ติดตามสถานะการณ์

Thanong Fanclub



6. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
ให้สังเกตุดูโลโก้ของยูเอ็นให้ดี ว่าเป็นรูปแผนที่โลก มีช่อใบมะกอก2ช่ออุ้มชูอยู่ ออกแบบได้ดีมาก เพราะว่าช่อใบมะกอกที่ทำให้คนทั่วไปเข้าใจว่าเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ หรือมีอีกความหมายหนึ่งคือชัยชนะ แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นมงกุฎของซีซ่าร์นั่นเอง
thanong
20/5/2015

 

Thanong Fanclub



7. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
หมายกำหนดการของโป๊ปฟรานซิสที่จะเยือนสหรัฐอเมริกาได้ออกมาแล้ว และอย่าได้ประหลาดใจในเรื่องความบังเอิญของจังหวะเวลา
ในวันที่23 กันยายน 2015 โป๊ปฟรานซิสมีหมายกำหนดจะเยือนทำเนียบขาว ประกอบพิธีมิสซาที่National Schrine of the Immaculate Conception และกล่าวสุนทรพจน์ที่ประชุมร่วมของสภาคอนเกรซ
อย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่า วันที่ 23 กันยายน 2015จะเป็นวันเริ่มต้นของปีเสียงแตร (Year of Jubilee) พอดี
เป็นวันฤกษ์ดีที่โรมจะยึดดีซีให้เห็นเป็นขวัญตา หลังจากที่พวกอเมริกันต้องการดิ้นต่อสู้เพื่ออิสรภาพมานาน แต่ท้ายที่สุดก็ไม่ไปรอด
วันที่ 24 กันยายน 2015 โป๊ปฟรานซิสจะใช้เวลาในนิวยอร์ค
วันที่25 กันยายน 2015 โป๊ปมีหมายกำหนดการที่จะกล่าวสุนทรภจพจน์ที่องค์การสหประชาชาติที่นิวยอร์ค โดยจะเน้นประเด็นการแก้ปัญหาภาวะโลกร้อน การขจัดความยากจน และการพัฒนาที่ยั่งยืน
วันนั้นจะเป็นวันของโรมที่จะsteal the show หรือแย่งซีนทั้งหมดที่การประชุมใหญ่ของยูเอ็น โดยที่โป๊ปฟราสซิสจะประกาศทิศทางใหม่ของโลก โดยโรมจะกลายเป็นผู้นำที่จะนำพามนุษย์ไปสู่โลกใหม่ (New World)
จะมีการประชุมของผู้นำองค์กรศาสนาในเวลาต่อมาที่ยูเอ็น และแน่นอนโรมจะเรียกร้องให้ผู้นำศาสนาต่างๆมารวมกัน เพราะว่าศาสนาที่สำคัญของโลกทั้ง3ศาสนาคือจูดาห์ คริสต์และอิสลามมีรากเหง้าเดียวกัน เมื่อมีรากเหง้าเดียวกันก็สามารถรวมกันให้เป็นศาสนาโลกศาสนาเดียวได้ ภายใต้การจัดองค์กรของโรม
วันที่ 26 กันยายน 2015 โป๊ปมีหมายกำหนดไปเยือนเมืองฟิลาเดลเฟีย รัฐเพนซิลวาเนีย ที่เพิ่งจะเกิดเหตุรถไฟตกรางเมื่อเร็วๆนี้ จะมีการประชุมพบปะกันของครอบครัวแคทอลิกที่เมืองฟิลาเดลเฟีย
เมืองฟิลาเดลเฟียนี้ เป็นที่ประกาศอิสรภาพของผู้ก่อตั้งสหรัฐอเมริกา ซึ่งต้องการให้ศาสนาคริสต์โปรเตสแตนท์เป็นศาสนาประจำชาติสหรัฐอเมริกา ดินแดนเสรีที่ปราศจากการกดขี่ทางการเมืองของยุโรปและทางศาสนาจากโรม
วันที่ 27 กันยายน 2015 จะมีพิธีประกอบมิสซาที่เมืองฟิลาเดลเฟีย โดยโป๊ปทรงเป็นประธาน และจะมีผู้เข้าร่วมนับแสนคน
อเมริกาจบแล้วจริงๆ
thanong
20/5/2015
General Schedule of Pope Francis U.S.Visit 2015

 

Thanong Fanclub



8. วาระโลกใหม่ของปีเสียงแตร (Year of Jubilee)
เรื่องนี้เขียนเมื่อปีที่แล้ว เอาลงมาให้อ่านอีกครั้ง เพราะว่าเนื่อเรื่องไปด้วยกัน
Jeff Berwickแห่งThe Dollar Vigilante พยายามที่จะกำหนดวันที่ระบบการเงินโลกพัง หรือมีการรีเซ็ท หรือมีการล้างหนี้ โดยอ้างอิงจากหนังสือขายดีจากการจัดอันดับของThe New York Timesเป็นเวลา2สัปดาห์ที่ชื่อว่า “The Harbinger” ที่ได้รับการตีพิมพ์ออกมาเมื่อปี2012 หนังสือเล่มนี้เขียนโดย Rabbi Jonathan Cahn หรือครูผู้สอนศาสนาจูดาห์ ซึ่งมองดูเหตุการณ์911จากแง่มุมของพระคำภีร์ไบเบิ้ล และการเกี่ยวโยงมายังตลาดการเงินอย่างน่าพิศวง
Rabbi Jonathan Cahnได้เขียนเอาไว้ว่าสหรัฐฯกำลังเดินย่ำรอยประวัติศาสตร์ของอิสราเอลโบราณที่ได้ฝืนและไม่ปฏิบัติตามคำสอนของพระเจ้าทำให้ประสบกับความหายนะ ทั้งๆที่มีการบอกกล่าวเตือนภัยล่วงหน้าแล้ว9ประการ แต่ไม่เชื่อฟังกัน ทำให้อาณาจักรอิสราเอลโบราณถึงกับล่มสลาย และสหรัฐฯคงจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องประสบกับเคราะห์กรรมของความหายนะคล้ายกับอิสราเอลโบราณเพราะว่าไม่เชื่อฟังพระเจ้า สหรัฐฯเป็นประเทศที่ตั้งขึ้นมาบนหลักของบทบัญญัติของพระเจ้า และเป็นแสงสว่างให้ประเทศต่างๆ แต่ได้เอาตัวออกห่างจากหลักพื้นฐานนี้
นอกจากจะทำนายหายนะของสหรัฐฯโดยเปรียบเทียบกับการล่มสลายของอาณาจักอิสราเอลโบราณแล้ว Rabbi Jonathan Cahnเรียบเรียงวันที่ที่จะเกิดเหตุการณ์ใหญ่ของการเปลี่ยนแปลงโดยอ้างอิงคำเตือนของพระเจ้าในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลและปฏิทินของฮิบรูเกี่ยวกับShmitaเป็นปีแห่งการพักผ่อนและการบูชา (Sabbath year)พระเจ้า ซึ่งเกิดขึ้นทุกๆ 7ปีในศาสนาจูดาห์ (Judaism) ในปีนี้คนยิวจะไม่ทำการเกษตร และหนี้สินทั้งหมดจะถูกยกเลิก ปฏิทินของฮิบรูแตกต่างจากปฏิทินของพวกเราสมัยใหม่ ในวันสุดท้ายของShmita หนี้สินทั้งหมดจะได้รับการยกเลิก ระยะเวลาของShmita คือ1ปี และวันสุดท้ายเรียกว่าElul 29 ซึ่งจะเป็นวันที่หนี้สินทั้งหมดจะได้รับการยกเลิก หรือมีการล้างหนี้เกิดขึ้นให้หมดไปเลย
ต่อไปนี้คือคำทำนายล่วงหน้า9ประการที่เขียนเอาไว้ในหนังสือThe Harbingers ซึ่งบันทึกเอาไว้แล้วในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเกี่ยวเนื่องกับชะตากรรมของของอิสราเอลโบราณ ซึ่งสอดคล้องเกือบจะคำต่อคำและการกระทำต่อการกระทำกับสหรัฐฯหลังจากเหตุการณ์911
1. ฝ่าฝืนคำสอน. Rabbi Jonathan Cahnบอกว่าสหรัฐฯกำลังย่ำรอยเท้าของอิสราเอลโบราณด้วยการฝ่าฝืนคำสอนของพระเจ้าเมื่อตอนที่มีการก่อตั้งประเทศ เพราะฉะนั้นการปกป้องสหรัฐฯโดยพระเจ้าถูกยกเลิกไปหลังเหตุการณ์911 เหมือนกับการปกป้องอิสราเอลโบราณที่ถูกยกเลิกไป
2. ผู้ก่อการร้าย. อาณาจักรอิสราเอลโบราณถูฏพวกอัสซีเลี่ยน (Assyrians)รุกรานและโจมตี เหมือนกับที่สหรัฐฯโดนพวกตะวันออกกลางโจมตี พวกอัสซีเลี่ยนเป็นเผ่าเซมิติก ซึ่งเป็นเผ่าดั้งเดิมของตะวันออกกลาง พวกผู้ก่อการร้ายที่ถล่มสหรัฐฯก็เป็นลูกหลานของเผ่าเซมิติกนี้ (ในข้อนี้ เราอาจจะขอแย้งเพราะว่า911 ไม่ได้เกิดขึ้นเหมือนอย่างที่รัฐบาลสหรัฐฯบอก อัง เคด้าหรือISISก็ตามเป็นผลงานการสร้างของCIAและพวกไซออนนิสท์ แต่อย่างไรก็ดี เรื่องนี้ยังน่าสนใจเพราะว่าดำเนินไปตามบทของพระคัมภีร์ อาจจะเป็นไปได้ว่าพวกอิลิทที่ครองอำนาจโลกกำลังปั่น หรือบริหารเหตุการณ์โลกให้เป็นไปตามพระคัมภีร์ไบเบิ้ลตามพิธีกรรมของซาตาน)
3. ซากอิฐที่พังลงมา. Cahn บอกว่าสัญญานที่เห็นได้ชัดที่สุดของการโจมตีอิสราเอลโบราณคือตึกที่ล้มลงมา กลายเป็นกองซากที่ปรักหักพัง เหมือนกับ911ที่ทำให้ตึกWorld Tradeถล่มลงมาจนกลายเป็นซากอิฐซากปูน ตึก 7 Builidng 7 ที่อยู่ใกล้เคียงกันโดนถล่มลงมาเหมือนตึกคู่แฝดWorld Trade ให้สังเกตุสัญลักษณ์เลข7
4. หอคอย. คำเตือนภัยล่วงหน้านี้เป็นสัญลักษณ์ของความจริงที่ว่าหลังจากการโจมตีของพวกอัสซีเลี่ยน อาณาจักรอิสราเอลไม่สำนึกกับบาปที่ก่อเอาไว้ แต่ตั้งมั่นว่าจะสร้างตึกขึ้นมาใหม่โดยพลังอำนาจของตัวเอง เหมือนกับสหรัฐฯที่ไม่สำนึกกับบาปที่ก่อเอาไว้ และตั้งใจที่จะสร้างตึกขึ้นมาใหม่จากGround Zeroที่เป็นจุดที่เป็นฐานของตึกคูแฝดที่โดนทำลาย ตอนนี้มีตึกFreedom Towerขึ้นมาแทนWorld TradeบนGround Zero
5. หิน. ในพระคำภีร์ พวกอิสราเอลแกะหินออกมาจากภูเขาแล้วขนกลับมาสร้างตึกใหม่ในบริเวณที่ถูกพวกอัสซีเลี่ยนทำลาย เรื่องนี้เกิดขึ้นกับGround Zeroเหมือนกัน เพราะว่า สามปีให้หลังจาก911 มีการแกะหิน20ตันจากภูเขาในรัฐนิวยอร์ค เพื่อเป็นหลักศิลาในการสร้างตึกใหม่บนGround Zero ในวันที่วางหลักศิลา ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์คนาย George Pataki กล่าวในสุนทรพจน์ว่า: “วันนี้ พวกเราในฐานะลูกหลานของจิตวิญญานของการปฏิวัติและการท้าทาย ได้วางหลักศิลา เพื่อเป็นสัญญานให้โลกได้รับรู้ถึงความแข็งแกร่งที่ไม่ย่อท้อของประเทศนี้ และความตั้งใจเด็ดเดี่ยวของประเทศเราที่จะต่อสู้เพื่ออิสระภาพ
6. ต้นsycamore. ในพระคัมพีร์ไบเบิ้ล บทเพลงสดุดีของIsaiah 9:10เขียนเอาไว้ว่าประเทศอิสราเอลได้ประกาศเอาไว้ว่าต้นไม้sycamore โดนพวกอัสซีเลี่ยนทำลายระหว่างการโจมตีและจะเปลี่ยนต้นsycamoreเป็นต้นcedarแทน หลังเหตุการณ์911 ตึกบริเวณนั้นส่วนมากได้รับความเสียหาย ยกเว้นวิหารSt Paul ซึ่งมีต้นsycamoreอยู่ในหลังสวน Cahnบอกว่าวิหารSt Paulเป็นสถานที่ซึ่งรัฐบาลของสหรัฐฯมีการทำพิธีสวดมนต๋เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีคนแรก คือGeorge Washingtonในวันที่30 เมษายน 1789
7. ต้น Erez. ใน Isaiah 9:10 ประเทศอิสราเอลเอาต้นcedarsมาแทนต้นsycamoreเพื่อแสดงความแข็งแกร่งให้พระเจ้าเห็น เนื่องจากต้นcedarsมีความแข็งแกร่งทนทานกว่าต้นsycamore สองปีหลัง911 คือในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2003 มีการปลูกต้นไม้แทนต้นsycamoreที่ล้มลงไป เป็นต้นสปรูซมีความสูง21ฟุตคล้ายๆกับต้นไพน์ ให้ชื่อว่าต้นไม้แห่งความหวัง น่าสนใจที่ต้นไม้แห่งความหวังนี้ (Tree of Hope)ตายไปเมื่อต้นปีนี้เอง ทั้งๆที่มีความพยายามอย่างถึงที่สุดที่จะรักษาชีวิตของมันเอาไว้
ในIsaiah 2:12-13 กล่าวเอาไว้ว่า: “ในวันของพระเจ้าของผู้คนทั้งปวงจะอยู่บนทุกสิ่งที่สูงและถูกยกขึ้นมา อยู่เหนือต้นcedarsแห่งเลบานอน Zechariah 11:2 เขียนเอาไว้ว่า: “สำหรับต้นcedarที่ล้มลงไป เหมือนกับผู้มีอำนาจถูกทำให้เสียคน”
8. คำมั่นที่ท้าทาย. ทั้งอิสราเอลโบราณและสหรัฐฯมีการท้าทายพระเจ้าที่คล้ายๆกัน ว่าจะสร้างเมืองหลวงใหม่หลังจากที่ถูกทำลายไปแล้ว John Edwardsทำการท้าทายระหว่างพิธีรำลึก911 ด้วยการพูดวเหมือนกับที่ได้บันทึกในIsaiah 9:10ว่า “อรุณสวัสดิ์ วันนี้เป็นวันแห่งความทรงจำและไว้อาลัย เรามีพระวัจนะของพระเจ้าที่จะนำพาเราเดินทางต่อไป “อิฐได้ร่วงหล่นลงมา แต่เราจะสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยหินที่ได้รับการตกแต่งแล้ว ต้นsycarmoresถูกโค่นล้มลงไป แต่เราจะปลูกต้นcedarsมาทดแทน
9. คำพยากรณ์. คำพยากรร์จะเกิดขึ้นเมื่อผู้นำพูดซ้ำในคำพูดที่ได้รับการบันทึกในIsaiah 9:10 และวุฒิสมาชิกTom Daschle ซึ่งเป็นผู้นำเสียงส่วนใหญ่ในสภาวุฒิตอนนั้นบอกว่า “ไม่มีอะไร ไม่มีอะไรจริงๆที่สามารถทดแทนความสูญเสียที่เราได้ทนทุกข์ทรมาณมา ผมรู้ว่ามีมาตรการเล็กที่สุดของแรงบันดาลใจที่มีการทำขึ้นหลังจากหายนะครั้งนี้ มีบทในไบเบิ้ลของIsaiahที่พูดกับพวกเราในห้วงเวลานี้ “อิฐได้ร่วงหล่นลงมา แต่เราจะสร้างขึ้นมาใหม่ด้วยหินที่ตกแต่งแล้ว ต้นfigถูกโค่น แต่เราจะทดแทนมันด้วยต้นcedars นี้คือสิ่งที่เราจะทำ เราจะสร้างใหม่และเราจะฟื้นขึ้นมาใหม่ คนอเมริกันจะยืนหยัดอย่างเข้มแข็ง เพราะว่าคนอมเริกันยืนหยัดด้วยกันมาตลอด และพวกเราที่ได้สิทธิพิเศษที่จะรับใช้ประเทศนี้จะยืนหยัดกับพวกท่าน
สรุปความว่าทั้งอิสราเอลโบราณ และสหรัฐฯทำบาป ไม่เชื่อฟังคำพระเจ้า และยังฝินที่จะเดินหน้าต่อเพื่อทำบาป เพราะมั่นใจในความแข็งแกร่งของตัวเอง
จากเหตุเตือนภัยล่วงหน้า9 ประการ บวกกับShmita หรือปีแห่งการพักผ่อนและการบูชา (Sabbath year)พระเจ้า ซึ่งเกิดขึ้นทุกๆ 7ปีในศาสนาจูดาห์ (Judaism) ที่หนี้สินทั้งหมดจะถูกยกเลิก ทำให้มีการคาดการว่า
1. สหรัฐฯกำลังเข้าสู่ยุคของความเสื่อมสลายเหมือนอาณาจักรอิสราเอลโบราณ โดยที่พระเจ้าเตอนแล้วก็ไม่เชื่อ บังอาจท้าทาย และยังคงทำบาปต่อไปโดยไม่สำนึก และ
2. เหตุการณ์ใหญ่ของการล้างไพ่ระบบการเงินจะเกิดขึ้นในปีShmita หรือปีที่7ของปฏิทินฮิบรูที่ หนี้สินทั้งหมดจะได้รับการยกเลิก ระยะเวลาของShmita คือ1ปี และวันสุดท้ายเรียกว่าElul 29 ซึ่งจะเป็นวันที่หนี้สินทั้งหมดจะได้รับการยกเลิก หรือมีการล้างหนี้เกิดขึ้นให้สะอาดหมดจดไปเลย
ในปี2001 วันสุดท้ายของElul 29คือวันที่17 กันยายน หรือ6วันหลังเหตุการณ์911 ตลาดหุ้นสหรัฐฯพอเปิดมาปรากฎว่าตกหนักที่สุดในประวัติศาสตร์ คือร่วงไป7%
ในปี 2008 วันสุดท้ายของ Shmita คือวันที่29 กันยายน ในวันนั้นตลาดหุ้นสหรัฐฯตกหนักอันดับสามในประวัติศาสตร์คือ ตกไป9% หรือ777จุด
ตัวเลข7 ที่ปรากฎขึ้นมามากอย่างผิดสังเกตุ Shmitaเกิดขึ้นทุก7ปี และผลก็คือการล้างหนี้ วันสุดท้ายของShmitaในปี2001 ตลาดหุ้นตก7% วันสุดท้ายของShmitaในปี2008 ตลาดหุ้นตก777จุด
Christine Lagardeกรรมการผู้จัดการของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ได้กล่าวถึงอาถรรพ์หมายเลข7ในปี2014นี้ ส่งสัญญานคล้ายกับว่าระบบการเงินโลกกำลังเข้าสู่ขบวนการล้างหนี้ ตรงกับความเชื่อ หรือธรรมเนียมปฏิบัติในศาสนาจูดาห์
ทั้งหมดทำให้อดคิดไม่ได้ว่า สหรัฐฯกำลังดำเนินไปตามบทของพระคำภีร์ไบเบิ้ลอย่างเคร่งครัด ในการตอบสนองต่อเหตุการณ์911 เหมือนกับสิ่งที่อิสราเอลโบราณเคยทำมาก่อน และจากการที่ระบบการเงินสหรัฐฯจะถูกล้าง หรือเปลี่ยนแปลงใหญ่ทุกๆ7ปี ทำให้อดคิดอีกไม่ได้อีกว่าพวกสมาคมลับ เช่นพวกฟรีเมสันน่าจะอยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงระบบการเงิน อันสังเหตุได้จากสัญลักษณ์ของพวกเมสันที่อยู่ข้างหลังเงินเหรียญสหรัฐฯที่มีปิรามิด และดวงตาที่เห็นไปหมด
ปีShmitaครั้งหน้าจะเริ่มเมื่อใด? คำตอบคือปีShmitaจะเริ่มวันที่25 กันยายน 2014นี้ และวันสุดท้ายของปีShmita หรือวันElul 29 ซึ่งจะเป็นวันล้างหนี้จะตกในวันที่ 13 กันยายน 2015
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อาจจะคาดคะเนว่าระบบการเงินสหรัฐฯ หรือระบบการเงินของโลกอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในระหว่างวันที่25 กันยายน 2014 ถึงวันที่13 กันยายน 2015 โดยที่วันที่13 กันยายน 2015น่าจะเป็นวันแห่งความหายนะที่แท้จริง
thanong
20/5/2015
God Has Chosen An Exact Date for the Dollar Collapse - Harbingers and the Shmita

 

Kaokala Fc
20 พ.ค. "โปโรเชนโก" เผยตอนนี้ยูเครนกำลังทำสงครามกับรัสเซีย



ประธานาธิบดียูเครน "เปโตร โปโรเชนโก" ระบุในการให้สัมภาษณ์ที่ถูกนำมาออกอากาศในวันพุธ (20 พ.ค.) ว่าประเทศของเขากำลังต่อสู้อยู่ในสงครามที่แท้จริงกับรัสเซีย ซึ่งอาจทวีความรุนแรงขึ้นได้ทุกเวลา

โปโรเชนโก บอกว่า การจับตัวผู้ที่อ้างว่าเป็นนายทหารหน่วยพิเศษของรัสเซีย 2 นายได้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือสิ่งที่พิสูจน์ว่าพวกกบฏแบ่งแยกดินแดนในภาคตะวันออกของยูเครน เป็นเพียงฉากหน้าของปฏิบัติการทางทหารที่บงการโดยรัฐบาลหมีขาว

"ผมขอบอกให้คุณรู้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งไปเลยว่านี่ไม่ใช่การสู้กับกองกำลังแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียหนุนหลัง แต่ที่เป็นอยู่นี่คือการทำสงครามกับรัสเซียจริงๆ ความจริงที่ว่าเราสามารถจับทหารประจำการ สังกัดหน่วยรบพิเศษของรัสเซียได้นั่นล่ะ คือหลักฐานที่แน่นหนามาก" โปโรเชนโก บอกกับบีบีซี

เมื่อวันอังคาร กองทัพยูเครนได้แสดงให้เห็นถึงชาวรัสเซีย 2 รายที่ถูกจับได้ระหว่างการสู้รบในลูกานสก์ ผู้ที่ถูกจับได้ให้การในขณะบันทึกเทปการสอบปากคำว่า พวกเขาเป็นสมาชิกของหน่วยลาดตระเวนรัสเซียที่มีกัน 200 คน เข้ามาในเขตพื้นที่สู้รบเมื่อเกือบ 2 เดือนก่อน

ยูเครนต้องสูญเสียนายทหารไปอย่างน้อย 8 ราย นับตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา ในการปะทะกันตามเขตพื้นที่ของฝ่ายกบฏ โดยทางกองกำลังฝ่ายรัฐบาลได้โทษว่าความรุนแรงเหล่านี้ เป็นฝีมือทหารรัสเซียที่ถูกส่งเพิ่มเข้ามาใหม่

"ผมเชื่อว่าพวกเขากำลังเตรียมทำการรุก แล้วผมก็คิดว่าเราควรจะเตรียมรับมือ โดยไม่ปล่อยให้พวกเขาได้มีโอกาสยั่วยุ ทั้งหมดนั้นคือความรับผิดชอบของพวกเขา" ผู้นำยูเครน กล่าว

โปโรเชนโก เน้นย้ำว่า เขาไม่ได้มีความจำเป็นที่จะต้องเชื่อใจปูตินเลย แต่ก็ไม่มีทางเลือก เพราะต้องร่วมมือกับผู้นำหมีขาวเพื่อหาหนทางแก้ไขวิกฤตินี้ด้วยการทูต เนื่องจากสงครามมิอาจยุติได้ด้วยปืนและรถถัง

"ผมไม่มีตัวเลือกอื่น ผมสงสัยอยู่เหมือนกันว่าจะสามารถปลดปล่อยดินแดนของผมได้ด้วยวิธีการทางทหารหรือไม่" โปโรเชนโก ยอมรับเป็นนัยว่ายูเครนอาจจะไม่เข้มแข็งพอที่จะผลักดันทหารรัสเซียออกไป

ทั้งนี้ ยังไม่มีการตอบโต้ความเห็นของโปโรเชนโก จากทางกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย ที่ผ่านมา รัสเซียยอมรับว่ามีทหารอาสาและทหารปลดประจำการไปปรากฏตัวอยู่ในยูเครน แต่ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่าทหารเหล่านั้นถูกสั่งการโดยบรรดานายพลของปูติน

 

Kaokala Fc
20 พ.ค. เนปาลออกมาตรการ “ห้ามสร้างตึก 2 เดือน ลดเหลือ 2 ชั้น” หลังเกิดแผ่นดินไหว - อินเดียเสนอตัวช่วยฟื้นประเทศ “เร่งสร้างศูนย์อพยพก่อนมรสุมมาเยือน”



วันจันทร์(18พ.ค.)ที่ผ่านมา รัฐบาลเนปาลประกาศระงับออกใบอนุญาตการสร้างตึกใหม่ชั่วคราวเป็นเวลา 2 เดือน รวมไปถึงการจำกัดให้การสร้างอาคารในปัจจุบันที่กำลังก่อสร้างอยู่ลดขนาดลงเหลือเพียงแค่ 2 ชั้นเท่านั้น หลังจากเกิดเหตุโศกนาฎกรรมสลดแผ่นดินไหวในเดือนเมษายนล่าสุดทำลายบ้านเรือนประชาชนชาวเนปาลไปเกือบครึ่งล้านหลัง สังหารคนไปไม่ต่ำกว่า 8,500 คน แหละทำให้อีกเป็นจำนวนมากต้องไร้ที่อยู่

รัฐบาลเนปาลระบุว่า มาตรการครั้งนี้จะทำให้ทางเจ้าหน้าที่รัฐมีเวลาออกสำรวจมาตรฐานการก่อสร้างของเนปาล หลังจากที่อาคารต่างๆจำนวนมากพังราบลงมาหลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในเดือนเมษายน 2015 ซึ่งทำให้กรุงกาฐมาณฑุทั้งเมืองกลายเป็นเพียงแค่กองอิฐไป

ในขณะเดียวกัน เพส ทรัสต์ ออฟ อินเดีย สื่ออินเดียรายงานวันนี้(20พ.ค.)ว่า ทางรัฐบาลอินเดียได้เสนอตัวให้ความช่วยเหลือเนปาลเต็มที่ในการฟื้นฟูประเทศกลับมาอีกทั้ง รวมไปถึงจะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านก่อสร้างมายังเนปาล และเร่งให้รัฐบาลเนปาลสร้างศูนย์อพยพชั่วคราวสำหรับผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวให้เสร็จก่อนหน้ามรสุมจะมาเยือน

พีเค มิศรา เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่ใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี ได้เดินทางไปเยือนเนปาลในช่วงสั้นเป็นเวลา 2 วันเพื่อเข้าหารือกับนายกรัฐมนตรีเนปาล ซูชิล คอยราลา และตัวแทนระดับสูงจากรัฐบาลเนปาลถึงแผนการฟื้นฟูประเทศหลังเกิดวิกฤตแผ่นดินไหว “จากเหตุแผ่นดินไหวล่าสุดนี้ เชื่อว่าเป็นโอกาสที่ดีสำหรับรัฐบาลเนปาลที่จะได้ปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคใหม่ทั้งหมด และรวมไปถึงทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนชาวเนปาลดีขึ้น ซึ่งในสิ่งเฉพาะหน้าเร่งด่วนในตอนนี้ที่ทางกาฐมาณฑุต้องทำคือจัดสร้างที่พักชั่วคราวให้กับผู้ประสบแผ่นดินไหวเป็นจำนวนมากหลายล้านคนที่ไร้ที่อยู่ และถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งยวดสำหรับเนปาลที่ต้องสร้างที่พักชั่วคราวให้ประชาชนเหล่านี้ก่อนหน้ามรสุมจะมาเยือน และทางอินเดียจะช่วยส่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน และพร้อมช่วยเหลือก่อสร้างศูนย์ผู้อพยพชั่วคราวตามแบบแปลนที่ได้รับมาจากรัฐบาลเนปาล”

และพีเค มิศรายังกล่าวถึงบทเรียนที่ได้จากเหตุแผ่นดินไหวรัฐคุชราตในปี 2001ว่า ทางอินเดียมีประสบการณ์ในการฟื้นฟูหลังวิกฤตแผ่นดินไหว และทางอินเดียพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือเต็มที่ในเรื่องนี้กับเนปาลตามแต่ที่รัฐบาลเนปาลได้ริเริ่มเพื่อพลิกฟื้นประเทศกลับมาอีกครั้ง

“อินเดียต้องใช้เวลาถึง 4-5 ปีเพื่อฟื้นฟูรัฐคุชราตหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว และเนปาลคงต้องใช้ระยะเวลายาวนานเช่นเดียวกันที่จะฟื้นประเทศกลับมาอีกครั้ง” มิศราแถลง

อ่านต่อ.. http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000057558

 

Kaokala Fc
20 พ.ค. อินโดฯระเบิดเรือประมงต่างชาติ41ลำรวด รวมถึงไทย ฐานลอบหาปลาในน่านน้ำ



เจ้าหน้าที่อินโดนีเซียระเบิดและจมเรือประมงต่างชาติ 41 ลำในวันพุธ(20พ.ค.) พร้อมเตือนถึงการล่วงล้ำเข้ามาหาปลาในน่านน้ำของประเทศ

เรือประมงจากหลายประเทศถูกระเบิดตามท่าเรือหลายแห่งทั่วอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งประมงอุดมสมบูรณ์ที่สุดของโลก

โฆษกของกองทัพเรืออินโดนีเซียเปิดเผยว่ากองทัพเรือจมเรือทั้งหมด 35 ลำ ส่วนอีก 6 ลำดำเนินการโดยตำรวจชายฝั่ง

นางซูสี ปูดเจียสตูตี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการทางทะเลและประมง บอกว่าอินโดนีเซียได้ดำเนินการระเบิดเรือประมงต่างชาติไปแล้วหลายลำ นับตั้งแต่รัฐบาลของประธานาธิบดีโจมโค วิโดโด เข้ารับตำแหน่งเมื่อปีที่ปล้ว

มาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายของวิโดด ที่ต้องการสงวนน่านน้ำของอินโดนีเซีย เพื่อรับประกันว่าคนรุ่นหลังจะได้รประโยชน์จากความมั่งคั่งทางทะเลของประเทศ

เรือที่ถูกยึดเหล่านั้น ซึ่งเป็นของชาวประมงจีน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไทยและเวียดนาม ถูกระเบิดและจมลงทะเลในวันตื่นตัวแห่งชาติ ซึ่งระลึกถึงความเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งแรกที่มุ่งสู่การเป็นเอกราชของอินโดนีเซีย

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นปี อินโดนีเซียได้ออกกฎกระทรวงด้านประมงใหม่ 4 ฉบับ เพื่อจัดระเบียบเรือประมงต่างชาติ โดยห้ามลอยลำเข้าน่านน้ำของประเทศเด็ดขาด และหากจับได้ก็จะถือเป็นเรือเถื่อนพร้อมจมเรือทิ้ง โดยนางปูดเจียสตูตี ระบุต่อไปบริษัทต่างชาติจะเข้ามาลง ทุนได้เฉพาะในภาคกระบวนการแปรรูปและทำการตลาดเท่านั้น

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000057645

 

Kaokala Fc
20 พ.ค. โคลอมเบียอ่วม! ดินโคลนถล่มเลวร้ายสุดในรอบ 10 ปี มีผู้เสียชีวิตแล้ว 78 ราย



สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า เกิดเหตุดินโคลนและกระแสน้ำไหลทะลักท่วมเมืองซาลการ์ ประเทศโคลอมเบีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 78 ราย และบาดเจ็บอีก 40 คน บ้านเรือนประชาชนกว่า 500 หลังถูกทำลาย และพังเสียหาย ซึ่งถือเป็นหายนะภัยดินถล่มที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปีของโคลอมเบีย

ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางดึกของวันอาทิตย์ (17 พ.ค.) ต่อเนื่องถึงช่วงเช้าวันจันทร์ (18 พ.ค.) ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ของเมืองซัลการ์ในจังหวัดอันติโอกิอา ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของโคลอมเบีย

ประชาชนชาวโคลอมเบียที่อยู่ในพื้นที่ส่วนใหญ่กำลังนอนหลับในขณะเกิดเหตุดินถล่มบริเวณเมืองซาลการ์ (Salgar) เวลาราว 03.00 น. และทำให้พื้นที่ปกคลุมไปด้วยโคลนและดิน รวมไปถึงเศษปรักหักพังเป็นวงกว้าง

ด้านนายกเทศมนตรีเมืองซาลการ์ โอลกา โอโซริโอ (Olga Osorio) ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านวิทยุท้องถิ่นโคลอมเบีย RCN ว่า “คลื่นโคลนและกระแสน้ำทำลายทุกสิ่งในขณะที่ไหลผ่าน และส่งผลทำให้เมืองเล็กๆ เช่น ซานตา มาร์การริตานั้นได้ถูกลบออกไปจากแผนที่โดยสิ้นเชิง”

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ต้องใช้สุนัขช่วยค้นหาตั้งแต่ช่วงรุ่งสาง เพราะมีหลายคนสูญหาย

อย่างไรก็ตาม ฝนที่ตกหนักก่อให้เกิดดินถล่มไหลลงไปในหุบเขา ทำให้บ้านเรือนประชาชนที่ตั้งอยู่ในบริเวณนั้นถูกกองดินพัดท่วม องค์การสหประชาชาติ เปิดเผยว่า ประชาชน 18,000 คน ประสบความเดือดร้อน ไม่มีน้ำดื่มน้ำน้ำใช้

 

Kaokala Fc
20 พ.ค. เดินทางสู่ดาวอังคาร เสี่ยง"สมองเสื่อม"



ศาสตราจารย์ชาร์ลส์ ไลโมลี นักวิทยาเนื้องอกจากการแผ่รังสี ในสังกัดสำนักการแพทย์ มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนีย (ยูซีไอ) เมืองเออร์วิน รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เผยแพร่รายงานผลการศึกษาวิจัยผลกระทบต่อร่างกายมนุษย์ระหว่างการเดินทางเป็นระยะเวลานานในห้วงอวกาศ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าอุปสรรคในการเดินทางสู่ดาวอังคารนั้นไม่ได้มีเพียงปัญหาเรื่องเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียวแต่ยังมีปัญหาใหญ่หลวงทางด้านการแพทย์ที่ต้องฝ่าฟันเอาชนะอีกด้วย

งานวิจัยดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ"ฮิวแมน รีเสิร์ช โปรแกรม" ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ซึ่งต้องการตรวจสอบผลกระทบที่เกิดกับมนุษย์ในการใช้ชีวิตอยู่ในห้วงอวกาศเป็นเวลายาวนาน เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงและแก้ปัญหา

ทีมวิจัยของยูซีไอพบว่าการที่มนุษย์ได้รับอนุภาคที่มีประจุพลังงานสูงอย่างเช่นรังสีคอสมอสในห้วงอวกาศนั้นสามารถสร้างความเสียหายอย่างมากให้กับระบบประสาทกลาง ส่งผลให้เกิดอาการเสื่อมในสมองได้ ศาสตราจารย์ไลโมลีระบุว่า อาการดังกล่าวส่งผลกระทบทำให้ขีดความสามารถลดลง, ความทรงจำเสื่อมถอย, สูญเสียการตื่นตัว และขาดสมาธิในระหว่างการเดินทางข้ามอวกาศ ที่อาจกระทบต่อการทำกิจกรรมที่จำเป็นในแต่ละภารกิจ นอกเหนือจากที่การได้รับอนุภาคที่มีประจุพลังงานสูงเช่นนี้สามารถสร้างผลลบในระยะยาวต่อการรับรู้เรื่องราวของคนเราไปได้จนตลอดชีวิต

ระยะห่างระหว่างโลกกับดาวอังคารในวงโคจรที่ใกล้ที่สุดนั้นยังห่างถึง34 ล้านไมล์ ใช้เวลาเดินทางระหว่าง 150-300 วัน ขึ้นอยู่กับความเร็วในการส่งยาน ซึ่งหมายความว่าถ้านับเฉพาะเพียงแค่การเดินทางไปและกลับจากดาวอังคารจะส่งผลให้นักบินอวกาศตกอยู่ภาวะได้รับอนุภาคจากการแผ่รังสีที่เป็นอันตรายสูงอยู่เป็นระยะเวลานานระหว่าง1-2 ปี

ในการทดลองเพื่อตรวจสอบผลกระทบดังกล่าว ทีมวิจัยใช้หนูทดลองซึ่งปล่อยให้ได้รับออกซิเจนและไทเทเนียม ที่อยู่ในสภาพแตกตัวเป็นประจุ (ไอออนไนซด์ ไทเทเนียม, ไอออนไนซด์ ออกซิเจน) เพื่อจำลองสภาพการเดินทางในห้วงอวกาศซึ่งจัดทำขึ้นที่ห้องปฏิบัติการการแผ่รังสีในอวกาศของนาซา เมื่อนำหนูทดลองมาตรวจสอบผลกระทบ พบว่าอนุภาคเหล่านี้ส่งผลให้เกิดอาการอักเสบในสมอง ซึ่งกระทบต่อการส่งสัญญาณซึ่งกันและกันระหว่างเซลล์ประสาทในสมองของหนู

ภาพถ่ายทางการแพทย์แสดงให้เห็นว่าการสื่อสารภายในสมองของหนูทดลองเสียหายไปจากการที่จำนวนโครงสร้างของเซลล์ประสาทที่เรียกว่าเดนไดรท์ และสไปน์ ลดจำนวนลง นอกจากนั้น ไซแนปส์ หรือชุมทางรับ-ส่งสัญญาณประสาทเพื่อให้เซลล์ประสาทสื่อสารซึ่งกันและกันได้ก็ผิดเพี้ยนไป ผลที่ได้ทำให้หนูทดลองมีขีดความสามารถลดลงในแบบทดสอบที่ออกแบบขึ้นมาเพื่อทดสอบความจำและการเรียนรู้โดยเฉพาะในขณะที่ขีดความสามารถในการรับรู้หรือเข้าใจก็ลดลง

ศาสตราจารย์ไลโมลีชี้ว่า อาการเสื่อมของสมองกว่าจะแสดงออกให้เห็นก็กินเวลานานหลายเดือน อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาในการเดินทางไป-กลับกับดาวอังคารก็นานพอที่จะทำให้อาการแสดงออกระหว่างการเดินทางได้ ในขณะที่นักบินอวกาศที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสถานีอวกาศนานาชาติ (ไอเอสเอส) ไม่ได้รับรังสีในระดับเดียวกัน เนื่องจากยังคงได้รับการป้องกันจากสนามพลังแม่เหล็กโลกจากแถบแวนอัลเลน

ศาสตราจารย์ไลโมลีชี้ว่าการสร้างเกราะป้องกันให้กับยานอวกาศในพื้นที่ส่วนที่นักบินอวกาศนอนและพักผ่อน เพื่อป้องกันการแผ่รังสีดังกล่าวไม่น่าจะเพียงพอ เพราะยังไม่มีเกราะใดป้องกันรังสีดังกล่าวได้อย่างแท้จริง หนทางเดียวในการหลีกเลี่ยงปัญหานี้ก็คือ การใช้ยาที่เป็นสารประกอบเพื่อขจัดอนุภาคและคุ้มครองระบบการสื่อสารของเซลล์ประสาท

ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการค้นคว้าวิจัยอยู่ในเวลานี้

เดินทางสู่ดาวอังคาร เสี่ยง"สมองเสื่อม" : มติชนออนไลน์

 

Kaokala Fc
20 พ.ค.ภัยพิบัติไม่ปรานีใคร คลิปน้ำท่วมหนักที่ชิลี พัดบ้านพังพินาศ ลอยน้ำราวของเล่น



ฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในชิลี กระแสน้ำซัดบ้านพังหลายหลัง และนี่คือหนึ่งในคลิปวิดีโอสุดน่ากลัวจากภัยพิบัติครั้งนี้
(ชมคลิป https://www.youtube.com/watch?v=WY_VkwG6x0c)

คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกบันทึกได้เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นภาพสถานการณ์น้ำท่วมหนักในชิลี หลังจากฝนตกหนักต่อเนื่องในภูมิภาคลอสลากอส โดยน้ำที่ซัดแรงอย่างไม่ปรานีสิ่งใดได้ทำลายบ้านเรือนประชาชนเสียหายย่อยยับไปไม่ต่ำกว่า 4 หลัง และบ้านหลังนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น จะเห็นได้ว่ากระแสน้ำได้พัดให้บ้านพังล้มลงมาทั้งหลัง แล้วพัดไปตามน้ำราวกับเป็นของเล่น

ทั้งนี้ น้ำท่วมระลอกล่าสุดของชิลีนอกจากจะทำให้บ้านเรือนบางหลังพังพินาศแล้ว บ้านเรือนประชาชนอีกกว่า 8,000 หลังก็ยังเสียหายไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ประชาชนจึงต้องอพยพออกจากบ้านตัวเองไปอยู่อาศัยที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะที่ทางกรมอุตุนิยมวิทยาชิลีได้คาดการณ์ว่าฝนจะตกหนักและลมแรงขึ้นอีกในช่วงนี้

ภาพจาก More News สมาชิกเว็บไซต์ยูทูบดอทคอม
http://hilight.kapook.com/view/120650

 

Kaokala Fc
ฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในชิลี กระแสน้ำซัดบ้านพังหลายหลัง และนี่คือหนึ่งในคลิปวิดีโอสุดน่ากลัวจากภัยพิบัติครั้งนี้

<iframe width="487" height="274" src="https://www.youtube.com/embed/WY_VkwG6x0c" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

(ชมคลิป https://www.youtube.com/watch?v=WY_VkwG6x0c)

 

Kaokala Fc
จีนสร้างสะพานเชื่อมผาตื่นตาสุดในโลก พื้นกระจกใสแจ๋วที่ความสูง 300 เมตร เปิดให้บริการจริงในเดือนกรกฎาคม 2558นี้



สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เผยในรายงานวันที่ 19 พฤษภาคม 2558 ว่า จีนมีแผนสร้างสะพานท้องกระจกนี้ขึ้นเชื่อมระหว่าง 2 หน้าผาในเขตอุทยานแห่งชาติจางเจียเจี้ย ในมณฑลหูหนาน เข้าด้วยกัน ตัวสะพานเชื่อมระห่าง 2 หน้าผา ที่ความสูง 300 เมตร ทางเดินสะพานกว้าง 6 เมตร และทอดยาวออกไปถึง 430 เมตรด้วยกัน สามารถรองรับนักท่องเที่ยวบนสะพานได้ 800 คน ด้วยสถิตินี้จะส่งผลมันกลายเป็นสะพานท้องกระจกที่สูงและยาวที่สุดในโลก เมื่อเปิดให้บริการจริงในเดือนกรกฎาคมที่จะถึงนี้

นับได้ว่านี่จะเป็นสะพานสำหรับการชมวิวหน้าผาที่ตระการตาและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่แกรนด์แคนยอน สกายวอล์ค ในสหรัฐฯ สูง 219 เมตร ระยะทางเพียง 2 เมตร ส่วนกลาเซียร์ สกายวอล์ค ในแคนาดา ซึ่งเพิ่งเปิดให้บริการหมาด ๆ เมื่อปีที่ผ่านมา แม้จะอยู่สูงพอ ๆ กันที่ 300 เมตร แต่ก็มีระยะทางแค่ 35 เมตรเท่านั้น นอกจากนี้แล้ว สะพายเชื่อมผาที่จางเจียเจี้ย ของจีน จะถูกใช้เป็นจุดกระโดดบันจี้จัมพ์ อันจะทำให้มันกลายเป็นจุดกระโดดบันจี้จัมพ์ที่สูงที่สุดในโลกแห่งใหม่ แทนที่ตึกมาเก๊าทาวเวอร์ ซึ่งสูง 233 เมตรด้วย

สะพานท้องกระจกนี้ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิสราเอล ฮาอิม โดตัน ซึ่งเป็นบุคคลเดียวกับที่ออกแบบพาวิลเลียนของอิสราเอล ในงานเวิลด์ เอ็กโป 2010 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศจีน

http://hilight.kapook.com/view/120656

 

เทพบุตร ชาวดิน

ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย ! ชาวนาชัยนาทเศร้าแล้งจัดจนดินแตก หวังฝนช่วยชีวิต
วันที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 12:12:31 น.



<iframe width="500" height="281" src="https://www.youtube.com/embed/MXxb8wpMMZg" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

สภาพดินแตกระแหงในนาข้าวกินวงกว้างนับ100ไร่ ในพื้นที่ตำบลเขาท่าพระ อำเภอเมืองชัยนาท กำลังสร้างความกังวลให้กับชาวนาเป็นอย่างมาก เพราะหากภายในสัปดาห์นี้ยังไม่มีฝนตกลงมา หรือไม่มีน้ำเข้าคลองชลประทาน ข้าวในนาทั้งหมดก็จะแห้งเฉาตาย

นางสมบัติ ทองเปลว อายุ 49 ปี เปิดเผยว่า ได้รวบรวมเงินกับกลุ่มเพื่อนบ้านที่มีนาอยู่ในโซนเดียวกัน 50 บาทต่อไร่ เพื่อจ่ายค่าเครื่องสูบน้ำและน้ำมันเชื้อเพลิงในการสูบน้ำจากคลองซอยที่อยู่ห่างออกไป 2 กิโลเมตรมาใช้ในการไถหว่านข้าว เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยมีความหวังว่าจะมีน้ำชลประทานส่งเข้ามาให้ แต่วันนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีน้ำส่งเข้ามาถึงพื้นที่โซนที่ตนทำนาอยู่ เพราะที่อยู่ปลายคลองน้ำที่ส่งเข้ามาก็จะถูกเจ้าของนาที่อยู่ต้นคลอง สูบเอาไปใช้หมด ฝากความหวังว่าฝนจะตกลงมา ก็ยังไม่มีอะไรที่เป็นความหวังได้จึงอยากให้หน่วย งานรัฐเร่งหาทางช่วยเหลือด่วน เพราะเงินที่เก็บออมไว้จำนวน 20,000 บาทก็เอามาลงทุนทำนาหมดแล้ว ถ้าจะต้องจ่ายเงินค่าสูบน้ำอีกคงจะต้องไปกู้ยืมเป็นหนี้สินเพิ่มอีกเพราะใน การทำนารอบก่อนตนเองก็มีหนี้ค้างอยู่ถึง17,000 บาท

ด้านนายสุชาติ เจริญศรี ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามโนรมย์ ซึ่งดูแลรับผิดชอบพื้นที่ฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดเผยว่า ตามข้อตกลงของกลุ่มผู้ใช้น้ำในการจัดสรรน้ำ มีข้อตกลงชัดเจนที่นาปลายคลองจะมีสิทธิได้รับน้ำก่อนนาที่อยู่ต้นคลอง จึงอยากขอร้องให้หัวหน้ากลุ่มผู้ใช้น้ำและสมาชิกได้เคารพข้อตกลงและคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ต่อกัน เพื่อไม่ให้ชาวนากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งต้องเดือดร้อน โดยวันที่31พฤษภาคม น้ำยังไม่ถึงปลายคลอง โครงการชลประทานมโนรมย์จะนำเครื่องสูบน้ำไปสูบน้ำเข้าคลอง เพื่อให้เกษตรกรได้ลงมือทำนาในช่วงต้นเดือนมิถุนายน

ชีวิตจริงยิ่งกว่านิยาย ! ชาวนาชัยนาทเศร้าแล้งจัดจนดินแตก หวังฝนช่วยชีวิต : มติชนออนไลน์

 

อพยพคนพบระเบิดสงครามโลกครั้งที่2ในเยอรมนี | เดลินิวส์



„อพยพคนพบระเบิดสงครามโลกครั้งที่2ในเยอรมนี เจ้าหน้าที่เมืองฮันโนเวอร์ของเยอรมนี อพยพประชาชนกว่า 30,000 คนไปยังสถานที่ปลอดภัย หลังพบระเบิดขนาด 250 กิโลกรัมฝังอยู่ใต้ดินในบริเวณก่อสร้าง วันพุธที่ 20 พฤษภาคม 2558 เวลา 8:51 น.

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองฮันโนเวอร์ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่20 พ.ค.ว่า ทางการท้องถิ่นในเยอรมนีสั่งอพยพประชาชนราว31,000คนในเมืองฮันโนเวอร์ทางตอนเหนือของประเทศหลังคนงานก่อสร้างพบระเบิดในสภาพดีน้ำหนัก 250กิโลกรัมฝังอยู่ใต้ดินในบริเวณที่เคยเป็นโรงเรียนมัธยมมาก่อน โดยคนงานพบระเบิดเมื่อบ่ายวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นในระหว่างกำลังรื้ออาคารของโรงเรียน อย่างไรก็ตามผู้เชี่ยวชาญได้ปลดชนวนและเคลื่อนย้ายระเบิดออกไปจากเขตชุมชน แต่มีการอพยพประชาชนกว่า30,000คนออกไป เพื่อปลอดภัยไว้ก่อน แม้เวลาล่วงเลยมาถึง70ปีหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลง แต่ยังคงพบระเบิดที่ยังไม่ทำงานบ่อยครั้งส่วนใหญ่ในระหว่างการก่อสร้างตามเมืองใหญ่ ส่วนเมืองฮันโนเวอร์เคยเป็นเป้าหมายโจมตีของเครื่องบินทิ้งระเบิดของฝ่ายตรงข้ามในสมัยสงครามโลก โดยเฉพาะปี 2486เพียงปีเดียว ระเบิดถูกหย่อนลงใส่เมืองฮันโนเวอร์ราว261,000ลูก“

อ่านต่อที่ : อพยพคนพบระเบิดสงครามโลกครั้งที่2ในเยอรมนี | เดลินิวส์

 

Kaokala Fc

ผู้ว่าการเกาะโอกินาวาของญี่ปุ่น ระบุในวันนี้ (20พ.ค.) ว่า เขาจะเดินทางไปยังสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้าเพื่อกดดันให้มีการถอนฐานทัพแดนอินทรีออกไปจากเกาะแห่งนี้ เพื่อลดภาระของประชาชนที่เหนื่อยหน่ายเต็มทีกับการต้อนรับกองทหารสหรัฐฯ

พ่อเมืองโอกินาวาเตรียมเยือนสหรัฐฯ กดดันถอน “ฐานทัพ” ออกจากเกาะ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 พฤษภาคม 2558 17:46 น.



รอยเตอร์ – ผู้ว่าการเกาะโอกินาวาของญี่ปุ่น ระบุในวันนี้ (20) ว่า เขาจะเดินทางไปยังสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้าเพื่อกดดันให้มีการถอนฐานทัพแดนอินทรีออกไปจากเกาะแห่งนี้ เพื่อลดภาระของประชาชนที่เหนื่อยหน่ายเต็มทีกับการต้อนรับกองทหารสหรัฐฯ

ผู้อยู่อาศัยบนเกาะทางตอนใต้แห่งนี้ขุ่นเคืองใจมานานมากแล้วกับความจริงที่ว่า พวกเขาไม่ได้แค่ต้องทนทุกข์การสู้รบทางภาคพื้นดินที่สร้างความเสียหายใหญ่หลวงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เท่านั้น แต่ยังต้องเป็นเจ้าบ้านต้อนรับกองทหารสหรัฐฯ หลายหมื่นคนและสิ่งก่อสร้างของกองทัพสหรัฐฯ บนพื้นที่ 18 เปอร์เซ็นต์ของเกาะของพวกเขา

ทาเคชิ โอนากะ ซึ่งได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการเกาะโอกินาวาเมื่อปีที่แล้วจากจุดยืนต่อต้านฐานทัพสหรัฐฯ ของเขา ได้กล่าวหานายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ว่าดูแคลนเกาะแห่งนี้และประชาชนบนเกาะ

โอนากะ และชาวโอกินาวาจำนวนมากไม่ยอมรับข้อเสนอที่จะย้ายฐานทัพฟูเทนมะของนาวิกโยธินสหรัฐฯ ไปยังพื้นที่อื่นบนเกาะนี้ แต่ยืนกรานให้ย้ายออกไปจากเกาะแห่งนี้แทน

เขาบอกในการแถลงข่าวที่กรุงโตเกียวว่า เขาจะบอกกับพวกคนที่เขาพบในวอชิงตันว่า การเพิกเฉยต่อความประสงค์ของชาวโอกินาวาจะทำลายชื่อเสียงของทั้ง 2 ประเทศ โดยเฉพาะในเอเชีย ซึ่งความเป็นพันธมิตรของพวกเขาถูกมองว่าเป็นการทันทานอิทธิพลของจีนที่กำลังเพิ่มทวี

“หากเราไม่สร้างความเป็นพันธมิตรด้วยความมีเกียรติและความภาคภูมิ ซึ่งทั้งญี่ปุ่นละอเมริกาต่างสมควรได้รับจากความเคารพ ผมไม่เชื่อว่าเศรษฐกิจในเอเชียจะเติบโตได้อย่างมั่นคงกว่านี้” โอนากะ กล่าว

“หากประเด็นนี้ถูกดึงออกไปมากกว่านี้ มันจะกระทบต่อศักดิ์ศรีของญี่ปุ่น” เขากล่าว และพูดต่อว่า “ประเทศที่ต้องการเป็นผู้นำของเอเชียกับประเทศที่ต้องการเป็นผู้นำของโลก หากพวกเขาไม่สามารถปกป้องสิทธิมนุษยชน , ความเท่าเทียม และประชาธิปไตยสำหรับประชาชนของพวกเขาเองได้ ผมไม่คิดว่าพวกเขาจะสามารถเป็นผู้นำได้จริงๆ"

ในปี 1996 สหรัฐฯและญี่ปุ่นมีความเห็นพ้องที่จะปิดฐานทัพฟูเทนมะ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ผู้อยู่อาศัยชุกชุมของเกาะแห่งนี้ แต่แผนการที่จะย้ายมันไปยังสถานที่ใหม่ได้หยุดลงกลางคัน เมื่อเผชิญกับกระแสต่อต้านจากผู้อยู่อาศัย ซึ่งพวกเขาจำนวนมากใช้ชีวิตอยู่ละแวกฐานทัพสหรัฐฯ ที่มีทั้งเสียงดัง , มลพิษ และอาชญากรรม

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวโอกินาวาได้รวมตัวกันประท้วงต่อต้านการย้ายฐานทัพดังกล่าวไปยังที่ดินที่จะถูกปรับปรุงใหม่ใกล้กับเมืองเฮโนโกะในตอนเหนือของโอกินาวา โดยเรียกร้องว่า ฐานทัพดังกล่าวควรถูกย้ายออกไปจากเกาะแห่งนี้

ความโกรธเกรี้ยวได้เพิ่มสูงขึ้นนับตั้งแต่การตกอย่างรุนแรงของเครื่องบินออสเปรย์ชนิดปรับใบพัดของสหรัฐฯ ลำหนึ่งในเกาะฮาวายเมื่อวันอาทิตย์ (17) โดยเครื่องบินออสเปรย์ซึ่งมีเสียงที่สร้างความรำคาญนี้มีกำหนดที่จะถูกนำเข้ามาประจำการที่ฐานทัพเฮโนโกะ

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000057521

 

แผ่นดินไหว 6.9 นอกชายฝั่ง “หมู่เกาะโซโลมอน” ไร้คำเตือนสึนามิ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤษภาคม 2558 08:21 น.



เอเอฟพี – เกิดแผ่นดินไหวใต้ทะเลขนาด 6.9 ตามมาตราแมกนิจูดที่นอกชายฝั่งหมู่เกาะโซโลมอนในมหาสมุทรแปซิฟิกวันนี้ (21 พ.ค.) ทว่าไม่มีประกาศเตือนสึนามิ และคาดว่าจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรง สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) รายงาน

แผ่นดินไหวครั้งนี้เกิดขึ้นที่ความลึก 19 กิโลเมตร ศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองลาตาและกรุงโฮนีอารา 184 และ 487 กิโลเมตรตามลำดับ และติดตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกขนาด 4.9

“จากข้อมูลที่มีอยู่ เชื่อว่าแผ่นดินไหวครั้งนี้จะไม่ก่อให้เกิดคลื่นสึนามิ” ศูนย์เตือนภัยสึนามิในมหาสมุทรแปซิฟิก แถลง

หมู่เกาะโซโลมอนตั้งอยู่ในแนว “วงแหวนไฟ” รอบมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นบริเวณรอยต่อของแผ่นเปลือกโลกที่เกิดกิจกรรมแผ่นดินไหวและภูเขาไฟระเบิดบ่อยครั้ง

“นี่คือภูมิภาคหนึ่งที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวมากที่สุดในโลก ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงเกิน 6.0 มากกว่า 30 ครั้ง” มาร์โก มัลโดนี ผู้เชี่ยวชาญด้านแผ่นดินไหวจากสถาบัน Geoscience Australia ให้สัมภาษณ์

“แผ่นดินไหวใต้ทะเลมักไม่ทำให้เกิดความเสียหายโดยตรง แต่ความเสียหายจะมากับคลื่นสึนามิ ซึ่งเกิดจากพลังแผ่นดินไหวที่ปลดปล่อยออกสู่ผืนน้ำ”
แผ่นดินไหวใต้ทะเลขนาด 8.0 เมื่อปี 2013 ทำให้เกิดสึนามิขนาดใหญ่ซัดชายฝั่งหมู่เกาะโซโลมอน คร่าชีวิตชาวบ้านไปอย่างน้อย 10 ราย และยังทำให้อาคารบ้านเรือนเสียหาย ผู้คนไร้ที่อยู่อาศัยหลายพันคน

 

น้ำมันขึ้นหลังสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯลด หุ้นมะกันทรงตัว-ทองปิดบวก
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤษภาคม 2558 05:19 น.



เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันขยับขึ้นพอสมควรในวันพุธ(20พ.ค.) หลังข้อมูลพบคลังเชื้อเพลิงสำรองและกำลังผลิตของสหรัฐฯลด ส่วนวอลลล์สตรีทปิดผสมผสานและทองคำบวกเล็กน้อย ตามหลังเฟดเผยแพร่รายงานการประชุม minutes

น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ ปิดที่ 58.98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.01 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ข้อมูลจากกระทรวงพลังงานสหรัฐฯพบว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 พฤษภาคม ลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล ขณะที่กำลังผลิตก็ลดลง 112,000 ต่อวันเหลือ 9.26 ล้านบาร์เรลต่อวัน

อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันวานนี้(20พ.ค.)ไม่ได้ปรับขึ้นรุนแรงนัก เนื่องจากยังมีความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาดและการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(20พ.ค.) ปิดในกรอบแคบๆ แม้ช่วงหนึ่งพุ่งขึ้นช่วงสั้นๆ หลังรายงานการประชุมนโยบายของธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) ก่อข้อสงสัยเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการขึ้นดอกเบี้ยช่วงเดือนมิถุนายน

ดาวโจนส์ ลดลง 26.99 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,285.40 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 1.98 จุด (0.09 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,125.85 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 1.71 จุด (0.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,071.74 จุด

วอลล์สตรีททะยานช่วงสั้นๆในช่วงบ่าย หลังจากเฟดเผยแพร่รายงาน minutes ประจำการประชุมนโยบายทางการเงินระหว่างวันที่ 28-29 เมษายน ระบุผู้เข้าร่วมประชุมจำนวนมาก ไม่คิดว่าข้อมูลที่เข้ามาในเดือนมิถุนายน จะเพียงพอสำหรับยืนยันถึงเงื่อนไขต่างๆสำหรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอย่างเหมาะสมตามขอบเขตเป้าหมาย แม้ไม่ตัดความเป็นไปได้ใดๆ

ด้วยรายงาน minutes บ่งชี้ว่าเหล่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินเห็นว่ายังเร็วเกินไปที่จะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายนนี้ ส่งผลให้ราคาทองคำเมื่อวันพุธ(20พ.ค.) ขยับขึ้นเล็กน้อย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,208.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000057680

 

WHO ยัน ยังพบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลารายใหม่ต่อเนื่องในกินี-เซียร์ราลีโอน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤษภาคม 2558 05:18 น.



เอเจนซีส์-องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยในวันพุธ (20 พ.ค.) พบผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลารายใหม่ถึง 35 คนในรอบ 7 วันนับถึงวันอาทิตย์ (17) ที่ผ่านมาในกินีและเซียร์ราลีโอน ถือเป็นการพบผู้ติดเชื้อใหม่ซึ่งพุ่งสูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพียง 9 คน

ในจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสอีโบลารายใหม่ 35 คนนี้ เป็นผู้ที่ติดเชื้อในกินีสูงถึง 27 คน ขณะที่ยอดรวมของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกเพิ่มเป็น 26,933 คน ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตล่าสุดอยู่ที่ 11,120 คน

ก่อนหน้านี้เมื่อ 9 พ.ค. WHO เพิ่งประกาศให้ไลบีเรียปลอดจากเชื้ออีโบลา แต่สถานการณ์ในกินีและเซียร์ราลีโอนยังคงน่าเป็นห่วง

รายงานข่าวยังระบุว่า พบเจ้าหน้าที่สาธารณสุขชาวเซียร์ราลีโอนรายหนึ่งติดเชื้ออีโบลา ขณะให้การดูแลผู้ติดเชื้อใกล้กับกรุงฟรีทาวน์ ถือเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขรายแรกในรอบ 5 สัปดาห์ที่ติดเชื้อไวรัสมรณะนี้

ข้อมูลของ WHO ระบุว่า นับตั้งแต่เกิดการระบาดของเชื้ออีโบลาระลอกล่าสุดในแอฟริกาตะวันตก มีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อไปแล้ว 869 คนซึ่งในจำนวนนี้ 507 คนเสียชีวิตไปแล้ว


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000057678

 

สหรัฐฯประกาศพร้อมช่วย'อาเซียน'อ้าแขนรับผู้อพยพ'โรฮีนจา'บางส่วน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤษภาคม 2558 04:30 น. (แก้ไขล่าสุด 21 พฤษภาคม 2558 04:31 น.)



เอเอฟพี -โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯระบุในวันพุธ(20พ.ค.) อเมริกาพร้อมช่วยเหลือเหล่าชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แบกรับภาระระลอกคลื่นผู้อพยพที่ลอยลำอยู่กลางทะเล แต่เตือนว่ามันควรเป็นความพยายามของนานาชาติ ไม่ใช่แค่การนำของวอชิงตันเพียงลำพัง

ระหว่างการแถลงยินดีต่อการตัดสินใจของมาเลเซียและอินโดนีเซียที่ประกาศหยุดผลักดันผู้อพยพที่แออัดอยู่บนเรืออันง่อนแง่น แมรี ฮาร์ฟ บอกว่าสหรัฐฯจะช่วยหน่วยงานต่างๆของสหประชาชาติจัดตั้งศูนย์คุ้มครองผู้อพยพและจะพิจารณาคำร้องขอตั้งรกรากของผู้อพยพบางส่วน"

"วันนี้สหรัฐฯพร้อมช่วยประเทศต่างๆในภูมิภาคแบกรับภาระและปกป้องชีวิต เรามีพันธกิจร่วมกันในการตอบสนองเสียงเรียกร้องจากผู้อพยพเหล่านี้ที่เสี่ยงชีวิตอยู่กลางทะเล" เธอบอกกับผู้สื่อข่าว

โทนี บลินเกน รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศสหรัฐฯ อยู่ระหว่างเดินทางเยือนภูมิภาคและจะพบปะกับเหล่าผู้นำพม่าในวันพฤหัสบดี(21พ.ค.) เพื่อเรียกร้องพวกเขาทำงานร่วมกับบังกลาเทศ ให้ความช่วยเหลือเหล่าผู้อพยพที่ลอยลำอยู่กลางทะเล "เรายังกังวลต่อปัจจัยต่างๆที่ผลักดันคนเหล่านั้นตัดสินใจเสี่ยงชีวิตกลางทะเล ในนั้นรวมถึงนโยบายของพม่าต่อชนกลุ่มน้อยโรฮีนจา รวมถึงแรงจูงใจถูกเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติและศาสนา" ฮาร์ฟกล่าว

ก่อนหน้านี้ในวันพุธ(20พ.ค.) พม่า ซึ่งนโยบายต่อชนกลุ่มน้อยโรฮีนจาของพวกเขา ถูกกล่าวโทษอย่างกว้างขวางว่าเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการไหลบ่าของผู้อพยพ ก็มีท่าทีโอนอ่อนลง โดยเสนอมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้อพยพที่ได้รับความเดือดร้อนเหล่านั้น

ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ถูกองค์กรระหว่างประเทศติเตียนอย่างรุนแรงที่ไม่รับเรือประมงซึ่งมีชาวมุสลิมโรฮีนจาและชาวบังกลาเทศโดยสารมานับร้อยๆขึ้นฝั่ง ทั้งที่ผู้อพยพเหล่านี้อยู่ในสภาพอ่อนระโหย และขาดแคลนทั้งอาหารและน้ำดื่ม

ในคำแถลงดังล่าวยืนยันด้วยว่าตัวแทนระดับสูงของสหรัฐฯจะเข้าร่วมประชุมฉุกเฉินเรื่องวิกฤติผู้อพยพที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ในกรุงเทพฯ วันที่ 29 พฤษภาคมนี้

นับตั้งแต่เดือนตุลาคม มีชาวโรฮีนจาแล้วมากกว่า 1,000 คน ได้ตั้งรกรากในสหรัฐฯ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอเมริกาบอกว่าวอชิงตันจะรับบทบาทผู้นำในการให้ความช่วยเหลือรับผู้อพยพบางส่วนที่อ่อนแอที่สุด แต่เธอเตือนว่ามันควรเป็นความพยายามของนานาชาติ ไม่ใช่นำโดยสหรัฐฯเพียงลำพัง

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000057673

 

เป็นเรื่อง!อิตาลีรวบก่อการร้ายเอี่ยวถล่มพิพิธภัณฑ์ตูนิเซีย แฝงตัวมากับเรือผู้อพยพ โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤษภาคม 2558 02:31 น.



เอเอฟพี - ทางการอิตาลีเมื่อวันพุธ(20พ.ค.) เผยได้ดำเนินการควบคุมตัวผู้อพยพเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายชาวโมร็อกโกคนหนึ่ง ฐานต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีนองเลือดพิพิธภัณฑ์ตูนิเซีย กระพือข้อถกเถียงเกี่ยวกับภัยคุกคามจากนักรบญิฮัดที่เดินทางเข้ามายังยุโรป โดยอาศัยแฝงตัวมากับเรือผู้อพยพ

https://youtu.be/dGL0pGy0rTs

เจ้าหน้าที่ในตูนิเซียรวบตัวผู้ต้องสงสัยกว่า 40 คนในความเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีเมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งคร่านักท่องเที่ยว 21 ศพ แต่นายอับเดล มาจิด ตูอิล วัย 22 ปี เป็นรายแรกที่ถูกควบคุมตัวในต่างแดน

ตามข้อมูลของตำรวจพบว่านายตูอิล ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวฐานฆาตกรรมโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ลักพาตัวและก่อการร้าย ถูกควบคุมตัวในช่วงค่ำวันอังคาร(19พ.ค.) ตามหมายจับสากลที่ออกโดยตำรวจต่อต้านก่อการร้ายของอิตาลีในเมืองกักกิอาโน ทางเหนือของประเทศ

เขาอาศัยเรืออพยพเดินทางมาถึงอิตาลีตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และไปพักอาศัยอยู่กับแม่และพี่ชาย 2 คนซึ่งเป็นพลเมืองตามกฎหมายของอิตาลี ในเมืองซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆเมืองมิลาน ขณะที่ตำรวจยึดกระดาษเอกสารและแฟลชไดรฟ์ยูเอสบีมาจากบ้านหลังดังกล่าว

เหตุโจมตีพิพิธภัณฑ์แห่งชาติบาร์โดเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 24 ราย ประกอบด้วยมือปืน 2 คน ตำรวจตูนิเซีย 1 นาย ส่วนที่เหลือเป็นนักท่องเที่ยวจากอิตาลี ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส สเปน โคลอมเบีย ออสเตรเลีย อังกฤษ เบลเยียม โปแลนด์และรัสเซีย

ในเวลานั้นเหล่านักท่องเที่ยวที่กำลังลงจากรถทัวร์ซึ่งจอดอยู่ด้านนอกพิพิธภัณฑ์ แต่ถูกมือปืนชุดดำ 2 คนใช้ปืนอัตโนมัติกราดยิงเข้าใส่ไม่เลือกหน้า จากนั้นคนร้ายก็จับตัวประกันอยู่ภายในตัวอาคาร ทั้งนี้หลังจากอาละวาดทั่วพิพิธภัณฑ์นานหลายชั่วโมง ผู้ก่อเหตุได้ถูกกองกำลังความมั่นคงจู่โจมสังหาร ขณะที่รายงานข่าวระบุว่าในบรรดานักท่องเที่ยวที่เสียชีวิตน้น จำนวนมากถูกยิงบริเวณหลังในระหว่างที่พวกเขากำลังวิ่งหนี

ช่วงปลายเดือนมีนาคม กองกำลังความมั่นคงตูนิเซียวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องสงสัยสมาชิกกลุ่มนักรบญิฮัด 9 คน ซึ่งต้องสงสัยว่าอยู่เบื้องหลังเหตุกราดยิงที่พิพิธภัณฑ์ ขณะที่กลุ่มโอคบา อิบ์น นาฟาอะ ออกมาอ้างว่าเป็นผู้บงการเหตุโจมตีครั้งนี้

เป็นเรื่อง!อิตาลีรวบก่อการร้ายเอี่ยวถล่มพิพิธภัณฑ์ตูนิเซีย แฝงตัวมากับเรือผู้อพยพ

นายเบจิ คาอิด เอสเซบซี ประธานาธิบดีของตูนิเซีย บอกไม่กี่วันหลังเกิดเหตุ ว่ามือปืนรายที่ 3กำลังหลบหนีอยู่ แต่ต่อมาก็ปรากฎว่าบางทีเขาคงอ้างถึงอีกหนึ่งผู้สมรู้ร่วมคิดที่ไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ

กระทรวงมหาดไทยตูนิเซียบอกกับเอเอฟพีในวันพุธ(20พ.ค.) ว่าพวกเขาได้ออกหมายจับสากลต่อชาวโมร็อกโก 2 คนและชาวแอลจีเรีย 1 คน ฐานต้องสงสัยเกี่ยวข้องทางอ้อมในเหตุโจมตี แต่ไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่าคนที่ถูกจับในอิตาลีเป็นหนึ่งในนั้นหรือไม่

ตำรวจระบุว่านายตูอิล อยู่ในอิตาลีก่อนเหตุโจมตี หลังลักลอบเข้าเมืองมาอย่างผิดกฎหมายในเดือนกุมภาพันธ์ ด้วยเรือที่บรรทุกผู้อพยพราวๆ 90 คน ทั้งนี้หัวหน้าตำรวจต่อต้านก่อการร้ายของอิตาลี เผยว่าต่อมานายตูอิลถูกสั่งเนรเทศ แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าแท้จริงแล้วเขาออกนอกประเทศหรือไม่ และหากเป็นจริงก็ไม่แน่ชัดว่าเขาเดินทางออกไปไหน ทำให้เกิดความคลุมเครือว่าเขาอยู่ที่ไหนในตอนที่เหล่าคนร้ายลงมือโจมตีพิพิธภัณฑ์

ข่าวคราวเกี่ยวกับการรวบตัวผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายที่ลอบเข้าอิตาลีผ่านช่องทางเรือผู้อพยพ กระพือเสียงคร่ำครวญจากเหล่านักการเมืองฝ่ายขวาทั้งหลาย โดยนายมัตเตโอ ซัลวินี พรรคนอร์ทเทิร์น ลีก ซึ่งมีนโยบายต่อต้านคนอพยพ เรียกร้องรัฐบาลระงับความตกลงเชงเกน(Schengen agreement) ที่ยินยอมให้มีการคลื่อนย้ายเสรีของบุคคลภายในดินแดนของรัฐภาคีในทวีปยุโรป

"หน่วยข่าวกรองลิเบียบอกว่าเรือผู้อพยพทั้งหลายมาพร้อมกับพวกก่อการร้ายรัฐอิสลาม วันนี้ที่เมืองมิลานของผม ชาวแอฟริกาเหนือคนหนึ่งถูกจับกุมฐานเกี่ยวข้องกับเหตุสังหารหมู่ในตูนิเซีย ปิดพรมแดนเสีย ก่อนที่มันจะสายไป" นายซัลวินีกล่าว

พวกหัวรุนแรงอิสลามิคเพิ่มขึ้นอย่างมากในตูนิเซีย นับตั้งแต่ประธานาธิบดีไซเน อัล-อบิดีน เบน อาลี ถูกโค่นอำนาจในปี 2011 ขณะที่ทางการเผยว่ามีชาวตูนิเซียราว 3,000 คน ที่มุ่งหน้าสู่อิรัก ซีเรียและลิเบีย เพื่อร่วมรบเคียงข้างพวกญิฮัด ก่อความกังวลว่าพวกเขาจะกลับมาพร้อมกับแผนโจมตีในแผ่นดินเกิด


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000057656

 

อเมริกาฟ้องกลุ่มนักวิชาการจีนรวมหัวจารกรรมเทคโนโลยีมือถือ
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤษภาคม 2558 01:31 น.



เอเจนซีส์ - รัฐบาลสหรัฐฯตั้งข้อหาจารกรรมทางเศรษฐกิจต่อบุคคลสัญชาติจีนรวม 6 คนในจำนวนนี้เป็นศาสตราจารย์ 3 คนจากมหาวิทยาลัยเก่าแก่ของแดนมังกร โดยระบุว่าคนเหล่านี้ขโมยความลับทางการค้าเกี่ยวกับเทคโนโลยีโทรศัพท์มือถือจากบริษัท 2 แห่ง เพื่อผลประโยชน์ของมหาวิทยาลัยและรัฐวิสาหกิจที่ควบคุมโดยปักกิ่ง ทั้งนี้ตามการแถลงของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯในวันอังคาร (19 พ.ค.) ขณะที่ทางการจีนระบุในวันพุธ (20) ว่า “มีความกังวลอย่างแรงกล้า” เกี่ยวกับเรื่องนี้

ในคำฟ้องคดีอาญารวม 32 กระทงภายใต้กฎหมายการจารกรรมข้อมูลเศรษฐกิจปี 1996 ที่ฝ่ายอัยการสหรัฐฯยื่นต่อศาลเมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมาแต่เพิ่งเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (19) นั้น ระบุว่า หนึ่งในบุคคลที่ถูกกล่าวหาคือ ศาสตราจารย์เฮ่า จาง ที่ถูกจับกุมเมื่อวันเสาร์ (16) ขณะเดินทางถึงสนามบินลอสแองเจลีส ส่วนอีก 5 คนคาดว่ายังอยู่ในจีน

บุคคลทั้งหมดนี้อาจถูกจำคุกนานถึง 50 ปี หากศาลตัดสินว่า มีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาซึ่งมีทั้ง การจารกรรมข้อมูลเศรษฐกิจ ขโมยความลับทางการค้า และสมรู้ร่วมคิด เป็นต้น

คำฟ้องของฝ่ายอัยการบรรยายว่า แผนการของคนเหล่านี้คือขโมยเทคโนโลยี FBAR ที่โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์อื่นๆ ใช้ในการกรองสัญญาณวิทยุและปรับปรุงประสิทธิภาพ จากนั้นก็แอบอ้างว่าพวกเขาเป็นผู้พัฒนาเพื่อยื่นขอสิทธิบัตรทั้งในอเมริกาและจีน

กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า จำเลยเหล่านี้วางแผนขายส่วนประกอบ FBAR ให้แก่ผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือชั้นนำ อาทิ ซัมซุง โดยคาดการณ์ว่า ตลาดส่วนนี้มีมูลค่าถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2006

เมลินดา แฮ็ก อัยการสหรัฐฯ แถลงว่า คดีนี้ตอกย้ำว่า เทคโนโลยีอ่อนไหวที่พัฒนาโดยบริษัทอเมริกันยังคงเสี่ยงถูกโจรกรรมภายใต้การสนับสนุนของรัฐบาลต่างชาติ

เดวิด จอห์นสัน เจ้าหน้าที่พิเศษของสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ในซานฟรานซิสโก ขานรับว่า แผนการนี้เป็นความพยายามอย่างเป็นระบบและอดทนโดยต่างชาติที่ต้องการขโมยเทคโนโลยีมีค่าของอเมริกาเพื่อนำไปแสวงหาผลประโยชน์โดยการใช้บุคคลที่ดำเนินการอยู่ในอเมริกา

ทั้งนี้ ภายใต้แผนการที่ถูกกล่าวหาว่า เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2006 นั้น จำเลยทั้งหกร่วมมือกันเพื่อขโมยความลับทางการค้าจากบริษัทอวาโก เทคโนโลยีส์ ที่มีฐานอยู่ในแคลิฟอร์เนีย และบริษัทสกายเวิร์กส์ โซลูชันส์ ในแมสซาชูเสตส์

เอกสารคำฟ้องบรรยายว่า ฝ่ายการลงทุนของมหาวิทยาลัยเทียนจิน และบุคคลกลุ่มหนึ่ง ซึ่งรวมถึงจำเลยบางคน ได้ร่วมกันตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อว่า อาร์โอเอฟเอส ไมโครซิสเต็มส์ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ขโมยมา โดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า ความลับทางการค้านี้ช่วยให้มหาวิทยาลัยเทียนจินสร้างโรงงานผลิตชิป FBAR

จาง วัย 36 ปี เคยเป็นพนักงานของสกายเวิร์กส์ และขณะนี้เป็นศาสตราจารย์เต็มเวลาของมหาวิทยาลัยเทียนจิน

ผู้ถูกกล่าวหาคนอื่นๆ ได้แก่ เว่ย ปัง วัย 35 ปี ที่เคยทำงานให้อวาโก และปัจจุบันเป็นศาสตราจารย์เต็มเวลาของมหาวิทยาลัยเทียนจินเช่นเดียวกัน, จินปิง เฉิน วัย 41 ปี ศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยเทียนจินและสมาชิกในคณะกรรมการบริการของอาร์โอเอฟเอส, ฮุยซุย จาง วัย 34 ปี เคยเรียนกับปังและเฮ่า จาง ที่มหาวิทยาลัยเซาเทิร์น แคลิฟอร์เนีย (ยูเอสซี), ซ่ง โจว วัย 26 ปี นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัยเทียนจิน และเจ้า กัง วัย 39 ปี ผู้จัดการทั่วไปของอาร์โอเอฟเอส

จากเอกสารคำฟ้อง ปังและเฮ่า จาง พบกันขณะเรียนปริญญาเอกสาขาวิศวกรรมไฟฟ้าที่ยูเอสซี ซึ่งทั้งคู่ทำวิจัยโดยได้รับทุนจากสำนักงานโครงการวิจัยขั้นสูงด้านกลาโหม (DARPA) ของอเมริกา

หลังจากเรียนจบ ปังเข้าทำงานกับอวาโก ส่วนจางทำงานให้สกายเวิร์กส์

ระหว่างปี 2006-2007 ปังและจางร่างแผนเริ่มผลิตเทคโนโลยีที่ขโมยมาขึ้นในจีน และหารือเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่หลายคนของมหาวิทยาลัยเทียนจิน ต่อมาในปี 2009 ทั้งคู่ลาออกจากบริษัทอเมริกันและบินกลับไปสอนที่เทียนจิน

ทางด้านมหาวิทยาลัยเทียนจินที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1895 และถือเป็นสถาบันอุดมศึกษาเก่าแก่ที่สุดของจีน เจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ประสงค์จะออกนามผู้หนึ่งกล่าวกับผู้สื่อข่าวเพียงว่า มหาวิทยาลัยกำลังดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้ในทันที

ขณะที่ หง เหล่ย โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน บอกกับผู้สื่อข่าวในระหว่างการแถลงข่าววาระปกติว่า “รัฐบาลจีนขอแสดงความกังวลอย่างแรงกล้าเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น และเรากำลังตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติม”

หงไม่ให้ความเห็นเมื่อถูกสอบถามว่าเรื่องนี้จะบ่อนทำลายความสัมพันธ์จีน-อเมริกันหรือไม่ แต่กล่าวว่ารัฐบาลจีนจะดำเนินการเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า “สิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของบุคลากรชาวจีน จะได้รับการเคารพ”

ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ในรอบหลายปีที่ผ่านมา ที่อเมริกากล่าวหาคนจีนจารกรรมข้อมูลเศรษฐกิจในนามรัฐบาลจีน และเรื่องนี้อาจทำให้วอชิงตันและปักกิ่งหมางใจกันอีก หลังจากสัปดาห์ที่แล้ว จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เพิ่งเดินทางเยือนปักกิ่ง และออกปากแสดงความกังวลเรื่องกิจกรรมของจีนในทะเลจีนใต้


http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000057657