ติดตามสถานะการณ์

ทหารปฏิรูปประเทศไทย ·



วันที่ 10 ม.ค.58 ผู้บริหารสายการบินฝรั่งเศส ปูดสหรัฐยิงมาเลเซียแอร์ไลน์ MH370
เมื่อไม่นานมานี้ ผู้บริหารสายการบินฝรั่งเศส เขียนเผยแพร่ ในหนังสือพิมพ์ฝรั่งเศสรายสัปดาห์ ปูดว่าสหรัฐอาจจะยิงสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ เที่ยวบิน MH370 แล้วปกปิดมันเพื่อเพิ่มความขัดแย้ง เกี่ยวกับเครื่องบินที่หายไป
ครั้งนั้นมีพยานในหมู่เกาะมัลดีฟส์ ที่อยู่ใกล้ที่สุดกับ ฐานทัพอเมริกาที่เกาะดิเอโกการ์เซีย ประมาณ 500 กิโลเมตร ไปทางทิศเหนือ พยานจำนวนมาก เห็นเครื่องบินขนาดใหญ่บินระยะต่ำมาก มีสีตรงกับสายการบินมาเลเซียแอร์ไลน์ มุ่งหน้าไปยังเกาะดิเอโกการ์เซีย
เขาระบุว่าเครื่องบินโบอิ้ง 777 อาจจะมีปัญหา และขณะที่มันกำลังบินเข้าใกล้ฐานทัพทหารสหรัฐในดินแดนของอังกฤษ เกาะดิเอโกการ์เซีย ในมหาสมุทรอินเดีย เป็นฐานทัพทหารที่มีประสิทธิภาพมาก ก็ถูกยิง เพราะกองกำลังสหรัฐอาจจะกลัวเครื่องบิน กำลังพยายามโจมตีสไตล์ 9/11 บนฐานทัพดังกล่าว
-------------------------------->
ทั้งข่าวกรองรัสเซีย และนักวิเคราะห์ทางทหาร หลักฐานจากสัญญาณปิง จากดาวเทียมอังกฤษ ( ก่อนถึงเกาะ และเลยเกาะมัลดิฟไป) พยานบุุคคลในหมู่เกาะมัลดีฟส์ และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ชาวตะวันตกที่พบเห็นเครื่องบินลำนี้ ขณะเขาลอยเรือยอร์ท ดื่มน้ำผึ่งพระจันทร์กับแฟน ในมหาสมุทรอินเดีย ต่างมีพิกัดทิศทางเดียวกัน คือ หมู่เกาะดิเอโกการ์เซีย
แต่ไม่เคยมีการสอบสวนเรื่องนี้ พุ่งเป้าไปที่นั่น แต่กลับเปลี่ยนพิกัดพุ่งเป้ามาค้นหาแถวใกล้ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นคนละทิศทางกันอย่างสิ้นเชิง..เริ่มมีตัวละครฝรั่งเศส มาเผยเรื่อง MH370 อีกแล้ว
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup

 

Thanong Fanclub



เผยรายละเอียดวิกฤตจับตัวประกัน2จุดในฝรั่งเศส ปธน.แถลงยันผู้บริสุทธิ์ตาย4
รอยเตอร์/เอเอฟพี - ฟรังซัวส์ ออลลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสแถลงยืนยันเมื่อวันศุกร์(9ม.ค.) ว่ามีผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต 4 รายในเหตุจับตัวประกันที่ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งทางตะวันออกของกรุงปารีส ส่วนผู้ก่อเหตุถูกวิสามัญเช่นเดียวกับ 2 ผู้ต้องสงสัยสังหารหมู่ที่สำนักงานนิตยสารรายสัปดาห์ ท่ามกลางข้อมูลที่ปรากฏชัดว่าทั้ง 3 คนร่วมมือกัน ขณะที่เหล่าผู้นำทั่วยุโรปเตรียมแสดงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับแดนน้ำหอม ด้วยการตอบรับร่วมเดินขบวนสนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
ประธานาธิบดีฝรั่งเศสแถลงหลังเหตุจับตัวประกันสิ้นสุดลง โดยบอกว่า "พวกคนบ้าคลั่งเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับศาสนาอิสลาม" เขากล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ พร้อมเตือนว่า "ภัยคุกคามต่างๆของฝรั่งเศสต้องเผชิญคงไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ" นอกจากนี้ออลลองด์ ยังประณามเหตุสังหารตัวประกัน 4 คนที่ซูเปอร์มาร์เก็ตโกเชร์ ทางภาคตะวันออกของกรุงปารีส ว่าเป็นพฤติกรรมต่อต้านยิวที่น่าสะพรึงกลัว
ผู้นำแดนน้ำหอมรายนี้บอกว่าเขาจะไปร่วมเดินขบวนแสดงความเป็นเอกภาพของชาติในวันอาทิตย์นี้(11ม.ค.) ที่คาดหมายว่าจะมีประชาชนหลายแสนคนเข้าร่วมเช่นเดียวผู้นำเยอรมนี อิตาลี อังกฤษ สเปน และเบลเยียมที่ตอบรับเรียบร้อยแล้ว ขณะที่นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานสภายุโรปและนายฌอง-โคลด ยุงเคอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป บอกว่าจะไปร่วมเดินขบวนในกรุงปารีสเช่นกัน
เผยรายละเอียดวิกฤตจับตัวประกัน2จุดในฝรั่งเศส ปธน.แถลงยันผู้บริสุทธิ์ตาย4
แม้แต่เกาหลีเหนือและคิวบาก็ยังส่งสารแสดงความเสียใจต่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้ ขณะที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่สหรัฐฯในวันศุกร์(9ม.ค.) ออกมาสนับสนุนฝรั่งเศส โดยประกาศพร้อมให้ความช่วยเหลือในทุกรูปแบบเพื่อต่อสู้กับภัยคุกคามของพวกนักรบอิสลามิสต์หัวรุนแรง
ความเคลื่อนไหวของนานาชาติ มีขึ้นหลังจากกองกำลังตำรวจของฝรั่งเศสบุกจู่โจมช่วยเหลือตัวประกัน 2 จุดในเวลาไล่เลี่ยกันในวันศุกร์(9ม.ค.) ปลิดชีพ 2 พี่น้องที่อยู่เบื้องหลังเหตุสังหารหมู่ที่สำนักงานนิตยสารรายสัปดาห์แนวเสียดสี “ชาร์ลี เอ็บโด”และผู้สมรู้ร่วมคิดอีกคนหนึ่ง อย่างไรก็ตามในเหตุการณ์ที่ซูเปอร์มาร์เก็ตโกเชร์ มีตัวประกันเสียชีวิต 4 คน
มือปืนผู้ก่อเหตุจับตัวประกันในซูเปอร์มาร์เก็ตชาวยิวในกรุงปารีสเมื่อวันศุกร์(9ม.ค.) เผยกับสื่อมวลชนท้องถิ่นระหว่างหลบหนีว่าเขาร่วมมือกับ 2 พี่น้องผู้ต้องสงสัยโจมตีสำนักงานหนังสือพิมพ์นิตยสารรายสัปดาห์แนวเสียดสี “ชาร์ลี เอ็บโด” ก่อนทั้งหมดจะถูกปลิดชีพในปฏิบัติการจู่โจม 2 จุดไล่เลี่ยกันของหน่วยคอมมานโด พร้อมกันนั้นยังบอกด้วยว่าการโจมตีดังกล่าวเป็นภารกิจที่ดำเนินการในนามกลุ่ม AQAP หรืออัลกออิดะห์สาขาเยเมนและกบฏรัฐอิสลาม(ไอเอส)
เผยรายละเอียดวิกฤตจับตัวประกัน2จุดในฝรั่งเศส ปธน.แถลงยันผู้บริสุทธิ์ตาย4
สรุปเหตุการณ์
- ตำรวจฝรั่งเศสกระจายกำลังไปในแถบชนบทเพื่อไล่ล่านายเชรีฟ กูอาชี นักรบอิสลามวัย 32 ปี ที่เคยถูกจำคุก 18 เดือนในปี 2008 โทษฐานมีส่วนเกี่ยวข้องในเครือข่ายลักลอบส่งนักรบไปยังอิรัก และซาอิด พี่ชายวัย 34 ปีของเขา โดยทั้งคู่เกิดในปารีส 2 ผู้ต้องสงสัยสังหารหมู่ที่สำนักงานนิตยสารรายสัปดาห์แนวเสียดสีชาร์ลี เอ็บโดเมื่อวันพุธ(7ม.ค.) ขณะที่ทั้งสองยังหลบหนีเป็นคืนที่ 2
- พอถึงช่วงเช้าวันศุกร์(9ม.ค.) ตอนเวลาประมาณ ตำรวจขับรถยนต์ไล่ล่าด้วยความเร็วสูงและยิงตอบโต้รถยนต์คันหนึ่งบนทางหลวง N2 ทางตะวันออกเฉียงเหนือของปารีส ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นยานพาหนะที่พี่น้องกำลังใช้หลบหนี
- หลังจากจนมุมในช่วงสาย สองพี่น้องก็บุกจับตัวประกันคนหนึ่งที่โรงพิมพ์ CTD ในดามมาแตง ออง กูเลอ เมืองเล็กๆที่มีประชากรราว 8,000 คน ห่างจากท่าอากาศยานหลักของปารีส ชาร์ลส เดอ โกล แค่ 12 กิโลเมตร ทำให้ตำรวจต้องปิดล้อมเมืองดังกล่าวและส่งเฮลิคอปเตอร์บินตรวจตราวนไปวนมาอยู่ด้านบน พร้อมสั่งอพยพตามโรงเรียนที่อยู่โดยรอบและห้ามประชาชนที่อยู่ในละแวกดังกล่าวออกนอกบ้าน
- เครื่องบินโดยสาร 2 ลำของสายการ "แอร์ ฟรานซ์" ต้องยกเลิกการลงจอดในสนามบิน ชาร์ลส เดอ โกล เนื่องจากเฮลิคอปเตอร์ของทางการที่ไล่ล่าตัวคนร้าย บินวนเวียนอยู่ในบริเวณนั้น
- ถึงช่วงนั้น ประธานาธิบดี ฟรองซัวร์ โอลองด์ ได้เข้าร่วมการประชุมของกระทรวงมหาดไทย เพื่อรับฟังสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุด ส่วนนายกรัฐมนตรี มานูเอล วอลส์ ได้ประกาศว่า ฝรั่งเศสไม่ได้ทำสงครามกับศาสนา แต่กำลังทำสงครามกับผู้ก่อการร้าย
- ระหว่างนั้นตอนเวลาประมาณ 13.00น.(ตรงกับเมืองไทย 19.00น.) ได้เกิดเหตุการณ์ระทึกขวัญอีกคดีแทรกขึ้นมา โดยมีมือปืนเปิดฉากยิงที่ซูเปอร์มาร์เก็ตนิวแห่งหนึ่งที่ปอร์เตอเดอ แวงซองน์ ทางตะวันออกของปารีสและจับตัวประกันไว้อย่างน้อย 5 คน โดยเชื่อกันว่ามือปืนคนนี้คือผู้ต้องสงสัยที่เพิ่งก่อเหตุยิงตำรวจหญิงนายหนึ่งเสียชีวิตทางใต้ของปารีสเมื่อวันพฤหัสบดี(8ม.ค.)และต่อมาก็ปรากฎความชัดเจนว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับสองพี่น้องกูอาชี
- เมื่อถึงเวลา 17.00น.(ตรงกับเมืองไทย 23.00น.) หน่วยคอมมานโดฝรั่งเศส ก็บุกจู่โจมเข้าไปยังอาคารที่สองพี่น้องกูอาชีจับตัวประกันและหลบซ่อนอยู่ ท่ามกลางเสียงปืนและระเบิดที่ดังขั้นสนั่นหวั่นไหว ต่อมาพบว่าผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 ถูกกองกำลังความมั่นคงวิสามัญ ส่วนตัวประกันเป็นอิสระโดยไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
- ระหว่างนั้นตอนประมาณ 17.15 น.(ตรงกับเมืองไทย 23.15 น.) หน่วยคอมมานโดอีกชุดก็บุกจู่โจมซูเปอร์มาร์เก็ตยิวเพื่อช่วยตัวประกัน แต่คราวนี้มีผู้เสียชีวิต 5 คน ในนั้นรวมถึงมือปืน นอกจากนี้แล้วยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก 4 คน
10/1/2014
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…

 

Thanong Fanclub



ฝีมืออัลเคด้า สาขาเยเมน?
อัล เคด้าสาขาเยเมนออกมารับว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการก่อการร้ายในปารีส เพื่อล้างแค้นให้เกียรติภูมิของพระโมฮัมหมัด นอกจากนี้ถือว่าเป็นการตอบโต้บทบาทของฝรั่งเศสในการทำสงครามกับประเทศมุสลิมและประเทศที่ถูกกดขี่
หลัง911 บุชถือโอกาสถล่มตะวันออกกลาง และสงครามยังคงดำเนินมาถึงทุกวันนี้ เหตุการณ์ก่อการร้ายที่Charlie Hebdoอาจจะถือได้ว่าเป็น911ของฝรั่งเศส แล้วฟรังซัว ออลลองค์จะสั่งทำสงครามกับประเทศใดในตะวันออกกลางหรือไม่ เพื่อเป็นการล้างแค้น?
ตอนนี้กลายเป็นว่ามี2เรื่องใหญ่ในโลกคือวิกฤติยูเครน และการก่อการร้ายในฝรั่งเศส ที่จะมีผลกระทบเป็นลูกโซ่ต่อเนื่องไปจนสุดจะคาดเดา
แต่อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เห็น เพราะว่าสิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่ รอให้ฝุ่นหายตลบสักพักก่อน
10/1/2015
Al-Qaeda in Yemen claims directing Paris attacks as ‘revenge’ – reports — RT News

 

Thanong Fanclub



ออกโรงมาเตือนสงครามนิวเคลียร์กันเป็นแถว
Mikhail Gorbachev อดีตผู้นำโซเวียตรัสเซียออกมาเตือนว่าสงครามในยูเครนอาจจะนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์
เขาให้สัมภาษณ์สื่อเยอรมันDer Spiegelว่า สงครามแบบนี้เลี่ยงไม่ได้ที่จะนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์ "เราจะไม่รอดในปีที่กำลังจะมาถึง ถ้าหากใครเกิดบ้าขึ้นมาในสถานการณ์ที่ร้อนแรงขึ้นเช่นนี้ ผมไม่ได้พูดอะไรที่ไม่ได้ยั้งคิด ผมเป็นห่วงมากๆ"
Steven Cohen ผู้เชี่ยวชาญรัสเซียชาวสหรัฐฯเตือนเหมือนกันว่าความล้มเหลวในการเจรจาสันติภาพในยูเครนจำนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์
Lech Walesa อดีตผู้นำโปแลนด์เตือนสหรัฐฯและนาโต้ว่าการติดอาวุธให้ยูเครนสามารถนำไปสู่สงครามนิวเคลียร์
Noam Chomsky นักวิชาการหัวเอียงซ้ายของสหรัฐฯเห็นด้วยกับความเสี่ยงของสงครามนิวเคลียร์
Helen Caldicott หมอชาวออสเตรเลียและผู้รับรางวัลโนเบล บอกว่าการขยายตัวของนาโต้ไปยังชายแดนของรัสเซียเป็นสิ่งที่อันตรายมาก ถ้าหากเกิดสงครามระหว่างสหรัฐฯและรัสเซียขึ้นมา จะไม่มีทางที่จะเลี่ยงการใช้นิวเคลียร์ได้
ทั้งสหรัฐฯและรัสเซียมีอาวุธนิวเคลียร์สะสมกันมาก ตอนนี้ทั้งสองประเทศมีรวมกันถึง94%ของอาวุธนิวเคลียร์ทั้งหมด16,300ลูกในโลกนี้
เธอวิพากษ์วิจารณ์โอบามาอย่างรุนแรงที่ต้องการยั่วยุรัสเซีย "พวกเขาต้องการทำสงครามกับรัสเซียหรือ สงครามอย่างเดียวที่จะทำกับรัสเซียคือสงครามนิวเคลียร์เท่านั้น
thanong
10/1/2015
http://www.washingtonsblog.com/…/top-russian-american-polis…

 

Thanong Fanclub



หรือว่าเป้าใหญ่คือซาอุดิ อาราเบีย?
ซุนวูกล่าวเอาไว้แล้วว่าทุกสงครามเป็นเรื่องของกลลวง เพราะฉะนั้นเราต้องดูให้ลึกลงไปว่าการก่อการร้ายที่ฝรั่งเศสจะเป็นกลลวงที่จะนำไปสู่อะไร
ขณะนี้ข่าวการก่อการร้ายในฝรั่งเศสยังมั่วสับสน หรือจับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่ ข่าวสายหนึ่งบอกว่าเป็นฝีมือของอัล เคด้าจากเยเมนที่ต้องการล้างแค้นสื่อCharlie Hebdoที่ดูหมิ่นศาสดาของศาสนามุสลิม และต้องการตอบโต้ที่ฝรั่งเศสได้ทำสงครามกบัประเทศมุสลิมและประเทศที่ถูกกดขี่ในช่วงที่ผ่านมา http://rt.com/news/221295-alqaeda-yemen-claim-charlie/
ข่าวอีกสายหนึ่งรายงานว่าผู้ก่อการร้ายได้รับการหนุนโดยนาโต้อย่างลับๆที่ฝึกพวกไอซิสในซีเรีย สองพี่น้องชื่อSaidและ Cherif Kouachi ชาวฝรั่งเศสแต่มีเชื้อสายอัลจีเรียนที่กระทำการสังหารคนไป12ศพที่Charlie Hebdoเพิ่งจะกลับมาจากซีเรีย ทั้งคู่อยู่ภายใต้การติดตามอย่างใกล้ชิดของหน่วยข่าวกรองและฝ่ายความมั่นคงของฝรั่งเศส แต่เหตุไฉนทางการฝรั่งเศสถึงไม่สามารถจะหยุดยั้งการก่อการร้ายParis Shooters Just Returned from NATO’s Proxy War in Syria | Global Research
ข่าวจากสายรัสเซียบอกว่าไอซิสที่ได้รับการหนุนจากซาอุดิฯเป็นผู้กระทำการก่อการร้ายในฝรั่งเศส ซาอุดิฯกำลังมีการเปลี่ยนแปลงภายในราชวงศ์ สายหนึ่งในซาอุมีการแจ้งเตือนให้ทางกลาโหมของฝรั่งเศสให้ทราบว่าจะมีการก่อการร้ายจากไอซิสที่ได้กับการสนับสนุนจากอีกซีกหนึ่งในซาอุดิฯ แต่คำถามคือทำไมทางการฝรั่งเศสไม่ตอบสนองต่อการเตือน ทั้งๆที่รัสเซียได้รับคำเตือนและสามารถยับยั้งแผนการก่อการร้ายที่Sochi Olympicsได้
หรือว่าเป็นการสร้างสถานการณ์เพื่อก่อให้เกิดสงครามในตะวันออกกลาง เพราะว่าการล่มสลายของดอลล่าร์ และการผลิตน้ำมันของรัสเซีย แคนนาดาและสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นจะเป็นภัยต่อความอยู่รอดของซาอุดิฯ ถ้าดอลล่าร์มีอันเป็นไป ประเทศผู้ผลิตน้ำมันในตะวันออกกลางจะหมดตัวเหมือนกัน เพราะว่าขายน้ำมันแล้วถือดอลล่าร์กันทั้งนั้น
Paris Massacre Prompts Warning Of Total War In Saudi Arabia
แต่ไปๆมาๆ ซาอุดิ อาราเบียกลับเป็นฝ่ายโดนหลอกหรือไม่ เพราะว่าไอซิสที่กำลังก่อหวอดในซีเรียและอิรัค กลับกำลังเบนปากกระบอกปืนมายังซาอุดิฯ พวกไอซิสกำลังโจมตีซาอุดิทางชายแดนอิรัค http://www.ibtimes.com/isis-claims-attack-saudi-arabia-bord…
นอกจากนั้นอิหร่านออกอาการยั๊วะสุดขีดที่ซาอุดิฯทุบราคาน้ำมันลง เพื่อทำลายอิหร่าน รัสเซีย เวเนซูเอล่า ไนจีเรีย และมีผลกระทบในการทำลายShale Oilของสหรัฐนเหมือนกัน อิหร่านบอกว่าซาอุดิฯทุบราคาน้ำมันแบบนี้เปรียบเหมือนเป็นการทุบหม้อข้าวของตัวเอง และของตะวันออกกลางทั้งหมด
มีการคาดการว่าถ้าราคาน้ำมันลงเหลือ$40ต่อบาเรลล์ สงครามราคาน้ำมันครั้งนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางภูมิรัฐศาสตร์การเมืองอย่างใหญ่หลวง เพราะว่าประเทศผู้ผลิตน้ำมันหลายประเทศจะชักหน้าไม่ถึงหลัง เพราะว่ารายได้น้ำมันเป็นรายได้หลักในการใช้จ่ายงบประมาณ จะเกิดปัญหาสังคม จราจลหนักภายในประเทศที่พึ่งพารายได้จากน้ำมัน ถ้าหากว่ารายได้น้ำมันลดลงไปเรื่อยๆ
อิหร่านได้ส่งสัญญานให้พวกซีอะห์ในซาอุดิฯเริ่มทำการก่อหวอดได้แล้ว เพื่อล้มรัฐบาลซาอุฯ เพื่อเป็นการล้างแค้นสงครามราคาน้ำมันครั้งนี้
http://www.voanews.com/…/iran-accuses-saudis-o…/2587985.html
ข่าวรัสเซียบอกว่ารัสเซียกำลังเป็นกังวลใจในtotal warหรือสงครามเต็มรูปแบบในซาอุดิฯ ที่กำลังตกเป็นเป้าของพวกไอซีสและซีอะห์ที่ฝักใฝ่อิหร่าน งานนี้ซาอุดิฯออกตัวก่อนทั้งเรื่องไอซิสและเรื่องสงครามราคำน้ำมันไม่รู้ว่าถูกหลอกหรือไม่
และการก่อการร้ายในปารีส จะทำให้ฟรังซัว ออลลองด์เปิดศึกกับตะวันออกกลางหรือไม่ โดยอ้างว่าเพื่อเป็นการต่อต้านการก่อการร้าย เหมือนกับที่บุชก่อสงครามต้านการก่อการร้ายหลังเหตุการณ์911 เพื่อเขมือบตะวันออกกลางไปแล้วรอบหนึ่ง
เอาเข้าจริง บ่อน้ำมันของซาอุดิฯแม้ว่ากำลังร่อยหรอลง ยังคงหอมหวานเสมอสำหรับนักล่าอาณานิคมมืออาชีพที่กำลังน้ำลายไหลแพล็บๆ ต้องดูต่อไปว่ากลลวงจะออกมาในรูปใด ใครกำลังทำตัวเป็นตาอยู่
thanong
10/1/2014
ภาพประกอบคือทหารไอซิสที่ชายแดนซาอุดิฯ

 

Chalee Na Roied



ผมจำได้ว่าผมพูดถึง ทฤษฎีกบต้มนะครับ กบเวลาอยู่ในหม้อต้ม ส่วนใหญ่มักจะไม่รู้ตัว เพราะอุณภูมิของหม้อค่อยๆเพิ่มขึ้น พอรู้ตัวอีกทีหนึ่ง ก็กระโดดออกไม่ทัน คนจำพวกนี้ในยุคนี้มีเยอะมาก เมื่อหลายปีก่อน ผมโดนคนรอบข้าง หัวเราะเยาะตลอด ทุกครั้งที่พูดเรื่องนี้ เพราะเหตุการณ์มันยังไม่ชัดเจน แต่พอถึงเวลานี้ กลับมาอยากรู้อยากเห็น เพราะเริ่มรู้สึกหวั่นๆขึ้นมา ทุกวันนี้คนรอบข้าง ถ้าอยากรู้เรื่องนี้แล้วมาถามผม ก็จะไล่ให้อ่าน บทความของคุณ"ชาลี" แทน ประมาณนั้น อ้างว่าผมก็ชอบติดตาม บทความของคุณ"ชาลี" มาตลอด (ตั้งใจ)มุสาอีกต่างหาก เพราะเขาไม่รู้ว่า ชาลีคือใคร?
จริงๆตอนนี้ผมถือว่า บรรลุเป้าหมายในการ เขียนเฟสบุคแล้วนะครับ ถือว่าได้ทำตาม สิ่งที่ครูบาอาจารย์บางท่านมา"นิมิต" เมื่อหลายปีก่อน ว่าให้เริ่มลงมือได้แล้ว แล้วก็ทำโดยที่ก่อนหน้านั้น ตัวเองก็ยังไม่ค่อยจะเชื่อ จากที่ไม่เคยสนใจ เรื่องเศรษฐกิจ ภูมิศาสตร์การเมือง ระหว่างประเทศ ก็ต้องมานั่งศึกษาเรื่องนี้ และใช้เวลามากกว่า 4 ปี จนถึงตอนนี้
จนกระทั่งรู้ต้นสายปลายเหตุ ที่มาที่ไปของเหตุการ ค่อนข้างชัดเจน ว่าเหตุปัจจัยใดในอดีต ที่ส่งผลมาสู่ปัจจุบัน และถ้าชาติมหาอำนาจ ยังดำเนินตามแนวทาง ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ก็รับประกัน ผลหรือเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เลย ใช้หลัก "อริยสัจ 4 หรือ ปฏิจสมุปบาท มาเชื่อมโยงเหตุการณ์นั่นเอง "ไม่ใช่" การทำนายทายทัก เหตุการณ์ล่วงหน้าใดๆทั้งนั้น พูดกันไปตามเหตุปัจจัยล้วนๆ
ผลเชื่อว่าแม้มีคนไทยอีกหลายล้านคน ที่ยังไม่ได้ตระหนักในเรื่องนี้ แต่หลายๆท่านที่ ติดตามผมมาตลอด น่าจะเป็นบุคคลที่ "รู้ดีที่สุดและต้องเป็นผู้นำสังคม และคนรอบข้าง" จิตใจน่าจะเข้มแข็งมากพอ เมื่อต้องเผชิญกับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
และขอบอกว่าตอนนี้ กฎอัยการศึกในสหรัฐ ประกาศใช้แล้วนะครับ และนานแล้วด้วย ทหารพร้อมรถถัง เตรียมพร้อมสำหรับสงครามกลางเมืองแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เรียกว่า "false flag" ต่างๆนั้น จริงๆก็คือจำลองสถานการณ์ซักซ้อมของ จนท. ทหารตำรวจ และกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมินั่นเอง https://www.intellihub.com/martial-law-already-america-sol…/
หวังว่าคนที่ติดตามผมมาตลอด คงจะไม่อยู่ในประเภท "กบต้ม" นะครับ มิเช่นนั้น ผมถือว่าเวลาที่ผ่านมา ของผมนั้นสูญเปล่า เพราะมันช่วยอะไรท่านไม่ได้เลย...

 

เรียนคุณ kaewkaow
จากเรื่อง เรียน...คุณสุกิจ ติดตามอ่านข้อมูลของท่านตลอดคะ...ขอให้ติดตามเรื่องอุกาบาท..มาเล่าสู่ฟังหน่อยคะ..เท่าที่ทราบเห็นว่านักวิทยาศาสตร์กับทีมวิศวกร..ชาวดัทซ์กำลังระดมช่วยกันคิดป้องกันนิวยอร์คจากน้ำที่จะเซิร์ทขึ้นมา..จากการอิมแพ็ค.จริงเท็จแค่ไหนคะ...ขอบพระคุณล่วงหน้าคะ

ขอตอบว่า ผมจะพยายามหาข้อมูลให้ครับถ้าพบ จะนำมาลงให้อ่านทันที น่ะครับ

 

Chalee Na Roied ผ่าน RT
3 ชม. ·
อังกฤษขอความช่วยเหลือ จากสหรัฐในการติดตาม เรือดำน้ำรุ่นใหม่ล่าสุด ของรัสเซียที่ยาก ต่อการตรวจจับเมื่อดำลงในน้ำ จริงๆสหรัฐก็ปวดหัว กับเรือดำน้ำรุ่นนี้ตั้งแต่ปี2012 แล้วครับ เพราะเข้าไปป้วนเปี้ยนในอ่าว เม็กซิโกไกล้ชายฝั่งสหรัฐ แต่กองทัพเรือสหรัฐ ก็ไม่สามารถตรวจจับได้ Undetected Russian nuclear sub 'patrolled Gulf of Mexico' — RT News
เรือดำน้ำรุ่นนี้ เป็นอีกทีเด็ดของรัสเซีย ที่สหรัฐยังไม่กล้าโจมตี รัสเซียด้วยอาวุธนิวเคลียร์ เพราะกลัวว่าจะโดนสวน กลับภายในไม่กี่นาที นั่นแหละครับ เพราะรุ่นนี้ติดขีนาวุธนิวเคลียร์ได้หลายลูก เรียกได้ว่าสามารถโจมตีสหรัฐได้ แทบจะไม่กี่นาทีหลังจากที่ได้รับคำสั่ง..

 

รถชนกว่า100คันเหตุหิมะตกหนักมิชิแกน
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



เกิดอุบัติเหตุขึ้นบนทางหลวงระหว่างรัฐในเขตคาลามาซู รัฐมิชิแกน ทำให้รถยนต์เสียหลักพุ่งชนกันต่อเนื่องกว่า100คัน


สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า เกิดอุบัติเหตุขึ้นบนทางหลวงระหว่างรัฐในเขตคาลามาซู รัฐมิชิแกน เมื่อสภาพพื้นผิวถนนที่เปียกลื่นจากหิมะที่ตกปกคลุม ทำให้รถยนต์เสียหลักพุ่งชนกันต่อเนื่องกว่า 100 คันและเกิดไฟลุกไหม้ รวมทั้งรถพ่วง ซึ่งบรรทุกวัตถุเคมีอันตราย และดอกไม้ไฟ ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ต้องอพยพชาวบ้านออกจากบริเวณดังกล่าวเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนที่หน่วยดับเพลิงจะเข้ามาดับไฟที่ลุกไหม้รถยนต์และรถพ่วง ทั้งนี้ มีรายงานว่า อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 1 รายบาดเจ็บอีก 10 คน และมีรถยนต์ได้รับความเสียหายจากไฟที่ลุกไหม้ 6 คัน จากจำนวนรถยนต์ที่ชนกันทั้งหมด 150 คัน

ö

 

“สภาล่างสหรัฐฯ” ลงมติเดินหน้าก่อสร้าง “โครงการท่อส่งน้ำมันคีสโตนไปป์ไลน์ XL” สุดฉาว โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 มกราคม 2558 12:13 น.



เอเจนซีส์ - เมื่อวานนี้(9) สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯภายใต้เสียงข้างมากของพรรครีพับลิกันได้ผ่านกฎหมายคีสโตนไปป์ไลน์ XL โครงการสุดฉาวกระทบสิ่งแวดล้อมสหรัฐฯสำเร็จ และคาดว่าสภาสูงสหรัฐฯที่มีเสียงข้างมากโดยพรรครีพับลิกันเช่นกันจะอนุยาตให้เดินหน้าก่อสร้างในไม่ช้า

บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(9)ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ประกาศจะใช้สิทธิ์วีโต้กฎหมายฉบับนี้ โดยในช่วงเช้าวันศุกร์(9) ศาลรัฐเนแบรสกาได้ยกฟ้องคดีหนึ่งที่จะทำให้การก่อสร้างโครงการคีสโตนไปป์ไลน์ XL ต้องหยุดลงชั่วคราว

ทั้งนี้โครงการท่อส่งน้ำมันแคนาดาที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมนี้เป็นการงัดข้อกันระหว่างโอบามา ผู้นำสหรัฐฯ และพรรครีพับลิกันที่ปัจจุบันนี้เป็นผู้นำเสียงข้างมากทั้งสองสภาหลังผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯในปลายปี 2014 ซึ่งท่อส่งน้ำมันความยาวร่วม1,897กม.จะนำน้ำมันที่ได้จากทรายน้ำมันทาร์จากแอลเบอร์ตา แคนาดา เพื่อจะมากลั่นที่โรงงานกลั่นน้ำมันใกล้กับอ่าวเม็กซิโก

จากการออกเสียงเมื่อวานนี้(9)ผ่านสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯชุดใหม่ที่มีพรรครีพับลิกันคุมจำนวนมากกว่าเดิมด้วยมติ 266-153 และมีสมาชิกพรรคเดโมแครตยกมืออกเสียง 28 คน

เควิน แมคคาร์ที สส.สังกัดพรรครีพับลิกันประกาศว่า “ที่ประชุมไม่ควรต้องเสียเวลาถกเถียง แต่ควรร่วมลงมติอนุญาตให้มีการสร้างโปรเจกต์นี้เกิดขึ้น”

สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า ในวันจันทร์(12) วุฒิสภาสหรัฐฯจะมีกำหนดพิจารณากฎหมายคีสโตนไปป์ไลน์ XL เช่นเดียวกัน และคาดว่าจะผ่านร่างกฏหมายฉบับนี้เช่นเดียวกับสภาล่าง ซึ่งโปรเจกต์มูลค่า 5.4 พันล้านดอลลาร์ถูกนำเสนอตั้งแต่ปี 2008 แต่โครงการนี้เป็นที่อื้อฉาวและถกเถียงในวงกว้างเพราะน้ำมันที่ได้จากทรายน้ำมันทาร์ที่จะส่งผ่านทางระบบท่อครั้งนี้เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าน้ำมันจากประเภทอื่น แต่การศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯที่ทำขึ้นในปีที่ผ่านมาชี้ว่า ไม่มีผลกระทบใหญ่โตต่อสิ่งแวดล้อมอย่างที่กังวลหากเริ่มมีการก่อสร้างโครงการนี้

โครงการคีสโตนไปป์ไลน์ XL ได้รับเสียงสนับสนุนจากสมาชิกพรรครีพับลิกันจำนวนมาก รวมไปถึงสหภาพแรงงานหลายแห่งด้วยเชื่อว่าโครงการนี้จะสามารถสร้างงานให้กับคนในท้องถิ่นได้ แต่เป็นเพราะโปรเจกต์นี้ข้ามพรมแดน ทำให้รัฐบาลกลางสหรัฐฯต้องเป็นหน่วยงานที่จะอนุญาตการก่อสร้าง แต่ทว่าหลังมติลงคะแนนของสภาล่างสหรัฐฯในวันศุกร์(9)ชี้ว่า จำเป็นต้องเร่งก่อสร้างโปรเจกต์นี้ทันที

อย่างไรก็ตามในต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การบริหารของโอบามาประกาศที่จะพิจารณาวีโต้กฏหมายฉบับนี้เนื่องจากพิจารณาแล้วเห็นว่าโครงการนี้กระทบต่อผลประโยชน์สหรัฐฯ และรวมไปถึงคดีความที่ยังคงค้างในศาลรัฐเนแบรสกา แต่ในช่วงเช้าวันศุกร์(9) ศาลเนแบรสกาสั่งให้คดีที่เกี่ยวกับโปรเจกต์ก่อสร้างท่อส่งน้ำมันตกไป ซึ่งคดีนี้ถือเป็นข้อขัดขวางตามกระบวนการยุติธรรมที่จะหยุดโครงการก่อสร้างเกือบทั้งหมด “คำพิพากษาในเช้านี้ถือเป็นโอกาสดีที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯจะหันกลับมาสนับสนุนและเปลี่ยนใจที่จะไม่คัดค้านกฎหมายฉบับนี้” มิตช์ แมคคอนเนล ผู้นำเสียงข้างมากพรรครีพับลิกันประจำสภาสูงสหรัฐฯแถลงหลังทราบคำพิพากาษาของศาลเนแบรสกา และเสริมว่า “ประธานาธิบดีมีทุกเหตุผลที่จะประกอบการตัดสินใจในการลงนาม”

 

น้ำมันกลับมาลงคาดอาจรูดแตะ $40 ทองบวก-หุ้นสหรัฐฯดิ่งจากข้อมูลแรงงาน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 มกราคม 2558 05:30 น.



เอเอฟพี/รอยเตอร์ - น้ำมันเมื่อวันศุกร์ (9 ม.ค.) กลับมาขยับลงอีกครั้ง ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2009 ท่ามกล่าวกระแสคาดเดาว่าอาจได้เห็นราคาดิ่งแตะระดับ $40 ปัจจัยนี้ประกอบกับข้อมูลภาคแรงงานที่ผสานฉุดให้วอลล์สตรีทร่วงหนัก ผิดกับทองคำที่ปิดบวก เหตุนักลงทุนแสวงหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือ ไลต์สวีตครูด ของตลาดนิวยอร์ก งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 43 เซนต์ ปิดที่ 48.36 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 85 เซนต์ ปิดที่ 50.11 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งขยับลงไปถึง 48.90 ดอลลาร์

ไมเคิล ฮิวสัน นักวิเคราะห์จากซีเอ็นซี มาร์เก็ตส์ บอกกับเอเอฟพีว่า “ความเคลื่อนไหวต่ำกว่า 50 ดอลลาร์ของน้ำมันดิบเบรนต์ แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มของราคาน้ำมันเป็นเช่นไร ไม่มีสัญญาณว่าโอเปกจะทำอะไรต่อภาวะอุปทานล้นตลาด ดูเหมือนว่าเราอาจได้เห็นราคาน้ำมันดิ่งสู่ 40 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปสงค์ก็ไม่มีทีท่าจะฟื้นคืนเลย”

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันศุกร์ (9 ม.ค.) ดิ่งลงหนักในช่วงท้ายของการซื้อขาย หลังข้อมูลภาคแรงงานเดือนธันวาคมให้มุมมองที่ผสมผสานต่อเศรษฐกิจ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานก็ถูกฉุดจากราคาน้ำมันที่กลับมาปิดลบอีกครั้ง

ดาวโจนส์ ลดลง 170.50 จุด (0.95 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17,737.37 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 17.33 จุด (0.84 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,044.81 จุด แนสแดค ลดลง 32.12 จุด (0.68 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,704.07 จุด

แม้ข้อมูลภาคแรงงานประจำเดือนธันวาคมของสหรัฐฯ จะพบว่ามีการจ้างงานเพิ่มขึ้นถึง 252,000 อัตราและอัตราคนว่างงานก็ลดลงแตะระดับร้อยละ 5.6 แต่ความคึกคักของนักลงทุนก็ถูกฉุดรั้งโดยตัวเลขค่าจ้างที่ลดลง ซึ่งก่อความกังวลว่ามันจะกระทบต่อการใช้จ่ายผู้บริโภค ขณะเดียวกันตลาดยังถูกซ้ำเติมจากข้อมูลการนำเข้าและส่งออกภาคอุตุสาหกรรมของเยอรมนีที่หดตัวลง บ่งชี้ว่าชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยูโรซนอยู่ในช่วงเวลาที่อ่อนแอ

นอกจากนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานเมื่อวันศุกร์ (9 ม.ค.) ยังปรับลดกันอย่างกว้างขวาง จากราคาน้ำมันที่กลับมาปิดลบอีกครั้ง หลังสงบนิ่งในช่วง 2 วันก่อนหน้านี้ โดยน้ำมันดิบเบรนต์และน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเมษายน 2009 ท่ามกลางความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด

ส่วนราคาทองคำวานนี้ (9 ม.ค.) ปิดในแดนบวกพอสมควร หลังราคาน้ำมันและตลาดหลักทรัพย์ที่ดำดิ่ง ประกอบกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในกรีซ ช่วยเพิ่มอุปสงค์สินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 7.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,216.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์

จากผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดพบว่าพรรคไซรีซา ยังคงมีคะแนนนิยมนำหน้าเล็กน้อย ราว 2 สัปดาห์ก่อนศึกเลือกตั้งทั่วไปกรีซจะมาถึงในวันที่ 25 มกราคม

แนวโน้มดังกล่าวก่อความกังวลว่าหากพรรคไซรีซา ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ก็อาจจะส่งผลให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ และอาจทำให้กรีซต้องพ้นจากการเป็นชาติสมาชิกของยูโรโซน เนื่องจากพวกเขามีแนวโน้มที่จะยุติมาตรการรัดเข็มขัดแทนที่จะหวนคืนสู่การเจรจาขอกู้ยืมเงินจากนานานาชาติ

 

Jaroen Compeerapap



ขอให้ทุกคนระมัดระวังเมฆท้องฟ้าสีแดง แบบผิดธรรมชาติที่เคยเห็น ๆ มา เพราะมันคือฝุ่น หางของ planet x ที่กระจายตกเข้ามายังพื้นผิวโลก ซึ่งทำให้น้ำเป็นสีแดง ดังที่ทราบกันมาก่อนแล้ว จากการศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ พบว่า ส่วนหางของมันที่ยาวไกลได้กวาดต้อนสิ่งต่าง ๆ บริเวณ วงแหวน Asteroid belt ที่อยู่ระหว่างกลางวงโคจรของดาวอังคาร และดาวพฤหัส เข้ามาด้วย ที่น่ากลัวนั้นคือ สิ่งที่ตามมานอกโลกจำพวกแบคทีเรีย ที่สามารถเปลี่ยนสถานะองค์ประกอบ (Decomposition Compounds) ของสิ่งต่าง ๆ ได้เช่น อย่างแบคที่เรียที่สามารถย่อยสลายซากพืชซากสัตว์ ทั้งที่ไม่ต้องใช้กาศออกซิเจนเมื่อฝุ่นส่วนหางของ planet x ฟุ้งกระจายมายังโลกเวลาเราหายใจเอามันเข้าไป มันจะเข้าไปเปลี่ยนองค์ประกอบอะไร ๆ ในร่างกายเราหรือไม่ อย่างไร เพราะร่างกายเซลล์ในร่างกายเรามีน้ำเป็นองค์ประกอบ นักวิทยาศาสตร์ศึกษาวัวที่อยู่ ๆ ตาย ทันทีอย่างไม่มี่ปี่มีขลุ่ยในเปรูและที่ต่าง ๆ ล่าสุดหิมะที่ตกในไซบีเรียเปลี่ยนเป็นสีชมพู เหลือง ๆ ได้ ซึ่งน่าจะมาจากฝุ่นสารที่มีความสามารถเปลี่ยนองค์ประกอบได้ อย่างแบคทีเรียพวก หนอน และ โปโตซัว (Worn and Protozoan) ผมจำได้ว่าในบ้านเราเคยมีวัวควายตายทันทีก็มี ดังนั้นเมื่อใดเราเห็นฟ้าแดงผิดปรกติมาก ๆ ให้สังเกตแม่น้ำเป็นสีแดงหรือไม่ พยายามอย่าหายใจเอาฝุ่นเข้าไปในร่างกาย เพราะมันอาจทำลายเซลล์ในร่างกายเราและเป็นเหตุให้เสียชีวิตได้ เหมือน ที่เกิดกับวัวที่ตายอย่างกะทันหัน ไม่น่าคนโบราณจืงเรียกเจ้าดาวนี้ว่าผู้ทำลาย (The destroyer) นั่นเองเพราะมันมีพิษรอบตัวทั้งสนามแม่เหล็ก แรงดึงดูด และ สสารองค์ประกอบใหม่ (New Compound) ที่ไม่เคยมีในโลก ที่มีความสามารถเปลี่ยนสถานะองค์ประกอบ หรือ Decomposition Compounds ได้ ระวังไว้บอกลูกหลานนะครับ หมู่นี้เห็นเมฆแปลก ๆ มากหลายท่านกำลังตามหาอะไร ๆบนท้องฟ้ากันอยู่ ขอให้ท่านปลอดภัยครับ (ภาพ จาก Zetatalk)

 

남자존

สงครามโลกครั้งที่3คงอยู่ใกล้แค่ปลายจมูกแน่แท้แล้ว ล่าสุดสหรัฐย้ายทหารออกจากฐานทัพ14 แห่งทั่วยุโรป รวม 67,000 นาย ไปยังอิตาลีและเยอรมนีแทน ซึ่งทหารเขารู้ดีว่าการทำแบบนี้แสดงว่าสหรัฐเตรียมพร้อมแล้ว ซึ่งหากราคาน้ำมันต่ำกว่า40ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ย่างเข้า30ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์จะถูกยิ่งออกจากฐานทันที แน่นอนว่าขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ลูกแรกจะต้องยิงมาจากฝ้่งตะวันออก ซึ่งประเทศไหนบ้างที่จะเป็นพื้นที่รับกรรมคงต้องลุ้นกันเอาเอง และฝั่งตะวันตกเองก็ต้องยิงขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์โต้กลับอย่างแน่นอน สหรัฐมีขุนศึกยอดฝีมืออยู่เคียงข้างอย่างอิสราเอลทำให้สหรัฐสบายใจขึ้นเยอะ ซึ่งทุกชาติรู้ดีว่าอิสราเอลนั้นไม่ธรรมดามีประวัติการทำสงครามที่ยอดเยี่ยมแม้จะมีประชากรเพียงน้อยนิด จนถูกขนานนามว่าเป็นชนชาติที่พระเจ้าเลือก

 

ครับน่าสนใจตรงการกระจายตัวของการพิมพ์การ์ตูนล้อศาสนาอิสลาม บวกราคาน้ำมันรูดลงมาเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์น่าจะมีผลกระทบต่อการก่อสงครามในภาคตะวันออกกลางได้ เรื่องนี้ชวนให้ติดตามมากครับแล้วถ้าเหตุการณ์เป็นไปตามที่ท่านคาดการณ์ แล้วมีข้อแนะนำอย่างไรบ้างครับ สำหรับการเผชิญเหตุการณ์วิกฤติในครั้งนี้

 

ชนิดเครื่องบิน ทำไมถึงสำคัญ ต่อการเดินทางในฤดูหนาว
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 11 ม.ค. 2558 13:10



เที่ยวบินข้ามทวีประหว่างสหรัฐฯ และยุโรป ต้องล่าช้ากว่ากำหนด เนื่องจากการบินต้านลม ทำให้น้ำมันหมดก่อนถึง ทำให้ผู้โดยสารตกเครื่องที่จะบินต่อไปที่อื่นๆ ชนิดเครื่องบินที่บินจึงสำคัญไม่แพ้ราคาตั๋ว ลำใหญ่บินได้นานกว่า ถึงแน่นอน...

แอนดรูว์ ฟรีดแมน คอลัมนิสต์ ของ Mashable ได้ให้ข้อสังเกตเกี่ยวกับการเดินทางทางอากาศในช่วงฤดูหนาว ในเที่ยวบินทรานส์แอตแลนติก หรือเที่ยวบินระหว่างสหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรปว่า หากผู้ที่ต้องการเดินทางค้นหาเที่ยวบินระหว่างสหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรป คุณคงมองหาสายการบินตั๋วที่มีราคาถูกที่สุด ที่นั่งกว้างๆ และค่าโหลดสัมภาระน้อยๆ ไว้ก่อน แต่ยังมีอีกปัจจัยหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง หลังจากที่เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มีกรณีศึกษาจากชนิดของเครื่องบินโดยสาร

นับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2558 เป็นต้นมา สายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลน์ และอเมริกันแอร์ไลน์ ต้องนำเครื่องบินโดยสารลำตัวแคบแบบ โบอิ้ง 757 ที่ใช้ในเส้นทางยอดนิยมอย่าง สนามบินฮีทโธรว์ ลอนดอน ประเทศอังกฤษ - สนามบินนานาชาติ นวร์ก ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ และ สนามบินจอห์น เอฟ. เคเนดี้ ในนิวยอร์ก ไปลงจอดยังสนามบินอื่นๆ ก่อนถึงจุดหมายถึงหลายสิบครั้ง โดยเมื่อวิเคราะห์จากข้อมูลของเว็บไซต์ Flightaware.com พบว่าเครื่องบินต้องใช้เวลาบินนานกว่าเดิม ทำให้ต้องลงจอดยังสนามบินอื่นๆ เช่น กูสเบย์ หรือแกนเดอร์ ในแคนาดา หรือ แบงกอร์ ในรัฐเมน เพื่อเติมเชื้อเพลิงก่อนบินต่อไปยังที่หมาย


และด้วยเหตุนี้ทำให้สายการบินต้องมาสำรองที่นั่งให้ผู้โดยสารที่เครื่องดีเลย์ใหม่ นับเป็นการสูญเสีย ทั้งตัวเงิน เชื้อเพลิง และเวลาทำงานของพนักงานที่ต้องลากยาว เพื่อหาเที่ยวบินใหม่เพื่อให้ผู้โดยสารต่อเครื่องไปยังที่อื่นๆ เช่น ชิคาโก หรือ วอชิงตัน ดี.ซี. ขณะที่บริษัทเชื้อเพลิงในแบงกอร์ และกูสเบย์ กลับมีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงเวลานี้

เจ้าหน้าที่ของ แบงกอร์ เอวิเอชั่น เซอร์วิส ผู้ให้บริการเชื้อเพลิงแก่เครื่องบิน กล่าวว่า ที่เครื่องบินต้องมาลงจอดเพื่อเติมเชื้อเพลิงก่อนถึงที่หมาย มีเหตุผลเดียว คือ ลมปะทะหน้า หรือ Head Wind อันเนื่องจากกระแสลมกรด (Jet Stream) ในแถบมหาสมุทรแอตแลนติก อันเป็นแนวกระแสลมชั้นบน แนวของกระแสลมกรดโดยมากจะพัดจากทิศตะวันตกไปทิศตะวันออก มีความเร็วสูงถึง 230 ไมล์ต่อชั่วโมง มันส่งผลให้เที่ยวบินจากนิวยอร์กไปลอนดอนใช้เวลาบินแค่ 5 ชั่วโมง 30 นาที เท่านั้น ทั้งที่ปกติต้องใช้เวลา 6-7 ชั่วโมง นี่เป็นเพราะการบินตามกระแสลมเช่นกัน

เครื่องบินโดยสารแบบลำตัวแคบ รุ่นโบอิ้ง 757 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับสายการบินในการใช้บินในบางเส้นทาง แม้จะรองรับผู้โดยสารได้น้อยกว่าเครื่องบินลำตัวกว้างอย่างโบอิ้ง 767 หรือ แอร์บัส เอ330 เพราะเหมาะกับเที่ยวบินช่วงที่มีคนน้อย หรือใช้ในการบินระหว่างเมืองที่ความต้องการไม่สูง เช่น กรุงออสโล ไปยัง นวร์ก

โบอิ้ง 757 เริ่มให้บริการมาตั้งแต่ปี 1983 และได้รับความนิยมมากในหมู่สายการบินต่างๆ เพื่อใช้ในเส้นทางแบบฝั่งถึงฝั่งในสหรัฐฯ รวมทั้งเส้นทางสั้นๆ ในประเทศ ระหว่างปี 1990 ทางเอฟเอเอ ได้อนุญาตให้โบอิ้ง 757 สามารถบินเหนือน้ำ หรือทะเลได้ ในฐานะเครื่องบิน 2 เครื่องยนต์ จึงมีการนำมาใช้งานแพร่หลายในเที่ยวบินไปยุโรปฝั่งตะวันตก เพื่อทดแทนเครื่องใหญ่ๆ ที่มีค่าใช้จ่ายสูง รวมทั้งการบินจากฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ไปยังเกาะฮาวาย ทั้งนี้ โบอิ้ง 757-200 ของยูไนเต็ด แอร์ไลน์ มีพิสัยบินที่ 4,500 ไมล์


กูรูแนะเลือกจ่ายให้ฉลาดเพื่อนั่งเครื่องบินที่ดีที่สุด

เจสสิก้า พลาสซ์ นักเขียนของ Mashable แนะว่า แม้ว่าเที่ยวบินทรานส์แอตแลนติกส่วนมากเมื่อค้นหาแล้วจะพบว่าบินด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 757 เป็นส่วนมาก แต่แน่นอนว่าในเส้นทางนี้ย่อมมีเครื่องบินที่ใหญ่กว่าของสายการบินอื่นๆ บินด้วยเช่นกัน นี่อาจเป็นทางเลือกที่คุณไม่ต้องกังวลเรื่องพิสัยการบินที่จำกัด เมื่อต้องบินต้านลมแล้วเชื้อเพลิงเครื่องบินจะไม่พอต้องไปลงจอดที่อื่น ทำให้เสียเวลาต่อเครื่อง

Mashable ยกตัวอย่างการหาตั๋วเครื่องบินจาก ปารีส ไป นวร์ก ในเดือน มี.ค.2558 หากเลือกบินเวลา 09.25 น. ทางยูไนเต็ด จะใช้เครื่องบินโบอิ้ง 767-300 ที่มีพิสัยการบิน 6,900 ไมล์ หากเลือก บิน 12.55 น. จะได้บินกับเครื่องบินโบอิ้ง 757-200 ที่บินได้แค่ 4,500 ไมล์ แต่ทั้ง 2 เที่ยวบินราคาค่าโดยสารเท่ากัน มีความกว้างของที่นั่ง 17.3 นิ้ว และระยะห่างระหว่างที่นั่ง 31 นิ้ว ในชั้นประหยัด


อีกตัวอย่าง คือ เที่ยวบินระหว่าง ฮีทโธรว์ ลอนดอน - สนามบินนานาชาติ ดูลิส วอชิงตัน ดี.ซี. สายการบินยูไนเต็ดใช้เครื่องบิน โบอิ้ง 757 ควบคู่กับโบอิ้ง 777 ขณะที่บริติชแอร์เวย์ นำเอาแอร์บัส เอ 380-800 เครื่องบินโดยสารที่ใหญ่ที่สุดในโลกมาให้บริการ แต่บริติชแอร์เวย์ จะมีค่าโดยสารแพงกว่ายูไนเต็ดแอร์ไลน์ประมาณ 100 เหรียญ ในช่วงเวลาเดือน มี.ค. แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อลองดูในรายละเอียด ทั้ง 2 สายการบินให้สิทธิ์โหลดกระเป๋าสัมภาระฟรี 1 ใบ หากต้องการโหลดใบที่ 2 ยูไนเต็ด แอร์ไลน์ คิดค่าโหลดเพิ่มใบละ 100 เหรียญ ส่วนบริติชแอร์เวย์ คิดค่าโหลดกระเป๋าใบที่ 2 เพิ่มเช่นกัน ใบละ 50 เหรียญสหรัฐฯ แม้จะแพงกว่า แต่มั่นใจได้แน่นอนว่า จะไม่มีการบินไปลงที่อื่นเพราะบินต้านลมแน่นอน.


ที่มา : mashable

ชนิดเครื่องบิน ทำไมถึงสำคัญ ต่อการเดินทางในฤดูหนาว - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

สุดสลด! รถบรรทุกน้ำมันชนสนั่นรถบัสในปากีฯ ดับกว่าครึ่งร้อย
โดย ไทยรัฐออนไลน์ 11 ม.ค. 2558 13:43



เกิดอุบัติเหตุสะเทือนขวัญ โชเฟอร์ตีนผี รถบรรทุกน้ำมันซิ่งแหลก ชนประสานงากับรถบัสโดยสารอย่างจัง นอกเมืองการาจี ในปากีสถาน จนเกิดไฟลุกท่วมรถทั้งสองคัน ทำให้ผู้โดยสารดับอนาถกว่า 50 ศพ บางศพโดนไฟไหม้เกรียมจนจำไม่ได้

สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน เกิดอุบัติเหตุสุดสลด รถบรรทุกน้ำมันพุ่งชนประสานงากับรถโดยสารประจำทาง ใกล้เมืองการาจี ประเทศปากีสถาน จนเกิดไฟลุกท่วมรถทั้งสองคัน เมื่อวันเสาร์ที่ 10 ม.ค.เป็นเหตุให้มีผู้โดยสารบนรถ เคราะห์ร้าย หนีออกจากรถไม่ได้ ถูกไฟคลอกตายอนาถถึง 57 ราย ขณะที่ มีประชาชนจำนวนหนึ่งซึ่งนั่งอยู่บนหลังคารถโดยสาร สามารถกระโดดหนีลงจากรถบัส รอดตายหวุดหวิด

ข่าวแจ้งว่า ก่อนเกิดอุบัติเหตุสยอง คนขับรถบรรทุกน้ำมันคันนี้ขับรถด้วยความประมาท เพราะขับรถมาด้วยความเร็วสูง แถมยังขับรถผิดเลน จนเป็นเหตุให้ชนกับรถบัสโดยสารที่วิ่งสวนมาอย่างจัง เพียงแต่ คนขับรถบรรทุก รอดตายและได้หลบหนีไปจากที่เกิดเหตุทันที

จากการเปิดเผยของนายแพทย์ประจำโรงพยาบาลจินนาห์ ในเมืองการาจี ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรุนแรงครั้งนี้ 57 ศพ และมีบางศพถูกไฟเผาจนดำเป็นตอตะโก ไม่สามารถจดจำได้เลยว่าเป็นใคร พร้อมกับชี้ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตอาจสูงกว่านี้อีก

ทั้งนี้ รถบัสโดยสารคันดังกล่าว บรรทุกผู้โดยสารกว่า 60 คน จากเมืองชิคาร์ปูร์ มุ่งหน้ามายังเมืองการาจี แต่ต้องมาประสบอุบัติเหตุ ห่างจากเมืองการาจี ประมาณ 50 กม.

สุดสลด! รถบรรทุกน้ำมันชนสนั่นรถบัสในปากีฯ ดับกว่าครึ่งร้อย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

สถานทูต เตือนคนไทยติดตามข่าวใกล้ชิด
โดย ทีมข่าวไทยรัฐออนไลน์ 10 ม.ค. 2558 14:33



ทูตเตือนคนไทยในอังกฤษติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ระมัดระวังการเดินทางไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ...

เมื่อวันที่ 9 ม.ค.58 สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลอนดอน ได้ออกประกาศแจ้งเตือนกรณีกลุ่มก่อการร้ายในฝรั่งเศส โดยให้คนไทยติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและระมัดระวังในการเดินทาง โดย ข้อความในประกาศ ระบุว่า...

สืบเนื่องจากเหตุการณ์คนร้าย โจมตีสำนักพิมพ์ ชาร์ลี เอบโด เมื่อวันที่ 7 ม.ค.58 ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร ได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการยกระดับการเตือนภัยการก่อการร้ายในสหราชอาณาจักรขึ้นไปอยู่ระดับสูงสุด ซึ่งขณะนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของสหราชอาณาจักรอยู่ระหว่างการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในประเทศตะวันตกที่มีการนับถือศาสนาที่หลากหลาย

สถานเอกอัครราชทูตฯ จึงขอให้คนไทยที่พำนักอยู่ในสหราชอาณาจักรพิจารณาเพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางและสัญจรระหว่างสถานที่สำคัญต่างๆ และติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด.

สถานทูต เตือนคนไทยติดตามข่าวใกล้ชิด - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

Thanong Fanclub



5. ตราไก่ (Le Coq) โดนถอนขน
ชาวฝรั่งเศสเดินประท้วงการก่อการร้าย70,000 คนทั่วประเทศเมื่อวานนี้ เพื่อไว้อาลัยเหยื่อที่เสียชีวิต17คน รวมทั้งมือปืนอีก3คน
ประมาณ30,000คนเดินขบวนที่Pauทางตะวันตกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส และอีก20,000คนเดินขบวนที่เมืองOrleans ในขณะที่อีก20,000คนเดินขบวนที่ เมืองSaint-Nazaire
นอกจากนี้มีการเดินขบวนที่เมืองNice และ Caen
ฝรั่งเศสจุดไฟติดแล้ว ประเด็นคือแล้วฟรังซัว ออลลองดฺ์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศสจะประกาศสงครามกับอัลเค ด้าหรือISIS หรือไม่อย่างไร? แต่เขาบอกว่าเหตุการณ์ก่อการร้ายมีผู้ต้องการให้ร้ายอิสลาม
เหตุการณ์ก่อการร้ายในฝรั่งเศสครั้งนี้ดูแล้ว คล้ายๆกันกับ911ของสหรัฐฯ ที่นำสหรัฐฯไปสู่สงครามในตะวันออกกลางที่ดำเนินมาแล้วตั้งแต่ปี2001 และยังไม่จบ
ก่อนหน้านี้ออลลองด์สนับสนุนสงครามในซีเรียตามแรงกดดันของสหรัฐฯ แต่อังกฤษถอยก่อน โอบามาถอยตามมาในเรื่องซีเรีย แต่ตอนนี้ออลลองด์ต้องการลดความตรึงเครียด หรือการเผชิญหน้ากับรัสเซียอย่างทันที
ตอนนี้ จับตาดูท่าทีออลลองด์อย่างเดียว ว่าเวทีสงครามจะย้ายไปอยู่ที่ใด หรือเริ่มที่ใด หรือมีอำนาจที่มองไม่เห็นสร้างแรงกดดันเพื่อให้ออลลองด์ทำ หรือไม่ทำอะไร?
thanong
11/1/2015

 

เด็ดชีพ3ศพ ป่วนฝรั่งเศส
โดย ทีมข่าวหน้า1 11 ม.ค. 2558 06:10


ล่าสาวแสบอีกคน อังกฤษเตือนภัย

หน่วยคอมมานโดฝรั่งเศสปฏิบัติการเด็ดขาด วิสามัญฯคนร้าย 2 จุด 3 ศพ โดยจุดแรก เป็นสองพี่น้องผู้ก่อเหตุ ยิงถล่มสำนักงานสื่อ “ชาร์ลี เอบโด” ส่วนอีกจุด คนร้ายยิง ตร.หญิงแล้วหนีไปจับตัวประกันในซุปเปอร์มาร์เกต แต่คาดคนร้ายหนีไปได้ 1 ราย ตัวประกันตาย 4 ส่งผลยอดเสียชีวิตจากเหตุก่อการร้ายเพิ่มเป็น 17 ศพ ผู้นำฝรั่งเศส-อังกฤษ พร้อมร่วมเดินกับประชาชน สร้างความเป็นหนึ่งเดียว ต้านก่อการร้าย ด้านสถานทูตไทยในกรุงลอนดอนเตือนคนไทยในอังกฤษ เพิ่มความระวังในการเดินทาง หลังนายกฯเมืองผู้ดียกระดับการเตือนภัยการก่อการร้ายในสหราชอาณาจักรอยู่ระดับสูงสุด ส่วนอเมริกาก็ประกาศเตือนพลเมืองตนเองระวังเหตุความรุนแรงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั่วโลก

ปิดฉากลงแล้วสำหรับเหตุก่อการร้ายสะเทือนขวัญใจกลางกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ที่เริ่มจากสองพี่น้องคนร้ายใช้อาวุธปืนอาก้าบุกกราดยิงอย่างโหดเหี้ยมที่สำนักงานนิตยสารรายสัปดาห์แนวเสียดสี “ชาร์ลี เอบโด” จนมีผู้เสียชีวิต 12 ศพ บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ก่อนไปจนมุมจับตัวประกันปักหลักสู้ตายที่โรงพิมพ์ซีทีดี เมืองดองมาร์แตง-ออง-โกเลอ ตามด้วยเหตุซ้ำซ้อน คนร้ายอีกรายก่อเหตุยิงตำรวจหญิงเสียชีวิต ก่อนหลบหนีไปจับตัวประกันในซุปเปอร์มาร์เกต เมืองปอรตู เดอ วาเซนนาส์ จนสุดท้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตัดสินใจบุกชาร์จจบสถานการณ์ เพื่อป้องกันมิให้เกิดการสูญเสียชีวิตไปมากกว่านี้

ทั้งนี้ ปฏิบัติการชิงตัวประกันของตำรวจฝรั่งเศส เริ่มขึ้นในช่วงกลางดึกวันที่ 9 ม.ค.ตามเวลาไทย โดยจุดแรกที่โรงพิมพ์ซีทีดี คนร้ายสองพี่น้องคือนายเชริฟ โคอาจี วัย 32 ปี และนายซาอิด โคอาจี วัย 34 ปี ผู้ก่อเหตุสยองที่สำนักงานชาร์ลี เอบโด ได้ตัดสินใจยิงสู้กับเจ้าหน้าที่ชุดคอมมานโดจนถูกวิสามัญฆาตกรรมเสียชีวิตทั้ง 2 คน ส่วนตัวประกัน 2 คน ปลอดภัย โดยตัวประกันรายแรก ที่ตามข่าวไม่ระบุชื่อ เปิดเผยว่า ได้รับการปล่อยตัวหลังช่วยทำแผล ให้นายซาอิดที่ถูกกระสุนเจ้าหน้าที่ยิงถากบริเวณลำคอ ขณะที่ตัวประกันอีกรายซ่อนตัวอยู่ในตู้ใต้อ่างล้างจาน และคอยส่งข้อมูลช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เป็นระยะ

ส่วนเหตุการณ์ในจุดที่ 2 ที่ซุปเปอร์มาร์เกต คนร้ายคือนายอาเมดี คูลิบาลี วัย 32 ปี ผู้ก่อเหตุฆ่าตำรวจหญิง ได้ขู่จะสังหารตัวประกันทิ้ง ก่อนถูกชุดคอมมานโดบุกจู่โจมวิสามัญฯคนร้าย แต่ขณะเดียวกันตัวประกันก็ถูกยิงเสียชีวิต 4 คน ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ส่งผลให้ยอดผู้เสียชีวิตในเหตุก่อการร้ายกลางฝรั่งเศสครั้งนี้อยู่ที่ 17 คน นอกจากนี้ จำนวนตัวประกันที่อยู่ในซุปเปอร์มาร์เกตยังมากกว่าที่มีรายงานขั้นต้น เนื่องจากมีบางส่วนหลบซ่อนอยู่ในตู้เย็นนานกว่า 5 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนยังพบด้วยว่านายคูลิบาลีมีผู้สมรู้ร่วมคิดด้วยอีก 1 คน คือ น.ส.ฮาเยต โบอุมด์ดีเน แฟนสาว วัย 26 ปี โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตามล่าตัว

ต่อมาสำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ว่า แกนนำชารีอะห์ของเครือข่ายก่อการร้ายอัล เคดา ในคาบสมุทรอาระเบีย หรือเอคิวเอพี ได้ออกแถลงข่มขู่ว่าจะโจมตีฝรั่งเศสระลอกใหม่หากยังไม่หยุดคุกคามชาวมุสลิม มีชาวฝรั่งเศสบางส่วนดูหมิ่นศาสดาพระอัลเลาะห์ จึงต้องถูกสั่งสอนโดยนักรบผู้ศรัทธา เป็นบทเรียนให้รู้ว่าเสรีภาพด้านความคิดเห็นก็มีขอบเขต แต่มิได้กล่าวออกตัวแสดงความรับผิดชอบต่อการโจมตีกลางกรุงปารีสแต่อย่างใด

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ประกาศเตือนชาวอเมริกันให้ระวังภัยก่อการร้ายและความรุนแรงที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั่วโลก โดยระบุว่าเหตุก่อการร้ายที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นฝีมือของสมาชิกเครือข่าย นักเลียนแบบ หรือบุคคลธรรมดาทั่วๆไป ถือเป็นเครื่องเตือนใจประชาชนให้มีความระมัดระวังอยู่เสมอ พร้อมดำเนินมาตรการที่จำเป็นในการเพิ่มการรักษาความปลอดภัย ส่วนนายบรูซ รีเดล อดีตนักวิเคราะห์ของสำนักงานข่าวกรองกลางซีไอเอสหรัฐฯ มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงปัญหาอันน่าหนักใจของหน่วยข่าวกรองฝรั่งเศส เนื่องจากมีชาวฝรั่งเศสจำนวนมากเคยเดินทางไปยังอิรักและซีเรีย หรือพื้นที่อื่นๆเพื่อเข้าร่วม ขบวนการหัวรุนแรง และคงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ทางการ มาคอยจับตาตลอด 24 ชั่วโมง และถ้ายังไม่ได้ทำอะไรผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีสิทธิจะไปจับกุม

อย่างไรก็ดี ผลจากการก่อเหตุร้ายในครั้งนี้ ทำให้นายฟรองซัวส์ โอลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า จะเข้าร่วมเดินขบวนครั้งใหญ่ เพื่อสร้างความเป็นหนึ่งเดียวและสรรเสริญคุณค่าของชาร์ลี เอบโด ในกรุงปารีส ในวันที่ 11 ม.ค.นี้ โดยจะมีนายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ รวมถึงตัวแทนระดับผู้นำของประเทศเยอรมนี อิตาลี และสเปน เข้าร่วมงานด้วย ซึ่งนายเบอร์นาร์ด แคซนูว์ รมว.มหาดไทยฝรั่งเศส ยืนยันว่าได้วางมาตรการทุกอย่างเพื่อรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้ที่จะมาร่วมเดินขบวน ที่คาดว่าอาจจะมีจำนวนมากถึงหลักแสนคน และนายโอลองด์ก็ยังกำชับว่าภัยคุกคามต่อฝรั่งเศสยังไม่จบสิ้นง่ายๆ

ส่วนที่นครซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย ตำรวจชุดต่อต้านก่อการร้ายได้ปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องสงสัยที่มีส่วนเชื่อมโยงให้การสนับสนุนนักรบหัวรุนแรงที่เดินทางไปยังซีเรียและอิรัก โดยมีผู้ถูกจับกุม 2 คน เป็นชายไม่เปิดเผยชื่อ วัย 33 ปี ที่ครอบครองกระสุนปืนผิดกฎหมาย และชายไม่เปิดเผยชื่อ วัย 21 ปี ที่ครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย แต่การบุกจับกุมครั้งนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับเหตุชาวมุสลิมจับตัวประกันในร้านคาเฟ่ กลางเดือน ธ.ค.ที่ผ่านมา แต่อย่างใด ขณะที่หนังสือพิมพ์วีคเอ็น ออสเตรเลียน ของออสเตรเลีย ได้ตีพิมพ์ภาพการ์ตูน เพื่อแสดงจุดยืนสนับสนุนเสรีภาพทางความคิด โดยเป็นภาพศาสดาโมฮัมหมัดยืนถือหนังสือพิมพ์ กำลังถกเถียงกับพระเยซูที่ถือคัมภีร์อัลกุรอาน

ด้านประเทศแคนาดา สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมนายแอชตัน คาร์เลตัน วัย 24 ปี และนายคาร์ลอส ลาร์มอนด์ วัย 24 ปี ได้ที่สนามบินนานาชาติมอนทรีออล รัฐควิเบก หลังสืบสวนพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายก่อการร้าย และกำลังเดินทางไปต่างแดนเพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการก่อการร้ายด้วย

นอกจากนี้ วันเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร ได้ออกประกาศแจ้งเตือนคนไทยที่อาศัยในสหราชอาณาจักร ว่าสืบเนื่องจากเหตุการณ์คนร้ายโจมตีสำนักพิมพ์ชาร์ลี เอบโด เมื่อวันที่ 7 ม.ค.2558 ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร ได้กล่าวถึงความเป็นไปได้ในการยกระดับการเตือนภัยการก่อการร้ายในสหราชอาณาจักรขึ้นไปอยู่ระดับสูงสุด ซึ่งขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสหราชอาณาจักรเป็นหนึ่งในประเทศตะวันตกที่มีการนับถือศาสนาที่หลากหลาย สถานเอกอัครราชทูตไทยจึงขอให้คนไทยที่พำนักอยู่ในสหราชอาณาจักร เพิ่มความระมัดระวังในการเดินทางและสัญจรระหว่างสถานที่สำคัญต่างๆ และติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด

เด็ดชีพ3ศพ ป่วนฝรั่งเศส - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ทหารปฏิรูปประเทศไทย



วันที่ 11 ม.ค.58 ตูม..รถน้ำมันพุ่งชนรถโดยสารในปากีสถาน ตายพรึบย่างสด 57 ราย เจ็บอีกเพียบ
เกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำมัน พุ่งข้ามเลนมาชนกับรถบัสโดยสารที่กำลังแล่นสวนทางมาจากเมืองการาจี เมืองเอกของรัฐซินด์ ทางตอนใต้ของปากีสถาน เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมืองชีการ์ปุระ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 57 ศพ และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก เกิดไฟไหม้ลุกท่วมพาหนะทั้งสองคันที่เกิดอุบัติเหตุ ในรถโดยสาร เป็นผู้หญิงและเด็กนักเรียนจำนวนมาก
ถ้าใครคิดว่าเป็นอุบัติเหตุก็คิดได้ แต่ถ้าติดตามข่าวสารมาตลอด ก็จะรู้ว่าการก่อการร้ายของกลุ่มหัวรุนแรง อัลกออีดะห์ ตะลีบัน สายปากีสถาน เกิดขึ้นที่นี่เป็นระยะตลอดมา แม้แต่สนามแบ่งแห่งชาติยังถูกบุกยึด ยิงถล่มด้วยจรวดและปืนกล จนเละเทะตายเป็นเบือมาแล้ว
ซาอุฯ และอเมริกา เคยว่าจ้างปากีสถาน ทำการฝึกเหล่านักรบของตนเองขึ้นมาบ้างราว 5,000 - 10,000 คน เพราะต้องการควบคุมกบฏซีเรีย และนำผลผลิตนี้ไปจัดตั้ง กลุ่มติดอาวุธอิสลามิก ฟรอนต์ ในปัจจุบัน หนอนที่หลงเหลือ ย่อมขยายพันธ์ในปากีสถาน จนลุกลามมาถึงปัจจุบัน
คำประกาศขู่ของอเมริกา ว่าจะเกิดเหตุรุนแรงโจมตี " ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ เอเชีย และ ยุโรป " เริ่มกระจายไปทั่วโลกแล้ว
@ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
http://www.facebook.com/thailandcoup