ข้อความจากต่างมิติ - ข้อความชุด Morning messages จาก The Team

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chayutt, 13 มีนาคม 2015.

  1. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 54: Ego หรือ ผู้จัดการ (ตอนที่ 2)"

    a.jpg
    (credit the picture from internet)

    Ego ของพวกคุณจะทำให้พวกคุณเอาแต่จดจ่ออยู่กับมิติที่ 3 แห่งนี้ และถ้าเมื่อใดที่พวกคุณรู้ความจริงในข้อนี้แล้ว พวกคุณก็จะยอมรับในบทบาทหน้าที่ของเจ้าอีโก้นี้ ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้จัดการให้กับชีวิตของพวกคุณ

    แต่ว่าในตอนนี้ “พวกคุณ” ซึ่งหมายถึงส่วนที่เป็นตัวตนหลากมิติของพวกคุณเอง ได้กลับเข้ามามีส่วนสำคัญในชีวิตของพวกคุณโดยตรงแล้ว ในฐานะที่เป็นส่วนที่มีสติสัมปชัญญะและมีวิวัฒนาการสูงแล้วของพวกคุณ

    และเมื่อตัวตนหลากมิติที่ของพวกคุณเข้ามามีส่วนร่วมแบบเต็มรูปแบบในความตระหนักรู้ของพวกคุณแล้ว พวกคุณก็จะค่อย ๆ ประจักษ์ว่า และจดจำได้ว่าพวกคุณสามารถท่องไปและมีประสบการณ์กับหลากหลายโลกแห่งความเป็นจริง หรือกรอบของกาลเวลา และมิติต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดายและสนุกสนาน

    นี่คือการตื่นรู้ครั้งยิ่งใหญ่และครั้งสำคัญของพวกคุณ ที่กำลังเกิดขึ้นบนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณอยู่ในขณะนี้

    มีมนุษย์โลกจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วที่กำลังเริ่มตระหนักรู้ว่า พวกเขากำลังเชื่อมประสานอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริงต่าง ๆ จำนวนมากมายอยู่ และก็กำลังได้รับผลกระทบจากโลกแห่งความเป็นจริงเหล่านั้นอยู่ ในหลากหลายระดับ (level) และหลากหลายชั้น (layer) ในทุก ๆ ชั่วขณะ

    ซึ่งการซ้อนเหลื่อมกันและการมีผลกระทบต่อกันและกัน ของมิติต่าง ๆ ดังกล่าวนี้ พวกมันจะถักทอซึ่งกันและกัน อยู่จนกลายเป็นแผ่นผืนของมิติโดยรวมทั้งหมดขึ้นมา ซึ่งพวกคุณในฐานะที่เป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติรูปธรรมหนึ่ง มิติเหล่านี้ หรือสนามพลังงานเหล่านี้ และแมทตริกซ์เหล่านี้ จะมีความเป็นจริงเป็นจังอย่างมากสำหรับพวกคุณ และพวกคุณก็สามารถที่จะมองเห็นพวกมันได้จริง ๆ ซะด้วย

    มันจะเหมือนกับการตื่นขึ้นมาจากความฝัน ซึ่งในความฝันนั้นพวกคุณจะมีความเชื่อว่าฝันนั้นคือความจริง แต่ว่าเมื่อพวกคุณตื่นขึ้นมาแล้ว พวกคุณก็ถึงจะรู้ว่าที่เข้าใจไปว่ามันคือความจริงเมื่อสักครู่นี้นั้น แท้ที่จริงแล้วมันคือความฝันเท่านั้นเอง

    และตอนนี้พวกคุณก็กำลังทะยอยกันตื่นขึ้นมาจากความฝันของตัวเองอยู่ เพื่อเข้ามาสู่ความเป็นหลากมิติ ซึ่งเป็นที่ ๆ ตัวตนที่แท้จริงของพวกคุณกำลังดำรงอยู่และก็กำลังเล่นกันอยู่

    “ความเป็นหลากมิติ” ดังกล่าวนี้ มันคือสนามพลังงานสนามหนึ่งที่ ๆ กระแสความคิดทั้งหลายจะถูกเนรมิตออกมาในทันทีทันใด มันคือโลกแห่งความเป็นจริงที่พวกคุณจะสามารถท่องไปในกรอบของกาลเวลาไหน ๆ ก็ได้ หรือท่องไปในโฮโลเกม (Hologame) ไหน ๆ ก็ได้เท่าที่พวกคุณจะสามารถจินตนาการได้ เพราะว่ามันเป็นโลกแห่งความเป็นจริงโลกหนึ่งที่มีลักษณะเป็นของไหล

    เพราะฉะนั้นแล้ววันนี้ ลองมาเริ่มต้นด้วยการมีสติสัมปชัญญะอยู่กับโลกแห่งความเป็นจริงอย่างน้อย 2 โลกดูสิ โดยการยินยอมให้ตัวเองเข้าไปอยู่ใน “จุดหยุดนิ่ง” (still point) ที่อยู่ภายในตัวของพวกคุณเอง ซึ่งเป็นที่ ๆ มีความสมดุลจากภายในอยู่ แล้วจากนั้นก็จงยินยอมให้ตัวเองสังเกตเห็นสิ่งที่ตัวเองสัมผัสได้หรือรู้สึกได้ จงผ่อนคลายเมื่ออยู่ในกระบวนการสำรวจนี้

    ให้พวกคุณทำตัวเหมือนกับเด็ก ๆ ที่กำลังเล่นเกมซ่อนหากันอยู่ โดยเริ่มต้นจากการตระหนักรู้ว่า มันมีโลกแห่งความเป็นจริงอื่นๆที่ดูเหมือนว่าจะกำลังซุกซ่อนอยู่ อยู่อีกมากมายก่ายกอง ให้สังเกตดูความเชื่อต่าง ๆ ของตัวเองที่มีต่อโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพนี้ให้ดี แล้วให้ลดระดับความเหนียวแน่นของความเชื่อเหล่านั้นลง เมื่อพวกมันถูกค้นพบแล้ว แล้วจากนั้นก็ให้ยินยอมให้โลกแห่งความเป็นจริงอื่น ๆ หรือสนามพลังงานอื่น ๆ ปรากฎขึ้นมาให้เห็นได้

    รอบ ๆ ตัวพวกคุณนั้นมันจะมีพลังงานต่าง ๆ โอบล้อมอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าพวกคุณมีความไวพอ พวกคุณก็จะสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับพวกมันได้ จากความตระหนักรู้ของความเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติของพวกคุณเอง จงลองฝึกฝนทักษะนี้ดู

    The Team
    ..............................................................
    Source: Morning Messages
    ..............................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  2. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 55: ความกลัว"

    a.jpg
    (credit the picture from internet)

    เมื่อใดที่มนุษย์โลกประสบกับความกลัว พวกเขาจะตกลงไปอยู่ในสภาวะที่จะทำอะไรออกไปโดยอัตโนมัติ

    มันคือ “ความกลัว” นี้เองที่ทำให้มนุษย์โลกสามารถถูกบงการได้ ไม่ว่ามันจะเป็นการกลัวหมอฟัน หรือกลัวความตาย หรือกลัวเรื่องร้าย ๆ ที่ปรากฎอยู่ในข่าวภาคค่ำก็ตาม ซึ่งในสภาวะที่ไร้จิตสำนึกนี้เอง ที่การปฏิบัติการของจิตใจจะเป็นไปโดยอัตโนมัติ ที่ ๆ ชาวโลกส่วนใหญ่มักจะสั่นสะเทือนอยู่กัน เพราะความกลัวคือกุญแจสำคัญ ในการกระตุ้นความไม่สมดุลและความไร้สติให้บังเกิดขึ้น

    เคยสังเกตไหมว่า เวลาที่พวกคุณกลัวนั้นพวกคุณจะไร้พลังอำนาจทันที พวกคุณจะถูกบงการได้อย่างง่ายดาย พวกคุณจะตัดขาดการเชื่อมต่อกับแหล่งกำเนิดของตัวเอง พวกคุณจะตกลงไปอยู่ในสภาวะที่แสดงพฤติกรรมออกมาอย่างไร้สติ เพราะว่าความกลัวจะกลายไปเป็นกุญแจที่จะไปเปิดประตูบานนั้นออกมา ความกลัวจะไปกระตุ้นความรู้สึกว่าไม่มั่นคงปลอดภัยของพวกคุณขึ้นมา

    เพราะฉะนั้นแล้ว จงขยันหมั่นเพียร และจงมีสติรู้อยู่เสมอ และจงจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่า ประสบการณ์ไหน หรือความคิดไหน หรือรูปภาพอะไร หรือคำพูดไหน ที่สามารถจะมากระตุ้นให้พวกคุณเกิดความกลัวขึ้นมาได้

    จงมีสติรู้ถึงวิถีการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองไปสู่ความกลัว หรือวิถีที่พวกคุณทำให้ตัวเอง เฉไฉออกไปสู่ความกลัว แล้วจงคิดถึงเครื่องไม้เครื่องมือที่พวกคุณได้เรียนรู้กันมาแล้ว แล้วจงใช้พวกมันเพื่อรักษาความรู้สึกของตัวเอง หรือความสั่นสะเทือนของตัวเอง ให้ห่างไกลจากความกลัวมากที่สุด

    และเมื่อใดที่พวกคุณเกิดความกลัวขึ้นมา ให้คว้ามันเอาไว้ ก่อนที่มันจะหลบซ่อนตัวไปซะก่อน แล้วจากนั้น ก็ให้เปิดโปงมันออกมา แล้วแสดงมันออกมา แล้วก็ส่งพลังงานแห่งความรักไปให้มัน แล้วก็ปลดปล่อยมันไป “ความกลัว” จะทำให้พวกคุณหลุดออกไปจากการอยู่ใน “ปัจจุบันขณะ”

    ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่พวกคุณรู้สึกว่าตัวเองมีความกลัวเกิดขึ้นมา ก็จงทำให้มันหมดฤทธิ์ไปเสีย ซึ่งพวกคุณสามารถใช้เครื่องไม้เครื่องมือที่เป็นเสียง หรือเป็นการแสดงออก หรือเป็นการแบ่งปัน หรือโดยการสำรวจตรวจค้นว่าทำไมความกลัวมันถึงเกิดขึ้นมาได้? หรือว่าความกลัวนี้มันมาจากไหน? และตัวพวกคุณเองได้ซุกซ่อนมันเอาไว้นานแค่ไหนแล้ว? เป็นต้น


    พวกคุณสามารถที่จะจัดการกับความกลัวของตัวเองได้ด้วยความรัก และอย่างมีสติสัมปชัญญะ และเมื่อพวกคุณทำเช่นนั้นแล้วพวกคุณก็จะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น และก็จะพร้อมสำหรับคนอื่น ๆ มากขึ้นด้วย และพวกคุณก็จะเชื่อมต่ออยู่กับแหล่งกำเนิดของตัวเองมากขึ้นด้วย

    The Team
    ............................................................
    Source: Morning Messages
    ............................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  3. ยุพา

    ยุพา Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +53
    ขอบคุณค่ะ รออ่านต่อนะคะ



     
  4. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 56: แมทตริกซ์ของพลังงาน"

    a.jpg
    (credit the picture from internet)

    มนุษย์โลกไม่ค่อยได้อยู่ในมิติทางกายภาพนี้อย่างเต็มที่สักเท่าไหร่ เพราะว่าพวกเขาจะย้ายจากมิติโน้นไปสู่มิตินี้ และจากกรอบของกาลเวลานี้ไปสู่กรอบของกาลเวลาโน้นอยู่เสมอ ๆ ซึ่งเมื่อพวกเขาทำเช่นนั้นแล้ว พวกเขาก็จะทิ้งร่องรอยที่เป็นพลังงาน หรือกลิ่นอายที่เป็นความสั่นสะเทือนด้านอารมณ์เอาไว้ด้วย

    เด็ก ๆ สามารถที่จะเปลี่ยนระดับความตระหนักรู้ของตัวเองจากมิติหนึ่งไปสู่อีกมิติหนึ่งได้ค่อนข้างรวดเร็ว เพราะว่าพวกเขาไม่ตระหนักรู้ว่าพวกเขากำลังย้ายจากร่างกายเนื้อนี้ไปสู่ที่อื่นอยู่ เพราะว่าพวกเขาก็แค่ท่องเที่ยวไปตามธรรมชาติของตัวเองเท่านั้นเอง พวกเขาจะมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการย้ายจากสถานการณ์ในชีวิตที่ไม่สะดวกสบายไปสู่ที่ ๆ สะดวกสบายกว่า ซึ่งเมื่อใดที่พวกเขาย้ายจากสถานการณ์ที่ไม่สะดวกสบายอันนั้นแล้ว พวกเขาก็จะนำเอาร่องรอยทางพลังงานของความรู้สึกถูกข่มเหงรังแก หรือความรู้สึกเจ็บปวดติดตัวไปด้วย แล้วพวกเขาก็จะนำเอาความรู้สึกที่ไม่สะดวกสบายนี้ หรือความสั่นสะเทือนทางอารมณ์อันนี้ ไปปลูกฝังเอาไว้ในมิติอื่น ๆ หรือในกรอบของกาลเวลาอื่น ๆ เหล่านั้นด้วย

    ดังนั้น ความเจ็บปวดในชีวิตทั้งหลาย และความเจ็บปวดจากความสัมพันธ์ในครอบครัว จึงถูกทิ้งเอาไว้เป็นร่องรอยทางพลังงาน ซึ่งก็จะไปทำให้พลังงานของกรอบของกาลเวลา หรือมิติที่พวกเขาย้ายเข้าไปเยี่ยมนั้น เกิดลวดลายหรือสีสันต่าง ๆ เพิ่มขึ้นมาด้วย

    พวกเราขออธิบายโดยใช้ตัวอย่างเพื่อให้พวกคุณสามารถมองเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น ลองจินตนาการดูสิว่า มันมีบ้านหลังใหญ่อยู่หลังหนึ่ง ที่มีห้องอยู่หลาย ๆ ห้อง ซึ่งสมมุติให้แต่ละห้องคือแต่ละมิติ ซึ่งถ้าเด็กคนหนึ่งมีความรู้สึกชอกช้ำใจ หรือกำลังประสบกับความเจ็บปวดทางด้านร่างกาย, จิตใจ หรืออารมณ์อยู่ เด็ก ๆ ก็มักจะมีแนวโน้มที่จะย้ายจิตสำนึกหรือความตระหนักรู้ของตัวเองไปอยู่ที่อื่น พวกเขาจะพาตัวเองไปอยู่ในมิติอื่น ๆ

    ดังนั้น ตามตัวอย่างสมมุติอันนี้ ถ้าแต่ละห้องคือแต่ละมิติแล้วหละก็ เด็ก ๆ ก็จะทิ้งร่องรอยทางพลังงานเอาไว้ด้วย พวกเขาอาจจะเก็บความรู้สึกเจ็บปวดอันนั้น หรือความรู้สึกชอกช้ำใจอันนั้น เอาไว้ในห้องนอนด้านหลัง หรือเก็บเอาไว้ในห้องใต้ดิน หรือห้องใต้หลังคาเป็นต้น

    ดังนั้นในฐานะผู้ใหญ่..ในระหว่างที่พวกคุณกำลังจัดการกับความเจ็บปวดในอดีตของตัวเองอยู่นั้น พวกคุณก็จะต้องเดินทางท่องเที่ยวไปจากห้องหนึ่งไปสู่อีกห้องหนึง เพื่อไปปลดปล่อยความเจ็บปวดชอกช้ำเหล่านั้นให้หมดไป ซึ่งก็หมายความว่า พวกคุณจะต้องท่องเที่ยวไปจากมิติหนึ่งไปสู่อีกมิติหนึ่ง เพื่อไปคลายปม และไปปลดปล่อยโครงสร้างทางอารมณ์และจิตใจที่ถูกทอดทิ้งเอาไว้ตรงนั้นให้หมดไปเสีย

    แต่ความชอกช้ำใจบางอย่างก็ยากที่จะแก้ไขได้ และยากที่จะปลดปล่อยออกไปด้วย เพราะว่าคน ๆ นั้น เอาแต่เข้าห้องผิด หรือเข้าไปผิดมิติอยู่เรื่อย เพื่อไปค้นหาความสั่นสะเทือนที่เป็นต้นตอ หรือเป็นเมล็ดพันธุ์ของประสบการณ์ หรือความทรงจำแห่งความเจ็บปวดด้านอารมณ์หรือด้านจิตใจอันนั้น

    จงใช้จินตนาการ หรือมโนนิมิตรของพวกคุณสัมผัสรู้หรือรับรู้ถึงพลังงานที่เป็นร่องรอยอันนั้นที่ พวกคุณอาจจะทิ้งเอาไว้ในมิติต่าง ๆ หรือในกรอบของกาลเวลาต่าง ๆ ซึ่งความตระหนักรู้ของพวกคุณก็คือ อิสระภาพของพวกคุณ และเมื่อใดที่พวกคุณค้นพบร่องรอยทางอารมณ์ หรือร่องรอยทางพลังงานเหล่านั้นแล้ว ก็ให้พวกคุณค่อย ๆ ยอมรับเป็นเจ้าของพวกมันอย่างนุ่มนวล และด้วยความรัก แล้วจากนั้นก็ให้เปลี่ยนรูปแบบของพลังงานที่เจ็บปวดอันนั้นที่พวกคุณได้ทิ้งเอาไว้เบื้องหลังนั้น ให้กลายเป็นแสงสว่างเสีย ซึ่งด้วยวิธีการเยียวยาแบบนี้จะไปเปลี่ยนรูปแบบและไปยกระดับพลังงานของตัวพวกคุณเองและของคนอื่น ๆ ทุก ๆ คนให้สูงขึ้น

    มันมีผู้บำบัดจากหลากหลายมิติและจากหลากหลายกรอบกาลเวลาที่มาอยู่ที่นี่แล้ว เพื่อมารับใช้และมาให้ความช่วยเหลือพวกคุณผู้ที่ปราถนาจะทำงานบริการอันนี้

    The Team
    ..............................................................
    Source: Morning Messages
    ..............................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  5. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 57: ภาพเงาสะท้อน (Shadow Shapes)"

    a.jpg
    (credit the picture from internet)

    โลกแห่งความเป็นจริงที่พวกคุณกำลังมาสวมใส่ร่างกายเนื้อกันอยู่นี้ มันมีความสวยงามและความน่าพิศวงอยู่มากมาย และมันก็ทำให้พวกคุณมีโอกาสได้แสดงความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกประทับใจออกมาด้วย ซึ่งจากมุมมองของพวกเราแล้ว โลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพของพวกคุณอันนี้ มันก็คือพลังงานแสงสว่างที่กำลังสั่นสะเทือนอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เท่านั้นเอง เพียงแต่ว่าอุปกรณ์ทางกายภาพทีมนุษย์ใช้ในการมองเห็นและสังเกตการณ์ดูรูปแบบการสั่นสะเทือนของแสงสว่างเหล่านี้ ทำให้พวกเขามองเห็นว่ามันกลายเป็นของแข็งไปเท่านั้นเอง

    ซึ่งนี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่า “มายาการ” (illusion) หละ พวกคุณเห็นต้นไม้ที่อยู่นอกหน้าต่างนั่นไหม? มันเป็นของแข็งใช่ไหม? พวกคุณสามารถที่จะปีนป่ายขึ้นไปบนต้นไม้ต้นนี้ได้ด้วยใช่ไหม? เพราะว่ามันเป็นของแข็ง พวกคุณตระหนักรู้เป็นอย่างดีถึงใบไม้ที่ร่วงหล่นลงมากองกันอยู่บนพื้นด้วยใช่ไหม? ซึ่งพวกมันก็เป็นของแข็งด้วยเช่นกัน พวกมันก็มีรูปร่างรูปทรง, มีเนื้อสัมผัส และมีน้ำหนักด้วยเช่นเดียวกัน และถ้าพวกคุณตัดต้นไม้ต้นนี้ลงมา ท่อนไม้ที่พวกคุณจะได้ก็สามารถที่จะนำไปเผาเพื่อให้เกิดความร้อนขึ้นมาได้ด้วย เพราะว่ามันก็เป็นของแข็งชนิดหนึ่ง ที่มีความหนาแน่นทึบตัน และเป็นพลังงานที่กำลังสั่นสะเทือนอยู่อย่างช้า ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน

    แต่ว่า..รูปแบบการสั่นสะเทือน หรือแม่พิมพ์ หรือแม่แบบของต้นไม้ต้นนี้ มันถูกเก็บเอาไว้อยู่ในมิติที่ 6 ทั้งหมด

    พวกคุณยังจำกันได้ไหมว่าเมื่อตอนที่พวกคุณเป็นเด็กนั้นพวกคุณเคยเล่นภาพเงาสะท้อนกัน โดยอาศัยแสงสว่างแล้วทำให้มันเกิดเป็นรูปร่างต่าง ๆ ขึ้นมาบนกำแพง? มันคือหลักการณ์เดียวกันนี้เลย! มันคือหลักการณ์เดียวกันกับที่พวกคุณใช้มือสร้างให้เกิดเงาสะท้อนรูปสุนัข หรือรูปนกขึ้นมาบนกำแพง โดยอาศัยแสงสว่างที่ส่องอยู่ด้านหลังมือของพวกคุณอันนี้เลย

    โลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพทั้งหลาย ที่พวกคุณรู้สึกว่ามันเป็นของแข็งและดูเหมือนว่า มันเป็นจริงเป็นจังเหลือเกินในมิติที่ 3 และ 4 นี้นั้น พวกมันล้วนถูกสร้างขึ้นมาจากเงาสะท้อนของเจตจำนงค์อันศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ในมิติที่ 6 ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะจงอย่างลืมว่าทุกสิ่งทุกอย่าง, ทุกสิ่งทุกอย่างเลย ล้วนคือความสั่นสะเทือนทั้งสิ้น

    มันก็เหมือนกับคลื่นแสงและคลื่นเสียงนั่นแหละที่จะมีทั้งระดับคลื่นความสั่นสะเทือนที่เร็วและช้ามากเกินไป จนเกินกว่าที่หูและตาของพวกคุณจะสามารถได้ยินได้และมองเห็นได้

    วิญญาณ (spirit) ที่ลงมาสวมใส่ร่างกายเนื้อของมนุษย์อยู่ จะถูกจำกัดโดยความเชื่อแห่งการมีข้อจำกัดของพวกเขาเอง และเพราะว่าร่างกายเนื้อของมนุษย์ถูกออกแบบมาให้จัดการกับ หรือปฏิบัติการอยู่ใน หรือดำเนินกลยุทธ์อยู่ในลายเซ็นทางพลังงานของมิติที่ 3 และ 4 แห่งนี้โดยเฉพาะ ดังนั้น วิญญาณ หรือจิตใจอันศักดิ์สิทธิ์ หรือตัวตนหลากมิติของพวกคุณเอง จึงเฝ้าตั้งตารอคอยมานานแล้ว เพื่อที่จะให้พวกคุณตระหนักรู้ถึงพวกเขา และเพื่อที่จะได้มาดำรงอยู่ในจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ที่วิวัฒน์แล้วของพวกคุณ ซึ่งเป็นผู้ที่ทอดสมออยู่ในมิติทางกายภาพแห่งนี้

    แต่ว่า..มนุษย์โลกหลากมิติแต่ละคนต่างก็มีศักยภาพที่จะสามารถมองเห็นและรับรู้ถึงภาพเงาสะท้อน ที่ปรากฎอยู่บนกำแพงได้ด้วยกันทั้งสิ้น และรวมถึงยังมีศักยภาพที่จะสามารถมองเห็นและรับรู้ถึง “มือ” ที่เป็นต้นตอของภาพเงาสะท้อนเหล่านั้นได้ด้วย และยังมีศักยภาพที่จะตระหนักรู้ถึงแสงสว่างที่ส่องลงมาบนมือที่กำลังทำให้เกิดภาพเงาสะท้อนเหล่านั้นอยู่ได้อีกด้วย

    ซึ่งความตระหนักรู้ที่สูงขึ้นของพวกคุณดังกล่าวนี้ จะไปทำให้พวกคุณสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงแสงสว่าง หรือเปลี่ยนแปลงภาพเงาสะท้อนที่มือข้างนั้นกำลังสร้างขึ้นมาอยู่ก็ได้ อย่างใดอย่างหนึ่ง

    และมันจะมีสักวันหนึ่งที่พวกคุณจะสามารถมองเห็นต้นไม้ แล้วมองเห็นคลื่นความสั่นสะเทือนของพลังงาน ที่แผ่ออกมาจากต้นไม้ต้นนั้นได้ และก็จะสามารถสัมผัสรู้ได้ด้วยว่าต้นไม้ต้นนั้นมันมาสัมผัสกับหรือมาถักทอเข้ากับในแมทตริกซ์ ของพวกคุณได้อย่างไร ซึ่งความตระหนักรู้ลักษณะนี้ของพวกคุณ จะค่อย ๆ ขยับขยายออกไปจนถึงกับดวงดาวบนท้องฟ้าเลยทีเดียว

    The Team
    ..............................................................
    Source: Morning Messages
    ..............................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  6. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 58: คอมพิวเตอร์แห่งจิตใจ (Mind computer)"

    a.jpg
    (credit the picture from internet)

    พวกเราขอย้ำเตือนว่าจิตใจของพวกคุณ (your mind) ไม่ใช่ผู้ที่พวกคุณเป็น เพราะว่าพวกคุณคือแก่นแท้อันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้า (Divine Essance) จิตใจของพวกคุณเป็นแต่เพียงเครื่องมืออย่างหนึ่งเท่านั้นเอง แต่ก็เป็นเครื่องมือที่น่าทึ่งมาก ๆ เพราะว่ามันทำให้พวกคุณสามารถเชื่อมประสานกับโลกแห่งความเป็นจริงโลกนี้ได้ แต่ว่ายังไงเสียมันก็เป็นแค่เครื่องมืออย่างหนึ่งเท่านั้นเอง

    จงทำตัวเป็นผู้สังเกตการณ์ดูจิตใจของตัวเอง เพราะว่าผู้สังเกตการณ์จากภายในนี้เองคือผู้ที่รู้สึกประทับใจกับพระอาทิตย์ขึ้น หรือรู้สึกตื่นเต้นดีใจเมื่อเห็นกวางวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งหญ้า

    จิตใจเป็นส่วนที่มีคุณค่าและมีความจำเป็นต่อการปฏิบัติการอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงโลกแห่งนี้เป็นอย่างมาก จิตใจของพวกคุณคือหนึ่งในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ล้ำยุคมากที่สุด ที่สามารถทำงานที่น่าทึ่งได้สารพัด ด้วยความจุของหน่วยความจำและโปรแกรมขนาดมหาศาล

    เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่าจิตใจเครื่องนี้ปกติแล้วมันจะทำงานโดยอัตโนมัติ มันจะตอบสนองต่อโปรแกรมต่าง ๆ ที่ทำหน้าที่คอยปกป้องและรักษาความอยู่ดีมีสุขและการมีชีวิตรอดของมนุษย์ผู้นั้นเอาไว้ ซึ่งโปรแกรมอัตโนมัติเหล่านี้ ได้ถูกติดตั้งเข้ามาในระบบความคิดและในระบบความเชื่อของพวกคุณเอง โดยคนอื่น ๆ เช่น โดยพ่อแม่ผู้ปกครอง หรือครูบาอาจารย์ หรือสังคมของพวกคุณเอง เป็นต้น

    โปรแกรมเหล่านี้ หรือความเชื่อเหล่านี้ ได้ถูกติดตั้งเข้ามาบนคลื่นความถี่ทางอารมณ์และก็จะถูกกระตุ้น การทำงานโดยคลื่นความถี่ที่เหมือนกันหรือคล้าย ๆ กันนี้ ดังนั้น เมื่อใดที่โปรแกรมความคิดหรือความเชื่อของพวกคุณถูกกระตุ้นให้ทำงานขึ้นมาแล้ว ร่างกายเนื้อ/สารเคมี/ปฏิกิริยาต่าง ๆ ในร่างกายเนื้อของพวกคุณก็จะตอบสนองตามไปด้วยทั้งหมด ซึ่งเมื่อถึงขั้นนี้แล้ว พวกคุณก็จะตอบสนองด้วยปฏิกิริยาเดิม ๆ หรือคล้าย ๆ เดิมอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งการตอบสนองด้วยปฏิกิริยาเดิม ๆ หรือคล้าย ๆ เดิมที่ว่านี้ก็จะถูกกระตุ้นโดยสถานการณ์แห่งความกลัว, เช่นกลัวการสูญเสีย, กลัวการถูกปฏิเสธ, กลัวได้รับอันตราย, หรือกลัวตาย เป็นต้น

    จงจำไว้ว่าพวกคุณกำลังตื่นขึ้นมาอยู่ และก็กำลังจะตระหนักรู้แล้วว่าพวกคุณเป็นอะไรที่มากกว่าจิตใจของตัวเอง หรือความคิดของตัวเอง และความเชื่อของตัวเองอยู่ และมิหนำซ้ำพวกคุณก็เป็นอะไรที่มากกว่าอีโก้ของตัวเองอีกด้วย

    The Team
    ...............................................................
    Source: www.morningmessages.com
    ...............................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  7. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 59: เครื่องคอมพิวเตอร์แห่งจิตใจ (ตอนที่ 2)"

    a.jpg
    (credit the picture from internet)

    มีมนุษย์โลกหลายคนมากที่ไม่เคยรู้เลยว่าพวกเขาเป็นอะไรที่มากกว่าจิตใจของตัวเอง ดังนั้นพวกเขาจึงทำอะไรโดยอัตโนมัติ พวกเขาเกิดมาก็มีโปรแกรมทางอารมณ์ถูกติดตั้งเอาไว้ภายในแล้ว และพวกเขาก็ไม่เคยสงสัยในความเชื่อและการตอบสนองต่อโปรแกรมเหล่านั้นของตัวเองเลย พวกเขาเข้าใจไปว่ามันเป็นพฤติกรรมของพวกเขาเอง มันคือผู้ที่พวกเขาเป็น

    มนุษย์พวกนี้จะง่ายต่อการถูกบงการและถูกควบคุมมาก ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยสื่อสารมวลชน, ภาพยนตร์ และเกมที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงต่าง ๆ ร่างกายเนื้อของพวกเขาจะเสพติดสารเคมีที่หลั่งออกมาเมื่อตกอยู่ในสภาวะแห่งความกลัวและความตื่นเต้น หรือการถูกกระตุ้นรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง

    คราวนี้ ในเวลานี้ มันก็มีคนอีกพวกหนึ่งที่กำลังตื่นขึ้นมาอยู่ และก็กำลังมีสติสัมปชัญญะรู้ตัวเองอยู่

    พวกเขาเป็นมนุษย์ที่รู้จักใช้ความสามารถของจิตอันน่าทึ่งของตัวเอง ในการสร้างวิถีชีวิตใหม่ให้ตัวเอง และสร้างวิถีการมองโลกแบบใหม่ให้ตัวเอง และสร้างวิถีแห่งการตอบสนองต่อโลกแบบใหม่ให้กับตัวเอง อย่างมีสติสัมปชัญญะ

    ต่อไปนี่คือส่วนที่เป็นปัญหายุ่งยากหละ: เพราะว่ารูปแบบความเชื่อเก่า ๆ ทั้งหลาย พวกมันถูกถักทอเข้าไปในส่วนลึกของแมทตริกซ์ของสังคมแล้ว พวกมันเป็นส่วนหนึ่งของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก พวกมันเป็นคลื่นความถี่ที่มีความเข้มแข็งมาก และพวกมันก็เป็นตัวกระตุ้นที่มีความชำนาญ ที่สามารถจะไปกระตุ้นการทำงานของความเชื่อที่มีข้อจำกัดอันเกิดจากความกลัว และความรู้สึกว่าไร้ซึ่งพลังอำนาจให้ทำงานขึ้นมาได้

    ดังนั้น การที่จะหยุดการตอบสนองโดยอัตโนมัติของคน ๆ นั้นลงได้ คน ๆ นั้นจะต้องมีความตื่นรู้ และตระหนักรู้อยู่ในทุกชั่วขณะ เพื่อที่จะทำให้ระดับคลื่นความถี่แห่งการสั่นสะเทือนของคน ๆ นั้นสูงขึ้นมาได้ และหยุดการตอบสนองโดยอัตโนมัติลงได้

    พวกเราขอย้ำเตือนให้พวกคุณยกระดับความสั่นสะเทือนของตัวเองให้สูงขึ้น ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกของพวกคุณ คือกุญแจสำคัญ เมื่อใดที่พวกคุณสั่นสะเทือนอยู่ในคลื่นความถี่แห่งความสุข-ความเบิกบาน, ความซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดีแล้ว และรวมถึงคงอยู่ในคลื่นความถี่แห่งความรักให้ได้ตลอดแล้ว พวกคุณก็จะอยู่ในสภาวะที่มีจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ที่ตื่นเต็มที่ แล้วพวกคุณก็จะดำเนินชีวิตอยู่โดยใช้หัวใจของตัวเองนำทาง แล้วพวกคุณก็จะดึงดูดเอา และยินยอมให้ พลังงานด้านบวกที่ชีวิตจะมอบให้มา เข้ามาสู่สนามพลังงานของตัวเองมากขึ้นเรื่อย ๆ

    The Team
    .................................................................
    Source: Morning Messages
    .................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  8. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 60: อารมณ์คือคลื่นความถี่ชนิดหนึ่ง"

    a.jpg
    (credit the picture from internet)

    บนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับสนามพลังงานของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลกอยู่ในขณะนี้ก็คือ จิตใจและหัวใจของทุก ๆ คนกำลังถูกเอิบอาบด้วยพลังงานที่ไม่ปกติธรรมดา ที่มาจากกาแล็กซี่, มาจากดวงอาทิตย์, มาจากดวงจันทร์ และมาจากดวงดาวต่าง ๆ อยู่

    ซึ่งพลังงานเหล่านี้กำลังช่วยกระตุ้นให้รหัส DNA ของพวกคุณทำงานเพิ่มขึ้นมาอยู่ และกำลังเรียกร้องให้แต่ละคนตื่นขึ้นมาจากการหลับไหลอย่างไร้สติอยู่ เพื่อก้าวเข้ามาสู่ความยิ่งใหญ่อลังการเต็มพิกัดของตัวเองเสียที ในฐานะที่เป็นรูปธรรมชีวิตที่มีความสามารถในการเปลี่ยนรูปแบบของพลังงานที่หนาแน่นทึบตันอันเกิดจากความกลัวของแต่ละคนและของคนทั้งโลกได้

    มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่มนุษย์โลกแต่ละคนจะต้องฝึกฝนตัวเองให้สามารถยกระดับความสั่นสะเทือนของตัวเองให้สูงขึ้นให้ได้ เพื่อให้ไปอยู่ในระดับความสั่นสะเทือนของอารมณ์ที่สูงกว่า เช่น เพื่อให้ไปอยู่ในระดับของอารมณ์ความรู้สึกแห่งความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจและความรู้สึกชื่นชมยินดีเป็นต้น เพราะว่าอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้จะกลายไปเป็นเรือชูชีพของพวกคุณเอง หรือเป็นกันชนของพวกคุณเอง หรือเป็นเกราะป้องกันของพวกคุณ แล้วพวกคุณก็จะปลอดภัยในช่วงเวลาที่กำลังจะมาถึงนี้

    พวกเราขอสนับสนุนให้พวกคุณไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม พวกเราขอย้ำว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามกับโลกภายนอก ก็จงฉลาดที่จะรักษาสภาวะจิตใจให้เปิดและขยายอยู่เสมอ (เปิดใจ และ ใจกว้าง? – ผู้แปล)

    อารมณ์ความรู้สึกแห่งความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจและความรู้สึกชื่นชมยินดีนั้น จะไปเป็นกันชนและเป็นตัวปกป้องพวกคุณได้จริง ๆ อารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้จะยกระดับความสั่นสะเทือนของพวกคุณให้สูงขึ้นมา อยู่เหนือความสั่นสะเทือนของเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นบนโลกของพวกคุณอยู่ในตอนนี้ และในอนาคตข้างหน้าการดำรงอยู่ในคลื่นความสั่นสะเทือนที่สูง ๆ อยู่ตลอดเวลาของพวกคุณนี้ จะกลายเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการเชื่อมต่อของคนอื่น ๆ ผู้ที่จำเป็นจะต้องเชื่อมต่อขึ้นมาหาพวกคุณ

    ดาวเคราะห์โลกของพวกคุณกำลังอยู่ท่ามกลางการยกระดับทางวิวัฒนาการครั้งยิ่งใหญ่อยู่ และพลังงานเก่าที่หนาแน่นทึบตันทั้งหลาย ซึ่งได้แก่ พลังงานที่หนาแน่นทึบตันและมีระดับความสั่นสะเทือนอันหนักหน่วงแห่งความกลัว, ความโกรธ, และความรู้สึกไร้ซึ่งพลังอำนาจ เป็นต้น ก็กำลังถูกผลักดันให้โผล่ขึ้นมาสู่ระดับพื้นผิวของทุก ๆ สถานการณ์, ของทุก ๆ คน และของคนทั้งโลกอยู่

    และจงจำไว้ว่าไม่มีใครรับผิดชอบต่อความรู้สึกที่พวกคุณกำลังรู้สึกอยู่นั้นได้ เพราะว่าพวกคุณคือผู้ที่จะต้องรับผิดชอบเอาเอง ในฐานะที่พวกคุณเป็นตัวแทนจากเบื้องบนผู้ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น ดังนั้น มนุษย์โลกแต่ละคนจึงจะต้องรับผิดชอบต่ออารมณ์ความรู้สึกของตัวเองที่แผ่ออกมาสู่ของคนทั้งโลกเอง

    ดังนั้น จงทำทุกวิถีทางเท่าที่พวกคุณจะสามารถทำได้ เพื่อยกระดับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง และความสั่นสะเทือนของตัวเอง และคลื่นความถี่ของตัวเอง และความคิดและอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง ให้คงอยู่ในระดับสูงอยู่ตลอดเวลา

    เพราะว่าเมื่อใดที่พวกคุณแผ่ส่งสนามพลังงานแห่งความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจและความรู้สึกชื่นชมยินดีออกมาสู่สนามพลังงานของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลกแล้ว ก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังเปิดตัวเองออกสู่ผู้นำทางจากภายในอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองอยู่ และก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังสั่นสะเทือนอยู่ด้วยคลื่นความถี่ที่สูง ๆ อันบริสุทธิ์อยู่ ซึ่งเป็นระดับความสั่นสะเทือนที่สูงกว่าระดับความสั่นสะเทือนของความวุ่นวายโกลาหล แล้วพวกคุณก็จะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้อื่นให้สั่นสะเทือนอยู่ด้วยคลื่นความถี่เดียวกันนี้ด้วย

    The Team
    .................................................................
    Source: Morning Messages
    .................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  9. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 61: ดีเอ็นเอ (DNA)"

    a.jpg
    (credit the picture from internet)

    มนุษย์โลกคือรูปธรรมชีวิตหลากมิติ มนุษย์โลกถูกเข้ารหัสเอาไว้กับหลากหลายมิติ มนุษย์โลกแต่ละคนมี “รหัส” อยู่ใน DNA ของตัวเอง แต่ว่าในตอนนี้พวกมันกำลังหลับไหลอยู่ ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา

    ซึ่งก็เหมือนกับเด็กทารกที่เกิดมาพร้อมกับมีเมล็ดพันธุ์แห่งการสืบเชื้อสายติดตัวมาด้วยนั่นแหละ แต่เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นก็ยังจะหลับไหลอยู่ จนกว่าเด็กทารกคนนั้นจะเจริญเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่เสียก่อน และจนกว่าการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ภายในร่างกายเนื้ออันเนื่องมาจากฮอร์โมนจะเกิดขึ้นซะก่อน “เมล็ดพันธุ์แห่งการสืบพันธุ์” ที่ว่านั้น จึงจะพร้อมที่จะใช้งานได้

    เพราะว่ามนุษย์โลกถูกเข้ารหัสมาเอาไว้ในหลากหลายระดับขั้นของวิวัฒนาการ เพื่อให้มันเกิดขึ้นในช่วงเวลาต่าง ๆ ที่เหมาะสม ซึ่งเกือบทุกคนก็น่าจะตระหนักรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายของตัวเองดีอยู่แล้ว ที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ยังเป็นทารกอยู่จนไปถึงกลายเป็นผู้ใหญ่แล้ว

    แต่สิ่งที่ยังคงเป็นความลึกลับซับซ้อนสำหรับนักวิทยาศาสตร์ของพวกคุณอยู่จนกระทั่งบัดนนี้ก็คือ อะไรคือตัวกระตุ้นที่ไปบอกให้ร่างกายเนื้อเริ่มต้นเข้าสู่วิวัฒนาการขั้นใดขั้นหนึ่ง ชิ้นส่วนไหนของร่างกายเนื้อที่คอยทำหน้าที่รับผิดชอบต่อขั้นตอนต่าง ๆ ของการเจริญเติบโต หรือพัฒนาการ หรือการเจริญวัยเหล่านี้

    คำตอบก็คือ DNA นั่นเอง ซึ่งบรรจุรหัสแห่งการกระตุ้นเอาไว้อยู่มากมาย ที่ทำหน้าที่คอยไปกระตุ้นให้แต่ละขั้นตอนของวิวัฒนาการดำเนินไป เพราะว่า DNA คือโปรแกรมปฏิบัติการทั้งหมดทั้งมวลของมนุษย์

    มนุษย์โลกกำลังอยู่ในระหว่างกระบวนการยกระดับทางวิวัฒนาการอยู่ ดังนั้น รหัสต่างๆใน DNA ที่ตอนนี้กำลังหลับไหลอยู่ จึงกำลังทยอยถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้นมาอยู่ ซึ่งมันก็จะไปกระตุ้นให้เกิดความรู้ระดับใหม่ ๆ ขึ้นภายในตัวของมนุษย์แต่ละคนตามมาด้วย

    The Team
    .................................................................
    Source: Morning Messages
    .................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  10. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 62: DNA ตอนที่ 2"

    a.jpg
    (credit the picture from internet)

    รหัสของ DNA กลุ่มหลัก ๆ ของมนุษย์ที่กำลังถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้นมาอยู่ในขณะนี้ก็คือ การตระหนักรู้ถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และความรู้สึกถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับทุกผู้ทุกนามอย่างสิ้นเชิง

    ยิ่งมีจำนวนมนุษย์โลกตื่นขึ้นมาจากการหลับไหลแบบไร้สติมากเท่าไหร่ และตื่นขึ้นมาจากมายาการแห่งความรู้สึกไร้ซึ่งพลังอำนาจ และความกลัวมากเท่าไหร่ โลกก็จะยิ่งประสบกับการยกระดับขึ้นในระดับโลกมากขึ้นเท่านั้นด้วย

    ชาวโลกกำลังทยอยกันย้ายออกมาจากโครงข่ายพลังงานของความกลัว, การแบ่งแยก และการถูกบงการอยู่ เพื่อเข้าไปสู่สภาวะจิตใจที่มีสติสัมปชัญญะแทน และเพื่อไปเป็นเจ้าของพลังอำนาจของตัวเอง และรับผิดชอบต่อการเปลี่ยนรูปแบบในระดับโลกและในระดับกาแล็กซี่ ในฐานะที่มนุษย์เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งมวล และในฐานะที่มนุษย์เป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติชนิดหนึ่งด้วย

    ความกลัว, ความรู้สึกคับข้องใจ และความเครียดจะยับยั้งการขยายตัวของ DNA และจะทำให้สายเกลียวของ DNA อยู่ในสภาพไม่ผ่อนคลาย อารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้จะทำให้ DNA “ปิด” แล้วข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่ในรหัสเหล่านี้ก็จะเข้าถึงไม่ได้

    กุญแจสำคัญคือการตระหนักรู้ว่าพลังงาน, การกระทำ, ความคิด และคำพูดของพวกคุณ จะส่งผลกระทบต่อส่วนรวมอย่างไรบ้าง ซึ่งการดำรงอยู่ในคลื่นความสั่นสะเทือนอันบริสุทธิ์ของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกขอบคุณนั้น จะทำให้ DNA ของพวกคุณผ่อนคลาย และเปิดออก และยิ่งมีมนุษย์โลกรู้ความจริงข้อนี้มากเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งไปกระตุ้นให้คนอื่น ๆ ที่ยังหลับไหลอยู่ตื่นขึ้นมาได้มากขึ้นเท่านั้นด้วย

    มันมีแรงพลังที่ยิ่งใหญ่บางอย่างกำลังทำงานอยู่ที่นี่ ..เพราะว่ามนุษย์โลกมีการเชื่อมต่ออยู่กับดวงดาวและกับสิ่งอื่น ๆ อยู่

    มนุษย์โลกกำลังตื่นขึ้นมาสู่หน้าที่และความรับผิดชอบของตัวเองที่มีต่อดาวเคราะห์โลกดวงนี้แล้ว มนุษย์โลกกำลังตื่นขึ้นมาสู่หน้าที่และความรับผิดชอบของตัวเองในฐานะที่เป็นพลเมืองของกาแล็กซี่นี้แล้ว

    The Team
    ..............................................................
    Source: Morning Messages
    ..............................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  11. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 63: DNA ตอนที่ 3"

    a.jpg
    (credit the picture from internet)

    DNA ของพวกคุณจะมีปฏิกิริยาต่อความคิด, อารมณ์ความรู้สึก และความเชื่อของพวกคุณเองอยู่เสมอ, DNA ของพวกคุณจะมีปฏิกิริยาต่อ DNA ของคนอื่น ๆ ด้วย และ DNA ของพวกคุณก็ยังจะมีปฏิกิริยาต่อพลังงานของจักรวาลอีกด้วย

    กระแสพลังงานที่หลั่งไหลมาจากกาแล็กซี่และจากพายุสุริยะ กำลังสั่นสะเทือนอยู่ด้วยคลื่นความถี่อันบริสุทธิ์ของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดี ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อที่จะมากระตุ้นการทำงาน หรือมากดปุ่มเปิดให้กับส่วนต่างๆของ DNA ของพวกคุณ ที่กำลังหลับไหลอยู่ ให้ตื่นขึ้นมาปฏิบัติหน้าที่ได้มากขึ้นเรื่อย ๆ

    มนุษย์โลกประกอบขึ้นมาจากสนามพลังงานที่สลับซับซ้อนจำนวนมากมาย ซึ่งสนามพลังงานทั้งหมดนี้กำลังสอดประสานและถักทอซึ่งกันและกันอยู่ และก็กำลังยักย้ายถ่ายเท และปรับปรุง-เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย

    สนามพลังงานเหล่านี้จะมีการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์โลกคนอื่นๆอยู่โดยไม่ต้องอาศัยคำพูด หรือจิตสำนึก/ความตระหนักรู้แต่อย่างใดเลย ซึ่งข้อมูลข่าวสารหลายอย่างจะถูกแบ่งปันและถูกสื่อสารออกไปโดยอาศัยโครงข่ายพลังงานอันละเอียดอ่อนของแต่ละบุคคล มากกว่าที่ได้ถูกสื่อสารออกไปโดยใช้คำพูดซะอีก

    เมื่อใดที่คนสองคนมาพบกันมันก็จะเกิดการเชื่อมประสานกันขึ้นอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นการผสานรวมกันของสนามพลังงานของคนทั้งสองคน เหมือนอย่างที่มันเกิดขึ้นกับสนามพลังงานหลาย ๆ สนามในบุคคลคนเดียวนั่นแหละ จากนั้นข้อมูลข่าวสารจำนวนหนึ่งของคนทั้งสองคนก็จะถูกแชร์ให้แก่กันและกัน

    เมื่อรหัสต่างๆใน DNA และโปรแกรมต่างๆใน DNA ถูกกระตุ้นการทำงานขึ้นมาแล้วความตระหนักรู้ว่าในแต่ละชั่วขณะพวกคุณกำลังอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง มากกว่า 1 โลกก็จะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาไป

    มนุษย์โลกกำลังรู้แล้วว่าพวกเขาคือรูปธรรมชีวิตหลากมิติ พวกเขากำลังมีปฏิสัมพันธ์อยู่กับโลกแห่งความเป็นจริงอื่น ๆ ด้วย พวกเขาคือผู้ที่มีความยิ่งใหญ่อลังการมากเกินกว่าที่พวกเขาจะจินตนาการได้ พวกเขาสามารถที่จะเข้าไปอ่านประวัติด้านอารมณ์ และประสบการณ์ด้านอารมณ์ทั้งหมดได้ภายในชั่วอึดใจเดียวเท่านั้นเอง และพวกเขาก็สามารถที่จะประมวลข้อมูลและข่าวสารที่อยู่ในระดับอื่น ๆ ได้ ในระหว่างที่กำลังจดจ่ออยู่กับโลกแห่งความเป็นจริงนี้และมิตินี้อีกด้วย

    The Team
    ..................................................................
    Source: Morning Messages
    ..................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  12. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 64: ประตูหัวใจ"

    a.jpg
    (credit the picture from internet)

    ในร่างกายเนื้อของพวกคุณหัวใจของพวกคุณคืออวัยวะที่ใช้สำหรับคิด มันคือผู้เป็นใหญ่ที่แท้จริง สนามพลังงานของแมทตริกซ์หัวใจของพวกคุณมีความเข้มข้นมากกว่าและแผ่ขยายออกไปกว้างไกลมากกว่าแมทตริกซ์ทางพลังงานของสมองของพวกคุณซะอีก ซึ่งครูบาอาจารย์และผู้อวตารทั้งหลายก็ได้เคยสอนพวกคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้เอาไว้แล้วตั้งหลายภพชาติ

    แต่มนุษย์โลกได้เรียนรู้ที่จะปิด หรือ ปกป้องวงจรหัวใจของพวกเขาเองเอาไว้เมื่อนานมาแล้ว ซึ่งนี่แหละคือสาเหตุหลักของความผิดเพี้ยนที่เกิดขึ้นบนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณหละ และมันก็ยังเป็นสาเหตุหลักของความไม่สะดวกสบายทั้งหลายที่เกิดขึ้นอีกด้วย

    เพราะว่าเมื่อใดที่วงจรของหัวใจถูกปกป้องแล้วมันก็จะกลายเป็นวงจรปิดของพลังงานไป และมันก็จะมีเกราะทางความคิดที่จะไปกรองหรือไปเฝ้าระวังพลังงานที่จะผ่านเข้ามาหรือที่จะผ่านออกไปอย่างเข้มงวดมากขึ้น

    มนุษย์โลกได้ยินยอมให้สมอง และโปรแกรมต่าง ๆ และความเชื่อต่าง ๆ เฝ้าระวังและคอยคุ้มกันศูนย์กลางหัวใจของตัวเองเอาไว้ ซึ่งโปรแกรมและความเชื่อเหล่านี้จะไปปิดกั้น และจะไปทำให้การตอบสนองต่อข้อความและคำแนะนำต่าง ๆ ที่ถูกส่งมาจากและที่จะถูกส่งเข้าไปในศูนย์กลางหัวใจอันนี้ ด้านช้าไป

    ความเชื่อเหล่านี้เกี่ยวกับการปกป้องศูนย์กลางหัวใจนี้ ถูกถ่ายทอดต่อ ๆ มาในรูปแบบของพลังงานจากพ่อแม่มาสู่ลูกหลาน ดังนั้นเด็ก ๆ จึงเรียนรู้วิธีการนี้มา โดยที่ไม่ต้องมีใครบอกใครสอนเลย และนอกจากนี้เด็ก ๆ ยังได้เรียนรู้เรื่องราวเหล่านี้มาจากคำบอกคำสอนของผู้ใหญ่อีกด้วย ว่า..ความเจ็บปวดใจมันเป็นเช่นไร หรือว่า..การเป็นคนที่มอบความรักให้คนอื่นอย่างอิสระและอย่างง่าย ๆ นั้นมันเป็นอย่างไร, อย่างไรถึงจะเรียกว่าปลอดภัย และไม่ปลอดภัย, ใครที่เชื่อถือได้และเชื่อถือไม่ได้ เป็นต้น

    และมันก็ยังมีบาดแผลที่ถูกถ่ายทอดลงมาจากรุ่นสู่รุ่นอีกด้วย และก็ยังมีบาดแผลอันเกิดจากความสัมพันธ์ภายในครอบครัวของภพชาตินี้อีกด้วย และก็ยังมีบาดแผลที่มนุษย์โลกแต่ละคนได้ประสบในระหว่างที่มาอยู่ในร่างกายเนื้อนี้อีกด้วย

    ศูนย์กลางหัวใจของพวกคุณคือประตูมิติของพวกคุณ มันคือประตูทางเข้าของพวกคุณ มันสำคัญต่อมนุษย์โลกมากที่จะต้องเริ่มต้นเยียวยารักษาบาดแผลที่มีอยู่ในหัวใจของตัวเองซะที เพราะว่ามันมีความจำเป็นที่พวกคุณจะต้องเยียวยารักษาดาวเคราะห์โลกดวงนี้ ไปทีละจังหวะการเต้นของหัวใจของตัวเองและทีละคน ๆ

    นี่คือหน้าที่ความรับผิดชอบของพวกคุณแต่ละคนและทุกๆคน ซึ่งเป็นหน้าที่ในระดับบุคคล, ในระดับพันธุศาสตร์ และในระดับโลก ที่จะต้องเยียวยารักษาบาดแผลที่มีอยู่ในแมทตริกซ์ของหัวใจของตัวเองให้หมดไปเสีย ตอนนี้มนุษย์โลกกำลังก้าวเข้ามาสู่กระบวนทัศน์ใหม่โดยสิ้นเชิงแล้ว ซึ่งเป็นกระบวนทัศน์ที่ให้เกียรติและเคารพหัวใจที่คิดได้ดวงนี้ของตัวเอง และรวมถึงเป็นกระบวนทัศน์ที่หัวใจจะมีความเต็มเปี่ยมสมบูรณ์ และเชื่อมต่อกับแมทตริกซ์หัวใจของคนอื่น ๆ ได้ด้วย

    ประตูหัวใจของพวกคุณจะทำหน้าที่เป็นประตูมิติสู่ดวงดาวของพวกคุณ และทำให้พลังงานที่หลั่งไหลมาจากแหล่งกำเนิดอันศักดิ์สิทธิ์สามารถเข้ามาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณได้

    เครื่องมือที่สำคัญสำหรับการเยียวยารักษาประตูหัวใจของพวกคุณและทำให้ประตูหัวใจของพวกคุณกลับเข้ามาสู่ความสอดประสานกลมเกลียวอีกครั้งหนึ่งก็คือ ความสั่นสะเทือนของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจและความรู้สึกชื่นชมยินดี เพราะว่าพลังอำนาจของความสั่นสะเทือนเหล่านี้จะไปทำบาดแผลที่มีอยู่ภายในให้ศูนย์กลางหัวใจ หรือในประตูหัวใจของพวกคุณถูกเยียวยาให้หายขาดได้

    นี่คืองานรับใช้โลกที่มนุษย์โลกทุกคนถูกร้องขอให้ทำเพื่อส่วนรวม และเพื่อเยียวยารักษาศูนย์กลางหัวใจของมวลหมู่มนุษยชาติ เพราะว่าเมื่อใดที่มนุษย์โลกพากันดำรงชีวิตอยู่ด้วยหัวใจที่เปิดแล้วและเยียวยารักษาแล้ว พวกเขาก็จะรู้ว่าและก็จะรู้สึกได้ว่า พวกเขามีการเชื่อมต่อซึ่งกันและกันอยู่

    The Team
    ..................................................................
    Source: Morning Messages
    ..................................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  13. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 65: การดิ้นรนต่อสู้จะไปขัดขวางกระแสการไหลของพลังงาน"

    a.jpg
    (Credit the picture from internet)

    ทักษะและความชำนาญที่สำคัญอย่างหนึ่งที่พวกคุณพากันนำมาสู่ประสบการณ์ชีวิตของตัวเองด้วยในระหว่างที่พวกคุณมาอยู่ในร่างกายเนื้อนี้ก็คือ พวกคุณมีสติรู้อยู่ในแต่ละชั่วขณะของปัจจุบันขณะอย่างเต็มที่มากน้อยแค่ไหน

    มันไม่สำคัญเลยว่าพวกคุณจะกำลังทำอะไรอยู่ หรือกำลังทำกับใคร เพราะว่ากุญแจสำคัญก็คือ การดำรงอยู่ในชั่วขณะนั้น ๆ ด้วยความสุข, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดี มันไม่ใช่เรื่องของการทำอะไร
    แต่มันคือเรื่องของการทำมันอย่างไรในแต่ละชั่วขณะต่างหากหละ


    มนุษย์โลกทุก ๆ คนต่างโหยหาที่จะได้พบกับสถานที่แห่งความสอดประสานกลมเกลียวกัน และได้พบกับกระแสการไหลที่นุ่มนวลของเหตุการณ์ต่าง ๆ ด้วยกันทั้งสิ้น แต่เมื่อใดที่พวกคุณต้องประสบกับการดิ้นรนต่อสู้ และความเครียดแล้ว มันก็ยิ่งไปทำให้ระดับของความไม่สอดประสานกลมกลืนกันของพวกคุณเพิ่มสูงขึ้นไปอีก จนทำให้ดูเหมือนว่าถึงขั้นโกลาหลเลยทีเดียว เพราะว่าเมื่อใดที่พลังงานอันเชี่ยวกรากของการดิ้นรนต่อสู้และความเครียดได้เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยแล้ว มันก็จะไปเปลี่ยนแปลงและเปลี่ยนรูปแบบของความสอดประสานกลมเกลียวกันอันนั้นไปอย่างเชี่ยวชาญ

    ความเชื่อที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างคือการดิ้นรนต่อสู้ หรือคือปัญหาอุปสรรค หรือคือความตึงเครียดนั้นมีอยู่อย่างเหนียวแน่นมาก ๆ ในจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก และนี่แหละคือมายาการอย่างหนึ่ง และก็คือสิ่งหนึ่งที่พวกคุณจะต้องเรียนรู้กันหละ

    มันมีสภาวะทางจิตใจและสภาวะทางอารมณ์อยู่สภาวะหนึ่งที่พวกเราอยากจะขอเชิญชวนพวกคุณให้มาดำรงอยู่กัน ซึ่งก็คือสภาวะที่ความตระหนักรู้ของพวกคุณได้เข้ามาอยู่ใน “ปัจจุบันขณะ” แล้วและเมื่อพวกคุณดำรงอยู่ในสภาวะที่มีระดับความสั่นสะเทือนของพลังงานที่สูง ๆ แล้ว ไม่ว่าพวกคุณจะกำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม มันก็จะมีกระแสการไหลของพลังงานเกิดขึ้น อย่างราบรื่นและง่ายดายเสมอ

    มายาการของการดิ้นรนต่อสู้, ความตึง และความเครียด จะไปทำให้เกิดคลื่นความถี่ระดับต่ำ ๆ ขึ้นมา ซึ่งสภาวะจิตใจที่กำลังสั่นสะเทือนอยู่ด้วยคลื่นความถี่ที่ต่ำ ๆ เหล่านี้ ก็จะแผ่ส่งคลื่นพลังงานระดับนี้ออกมาสู่มิติที่ 3 แล้วมันก็จะกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของแมทตริกซ์ที่จะกักขังพวกคุณเอาไว้ต่อไป

    แต่ตอนนี้มีมนุษย์โลกจำนวนมากมายแล้วที่กำลังตระหนักรู้ว่าตัวเองคือรูปธรรมชีวิตหลากมิติที่กำลังเล่นอยู่ใน โฮโลเกมหรือเกมสามมิติของดาวเคราะห์โลกดวงนี้อยู่ ซึ่งเกมสามมิติดังกล่าวนี้คือเกมที่เต็มไปด้วยมายาการแห่งการมีข้อจำกัด

    และมายาการแห่งการมีข้อจำกัดดังกล่าวนี้ก็แข็งแกร่งมาก ๆ ซะด้วยสิ มิหนำซ้ำมันยังถูกบำรุงรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี และมันก็ยังถูกสนับสนุนและถูกส่งเสริมให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปอีกด้วย โดยสื่อมวลชน, โดยผู้นำของพวกคุณ และโดยความเชื่อ-ขนบธรรมเนียม-ประเพณีเก่า ๆ ในมิติที่ 3 ของพวกคุณเอง

    ความเชื่อที่ว่าตัวเองมีข้อจำกัดนี้ ถูกมอบมาให้มนุษย์โลกทุก ๆ คนตั้งแต่ตอนถือกำเนิดแล้ว โดยพ่อแม่ผู้ปกครอง และโดยสังคม ดังนั้นจึงมีมนุษย์โลกจำนวนมากมายที่ไม่เคยคิดจะถามคำถามอะไรเลยเกี่ยวกับความเชื่อของตัวเอง และก็ไม่เคยคิดจะค้นให้พบคำตอบเลยว่าแท้ที่จริงแล้วพวกเขาคือผู้สร้างที่ทรงพลังอำนาจอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจึงมีชีวิตอยู่ และใช้ชีวิตไปเรื่อย ๆ อย่างผู้ที่ขาดจิตสำนึก/ความตระหนักรู้

    ตอนนี้มันกำลังมีกระบวนการทางวิวัฒนาการอย่างหนึ่งเกิดขึ้นอยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ มันเป็นกระบวนการเปลี่ยนรูปแบบที่กำลังเกิดขึ้นกับหัวใจและจิตใจของชาวโลกจำนวนมากมายอยู่ซึ่งวิวัฒนาการทางจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ดังกล่าวนี้ กำลังค่อย ๆ ขยายตัวออกไปสู่ความเป็นจริงที่ว่า พวกคุณคือผู้ที่ไร้ขีดจำกัด และพวกคุณก็จะมีความตระหนักรู้ในชีวิตหลากมิติของตัวเองด้วยอยู่

    ความตระหนักรู้ของการคงอยู่ในระดับความสั่นสะเทือนที่สูง ๆ ของความสุข-ความเบิกบาน, ความซาบซึ้งใจ และความชื่นชมยินดีนั้น จะทำให้พวกคุณสามารถดำรงอยู่ในมิติที่ 5 ได้ ซึ่งเป็นมิติที่ปรากฎการณ์ synchronicity, ปาฏิหาริย์, และการเชื่อมต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน จะเอื้ออำนวยให้กระแสการไหลของเหตุการณ์ต่าง ๆ และความเป็นไปของกิจกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้นและดำเนินไปอย่างราบรื่น

    เพราะฉะนั้นแล้ว จงฝึกฝนทักษะเหล่านี้เสีย (คือการดำรงอยู่ในคลื่นความสั่นสะเทือนที่สูง ๆ ของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดี - ผู้แปล) นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป แล้วจงเฝ้าสังเกตการณ์ดูเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นว่ามันจะเกิดขึ้นและเป็นไปด้วยความราบรื่นมากขึ้น และติดขัดน้อยลงจริงหรือไม่

    The Team
    ........................................................
    Source: Morning Messages
    ........................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  14. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 66: ประตูมิติแห่งปัจจุบันขณะ"

    a.png
    (credit the picture from internet)

    พวกเรารู้สึกประหลาดใจกับวิธีการอันหลากหลายและมากมายและวุ่นวายของมนุษย์โลกในการใช้เวลา, พลังงาน และการจดจ่อของตัวเองไปกับสิ่งต่าง ๆ เหลือเกิน

    ในโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพอันนี้ เป้าหมายของชีวิตก็คือการเข้าใจ, การจัดการ และการเปลี่ยนรูปแบบพลังงานที่หนาแน่นทึบตัน และมีข้อจำกัดเหล่านี้ไปเสีย เพื่อนำพาเอาจิตสำนึก/ความตระหนักรู้อันบริสุทธิ์ที่สุดเข้าไปสู่ทุกสิ่งทุกอย่างแทน

    มนุษย์โลกส่วนใหญ่จะประกอบกิจธุระและกิจกรรมต่าง ๆ ของตัวเองไป โดยไม่ได้ใส่ความคิดและจิตใจของตัวเองลงไปในกิจกรรมนั้น ๆ ด้วยเลย เพราะว่าพวกเขาจะมัวแต่คิดถึงเรื่องอื่น ๆ อยู่จิตใจของพวกเขาจะมัวแต่ท่องเที่ยวไปในอดีตหรือในอนาคตอยู่ ดังนั้นจึงมีน้อยครั้งมาก ๆ ที่พวกเขาจะสามารถอยู่ใน “ปัจจุบันขณะ” ได้อย่างเต็มที่จริง ๆ

    ซึ่งเรื่องนี้เป็นความจริงอย่างยิ่งโดยเฉพาะกับกิจธุระทางโลกของมนุษย์ มันจะเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และวันแล้ววันเล่าอยู่อย่างนั้น จนกลายไปเป็นพฤติกรรมที่เกิดขึ้นโดยอัตโนมัติของมนุษย์โลกไป และมนุษย์โลกก็ไม่สามารถตระหนักรู้ หรือมีสติรู้ได้เลยว่า มีพลังงานอะไร หรือมีสิ่งใดที่แตกต่างออกไปจากเดิมบ้าง ในโครงข่ายพลังงานหรือในสนามพลังงานของดาวเคราะห์โลก และเพราะว่าการที่ไม่ตั้งอยู่ในปัจจุบันขณะอย่างเต็มที่นี้เอง มนุษย์โลกจึงไม่ได้นำเอาจิตสำนึก/ความตระหนักรู้แห่งแสงสว่างของตัวเอง
    เข้าไปใส่ในชั่วขณะนั้น ๆ ด้วย


    มนุษย์โลกส่วนใหญ่จะตกอยู่ภายใต้อำนาจของความคิดและจิตใจของตัวเอง ดังนั้น พวกเขาจึงยินยอมให้จิตใจของตัวเองเป็นผู้ครอบงำได้อย่างอิสระไปตลอดทั้งวัน และพวกเขาก็ยินยอมให้จิตใจของตัวเอง เป็นผู้กำหนดการไหลเวียนของพลังงานที่ไหลผ่านเข้ามาในร่างกายเนื้อของตัวเองได้อีกด้วย พวกเขาใช้สอยพลังงานแห่งการเปลี่ยนรูปแบบอันศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกมอบมาให้ในทุก ๆ ลมหายใจของพวกเขาเองอย่างสุรุ่ยสุร่าย โดยไม่เคยรู้เลยว่า ตัวเองนั้นมีพลังอำนาจที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงกิจกรรมใด ๆ ก็ได้ที่พวกเขาไปเกี่ยวข้องสัมผัสด้วย

    พวกเขาจะรีบทำงานหนึ่งให้เสร็จ ๆ ไปเพื่อที่จะได้ไปทำงานอื่นต่ออีก เสมือนว่าเป็นหน้าที่ และก็จะทำไปโดยปราศจากความรู้สึก หรือการใส่ใจใด ๆ ทั้งสิ้น ดังนั้น ตอนนี้มันจึงถึงเวลาแล้วที่จะต้องหันมาพัฒนาความตระหนักรู้
    อย่างจริงจังในสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าพวกคุณจะกำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม เพราะว่ามันจะไปส่งผลกระทบต่อแมทตริกซ์ของจักรวาลทั้งจักรวาลเลยทีเดียว พวกเราของย้ำนะว่า ไม่ว่าพวกคุณจะกำลังทำอะไรอยู่ก็ตาม มันก็จะไปส่งผลกระทบต่อแมทตริกซ์ของจักรวาลทั้งจักรวาลด้วยเสมอ!


    กิจธุระประจำวันทางโลกของพวกคุณ เช่นการนำขยะไปทิ้งนั้น ก็สามารถที่จะกลายไปเป็นชั่วขณะแห่งการเปลี่ยนรูปแบบอันศักดิ์สิทธิ์สำหรับตัวพวกคุณเอง และสำหรับโครงข่ายพลังงานของโลกได้ด้วย ถ้าพวกคุณนำเอาความตระหนักรู้ของตัวเองเข้าไปใส่ในกิจกรรมนั้น ๆ ด้วยอย่างเต็มที่ เพราะว่าพวกคุณสามารถที่จะเอิบอาบขยะเหล่านั้นด้วยแสงสว่างของตัวเองได้ ในแบบที่จะทำให้ไม่ว่าพวกมันจะไปที่ไหนต่อก็ตาม พวกมันก็จะไปยกระดับพลังงานของทุกสิ่งทุกอย่างและของทุกๆคนที่อยู่รอบ ๆ ตัวมัน หรือที่มาแตะต้องสัมผัสมันให้สูงขึ้นตามไปด้วยได้

    เพราะฉะนั้นแล้ว จงก้าวเข้าไปในความตระหนักรู้อันศักดิ์สิทธิ์อันนั้น ซึ่งเป็นที่ ๆ พวกคุณมีพลังอำนาจที่จะยกระดับคลื่นความสั่นสะเทือนที่ต่ำ ๆ ซึ่งเป็นพิษเป็นภัยทั้งหลายให้สูงขึ้นมาได้ตลอดเวลาด้วยคลื่นความสั่นสะเทือนแห่งการเปลี่ยนรูปแบบของเอกภพ จงฝึกฝนการนำเอาแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์ที่น่าทึ่งอันนี้เข้าไปใส่ในทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกคุณกระทำ

    ซึ่งยิ่งพวกคุณนำเอาจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของตัวเองเข้าไปไว้ในปัจจุบันขณะมากเท่าไหร่ และดำรงอยู่ในคลื่นความถี่ของหัวใจของตัวเองมากเท่าไหร่ โลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณก็จะยิ่งยกระดับขึ้นและเปลี่ยนรูปแบบไปรวดเร็วมากเท่านั้นด้วย

    ส่วนการไปติดอยู่ในอดีตและการไปพะวงถึงอนาคตนั้น ก็รั้งแต่จะขัดขวางพวกคุณเอาไว้ไม่ให้สามารถเริงระบำอยู่ในปัจจุบันขณะได้เท่านั้นเอง

    “ปัจจุบันขณะ” (the NOW moment) คือที่ ๆ พลังอำนาจของพวกคุณสถิตย์อยู่

    “ปัจจุบันขณะ” (the NOW moment) คือที่ ๆ ความสมดุลอันศักดิ์สิทธิ์สถิตย์อยู่

    “ปัจจุบันขณะ” (the NOW moment) คือที่ ๆ ประตูมิติแห่งการเปลี่ยนรูปแบบอันสะอาดและบริสุทธิ์สถิตย์อยู่

    The Team
    .........................................................
    Source: Morning Messages
    .........................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  15. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 67: ประตูมิติแห่งปัจจุบันขณะ (ตอนที่ 2)"

    a.png
    (credit the picture from internet)

    “นี่คือกุญแจของพวกคุณ => ในทุกๆกิจกรรม, ทุก ๆ โปรเจ็คต์ และทุก ๆ กิจธุระทางโลกของพวกคุณ จงนำเอาจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของตัวเองเข้าไปใส่ในชั่วขณะนั้น ๆ ด้วยอย่างเต็มที่”

    จงยินยอมให้ผัสสะทั้งหมดของพวกคุณเข้ามามีส่วนร่วมด้วย ไม่ว่าจะเป็นการมองเห็น, การได้กลิ่น, หรือการรับรู้ทางการสัมผัสก็ตาม และเมื่อใดที่พวกคุณเริงระบำอยู่ในปัจจุบันขณะได้ในทุกชั่วขณะแล้ว มันก็จะมีสักชั่วขณะหนึ่งหละ ที่พวกคุณก็จะได้ประจักษ์ว่าการอยู่ในปัจจุบันขณะอย่างเต็มที่นั้น มันมีคุณสมบัติเป็นแบบโปร่งแสง

    มันมีเวทมนต์ หรือพลังลี้ลับอยู่อย่างหนึ่ง ที่มีพร้อมอยู่แล้วให้มนุษย์แห่งดวงดาวทุก ๆ คนนำเอาไปใช้งาน แต่มนุษย์ผู้นั้นจะต้องเรียนรู้ที่จะขี่คลื่นพลังงานที่เป็นผู้ที่กำลังสร้างทุก ๆ ชั่วขณะแห่งปัจจุบันขณะทั้งหมดนี้ขึ้นมาอยู่ซะก่อน เพราะว่ามันต้องอาศัยทักษะความชำนาญด้วย มันเป็นเกมอย่างหนึ่ง และมันก็เป็นคำเชื้อเชิญด้วย

    จงเริ่มฝึกฝนเสียตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในขณะที่พวกคุณทำกิจธุระประจำวันทางโลกของตัวเองไปตามปกติ จงนำเอาพลังงานอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง เข้าไปใส่ไว้ในชั่วขณะนั้น ๆ ด้วย

    จงฝึกฝนการกลับไปตระหนักรู้ถึงตัวตนของตัวเองอย่างเต็มที่

    จงฝึกฝนการก้าวออกมาจากความคิดที่เคยชินของตัวเอง ที่มันคอยบงการกิจกรรมต่าง ๆ ของพวกคุณอยู่โดยไม่รู้ตัว


    จงฝึกฝนการอยู่ใน “ปัจจุบันขณะ” ให้ได้อย่างเต็มที่ ซึ่งจุดเริ่มต้นที่ดีในการฝึกก็คือ ณ จุดศูนย์กลางหัวใจของพวกคุณเอง เพราะว่าเมื่อใดที่พวกคุณนำเอาสติหรือความตระหนักรู้ของตัวเองมาจดจ่อไว้ในหัวใจของตัวเองแล้ว พวกคุณก็จะสามารถอยู่ในปัจจุบันขณะได้อย่างเป็นธรรมชาติ

    ส่วนจิตใจของพวกคุณนั้น มันชอบที่จะไปเที่ยวเล่นอยู่ในดินแดนของอดีตและอนาคต จิตใจของพวกคุณมันชอบที่จะเล่นเกม “จะเกิดอะไรขึ้นถ้า...?” และเกม “ถ้าเพียงแต่ตอนนั้น..(ฉันทำ/ไม่ทำอย่างโน้นอย่างนี้ – ผู้แปล) ?” ซึ่งเป็นการนึกเสียดายและเสียใจย้อนหลัง จิตใจของพวกคุณมันเพลิดเพลินอยู่กับความกลัวและความเกลียดชัง

    โปรแกรมของจิตใจของพวกคุณคือผู้ที่กักขังมนุษย์แห่งดวงดาวหลากมิติแต่ละคนเอาไว้ให้ติดอยู่แต่ในมายาการแห่งการมีข้อจำกัด

    นี่แหละคืองานรับใช้โลกที่สูงส่งที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดที่พวกคุณจะสามารถทำเพื่อคนอื่น ๆ ได้หละ ซึ่งงานรับใช้ที่ว่านี้ก็คือการดำรงสติอยู่ในความตระหนักรู้อันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองอย่างเต็มที่ ซึ่งก็คือการดำรงอยู่ในความตระหนักรู้อันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองอย่างเต็มที่ ในปัจจุบันขณะนั่นเอง

    กาลเวลามันไม่มีอยู่จริง! เพราะว่ากาลเวลาก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของโฮโลเกมหรือเกมสามมิตินี้เท่านั้นเอง มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของมายาการนี้เท่านั้นเอง และกาลเวลาก็เป็นสิ่งที่ขึ้นอยู่กับจิตใจด้วย (time is a function of the mind) และเจ้ากาลเวลานี่แหละที่เป็นตัวการทำให้พวกคุณหลุดออกมาจากปัจจุบันขณะหละ

    ด้วยการฝึกฝนอยู่ในปัจจุบันขณะ ก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังเดินออกมาจากมายาการของกาลเวลาแล้ว มันเป็นทักษะที่ต้องฝึกฝนอย่างหนึ่ง แต่ว่ามันก็ง่ายดายกว่าที่พวกคุณคิดกันเอาไว้มาก พวกคุณยังจดจำประสบการณ์ตอนที่พวกคุณรู้สึกมีความสุขและประเดประดังไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจได้ไหม? นั่นแหละ..ตอนนั้นแหละที่พวกคุณกำลังอยู่ในปัจจุบันขณะอย่างเต็มที่หละ

    เพราะฉะนั้นแล้ว จงนำเอาจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของตัวเองเข้าไปใส่ไว้ในแต่ละชั่วขณะอย่างเต็มที่ แล้วพวกคุณก็จะถูกเอิบอาบไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความสุข-ความเบิกบาน ซึ่งความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความสุข-ความเบิกบานนี้ จะผุดลอยขึ้นมาจากหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณเอง แล้วจากนั้นมันก็จะแผ่ออกมาสู่ทุกสิ่งทุกอย่างต่อไป แล้วจากนั้นทุก ๆ กิจกรรมและทุก ๆ สิ่งที่พวกคุณได้เผชิญก็จะถูกยกระดับขึ้นไปสู่อาณาจักรแห่งแสงสว่างและความรักต่อไป แล้วจากนั้นพวกคุณก็จะเริ่มใช้ชีวิตอยู่ในประตูมิติ
    แห่งปัจจุบันอันมหัศจรรย์และศักดิ์สิทธิ์ในที่สุด


    The Team
    ...........................................................
    Source: Morning Messages
    ...........................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  16. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 68: ปัจจุบันขณะ คือประตูมิติบานหนึ่ง"

    a.png
    (credit the picture from internet)

    การดำรงอยู่ในปัจจุบันขณะคือการเต้นรำอย่างคล่องแคล่ว และก็มีความสำคัญมากที่จะต้องเรียนรู้

    ลองจินตนาการถึงทักษะความชำนาญที่จำเป็นจะต้องใช้ในการไต่เชือกดูสิ ทุก ๆ ย่างก้าว จะต้องอยู่ในปัจจุบันขณะเท่านั้น เพราะว่าถ้านักไต่เชือกเผลอไปคิดถึงก้าวย่างต่อ ๆ ไปแล้วหละก็ เขาก็อาจจะสูญเสียสมาธิ และเสียสมดุลไปก็ได้ ดังนั้น ด้วยการอยู่ในปัจจุบันขณะ พลังงานทั้งหมดก็จะถูกทุ่มเทลงไปในก้าวย่างที่กำลังเดินอยู่นั้น ซึ่งเป็นงานที่กำลังทำอยู่ในชั่วขณะนั้น ๆ จึงจะทำให้นักไต่เชือกสามารถไต่เชือกได้เป็นผลสำเร็จ

    และด้วยการอยู่ในปัจจุบันขณะนี้เอง ที่พวกคุณจะได้รับแรงบันดาลใจและการชี้นำทางจากเบื้องบน ดังนั้น ศิลปินนักเขียนภาพจึงจดจ่ออยู่แต่กับชิ้นงานของตัวเองมากเหลือเกิน จนกระทั่งทำให้เขาหลงลืมกาลเวลาไปเลยทีเดียว เพราะว่าเขากำลังสร้างสรรค์มันขึ้นมา จากแต่ละชั่วขณะอันสดใหม่ของปัจจุบันขณะอยู่ เขากำลังอยู่ในกระแสพลังงานแห่งการสร้างสรรค์อยู่

    การเริงระบำแห่งชีวิต หรือการเต้นรำด้วยการทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็เช่นเดียวกัน พวกคุณกำลังสร้างสรรค์อยู่ตลอดเวลา

    พวกคุณกำลังสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ขึ้นมา ถ้าไม่ใช่จากอดีต ก็คือสร้างสรรค์ขึ้นมาจากปัจจุบันขณะนี้นั่นเอง ซึ่งถ้าพวกคุณสร้างสรรค์ขึ้นมาจากอดีตหละก็ สิ่งที่พวกคุณสร้างสรรค์ขึ้นมาทั้งหมดนั้น ก็จะมีกลิ่นไอของความทรงจำในอดีต, ความรู้สึกในอดีต, ความเสียใจในอดีต และความเชื่อในอดีตของพวกคุณติดมาด้วย แต่ถ้าพวกคุณสร้างสรรค์ขึ้นมาจากปัจจุบันขณะหละก็ มันก็จะเหมือนกับการวาดภาพบนผ้าใบผืนใหม่เลยทีเดียว

    ในขณะที่มีสติสัมปชัญญะเต็มเปี่ยมนี้พวกคุณสามารถที่จะอยู่ในปัจจุบันขณะได้ และจากการอยู่ในปัจจุบันขณะนี้เอง ก็ให้วางแผนงาน หรือวางกำหนดการณ์นัดหมาย หรือสิ่งที่จะทำขึ้นมา และเมื่อพวกคุณจัดวางสิ่งต่าง ๆ ที่จะทำในอนาคตเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ให้ปลดปล่อยพลังงานของมันออกไป แล้วกลับเข้ามาจดจ่ออยู่กับชั่วขณะอันสดใหม่ของปัจจุบันขณะ และสิ่งที่มันกำลังทำอยู่ต่อไป

    เพราะว่าการไปจดจ่อความตระหนักรู้ของตัวเองอยู่กับอนาคตจะทำให้เกิดความเครียดขึ้นมาอย่างมาก ซึ่งนั่นก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังไปเพิ่มพลังงานแห่งความวิตกกังวล และความกลัวให้กับมันอยู่

    เพราะฉะนั้น จงจับสติหรือความตระหนักรู้ของตัวเองเอาไว้ให้มั่น แล้วลากมันให้เข้ามาอยู่ในปัจจุบันขณะให้ได้ในทุกชั่วขณะ

    ในโฮโลเกมหรือเกมสามมิติแห่งนี้ มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกคุณจะต้องมีการวางแผนกัน แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อวางแผนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็จงปล่อยมันไปเสีย และจงถามตัวเองบ่อย ๆ ว่า ตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในปัจจุบันขณะอยู่หรือเปล่า หรือว่าฉันกำลังอยู่ในอดีต หรือว่าฉันกำลังอยู่ในอนาคตกันแน่? จงเฝ้าสังเกตดู และจงคอยจับตาดูว่าตัวเองวางความสนใจเอาไว้ที่ใด อดีต, ปัจจุบัน หรือว่าอนาคต?

    ถ้าพวกคุณไปติดอยู่ในอดีต พวกคุณก็จะสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ขึ้นมาจากอดีต แต่ถ้าพวกคุณส่งความตระหนักรู้ของตัวเองเข้าไปในอนาคต พวกคุณก็กำลังสร้างสรรค์ขึ้นมาจาก “อดีต” ด้วยเช่นเดียวกัน

    “ปัจจุบันขณะ” คือจุดที่ทรงพลังอำนาจของพวกคุณ ที่ ๆ พวกคุณจะสามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาได้ เพราะว่าในชั่วขณะแห่งปัจจุบันขณะนี้ พวกคุณจะสามารถตั้งเจตจำนงที่ชัดเจน แล้วคงภาพอันคมชัดของเหตุการณ์ในอนาคตอันนั้นเอาไว้ ซึ่งการทำเช่นนี้ก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังวางแผนและร่างกรอบของผลลัพธ์ที่ต้องการจะให้เกิดขึ้นในอนาคตขึ้นมาอยู่ ซึ่งนี่เป็นเรื่องที่ดี แต่เมื่อใดที่พวกคุณทำเสร็จแล้ว ก็จงปลดปล่อยมันไปเสีย จงยินยอมให้เจตจำนงแห่งการสร้างสรรค์ของตัวเองนำพาเอาผลลัพธ์ที่อยู่ ในจินตนาการอันคมชัดอันนั้นของพวกคุณมาสู่พวกคุณได้ และจงเชื่อมั่นในพลังของเจตจำนงแห่งการสร้างสรรค์ของตัวเองด้วย

    ด้วยการดำรงอยู่ในปัจจุบันขณะ พวกคุณจะสามารถตระหนักรู้ว่าแต่ละชั่วขณะของปัจจุบันขณะนั้น คือประตูมิติที่ไร้กาลเวลาบานหนึ่ง ซึ่งพวกคุณจะค่อย ๆ เริ่มสังเกตเห็นว่ากาลเวลาจะเปลี่ยนไปสำหรับพวกคุณ เพราะว่ามันจะยืดออก หรือหดเข้า หรือย่นระยะเข้ามา หรือแม้แต่หายไปก็ได้ด้วย

    The Team
    ........................................................
    Source: Morning Messages
    ........................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  17. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 69: คลื่นความถี่ทางไฟฟ้า"

    a.jpg
    (credit the picture from internet)

    ดาวเคราะห์โลกกำลังจมอยู่ในทะเลแห่งความสั่นสะเทือนและคลื่นความถี่ต่าง ๆ มากมาย ส่วนมนุษย์โลกก็มีความเชี่ยวชาญในการสร้างสรรค์และประดิษฐ์อุปกรณ์ต่าง ๆ ขึ้นมามากมาย ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีคลื่นความถี่ และความสั่นสะเทือนทางพลังงานรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และคลื่นของพลังงานเหล่านี้ก็กำลังเคลื่อนที่ผ่านตัวของพวกคุณไปอยู่ตลอดเวลา

    ลองจินตนาการดูสักครู่สิว่าแค่เพียงอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีอยู่ในบ้านของพวกคุณเองเพียงบ้านเดียว ก็มีอยู่อย่างมากมายแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟทุก ๆ หลอด, ระบบโทรศัพท์, หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในครัวก็ตาม ซึ่งอุปกรณ์แต่ละชิ้นต่างก็จะแผ่ส่งคลื่นความถี่ระดับใดระดับหนึ่งออกมาด้วยกันทั้งสิ้น และโทรทัศน์ก็เป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่แผ่ส่งคลื่นความถี่ที่ไม่สอดคล้องออกมามากที่สุดด้วย แต่ชาวโลกส่วนใหญ่กลับไม่รับรู้ถึงคลื่นความถี่เหล่านี้เลย ดังนั้นคลื่นความถี่เหล่านี้จึงไปปิดกั้นการรับรู้ของพวกเขา และสนามพลังงานของพวกเขาก็เลยถูกปรับเปลี่ยนไปเพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกับคลื่นความถี่เหล่านี้ได้

    ดาวเคราะห์โลกดวงนี้ถูกห่อหุ้มและพัวพันด้วยคลื่นความถี่ไฟฟ้าจำนวนมากมาย ซึ่งถ้าพวกคุณมีตาทิพย์สามารถมองเห็นเกลียวพลังงานที่เชื่อมต่ออยู่กับสายไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้า, โทรศัพท์มือถือ, โทรทัศน์ และเตาไมโครเวฟเหล่านี้ทั้งหมดได้หละก็ พวกคุณก็จะประหลาดใจว่าแมทตริกซ์ทางพลังงานเหล่านี้ พวกมันถักทอกันอยู่อย่างหนาแน่นมากน้อยแค่ไหน มันโอบล้อมดาวเคราะห์โลกของพวกคุณอยู่ในรูปแบบของโครงข่ายพลังงานของคลื่นความถี่ที่ไม่สอดคล้องกลมกลืนกัน

    แต่ว่าชาวโลกส่วนใหญ่กลับไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลย เพราะว่าพวกคุณจะมีความคิดอยู่ว่า
    “อะไรที่พวกคุณมองไม่เห็น หรือไม่รู้ ก็จะไม่มีผลกระทบต่อพวกคุณ”

    แมทตริกซ์ของคลื่นความถี่ไฟฟ้าเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อร่างกายเนื้อของพวกคุณอยู่เสมอ และยังส่งผลกระทบต่อสภาวะจิตใจของพวกคุณอีกด้วย พวกมันคือส่วนหนึ่งของการสะกดจิตที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในโฮโลเกมอันนี้ และคลื่นความถี่ไฟฟ้าเหล่านี้ก็เป็นยาเสพติดสำหรับสนามพลังงานของพวกคุณอีกด้วย เพราะว่าพวกมันจะมีกระแสความคิดอย่างใดอย่างหนึ่งติดมาด้วยเสมอ

    เพราะฉะนั้นแล้วจงระมัดระวังคลื่นความถี่ที่ไม่สอดคล้องกลมกลืนกันเหล่านี้ให้ดี และจงระมัดระวังโครงข่ายพลังงานที่พวกมันสร้างขึ้นมาด้วย ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกคุณทุก ๆ คนจะต้องกราวด์ตัวเองเอาไว้ให้ดี และจะต้องมั่นคง และหนักแน่นอยู่ในสนามพลังงานและแมทตริกซ์ของตัวเองให้มากเพื่อที่พวกคุณจะได้รับผลกระทบจากคลื่นความถี่ที่ไม่สอดประสานกลมกลืนกันเหล่านี้น้อยลง

    พลังงานจากเปลวสุริยะ (solar flare) และกระแสพลังงานทั้งหลายที่ระเบิดปะทุออกมาจากกาแล็กซี่ กำลังไหลบ่าเข้ามาและผ่านทะลุทะลวงเกราะพลังงานของคลื่นความถี่ไฟฟ้าที่มีอำนาจสะกดจิตเหล่านี้อยู่ เพื่อมากระตุ้นคุณสมบัติบางอย่างของรหัสใน DNA ของพวกคุณให้ทำงานขึ้นมา ซึ่งพลังงานที่จู่โจมเข้ามาเหล่านี้คือ สัญญาณปลุกให้ตื่นสำหรับมนุษยชาติ

    สนามพลังงานแม่เหล็กโลกจะยึดเหนี่ยวแมทตริกซ์ของโฮโลเกมที่สมบูรณ์แบบกว่าเอาไว้อยู่ แต่ว่าตอนนี้มันกำลังค่อย ๆ ถูกครอบงำโดยสนามพลังงานไฟฟ้าไปซะแล้ว

    ตอนนี้มนุษย์โลกกำลังได้รับความช่วยเหลือขั้นสูงสุดจากจิตสำนึกของเอกภพและจากรูปธรรมชีวิต แห่งฟากฟ้าทั้งหลายอยู่ เพื่อให้ชาวโลกแต่ละคนค่อย ๆ ตื่นขึ้นมาสู่ความยิ่งใหญ่อลังการของตัวเอง เพราะว่าพวกเขามีความเชื่อมต่ออันศักดิ์สิทธิ์อยู่ในระดับดวงดาว

    เมื่อใดที่พวกคุณมั่นคงอยู่ในสนามพลังงานอันแข็งแกร่งของความรัก, ความสุข-ความเบิกบาน และความรู้สึกชื่นชมยินดีแล้ว เมื่อนั้นก็เท่ากับว่าพวกคุณได้สร้างสนามพลังงานอันเข้มข้นขึ้นมาแล้ว และเมื่อใดที่พวกคุณสั่นสะเทือนด้วยคลื่นความถี่อันเข้มข้นเหล่านี้แล้ว พวกคุณก็จะไม่ได้รับผลกระทบจากโครงข่ายพลังงานไฟฟ้าที่กำลังถาโถมดาวเคราะห์โลกดวงนี้อยู่ เพราะฉะนั้นแล้ว จงอยู่ในความสุข-ความเบิกบาน, จงว่ายเวียนและหลั่งไหลไปตามกระแสพลังงานที่มาจากดวงดาวเหล่านั้น

    The Team

    ผู้รับสาส์น: Peggy Black
    .........................................................
    Source: Morning Messages
    .........................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  18. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 70: สนามพลังงานแห่งความสั่นสะเทือนสนามเดียว"

    a.png
    (credit the picture from internet)

    ร่างกายเนื้อของมนุษย์นี้ เป็นแต่เพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของความเป็นทั้งหมดของพวกคุณเท่านั้นเอง แต่ว่าในฐานะที่เป็นมนุษย์โลกคนหนึ่ง ที่เอาแต่จดจ่ออยู่กับ และจดจ่ออยู่ในมิติที่ 3 แห่งนี้เท่านั้น พวกคุณจึงรู้สึกว่า และมองเห็นว่ามันเป็นจริงเป็นจังอย่างมาก แต่ความจริงก็คือว่า ร่างกายเนื้อนี้มันเป็นแต่เพียงส่วนหนึ่งของความเป็นมนุษย์แห่งดวงดาวหลากมิติของพวกคุณเองเท่านั้นเอง

    มิติต่าง ๆ ล้วนมีอยู่ตรงนี้เสมอ แค่กำลังสั่นสะเทือนอยู่ด้วยคลื่นความถี่ที่แตกต่างกันเท่านั้นเอง ดังนั้น เมื่อใดที่มนุษย์แห่งดวงดาวเริ่มมีสติรู้ขึ้นมาแล้ว โลกแห่งความเป็นจริงอื่น ๆ และมิติอื่น ๆ ก็จะปรากฎขึ้นมาให้เห็นได้

    นักดาราศาสตร์ของพวกคุณได้ทะยอยค้นพบดาวเคราะห์ดวงใหม่ ๆ ที่อยู่นอกระบบสุริยะของพวกคุณมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งนี่แหละคือตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่ามนุษย์โลกได้ยกระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของตัวเองให้สูงขึ้นเรือย ๆ จนมากพอที่จะทำให้ดาวเคราะห์เหล่านี้สามารถถูกมองเห็นได้แล้ว ซึ่งก็จะคล้าย ๆ กับความรู้เรื่องควอนตั้มฟิสิกส์นั่นแหละที่ตอนนี้มนุษย์ก็รู้แล้วว่าพลังงานที่อยู่ภายในอนุภาคที่มีขนาดเล็กมากที่สุด ก็มีความตระหนักรู้อันน่าทึ่งด้วย จนสามารถส่งผลกระทบต่อความคิดของพวกเราได้ และก็สามารถได้รับผลกระทบจากความคิดของพวกเราได้อีกด้วย

    ตอนนี้เราลองมาใช้ร่างกายเนื้อของตัวเองเพื่อเป็นตัวอย่างในระดับหลากมิติกันดูสักหน่อย พวกคุณมีร่างกายเนื้อที่หนาแน่นทึบตันใช่ไหม? ภาพสะท้อนในกระจกเงาที่พวกคุณมองเห็นกันก็คือมันมีรูปร่างรูปทรง, มีความสูง และมีน้ำหนักใช่ไหม? แต่ว่านั่นหนะเป็นแค่ลักษณะปรากฎภายนอกของมันเท่านั้นเอง

    ภายในร่างกายเนื้อของมนุษย์ จะประกอบไปด้วยกาแล็กซี่ทั้งกาแล็กซี่, ประกอบไปด้วยระบบทั้งระบบ, และประกอบไปด้วยสนามพลังงานทั้งสนาม ซึ่งแต่ละระบบเหล่านี้จะปฎิบัติการโดยอัตโนมัติ โดยที่จิตสำนึกของพวกคุณไม่อาจรับรู้ได้เลย ซึ่งก็จะเหมือนกันกับโลกแห่งความเป็นจริงอื่น ๆ และมิติอื่น ๆ ที่อยู่ภายนอกร่างกายเนื้อของพวกคุณนั่นแหละ ที่จะปฎิบัติการโดยอัตโนมัติ โดยที่จิตสำนึกของพวกคุณไม่อาจรับรู้ได้เลย ดังนั้น พวกคุณจึงกำลังส่งผลกระทบต่อทั้งมิติที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณเอง และส่งผลกระทบกับมิติที่อยู่ภายนอกโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณเองไปพร้อม ๆ กันด้วย

    ทุกสิ่งทุกอย่างคือเงาสะท้อน ดังนั้น “ข้างในเป็นอย่างไร ข้างนอกก็เป็นอย่างนั้นด้วย ข้างบนเป็นเช่นไรข้างล่างก็เป็นเช่นนั้นด้วย” ซึ่งนี่คือคำพูดที่เป็นความจริงของนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งของพวกคุณที่ชื่อไอน์สไตน์

    นิวเคลียสของอะตอมจะหมุนอยู่ภายในเซลล์ของร่างกายเนื้อของพวกคุณ เพราะมันคือเป็นปรากฎการณ์ทางควอนตั้มฟิสิกส์ แล้วความคิด และอารมณ์ความรู้สึกของพวกคุณ ก็จะไปส่งผลกระทบต่อการหมุนดังกล่าวนี้ และในทำนองเดียวกันนี้ ความคิดและอารมณ์ความรู้สึกของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก ก็จะไปส่งผลกระทบต่อการหมุนของดาวเคราะห์โลกของพวกคุณเอง และจะไปส่งผลกระทบต่อการหมุนของดวงดาวต่าง ๆ ด้วย และการหมุนของดาวเคราะห์โลกและของดวงดาวต่าง ๆ ก็จะย้อนกลับมาส่งผลกระทบต่อการหมุนของอะตอมภายในเซลล์ของพวกคุณต่อไป เพราะว่าทั้งหมดนี้คือสนามพลังงานแห่งการสั่นสะเทือนสนามเดียวกัน ที่เกิดจากการสั่นสะเทือนและการผสมผสานกันอย่างน่าทึ่ง

    เพราะฉะนั้น จงรู้เอาไว้เสมอเลยว่าพวกคุณกำลังปฏิบัติการอยู่ในระดับหลากมิติระดับใดระดับหนึ่งอยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณเอง และภายนอกร่างกายเนื้อของพวกคุณด้วย จงยินยอมให้ตัวเองตระหนักรู้ถึงโลกแห่งความเป็นจริง และมิติต่าง ๆ เหล่านี้

    The Team

    ผู้รับสาส์น: Peggy Black
    .......................................................
    Source: Morning Messages
    .......................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  19. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    "ข้อความที่ 71: การมีชีวิตอยู่เสมือนเป็นเซลล์เพียงเซลล์เดียว"

    a.png
    (credit the picture from internet)

    ลองพิจาณาความตระหนักรู้แบบหลากมิติของตัวเองดูสิ พวกคุณมาอยู่ในโฮโลเกมหรือเกมสามมิติแห่งนี้..บนโลกใบนี้ เพื่อมารับผิดชอบต่อร่างกายเนื้อที่พวกคุณกำลังสวมใส่อยู่ และพวกคุณก็ถูกจำกัด ให้อยู่แต่ในกรอบความเชื่อแห่งการมีข้อจำกัดของโลกแห่งความเป็นจริงอันนี้เท่านั้น แต่พวกคุณก็มีการเชื่อมต่ออยู่กับกาแล็กซี่ด้วยในขณะเดียวกัน และพวกคุณก็กำลังตอบสนองต่อแมทตริกซ์ทางพลังงานที่ถูกนำเสนอมาให้อยู่ พวกคุณสามารถอ่านพลังงานของรูปธรรมชีวิตอื่น ๆ ได้, สามารถรับเอาข้อมูลข่าวสารจากรูปธรรมชีวิตอื่น ๆ ได้ และสามารถเชื่อมประสานกับรูปธรรมชีวิตอื่น ๆ ได้ตลอดเวลาอีกด้วย เช่น โดยการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และความคิดซึ่งกันและกัน, และโดยการถักสานพลังงานเข้าด้วยกัน เป็นต้น

    พวกคุณสามารถท่องกาลเวลาได้ในชั่วพริบตา ไม่ว่าจะเป็นการกลับไปสู่อดีต หรือซูมเข้าไปในอนาคตก็ตาม แต่อย่างไรก็ตาม พวกคุณก็จะเข้าไปสัมผัสเส้นกาลเวลานั้นเพียงแค่ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น และโดยปกติแล้วพวกคุณก็จะเข้าไปสัมผัสมัน ด้วยความรู้สึกเสียใจ หรือด้วยความรู้สึกเป็นกังวล

    พวกคุณมีความสามารถที่จะก้าวเข้าไปสู่โฮโลเกมไหนก็ได้ และไปมีประสบการณ์กับโลกแห่งความเป็นจริงไหนก็ได้ด้วย เพื่อไปสัมผัสรสชาติ, กลิ่น, ความรู้สึก และภาพทั้งหมดของมัน และ อาจจะเรียกได้ว่า ไป “ใช้ชีวิต” อยู่กับมันก็ได้

    แต่สำหรับโลกแห่งความเป็นจริงในมิติที่ 3 แห่งนี้ พวกคุณทำได้แค่เพียงเลียนแบบความสามารถหลากมิติเหล่านี้ ด้วยภาพยนตร์ และรายการโทรทัศน์ของพวกคุณเท่านั้นเอง

    คราวนี้..พวกเราจะมาใช้ร่างกายเนื้อของพวกคุณเป็นตัวอย่างในการอุปมาอุปมัยกัน สมมุติว่าพวกคุณอยู่ภายในร่างกายเนื้อนี้ และชีวิตทางกายภาพที่พวกคุณกำลังจดจ่ออยู่ในขณะนี้ หรือมิติที่พวกคุณกำลังตระหนักรู้อยู่นี้ มีเพียง “เซลล์เพียงเซลล์เดียว” เท่านั้น ดังนั้นชีวิตทั้งชีวิตของพวกคุณ หรือปัจจุบันขณะของพวกคุณก็จะอยู่ภายใน “เซลล์เพียงเซลล์เดียว” เท่านั้น แต่ว่าพวกคุณและคนอื่น ๆ ที่พวกคุณไปมีปฏิสัมพันธ์ด้วย โดยเนื้อแท้แล้วล้วนเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติด้วยกันทั้งสิ้น เพราะว่าตัวตนหลากมิติของพวกคุณเป็นคนสร้าง, หล่อเลี้ยง, และบำรุงรักษาตัวตนทั้งหมดของพวกคุณเอาไว้ ซึ่งมีความสลับซับซ้อนอย่างมาก เพื่อให้คงอยู่ในความสมดุลมากที่สุด

    พวกคุณในฐานะที่เป็น “เซลล์เพียงเซลล์เดียว” ของร่างกายเนื้อทั้งหมด ไม่สามารถที่จะตระหนักรู้ถึงภาระกิจอื่น ๆ ของร่างกายเนื้อทั้งหมดได้ หรือก็คือ..ไม่สามารถที่จะตระหนักรู้ถึงโลกแห่งความเป็นจริงอื่น ๆ ที่ร่างกายเนื้อทั้งหมดไปมีส่วนร่วมอยู่ได้ เพราะว่ามันมีทั้งโลกแห่งความเป็นจริงของกระดูก, โลกแห่งความเป็นจริงของผิวหนัง, โลกแห่งความเป็นจริงของหัวใจ, ของตับ, และของระบบไหลเวียนโลหิต และโลกแห่งความเป็นจริงของระบบอื่น ๆ อีก

    ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณเองเท่านั้นเองนะ เพราะว่ามันยังมีสมอง, มีความคิด, มีความรู้สึก, มีความทรงจำ และอื่น ๆ อยู่อีกมากมาย แต่ว่าความตระหนักรู้ของเซลล์เพียงเซลล์เดียวนี้ จะไม่สามารถตระหนักรู้ถึงทุก ๆ ส่วนที่กำลังทำงานอยู่ทั้งหมดและตลอดเวลา ได้อย่างเต็มที่

    ชีวิตของมนุษย์โลกชีวิตนี้ คือสิ่งที่พวกคุณกำลังจดจ่ออยู่ แต่ว่ามันก็เป็นแค่ “เซลล์เพียงเซลล์เดียว” ของความยิ่งใหญ่อลังการทั้งหมดของตัวตนหลากมิติของพวกคุณเท่านั้นเอง เพราะว่ามันยังมีอะไรอื่น ๆ อยู่อีกมากมายก่ายกอง ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา แต่พวกคุณไม่สามารถรับรู้ได้ เพราะว่าความตระหนักรู้ที่ถูกพรางเอาไว้ของพวกคุณ และเพราะว่าระบบความเชื่อที่มีข้อจำกัดของพวกคุณด้วย

    มันยังมีคลื่นความถี่อื่น ๆ, แมทตริกซ์อื่น ๆ และโลกแห่งความเป็นจริงอื่น ๆ อยู่อีกมากมาย ที่ดำรงอยู่พร้อม ๆ กับโลกแห่งความเป็นจริงนี้ของพวกคุณ ซึ่งในโลกแห่งความเป็นจริงเหล่านี้นั้น ก็มีตัวตนของพวกคุณดำรงอยู่
    แบบเป็นจริงเป็นจังมาก ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่า “เซลล์เพียงเซลล์เดียว” ที่พวกคุณกำลังจดจ่ออยู่นี้ มันขัดขวางไม่ให้พวกคุณขยายตัวไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงเหล่านี้ได้เท่านั้นเอง มิหนำซ้ำมันยังขัดขวางไม่ให้พวกคุณรับรู้ถึงการมีอยู่ของโลกแห่งความเป็นจริงเหล่านี้ด้วยซ้ำไป

    เพราะฉะนั้นแล้ว จงขยายความตระหนักรู้ของพวกคุณออกไป ซึ่งมันจะง่ายดายกว่าที่พวกคุณคิดเอาไว้มากนัก เพราะว่าพวกคุณก็ทำมันอยู่แล้วบ่อย ๆ แต่คราวนี้แค่พยายามจดจำให้ได้เท่านั้นเองว่า ตอนไหนที่ความตระหนักรู้ของพวกคุณได้ย้ายจากโลกแห่งความเป็นจริงหนึ่งไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงอื่นแล้ว

    The Team

    ผู้รับสาส์น: Peggy Black
    .........................................................
    Source: Morning Messages
    .........................................................
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2021
  20. Kama-Manas

    Kama-Manas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    5,351
    ค่าพลัง:
    +6,491
    ;41;41;41;41;41;41;41
     

แชร์หน้านี้

Loading...