ปรอทสำเร็จ ของดีจากตำนาน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ทิพยจักร, 26 พฤศจิกายน 2012.

  1. พิชญากร

    พิชญากร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    909
    ค่าพลัง:
    +5,261
    ....

    ...คือ เอาปรอทเหลวเทรวมกับก้อนแรกใช่หรือเปล่าคะ (ดูจากก้อนแรกทางซ้ายเหมือนมีกากเพชรแทรกอยู่ด้วยเลยค่ะ ระยิบระยับเชียว)
     
  2. พรหมณี

    พรหมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,547
    ค่าพลัง:
    +12,867
    ใช่ค่ะ เอาปรอทเหลวเทใส่ไม่มากก็จะกลายเป็นรูปที่ 2 พอเอาทองคำให้กินจะกลับมาแข็งเหมือนรูปแรกค่ะ
     
  3. bababoy

    bababoy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +23
    ถ้าเราหมั่นสวดมนต์ไหว้พระปรอทเพชรที่ผมมีสามารถเปลี่ยนสีเองได้ครับ น่าแปลกและสวยงามมากครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. พรหมณี

    พรหมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,547
    ค่าพลัง:
    +12,867
    สวยจังค่ะ ใช่ปรอทของอาจารย์โยธินหรือไม่....อานุภาพของปรอทใช้ทำอะไรได้บ้าง...อยากให้ช่วยแชร์ประสบการณ์ค่ะ....สนใจๆ
     
  5. พรหมณี

    พรหมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,547
    ค่าพลัง:
    +12,867
    ปรอทสำเร็จ ที่โบราณจารย์กล่าวไว้ว่าถ้าสร้างสำเร็จจะมีฤทธิ์เทียบเคียง "เหล็กไหล"

    การหุงปรอทด้วยไฟอาคม
    ตำหรับพระเวทไทยยกตัวอย่างในสายหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า สายหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพธิ์ จ.นครสวรรค์และทางภาคอีสานอย่างท่านหลวงปู่ลือ สุขปุญโญ วัดป่านาทามวนาวาส จ.มุกดาหาร พระปลัดทองดี วัดกลางฯ จ.สมุทรปราการ จะใช้จิตกับอาคมหุงปรอทให้แข็งโดยไม่ใช้ไฟที่มีความร้อนแต่อย่างใดซึ่งเป็นการหุงปรอทแบบหนึ่งที่ปัจจุบันเกือบหาดูไม่ได้แล้ว ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าความรู้ตรงนี้เป็นสายเฉพาะที่ถูกปิดบังกันไว้กว่าจะนำมาเสนอ ได้ก็ยากลำบากเสียเต็มประดา จะขยายความอย่างนี้ว่าวิชาการหุงปรอทนั้นใช้จิตกับอาคมเป็นสำคัญ หาก “วางจิต”ถูกส่วนปรอทจะงวดตัวค่อยๆแข็งแบบเดียวกับการเสกน้ำมันงาให้แข็งตัวอย่างที่เขาอ้อปักษ์ใต้เรียกว่า “พิธีตั้งมัน” แต่การเสกปรอทให้แข็งตัวนั้นเขาเรียกการ “หุง”หรือ “ฆ่า”ปรอทและถือว่าปรอทนั้นแข็งตัวสนิทไม่มีน้ำปรอทเยิ้มออกมาเป็นเสร็จกิจพิธี ปรอทที่ได้จะค่อยๆแข็งตัวสนิทในสามวันและจะแข็งขึ้นเรื่อยๆจนสามปีจะแข็งเป็นศิลาและทรงความศักดิ์สิทธิ์ในอิทธิของปรอทนั้นโดยทันทีที่ปรอทสำเร็จตัวหุงจับกันเป็นก้อนจนเป็นของทนสิทธิ์ที่ไม่ต้องพึ่งพาเลขยันต์ใดใดการกำหนดเลขยันต์ในบางตำราก็เพื่ออนุเคราะห์ให้ศิษย์ในสำนักนั้นสามารถทำปรอทได้สำเร็จเร็วขึ้นเท่านั้น หากอาคมถึงขั้นก็เพ่งกันให้แข็งในทีเดียวและรับรองว่าไม่ต้องใช้มะนาวเป็นพันลูกอย่างที่บางท่านเข้าใจเพราะน้ำมะนาวไม่ได้ทำให้ปรอทแข็งตัวผู้ที่ไม่เดียงสาในเรื่องวิชาการทำปรอทมักจะเข้าใจว่าน้ำมะนาวฆ่าปรอทแต่ในความเป็นจริงไม่ใช่เพราะแค่เป็นตัวทำให้สิ่งแปลกปลอมออกจากปรอทและทำให้ปรอทบริสุทธิ์ขึ้นในแง่เคมีวิทยาโบราณเท่านั้น
    สำหรับการหุงปรอทด้วยอาคมนั้นในขั้นแรกจะต้องหาปรอทที่บริสุทธิ์มาทำการไล่โทษเพื่อขจัดสิ่งเป็นพิษต่างๆออกจะได้ไม่เกิดโทษภายหลังจากนั้นนำปรอทมาใส่ถ้วยตะไลหรือครกบดยาที่คะเนว่าถือบริกรรมได้สะดวกจากนั้นนำมาบริกรรมด้วยพระคาถาธาตุไฟและพระคาถาสตุปรอทใช้มือกวนภาวนาคาถากำกับ (หากชำนาญใช้จิตเพ่งอย่างเดียว) กระทำอย่างเดียวกับที่เราหุงข้าวให้ขึ้นหม้อกล่าวคือกล่าวคือ เมื่อใช้ธาตุไฟเป็นตัวประชุมธาตุดิน ธาตุลม ธาตุน้ำจนเข้าได้ที่กล่าวคือธาตุไฟในตัวผู้บริกรรมจะเป็นตัวหุงปรอทเหมือนข้าวมีอาคมเป็นธาตุดินน้ำคือเชื้อในการหุงก็จะค่อยๆทำให้อณูธาตุของปรอทเริ่มปลุกตัวคือสั่นสะเทือนเหมือนเราคั่วข้าวโพด (ตรงนี้ต้องดูด้วยสมาธิ) ปรอทจะสั่นหรือปลุกตัวขึ้นจนบางส่วนกลายเป็นไอแล้วควบแน่นค่อยๆจับตัวแข็ง ขึ้นทีละน้อย จนสำเร็จตัวเป็นปรอทนิ่งซึ่งในภาษาศัพท์ทางวิทยาคมเรียกว่า “ปรอทตาย” ที่หมายถึงอิ่มตัวนิ่งแล้วมิได้หมายถึงการสูญไป การเทียบกับการหุงข้าวนั้นก็เพราะต้องมีความพอดีที่สมาธิต้องวางจิตในระดับที่ถูกต้องไม่สูงหรือต่ำกว่าภาวะที่จะหุงปรอทได้เพราะบางคนวางจิตสูงเกินไปเป็นอารมณ์ระดับวิปัสสนาก็หุงปรอทไม่เป็นเช่นเดียวกันอย่างมีเรื่องเล่าในศิษย์ของท่านพระอาจารย์ฝั้นภูริทัตโตที่ท่านสำเร็จสมาธิระดับสูงได้ลองนำปรอทมาเพ่งให้แข็งตัวเหมือนกันโดยท่านทำการเพ่งปรอทให้แข็งนี้นานหลายวันแต่ไม่สำเร็จทั้งนี้ก็เนื่องจากท่านสำเร็จภูมิจิตระดับสูงในองค์วิปัสสนาที่ไม่ใช่เรื่องทางโลกีย์ญาณเมื่อนำมาเพ่งข่มปรอทซึ่งเป็นเรื่องญาณโลกีย์จึงไม่อาจบังคับให้ปรอทแข็งตัวได้นั่นเอง การวางจิตให้ถูกระดับกับเรื่องที่จะทำเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการศึกษาเรื่องจิตตานุภาพเพราะต้องฉลาดเชี่ยวชาญในการรู้วาระจิตและคุณสมบัติต่างๆของจิตแต่ละระดับว่ามีคุณภาพเช่นไร การหุงหรือสตุปรอทจึงสำคัญอยู่ที่การวางสมาธิในระดับที่ถูกต้องจึงจะข่มปรอทลงได้ ซึ่งระดับขั้นในการวางจิตเป็นสมาธิเพื่อการข่มปรอทนั้นในชั้นบทความนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้เผยแพร่จึงขอเว้นข้ามไป
    ปรอทวิเศษที่สตุสำเร็จนี้เป็นของพิสดารเพราะมีอำนาจในตัวที่แปลกประหลาดจากเครื่องรางอื่นใดเนื่องจากหากวางปนกับเครื่องรางชนิดอื่นจะมีอำนาจดูดกลืนพลังงานของเครื่องรางต่างๆมาประจุไว้ที่ปรอทอาคมจนหมดหากเครื่องรางนั้นพระเกจิอาจารย์มีอาคมไม่กล้าแข็งตรึงอาคมประจุไว้ไม่มั่นคงดีพอก็อาจทำให้เครื่องรางอื่นๆที่วางปนกับปรอทนั้นหมดอำนาจลง ซึ่งในสายของหลวงปู่ลือ จ.มุกดาหาร ท่านตะหนักถึงคุณสมบัติข้อนี้ดีจึงห้ามศิษย์ของท่านนำปรอทวิเศษที่ท่านสตุประสิทธิให้วางปะปนกับเครื่องรางชนิดอื่นๆ ทั้งนี้เนื่องจากปรอทวิเศษอาคมที่กล่าวถึงนี้มีคุณสมบัติบางประการใกล้เคียงเหล็กไหลตรงที่สามารถข่มอำนาจเวทวิทยาคมทั้งปวงได้นั่นเองโดยเฉพาะฝ่ายมนต์ดำที่เป็นเวทวิทยาที่เกี่ยวกับวิญญาณและซากศพที่ปรอทโดยธรรมชาติเป็นปฏิภาคต้องลงกินทำลายสิ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปกติจนหลายท่านเข้าใจผิดไปว่า ปรอทนั้นชอบกินขอเน่าเหม็นสกปรกแต่แท้จริงเป็นการสลายประจุต่างขั้วแบบไฟฟ้าบวกและไฟฟ้าลบที่ต้องวิ่งเข้าหากันเสมอ ในกระบวนเครื่องรางที่โบราณาจารย์ท่านกำหนดให้ติดตัวเวลาเดินทางผ่านป่าเขาที่มีภยันต์อันตรายจาก ภูตผีปีศาจ พิษ ว่าน พิษสัตว์ทั้งอสรพิษหรือสัตว์อาคมอย่าง ตะขาบกล , วัวธนู , งูอาคม เฝ้าทรัพย์หรือสัตว์พยนต์ จิตวิญญาณประเภทอมนุษย์อย่างรากษส เปรตอสุรกายบาง จำพวกที่มีฤทธิ์เรียกว่า มหิทธิกาเปรต (ซึ่งเดิมเป็นผู้ทรงอาคมแต่มีวิบากกรรม) ก็ไม่อาจต้านอำนาจแสงหรือรัศมีอำนาจของปรอทอาคมได้แต่อย่างใดจึงนับว่ามีอานุภาพข่มอาถรรพ์และสะกดวิญญาณร้ายทั้งปวงโดยตรง ในสมัยโบราณพระเกจิอาจารย์ที่เชี่ยวชาญการเล่นแร่แปรธาตุอย่างหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพธิ จ.นครสวรรค์ หรือ หลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาทต่างก็แสดงวิชาปรอทนี้ให้ลูกศิษย์ได้ประจักษ์แต่สมัยก่อนนั้นการดักปรอทแต่ละครั้งทำได้ไม่มากนักจึงพบเครื่องรางลูกปรอทสะกดของทั้งสองสำนักค่อนข้างน้อยจนบางครั้งนักนิยมพระเครื่องบางท่านคิดว่าไม่มีเลยก็มี ในศิษย์รุ่นเก่าๆของหลวงพ่อวัดมะขามเฒ่าต่างก็ยืนยันว่า หลวงพ่อวัดมะขามเฒ่านี่ท่านเชียวชาญเรื่องธาตุและปรอทมากท่านสร้างเครื่องรางจากปรอทไว้พอสมควรแต่ที่ที่ไม่ค่อยได้พบเห็นก็คือลูกอมที่ท่านใช้อาคมปั้นปรอทกับทองแดงเถื่อนให้เข้ากันใช้ป้องกันตัวมอบให้ศิษย์บางคนที่เรียกกันว่า “ทองแดงโดด” ก็เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการสตุปรอทนั่นเอง
    ความเชื่ออีกประการหนึ่งของปรอทวิเศษคือเป็นธาตุกายสิทธิ์ที่มี ธาตุรู้บางประการในตัวแม้ไม่ซับซ้อนเท่าจิตมนุษย์แต่มีอำนาจสูงสามารถเดินหนคือไปมาได้เองหากเจ้าของหมดบารมีหรือเก็บไว้ไม่ถูกที่ถูกทางก็มักหายหรือหาไม่เจอเอาเฉยๆ โบราณจารย์ที่สำเร็จจิตและวิชาอาคมชั้นสูงก็มักใช้คุณสมบัติของปรอทอาคมเพิ่มความเข้มขลังของสัตว์หรือพยนต์ที่ตนสร้างขึ้นบางท่านถึงกับลงปรอทอาคมประจุไว้ในเทวรูปหรือพระพุทธรูปก็มี ในปัจจุบันก็มีหลักฐานประจักษ์ที่วัดแห่งหนึ่งแถวนนทบุรี (ขอปิดนาม;ขณะนี้กำลังขออนุญาตทางวัดนำเรื่องราวมาเผยแพร่)) ได้มีพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณตั้งแต่ต้นรัตนโกสินทร์ได้ประจุปรอทอาคมไว้ที่หุ่นรูปเทพยดาสองตนที่ประดับไว้ที่พระประธานในพระอุโบสถ ความแรงของปรอทอาคมถึงกับทำให้หุ่นรูปเทพยดาทั้งสองตนออกมาเดินให้คนเห็นในเวลากลางคืนจนเป็นที่หวาดกลัวของคนทั่วไปจนพระเถระรูปนั้นต้องตรึงด้วยตะปูที่ลงอาคมปรากฏให้เห็นว่ารูปเทพยดานั้นมีตะปูตรึงที่ขามาจนทุกวันนี้
    ปรอทวิเศษยังเป็นที่นับถือของพระเกจิอาจารย์ที่ออกเดินธุดงค์ ซึ่งพระที่ท่านได้วิชาปรอทจะฝังปรอทอาคมที่หัวไม้ท้าวที่พลีจากไม้กลางดงเรียกว่า “ไม้เท้าเบิกไพร” หรือ “เครือเถาอริยะ” ซึ่งท่านที่สนใจสามารถขอชมไม้เท้าเบิกไพรที่ตกทอดมาแต่สมเด็จสังฆราชสุกไก่เถื่อนและพระเกจิยุคโบราณได้ที่พระครูสังฆรักษ์วัดพลับกทม. อันแสดงให้เห็นว่าแม้พระเกจิอาจารย์ที่ทรงญาณสมาบัติชั้นสูงก็ยังเห็นคุณของปรอทวิเศษจึงนำมาบรรจุที่ยอดไม้เท้าเวลาเดินธุดงค์ ส่วนปรอทที่เคี่ยวด้วยอาคมที่นำมาแสดงนั้นเป็นของที่หายากและในสมัยก่อนเมื่อหาผู้ที่ทำปรอทวิเศษเช่นนี้ไม่ได้ก็นิยม "อาพัดปรอท" กล่าวคือนำปรอทที่ดักได้มาบริกรรมปลุกเสกด้วยอาคมและนำมากรอกลงในเบี้ย (อีแก้) ผนึกด้วยขี้สูดดินเพียง(ดินราบ) ก็มีอิทธิคุณทางกันแก้คุณไสยเช่นเดียวกันแต่อ่อนกว่าปรอทที่เคี่ยวด้วยอาคมซึ่งเรียกเบี้ยชนิดนี้ว่า"เบี้ยแก้"โดยจะทำความเข้าใจตรงนี้เสียก่อนว่า นับเเต่สมัยโบราณช่วงอยุธยานั้นนิยมใช้หอยเบี้ยชนิดหนึ่งมาทำเครื่องรางเพื่อแก้โรคบางอย่างตามความเชื่ออย่างกันเรื่องฟันผุ หรือกันอาถรรพ์ต่างๆโดยยังไม่มีการนำปรอทมาใช้ประกอบแต่อย่างใดเเละนิยมเรียกการใช้หอยเบี้ยเป็นเครื่องรางนั้นว่า "เบี้ยแก้" เช่นเดียวกันสำหรับในปัจจุบันส่วนเบี้ยที่กรอกปรอทที่อาพัดด้วยอาคมเเล้วเรียกว่าเบี้ยแก้นั้นซึ่งที่โด่งดังก็มีหลายสำนัก จะไม่กล่าวถึงเพราะเป็นวัฒนะธรรมเครื่องรางที่เพิ่งปรากฏมาเมื่อไม่เกินศตวรรษที่ผ่านมาคือยุครัตนโกสินทร์เมื่อไม่เกิน๗0ปีมานี่เองผิดกับปรอทอาคมที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานมีความเชื่อถือมาแต่ครั้งสุโขทัยเป็นราชธานีมาซึ่งกรณีนี้มีข้อน่าสังเกตว่าสำนักวิทยาคมสยามที่เชี่ยวชาญการเล่นแร่แปรธาตุอย่างเช่นสำนักวัดปากคลองมะขามเฒ่าหรือสำนักวัดหนองโพธิจังหวัดนครสวรรค์จะไม่มีการสร้างเครื่องรางแบบเบี้ยแก้เลยเพราะต่างใช้ปรอทอาคม หรือวัตถุอาถรรพ์ที่เกิดจากการเล่นแร่แปรธาตุมาใช้กันแก้อาถรรพ์ ซึ่งมีคุณสมบัติหรืออิทธิคุณที่เหนือกว่าเบี้ยแก้ มากมายนัก
    คุณสมบัติปรอททอาคม ชนิดนี้ เหมือนเหล็กไหล ฟอกเลือดเสีย กันพราย ยังเสริมอำนาจในตัวเรา กันพรายย้ำ กันพรายที่เลี้ยง มาทำร้ายเรา สารพัดใช้
    ปรอทแบบนี้ คนละแบบกับปรอทที่ผสม ตะกั่วแล้วหยอดพิมพ์ เป็นวิชาที่ หลวงปู่ละมัย เคยทำ ออกสมัยมีชีวิตอยู่ องหลายหมื่นบาท ปรอทนี้สายเดียวกับหลวงปู่ลือ ปุญโญ วัดป่านาทามวนาวาส จ.มุกดาหาร ปัจจุบันปรอทที่ท่านสร้างลูกหนึ่งหลายหมื่นบาท แต่มีเงินก็หากันไม่ได้ครับเพราะใครมีก็หวง
    ปรอทนี้ ใช้ปรอทกวนกับว่าน แบบคลิ๊ปโยคีอินเดีย
     
  6. bababoy

    bababoy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +23
    ปรอทของอาจารย์โยธินครับ ผมใช้ในการเข้าสมาธิและสวดมนต์รู้สึกเย็นดีและเข้าได้ไวขึ้นครับ ส่วนสีของปรอทตัวเขาสามารถเปลี่ยนสีตัวเองได้แต่ละวันบางวันก็สีทอง สีเขียวอมทอง ส่วนประสบการณ์โดยตรงจากตัวผมไม่มี มีแต่คนอื่นครับ อาจารย์โยธินท่านเล่าให้ฟังว่ารุ่นเดียวกันที่ผมมี ตกหน้าผาข้างทางไม่เป็นอะไรและอีกรายขับมอไซค์ชนจนยับไม่เป็นอะไรครับ ส่วนสีของปรอทอาจารย์โยธินท่านเล่าให้ฟังว่าถ้าออกสีหมองๆให้ระวังจะเกิดสิ่งไม่ดี แต่ถ้าสีทองจะมีโชค ผมเข้าใจว่าอานุภาพของปรอทขึ้นอยู่กับความศรัทธาและขยันทำความดีเข้าช่วยก็จะทำให้เราพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวงครับ :cool:
     
  7. ทิพยจักร

    ทิพยจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +10,078
    มาดูรูปปรอทเพชรกับตำนานที่ยังมีชีวิตกันครับ

    ปรอทเพชรของอาจารย์โยธิน คล้ายดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. ทิพยจักร

    ทิพยจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +10,078
    อีกภาพกับปรอทเพชรงามๆ

    จริงๆแล้วปรอทเพชรที่เกิดขึ้นจากการหุงของอาจารยฺโยธินก็กล่าวได้ว่าเป็นการพัฒนามาไกลมากแล้ว แต่ทั้งนี้ถ้าจะให้เป็นขั้นสูงสุดไปอีกนั้นก็ต้องใช้ระยะเวลาอีกยาวนานไม่น้อย แต่หัวใจหลักหรือกุญแจสู่ความสำเร็จที่แท้จริงก็คือ จิตที่บริสุทธิ์มีสมาธินั่นเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. wangnumwon

    wangnumwon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +11
    รบกวนถามหน่อยครับ ถ้าทำปรอทเพชรตกลงพื้นแล้วแตกครึ่ง พอจะมีทางแก้ไขอย่างไรได้บ้างครับ? ปรอทที่แตกยังใช้ได้อยู่อีกไหมครับ? ขอบคุณมากครับ
     
  10. bababoy

    bababoy สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +23
    ปรอทเพชร คุณวิเศษยังอยู่เหมือนเดิมครับ จะเล็กหรือว่าจะใหญ่ ขอเพียงเจ้าของยังศรัทธา เชื่อมั่นเหมือนเดิม ถ้าคิดในแง่บวกยิ่งดีเพิ่มเป็นสองส่วน นี่เป็นเพียงความคิดของผมนะครับ จะถูกหรือผิดต้องพี่ๆที่มีความรู้มาให้คำแนะนำเพิ่มเติมครับ ปกติถ้าแตกถ้ายังทำให้เหมือนเดิมก็มีวิธีคือเอามาตำกับครกหินให้ละเอียดแล้วนำมาปั้นใหม่แต่ต้องมีว่านยาเผื่อมาทำการหุงปรอทใหม่มันมีวิธีหลายขั้นตอนและตัวยาหุงหลายอย่างครับ
    จากรูปใช้เงินทำให้แข็งกว่าจะแข็งได้ก็หลายวันและต้องนำมาหุงกับตัวยาอีกหลายครั้ง ใช้วิธีอาจารย์โยธินท่านแนะนำมาครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. wangnumwon

    wangnumwon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +11
    ขอบคุณครับ แต่คงไม่ทำใหม่ครับเพราะหุงไม่เป็นและไม่มีตัวยาที่จะใส่นะครับ
     
  12. ทิพยจักร

    ทิพยจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +10,078
    ปรอทเพชรองค์นี้เก็บไว้นานหลายปี บูชาไว้ในพระเจดีย์พระบรมสารีริกธาตุ ปีนึงจะเปิดออกมาชมสักครั้ง ยามเมื่อปรอทต้องแสงไฟจะเป็นระยิบระยับงดงามมาก ปรอทองค์นี้ได้จากอาจารย์โยธิน คล้ายดีครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC02729.JPG
      DSC02729.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.3 MB
      เปิดดู:
      417
  13. ทิพยจักร

    ทิพยจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +10,078
    มงคลปรอทบารมีเจ้าพ่อเขาตก
    ตำนานเจ้าพ่อเขาตกนับเป็นหนึ่งในเทพยเจ้าผู้มีมหิทธิฤทธิ์ ตามตำนานเล่าขานกันว่า แต่เดิมพระสยามเทวาธิราชทูลเชิญพระอิศวรลงมาอุบัติเป็นพระนเรศวรมหาราช เมื่อพระองค์ทรงสวรรคตลงแล้วจึงได้อุบัติเป็นเทพเจ้าผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์เรียกกันว่าเจ้าพ่อเขาตก พระนามเจ้าพ่อเขาตกนั้นมีท่มาสืบเนื่องจากบริเวณดังกล่าวนั้นมักมีแสงสว่างพุ่งตกลงมาให้ชาวบ้านเห็นเป็นอัศจรรย์ชาวบ้านจึงเรียกกันว่า เขาตกมาโดยตลอด
    เจ้าพ่อเขาตกจึงเป็นมเหสักขเทวราชประจำเมืองปากเพรียวหรือสระบุรีในปัจจุบัน เป็นเทพยดาผู้รักษาพระพุทธศาสนาทำหน้าที่อารักษ์ดูแลรอยพระพุทธบาท เมืองสระบุรี ผู้ที่ได้กราบไหว้ขอพรท่านมักประสบสิ่งอันเป็นสิริมงคล พ้นจากทุกข์โศก โรคภัย มานักต่อนัก
    ในปัจจุบันวัดด่านเสลา อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี กำลังดำเนินการสร้างพระอุโบสถ ทางคณะผู้ศรัทธาจึงได้สร้างรูปเหมือนเจ้าพ่อเขาตกเนื้อปรอทวิเศาขึ้น โดยเนื้อปรอทที่ทำขึ้นมานั้นประดุจว่าได้รับการเสกจากองค์เจ้าพ่อเขาตก เนื้อปรอทที่สำเร็จออกมาจึงมีลักษณะพิเศษคือเป็นปรอทกระจกที่ควาแวววาวงดงาม ยิ่งกหว่าเนื้อปรอทธรรมดาทั่วไปอย่างเห็นได้ชัด
    มงคลปรอทนั้นกล่าวกันว่าเป็นธาตุวิเศษที่มีอำนาจกันไข้ป่า กันภูติผีปีศาจ คุณไสยมนต์ดำ ลมเพลมพัด ผู้ที่มีอาการเจ็บไข้ได้ป่วยไม่รู้สาเหตุให้อาราธนาเจ้าพ่อเขาตกเนื้อปรอทลงทำน้ำเทพมนต์ด้วยตนเองจุดธูป ๙ ดอกขออำนาจจากพระศรีรัตนตรัยมีเจ้าพ่อเขาตกเป็นที่สุดแล้วเอาน้ำน้นสระหัวรดตัวจะหายจากอาการเจ็บป่วยเป็นอัศจรรย์ หรือยามไปไหนต่างที่ต่างถิ่นให้อาราธนาเจ้าพ่อเขาตกติดตัวไปด้วยท่านจะได้รับความเมตตาอุปถัมภ์จากคนทั้งหลายมีเดชมีอำนาจมีโชคลาภอยู่เสมอและได้รับการคุ้มครองจากองค์เจ้าพ่อให้ปลอดจากภยันอันตรายทั้งปวง ภูติผีปีศาจก็ไม่กล้ารังควาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. เงาตามตัว

    เงาตามตัว สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2015
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +2
    ผมติดตามอ่านมาตั้งแต่ปีที่แล้วคับ เคยลองดักปรอทตาม วิธีที่ท่านทั้งหลายนำมาเผยแพร่ หลายครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จเลย จึงอยากขอคำแนะนำจากท่านผู้รู้ทั้งหลาย ว่าทำอย่างไรจึงจะสำเร็จได้บ้าง อาจจะเล็กๆน้อยๆก็ได้ ผมต้องปฏิบัติตนอย่างไร ต้องดำเนินการอย่างไรช่วยชี้แนะให้ผมกระจ่างแจ้งด้วยคับ
     
  15. พลังแห่งจิตปัจจุบัน

    พลังแห่งจิตปัจจุบัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    302
    ค่าพลัง:
    +404
    โมทนา สาธุ กับคุณพรหมณี กับบทความดีๆมีความรู้ด้วยครับ ด้วยครับ

     
  16. ทิพยจักร

    ทิพยจักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,268
    ค่าพลัง:
    +10,078
    โพโพอ่องนับว่าเป็นบรมครูทางด้านวิชาปรอทสำเร็จที่คนพม่า มอญ ไทยใหญ่ กระเหรี่ยงและคนไทยเราเองให้ความนับถือมาก ประวัติของท่านก็น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ

    ตำนานโพโพอ่อง มีหลายตำนานแต่เนื้อหาหลักมีความใกล้เคียงกันจะแตกต่างกันตรงที่มาของคัมภีร์วิเศษ

    เนื้อเรื่องของโพโพอ่อง เริ่มขึ้นที่หมูบ้านในชนบทแห่งหนึ่ง หม่องอ่อง เป็นเด็กที่นิสัยดี รักสงบ พ่อแม่ส่งไปเรียนโรงเรียนวัดอยู่กับเจ้าอาวาส หม่องอ่อง มีความเฉลียวฉลาด จำเก่ง มีปฏิภาณ นิสัยก็เรียบร้อยจึงเป็นที่รักของเจ้าอาวาสอย่างยิ่ง

    มาวันหนึ่งเจ้าอาวาสหลับฝันไปว่ามีผู้วิเศษชี้มือไปทางหนองน้ำด้านหลังวัด เหมือนบอกใ้บางอย่างแต่มิได้พูดอะไร หลังจากนั้นต่อมาอีกไม่กี่วัน เจ้าอาวาสมีกิจนิมนต์ในหมู่บ้านใกล้เคียง พอตอนจะกลับท่านพบหัวแมวดำกลิ้งอยู่บนถนน พอเดินไปดูใกล้ๆ ตาของแมวดำมันยังกระพริบไปมาอยู่เเหมือนยังมีชีวิต ท่านลองหยิบขึ้นมาดู เมื่อมองเข้าไปในตาแมวก็สามารถรู้เห็นสิ่งๆต่างในที่ไกลๆหรือตั้งใจจะรู้อะไรก็รู้ไปทุกอย่าง เจ้าอาวาสรู้ขึ้นมาทันทีว่า หัวแมวดำนี้เป็นของกายสิทธิ์ที่ผู้วิเศษอันเป็นนักสิทธิ์วิทยาธรหรือพวกเวสส่าต้องการนำมาถวายเพื่อเป็นบุญกุศลแก่พวกเขา

    พระอาจารย์เจ้าอาวาสคิดขึ้นมาทันทีถึงความฝันที่มีผู้วิเศษชี้บอก ท่านจึงเอาของวิเศษชิ้นนี้ไม่ส่องดูที่หนองน้ำหลังวัดดังกล่าว จึงเห็นว่าใต้พื้นน้ำมีคัมภีร์วิเศษอยู่หนึ่งเล่ม มันเป็นคัมภีร์ที่ทำด้วยโลหะวิเศษ ไม่เป็นสนิท ไม่ผุกร่อน พระอาจารย์เอาคัมภีร์นี้ขึ้นมาแล้วร่ำเรียนศึกษา จนใครต่อใครเชื่อกันว่าท่านเข้าถึงความพ้นทุกข์ พระอาจารย์เก็บซ่อนคัมภีร์นี้ไว้อย่างมิดชิด ไม่มีใครรู้ต่อมาเมื่อท่านมรณะภาพลงลูกศิษย์ได้พากันแบ่งสมบัติพระอาจารย์จนเหลือหมอนหนุนหัวอาจารย์เก่าๆใบเดียวจึงโยนให้หม่องอ่อง

    หม่องอ่องรับมาด้วยความเคารพและคิดถึงพระอาจารย์ได้นำหมอนนี้มาหนุนหัวตัวเองเสมอจนในที่สุดก็พบว่าภายในหมอนนั้นมี คัมภีร์วิเศษซ่อนอยู่

    นี่คืดตำนานหนึ่งเกี่ยวกับโพโพอ่อง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. พรหมณี

    พรหมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,547
    ค่าพลัง:
    +12,867
    เอาปรอทมาให้ชมค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. สิริมงคลชัย

    สิริมงคลชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +1,091
    เพิ่งได้แวะเข้ามาอ่านครับ...ไม่ได้เข้ามานานมากเลย...มีใครได้ตำราทำปรอทดีๆก็น้ำมาเผยแพร่ได้นะครับ...สำหรับคนรักปรอท...เป็นวิทยาทานไม่ให้ตำราสูญหายไปจากโลกครับ....
     
  19. สิริมงคลชัย

    สิริมงคลชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    660
    ค่าพลัง:
    +1,091
    ่พระรอดปรอทฟ้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 14.jpg
      14.jpg
      ขนาดไฟล์:
      124.9 KB
      เปิดดู:
      299
    • 15.jpg
      15.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.4 KB
      เปิดดู:
      535
  20. JKV

    JKV เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    421
    ค่าพลัง:
    +201
    เมื่อไม่กี่วันก่อน ไปเจอ ปรอทหลวงปู่ลือกับท่านลุงคนนึง ที่ คำชะอี
    ท่านเก็บไว้ หลายเม็ดเกือบสิบเม็ดมั้งเท่าที่ดู เลยเกริ่นๆขอแบ่งกะท่าน ท่านว่าถ้าขอบูชาจริง ซักพันห้า ให้ได้อยู่ เลยขอแบ่ง สองเม็ด ทำและเฉยๆ เงียบๆอยู่ ถ้าคนแถวนั้นเขารุ้สรพพคุณ คงไม่เหลือเก็บแล้วแหละ
    ส่วนมากแถวนี้เขานิยมแต่พระเครื่องมากกว่า

    คงหาโอกาสเอามาเก็บไว้ซักครึ่งนึงละก่อนจะไม่เหลือให้เก็บ
    ไว้เอามาแล้วจะลงภาพแบ่งปันกันดูครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...