบความใจดำ และโหดร้ายจากฝรั่งชาติตะวันตก ที่กดขี่เอาเปรียบเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ที่เขาด้อยกว่า และรู้ไม่เท่าทัน
@ เสธ น้ำเงิน4 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 7 ม.ค.58 ฝรั่งเศส โอดครวญถูกรังแก จากกลุ่มก่อการร้ายที่กราดยิงตาย 12 ศพรวด
เกิดเหตุช็อคเมื่อกลุ่มก่อการร้าย 3 ราย บุกกราดยิงสำนักงานชาร์ลี เฮบโด นิตยสารแนวล้อเลียนรายสัปดาห์ ในกรุงปารีส ฝรั่งเศส ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 ศพ เป็นบรรณาธิการ และนักเขียนการ์ตูนล้อเลียน เป็นตำรวจ 2 ราย บาดเจ็บอีก 7 คน เสียงยิงกันดังสนั่นหวั่นไหวไปทั้งเมือง และคนร้ายหนีลอยนวลไปได้ ตำรวจระดมกำลังเร่งล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
ที่ผ่านมาทางนิตยสารนี้ ได้นำเสนอข่าวสารจนทำให้เกิดกระแสความขัดแย้งอยู่บ่อยครั้ง เคยวาดภาพล้อเลียนศาสดาของชาวมุสลิม จนชาวมุสลิมไม่พอใจ นิตยสารดังกล่าว เคยถูกวางระเบิดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2554 หรือ 1 วันหลังการตีพิมพ์ภาพล้อเลียนของศาสดาโมฮัมหมัดของอิสลาม
แต่นิตยสารก็กร่าง บอกว่าตนเองไม่กลัว เพราะฝรั่งเศสคุ้มครอง โดยทางการฝรั่งเศส ได้ส่งตำรวจมาคุ้มครองนิตยสารนี้ ล่าสุดคือการเขียนภาพการ์ตูนล้อเลียน นายอาบู บัคร์ อัลแบกดาดี ผู้นำกลุ่มติดอาวุธ IS ในซีเรีย และอิรัก ผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า คนร้ายตะโกน " เราแก้แค้นให้แก่ท่านศาสดาแล้ว"
ประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ได้ ประณามผู้ก่อเหตุว่าเป็นการโจมตีที่ป่าเถื่อนที่สุดของผู้ก่อการร้าย และ ระบุว่าฝรั่งเศสถูกทำร้าย เพราะเป็นประเทศ ที่ส่งเสริมเสรีภาพของประชาชน รัฐบาลได้เพิ่มระดับการระวังภัยสูงสุดในย่านใจกลางกรุงปารีส ด้านรัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลอังกฤษ ได้ประณามกรณีดังกล่าว
นายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ระบุว่า อังกฤษจะร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับรัฐบาลและพลเมืองฝรั่งเศส ในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายและปกป้องเสรีภาพของสื่อ
---------------------------->
โห..ทีอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส เอาระเบิดใส่เครื่องบิน ไปทิ้งใส่ชาวบ้านในซีเรีย อิรัก หรือ อิสราเอล ทิ้งระเบิดใส่เด็กๆ ปาเลสไตน์ คนทั้งโลก เขาประนามว่า "ป่าเถื่อน" แต่ชาติตะวันตกก็เอาหูทวนลม แล้วการ ที่ส่งเสริมเสรีภาพของประชาชน ให้ดูถูกเหยียดหยาม ล้อเลียนศาสดาของชาวมุสลิม
เสรีภาพแบบนี้มันเป็นเสรีภาพ ที่ไปละเมิดเสรีภาพคนอื่นเขาหรือไม่ และการที่ฝรั่งเศสสนับสนุนขบวนการล้มเจ้าในไทย ก็เป็นเสรีภาพที่ละเมิดคนไทยเช่นกัน คนไทยควรพิจารณาที่ไปท่องเที่ยว ชาติตะวันตกที่ละเมิดสิทธิคนไทยเหล่านี้ อีกทั้งเสี่ยงต่อการถูกก่อการร้ายอีกด้วย
ฝรั่งเศส โดนเข้าอีกดอกแล้ว 12 ศพรวด การข่าวมาว่าเป็นกลุ่มอัลกออิดะห์ สายเยเมน ( กลุ่มนี้มีมะกันและซาอุฯ หนุน) และเมืองไทยก็มีนิตยสารบางฉบับ มีพฤติกรรมคล้ายฉบับนี้เลย กำลังรอนับวันถอยหลังถูกสั่งปิดอยู่
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup