พระพุทธเจ้าประเภท สัทธาธิกะพิเศษ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ลัญจกร_ssj, 17 กุมภาพันธ์ 2015.

  1. ลัญจกร_ssj

    ลัญจกร_ssj สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2015
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +1
    เห็นบางกระทู้มีผู้ปราถนาพุทธภูมิ วิริยาธิกะพิเศษ
    ผมใคร่ขอผมชี้แนะเพื่อเป็นภูมิความรู้ในการบำเพ็ญบารมี
    พระพุทธเจ้าแต่ละประเภท ปัญญาธิกะ สัทธาธิกะ วิริยาธิกะ
    แต่ถ้ามีคำว่าพิเศษต่อท้าย มีอยู่จริงใหม แล้วท่านบำเพ็ญ
    ด้านใดมากกว่าข้างต้น ครับ
     
  2. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:({) สวัสดีครับท่านเจ้าของกระทู้ ไม่เห็นมันยากเลย คำว่าพิเศษ อะไรๆ ที่มันนอกเหนือ กว่าคนธรรมดา จะทำได้ มันก็พิเศษ หมดแหละครับ คำว่า การเกิด หรืออุบัติขึ้นของ พระพุทธเจ้านั้น เกิดขึ้นได้โดยยาก บางกัป ในกรณี เช่น อันตรายกัป กับสูญญกัป ไม่มีพระพุทธเจ้าเกิดขึ้น หรืออุบัติ มาตรัสรู้ เพราะมีพวก สัตว์ นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัชฉาน มาเกิดกันมาก คนที่มีบูญ พอที่จะฟังธรรม ได้บรรลุธรรม ไม่มี จึงไม่มีพระโพธิสัตว์องค์ไหนที่มีบารมีเต็ม และที่คิวจะลงมาเกิด ตรัสรู้ อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ


    พระโพธิสัตว์ ที่สั่งสมบารมี จนเต็มแล้ว ได้ชื่อว่า พิเศษแล้ว แล้วได้ตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้าแล้ว ก็พิเศษ กว่า ใครๆในโลก ทั้ง ๓ โลก มนุษย์ โลก เทวโลก พรหมโลก แล้ว ๆพระพุทธเจ้าก็มี ๓ แบบ ที่คุณกว่าวมา ปัญญาธิ ศัรทธาธิกะ วิริยาธิกะ นี่ การจะพิเศษกว่านี้อีก ก็เป็นเรื่องของๆท่าน ที่ทำพิเศษกว่านี้ พระอรหันต์ ท่านก็มี คำว่าพิเศษ ในด้านนั้นๆ เช่น เลิศในด้าน ปัญญา เลิศในด้านฤทธิธา เลิศในด้าน ทิพยจักษุญาณ เลิศในด้านเมตตา เลิศในด้านกรุณา เลิศในด้าน วิริยะ เลิศในด้าน ขันติ เลิศในด้าน ให้ทาน เลิศในด้านศิล เลิศในด้าน อธิษฐาน เลิศในด้าน อุเบกขา เลิศในด้าน ลาภ


    ไปหาเอาเองบ้างนะครับ มีเยอะแยะพรรณาไม่ไหว มาเอา บุคคลบ้าง เป็นกษัติย์ ก็เลิศกว่าคนทั้งปวง ทั้งประเทศ เป็นประธานาธิบดี นายก อำมาติย์ นายพล นายพัน ผู้ว่า นายอำเภอ จนกระทั่ง ถึงระดับ กำนันผู้ใหญ่บ้าน นี่มันก็ว่ากันไปตามขั้นตอน ของคำว่าพิเศษ จักพรรดิ์ เมียแก้ว ขุนคลังแก้ว ม้าแก้ว ช้างแก้ว ช้างเผือก โครตมหาเศรษฐี เนี่ยที่กว่าวมาเนี่ย พิเศษทั้งนั้นแหละ แล้วการเป็นพระโพธิสัตว์ สร้างบารมี มันต้องสร้าง ในสมัยเป็น คนเป็นสัตว์ ทุกๆขั้นตอน ในการสร้าง ทำยิ่งกว่าคนธรรมดาทั่วไป จึงจัดได้ว่า คุณๆคนๆนั้นๆจะเป็นใครไม่สำคัญ เมื่อคุณทำได้ ทำถึง คุณก็จะจัดเป็นบุคคลคนพิเศษ ตลอดไปครับสวัสดี
     
  3. pmntr

    pmntr เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +2,244
    ไม่มีครับ ไม่มี พวกพิเศษนี่เพ้อเองทั้งนั้นครับ

    พระโพธิสัตว์ก็บำเพ็ญเป็น
    - ปัญญาธิกะ
    - ศรัทธาธิกะ
    - วิริยาธิกะ
    แค่นี้ละครับ สุดยอดแห่งมนุษย์ แห่งการกระทำแล้วครับ ทำได้ 3 อย่างนั้น กราบได้ทั้งนั้น ขนาดสาวกภูมิที่ท่านบรรลุแล้วยังควรค่าแก่การเคารพ ขนาดเต็ม 3 ระดับนี้ กราบไหว้ได้สุดใจทั้งนั้น มากกว่านี้ไม่ต้องหาหรอกครับ
    ไม่มีมากกว่านี้ ที่มากกว่านี้ก็ได้แต่บำเพ็ญไปเรื่อย ๆ เหมือนน้ำที่เทล้นแล้วล้นอีก แต่ถึงอย่างไรก็รับได้เท่าเดิม
    เดี๋ยวจะมีพวกหาว่าวิสัยแห่งพระโพธิสัตว์ คนธรรมดาไม่เข้าใจ คุณอย่าไปว่าเขาเลย แค่ตัวเขาเองยังไม่เข้าใจเลยว่าวิธีอย่างไร
    จะนอกแบบแหกคอกขนาดไหน ก็ได้ 3 แบบนี้ละครับ
    ขอบคุณที่รับฟังครับผม
     
  4. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    เอ ทำไมตำราเล่มของผมมีนี่นา เอาเป็นว่าอ่านตำรากันคนละเล่ม ต่างคนต่างกำลังเรียน ส่วนของผมหากว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์หนึ่งมาบอกว่าไม่มี หรือว่าครูบาอาจารย์ของผมท่านบอกว่าไม่มี ผมก็เลิกคำว่าพิเศษ แล้วจะทำอะไรก็เอามันแค่ง่ายๆ แค่พอใช้ได้ก็พอ เปิดตำราทีไรมันคอยแต่จะพบกับเรื่องที่มีความพิเศษก็ไม่รู้เหมือนกัน ใครรู้ช่วยสงเคราะห์ผมหน่อยก็แล้วกัน ผมกำลังเรียนวิชาการพุทธภูมิอยู่ ไม่ต้องการแม้วินาทีเดียวที่ฟัง หรือจำอะไรที่มันพลาดไป วิสัยผมมันช่างข้างถนน ปัญญามันได้มาจากการฝึกฝน เรียนรู้ ลงมือทำ เป็นผลงานสำเร็จ แล้วเข้าใจขบวนการ แล้วนำไปพัฒนาอย่าง ต่อเนื่อง พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกว่า ตัวความเข้าใจนั่นแหละที่เรียกว่าปัญญา ไม่ใช่ความจำที่เรียกว่าสัญญา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 มีนาคม 2015
  5. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    การเป็นช่างข้างถนน มันทำให้รู้จักการพัฒนาสิ่งต่างๆอย่างต่อเนื่อง มันทำให้รู้ว่า ระดับความของความมาตรฐานนั้นเป็นอย่างไร มันมีดัชนีชี้วัดเป็นวิทยาสาตร์ ไม่ใช่นึกเอาส่งเดชเป็นไสยสาตร์

    ทางด้านวิศกรรมข้างถนน มันมีตัววัดมาตรฐานอยู่สี่ระดับ

    หนึ่งคือใช้ได้ทั่วไป

    สองมีมาตรฐานมารองรับเช่น มอก วุฒิการศึกษาเช่น ใบ กว. หรือใบรับรองประกอบโรคศิลป์ของหมอทั่วไป

    สามระดับเหนือว่ามาตรฐานเช่น กล้วยตากแห่งบ้านบางกระทุ่ม พิษณุโลกจับเอามาใส่กล่องสวยหรู วางขายเป็นสินค้าโอทอป ขนมครกทำจากแป้ง เอาข้าวสารมาแช่น้ำ ใส่โม่เอามือหมุนๆให้ละเอียดเป็นแป้งน้ำ เอาไปใส่เบ้าบนเตาไฟเป็นขนมครกธรรมดา พอมีการใส่อะไรมั่วๆเข้าไปเช่นเผือกหั่นชิ้นเล็กๆ ข้าวโพดบ้าง แล้วอะไรต่อมิอะไรเข้าไปบ้างมันก็กลายเป็นขนมครกสูตรนั้นสูตรนี้ เหนือกว่ามาตรฐานขนมครกบ้านๆข้างถนนไปได้

    สี่ระดับเหนือความคาดหมาย หรือLatent ง่ายๆคือการทำน้ำให้เป็นไอ เด็กบ้านนอกแล้วก็คอกนาอย่างผมมันจะไปมีปัญญาทางวิทยาสาตร์รู้ได้ไงว่าน้ำ ที่แปลว่าน้ำนี่แหละ มันกลายสภาพเป็นไอ ระเหยแล้วลอยไปเกาะกลุ่มเป็นเมฆลอยบนฟ้าได้ พูดให้ตายอย่างไร วิสัยเด็กมันก็ไม่มีทางเห็นว่าเป็นไปได้ เด็กบ้านนอกอย่างผมนี่มันก็ยืนซึม เอ ทำไงหว่าถึงจะเอาน้ำจำนวนมหาศาลแล้วก็มวลมีน้ำหนักมากขนาดหนึ่งลิตรคือหนึ่งกิโลทำไงให้มันลอยได้

    ช็อคโกแลตยี่ห้อหนึ่งที่เขาพยายามของเขาทำให้ช็อคโกแล็ตของเขากลายเป็นระดับLatent แม้แต่ไอ้น้ำที่ทำให้มึนเมา มันก็ยังตะกายทำให้เป็นระดับ Latent ยอดสุราของไทยสี่สิบดีกรีเหล้าขาวหมักดองจากข้าวเหนียว ขายขวดละไม่กี่บาทสมัยก่อนไม่ถึงสิบบาท กรรมกรก่อสร้าง กรรมกรสร้างทาง อย่างคนในหมู่บ้านผมอาศัยฟัดพอได้มึนเมาประสากรรมกร คุณไวท์ต่างประเทศสำหรับอวดความมั่งมี เขาทำให้มันเหนือความคาดหมาย ขายเล่นๆขวดละหลายแสนบาทก็มีนี่นา สิ่งเหล่านี้เกิดมาจากการพัฒนาจนก่อให้เกิดปัญญาความรู้

    ผมมันเป็นช่างก็ขอเอารูปภาพการพัฒนาทางช่างมาดูเอาว่าดูเล่น

    ส่วนเรื่องคอกเคยพูดไปหลายครั้ง คำว่าคอกนั้นคอกของใคร
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กุมภาพันธ์ 2015
  6. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ภายในของรถบรรทุกเขาก็ทำเอาซะเหนือความคาดหมาย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    นี่ก็เหนือความคาดหมายเอาเป็นว่า ความคาดหมายของผมก็แล้วกัน เพราะผมคิดแค่ว่ารถบัสมันคือรถโดยสารทั่วไปเท่านั้น อย่างก็แค่ติดแอร์มีห้องน้ำ แบบรถทัวร์ทั่วๆไป ไม่คิดว่าจะมีรถบัสแบบนี้ ทั้งๆที่ผมก็เป็นเด็กอู่ซ่อมรถ ต่อตัวถังรถมาแต่เดิมนี่แหละ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 มีนาคม 2015
  8. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    เอาอีกซักหน่อยที่เหนือความคาดหมายของผม

    แล้วก็สรุปสักหน่อยสำหรับหมู่คณะพิเศษๆของพวกเรา เราต้องการประพฤติปฏิบัติให้ถึงดี จนดีขนาดเหนือความคาดหมายดีขนาดเทวดาต้องทำขนมให้ มันจะอีกกี่ชาติก็ตาม ผลที่เราต้องการเราก็ต้องการผลที่ดีที่สุดเท่าที่พวกเราจะทำกันได้ หากเป็นการละเมอเพ้อพกก็ช่างมันเพราะกำลังละเมอสลึมสลือไปหาความดี เราไม่ได้พากันละเมอไปทำความชั่ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 149341.jpg
      149341.jpg
      ขนาดไฟล์:
      47.2 KB
      เปิดดู:
      69
    • 149342.jpg
      149342.jpg
      ขนาดไฟล์:
      19.5 KB
      เปิดดู:
      61
    • 149343.jpg
      149343.jpg
      ขนาดไฟล์:
      23 KB
      เปิดดู:
      79
    • 149344.jpg
      149344.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40 KB
      เปิดดู:
      70
    • 149345.jpg
      149345.jpg
      ขนาดไฟล์:
      39.7 KB
      เปิดดู:
      72
    • 149346.jpg
      149346.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.1 KB
      เปิดดู:
      72
    • 149347.jpg
      149347.jpg
      ขนาดไฟล์:
      34 KB
      เปิดดู:
      71
    • 149348.jpg
      149348.jpg
      ขนาดไฟล์:
      43.3 KB
      เปิดดู:
      71
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กุมภาพันธ์ 2015
  9. scorpion03

    scorpion03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2012
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +816
    สวัสดีท่านทั้งหลาย

    ปกติเราไม่ค่อยจะไปคุยนอกบ้านนะ แต่เห็นว่าเรื่องนี้น่าสนใจ และจะเป็นประโยชน์ ขอคุยสักหน่อย

    ในเรื่องของการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์เจ้านั้น ท่านก็มีอยู่ 3 แบบตามที่ท่านผู้รู้บอกไว้นั่นแหละ

    ที่นี้มาว่ากันเรื่องของคำว่า " พิเศษ "

    ชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว ว่า มากกว่าปกติทั่วไป เพิ่มไปกว่า นักอ่านตำราหลายท่านก็จะแย้งมาว่า ก็ถ้าตรัสรู้พระสัมมาสัมโพธิญานแล้ว ก็ไม่มีอะไรจะพิเศษไปกว่านี้อีกแล้ว ก็ถูกของท่าน พระพุทธเจ้า เป็นที่สุดอยู่แล้วนะ

    เพียงแต่ว่า ถ้าเขาต่อท้ายว่า พิเศษเข้าไปอีก ก็ไม่ได้หมายความว่า จะมีความดีมากไปกว่าพระพุทธเจ้านะ พิเศษนั้นหมายความว่า สภาพความเป็นอยู่ของผู้คนในยุคนั้น พิเศษมากกว่ายุคอื่น สุขสบายกว่า ร่ำรวยกว่า รูปร่างหน้าตาของผู้คน ก็หล่อเหลา สวยงามกว่ามาก ราวกับยกเอาสวรรค์มาไว้บนดินกันเลยนะ

    บ้านเรือนที่อยู่อาศัย ก็พิเศษ เป็นแก้วมณี ทรงคุณค่า ประดับประดา ระยิบระยับ อันเป็นไปตามบุญบารมีที่สั่งสมมา เกิดขึ้นจากบุญทาน และเทวดาเขามาช่วยเนรมิตให้ เพื่อให้สมกับคำว่า พิเศษ

    แต่ความเป็นองค์สมเด็จพระพิชิตมาร นั้นเสมอกันนะ อันที่จริง ถ้าจะทำความเข้าใจ มันก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ไม่ยากนะ อย่างเช่น เราสั่งก๋วยเตี๋ยว บอกว่า เฮีย ขอ บะหมี่เกี๊ยวน้ำ พิเศษ หนึ่งชาม กับ สั่งว่า ขอ บะหมี่เกี๊ยวน้ำ หนึ่งชาม

    ก็ได้กินบะหมี่เกี๊ยวน้ำ เหมือนกัน แต่ชามที่สั่งพิเศษ ก็อาจจะมี เกี๊ยวมากหน่อย มีหมูแดงมากหน่อย แต่ก็เป็นบะหมี่เกี๊ยวน้ำเหมือนกัน ขึ้นอยู่กับว่า ผู้สั่ง ชอบแบบไหน ลงท้ายก็อิ่มท้องเหมือนกัน

    โลกใบนี้ มันก็เป็นของมันแบบนี้มาแต่ไหน แต่ไรแล้ว มนุษย์ ก็ผ่านความเป็นอยู่ในยุคต่าง ๆ มาแล้ว อายุขัยของผู้คน มีเป็น แสน , หมื่น , หลายร้อย ปี ก็มีมาแล้ว เป็นปกติ ตามบุญบารมี แต่ไม่ว่าจะมีอายุยืนยาว อย่างไร ก็ต้องตายเหมือนกัน

    เอาเป็นว่าถ้าพิเศษจริงนะ ชนิดที่ว่า เดินไปตามถนนหนทาง ถนน ยังปูด้วยทองคำเลย เพชรพลอย อัญญมณีต่าง ๆ มีอยู่ตามพื้นดินทั่วไป เลือกชมได้ เหมือนกัน ก้อนหิน ก้อนกรวด กันเลยนะ แล้วขาดเหลืออะไร นึกอยากจะได้อะไร ไว้ใช้ในชีวิตประจำวัน เพียงแค่นึกอยากได้ ของสิ่งนั้น ก็จะปรากฏออกมาให้ได้ใช้งานนะ เห็นไหมว่า พิเศษมันเป็นอย่างไร
     
  10. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ก็อย่างคุณน้อง03ว่ามานั่นแหละสมัยผมเป็นกรรมกรอยู่ที่ตะวันออกกลาง ผมเห็นความมั่งคั่งเป็นพิเศษของเขา เศรษฐีที่นี่เขาปูพรมจากสนามในบ้านออกมาจนถึงฟุตบาทข้างถนนหน้าบ้าน ก้าวลงจากรถเขาก็เดินกันบนพรมเลย เศรษฐีเมืองไทยที่ว่าแน่ๆผมยังไม่เห็นสักรายเดียว ที่ปูพรมถึงฟุตบาทข้างถนน นี่ความมั่งคั่งของเขา ผมเห็นผมก็ยกมือ โมทนาสาธุในผลของทานในอดีตของเขาที่ทำมาดี เจ้าของบริษัท ที่ผมทำงานใช้รถยนต์คาดิลแลคหกประตู เสียดายว่ามันนานมากแล้วรูปของท่านผู้นี้ผมไม่มีเหลืออยู่เลย

    พนักงานระดับหัวหน้างานใช้รถยนต์อเมริกัน ยี่ห้อบูอิค ใช้ปอนเตี๊ยค ใช้เชฟโลเลตเครื่องแปดสูบ เครื่องสิบสูบก็มี นี่คนที่เขาได้รับผลของความดีพิเศษ น่ะมีมากนัก นั่นเพราะเขาทำทานมาดีในอดีต

    ผมเองบางช่วงเป็นกรรมกรช่างซ่อมบำรุงแท่นขุดเจาะน้ำมันของบริษัทSANTAFEนั่งเครื่องบินเล็กไปทำงานตามแท่นต่างๆแหมมันเท่ย์อย่างหนัก อยู่เมืองไทยเป็นช่างซ่อมรถยนต์ข้างถนน

    ในปัจจุบันเราก็เห็นบ่อยๆ นักกีฬาระดับโลกทั้งหลายเขามีเครื่องบินส่วนตัว มีเรือส่วนตัวหรูหรามาก ไอ้พวกเราทำงานแบกหามตั้งแต่เล็ก จนจะแก่ตาย แค่พอมีกินเข้าไปให้มันพออิ่มท้อง ครบทุกคนมันก็ยังยาก อันนี้มันต้องคิด คนธรรมดาสามัญชน เขายังมีความมั่งคั่งได้ขนาดนั้น

    ไอ้คนที่ปรารถนาพระโพธิญาณวิริยาธิกะอย่างผม หากไม่ตะกายหาสิ่งที่มันดีเป็นพิเศษให้กับญาติมิตรหมู่คณะพรรคพวกเพื่อนฝูงแล้วมันก็ไม่มีความหมายอะไรในการปรารถนาพระโพธิญาณ ความเป็นพิเศษไม่ใช่รอไปจนถึงวันบรรลุอภิเษกพระสัมมาสัมโพธิญาณแล้วทุกคนถึงจะมีความสุข ผมต้องการให้หมู่คณะญาติมิตรค่อยๆพ้นไปจากความทุกข์ยาก ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะถึงซึ่งพระนิพพานกันเลยหากเป็นไปได้ เอากันแบบท่านโชติกะมหาเถระ แค่ท่านเข้าท้องแม่ศาตราวุธก็ส่งประกายโชติช่วง พระราชาต้องให้เงินเดือนเป็นค่ารักษาครรภ์เดือนละหนึ่งพันกะหาปณ นั่นขนาดยังไม่ได้ออกมาจากท้องแม่ เมื่อคราวที่ท่านจะสร้างบ้านก็ต้องถึงมือ อาจารย์พระวิษณุกรรมของผมนี่แหละ ต้องมากับท้าวโกสีห์สักกะเทวราช มาสร้างให้ คราวจะต้องมีภรรยาเทวดาก็ต้องไปเชิญมาจากดาวกุรุรัฐนี่เพราะบุญพิเศษของท่าน

    ผมเองก็อยากให้ลูกหลานหมู่คณะ แค่หรี่ๆลืมตาดูโลกปู่่ย่า ตายาย แถมลุงป้า น้าอา ซ้ายขวา ต้องคอยรับขวัญลูกหลานเวลาเกิด ซะด้วยทองคำห้าร้อยเล่มเกวียนอย่างท่านวิสาขาตอนแต่งงาน นี่คือความพิเศษเล็กๆน้อยๆสำหรับหมู่คณะที่ผมต้องการให้เขาได้ ให้เขามี ให้เขาเป็น ไม่ใช่ตัวเอง สำหรับผมหากว่าหมู่คณะเขามั่งคั่งกันหมด ผมก็ไม่จำเป็นหุงข้าวกินเอง หิวข้าวไปหาเพื่อนคนใหนก็ได้ เมื่อมีแต่คนเขามั่งคั่งเขาก็เรียกให้ผมกินข้าวเองนั่นแหละ เมื่อเขามั่งคั่งผมก็สะบายใจ หากไม่มีใครเรียกกินข้าว ผมไปอาศัยข้าววัดกินกันตายไปวันๆมันก็ไม่แปลก

    บวชมันซะตั้งแต่กัปแรกของอสงไขย ไปจนชาติสุดท้ายก็ยังได้หากหมู่คณะอยู่ดีมีสุข แก้วๆของผมหากเขามั่งคั่งอย่างภรรยาของท่านโชติกะ เขาก็หุงข้าวใส่บาตรทุกเช้า หิ้วปิ่นโตไปส่งกลางวัน คั้นน้ำปานะไปส่งตอนเย็นทุกชาติไปก็ได้มันจะเป็นอะไรไป หากเขาขี้เกียจไปเขาก็อาจสั่งช่างต่อท่อผลิตน้ำปานะ จากโรงงานเดินท่อโดยตรงไปถึงวัดซะก็ยังได้ประสาคนรวย อย่างวัดท่าซุงพระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านสร้างวัด คิดเป็นมูลค่านับพันล้าน ผมไปเป็นเด็กวัด มีที่อยู่เป็นพันล้านแหมมันเท่น่าดู ศาลาก็ตั้งสิบสองไร่ซุกหัวนอนอีตรงมุมใหนก็ได้

    หากจะให้เท่ขึ้นมาหน่อยก็ทำแบบเพื่อนผมคนนี้ เป็นอาจารย์สอนในมหาลัยทุกเช้าก็ขับรถไปรับพระมาบิณฑบาตร เดินตามพระท่านไปบิณฑบาตร คนเขาไหว้พระ แกเดินตามหลังพระคนเขาก็ไหว้แกด้วย นี่ขนาดผู้ใหญ่วัดที่พิเศษเขาก็ยังมี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSCN2299.JPG
      DSCN2299.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.4 MB
      เปิดดู:
      71
    • DSCN2447.JPG
      DSCN2447.JPG
      ขนาดไฟล์:
      3.5 MB
      เปิดดู:
      75
    • DSCN3024.JPG
      DSCN3024.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.4 MB
      เปิดดู:
      62
    • DSCN3857.JPG
      DSCN3857.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.2 MB
      เปิดดู:
      56
    • DSCN3858.JPG
      DSCN3858.JPG
      ขนาดไฟล์:
      6.4 MB
      เปิดดู:
      80
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 กุมภาพันธ์ 2015
  11. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ต่อเรื่องน้ำซะหน่อยเผื่อสำหรับหมู่คณะ

    อาจดูว่าความเป็นพิเศษไม่เห็นจะเกิดประโยชน์อะไร น้ำเมื่อเต็มตุ่มแล้วใส่เข้าไปยังไงมันก็ไม่สูงเลยขอบตุ่มขึ้นไป เลยขึ้นข้างบนนั้นไม่เลยแน่อันนี้จริง แต่หากมันล้นออกมารอบๆมันก็เกิดความชุ่มชื่นข้างๆตุ่มสุดแต่ว่ารัศมีหรือทิศทางมันไปทางใหน เมื่อรัศมีไปถึงใหนมันก็ชุ่มชื่นอุดมสมบูรณ์ถึงนั่นมันก็เป็นประโยชน์ส่วนที่อยู่นอกตุ่มนอกโอ่ง

    หากว่าเราสังเกตุ เราก็จะเห็นว่าความชุ่มชื้นของน้ำที่ล้นออกไปนั้น มันก็เป็นที่พึ่งพาอาศัยของต้นไม้ใบหญ้าน้อยใหญ่ สัตว์น้อยๆ แม้แต่วัวควายตัวใหญ่ยังอาศัยน้ำที่ล้นออกมานั้นได้เมื่อคราวจำเป็น

    สมัยนี้คนใช้น้ำประปาเป็นส่วนมาก เลยไม่ค่อยมีคนเห็น ไม่ค่อยมีใครเข้าใจ หากคนที่เคยหาบน้ำมาเทใส่ตุ่มใส่โอ่งจนเต็ม เมื่อเต็มแล้วล้นออกมา ก็จะเห็นประโยชน์ของการล้น สภาพของแม่น้ำลำคลองหากทุกๆปีมีน้ำล้นน้ำหลาก ตลอดแนวสองฝั่งของแม่น้ำลำคลองนั้นก็จะอุดมสมบูรณ์แผ่ขยายกว้างไกล แม่น้ำลำคลองใหนน้ำไม่เคยเต็มฝั่ง ไม่เคยล้นฝั่งล้นตลิ่ง แม้แต่ขอบๆของแม่น้ำลำคลองนั้นๆ ก็แห้งแล้งกันดาร
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 20 กุมภาพันธ์ 2015
  12. Armarmy

    Armarmy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +1,659
    โอ่งใส่น้ำจนเต็มตุ่มได้ ในปริมาณเท่าๆ กัน

    สมมุติว่า...
    ๔ หาบใหญ่ ๑ แสนหยด
    ๘ หาบใหญ่ ๑ แสนหยด
    ๑๖ หาบใหญ่ ๑ แสนหยด

    จำเป็นหรือเปล่า..ที่โอ่งใส่น้ำต้องทำมาจากดิน มีสี มีรูปทรง มีลวดลาย เหมือนกันทั้งหมด..

    แล้วอย่างเป็นสมาชิกเวปนี้ทำไมถึงไม่ใช้รูปแทนตัว..ที่เวปไซท์มีมาให้พื้นฐานอยู่แล้วเลือกรูปอื่นมาใช้ทำไม..

    ทำไม ต้องชอบอาจารย์ที่มีปฏิปทาแบบนั้นแบบนี้ ทั้งๆ ที่ธรรมะก็เหมือนกันหมด..

    ทำไม ไม่แสวงหาธรรมด้วยตัวเองโดยไม่ต้องอาศัยอาจารย์ เพราะ ธรรมก็คือธรรมชาติอยู่แล้ว..

    คำว่า พิเศษ เปรียบเหมือน..จุดใต้ตำตอ..เส้นผมบังภูเขา

    พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ที่เราได้ศึกษามา..กรรมท่านเสมอกันทุกพระองค์หรือเปล่า ?

    ลองไปตรวจสอบศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมเอาเอง ข้าวมีกิน แต่ไม่กินเอง พระไตรปิฏกมีเยอะแยะ

    ก็คงไม่มีใครเขาขยันง้างปากเอาข้าวยัดให้บ่อยๆ หรอกขอรับ ไปล่ะครับ สวัสดี.
     
  13. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    นั่นมาแว๊ปๆแล้วซิ่งแมงกะไซร์ไปซะแล้ว

    อือ นั่นน่ะซีเรื่องโอ่งนี่ เอาเป็นโอ่งทองฝังเพชรเล่นโก้ๆซะดีไม๊พี่?
    หรือใจถึงๆหน่อยแบบไม่กลัวโอ่งหาย เป็นโอ่งเพชรประดับทองซะเป็นไง?
    แต่แหมพี่Amarmy กะอีแค่โอ่งดินเผา ขยับขึ้นเป็นโอ่งลายมังกร ขนาดที่มังกรยังไม่คาบแก้วนี่ ผมก็ทำท่าจะหลังหัก

    เอาละเรื่องโอ่งพักเอาไว้ก่อน

    ขอส่งข่าวถึงพี่บุญทรงตรงนี้ซะเลย สตางค์กองทุนพุทธภูมิวิริยาธิพิเศษที่พวกผม และแก้วๆหยอดกระปุกทุกๆวัน วันละบาทสองบาท ห้าบาทสิบบาทประสายาก ทุกบาททุกสตางค์ผมแคะกระปุกส่งมาร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐมปิดทองประดับเพชรกับพี่ และบุญทานกองการกุศลทั้งปวงของพี่บุญทรง ส่งมาเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ เข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชี 1552284050

    จะเอาอานิสงค์โอ่งเคลือบทองฝังเพชรไปฝากลูกหลานหมู่คณะ นะพี่ที่ร่วมสร้างกับพี่บุญทรง เราขอแถมประสาคนทำอะไรก็พิเศษสถานเดียวไว้ก่อน ขอเอาแบบว่าทรัพย์สินใดๆประดามีแม้แต่เศษด้ายที่ชายผ้าหากไม่ให้ใครแล้วไซร้ ใครก็เอาไปไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นใคร มีเดชเดชาศักดานุภาพ อำนาจและวาสนาเพียงใดก็ไม่มีทางเอาไปได้เลย เอามันแบบนี้แหละพี่

    แถมเรื่องราวของท่านโชติกะมหาเถระ ฟังเรื่องราวของท่านที่สั่งสมบุญทานมาดีจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง คนรับใช้ของท่านได้ผ้ากำพลไปทำผ้าเช็ดเท้า ราคาในสมัยนั้นหนึ่งแสนกะหาปณ เท่ากับสี่แสนบาท ราคาทองคำสมัยนั้นบาทละสิบหกบาท สตางค์สี่แสนบาทซื้อทองคำได้สองหมื่นห้าพันบาท ทองคำหนัก 25,000x20,000=500,000,000.00 ปัจจุบันประมาณห้าร้อยล้านบาท คนรับใช้ท่านนี้ถึงกับร้องไห้เสียใจว่าเจ้านายให้ผ้าเลวๆไปเช็ดเท้า

    แก้วเล็กของผมได้ผ้าขนหนูเช็ดตัว ผืนละ299บาทจากผมเมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว เขาดีใจจะนอนไม่หลับ แก้วๆเอ๊ยขอติดหนี้เอาไว้ก่อน ผ้าที่เนื้อดีกว่าผ้ากำพลขอหาให้ในชาติต่อๆไปก็แล้วกัน

    เอาละไปแล้วตามพี่Amarmy

    https://www.youtube.com/watch?v=7i62qB57bJk
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 กุมภาพันธ์ 2015
  14. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:({) สวัสดีครับ พี่พีซีโอ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน ผมนี้เห็นอานิสงฆ์ ทันตาเห็นเลย ผมพึ่งสร้างศาลา
    เอนก ประสงค์ คุมองค์พระหลวงพ่อทั้ง ๗ พระองค์ พึ่งมุมได้ไม่ถึงเดือน แค่คุมองค์พระ รอบนอก ยังไม่มี วันมุมเมทัลชิล ช่างมุมไปได้ ไม่กี่แผ่น ไม่ทันเสร็จแถบเลย เจ้านกเขาไฟ ก็ขนหญ้า ไปไว้บนหัวเสาร์ ทำเป็นรัง ไปนอน ที่ออกไข่กกไข่เฉยเลย ผมก็นั่งดู พร้อมคุยกับช่าง และพวกพ้อง ของเขาก็บิน ฉวัดฉเวียน เล่นกันอย่างสนุก กะอี๋กะอ๋อ กันอย่างมีความสุข ผมดูก็มีความสุขใจไปด้วย


    ทุกวันนี้ นกเขาไฟมาทำรัง ๒ รัง บนหัวเสาร์ นกกระจิบ นกกระจอก มาอาศัย หลบนอน แวะเวียนไปมา ทุกวี่วัน ส่วนหมาจรจัด ๔ -๕ ตัว พอมุมเสร็จ ก็มาอาศัย นอนใกล้ฐานพระ ทั่วศาลา น้ำที่ผม ไว้รดต้นไม้ ใส่ ตุ่ม ผมก็ตักน้ำ ใส่ กระป๋องไว้ให้เขากินกัน ส่วนอาหาร มีคนเลี้ยงแล้ว แหมแต่ก็ กันโขมยได้เหมือนกัน พอมีคนเข้ามากลางคืน เชื่อไหมทหารหมาเหล่านี้ ก็ป้องกันได้ ดีทีเดียว ฮ้าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ นี่แหละพี่ สิ่งที่เราทำ ประโยชน์มันเกิดปัจจุบัน ทันตาเห็นครับ เมื่อสัตว์ เหล่านั้น มาอาศัย ทำให้เรา ใจเราเป็นสุข แบบนี้เองครับ ถึงจะเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่มันมีคุณค่าครับ แต่โอกาศ อันสำคัญ นั้น หาค่าประมาณมิได้ :cool:
     
  15. potilan

    potilan Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2014
    โพสต์:
    49
    ค่าพลัง:
    +40
    อ่านแล้วเพลินดีนะครับ สาธุๆๆๆ
     
  16. กฮ

    กฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +415
    พระพุทธเจ้าประเภทพิเศษนี้หมายถึง ผู้สำเร็จเป็นพระพุทธเจ้าในสถานการณ์ที่ทั่วไปแล้วจะไม่มีผู้สำเร็จได้ อยู่ในลำดับพระพุทธเจ้าเจ็ดพระองค์ ทั้งอายุไขยหรือจำนวนผู้รู้ตามก็ไม่เป็นไปตามแบบพระพุทธเจ้าแบบปกติด้วย พระพุทธเจ้าในกัปนี้ทั้งหมดก็ล้วนเป็นพระพุทธเจ้าแบบพิเศษ

    พระพุทธเจ้าในอนาคตอย่างพระศรีฯ นี่คนก็เยอะแบบสุดๆ เพราะเป็นช่วงทิ้งท้าย บทจะมีคนบรรลุธรรมน้อยก็น้อยมากอย่างในศาสนาของพระราม
     
  17. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814



    :cool:({) สวัสดีครับ พี่ๆน้องๆทุกๆท่าน ถ้าจะเรียก ว่ากัปนี้ๆเป็นกัปพิเศษ ก็ใช่เลย ซึ่ง จะทรง พระโพธิสัตว์ มาตรัสรู้ เป็นพระพุทธเจ้า ถึง ๑๐ พระองค์ พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ของกัปนี้ เป็นองค์ที่ ๔ พระศรีอาริยเมตตรัย องค์ที่ ๕ ที่ ๖ พระราม ที่ ๗ หลวงปู่ปาน ๘-๙-๑๐ จำไม่ได้ ปรกติ ที่พระ และครูบาอาจารย์ท่านกว่าวไว้ว่า แต่ละกัป จะมีพระพุทธเจ้า มาตรัสรู้ ไม่มากเหมือนกัปนี้


    บางกัป มาตรัสรู้ มีองค์เดียว บางกัป ๒ พระองค์ ๓ องค์ ท่านยังกว่าวต่อไปว่า ๕ พระองค์นี่หาแทบไม่ได้เลย ท่านบอกว่า กัปนี้ เป็นกัป ที่เฮงที่สุด และก็ซวย ที่สุด ถ้าใครพาด กัปนี้แล้ว ยากจริงๆครับ รถไฟในกัปนี้ ยังเหลืออีก ๖ ขบวน ที่จะคอยรับ ผู้โดยสาร ไปกับท่าน ใครจะไปขบวนไหน ก็เลือกเอา หรือไม่เลือกเลย ก็เป็นเรื่องของแต่ละบุคคล มีสิทธิ์ ที่จะเลือก จะเป็นกันได้ แต่ในศาสนาของพระศรีอาริย์ ผู้คนในยุคนี้ พวก สัตว์ในอบายภูมิ ไม่มีสิทธิ มาเกิด ในยุคของท่าน คนเกิดในยุคนี้ ต้องสั่งสมบุญมาอย่างดี


    :cool:คนที่จะไปเกิน ในศาสนาพระศรีอารย์ ต้องมีกรรมบถ ๑๐ รักษาศิล ๕ เป็นปรกติ วันพระ บางวัน หรือบางครั้ง รักษาศิล ๘ หรือ เข้าพรรษา รักษาศิล อุโบสถศิลครับ ถึงจะไปเกิด ในศาสนาของท่านได้ นี่ก็คือ ความเป็นพระพุทธเจ้า พิเศษ เนี่ยคำว่าพิเศษๆ เขาเป็นกันแบบนี้ครับ แต่ถ้าถามว่า คำว่าพระพุทธเจ้าก็พิเศษแล้ว ทำไมจะต้องมีพิเศษ อีก พระพุทธเจ้ามี ๓ ระดับ ปัญญาธิกะ ศรัทธาธิกะ วิริยาธิกะ ก็พิเศษไม่เหมือนกัน ความเป็นพระพุทธเจ้า นั้นเสมอเหมือนกันหมด คำสอนก็เหมือนกัน แต่พิเศษ ไม่เหมือนกัน เช่น อายุไม่เท่ากัน


    ศาสนาไม่เท่ากัน ความอลังกาล ก็ไม่เหมือนกัน สาวก ไม่เท่ากัน ตรัสรู้ ใช้เวลาไม่เท่ากัน บางองค์ ออกบวช ๗ วันตรัสรู้ บางองค์เป็นเดือนตรัสรู้ บางพระองค์ หลายเดือน ตรัสรู้ บางองค์ เป็นปี หรือหลายปี แบบศาสนาพระพุทธเจ้า องค์พระปัจจุบันของเรา บำเพ็ญความเพียรถึง ๖ ปี จึงได้ตรัสรู้ และคนยุคนี้ อายุน้อยถอยลง คนชั่วมากกว่าคนดี นี่แค่ อธิบายมาหน่อยเดียวครับ ไปคิดต่อกันเอาเองครับ ส่วนท่านที่รู้แล้ว ก็ต้องขอพระอภัยมณีไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ :cool:
     
  18. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,430
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    ทราบมาว่าสมัยพระศรีอารย์ ผู้หญิงจะแต่งงานได้เมื่ออายุ๕พันปี
     
  19. pco-

    pco- เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2010
    โพสต์:
    2,162
    ค่าพลัง:
    +12,252
    ผมก็ได้ยินเขาลือกันว่าอย่างนั้น แล้วซือเจ๊จะไปเกิดสมัยนั้นหรือปล่าวครับ
     
  20. ธัมมะสามี

    ธัมมะสามี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2013
    โพสต์:
    513
    ค่าพลัง:
    +2,781
    ... พระพุทธเจ้าสัทธาธิกะพิเศษองค์หนึ่งในกัปปนี้ คือ

    ... สมเด็จพระกัสสปะสัทธาธิกะสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ... พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์ท่านเป็นเลฺิศกว่าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์เรื่องลาภสักการะ

    ... และอีกประการหนึ่ง ในสมัยของพระองค์ท่านมีธรรมาภิสมัยถึง ๕ ครั้ง มากกว่าพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ ถ้าไม่เชื่อไปอ่านในพระพุทธวังสะ ขุททกะนิกายได้ครับ

    ... ที่เป็นอย่างนี้ เพราะพระองค์ท่านตั้งความปรารถนาเอาไว้เมื่อครั้งเริ่มปรารถนาพระโพธิญาณใหม่ๆ และสร้างบุญกุศลมาเฉพาะ ตลอดระยะเวลา ๘ อสงไขย กำไรแสนกัป

    ... อีกองค์หนึ่ง ก็ท่านหลวงปู่ปาน โสนันโท วัดบางนมโค อ.เสนา จ.อยุธยา พระโพธิสัตว์พระองค์นี้ก็สัทธาธิกะพิเศษเหมือนกัน ท่านจะใช้เวลาบำเพ็ญเพียรอยู่ ๗ วันก็ได้บรรลุพระอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ และบริษัทท่านเยอะมากมาก

    ... นี่แค่ตัวอย่าง ถ้าตั้งใจจริง และเริ่มลงมือทำจริง และประคองความเพียรเอาไว้ให้ตลอดรอดฝั่ง ทุกอย่างที่ปรารถนาก็จะสัมฤทธิ์ดังปรารถนาแล ฯ.
     

แชร์หน้านี้

Loading...