ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    ประชาชนชาวอเมริกันตื่นรู้เชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐฯจัดซ้อมรบทางทหารมีเป้าหมายเพื่อควบคุมรัฐต่างๆ

    [​IMG]

    ------------
    ช่วงนี้มีการตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับปฏิบัติการซ้อมรบภายใต้โค้ดเนม "Jade Helm 15" ในโลกอินเตอร์เน็ทเป็นอย่างมาก ซึ่งเพนตากอนจะจัดซ้อมรบทางทหารขึ้นในพื้นที่ 7 รัฐทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐฯระหว่างวันที่ 15 ก.ค.- 15 ก.ย.58 ที่จะถึงนี้ ชาวอเมริกันต่างเป็นกังวลกันว่ารัฐบาลกลางของพวกเขากำลังเตรียมจะประกาศใช้กฎอัยการศึกซึ่งอาจจะขยายวงกว้างออกไปมากกว่าเดิมหรือไม่?
    ปฏิบัติการ Jade Heml 15 เป็นการฝึกทางกองทัพเล่นเกมสงครามขนาดใหญ่ (a large-scale war game) ซึ่งทำให้มีการตั้งข้อสงสัยขึ้นมาเป็นอย่างมากหลังจากที่ทางกองทัพสหรัฐฯได้เปิดเผยแผนที่รัฐเท็กซัส ยูท่าห์ และบางส่วนทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียว่าเป็นพื้นที่ของศัตรู (hostile territory) หลายคนกล่าว่าแผนที่ดังกล่าวเป็นสิ่งยืนยันว่ารัฐบาลสหรัฐฯกำลังวางแผนที่จะรุกรานรัฐเท็กซัส (the US government was planning to invade Texas)
    มีการคาดเดาต่างๆนาๆเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่ Greg Abbot ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสได้มีคำสั่งให้ตำรวจรัฐ (state guard) จับตาดูการซ้อมรบดังกล่าวของกองทัพสหรัฐฯ Greg Abbot กล่าวว่า "มันเป็นสิ่งสำคัญที่ชาวเท็กซัส [มีสิทธิ์ที่จะ] รู้เกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกเขา สิทธิตามรัฐธรรมนูญ สิทธิในสมบัติส่วนตัวลและเสรีภาพของพลเรือนจะไม่ถูกละเมิด"
    มีการสำรวจความคิดเห็นทางโทรศัพท์จากประชาชนจำนวน 1,000 คนซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 และ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมาโดย สำนักโพลล์ Rasmussen Reports ของสหรัฐฯ ซึ่งเปิดเผยว่า ประชาชนจำนวน 45% รู้สึกเป็นกังวลว่ารัฐบาลสหรัฐฯกำลังใช้การฝึกซ้อมทางทหารเพื่อเป็นข้ออ้างในการขยายการควบคุม [เสรีภาพของประชาชน] เพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ 65% เห็นด้วยที่จะให้กองทัพจัดให้มีปฏิบัติการซ้อมรบแบบนี้ในรัฐของพวกเขา
    สิ่งนี้หมายความว่า 10% ของประชาชนชาวอเมริกันที่เชื่อว่ารัฐบาลสหรัฐฯวางแผนที่จะใช้กองทัพเพื่อเข้าทำการควบคุมเพิ่มมากขึ้น และชาวอเมริกันจำนวนหนึ่งก็สนับสนุนให้ทำอย่างนั้น (หุหุ… อเมริกันชนบางส่วนชื่นชอบให้ทหารเข้าควบคุมซะด้วย เป็นไปได้ไง... แหม… ก็นึกว่าจะมีแต่รัฐบาลสหรัฐฯเท่านั้นที่เลียนแบบลุงตู่ที่ไหนได้ขนาดประชาชนของเขาก็ยังชอบแบบนี้ด้วยเลย มิน่ายอดนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศถึงได้เพิ่มขึ้นในช่วงที่ไทยประกาศใช้กฎอัยการศึก ความจริงก็คือความจริงยอมรับเหอะนะเหล่าโปรอเมริกานิ้วพิการทั้งหลายเอ๋ย)
    ยังมีอีก... น่าสนใจมากที่ผลของการสำรวจพบว่าชาวอเมริกัน 62% เชื่อว่ามีการควบคุมจากรัฐบาลมากเกินไป และประชาชนมีเสรีภาพส่วนบุคคลน้อยมากในประเทศสหรัฐฯ ในขณะที่อีก 20% เชื่อว่ารัฐบาลเป็นผู้ปกป้องเสรีภาพของประชาชน (โอวววว…. ชาวอเมริกันบอกว่าขาดเสรีภาพ และรู้สึกว่ามีเสรีภาพน้อยลงอ่ะ น่าสนใจ!)
    มุมมองเกี่ยวกับการซ้อมรบนั้นแตกต่างกันออกไปตามความนิยมในพรรคการเมือง 67% ของพวกเสรีนิยมมองว่าไม่กังวลใจ ในขณะที่ 56% ของพวกอนุรักษ์นิยมมีความรู้สึกเป็นกังวล
    ตัวเลขนี้ไม่ใช่การมองว่าฝ่ายที่เป็นกังวลกับฝ่ายที่ไม่กังวลมีคะแนนเสียงมากกว่ากันหรือไม่ แต่จุดทีี่โพลล์ของสหรัฐฯชี้ให้เห็นก็คือว่าตอนนี้ประชาชนชาวอเมริกันเกือบครึ่งหนึ่งเชื่อว่ารัฐบาลกลางกำลังใช้กองทัพเข้าควบคุมรัฐเหล่านั้นโดยอ้างการซ้อมรบบังหน้าและเป็นการซ้อมประกาศใช้กฎอัยการศึกไปในตัวต่างหาก อ้อ… ข่าวนี้ก็ไม่ได้โกหกหลอกลวงหรือกุข่าวขึ้นมาเองอย่างที่โปรอเมริกาบางรายมากล่าวหาเพจนี้หรอกนะ ใส่ลิ้งค์อ้างอิงไว้ด้านล่างนี้ให้ด้วย สามารถเข้าไปพิสูจน์ด้วยตาของตัวเองได้ทุกเมื่อ และโพลล์นี้ก็ไม่ได้จัดทำโดยรัสเซีย หรือจีน หรือเกาหลีเหนือซะด้วยสิ คนอเมริกันเขาทำของเขาเองนะ จะไปโทษประเทศอื่นไม่ได้นาาาา
    The Eyes
    13/05/2558
    ---------
    Nearly Half of US Believes Military Drills Point to Fed Takeover of States / Sputnik International
    Voters Worry Military Exercises May Lead to Federal Control Of States - Rasmussen Reports™
    62% Say Government Has Too Much Power in America Today - Rasmussen Reports™
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    สื่อฯตะวันตกพากันตื่นตกใจกรณีจีนกับรัสเซียซ้อมรบในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

    [​IMG]

    -------------
    ขอเล่นข่าวนี้อีกซักรอบนะครับ เคยนำเสนอไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา วันนี้ขออัพเดทข่าวให้อีกครั้งนะ โปรอเมริกาเห็นภาพปูตินแล้วต้องชักดิ้นชักงอตายอีกแน่ๆ ฮ่าๆๆ มันช่วยบ่ได้อ่ะ ก็เพจนี้คอรัสเซียส่วนแฟนเพจก็เห่อปูตินมากๆซะด้วยสิ อิๆ กวนประสาทพวกโปรอเมริกาวันละนิดจิตแจ่มใส... ก็ดันมาหาเรื่องถึงเพจเราก่อนทำไมหละ?
    เข้าสู่โหมดข่าวมันๆกันต่อดีกว่า เตรียมป๊อบคอนให้พร้อมนะครับท่านผู้อ่านทั้งหลาย เมื่อวานนี้ (12 พ.ค.58) สำนักข่าว sputnik news ของรัสเซียพาดหัวข่าวว่า "การซ้อมรบระหว่างรัสเซียกับจีนในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนส่งสัญญาณถึงสหรัฐฯ - สื่อฯตะวันตก" อ่ะน่า... สื่อฯจอมเสี้ยมจอมระแวงฝั่งตะวันตกก็มักจะพูดประมาณนี้แหละ
    การซ้อมรบร่วมกันระหว่างรัสเซียกับจีนในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนได้เริ่มขึ้นตั้งแต่เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการกระชับความร่วมมือสายสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น การซ้อมรบในครั้งนี้หมายถึงในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนระหว่างรัสเซียกับจีนถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เป็นการซ้อมรบแบบ live-fire exercises ในพื้นที่ทางทะเลที่เป็นจุดยุทธศาสตร์เชื่อมต่อระหว่างยุโรป แอฟริกาและตะวันออกกลาง โดยสื่อฯตะวันตกมองว่าเป็นการส่งสัญญาณถึงกรุงวอชิงตันจากการรวมพลังของพันธมิตรใหม่ที่ทรงพลังใกล้สนามหน้าบ้านของของยุโรปตะวันตก
    นิตยสาร National Preview ซึ่งมีสำนักงานอยู่ในนครนิวยอร์กกล่าวว่า "ในขณะที่เรือรบของจีนเพียงสองลำเข้าร่วมปฏิบัติการซ้อมกับในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั้น การเคลื่อนกำลังพลในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่าจีนต้องการที่จะช่วยรัสเซียเผชิญหน้าท้าทายกับอำนาจของอเมริกัน"
    National Preview ยังกล่าวต่ออีกว่า "ศัตรูที่สร้างความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซีย (Sino-Russian) ในช่วงสงครามเย็นได้เลือนหายไปนานแล้ว จีนกับรัสเซียได้ค่อยจับมือเป็นพันธมิตรกันในที่อยู่ของตนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเพื่อต่อต้านความมั่นคงของอเมริกาและนานาชาติ พันธมิตรคู่นี้ต่างสนับสนุนด้านความมั่นคงต่อกันอย่างลึกซึ้ง"
    แม้กระทั่งหนังสือพิมพ์ The Los Angeles Times ของสหรัฐฯก็เล่นข่าวการซ้อมรบระหว่างจีนกับรัสเซียในครั้งนี้ด้วยโดยกล่าวว่า "ประเด็นที่พลาดไม่ได้ : มหาอำนาจพันธมิตรใหม่จากตะวันออกกำลังพากันเบ่งกล้ามใกล้สนามหน้าบ้านของยุโรปตะวันตกแล้ว - ใกล้มากพอๆกับที่จีนได้กระทำในมหาสมุทรแปซิฟิกของตนเองเลย"
    หนังสือพิมพ์ Tages-Anzeiger ของสวิสเขียนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างกรุงมอสโคว์กับมหานครปักกิ่งว่าไปไกลเกินกว่าที่จะพิจารณาว่าเป็นเรื่องทางการเมืองและเศรษฐกิจล้วนๆซะแล้ว หนังสือพิมพ์สวิสเตือนวว่า "พวกเขากำลังแสร้งเป็นพันธมิตรกันในด้านกองทัพเพื่อเป็นการถ่วงดุลอำนาจของสหรัฐฯกับและพันธมิตรยุโรแและในเอเซียของพวกเขา"
    บีบีซีกล่าวว่า "แม้ว่าจะเป็นการซ้อมรบที่มีขนาดเล็ก แต่มันก็เป็นการส่งสัญญาณในการเติบโตของความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงระหว่างปักกิ่งกับมอสโคว์ และเป็นการแสดงให้เห็นว่า จีนกำลังขยายขอบเขตทางทะเลของตนมากขึ้น"
    นิตยสาร Der Spiegel ของเยรมันเขียนว่า "สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนนั้นเป็นหลักฐานที่แน่นหนาว่ามีเจตนาที่จะต่อต้านกรุงวอชิงตัน รัสเซียและจีนถูกลากมาร่วมมือกันนั้นเนื่องจากการปรากฎตัวของศัตรูร่วมกัน ซึงก็คือสหรัฐฯ" (อุบ๊ะ! เยอรมันเอาตัวรอดเฉยเลย... ไม่บอกว่ารัสเซียกับจีนเป็นศัตรูของเยอรมันหรือยุโรปนะ แต่บอกว่าบอว่าศัตรูของรัสเซียกับจีนนั้นก็คือสหรัฐฯโน่น เอาหละสิ ฮ่าๆๆ)
    นิตยสาร Der Spiegel ของเยอรมันเขียนต่ออีกว่า "การซ้อมรบร่วมกันระหว่างรัสเซียกับจีนเป็นการบอกใบ้ไปยังกรุงวอชิงตันว่าศัตรูรายใหม่กำลังก่อตัวขึ้นในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในตอนนี้"
    การซ้อมรบร่วมกันเป็นครั้งในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนระหว่างจีนกับรัสเซียนี้จะไปสิ้นสุด ณ วันที่ 21 พ.ค.58 จุดประสงค์ในการซ้อมรบนั้นก็เพื่อกระชับความร่วมมือกันอย่างมิตรภาพระหว่างสองประเทศและเพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านการสู้รบในการต่อต้านภัยคุกคามทางเรือ
    เมื่อดูภาพรวมจากปฏิกิริยาของสื่อฯตะวันตกและสื่อฯสหรัฐฯเอง จะเห็นได้ว่าพวกนี้ต่างพากันดิ้น เดือดร้อนจะเป็นจะตายให้ได้ต่อกรณีที่จีนกับรัสซ้อมรบร่วมกันในน่านน้ำสากล ต่างก็พากันมโนไปต่างๆนานาเป็นพวกปากกล้าขาสั่น สื่อฯหลายสำนักของยุโรบอกว่าาศัตรูของอเมริกาเกิดขึ้นมาแล้ว และว่านั่นเป็นการท้าทายต่อมหาอำนาจอย่างอเมริกาทำอะไรซักอย่างสิ ในขณะที่สื่อฯฝั่งอเมริกาบอกว่าจีนกับรัสเซียกำลังซ้อมรบเหยียบจมูกพวกตะวันตกอยู่นะ ทำอะไรซักอย่างสิ
    เห็นมะ พอเจอของจริงเข้าให้ มันก็พากันผลักอีกฝ่ายให้มายืนอยู่แถวหน้าแทนซะงั้น อ่านดูแล้วก็ขำดีอีกแบบ ตอนตัวเอง (สหรัฐฯและนาโต้) ไปซ้อมรบตามชายแดนของรัสเซียและในทะเลจีนใต้ ไม่เห็นสื่อฯพวกนี้ออกมาบอกว่าศัตรูของรัสเซียและจีนเกิดขึ้นแล้วบ้างเลย ทุกวันนี้นาโต้ก็ยังซ้อมรบเล่นเกมตามล่าเรือดำน้ำลึกลับอุปโลกเอาว่าเป็นเรือดำน้ำของรัสเซียอยู่แถวนอร์เวย์ พอจีนกับรัสเซียจัดซ้อมรบบ้างเท่านั้นแหละ ถึงกลับร้องเสียงหลงคำรามเป็นเสียงลูกแมวเหมียวกันเชียว
    ล่าสุดสหรัฐฯทนไม่ได้ที่เห็นพันธมิตรของปูตินเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะในงานวัน V-Day ที่ผ่านมา ครั้นรัฐบาลสหรัฐฯจะส่งคนของตนเข้าร่วมงานด้วยก็กลัวเสียฟอร์ม จึงเอาอย่างผู้นำเยอรมันบ้าง โดยส่งนายแครี่ฯ รวม.ต่างประเทศของสหรัฐฯเข้าพบกับรมว.ต่างประเทศของรัสเซียแทน และขอร้องให้ท่าน Sergei Lavrov รมว.ต่างประเทศของรัสเซียช่วยพาเข้าพบปธน.ปูตินด้วย เพื่อสารภาพว่าการแผนการแซงชั่นกดดันรัสเซียนั้นไม่ได้ผลจึงต้องรีบมาขอเล่นจับมือเป็นเพื่อนกันแทน กิ้วๆ นี่สหรัฐฯมาง้อปูตินถึงที่เลยนะ และก่อนหน้านี้ก็ปากแข็งว่าจะไม่มาร่วมงานวัน V-Day สุดท้ายพอแขกประเทศอื่นๆกลับกันหมดแล้ว สหรัฐฯก็มาอ้อนวอนขอวางพวงมาลาไว้อาลัยทหารนิรนามกับประชาชนที่เสียชีวิตจากน้ำมือของนาซีในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ซะงั้น ส่วนรายละเอียดนั้นจะเล่าให้ฟังในโพสต์ต่อไป โพสต์นี้ยาวแล้วขอจบเพียงเท่านี้ก่อนนะครับผม
    The Eyes
    13/05/2558
    ----------
    Russian-Chinese Drill in Mediterranean Sends Signal to US – Western Media / Sputnik International
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปอกเปลือก ทรราช
    เยเมน : กลุ่มฮูติโจมตีบริษัทน้ำมันของซาอุดิฯ, ซาอุดิฯแค้นจัดส่งเครื่องบินรบโจมตีเยเมนเสียชีวิต 90 บาดเจ็บอีก 300 คน

    [​IMG]

    -------------
    กลับสู่การรายงานข่าวต่างประเทศตามปกติบ้างครับหลังจากที่เขียนบความที่เร่าร้อนถูกอกถูกใจแฟนเพจหลายท่านไปแล้วหลังจากที่ไม่ได้เขียนบทความมาตั้งนาน ขออัพเดทสถานการณ์ในเยเมนกับซาอุดิฯบ้าง เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาสื่อฯอาหรับรายงานว่า กลุ่มฮูติบุกโจมตีกล่องดวงใจของซาอุดิฯ คือบริษัท Aramco ผู้ผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดิอาระเบีย ในเมือง Dhahran al-Janub ในเขตชนบททางตะวันตกเฉียงใต้ของจังหวัด Asir ใกล้ชายแดนเยเมน ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากเมือง Najran ที่กลุ่มฮูติพึ่งถล่มไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
    ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากการโจมในครั้งนี้ ประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้สถานที่เกิดเหตุแจ้งว่าได้ยินเสียงระเบิดตังขึ้นจากที่ตั้งบริษัทน้ำมัน Aramco ของซาอุดิฯ และมีควันไฟลอยขึ้นมาจากภายในสิ่งก่อสร้าง
    ต่อมาในวันอังคาร (12 พ.ค.58) มีรายงานจากสำนักข่าว SABA ของเยเมนแจ้งอย่างเป็นทางการว่า กองกำลังผสมชาติอาหรับนำโดยซาอุดิฯ ได้ส่งเครื่องบินรบเข้าทิ้งระเบิดโจมตีกลุ่มฮูติในเมือง Sanaa ซึ่งเป็นเมืองหลวงของเยเมน ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 90 รายและได้รับบาดเจ็บอีก 300 คน
    วันก่อนนี้ทางซาอุดิฯก็พึ่งจะออกประกาศเองว่าขอพักรบหยุดยิงหยุดโจมเยเมนเป็นเวลา 5 วัน ส่วนทางกลุ่มฮูติก็รับปากฝั่งซาอุดิฯเช่นกัน แต่ยังไม่ทันข้ามวันก็มีการโจมตีเยเมนตั้งหลายรอบ ดังนั้นฮูติจึงเล่นกล่องดวงใจของซาอุดิซะเลย เตือนกันดีๆ ไม่เชื่อ ไม่ฟัง กลุ่มฮูติก็เลยซัดบริษัทผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุดิฯเอาซะเลย โทษใครหละซาอุดิฯเอ๋ย?
    The Eyes
    12/05/2558
    ----------
    Saudi-Led Airstrikes in Yemen's Capital Leave Nearly 100 Dead / Sputnik International
    Saudi Oil Firm Pounded by Yemen Tribesmen / Sputnik International
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทหารปฏิรูปประเทศไทย

    [​IMG]

    วันที่ 13 พ.ค.58 ชาวเนปาล เลือกนอนบนถนนปลอดภัยกว่านอนในบ้าน
    จากกรณีแผ่นดินไหวรอบ 2 ที่เนปาลเมื่อวานนี้ ทีมกู้ภัยทั้งจากเนปาล และต่างชาติ เร่งค้นหาผู้ประสบภัยที่อาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนที่พังถล่มลงมาเป็นจำนวนมาก พบตายราว 70 ราย บาดเจ็บกว่า 1,300 คน
    มีชาวอินเดียในรัฐพิหาร ตายจากแผ่นดินไหวรอบใหม่อีกอย่างน้อย 17 คน ชาวเนปาลหลายพันคน หวาดผวากับอาฟเตอร์ช็อก แผ่นดินไหวต่อเนื่องที่เกิดตามมาหลายครั้ง พากันออกมานอนนอกบ้านยามค่ำคืน
    ชีวิตยามนี้ของชาวเนปาล ไม่อาจวางอนาคตใดๆ ได้เลย และไร้ที่พึ่งทางใจหลังจากรัฐบาลเลือกตั้งนักการเมือง โค่นล้มสถาบันกษัตริย์ที่มีมานานหลายพันปี ลงเมื่อราวปี 2544 หรือ 14 ปีที่แล้ว จากนั้นเป็นต้นมา เนปาลก็ไม่เคยมีความสงบสุขอีกเลย

    @ เสธ น้ำเงิน2 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป
    http://www.facebook.com/thailandcoup
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    1. สงครามกำลังมา
    หนังสือพิมพ์The Wall Street Journal ฉบับวันที่12 พฤษภาคม 2015พาดหัวข่าวว่า สหรัฐอาจจะใช้กำลังทางทหารเพื่อเผชิญหน้ากับจีนในหมู่เกาะแสปรตลี่ย์ในทะเลจีนใต้
    ในที่สุดเราก็มาถึงจุดนี้จนได้
    ประธานาธิบดีโอบามา เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพได้หงายไพ่ออกมาแล้วว่า จะใช้กำลังทางทหารเพื่อสกัดจีนไม่ให้มาเป็นคู่แข่งความเป็นมหาอำนาจ
    สหรัฐยอมไม่ได้ที่จะเห็นจีนลอยค่าเงินหยวนในปลายปีนี้เพื่อเทียบบารมีเงินดอลล่าร์ อันเห็นได้จากความสำเร็จของจีนในการเปิดตัวธนาคารเพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของเอเชีย (Asia Infrastructure Investment Bank) โดยสามารถดึงดูดเอาชาติต่างๆเข้าร่วมถึง57ประเทศ ทำให้สหรัฐรู้ตัวดีว่าอำนาจทางทางเงินของสหรัฐกำลังเสื่อมลง
    ในเมื่อแพ้เกมเศรษฐกิจและการเงินแล้ว สหรัฐหันมาใช้เกมสงครามเพื่อสกัดจีนไม่ให้มาเทียบบารมีได้
    คล้อยหลังจากเยือนสหรัฐอย่างเป็นทางการของนายซินโซะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น Wall Street Journalรายงานว่านายAsh Carter รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของสหรัฐได้ระดมสมองและวางแผนทางยุทธศาสตร์กับฝ่ายเสนาธิการของเพนตากอนเพื่อส่งเครื่องบินรบและกองทัพเรือไปยังทะเลจีนใต้เพื่อสกัดไม่ให้จีนสามารถอ้างกรรมสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ได้
    บริเวณหมู่เกาะแสปรตลีย์ในทะเลจีนใต้กำลังจะมีความตรึงเครียดทางทหารมากยิ่งขึ้น เพราะว่าทั้งจีน เวียดนามและฟิลิปปินส์ต่างอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะเหล่านี้มาเป็นเวลาช้านานแล้ว สหรัฐได้ทีที่ภูมิภาคนี้มีความขัดแย้งกันจึงเข้ามาเสี้ยม โดยคอยหนุนเวียดนามและฟิลิปปินส์ให้เผชิญหน้ากับจีนมาตลอด
    แต่มาถึงจุดนี้แล้ว สหรัฐแบไต๋ออกมาแล้วมา จะไม่อยู่ข้างหลังเวียดนามและฟิลิปปินส์อีกต่อไป แต่จะมาเอง
    นายขี้เถ้า คาร์เตอร์ได้ให้เสนาธิการของเพนตากอนพิจารณาทางเลือกที่สะส่งเครื่องบินรบและเรือรบของสหรัฐได้เผชิญหน้ากับจีนเลยที่หมู่เกาะแสปตลี่ย์ โดยที่เครื่องบินรบของสหรัฐจะบินลาดตระเวณเหนือหมู่เกาะสแปรตลีย์และเรือรบสหรัฐจะจอดหรือป้วนเปี้ยนบริิเวณ12ไมล์ทะเลห่างจากแนวหะการังของหมู่เกาะ
    จีนได้ดำเนินการสร้างสิ่งปลูกสร้างบนเกาะสแปรตลี่ย์ เพื่ออ้างความเป็นเจ้าของ ทั้งเวียดนามและฟิลิปิินส์ได้ทักท้วงอย่างหนัก และมีการเผชิญหน้ากันระหว่างกองทัพเรือของฟิลิปปินส์และจีนเป็นระยะๆ แต่ข่าวไม่ได้เปิดเปยอย่างเป็นทางการ
    หลังจากสรุปแผนการส่งทหารไปทะเลจีนใต้แล้ว นายขี้เถ้า คาร์เตอร์จะขออนุมัติจากทำเนียบขาวเป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อที่จะส่งสัญญานให้จีนได้รู้ว่า สหรัฐจะไม่ยอมให้จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ได้ โดยที่สหรัฐจะถือว่าหมู่เกาะในทะเลจีนใต้เป็นเขตน่านน้ำและเขตอากาศสากล ใครจะไปมาอย่างไรก็ได้
    สหรัฐกำลังจะบอกว่าที่จีนกำลังสร้างสิ่งปลูกสร้างบนเกาะแสปรตลีย์เป็นเรื่องผิดกฎหมายสากล
    อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาทั้งเครื่องบินรบและเรือรบของสหรัฐได้มาลาดตระเวณบริเวณหมู่เกาะทะเลจีนใต้แล้ว โดยยังไม่ล่วงล้ำเข้าไปในเขต12ไมล์ทะเล และทุกครั้งทางทหารจีนจะส่งสัญญานวิทยุเตือนว่า อย่าได้รุกล้ำเข้าไปในเขตแดนของจีนเป็นอันขาด แต่ทางทหารสหรัฐโต้ตอบว่ากำลังปฏิบัติการเหนือน่านน้ำสากล หรือน่านอากาศสากล
    ขณะนี้เรือรบสหรัฐ USS Fort Worthกำลังปฏิบัติการในทะเลใกล้หมู่เกาะสแปรตลีย์
    thanong
    13/5/2015
    http://www.zerohedge.com/news/2015-...onfront-china-south-china-sea-islands-dispute
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    2. สงครามกำลังมา
    ภาพถ่ายทางดาวเทียม ชี้ให้เห็นว่าจีนกำลังก่อสร้างสนามบินที่รันเวย์มีขนาดความยาวประมาณ10,000ฟุตบนแนวปะการังของเกาะแห่งหนึ่งของแสปรทลีย์
    ต่อไปสนามบินนี้จะสามารถรองรับเครื่องบินรบของจีนที่จะบินขึ้นบินลงได้
    thanong
    13/5/2015
    http://www.zerohedge.com/news/2015-...onfront-china-south-china-sea-islands-dispute
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Thanong Fanclub

    3. สงครามกำลังมา
    แต่จีนคงจะไม่ตั้งรับอย่างเดียว หรือเป็นเป้านิ่งให้สหรัฐถล่ม ที่ผ่านมาสหรัฐถนัดในการรบนอกบ้าน โดยล๊อคเป้าทางทหารแล้วใช้ฝูงบินรบจากกองทัพเรือเข้าไปถล่ม ก่อนที่จะส่งทหารเข้าไปยึด
    แต่เทคโนโลยี่จีนไปไกลถึงขนาดสามารถยิงขีปนาวุธถึงสหรัฐได้แล้ว สามารถแลกหมัดกันได้ ลูกต่อลูก:

    ข่าวจากผู้จัดการออนไลน์รายงานว่า:

    "กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ออกรายงานฉบับใหม่ เกี่ยวกับแสนยานุภาพทางทหารของสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยยอมรับเป็นครั้งแรกว่า ขณะนี้จีนมีขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ ซึ่งสามารถ “ยิงถล่มเป้าหมายในสหรัฐฯได้ทุกจุด” ยกเว้นเพียง มลรัฐฟลอริดา

    [​IMG]

    "รายงานดังกล่าวระบุว่า จีนได้ใช้เวลาตลอดหลายปีที่ผ่านมาในการเสริมเขี้ยวเล็บและปรับปรุงกองทัพของตนให้ทันสมัยซึ่งรวมถึงการซุ่มพัฒนาเทคโนโลยีด้านขีปนาวุธและขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์
    "โดยข้อมูลข่าวกรองล่าสุดที่ปรากฏในรายงานของเพนตากอนชี้ว่า ขีปนาวุธพิสัยไกลของจีนแบบ “CSS-4”ซึ่งรองรับการติดหัวรบนิวเคลียร์นั้น ถูกพัฒนาให้สามารถยิงถล่มเป้าหมายทุกแห่งบนแผ่นดินอเมริกันได้แล้ว ยกเว้นแต่เพียงมลรัฐฟลอริดาเพียงแห่งเดียวเท่านั้นที่ยังคง “ปลอดภัย” จากขีปนาวุธ “เมด อิน ไชน่า”
    "รายงานของเพนตากอนยังระบุว่า ทางการจีนได้สร้าง “ไซโล” เก็บขีปนาวุธดังกล่าว กระจายไปในหลายพื้นที่ทั่วประเทศรวมถึงในกรุงปักกิ่ง แทนการเก็บไว้รวมกันในที่เดียวซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการถูกโจมตี และว่าจนถึงขณะนี้จีนอาจมีจำนวนของ “ขีปนาวุธข้ามทวีป” อยู่ในครอบครองระหว่าง 50-60 ลูก
    "ก่อนหน้านี้ รายงานประจำปีที่ทางการสหรัฐฯจัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอต่อสภาคองเกรสส์เมื่อไม่นานนี้ระบุว่า จีนได้สร้างอากาศยานรบไร้นักบิน (โดรน) ไว้มากถึงเกือบ 42,000 ลำทั้งแบบที่ปล่อยจากพื้นดิน รวมถึงแบบที่สามารถปล่อยจากเรือรบกลางทะเล"
    ต่างฝ่ายต่างสะสมกำลังทางทหารกันอยู่อย่างเร่งด่วน
    thanong
    13/5/2015
    http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx…
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    4. สงครามกำลังมา
    ข้อเสนอของนายขี้เถ้า คาร์เตอร์ที่จะส่งกองทัพอากาศและกองทัพเรือไปเผชิญหน้ากับจีนในทะเลจีนใต้ ยังต้องได้รับการอนุมัติจากประธานาธิบดีโอบามาก่อน
    ทำเนียบขาวยังนิ่งเงียบในเรื่องนี้อยู่ ยังไม่แสดงจุดยืน
    แต่รู้ๆกันอยู่แล้วว่าโอบามาต้องเอาด้วย เพราะว่าเขามาเพื่อวาระนี้โดยเฉพาะคือจะก่อสงครามเพื่อเปลี่ยนโลกเก่าไปสู่โลกใหม่
    นายขี้เถ้า คาร์เตอร์ได้รับเลือกให้เป็นรัฐนตรีว่าการกลาโหมก็เพื่อการนี้โดยเฉพาะเพราะว่าเขารู้เรื่องนิวเคลียร์ฟิสิกส์และอาวุธนิวเคลียร์ดีมากที่สุดคนหนึ่งของสหรัฐ เขาจบดอกเตอร์ด้านนิวเคลียร์ฟิสิกส์ เขาได้มาว่ากลาโหมแทนChuck Hagelเพราะว่าพี่Chuckใจเสาะ
    ปัญหาทะเลจีนใต้มีความสลับซับซ้อน เพราะว่ามีบางบริเวณที่จีนกำลังสร้างสิ่งปลูกสร้างได้รับการยอมรับจากสหรัฐว่าเป็นกรรมสิทธิ์ของจีน การที่สหรัฐจะส่งกองทัพอากาศและกองทัพเรือเข้าไปล้ำเขตแดน12ไมล์ทะเลในหมู่เกาะแสปรตลี่ย์อื่นๆ จะสร้างความเสี่ยงว่าสหรัฐรุกล้ำดินแดนอธิปไตยของจีน
    แต่ท้่ายที่สุดสหรัฐจะหาข้ออ้างจนได้ที่จะมาช่วยพันธมิตรในเอเซียรบกับจีน ใครจะเอาด้วย หรือไม่เอาด้วยว่ามา
    thanong
    13/5/2015
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    5. สงครามกำลังมา
    ไทยจะเอาด้วยกับสหรัฐหรือไม่ในการเผชิญหน้า หรือต้องรบกับจีนต่อไปไม่รู้ แต่สหรัฐกำลังกลับมาเอาฐานทัพไทยที่อู่ตะเภา เพื่อให้เนียนต้องอ้างว่า ขอใช้ฐานทัพไทยเพื่อไปช่วยผู้ประสบเคราะห์ภัยพิบัติแผ่นดินไหวที่เนปาล
    ข่าวจากโพสต์ทูเดย์ในวันที่11 พฤษภาคม 2015รายงานว่า:
    "ผบ.ทร. เผย ครม.อนุมัติให้เครื่องบินสหรัฐ 16 เครื่อง ใช้อู่ตะเภาเป็นสนามบินต่อระยะช่วยฟื้นฟูเนปาล 1 เดือน
    "พล.ร.อ.ไกรสร จันทร์สุวานิชย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) กล่าวถึงกรณีคณะรัฐมนตรีอนุมัติให้สนามบินอู่ตะเภาเป็นศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ ไทย-สหรัฐฯ เพื่อเนปาล (Thai-US HADR Combined Coordination Center for Nepal)
    เมื่อวันที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ว่า ทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐขออนุมัติผ่านกระทรวงกลาโหมของไทย เพื่อใช้สนามบินอู่ตะเภาเป็นสนามบินต่อระยะหรือเป็นพื้นที่สำหรับจอดเครื่องพัก ให้เจ้าหน้าที่ก่อนบินต่อไปให้ความช่วยเหลือเนปาล ซึ่งมีระยะเวลาใช้พื้นที่เพียง 1 เดือนเริ่ม ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. ถึง 31 พ.ค. และจะปฎิบัติภายใต้กรอบการทำงานของสหประชาชาติ สำหรับเครื่องบินที่ขออนุญาตไว้มีเครื่องบินลำเลียงขนาดใหญ่ / ขนาดกลาง และเครื่องบินเติมน้ำมันกลางอากาศเท่านั้น โดยจะมีทั้งหมด 16 เครื่อง
    พล.ร.ต.ไกรศรี เกษร รองเจ้ากรมยุทธการทหาร ในฐานะหัวหน้าศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ ไทย-สหรัฐฯ เพื่อเนปาล กล่าวว่า สหรัฐนำเครื่องลงจอดเพื่อต่อระยะเข้าช่วยเหลือเนปาลในวันที่ 8 พ.ค.เที่ยวแรกแล้ว เพราะสนามบินเมืองกาฐมาณฑุ มีความหนาแน่นทำให้เครื่องบินลำเลียงของสหรัฐไม่สามารถลงจอดได้ จึงต้องพักคอยต่อระยะ โดยมีเจ้าหน้าที่ประสานงานและกำกับดูแลการปฏิบัติของฝ่ายสหรัฐให้เป็นไปตามข้อตกลง และมีกำลังพลจากกองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ ทั้งฝ่ายไทยและสหรัฐ ปฎิบัติงานร่วมกันฝ่ายละประมาณ 10 นาย
    "ทั้งนี้เครื่องบินที่จะมาใช้สนามบินอู่ตะเภาจะบินมาจากฐานทัพโอกินาวา / ฐานทัพเกาะกวม /และ ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นเครื่องบินสหรัฐที่ปฎิบัติหน้าที่อยู่ในฐานทัพอากาศส่วนหน้าในมหาสมุทรแปซิฟิคของสหรัฐ
    "อนึ่งเมื่อ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา ครม.มีมติ อนุมัติให้สหรัฐฯ มาใช้สนามบินอู่ตะเภา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและการสนับสนุนภาคพื้นเพื่อเป็นสนามบินต่อระยะในการปฏิบัติภารกิจเพื่อมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติที่ประเทศเนปาล กับให้จัดตั้งศูนย์ประสานงานการช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ ไทย-สหรัฐฯ เพื่อเนปาล ขึ้นที่สนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ระหว่าง 8-31 พ.ค.58.
    "ซึ่งศูนย์ฯดังกล่าวมีหน้าที่ประสานและกำกับดูแลการปฏิบัติของฝ่ายสหรัฐฯ ให้เป็นไปตามข้อตกลง มีกำลังพลปฏิบัติงานร่วมกันฝ่ายละประมาณ 10 นาย ในส่วนขอฝ่ายไทยจัดกำลังพลจาก บก.ทท. ทบ. ทร.และ ทอ. ไปร่วมกันปฏิบัติงาน โดยมี พลเรือตรี ไกรศรี เกษร รองเจ้ากรมยุทธการทหาร เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ"
    สหรัฐเริ่มเอาทหารมาบ้านเราแล้ว โดยไทยจะเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการปิดล้อมจีน เราจะทำอย่างไรดี จะไม่เปิดประตูให้สหรัฐก็ไม่ได้ จะปิดประตูใส่หน้าสหรัฐก็ไม่ได้
    บิ๊กตู่จะทำอย่างไรดี?
    thanong
    13/5/2015
    หมายเหตุ: ภาพประกอบคืออู่ตะเภาสมัยสงครามเวียดนาม
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Thanong Fanclub

    [​IMG]

    6. สงครามกำลังมา
    หลักนิยมทางการเมืองและการทหารของสหรัฐฯ คือWolfowitz Doctrine เขียนโดยPaul Wolfowitz อดีตรองรัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐสมัยบุชผู้ลูก เขาเป็นพวกนีโอคอน หรือพวกสายเหยี่ยวขวาจัด ที่เชื่อในความเป็นมหาอำนาจเอกแต่ฝ่ายเดียวของสหรัฐ โดยที่ประเทศใดจะมาท้าทายไม่ได้
    หลักคำนิยมของWolfowitz สรุปได้ว่า: "เป้าหมายของเราคือต้องกีดกันไม่ให้มีการผงาดของคู่แข่งรายใหม่ ไม่ว่าจะอยู่บนแผ่นดินของอดีตโซเวียต หรือที่ใดก็ตาม ซึ่งจะเป็นภัยต่อระเบียบที่อดีตโซเวียตเคยเป็นภัยคุกคามมาก่อน นี้คือยุทธศาสตร์การป้องกันภูมิภาคใหม่ที่จำต้องพิจารณาเป็นเรื่องสำคัญ และยุทธศาสตร์นี้เรียกร้องให้เราต้องพยายามป้องกันไม่ให้อำนาจใหม่ที่เป็นปฏิปักษ์สามารถมีอิทธิพลเหนือดินแดนที่มีทรัพยากรที่หลังจากได้ควบคุมแล้วจะทำให้สามารถสร้างอิทธิพลโลกได้"
    หลักนิยมของWolfowitzนี้ ทำให้สหรัฐต้องมีอิทธิพลเหนือทุกดินแดนในโลกนี้ ซึ่งเป็นไปตามอุดมการณ์ของพวกนีโอคอนที่เห็นว่าสหรัฐเป็นประเทศที่จำเป็น มีความพิเศษเพื่อที่จะปกครองโลก
    ขณะนี้มีเพียงสองประเทศเท่านั้นที่ขัดกับหลักนิยมของWolfowitzคือรัสเซียภายใต้พี่ปูติน และจีนภายใต้ท่านสี เพราะว่าทั้งสองประเทศมีศักยภาพที่จะเป็นมหาอำนาจที่ไม่จำเป็นที่จะต้องอยู่ภายใต้อิทธิพลสหรัฐที่กำลังเสื่อม เพราะว่าปัญหาหนี้สิน และปัญหาเศรษฐกิจ
    ด้วยหลักนิยมของWolfowitzนี้ทำให้โอบามาดำเนินนโยบายปิดล้อมรัสเซียผ่านกองทัพนาโต้ที่กำลังเคลื่อนกำลังทหารไปยังประเทศยุโรปตะวันออกเพื่อสกัดรัสเซียไม่ให้ผงาดผ่านเขตเศรษฐกิจร่วมยูเรเซีย (Eurasian Economic Union) โดยเอาวิกฤติยูเครนเป็นข้ออ้าง และขณะนี้โอบามาได้ว่าใช้หลักนิยมWolfowitzเพื่อปิดล้อมจีน เพื่อสกัดทางสายไหมที่จะสร้างจีนให้เป็นมหาอำนาจในศตวรรษที่21 โดยเอาประเด็นความขัดแย้งในทะเลจีนใต้มาเป็นข้ออ้าง
    Paul Craig Roberts อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีการคลังสหรัฐสมัยเรแกน ออกมาเตือนอีกครั้งว่า รัสเซียและจีนขวางทางความเป็นมหาอำนาจแต่เพียงผู้เดียวของสหรัฐ ถ้าหากสหรัฐไม่ล้มเลิกหลักนิยมของWolfowitz สงครามนิวเคลียร์จะตามมา
    thanong
    13/5/2015
    Washington Intends Russia’s Demise -- Paul Craig Roberts - PaulCraigRoberts.org
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Jeerachart Jongsomchai

    ... "เรือรบรัสเซียและจีนซ้อมรบร่วมกันครั้งแรกในยุโรป : ส่งสัญญานบอกฝ่ายอเมริกาว่าทั้งสองพร้อมเคียงข้างกันยามสงคราม"
    ... โดยทั้งสองประเทศมีเรือรบเข้าร่วมทั้งหมด 9 ลำในบริเวณ Novorossiysk ใกล้ทะเลดำโดยถูกถ่ายภาพเห็นในวันที่ 12 ที่ผ่านมา ก่อนจะมุ่งสู่ยุโรปกลางต่อไป โดยจะฝึกซ้อมรบร่วมนาน 11 วัน, นอกจากการแสดงออกทางการร่วมซ้อมรบแล้ว สัปดาห์ที่ผ่านมานายสี จิ้น ผิง ผู้นำจีนก็ได้เข้าร่วมในงานสวนสนามแห่งการระลึกถึงชัยชนะของรัสเซียต่อนาซีเยอรมันในสงครามโลก ครั้งที่2 แบบเต็มใจมาด้วย
    ... ยิ่งกว่านั้นหลังจากที่ "รัสเซีย" โดนแซงชั่นการค้าจากยุโรปตามคำสั่งของอเมริกาจากกรณียูเครนและโดนเล่นงานทำให้น้ำมันราคาตกต่ำ ก็ได้ "จีน"นี่เอง ที่ได้ค้ำจุนช่วยมาร่วมลงทุนหลายด้านโดยเฉพาะพลังงานที่เป็นทั้งจุดเด่นและจุดอ่อนไหวของรัสเซีย
    ... และเมื่อวันที่11 พฤษภาคม ที่ผ่านมา จีนเองก็ได้เชิญชวนรัสเซียกลับ ให้ไปร่วมเดินสวนสนามในวาระระลึกถึงครั้งสงครามโลกครั้งที่2 ที่ปักกิ่ง ในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ด้วยเช่นกัน เหมือนเป็นการตั้งใจแสดงออกให้จอห์น เคอร์รี่ ที่เพิ่งมาพบปูตินที่เมืองโซจิ ใกล้ทะเลดำ รู้และเห็นเต็มสองตาว่าทั้งสองประเทศนั้นชัดเจนในจุดยืนของความเป็นเพื่อนมิตรในเกือบทุกๆด้าน และ จะเคียงบ่าเคียงไหล่กันแค่ไหน
    ... เรื่องความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของทั้งสองนี้ ทำให้อเมริการู้ว่า กรณีสงครามในยูเครน ซีเรีย ( รวมทั้งล่าสุดเยเมน ) คงไม่ง่ายเพราะรัสเซียเพิ่งส่งระบบป้องกันขีปนาวุธไปให้อิหร่าน อีกหนึ่งพันธมิตรในอ่าวเปอร์เซีย ... ทั้งหมดนั้นรับรองได้ว่าจะมีจีนร่วมสนับสนุนทั้งหน้าฉากและหลังฉากอย่างแน่นอน ... ไม่ง่ายแล้ว อเมริกาคงคิดเช่นนั้น
    .
    Russian and Chinese warships sail to Med for joint training exercises http://www.dailymail.co.uk/…/Russian-Chinese-warships-head-… @MailOnline
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Jeerachart Jongsomchai

    [​IMG]

    ... "ปริศนาผ้าห่อศพพระเยซูแห่งตูริน : หรือเรื่องนี้คือส่วนหนึ่งของสงครามครูเสด ?"
    .
    ... เรื่องราวที่มีการถกเถียงมากมายมานานหลายร้อยปีว่า ผ้าห่อศพแห่งตูริน นั้นเป็นของจริงหรือปลอม ?
    ... การเดินทางของผ้าห่อศพผืนนี้มีมายาวนาน ยังมีเรื่องเล่าว่า ทายาทอัศวิน เดอ ชาร์นีย์ได้มอบผ้าห่อ ศพผืนนี้ให้กับ หลุยส์ ดยุคแห่งซาวอย (Lousi, Duke of Savoi) ในปี ค.ศ.1453 จากนั้นดยุคผู้นี้ได้สร้างวิหาร เซ็นต์ ชาเพลล์ (Sainte Chapelle) ขึ้นที่เมืองแชมเบอร์รีย์ และได้ประดิษฐานผ้าห่อศพนี้ไว้บนแท่นบูชา ซึ่งมีผู้แสวงบุญจากทุกสารทิศเดินทางมาเพื่อสักการะผ้าผืนนี้
    ... ทว่า ปี ค.ศ.1532 ได้เกิดไฟไหม้แท่นบูชา ความร้อนทำให้หีบเงินบรรจุผ้าหลอมละลายและหยดลงบนผืนผ้า จนเกิดรอยไหม้เป็นรูโหว่ตรงรอยพับ แต่ภาพที่ปรากฏอยู่บนผืนผ้าไม่เกิดความเสียหายแต่อย่างใด ต่อมาในปีค.ศ.1578 ดยุคแห่งซา วอย จึงนำผ้าห่อศพข้ามเทือกเขาแอลป์ ไปเก็บรักษาไว้ที่เมืองหลวงใหม่ชื่อ "ตูรินหรือโตริโน" ในประเทศอิตาลี ทำให้ผู้คนขนานนามผ้าชิ้นนี้ว่า ผ้าห่อศพแห่งตูริน และมีการนำออกแสดงต่อสาธารณชนเป็นระยะ ซึ่งปัจจุบันผ้าห่อศพชิ้นนี้เป็นสมบัติของ "สำนักวาติกัน"
    ... อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการชี้ชัดว่าผ้าผืนนี้เป็นผ้าห่อศพจริงที่มีอายุกว่า 2,000 ปี หรือเป็นของที่ทำปลอมขึ้นถึงขนาดเกิดทฤษฎีสมคบคิดขึ้นมาว่าแท้ที่จริงแล้วภาพบุรุษลึกลับผู้นั้น เป็นภาพวาดฝีมือ เลโอนาร์โด ดา วินซี่ (Leonardo Da Vinci) เนื่องจากภาพดังกล่าวมีรายละเอียดทางด้านสรีรวิทยาที่ถูกต้องและสมส่วนเป็นอย่างมาก
    ... เราอาจจะหยุดเรื่องจริงปลอมเอาไว้ก่อน ลองมาคิดอีกมุมหนึ่ง "ถ้าเป็นผ้าห่อศพของพระเยซูจริง" ใครจะได้ ใครจะเสีย ?
    .. ก่อนอื่นต้องมาดูประวัติศาสตร์ในอดีตก่อนว่าแต่ละศาสนานั้นมีมุมมองต่างกันอย่างไร ?
    ... "ศาสนาคริสต์" : นั้นถือว่าพระเยซูนั้นเป็นบุตรของพระเจ้า หรือพระยะโฮวาห์ องค์เดียวกับพระอัลลอห์ของศาสนาอิสลาม และชาวคริสต์บอกว่าท่านได้สิ้นพระชนม์จริงด้วยการถูกตรึงการเขนโดยทหารโรมัน จากการยุแยงของนักบวชในศาสนายูดายชาวยิว
    ... "ศาสนาอิสลาม" : นั้นถือว่า พระเยซูหรือ "นบีอีซา"นั้นเป็นหนึ่งใน "นบี" หรือ "ศาสนาทูต" ของศาสนาเช่นกัน โดย "นบีมูฮัมหมัด" นั้นคือ นบีองค์สุดท้าย ซึ่งนบีนั้นเป็น "ศาสนทูต" ของพระเจ้า หรือ "พระอัลลอห์" เท่านั้น ไม่ได้เป็นบุตรของ อัลลอห์แต่อย่างใด และที่สำคัญ พระเยซูหรือ "นบีอีซา" นั้น ไม่ได้เสียชีวิตโดยการถูกตรึงกางเขนจริง แต่เป็นสาวกคนอื่นถูกตรึงกางเขนแทน
    ... ดังนั้น การที่มีการออกข่าวเรื่องว่า "ปริศนาผ้าห่อศพแห่งตูรินเป็นของจริงหรือปลอม?" นั้นมีผลอย่างมากในการทำลายความน่าเชื่อถือของศาสนาอื่นที่เชื่อว่าพระเยซูไม่ได้เสียชีวิตจริง อย่างเช่นศาสนาอิสลาม หรือเขย่าสั่นครอน โยกครอนความมั่นใจในความเชื่อของศาสนิกในศาสนาอิสลาม ที่อาจจะมีอีมานหรือศรัทธาไม่แรงกล้าในศาสนาก็ได้
    ... หรือสรุปแบบชัดเจนกระชับคือ เรื่องนี้อาจจะเป็น "สงครามจิตวิทยา" อย่างหนึ่งใน "สงครามครูเสด" ที่หลายคนเชื่อว่า ยังคงยืดเยื้ออยู่ในปัจจุบัน
    ... ซึ่งถ้าเรามองให้ลึกกว่านั้น เรื่องราวที่อิสราเอล อเมริกา ซาอุดิอาระเบีย และ "วาติกัน" เจ้าของ "ปริศนาผ้าห่อศพแห่งตูริน" นั้นสนิทสนมกันมาก จนหลายคนตั้งสันนิษฐานว่า อเมริกา อิสราเอล ล้วนเป็นเพียงหุ่นเชิดของ "วาติกัน" ในการโจมตีและทำลายโลกอิสลาม อาหรับ ให้แตกแยก อย่างที่เราเห็นในปัจจุบันนี้
    ... หรือว่าทั้งหมดนั้นต่างเป็นหุ่นเชิดของกันและกัน ในแต่ละโอกาศ ?
    .. โดยที่ไม่ต้องรอให้พิสูจน์ว่าผ้าผืนนี้ของจริงหรือปลอม เพราะก่อนจะมาถึงคำถามแรกที่คนสนใจนั้น แสดงว่าผู้คนต้องเชื่อแล้วว่าพระเยซูนั้นสิ้นพระชนม์จริง ซึ่งหมายความว่าคำสอนคำบอกเล่าของอีกศาสนาหนึ่งอย่างอิสลามนั้นไม่จริง และจากนั้นเรื่องนี้ก็จะถูกกระจายกระพือ โฆษณาชวนเชื่อระดับโลกไปในวงกว้างแล้ว โดยคนยิวที่เป็นเจ้าของสื่อใหญ่
    ... แต่แนวโน้มว่าจะเป็น "ของปลอม" สูง เพราะจากการทดสอบเมื่อปี 1988 โดย Radiocarbon โดยห้องแลบของมหาวิทยาลัย Oxford, Arizona และ Swiss Federal Institute of Technology พบว่าผ้าผืนนี้น่าจะผลิตขึ้นสมัยยุคกลางระหว่างปี 1260 และ 1390 แค่นั้นเอง ไม่ใช่สมัยคริสตกาลแต่อย่างใด
    ... ทุกศาสนาในโลกล้วนเป็นสิ่งประเสริฐดีงาม ทั้ง ยูดาย คริสต์ อิสลาม เป็นสิ่งที่มีคุณค่าต่อโลกเหนือคณานับ แต่องค์กรมนุษย์ผู้ที่มาทีหลังต่างหากที่เอากิเลสตัณหาของตนหลอกเอาศาสนามาใช้ เพื่อล่อลวงผู้คนให้หลงผิด เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มตนมาตลอด
    ... ดังนั้น มองอีกมุมหนึ่ง เรื่องนี้อาจจะเป็นแค่ เครื่องมือหนึ่งของ "สงครามครูเสด" ที่ยังไม่เคยจบลงจนถึงวันนี้ แค่นั้นเอง
    .
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    นักวิทย์ชี้เนปาลไหวอีก 7.3 เป็นผลจากปฏิกิริยาลูกโซ่
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 13 พฤษภาคม 2558 12:51 น.

    [​IMG]

    @เจ้าหน้าที่กู้ภัยคนหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปลักหักพังในกาฐมัณฑุ หลังแผ่นดินไหวอีกครั้งขนาด 7.3 เมื่อวันที่ 12 เม.ย. (AFP PHOTO / PRAKASH MATHEMA)

    นักวิทยาศาสตร์ชี้แผ่นดินไหวเนปาลอีกรอบขนาด 7.3 หลังแผ่นดินไหวรุนแรง 7.8 เพียง 17 วัน เป็นส่วนหนึ่งของปฏิกิริยาลูกโซ่ในบริเวณที่มีแผ่นดินสั่นสะเทือนอยู่หนาแน่น โดยแผ่นดินไหวใหญ่ได้ย้ายความเครียดไปยังส่วนอื่นของรอยเลื่อนเปลือกโลก เป็นเหตุให้เกิดการแตกออก

    อ้างตามรายงานของเอเอฟพี คาร์เมน โซลานา (Carmen Solana) นักภูเขาไฟวิทยาจากมหาวิทยาลัยพอร์ตสมัธ (University of Portsmouth) ของอังกฤษ กล่าวว่า แผ่นดินไหวใหญ่มักตามมาด้วยแผ่นดินไหวอื่น บางครั้งมีขนาดใหญ่เท่ากับแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นก่อน

    “เป็นเช่นนี้เพราะการเคลื่อนไหวที่เกิดการไหวครั้งแรกได้เพิ่มความเครียดไปยังรอยเลื่อนอื่นๆ และทำให้รอยเลื่อนเหล่านั้นไม่เสถียร มันคือปฏิกิริยาลูกโซ่” โซลานาเผยแก่ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์ (Science Media Centre: SMC) องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่มีฐานในลอนดอน

    สอดคล้องกับ ผศ.ดร.ภาสกร ปนานนท์ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้านแผ่นดินไหวและธรณีแปรสัณฐานของโลก (SEIS-SCOPE) ภาควิชาวิทยาศาสตร์พื้นพิภพ คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ที่เผยแก่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ว่า แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 12 พ.ค.นั้นไม่ใช่แผ่นดินไหวตาม (Aftershock) แต่เป็นแผ่นดินไหวอีกเหตุการณ์ที่มีขนาดถึง 7.3 และแตกต่างจากแผ่นดินไหวก่อนหน้าขนาด 7.8 เพียงเล็กน้อย และควรเรียกว่าเป็นแผ่นดินไหวซ้อน (Double shock) มากกว่าแผ่นดินไหวตาม

    แผ่นดินไหวขนาด 7.3 เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2015 ปะทะฝั่งตะวันออกของกาฐมัณฑุเมืองหลวงของเนปาลเป็นระยะทาง 76 กิโลเมตรทาง และเกิดแผ่นดินไหวตามขนาด 6.3 หลังจากนั้นอีกชั่วโมงครึ่ง แต่ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 25 เม.ย.เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.8 เป็นระยะทางเดียวกันทางฝั่งตะวันตกของกาฐมัณฑุที่คร่าชีวิตประชาชนไปกว่า 8,000 คน โดยทั้งสองเหตุการณ์เกิดขึ้นบนรอยเลื่อนเดียวกันที่แผ่นเปลือกโลกอินเดีย (หรืออินโด-ออสเตรเลีย) และยูเรเซียมาเจอกัน แล้วเกิดการชนและเบียดกัน

    “นับแต่แผ่นดินไหวครั้งแรกเมื่อเดือน เม.ย. แผ่นดินไหวตามเกิดขยับลงไปทางตะวันออกเฉียงใต้ และมีรอยแยกใต้แผ่นเปลือกโลกที่เคลื่อนจากทิศตะวันตกไปตะวันออกอย่างฉับพลัน และการไหวครั้งที่สองนี้ก็เป็นการขยายของกระบวนการดังกล่าว” ไนเกล แฮร์ริส (Nigel Harris) ศาสตราจารย์ด้านแผ่นเปลือกโลกจากมหาวิทยาลัยโอเพน (Open University) ในอังกฤษเผยแก่ศูนย์สื่อสารวิทยาศาสตร์

    สำหรับแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 25 เม.ย.และ 12 พ.ค.นั้นเกิดขึ้นระดับตื้นๆ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์บอกว่านั่นทำให้พื้นดินสั่นสะเทือนมากกว่าแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นในระดับลึกๆ

    ทางด้าน ปาสคาล เบอร์นาร์ด (Pascal Bernard) นักแผ่นดินไหวจากสถาบันฟิสิกส์โลก (Institute for Planetary Physics) ในปารีส ฝรั่งเศส ให้ข้อมูลว่า แผ่นดินไหวตามในพื้นที่ดังกล่าวไม่น่าจะมีขนาดเกิน 5.0 โดยกว่า 80 ปีก่อนแผ่นดินไหวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ทางตะวันออกของเนปาลเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.1 เมื่อปี 1934 และมีคนทั้งในเนปาลและอินเดียที่อยู่ใกล้เคียงเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวราว 10,700 คน

    “นี่หมายความว่าแรงกดดันระหว่างแผ่นเปลือกโลกในภูมิภาคนีได้ปลดปล่อยไปมากแล้ว” เบอร์นาร์ดเผยแก่เอเอฟพี

    ทั้งนี้ ณ จุดที่แผ่นเปลือกโลกมาบรรจบกันแผ่นเปลือกโลกอินเดียได้ขยับสูงขึ้นปีละ 2 เซ็นติเมตร ทว่า การขยับดังกล่าวไม่ได้ราบลื่น แต่หนักไปด้วยแรงเสียดทาน นำไปสู่การสั่นสะเทือนที่รุนแรงและอันตรายเมื่อความเครียดสะสม ขณะที่ทางด้านองค์กรสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐ (U.S. Geological Survey) หรือ ยูเอสจีเอส (USGS) รายงานไว้ในเว็บไซต์ว่า ขอบเปลือกโลกทั้งอินเดียและยูเรเซียนั้นมีประวัติเกิดแผ่นดินไหวใหญ่และรุนแรงมาแล้ว เมื่อเทียบเหตุการณ์วันที่ 25 เม.ย.นับย้อนกับไปในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา พื้นที่ดังกล่าวเคยเกิดแผ่นดินไหวตั้งแต่ขนาด 6.0 หรือใหญ่กว่านั้นภายในรัศมี 250 กิโลเมตรมาแล้ว 4 ครั้ง

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Vda Nong

    [​IMG]

    นักวิชาการจุฬาฯ- ชี้รอยเลื่อนแผ่นดินไหวซ้ำ เนปาลวันนี้ต่างจากครั้งแรก
    นักวิชาการจุฬาฯ ชี้เหตุแผ่นดินไหวอีกครั้งใน เนปาลวันนี้ รุนแรงระดับ 7.3 เกิดจากรอยเลื่อน ที่ต่างจากครั้งแรก
    รศ.ดร.ปัญญา จารุศิริ หัวหน้าหน่วยวิจัยธรณีวิทยาแผ่นดินไหว จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่ากรณี เกิดแผ่นดินไหวเนปาลอีกครั้งในวันนี้ เนื่องจากมีขนาดความรุนแรงใกล้เคียงกับคราวที่แล้ว ขณะเดียวกันอยู่ไกลกันมาก ผลพวงที่เกิดแผ่นดินไหวคราวที่แล้วอาจจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดแผ่นดินไหวครั้งนี้ ซึ่งการกระทบทำให้เกิดภาวะโดมิโน แต่ไม่รู้ว่ารอยเลื่อนถัดไปเป็นรอยเลื่อนใด ซึ่งกรณีนี้อยู่ห่างไกลกันมากจึงน่าจะเป็นอีกรอยเลื่อนหนึ่ง ขณะเดียวกันก็จะเป็นรอยเลื่อน ย้อนเหมือนเดิม คือการที่แผ่นชมพูทวีป เคลื่อนตัวลงมามุดลงไปใต้แผ่นยูเรเชีย
    ทำให้เกิดความกังวลเนื่องจากเกิดการมุดตัวของแผ่นชมพูทวีปลงไปใต้แผ่นยูเรเชีย แล้วทำให้ เกิดรอยเลื่อนย้อน เมื่อ 10 ปีที่แล้วเกิดภาวะ เดียวกัน คือเกิดที่หัวเกาะสุมาตรา เป็นลักษณะ ของรอยเลื่อนย้อน แล้วทำให้เกิดสึนามิ บริเวณที่เป็นรอยต่อเชื่อม คือ บริเวณแถบหมู่ เกาะอันดามัน และทางตอนเหนือขึ้นไป คือบริเวณแถบอ่าวเบงกอล ยังไม่เคยเกิด สึนามิเป็นเวลายาวนาน ถามว่ามีแนวโน้ม ที่จะเกิดหรือไม่ มันเป็นพื้นที่ที่นักธรณีวิทยา กำหนดไว้ 1 ใน 2 ว่ามันน่าจะเป็นพื้นที่ที่มี โอกาสทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7 และ ก่อให้เกิดสึนามิได้
    การเกิดแผ่นดินไหวเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 18 วัน จึงเป็นการสานต่อความจริง ไม่ใช่เกิดเฉพาะ 10 ปีที่แล้ว แล้วเกิดครั้งหนึ่ง ไม่ใช่ แต่ว่าแผ่นดินไหวใหญ่ๆ เช่น 6.5 เคยเกิดตามแนวเทือกเขาหิมาลัยอยู่แล้ว เพียงแต่อยู่ห่างไกลจากเมือง จึงไม่มีคนตาย ซึ่งนักธรณีวิทยาจะสนใจว่ารอยเลื่อนอยู่จุดใด และจะตามไปดูลักษณะแบบนี้ แล้วดูว่าบริเวณใดที่ยังไม่เคยเคลื่อนตัว ซึ่งตรงนี้สำคัญว่าบริเวณไหนที่ไม่เคยเกิดแผ่นดินไหว เช่น บริเวณแถบเหนือเกาะอันดามัน นิโคบาขึ้นไปทางอ่าวเบงกอลนั้นเป็นแนวของรอยต่อเทือกเขาหิมาลัยลงทะเล เลยกังวลว่า อาจจะเกิด แผ่นดินไหวได้ เพราะไม่รู้ว่ามีการ ปลดปล่อย พลังงาน หรือสะสมพลังงาน ถึงกี่จุดแล้ว
    นักวิชาการจุฬาฯ
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Vda Nong

    [​IMG]

    สพฉ.จัดทีมช่วยแผ่นดินไหวเนปาลรอบ2
    สพฉ.จัดทีมผนึกกำลังแพทย์ฉุกเฉินไทย ช่วยแผ่นดินไหวเนปาลรอบ2เผยยังขาดเครื่องมือช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
    นพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงสถานการณ์แผ่นดินไหว ที่เกิดขึ้นอีกครั้งในประเทศเนปาลในเช้าวันอังคารที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมาว่า สถานการณ์แผ่นดิน ไหวในประเทศเนปาลยังมีความน่า กังวลเป็นอย่างยิ่งเพราะเหตุการณ์อาฟเตอร์ช็อคสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ซึ่งเท่ากับว่าจำนวนของผู้ป่วยฉุกเฉินจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวก็จะเกิดเพิ่มขึ้นมากขึ้นอีก โดยล่าสุดนั้นสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นได้รายงานตัวเลขของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหม่แล้วว่ามี 66 ราย และมีผู้บาดเจ็บเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 1,261 คน อย่างไรก็ตามทีมแพทย์ฉุกเฉินของประเทศไทยที่เข้าให้การช่วยเหลือด้านการแพทย์ฉุกเฉินของประเทศเนปาลที่มีอยู่ในพื้นที่ 2 ชุด ก็ยังคงเสริมกำลังการทำงานกันอย่างเต็มที่ในสถานการณ์ที่ขับคันและยากลำบาก
    ทั้งนี้ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติได้จัดทีมประสานงานซึ่งประกอบไปด้วยแพทย์ พยาบาล และผู้เชี่ยวชาญทางด้านกู้ภัยทีได้ผ่านการฝึกอบรมจากต่างประเทศด้านการช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินในภาวะภัยพิบัติหรือที่เรียกว่า (Disaster Medical Assistant Team DMAT) เข้าประสานและช่วยเหลือในการทำงานของทีมแพทย์ฉุกเฉินของไทยด้วย
    รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นรอบใหม่นั้นได้สร้างผลกระทบต่อโรงพยาบาล Manmohan Memorial Hospital ของประเทศเนปาลที่ทีม DMATได้เตรียมประสานงานในการเข้าให้การช่วยเหลือเพิ่มเติมอยู่ ซึ่งขณะเกิดเหตุทีมแพทย์ของโรงพยาบาลและทีม DMAT ได้ร่วมกันอพยพ เคลื่อนย้าย และปฐมพยาบาลเบื้องต้นแก่ผู้ป่วยและได้ร่วมช่วยจัดพื้นที่สำหรับการรักษาพยาบาล พร้อมทั้งร่วมกับทางโรงพยาบาล Manmohan Memorial Hospital จัดตั้งโรงพยาบาลสนามชั่วคราว ซึ่งมีผู้ป่วยในการดูแลของทีมแพทย์ฉุกเฉินไทยประมาณ 50 คน จนกระทั่งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสามารถดำเนินการต่อได้และได้สนับสนุนเต็นท์สนาม ผ้าห่ม ให้กับโรงพยาบาลสนามชั่วคราวอีกด้วย
    “นอกจากนี้แล้วเรายังได้ถอดบทเรียนของเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดเพื่อที่จะนำมาปรับใช้ในการทำงานของเราในครั้งต่อไปโดยพบปัญหาอุปสรรคหลักๆ ดังนี้ 1. เมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวนั้นเกิดความตื่นตระหนกทั้งประชาชนและเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลจึบทำให้การช่วยเหลือประชาชนที่เข้ามาทำการรักษาในโรงพยาบาลมีปัญหา 2. ทีมได้สังเกตเห็นว่าระบบการเตือนภัยของประเทศเนปาลนั้นมีปัญหา เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวแล้วนั้นไม่มีระบบเตือนภัยให้กับประชาชนและไม่มัสัญญาณแจ้งให้ประชาชนทำการอพยพ 3. ระบบสื่อสารต้องเป็นระบบที่เราจะต้องจัดเตรียมให้พร้อมรับกับทุกสถานการณ์เพราะที่ประเทศเนปาลเมื่อเกิดแผ่นดินไหวขึ้นนั้นระบบการสื่อสารทุกอย่างในประเทศล่มหมดและจะกลับมาใช้ได้หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวประมาณ 2 ชั่วโมง นอกจากนี้แล้วเรายังพบว่าเส้นทางอพยพประชาชนนั้นต้องผ่านถนนซึ่งมีรถหนาแน่น จึงทำให้การเคลื่อนย้ายประชาชนและผู้ป่วยมีปัญหา นอกจากนี้แล้วปัญหาที่สำคัญมากที่สุดคือเรื่องของข้อมูลผู้ป่วย เพราะโรงพยาบาลที่ทีมแพทย์ฉุกเฉินของเราได้เข้าไปให้การช่วยเหลือนั้นไม่มีข้อมูลผู้ป่วยที่จะอพยพ ไม่ทราบจำนวนผู้ป่วยที่แท้จริง จึงทำให้ทีมที่เข้าสนับสนุนช่วยเหลือไม่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างราบรื่น” รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าว
    นพ.ภูมินทร์กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้สิ่งที่ประเทศเนปาลกำลังขาดและต้องการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนในเรื่องของระบบการแพทย์ฉุกเฉินคือ ยา และอุปกรณ์ในการอพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากโรงพยาบาลที่มีไม่เพียงพอ อาทิ รถนั่ง เปลหาม และในเรื่องที่อยู่อาศัยนั้นบ้านเรือนส่วนใหญ่ของประชาชนในประเทศเนปาลนั้นสร้างขึ้นจากอิฐและดินจึงทำให้ง่ายต่อถล่ม ทำให้ประชาชนจำนวนมากไร้ที่อยู่อาศัย การจัดหาเต็นท์นอน ผ้าห่ม และเสื้อผ้าจึงเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องที่ประชาชนเนปาลต้องการ
    สำหรับทีมช่วยเหลือทางการแพทย์ในภาวะภัยพิบัติ (Disaster Medical Assistant Team หรือDMAT) ที่ลงไปปฏิบัติหน้าที่ประสานงานช่วยทีมแพทย์ฉุกเฉินชุดที่สองของประเทศไทยประกอบด้วย นายแพทย์คณินทร์ กีรติพงค์ไพบูลย์นางสาวสิริมา ใจปล้ำ นางหทัยรัตน์ รังสรรค์สฤษดิ์ นายไชยเชษฐ์ พัดสี นายอนุกูล สอนเอก นายรณยุทธ กุลพันธ์ และนายสมศักดิ์ บุญรัตนกิจ
    /โพสทูเด
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc
    13 พ.ค. สหรัฐลองของจีนส่งเครื่องบินเข้าทะเลจีนใต้

    [​IMG]

    สหรัฐกำลังพิจารณาส่งเครื่องบินและเรือของกองทัพเข้าสู่ทะเลจีนใต้ เพื่อพิสูจน์เสรีภาพในการเดินเรือ ขณะที่จีนกำลังสร้างสิ่งปลูกสร้างบริเวณหมู่เกาะพิพาทในทะเลจีนใต้ ซึ่งจีนเองก็แสดงความกังวลต่อพฤติกรรมของสหรัฐ“

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐ เมื่อวันที่ 13 พ.ค.ว่าเจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐ แถลงเมื่อวันอังคาร(12 พ.ค.)ว่า กระทรวงกลาโหมกำลังพิจารณาที่จะส่งเครื่องบินและเรือของกองทัพสหรัฐ เพื่อพิสูจน์เสรีภาพในการเดินเรือรอบหมู่เกาะเทียมที่จีนสร้างขึ้นอย่างรวดเร็ว ในน่านน้ำพิพาททะเลจีนใต้ โดยนายแอช คาร์เตอร์ รัฐมนตรีกลาโหม กำลังพิจารณาทางเลือกต่าง ๆ ซึ่งรวมทั้งการส่งเครื่องบินและเรือเข้าไปใกล้บริเวณแนวประการังภายในรัศมี 12 ไมล์ทะเล ห่างจากเขตที่จีนกำลังก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ในบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์

    การเคลื่อนไหวเช่นนี้ จะเป็นการท้าทายโดยตรงต่อความพยายามของจีนในการขยายอิทธิพลในศูนย์กลางทางทะเลของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เจ้าหน้าที่สหรัฐ ซึ่งไม่เปิดเผยชื่อ กล่าวว่า เรากำลังพิจารณาหาวิธีพิสูจน์เสรีภาพของการเดินเรือในพื้นที่ที่เป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญของโลก และกล่าวเพิ่มเติมว่า ทางเลือกใด ๆ อันจะพึงมี จะต้องผ่านความเห็นชอบจากทำเนียบขาว

    ขณะเดียวกัน หัว ชุนอิง โฆษกหญิงของกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวันพุธว่า ทางการจีนมีความวิตกกังวลอย่างยิ่ง ต่อแผนการของสหรัฐในการพิจารณาส่งเรือและเครื่องบินของกองทัพ เข้าสู่น่านน้ำพิพาทในทะเลจีนใต้

    อัลเบิร์ต เดล โรซาริโอ รัฐมนตรีต่างประเทศฟิลิปปินส์ แถลงว่า เขากำลังขอความช่วยเหลือเพิ่มเติมจากสหรัฐ ในการหยุดยั้งการถมทะเลครั้งใหญ่ของจีน ซึ่งอาจทำให้จีนยึดครองทะเลจีนใต้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยโรซาริโอ กล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า จีนกำลังพยายามที่จะยึดเอาดินแดนที่กำหนดขึ้นด้วยตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย ทั้งนี้ จีนและอีก 5 ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งรวมทั้งฟิลิปปินส์ ต่างก็อ้างากรรมสิทธิ์ยึดครองน่านน้ำในทะเลจีนใต้ ซึ่งเชื่อกันว่า มีความเป็นไปได้ว่าจะอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ทั้งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ

    : สหรัฐลองของจีนส่งเครื่องบินเข้าทะเลจีนใต้ | เดลินิวส์
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc
    13 พ.ค. ออสซี่เตือนภัย 'เอลนีโญ' ในเอเชียแปซิฟิก เสี่ยงภัยแล้ง-ไฟป่า

    [​IMG]

    นายเดวิด โจนส์ ผู้อำนวยการสำนักพยากรณ์อากาศสังกัดกรมอุตุนิยมวิทยาแห่งออสเตรเลีย ประกาศเตือนประชาชนเฝ้าระวังและรับมือสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายเดือน พ.ค.เป็นต้นไป หลังการตรวจสอบสภาพอากาศโดยรวมในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกพบว่าอุณหภูมิเฉลี่ยผิวน้ำทะเลเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากกระแสลมในทะเลอ่อนกำลังลง และจะทำให้เกิดปรากฏการณ์เอลนีโญครั้งแรกในรอบ 5 ปีของออสเตรเลีย ส่งผลให้อากาศร้อนขึ้น และปริมาณน้ำฝนลดน้อยลง เสี่ยงต่อการเกิดภัยแล้งและไฟไหม้ป่ารุนแรง เพราะสภาพอากาศที่แห้งแล้งทำให้ไฟลุกลามอย่างรวดเร็วเกินควบคุม ขณะที่ปรากฏการณ์เอลนีโญในปีนี้เริ่มต้นเร็วกว่าปกติซึ่งมักจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย.-พ.ย.

    นอกจากนี้ อุณหภูมิผิวน้ำทะเลในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันออกที่เพิ่มสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อสภาพอากาศของกลุ่มประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อื่นๆ ด้วย โดยเฉพาะปาปัวนิวกินีและอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศหมู่เกาะและอยู่ไม่ไกลจากออสเตรเลีย

    ขณะเดียวกัน สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งญี่ปุ่นประกาศเตือนประชาชนเตรียมเฝ้าระวังภัยธรรมชาติ ทั้งลมพายุกระโชก ฟ้าผ่า ฝนกระหน่ำ ลูกเห็บ คลื่นสูงในทะเล รวมถึงน้ำท่วมฉับพลัน หลังพายุไต้ฝุ่นโนลเคลื่อนผ่านฟิลิปปินส์เข้าสู่พื้นที่ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น ที่ความเร็วลมสูงสุดประมาณ 180 กม.ต่อชั่วโมง เมื่อ 12 พ.ค. ก่อนจะเคลื่อนเข้าสู่เกาะฮอนชู ตอนกลางของญี่ปุ่น ในวันที่ 13 พ.ค.

    ออสซี่เตือนภัย 'เอลนีโญ' ในเอเชียแปซิฟิก เสี่ยงภัยแล้ง-ไฟป่า - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc

    ธรณีพิโรธทำดินถล่ม(12 พ.ค.) ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวใหญ่ครั้งใหม่ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 67 คนแล้ว และมีผู้บาดเจ็บกว่า 1,261 คน อีกทั้งหวั่นเกรงว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่านี้

    Kaokala Fc

    ธรณีพิโรธทำดินถล่ม(12 พ.ค.) ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตจากภัยพิบัติแผ่นดินไหวใหญ่ครั้งใหม่ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 67 คนแล้ว และมีผู้บาดเจ็บกว่า 1,261 คน อีกทั้งหวั่นเกรงว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นกว่านี้ https://www.youtube.com/watch?v=MXyBujpvJFY

    https://www.youtube.com/watch?v=MXyBujpvJFY
     
  19. thummakaya

    thummakaya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +634
    **ภัยพิบัติรู้ลวงหน้าได้หรือไม่** เช่นพายุ แผ่นดินไหว ตอบรู้ได้ เฉพาะผู้รู้จริง ไม่ใช่พวกหมอดูต้มตุ๋น หากิน ต้องทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง....(คลิปตัวอย่างการทำนายล่วงหน้า ก่อนแผ่นดินไหว ในปี 2013)
    https://www.youtube.com/watch?v=mh_HuX03q08
    ในธรรมิกสูตร พระพุทธเจ้า กล่าวไว้ เมื่อผู้นำประเทศไม่มีศีลธรรม
    ผู้ตามก็จะทำตาม เช่นทุจริต คอรัปชั่น **ดวงดาวต่างๆ จะเดินผิดปกติ** ฤดูกาลต่างๆ ก็จะผิดปกติ เกิดภัยพิบัติต่างๆ ......
    ในต่างประเทศ เขาทราบมานานแล้ว สามารถทำนายล่วงหน้าได้ อาศัยหลัก ดวงดาว ทับหรือเล็งกัน เมื่อองศาของดวงดาวทับกันสนิท แล้วดูพลังงาน ที่ปลดปล่อยจากดวงอาทิตย์ในเวลานั้น เพื่อเจาะลึกในรายละเอียด อีกครั้ง แต่ยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่ 

    ...สำหรับประเทศไทย เป็นที่ตั้งของพระพุทธศาสนา คนมีศีลธรรมยังมีมาก ไม่ต้องเกลงกลัวภัยพิบัติร้ายแรงต่างๆ ตามที่
    พวกหากินชอบสร้างกระแส หลังเกิดเหตุภัยพิบัติใหญ่ ในต่างประเทศ
    .ใครสนใจการทำนายภัยพิบัติ กดเข้าไปดูที่เพจ ทหารปฏิรูปประเทศไทย
    https://www.facebook.com/thailandcoup?fref=pb&hc_location=profile_browser
    และที่ช่องยูทูบ https://www.youtube.com/user/thebarcaroller/videos
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 พฤษภาคม 2015
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,212
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ศิษย์อาจารย์เทพย์ สาริกบุตร

    [​IMG]

    อังคารเล็งเสาร์ - เสาร์เพ็ญ
    จากปฏิทินโหรฯ ตามแนวทางท่าน อ.เทพย์ ประจำปี ๒๕๕๘ ระบุถึงปรากฏการณ์ทางดวงดาวที่สำคัญในเดือนพฤษภาคมไว้ ๒ เหตุการณ์ ดังนี้
    ๑. ดาวอังคารเล็งดาวเสาร์ ที่ ๘ องศาเศษ (ราศีพฤษภ-ราศีพิจิก) ในวันที่ ๑๕ พค.๒๕๕๘
    ๒. ดาวเสาร์เพ็ญ ที่ ๗ องศาเศษ (ราศีพิจิก) ในวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๘
    ดาวทั้งสองถือว่าเป็นดาวบาปพระเคราะห์ที่ให้ทุกข์โทษมาก เมื่อมาทำมุมร้ายเยี่ยงนี้ ผลร้ายมีโอกาสเกิดขึ้นได้สูง
    ผู้ที่มีลัคนา,ดาว,จุดศูนย์กลางภพที่ประมาณ ๘ องศา +/- ๓ องศา ในราศีพฤษภและราศีพิจิกให้พึงระมัดระวังอุปัทวอันตรายให้จงหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "ราศีพฤษภ"
    ดาวอังคารแทนได้กับอาวุธ ของมีคม การทหาร ส่วนดาวเสาร์เป็นดาวธาตุดิน แทนได้กับแผ่นดิน ซึ่งไปเพ็ญในราศีธาตุน้ำ ดังนั้นผลร้ายจึงมีโอกาสเกิดตามความหมายของดาว
    ในโลกที่สวยงามใบนี้มีโอกาสเกิดภัยธรรมชาติ ธรณีพิบัติภัยได้
    แต่อย่างไรก็ตาม ดาวพฤหัสบดี ดาวประธานฝ่ายศุภเคราะห์ยังมีกำลังให้คุณ และส่งแสงไปที่ราศีพิจิก ดังนั้นดาวเสาร์เพ็ญในครั้งนี้คงจะไม่รุนแรงอะไรมากนัก และผู้ที่มีตำแหน่งสำคัญในราศีพิจิกถ้าดาวพฤหัสบดีไม่เบียรกับดาวเดิมแล้ว ผลร้ายก็คงจะไม่รุนแรงเช่นกัน
    ปรากฎการณ์จากดาวทั้งสองไม่ได้ไปต้องกับตำแหน่งใดๆ ของดวงเมือง ดังนั้นจึงไม่มีผลกับชาตาบ้านเมือง
    เราท่านทั้งหลายพึงมีสติ ไม่ต้องตื่นตระหนกกับพวกโหรที่มีแต่ชื่อกันให้มากนัก ผู้ที่ตั่งตนเองเป็นโหรบางคน ถ้าเพียงแม้ว่าคำทำนายของเขาถูกต้องสัก ๑๐ % เท่านั้น แผนที่ประเทศไทยคงหายไปจากโลกใบนี้แล้ว ซึ่งตอนนี้ก็กำลังเกาะกระแสแผ่นดินไหวในเนปาลทำนายกันยกใหญ่
    เราท่านที่มีตำแหน่งในดวงชาตาไปตรงกับบาปพระเคราะห์ดังกล่าวให้หมั่นเจริญสมาธิภาวนา ทำบุญสุนทาน บุญกุศลตลอดจนสติและความไม่ประมาทของตัวท่านจะบรรเทาทุกข์โทษได้
    admin ดิลก แสงอุทัย
     

แชร์หน้านี้

Loading...