เเต่งงานกันไปเเล้วมีเเต่ทุกข์เเล้วเเต่งกันทำไม

เรื่องจริงครับ ไม่เห็นทุกข ไม่รู้จักทุกข แล้วจะหาทางพ้นทุกขได้ยังไงครับ ต้องเห็นทุกขก่อนถึงหาทางดับทุกขครับ. ตอบแบบขำๆแต่เป็นความจริง ตอบแบบจริงๆกลับเป็นเรื่องขำๆ

 

ที่น่าเศร้าคือ เห็นทุกข์แล้วจะละทิ้งก็ไม่ได้ มีห่วงแล้วนี่ ต้องส่งให้ถึงฝั่งก่อน :'(

 

ผมว่าคุณ ไปอ่าน กระทู้ ของ จขกท.ก่อนนะครับ ว่าสิ่งที่เค้าบอกว่า สุข รึ ทุกข์
ในที่เค้าพูดถึง คืออะไร

จขกท.ไปเที่ยวสงกรานต์ เพื่อนๆพูดถึง การมีครอบครัว เบื่อ ลูก เมีย มี กิ๊ก นอกใจ มีแต่ทุกข์ไม่มีสุข จะแต่งทำไม่ จขกท.ไม่ได้แต่งบอกว่าดีแล้ว จะได้ไม่ต้องมีทุกข์

เค้าพูดถึง มีทุกข์ มีสุข ในชีวิตการครองเรือน กับ ชีวิต สามี ภรรยา และ บุตรในมุมของเพื่อนๆ เค้า ไม่มีพูดถึงการมีสุข ในแง่ ของการนิพพาน การไปให้ถึง
นั้นคือสุข ที่แท้จริงใครๆก็ทราบ

ผมก็เลย เม้นท์ ว่า การมีครอบครัว ก็มีสุขได้หลายๆ ครอบครัว ไม่ใช้มีแต่ทุกข์ ตามที่เพื่อนๆ จขกท. พูดถึง

แล้วคุณก็มาให้ยก ตัวอย่าง ในความคิดผมผมก็บอกไป ไม่ใช้ว่าผมไม่มีทุกข้เพียงแต่ ให้รู้เท่าทันมัน

ถ้าความสุข ในคำนิยามของคุณ คือ นิพพาน มันก็คือ แนวทางของคุณผมไม่เถียงหรอก ผมมีครอบครัว ผมก็มีความสุข ของผมก็แค่นั้น

 

ทำแค่พระโสดาบันก็พอได้ทั้งทางธรรม ทางโลก two. In. Oneสบายๆครับ ไม่ยาก ไม่มีอบายเป็นที่ไปแน่ๆ รับรอง ชัวร์ครับพระพุทธเจ้า การันตีไว้ครับ

 

ท่านก็ควรกล่าวในโลกธาติ แยกออกให้ชัดเจนครับ ท่านสุขในทางโลกที่พอใจแค่นี้ ที่ท่านเห็นและเชื่อและรับว่านั้นคือสุขที่ท่านพอใจ แต่การแต่งงานที่เค้าพรรณามาที่เค้าเห็นนั้นคือทุกข คือความจริง
ท่านอ่านหลายๆความคิดดู ผมมีโพสไว้แล้ว และยกพุทธวจนะขึ้นกล่าวไว้ด้วย สิ่งที่ผมกล่าวทั้งหมดคือความจริง ที่คุณว่าสุข ในมุมผมมันคือทุกขที่จะตามมา มันไม่ใช่สุขจริงๆเสมือนคนเดินทางไกลมาเจอน้ำ1แก้ว เค้าจะหยิบขึ้นดื่ม ผมบอกว่าอย่าในน้ำนั้นเจือด้วยยาพิษนะถ้าท่านดื่มนั้นถึงตายนะ แต่อีกคนมาถึงไม่ฟังยกขึ้นดื่มเลยแล้วบอกเห็นใหมไม่มียาพิษฉันดื่มอย่างมีความสุข มันต้องรอยาพิษออกฤทธิ์ก่อนแล้วจะรู้ว่าถึงตาย เมื่อถึงเวลาใครก็ช่วยไม่ได้

 

แต่จะว่าไปนะ ...คนส่วนใหญ่ก็ชอบพูดว่าการแต่งงาน การมีครอบครัวทำให้ทุกข์
แต่ก็ยังอยากจะแต่งงานกัน คนพูดก็ลูกสองลูกสาม
ตอนมีลูกคนแรกก็พูดอย่างงี้
แต่ก็ยังมีคนที่สองตามมา มีคนที่สองก็พูดอีกแระ
แต่ก็ยังมีคนที่สามอีก
บางคน ก่อนแต่งก็บอกว่าทุกข์ แต่ก็แต่ง หลังแต่งก็บอกว่าทุกข์ แต่ก็ยังแต่งครั้งที่สอง สามอีก อิ อิ

 

ธรรมชาติครับ กาม ตัณหา อวิชชา จิตที่มิได้ฝึกฝนให้ละ ให้ปล่อย ให้ดับ ย่อมต้องเคลื่อนไปไหลไปตามกิเลสกาม ถ้าไม่ผิดศีล ไม่มีปัญหาครับ ธรรมชาติของมนุษย์ครับไม่แปลก ขออย่างเดียวทำอะไรให้นึกถึงศีลก่อนอันดับแรกถ้าไม่ผิดศีล จัดได้เลยไม่ว่ากันแต่ถ้าผิดศีลต้องต่อสู้กับความอยาก ดับมันให้ได้ เมื่อเราชนะได้ครั้งหนึ่งรับรองครั้งต่อๆไปก็ไม่ยาก แค่นี้ท่านก็ผ่านแล้วครับ อย่าคิดมากครับ ธรรมดา ธรรมชาติของมนุษย์

 

ผมว่า จขกท. สร้างกระทู้ ขึ้นมา ก็กล่าวถึง โลกธาติ ความสุขควาทุกข์ ในทางโลก นะครับ ผมก็แสดงความคิดเห็น ในทางโลก ถึงผม จะไม่ได้อ่านพุทธวจนะแต่ผม ท่อง มรรค 8 ได้นะครับ และผมพยายาม ปฏิบัติมันอยู่

 

การทำพระอริยมรรคมีองค์8ให้ครบให้บริบูรณ์น้้นคือคุณสมบัติของพระอรหันต์ครับ คนธรรมดาทำไม่ได้ครับ ทำได้ต้องดับขันต์ในวันนั้นเลย คุณลองเปลี่ยนมาอ่านพุทธวจนะเรื่องสังโยชน์10แล้วลองศึกษาและทำดู จะทำได้ง่ายกว่า. จเทำ3ข้อแล้วพอใจก็ได้ รึจะทำ4-5ให้เบาบางแล้วพอใจก็ได้ รึจเดับสังโยชน์เบื่องต่ำทั้ง5ข้อก็ได้ หรือจะทำทั้ง10ข้อก็สำเร็จพระอรหันต์ ผมมีโพสเรื่องพระโสดาบันแบบชาวบ้านไว้ในนี้ลองหาดูครับ ไม่เข้าใจถามได้ครับ แต่ห้ามถามเกิน5ข้อแรกนะครับ 6-10. ต้องไปถามคนอื่นผมตอบไม่ได้ครับ
พระพุทธวจนะ. หากเดินตามทางมีพระอริยมรรค์มีองค์8 โลกนี้จะไม่สิ้นพระอรหันต์
เมื่อดับสังโยชน์10ได้คือคุณสมบัติของพระอรหันต์
เมื่อนันทิดับ เมื่อนั้น อายตนะหาที่ตั้งมิได้ มิได้เป็นไป หาอารมณ์มิได้ กิจที่ควรทำได้ทำเสร็จแล้วกิจอื่นยิ่งกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว ฯลฯ
ท่านก็เลือกเอาครับชอบแบบไหนก็เดินตามนั้น

 

คุณวีระจักร รับรางวัลหลังไมค์ด้วย

 

เอิ่มม.จริงๆก็อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เวลาไม่อำนวย(ฝากไว้ก่อน)

 

. .

 

ท่านหนึ่งท่านได้เคยกรุณาชี้แนะว่า คนที่เกิดมาไม่มีคู่ คือคนที่ไม่มีห่วง ดังนั้นอย่าหาห่วง คุณโชดดีแค่ไหนที่เกิดมาไม่มีห่วง สามารถทำความดี ประกอบกุศลได้อย่างเต็มที่.....

 

สุข ไม่มีทางเท่า ทุกข์ เเน่นอน สุขมากเท่าไหร่ ทุกข์กว่ามายหลายเท่านัก ในชีวิตผมเคยเจอมา 2 ครั้งได้ คือ พ่อ ผมเสีย ย่าผมเสีย ผมรักย่าผมมากก่าพ่อผมมากมายนัก ย่าผมเสียไป 6 เดือน พ่อผมก็เสียตามไป ตอนนั้นผมอายุ 13-14 เอง ตอนนี้ผมยังไม่ได้มีครอบครัว ผมรักเเม่มาก ผมรู้เลยว่าอนาคต ผมต้องเจออีก ในกรณี ย่า กับ พ่อ สาหัสมากครับขอบอก สาหัสจริง ผมคิดว่าทุกคน ต้องได้เจอเเน่ๆในชีวิต ช้าเร็วเท่านั้น เกี่ยวกับคนที่เรารักเนี่ย เคยได้ยินเค้าพูดกัน ว่า พ่อ เเม่ ญาติเสีย ไม่หนักหนาเท่า ลูกตัวเองเสียชีวิต ผมคิดว่า เราเกิดเป็นคนเราเลือกได้นะว่า จะสร้างทุกข์หรือเปล่า อยู่คนเดียวก็ยากอีก สรุปเเล้ว เค้ากำหนดมาหมดเเล้วตามเวรตามกรรม

 

เคยได้ยินมาว่าถ้าเรามีลูก 100 ละ 90 เป็นเจ้ากรรมนายเวร ทั้งนั้นจริงหรือเปล่าครับ

 

อันนี้ผมก็เคยเห็นนะครับ คนเป็นพ่อเป็นเเม่คน ลูกนิสัยไม่ดีเลย เกิดมาเป็นทอม มีเงินหลอกเงินพ่อเงินเเม่ ไปเลี้ยงผู้หญิง สร้างความเดือดร้อนไม่หยุดหย่อน หัวคิดก็ไม่มีอายุก็เยอะเเล้ว 40 กว่าเเล้ว ยังไม่เลิกบ้า เค้าเกลียดลูกเค้านะ ว่าเมื่อไหร่จะหมดกรรมกับไอ้ลูกคนนี้ซะที เเต่เวลามันไม่สบาย ก็เป็นห่วงมัน สรุป เเล้ว โคตรทุกข์อะครับผมว่า

 

ถูกต้องแล้วครับ ทั้งลูกทั้งเมียคือเจ้ากรรมนายเวรของเรา แต่เมียเบาหน่อย แค่หาเลี้ยงหมดกรรมก็เลิกรากันไป แต่ลูกนี้ซิหนักเลยครับต้องเลี้วงตั้งแต่เด็กย้นโต เผลอๆยันแก่อีกไม่ใครก็ใครได้ตายกันไปก่อนถึงหมดเวรต่อกัน คนไม่มีถือว่ามิได้สร้างกรรมไว้ มีบุญคร้บ แต่มีลุกบางคนเป็นอภิชาติบุตร นั้นคือเคยร่วมบุญร่วมกรรมกันมาก็ต่างก็ชดใช้คืนให้แก่กันครับ อันนี้ดีทั้งสองฝ่าย แต่นั้นแหละเหตุและปัจจัยเราเป็นผู้สร้างถึงเวลาเราก็เป็นผู้รับครับ. กรรมใครกรรมมันครับ สาธุ

 

โชคดีนะเราโสด อิอิ

 

คนโสด ไม่ใช่ว่าจะดีกว่าคนแต่งงานนะครับ คนที่แต่งงานจัดว่าทำกุศลมาดีกว่าคนโสด(ไม่นับคนตั้งใจโสดเพื่อหลุดจากกาม) คนมีครอบครัวก็ต้องทำกุศลมาดีกว่า คนที่มีญาติบริวารมากก็จัดว่าทำบุญมาดีกว่า คนโสดแต่โสดแบบไม่ตั้งใจโสดเพื่อหลุดจากกาม ก็เสวยกามแล้วก็เข้าใจว่าไม่เสวยกามไม่ติดกามไม่มีความรู้สึกทุกข์เลย เหมือนเทวดาคนธรรพ์เล่นดนตรี เหมือนอัปสรนารีสวรรค์ร้อยพวงมาลัยดอกไม้สวรรค์ แม้ไม่เสพเมถุนธรรมหรือมีครอบครัว ก็เสวยกามเต็มที่เหมือนกัน กามบนสวรรค์ไม่มีทุกข์แบบกามในโลกมนุษย์แต่ก็จัดเป็นทุกข์ที่ตนหลงครับ ถ้าท่านแต่งงานแล้วรู้สึกเป็นทุกข์แม้จะยังละกามสุขไม่ได้ ก็ยังดีกว่าประเภทที่ไม่รู้ตัวว่าติดกามติดสุข อันเป็นทุกข์ที่ตนหลงไปครับ โดยมากเราท่านไม่ค่อยเห็นกามหลายประเภทเป็นทุกข์ซะด้วยครับ

 

พระพุทธเจ้า ทรงตรัสว่า กามทุกชนิด มีผลเป็นทุกข์ ใครเชื่อและยึดมั่นพระองค์ และเข้าใจและมีปัญญาพิจารณาก็จะเห็นตามที่พระองค์ตรัสไว้ ส่วนใครไม่เชื่อก็กล่าวตรงกันข้ามได้ตามสบายเลยครับ การแต่งงานคือกามชนิดหนึ่ง คือกามต้ณหา เมื่อสมหวังก็ปิติสุข เมื่อผิดหวังไม่สมหวังก็ทุกข์ เมื่อสมหวังวันหนึ่งต้องพลัดพรากก็ทุกข์ เมื่อหมดรักเจอคนใหม่คิดว่าดีกว่าคนเก่าก็ทิ้งไปหาคนใหม่ คนเก่าถูกทิ้งก็ทุกข์ สุขนิดเดียวแต่ทุกขรออยู่ตั้งมากมายเทียบกันไม่ได้
ย้ำอีกครั้งพระพุทธองค์ตรัสว่า. กามทุกชนิด มีผลเป็นทุกข์ ใครเชื่อและยึดมั่นพระองค์ใช้ปัญญาพิจารณาตามจะเห็นจริงตามคำตรัสของพระองค์
ส่วนใครไม่เชื่อก็กล่าวตามสบายเลย..ครับมีภรรยามากมีลูกมากมีบริวารมากทำกุศลมามาก. ใครไม่มีแสดงว่าทำกุศลมาน้อย สาธุ
ป.ล. มีคนมากมายที่เชื่อพระองค์แต่ไม่สามารถเอาชนะกิเลสกามในจิตตนได้ก็จะไม่กล่าวในสิ่งตรงข้ามกับพุทธวจนะเด็ดขาดแต่จะยอมรับในตนว่าพ่ายแพ้กิเลสกามในตนเท่านั้นเอง นั้นก็เป็นเรื่องธรรมดาของสัตว์โลกที่มี รัก โลภ. โกรธ. หลง เพียงแต่ขออย่าผิดศีลก็พอครับ