เพื่อการกุศล นิ่มป่าแดง...ตามอ่านประสบการณ์จริง

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย numthip, 14 มิถุนายน 2011.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. rung847

    rung847 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    827
    ค่าพลัง:
    +3,431
    สนับสนุน เป็นกำลังใจครับ
     
  2. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    เคยแกะแนวอ่านดาวของหมดทรัพย์ สวนพลู แล้วก็ทิ้งไป ลืมๆ พออาจารย์ฯที่สอนเราท่านพูดถึง ก็เลยเอามาแกะใหม่ ฝึกหัดอ่านหัดเขียนไปด้วย ครั้งนี้ลืมๆไปบ้าง ก็ฝากท่านพิมานช่วยตรวจทาน

    พยายามจะเขียนให้ได้ทุกวัน ถือเป็นการบ้านฝึกตัวเองด้วย จะได้มีเหตุผลให้เปิดกระทู้ต่อ

    ใครราษีอะไร ก็ลองไล่อ่านจากดาวจรดูนะครับ
    วันนี้วันพฤหัส ก็นับพฤหัสเป็นบริวารตามทักษา
    ๑จะเป็นศรี
    ๗เป็นกาลี

    ท่านที่มีลัคนาราศ๊เมษ
    ท่านจะเข้าไปมีบุญคุณ กับบริวารหรือผู้น้อยที่เกิดความขัดแย้งหรือเดือดร้อนฉุกเฉิน
    ไม่เป็นไร ท่านอยู่ในฐานะที่ทำได้อยู่แล้ว

    ท่านที่มีลัคนาราศ๊พฤษภ
    การเจรจาติดต่อลับๆได้ผลดี แต่หุ้นส่วนคู่ครองจะสร้างความยุ่งยากลำคาญหรือมีเล่ห์เหลี่ยม
    หลีกเลี่ยงจะมีปากเสียงกับคนในครอบครัวเพื่อความสุขระยะยาว

    ท่านที่มีลัคนาราศ๊มิถุน
    วันนี้ขาดผู้ช่วยเหลือ ทำการสิ่งใดให้ระวังให้มาก อาจพบเห็นความขัดแย้งของคนอื่น
    หรือเอกสารมีปัญหา ระวังจะเข้าไปยุ่งเกี่ยว

    ท่านที่มีลัคนาราศ๊กรกฏ
    บริวารบุตรหลานอาจมาขอความช่วยเหลือ ช่วยแล้วจะได้ลาภ ได้สรรเสริญ และสร้างบุญคุณ
    วันนี้ทำบุญได้จะดีมาก พระผู้ใหญ่จะเมตตา เทวดาจะเอ็นดู

    ท่านที่มีลัคนาราศ๊สิงห์
    วันนี้ทำงานก็อย่าใจร้อน ระวังการกระทบกระทั่งและอุบัติเหตุ ถึงมีเหตุก็มีผู้ช่วยเหลือ
    การมีผู้แอบให้ความช่วยเหลือก็ดี แต่การไม่มีเหตุให้ต้องได้รับความช่วยเหลือจะดีกว่า

    ท่านที่มีลัคนาราศ๊กันย์
    วันนี้กาลีวันจรในเรือนของการเดินทาง เจรจาติดต่อ จะไม่ได้รับความสะดวกเล็กๆน้อยๆจุกจิกไปตลอด
    คนรักคู่ครองหุ้นส่วน ถ้าดูแปลกๆ ก็เข้าไปดูแลหน่อย ใส่ใจในผลประโยชน์และทรัพย์สินของกันและกัน

    ท่านที่มีลัคนาราศ๊ตุลย์
    วันนี้มีพละกำลังจะทำกิจการงานเป็นอย่างดี เรื่องทั่วๆไปก็ราบรื่น คนไกลก็ติดต่อมา
    เสียตังค์ให้ญาติผู้ใหญ่ ดีกว่าเสียตังค์ซ่อมบ้านซ่อมรถ

    ท่านที่มีลัคนาราศ๊พิจิก
    คู่ครองหุ้นส่วนทั้งลับและไม่ลับล้วนดีกับท่าน กิจการงานที่ต้องแก้ไขก็ได้บ่าวไพรบริวารช่วยเหลือดี
    ถึงมีเรื่องต้องให้คิดมากหรือคิดหนักก็เท่านั้น สู่ปล่อยวางแล้วลงมือทำดีกว่า มีคนรอทำกับท่านอยู่

    ท่านที่มีลัคนาราศ๊ธนู
    อาจมีเรื่องให้ต้องเดินทางไกล แต่เป็นระยะเวลาสั้นๆ ระวังทางน้ำไว้ให้มาก หรือถ้าต้องเดินทางใกล้
    แต่ถ้าเป็นทางน้ำก็อย่าประมาท การติดต่อสื่อสาร ถ้าเกี่ยวกับน้ำ แม้น้ำคำก็ต้องระวัง จะสูญเสีย

    ท่านที่มีลัคนาราศ๊มังกร
    ถ้าวันนี้คิดมาก คิดถึงสิ่งเคยได้หรืออยากได้ ก็ให้ทำใจปล่อยวาง วันนี้ไม่ใช่วันของท่าน
    ระมัดระวังอุบัติเหตุโดยเฉพาะกับเครื่องจักร การงานมีโปรเจคใหม่ๆ ขนาดใหญ่ให้ร่วมรับผิดชอบ

    ท่านที่มีลัคนาราศ๊กุมภ์
    งานวันนี้อย่าเพิ่งระอา ให้ถี่ถ้วนเข้าว่า หลงประมาทขึ้นมาจะเสียหายหนัก เสียเวลาไตร่ตรองรอบคอบจะไม่เสียใจภายหลัง กับคนรักก็ตบจูบๆ

    ท่านที่มีลัคนาราศ๊มีน
    ถ้าได้ดูแลบริวารผู้อ่อนแอ แม้เป็นเด็กเล็กก็เพิ่มความระมัดระวัง จะได้รับเกียรติและการยกย่องจากผู้คนรอบข้าง ได้อยู่ในกลุ่มผู้มีอิทธิพล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. นายน้ำ5

    นายน้ำ5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,159
    ค่าพลัง:
    +7,287
    เปิดต่อเถอะครับพี่หนุ่มทิพย์
    ว่างๆก็เข้ามาเขียน มีน้องๆรออ่านมุมมองของพี่อีกหลายคนครับ
     
  4. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    จากหนังสือ "เกิดใต้ฤกษ์ดาวโจร"

    ไพฑูรย์เข้าตาจนถูกจับกุมเพราะน้องชายต่างมารดาวางเเผนหลอกให้ติดกับที่บ้านเกิดตัวเอง ไพฑูรย์คำรามใส่น้องชายต่างมารดาว่าเพียงเพื่อเห็นเเก่การเลื่อนยศมึงถึงกับขายกูกับหลวงอดุลฯ ''กูเเหกคุกออกมาเมื่อใดกูจะมาเอาซีวิตมึง สิงโตหินอย่างกูเขี้ยวเล็บไม่กล่อนกูพร้อมจะฆ่ามึงได้ทุกเวลา''

    ส่วนหลวงอดุลฯ ท่านเดินทางล่วงหน้ามายังที่พักเผื่อพักผ่อน ตอนดึกท่านก็มาที่กองกำกับการด้วยชุดไปรเวท ท่านให้เบิกตัวไพรฑูรย์ออกมาพบท่านในห้องสอบสวน

    ''ว่าอย่างไรไพฑูรย์ได้ข่าวความโหดเหี้ยมของนายมาตั้งเเต่ฆ่าขุนตะเวนอริพ่ายเเล้ว นายมันเหี้ยมมาก ท่านขุนเป็นตำรวจยังยิงตายคามือ นายอ้างว่าเป็นการดวล ท่านขุนยิงนายไม่ออก บันทึกยินยอมน่ะ ศาลไม่เชื่อ เพราะนายบุกเข้าไปในบ้านท่านขุนในยามวิกาล มันก็เเสดงเจตนาเเล้ว ว่านายมันจงใจฆ่าท่านขุน''

    ''ท่านอธิบดีก็เป็นนักกฏหมาย ผมเองก็เป็นนายทหารพระธรรมนูญ ก็ตำรวจนิติเวชส่งเเต่ผลตรวจอาวุธปืนของผมว่ามีรอยยิงจริง เเต่ไม่ส่งรายงานการตรวจพิสูจน์ปืนของท่านขุน กลับบอกว่าไม่มีร่องรอยการยิง ก็ผมเห็นท่านขุนกระดิกไกปืน เห็นสับนก หากเอาตามจริงจาน ท้ายกระสุนต้องมีรอยเข็มเเทงชนวนเจาะ อีกอย่างหนึ่งผมก็ถูกศาลท่านตัดสินประหารซีวิตไปเเล้ว ท่านอธิบดีจะมาฟื้นฝอยหาตะเข็บทำไม''

    ''เเล้วคดีตำรวจถูกยิงตายในหมู่บ้านหนองโพถึง 5ศพ พยานบอกว่านายเป็นคนยิง นายจะสารภาพหรือภาคเสธ''

    ''ท่านอธิบดี ผมมาต่างถิ่น ผมต้องมีลูกน้องติดตามมา หรือว่าอาชญากรไม่มีสิทธิ์มีลูกน้อง คนเราถูกตำรวจล้อมยิง จะนั้งงอมืองอเท้าให้ถูกยิงฝ่ายเดียวหรือ ทุกคนไม่ว่าจะเป็นโจร คนธรรมดาหรือตำรวจ ก็มีสิทธิ์ป้องกันตัวเอง เเต่ถ้าเป็นคนธรรมดา ตำรวจเเจ้งข้อหาป้องกันตัวเกินกว่าเหตุ ถ้าเป็นโจร ตำรวจก็ตั้งข้อหาต่อสู้ขัดขืนการจับกุม ถ้ายิงตำรวจบาดเจ็บหรือตาย ก็ตั้งข้อหาพยายามฆ่า หรือฆ่าเจ้าพนักงานในระหว่างปฏิบัติหน้าที่เเต่หลาย
    ครั้งเเม้ไอ้เสือมอบตัวก็ถูกนำตัวไปยิงทิ้งเเล้วสร้างหลักฐานว่าพยายามฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงถูกยิงตาย บางครั้งยอมเเพ้ก็ถูกยิงตาย เเล้วบอกว่าวิสามัญฆาตกรรม''

    ''เป็นอันว่านายให้การภาคเสธละชีไพฑูรย์''

    ''การต่อสู้เหมือนสาดน้ำรดกัน ตำรวจตายห้าศพ ผมไม่ได้ยิงทุกศพ ลูกน้องผมก็ยิงใส่ หากชันสูตรกันจริงๆ ก็จะพบว่าตำรวจเเต่ละคนถูกปืนขนาดใดบ้าง เเต่นี่โยนความผิดมาให้ผมทั้งหมด ก็ผมใช้ปืนพกลูกโม่ขนาด .38 บรรจุกระสุน 6 นัด ผมจะยิงตำรวจตายห้าศพอย่างไร ตำรวจของท่านสร้างหลักฐานมาปรักปรำผม''

    ''ก็ในเมื่อนายเชื่อว่านายไม่ได้ทำ นายแหกคุกทำไม แหกเเล้วแหกอีก ยิงตำรวจบาดเจ็บล้มตายทุกครั้ง''

    ''ก็ในเมื่อผมถูกสร้างหลักฐานเท็จ ผมก็ต้องหนีเพื่อเอาตัวรอด หรือท่านจะให้ผมยอมรับตามหลักฐานที่ลูกน้องท่านสร้างมามัดผม''

    หน้าตาของหลวงอดุลฯเเดงก่ำ ดวงตาที่ดุอยู่เเล้วดูน่ากลัวยิ่งขึ้น ท่านยกกำปั้นทุบลงบนโต๊ะสอบสวนดังสนั่น

    ''ไอ้ไพฑูรย์ เอ็งมันสันดารโจรชัดเจน ไอ้ผู้ร้ายปากเเข็ง ตำรวจจะไปใส่ร้ายเอ็งทำไม ในเมื่อเอ็งมีโทษประหารอยู่เเล้ว ซีวิตเอ็งมีซีวิตเดียว เขาไม่ประหารศพเอ็งหรอกไอ้โจรโดยสายเลือด เอ็งมันโจรโดยสันดาร พ่อเเม่สั้งสอนเอ็งให้ทำร้ายสังคมอย่างนี้หรือ''

    ''ไอ้...ไอ้หลวง...มึงมันก็เป็นหัวหน้าพวกโจรเหมือนกัน เเต่เป็นโจรในเครื่องเเบบ พ่อเเม่ของกูไม่รู้เรื่องอะไร มึงเอาพ่อเเม่กูมาเหยียบย่ำได้หรือ กูขอประกาศว่ากูจะจองเวรมึงไปทุกที่ ตราบใดที่กูยังมีลมหายใจ มึงอย่าหวังกูจะรามือ''

    หลวงอดุลฯ ผุดลุกขึ้นยืนคบกรามกรอด ยกมือชี้หน้าไพฑูรย์ คำรามลั่น
    ''กูจะคุมตัวมึงลงไปกรุงเทพฯ ด้วยตัวเอง ได้ข่าวว่ามึงเเน่นักหรือ กูอยากดูว่ามึงจะมีเดชอะไร จะสำเเดง เอามันกลับไปขังอย่างเดิม''

    ท่านผู้ท่านที่เคารพไพฑูรย์เล่าให้ฟังว่าหลังจากที่หลวงอดุลฯ กลับจากกองบัญชาการตำรวจเมืองตาก ผู้บัญชาการตำรสจเมืองตากก็สั้งลูกน้องจัดการเลี้ยงอาหารมื้อดึกไพฑูรย์ ด้วย ''เเกงส้มมะรุม'' สามอิ่ม สลบเเล้วเอาน้ำสาด ให้กินอีกจนครบหรือสามสลบ จึงหามไปทิ้งไว้ในห้องขัง พวกพ่อครัวนี้เก่ง หน้าไม่เเตก ไม่ปูด ไม่บวม เเต่เนื้อตัวช้ำไปหมด ไพฑูรย์ มารู้สึกตัวตอนรุ่งเช้า นอนระบมเนื้อตัวไปหมด เเม้เเต่ข้าวที่ตำรวจเวรนำมาให้กินก็กินไม่ลง กินเเต่น้ำ ตอนสายหลวงอดุลฯ ท่านมาประชุมตำรวจเมืองตาก เเละตำรวจบอกกับท่านว่า พบความเคลื่นไหวของบรรดาพวกเสือไพฑูรย์ที่มาดูลาดเลาเพื่อหาทางชิงตัวไพฑูรย์ระหว่างเดินทางนำตัวไปกรุงเทพฯ หลวงอดุลฯ ท่านจึงตัดสินใจเลือกการเดินทางทางน้ำในการกลับกรุงเทพฯ เเทน

    ไพฑูรย์เล่าว่า ตอนเย็นมีการเบิกตัวออกจากห้องขัง ตีตรวนสองสถาน คือที่มือเเละเท้า นำขึ้นรถไปยังท่าเรือ ไพฑูรย์รู้สึกหัวใจพองโต เพราะการเดินทาง ทางน้ำนั้น สามารถใช้พระเวทสังข์ถ่วงที่หลวงพ่อเดิมประสิทธิ์ ประสาทให้กับไพฑูรย์ เเละได้ทดลองในสระน้ำวัดหนองโพเมื่อหน้าฝนที่มีน้ำลึกเขาสามารถรูดโซ่ที่พันธนาการอยู่ให้หลุดออกไปได้ทั้งหมด
    ผู้บัญชาการตำรวจเมืองตากเเจ้งให้หลวงอดุลฯ รับทราบว่า เสือไพฑูรย์เคยกระโดดจากรถไฟขณะข้ามเเม่น้ำในการคุมตัวจากเชียงใหม่ ทั้งที่มีกุญเเจมือเเละตรวนที่ขา สะเดาะกุญเเจมือเเละตรวนสามารถหนีรอดไปได้ พวกตำรวจที่นั้นไม่รู้ว่าหลวงอดุลฯ ท่านไม่เชื่อเรื่องคาถาอาคม ของขลัง ท่านเคบบอกกับตำรวจที่เป็นนายเวรของท่านว่า

    ''ไอ้เสือที่ว่าเเน่ ผมยิงตายมาหลายสิบศพตั้งเเต่ผมเข้าราชการมาในยศร้อยตำรวจตรี ตะกรุดเอย เขี้ยวหมูตันเอย พระเครื่องเอย ผมยิงตายทุกราย ผมไม่ได้ลบหลู่ เเต่ผมเชื่อว่าของดีไม่คุ้มซีวิตคนชั่วที่ทำผิดกฏหมาย พวกมันปล้นฆ่า ข่มขืน กักขัง เรียกค่าไถ่ ปล้นวัวปล้นควายชาวบ้าน มันเป็นคนเลว พระไม่คุ้มครองมันหรอก ที่ว่ามันเหนียว ยิงไม่ออก หายตัวได้ เพราะมันยังไม่ถึงที่ตาย เเต่พอมาเจอกับผม มันจอดทุกราย''

    หลวงอดุลฯเดินผ่านหน้าไพฑูรย์เเล้วพูดพอให้ได้ยินเสียงสองคนว่า ''ไอ้ไพฑูรย์ หากมึงเเน่จริงกระโดดจากเรือเหมือนกระโดดรถไฟชีวะ กูสั้งเพิ่มกุญเเจมืออีกอันหนึ่ง ดูซิว่าจะหนีไปได้ไหม''

    หลวงอดุลฯ พยายามสอบสวนไพฑูรย์ตลอดทางที่เรือเเล่น เเต่ก็ไม่ได้ความคืบหน้า ไพฑูรย์บอกว่าขอให้การในชั้นศาล หลวงอดุลฯ ท่านเป็นลูกผู้ชาย เเม้ท่านจะโกรธแต่ไม่เคยสั้งให้ลูกน้องมาเลี้ยงเเกงมะรุมไพฑูรย์สมัยนั้นหากมรเรื่องร้องเรียนเรื่องการซ้อมผู้ต้องหา หากสอบสวนเเล้วมีหลักฐาน หลวงอดุลฯ จะสั้งลงโทษทางวินัยทันทีให้เป็นเยี่งอย่างเเก่ตำรวจว่าอย่าทำเลว

    เมื่อหลวงอดุลฯท่านเกษียณไปเเล้วจึงถึงยุคท่านอธิบดีตำรวจชื่อ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ การกระทำทารุณกรรมต่อผู้ต้องหาโดยเฉพาะนักโทษทางการเมืองด้วยเเล้วละก็ตายกันเป็นเบือ เก๋งดำไปจอดหน้าบ้านใคร ผู้นั้นจะถูกเชิญตัวไปกองปราบปราม เเละจะไม่ได้กลับมาในสภาพมีลมหายใจอีก ไพฑูรย์ เล่าว่า รอนเเรมมาหลายวันหลายคืนมาถึงลานเท เเสงจันทร์ข้างขึ้นทำให้เห็นความเวิ้งว้างของลานเทเเละศาลเจ้าแม่ลานเท ไพฑูรย์ถูกล่ามติดกับเสาเหล็กในเรือ นั้งๆนอนๆสลับกับการถูกเรียกไปสอบสวน คืนนี้ก็เช่นกัน ไพฑูรย์ ถูกนำตัวไปสอบสวนอีกเหมือนที่เคยมา ไม่มีอะไรคืบหน้า หลวงอดุลฯ สั้งให้นำตัวไพฑูรย์กลับไปล่าม

    ขณะนั้นไพฑูรย์ได้ร่ายพระเวทสังข์ถ่วงจนจิตเป็นหนึ่งจึงเเกล้งเซ พอตำรวจถูกเบียดก็เสียหลักไพฑูรย์เอาตัวชนตำรวจจนหงายหลัง เเล้วขยับตามไปทางกราบเรือโดยคิดว่าหลวงอดุลฯ ยังคงนั้งอยู่ที่เก่าเเต่หลวงอดุลฯ เดินตามหลังมาติด ๆ
    ''อย่าขยับนะเสือไพฑูรย์ กูเอามึงตายเเน่''

    ''ผมมันคนตายไปเเล้ว ตายตั้งเเต่ถูกพิพากษาโทษคดียิงขุนตระเวนอริพ่ายเเล้ว ผมจะไปกลัวตายทำไม ผมจะกระโดดน้ำสู่อิสรภาพ คุณหลวงหยุดผมไม่ได้หรอก''

    ไพฑูรย์ พุ่งตัวไปที่กราบเรือ รู้สึกจุกที่หน้าอก ด้วยเเรงปะทะของลูกปืนที่หลวงอดุลฯ ยิงใส่ ทิ้งตัวออกจากกราบเรือลงไปในน้ำ ปากร้องตะโกนฝ่าความมืดว่า
    ''เจ้าเเม่ลานเทคุ้มซีวิตลูกด้วย''

    ตรวนถ่วงไพฑูรย์ให้ดิ่งลงไปในน้ำ ลึกลงไปทุกที ร่ายพระเวทสังข์ถ่วง ขยับข้อมือเเละเท้า กุญเเจมือกับตรวนก็หลุดออก รีบพุ่งตัวขึ้นเหนือน้ำสูดอากาศเข้าไปเต็มปอด ว่าน้ำเข้าฝั่ง หลวงอดุลฯ สั้งให้เรือมาวนหาให้ฉายไฟกราดดูบนผืนน้ำ เเต่ไพฑูรย์ ว่ายน้ำหายไปในความมืดรอดได้อีกครั้ง หลวงอดุลฯ วนหาอยู่พักใหญ่จึงสั้งให้แล่นเรือกลับกรุงเทพฯ ส่วนไพฑูรย์ขึ้นบกไปหาพรรคพวกเพื่อเตรียมการหลบหนี หนังสือพิมพ์พาดหัวข่าวตามที่ท่านอธิบดีเเถลงว่า
    ''ขบวนการโจรบุกชิงตัวเสือไพฑูรย์ ยิงกันสนั้นลานเท'' โดยในเนื้อข่าวระบุว่า พรรคพวกเสือไพฑูรย์เอาเรือเร็วบุกแย่งตัวเสือไพฑูรย์ขณะที่อธิบดีตำรวจคุมตัวลงมาจากจังหวัดตาก ดวลปืนกันสนั้นหวั่นไหวคาดว่าจมน้ำตาย อธิบดีสั้งให้รีบหาศพด่วน

    ไพฑูรย์ว่ายไปขึ้นบกตรงหน้าศาลลานเทเหมือนปาฏิหารย์ ก้มกราบเจ้าแม่ลานเท สำนึกพระคุณที่ห้ามเรือ (จระเข้) พาหนะของเจ้าแม่มิให้มาทำร้าย ไพฑูรย์บอกว่าที่ร้องให้เจ้าแม่คุ้มซีวิตไม่ใช่จากการถูกตำรวจฆ่า เเต่เป็นจากพาหนะของเจ้าแม่ที่อยู่ในน่านน้ำลานเท
    สมัยก่อนใครอยากเห็นพาหนะของเจ้าแม่ก็ทำแพหยวกกล้วยเอากระทงอาหารหวาน คาว วางไว้บนแพ จุดธูปเทียนไหว้เจ้าแม่ และปักไว้บนแพ พอแพลอยออกไปวนที่ใด พาหนะเจ้าแม่ก็จะผุดขึ้นมาให้เห็น ปู่ย่าตายายเล่าว่า แต่ก่อนโน้นพอมีงานประจำปีนมัสการเจ้าแม่ พาหนะเจ้าแม่จะคลานขึ้นมาบนบกให้ผู้คนเอากายมะพร้าวมาขัดตะไคร่น้ำที่จับเขียวปี๋ออกจากเกล็ด อ้าปากโร่ไว้ให้ผู้คนขัดโดยไม่ทำอันตรายแต่อย่างใด

    นับเป็นครั้งแรกเเละครั้งสุดท้ายที่ไพฑูรย์ได้เผชิญหน้ากับหลวงอดุล เดชจรัส เพราะขณะที่ท่านถึงเเก่กรรม ไพฑูรย์ยังอยู่ในเรือนจำบางขวาง นรกบนเเดนมนุษย์ที่หฤโหดที่สุด
    ..........

    หากมีรูปถ่ายหลวงพ่อให้จ้องดูให้จิตมั่น หากไม่มีรูปถ่ายให้ใช้การหลับตารำลึกถึงใบหน้าของหลวงพ่อเดิม จากนั้นก็เริ่มสวดภาวนา
    ตั้งนโม 3จบ
    ''อิติสุคะโต พุทธสโร นามะเต อาจาริโยเมภันเตอายัสมา อาจาริโยเมภันเตโหหิ''
    ''ข้าพเจ้าขอรำลึกพระคุณพระศรีรัตนตรัย เเละหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ ขอหลวงพ่อเดิมได้รับรู้ การเข้าถึงหลวงพ่อเดิม ญ บัดนี้''

    หากเข้าที่คับขันจะระลึกถึงหลวงพ่อเดิมวัดหนองโพก็ใช้หัวใจย่อว่า
    ''อิติ พุทธสโรนามะเต อิติ''

    คัดลอกจากหนังสือ "เกิดใต้ฤกษ์ดาวโจร" ใครอยู่ใกล้แผงหนังสือเก่าก็ลองไปหาอ่าน หรือใครสะดวกใน Facebook ก็ตามอ่านจาก "นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว"
    ท่านเจ้าของเพจเค้าขยันหาข้อมูลมาลงให้

    ผมอำนวยความสะดวกให้กับท่านสมาชิกที่เข้า Facebook ไม่เป็น
     
  5. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    ก็ไม่เคยจะเห็นพวกคุณคุยกันเองเลย... เห็นว่างอยู่ตั้งหลายวัน

    มุมมองของผม เป็นมุมมองของพวกโลกสวย และอยู่กับความจริง
    บางทีอาจไม่ถูกใจ

    ผมอยู่ในสังคมของการแบ่งปัน และถูกทำให้เชื่อว่าทุกคนมีหน้าที่แบ่งปันความสุขระหว่างกัน ช่วยเหลือเอื้ออาทรกัน เพราะมันเป็นหน้าที่ หน้าที่ของความเป็นมนุษย์

    ว่าแล้ว... พักหลังๆก็ไม่ได้เขียนอะไรที่เป็นมุมมองของตัวเองจริงๆจังๆนานแล้ว เดี๋ยวจะเขียนให้อ่านละกันครับ แก้เหงา
     
  6. kwapoo

    kwapoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +827
    ต่อนะครับคุณทิพย์ ตามอ่านเสมอครับ
     
  7. pakatu

    pakatu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2010
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +679
    ต่อเถิดครับ กระทู้สาระ ทั้งยังได้ร่วมงานบุญที่เชื่อได้โดยสุจริตว่าเป็นไปเพื่องานบุญจริงๆ
    ถ้ามีโอกาสผมมักเข้าบอร์ดพลังจิตแล้วดิ่งมากระทู้พี่กระทู้แรก กระทู้เดียว
     
  8. numthip

    numthip เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2008
    โพสต์:
    7,094
    ค่าพลัง:
    +65,143
    เพิ่งจะวางสาย คุณสุรชัย ฉัตรแก้วโกวิทย์
    ท่านนี้ทำพระฯถวายวัดเป็นปรกติ แต่พอรู้เห็นพระฯพี่นิ่มแล้วเมื่อคราวทดสอบครั้งก่อนที่วัดกลางบางแก้ว ก็นับถือพี่นิ่มมาก

    ได้พระขุนแผนฯไปก็เลี่ยมห้อยคอ เพราะคิดว่ารับรู้ถึงพลังของพระฯได้ เครื่องวัดพลังไม่มี มีแต่เสี่ยงโชค ได้ขึ้นรางวัลไปพอสมควร ส่วนงานก็ก้าวหน้าดี ได้งานใหญ่มารับผิดชอบ ก็โทรฯมาเล่าให้ฟัง

    คุยกันหลายเรื่อง เพราะคุณสุรชัยเป็นคนพื้นที่ของคนนครชัยศรี ผมยังว่าอิจฉาที่อยู่ใกล้หลวงพ่อไสวมากกว่าผม

    คุณสุรชัย ได้ยินผมพูดถึงหลวงพ่อไสว วัดปรีดาราม ก็เอ่ยถามว่ารู้จักวัด....ไหม? "พ่อตาผมไปสักที่นั้น เพราะเอาตะกรุดมาลองยิง ยิงอย่างไรก็ไม่ออก เลยเอาผ้าถุงมาเช็ดปากกระบอกปืนแล้วยิง ทีนี้ยิงออก แต่ลูกปืนค่อยๆไหลออกจากปากกระบอกปืน วัดของท่านฯอยู่ไม่ไกลจากวัดปรีดาราม..."

    ผมกำลังจะเขียนชื่อวัดฯ ก็มีอีกสายโทรฯเข้ามา ความว่า
    พ.ท.ทรงกลด จากเพชรบุรี ได้ขุนแผนฯพี่นิ่มไป อาราธนาของโชคลาภ ซื้อล็อตเตอรี่ไป2คู่หรือ4ใบ ขึ้นเงินรางวัลที่2ไปเรียบร้อยแล้ว โทรฯมาจะนัดมาคารวะพี่นิ่มที่บ้าน

    คุยซะจนผมลืมไปแล้วว่าวัดที่คุณสุรชัยพูดถึงนั้นวัดอะไร... ลืมจริงๆ คงไม่นึกกลับมาเขียนใหม่แล้ว

    ใครพอจะรู้จักพื้นที่ ก็ช่วยบอกผมที ว่าวัดอะไรที่มีเกจิสักยันต์อยู่แถวคลองจินดา นครปฐมบ้าง!
     
  9. ineedo

    ineedo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,354
    สนับสนุนให้อยู่ต่อครับ ติดตามมานานแล้วเหมือนกัน
     
  10. นายน้ำ5

    นายน้ำ5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,159
    ค่าพลัง:
    +7,287
    พี่ยังติดเล่าเรื่องปิดตาแถวๆเมืองชลหรือของสายตะวันออกผมไม่แน่ใจ
    ที่ใช้แทนสำนักใหญ่ๆได้เลย ยังรออ่านอยู่ครับ
    เอาไว้เป็นข้อมูลครับ
    ผมหาเรื่องอ้างอิงหน้าเก่าไม่เจอ เดี๋ยวหาเจอแล้วจะมาอ้างอิงครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มิถุนายน 2015
  11. บรม

    บรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    1,163
    ค่าพลัง:
    +3,926
    "พระเปรต" จากหนังสือ "ธรรมพเนจร" อัตโนประวัติหลวงปู่จันทา ถาวโร

    ...สมัยหนึ่ง อาตมาไปวิเวกกับพระอาจารย์บุญพิน กตปุญโญ และพระจ่อย ไปอยู่ที่ถ้ำจำปา อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ถ้ำจำปาอยู่บนภูพาน ในถ้ำนั้นมีพระพุทธรูปทำด้วยไม้ และหินอยู่มาก โยมที่บ้านกะลึมบอกว่า มีผีเฝ้ารักษาไว้ แล้วโยมก็พาไปทำที่พักให้อยู่หน้าถ้ำ

    พอค่ำลง ก็ทำความเพียร เดินจงกรมจนถึง ๓ ทุ่ม จากนั้น ก็ไหว้พระ สวดมนต์แล้วอุทิศส่วนบุญ เสร็จแล้วก็เข้าที่ นั่งภาวนา กำหนดพุทโธ ธัมโม สังโฆ ไม่นานจิตก็รวม พอจิตสงบ เกิดแสงสว่างจ้า ไม่นานเห็นเทพบุตรตนหนึ่งมาบอกว่า

    “ท่านอาจารย์หันปลายเท้าเข้าหน้าถ้ำ นั้นเป็นทางไปพระนิพพานนะ”

    ถามเขากลับไปว่า “ทางไปพระนิพพานคืออะไร ?”

    เขาก็ว่า “พระพุทธรูปนั่นแหละ ผู้เป็น นายโก ผู้นำโลกคือหมู่สัตว์เข้าพระนิพพานได้ ทีนี้ท่านหันเท้าเข้าไปอย่างนั้นมันผิดแล้ว”

    “โอ๋...โยมเขาทำให้อย่างนั้น ต้องขออภัยด้วย พรุ่งนี้จะให้เขาทำให้ใหม่”

    เสร็จแล้วเขาก็ลากลับไป จากนั้นไม่นาน ก็มีเปรตพระ ๓ ตนเข้ามาหา เป็นคนโบราณรูปร่างสูงใหญ่ มีเครายาวถึงหน้าอก เข้ามานั่งใกล้ ๆ ลูบขาข้างซ้าย แล้วพูดว่า

    “ท่าน ๆ ผมกับท่านใครจะแก่พรรษากว่ากัน ?”

    ก็ตอบเขาไปว่า “หลวงพ่อนั่นแหละ แก่กว่า”

    “ก็คงจะจริงอย่างท่านว่านั่นแหละ พรรษาของผมนั้นแก่กว่าท่าน แต่ว่าคุณธรรมของท่านนั้น แก่กว่าผมนะ”

    “แก่กว่าเพราะเหตุใด ?”

    “แก่เพราะท่านเจริญธรรม เดินจงกรม ยืนภาวนา นั่งสมาธิ อดนอนผ่อนอาหาร นี่มันแก่อย่างนี้ เพราะการเจริญธรรมถูกต้อง”

    จากนั้นก็เลยถามเขาต่อไปอีกว่า “พวกท่านเป็นพระ บวชในศาสนาพุทธอันบริสุทธิ์แล้ว สมควรที่จะเจริญสมณธรรม อย่างต่ำก็ไปสวรรค์ ๖ ชั้น อย่างกลางก็พรหมโลก (รูปพรหม ๑๖ ชั้น) อย่างสูงก็อรูปพรหม ๔ ชั้น และอย่างถึงที่สุด ก็วิมุตติหลุดพ้นไปพระนิพพาน ข้ามโลกสงสารไปได้ เพราะมีกิจอันเดียว แต่เหตุใดท่านจึงมาเป็นเปรตค้างอยู่ที่นี่”

    “ท่านเอ๊ย...พวกข้าพเจ้าเกิดมาพบปะศาสนาในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐา (เป็นเจ้าเมืองเวียงจันทร์เรืองอำนาจและสร้างวัดต่าง ๆ มากมาย) เมื่อบวชมาแล้ว อุปัชฌาย์อาจารย์ก็ไม่แนะนำพร่ำสอนให้เดินจงกรม ยืนภาวนา นั่งสมาธิ อดนอน ผ่อนอาหาร พิจารณาธาตุขันธ์ เหมือนอย่างพวกท่านในขณะนี้”

    “บวชเป็นพระตั้ง ๑๐๐ กว่าพรรษา ก็ไม่ได้ภาวนาอะไร อยู่สนุกสนาน ฉันเช้า ฉันเพล แล้วก็ทำกิจการงานต่าง ๆ ทำไร่ ทำสวน เลี้ยงม้า เลี้ยงวัว เลี้ยงควาย เหมือนอย่างฆราวาสญาติโยมเขา”

    “บวชมาแล้วก็ล่วงเกินสิกขาบทวินัยไตรสิกขาน้อยใหญ่เสียสิ้น ศีลวัตร ศีล ๒๒๗ ก็ล่วงเกิน จะเหลือก็แต่ปาราชิก ๔ ถึงเหลือก็เศร้าหมอง ล่วงเกินพระวินัยด้วยการขุดดิน ฟันไม้ จับจ่ายเงินทอง กินข้าวแลงแกงร้อน (ฉันอาหารยามวิกาล) นั่งนอนเสื่อสาดยัดด้วยนุ่นและสำลี (ต้องอาบัติปาจิตตีย์) กินลาบดิบ ลาบวัว ลาบควาย พอญาติโยมเขาฆ่าวัวความยอยู่ในบ้าน ก็สั่งเอาเนื้อสันใหญ่ ๆ ตับ ไต เอามาลาบก้อยกินกันสนุกสนาน กินกับเหล้ากับยา สนุกสนาน” นั่นแหละ ขุดดินฟันไม้ จับจ่ายเงินทอง ก็ต้องอาบัติปาจิตตีย์ กินข้าวแลงแกงร้อนก็ต้องอาบัติปาจิตตีย์นะ นั่นแหละ

    “พอถึงช่วงเดือน ๑๒ เขาลงจับปลากัน ก็ให้เณรไปขอปลาและกุ้งเป็น ๆ มาลาบกินกันสนุกสนาน บางทีก็เข้าป่าหากระต่ายและอีเห็นมาหมกมาคั่ว (ทำอาหาร) กินกันสบาย”

    “ทีนี้ฤดูทำนา เขาก็มานิมนต์ไปช่วยเขาดำนา แล้วก็กินเหล้ากินยา ลาบวัวลาบควาย สนุกสนานคุยสาว (จีบผู้หญิง) นะท่าน ถึงฤดูเก็บเกี่ยวก็ไปเก็บเกี่ยวกับเขา กินเหล้ากินยา เล่นสาว (พูดเกี้ยวผู้หญิง) สนุกสนาน เวลานวดข้าว เขาก็มานิมนต์ไปนวดกับเขา เวลาเอาข้าวขึ้นยุ้งขึ้นฉาง เขาก็มานิมนต์ไปสวดมนต์ข้าวนะ แหม..กินเหล้ากินยาวันยังค่ำ ท่านเอ๊ย...สนุกสนาน ได้กินลาบไก่ ต้มไก่ สนุกสนาน”

    “วันพระก็ตีกลองให้ผู้สาว (หญิงสาว) มาดายหญ้าในบริเวณวัด แล้วก็เล่นสาวสนุกสนาน งานบุญพระเวสสันดร มีการละเล่นต่าง ๆ ก็เล่นสาวสนุกสนาน จับโน่นจับนี่ เมื่อมีโยมตายในหมู่บ้าน เขานิมนต์ไปสวดกุสสลา มาติกาในงานศพ มีการละเล่นในงานนั้น ก็หยิบหยอกกับผู้สาว จับก้นจับขาจับของดี ถูกบ้างไม่ถูกบ้าง นั่นแหละ ทำอยู่อย่างนั้นเป็นนิจ”

    “ทีนี้มาถึงเดือน ๕ เมษายน ขึ้นปีใหม่ อุปัชฌาย์อาจารย์ก็บอกว่า เอ้า...พระเราเป็นนาคนะ ฤดูนี้เราเป็นนาค เล่นน้ำได้ ไม่เป็นบาปเป็นกรรม นั่นแหละ มันก็สนุกสนาน เล่นน้ำปล้ำผู้สาว จับอกจับก้น จับของลับกันสนั่นหวั่นไหว แต่อาจารย์ไม่ให้เสพนะ ถึงอย่างนั้นมันก็เกิดความกำหนัดยินดีในกาม นั่นแหละกระทำกันอยู่อย่างนั้นเป็นนิจ เสร็จแล้วก็มีการขอขมาลาโทษกัน ทำพิธีสู่ข้างเล่าขวัญ (พิธีขอขมา) อันนี้ต้องอาบัติทุกกฎนะ”

    “นั่นแหละ ความไม่ดีทั้งหลายที่พวกข้าพเจ้าทำขึ้นจึงได้ส่งผลให้มาเกิดเป็นเปรตตกค้างอยู่ที่นี่”

    นอกจากเปรตพระ ๓ ตนนี้แล้ว ก็ยังมีเปรตแม่ขาวนางชี (แม่ชี) ตกค้างอยู่ที่นั้นอีกมาก
    พอถามว่า เมื่อไหร่จะพ้นกรรม เขาก็บอกว่าไม่รู้ ถามว่าทำอย่างไรจึงจะพ้นกรรมได้ เขาก็ไม่ทราบ จึงได้กำหนดจิตถามพระธรรมว่า

    “เปรต ๓ ตนนี้ กับแม่ชีนั้น เคยเป็นญาติของเราบ้างไหม ?”

    “โอ๋...เป็นมาหลายภพหลายชาติแล้ว แต่มาภพนี้ชาตินี้ เขาทำกรรมไม่ดี จึงมาเกิดเป็นเปรต นั่นแหละ จงช่วยเหลือเขาเสีย ถ้าเราไม่ช่วยแล้ว ก็ไม่มีใครช่วยเขาหรอก”
    จากนั้น จึงพูดกับเปรตเหล่านั้นว่า

    “พระพุทธรูปที่อยู่ในถ้ำนั้น อย่างเพิ่งหึงหวงห่วงอาลัยนะ เมื่อมีพระเณรหรือญาติโยมมาเอา ก็ให้เขาไปเถิด เราจะได้พ้นจากบาปกรรมได้ เอ้า...เตรียมรับพระไตรสรณคมน์และศีล ๕ จะช่วยให้พ้นจากสภาพเปรตไปเกิดเป็นมนุษย์ได้อีก และเมื่อข้าพเจ้าเดินจงกรมเสร็จแล้ว ก็มารับส่วนบุญนะ”

    เจริญสมณธรรมอยู่ที่นั่นได้ ๒ - ๓ เดือน ก็มีแม่ชีคนหนึ่งมาบอกลาว่า

    “ท่านอาจารย์ ดิฉันพ้นจากบาปกรรมชั่วช้าลามกแล้ว จะได้ไปเกิดที่เมืองมนุษย์อีก”

    “ไปดีเถิด จงภาวนา พุทโธ ธัมโม สังโฆ ไปนะ ไปที่ อ.บ้านผือ หรือที่ จ.อุดรธานี โน่นแหละดี เพราะจะมีพระกรรมฐานผ่านมามาก”

    ทีนี้พอล่วงมาถึงเดือน ๖ ก็ได้บอกพวกเปรตทั้งหลายว่า ปีนี้จะกลับไปจำพรรษากับหลวงปู่บัว สิริปุณโณ ที่วัดป่าบ้านหนองแซง ปีหน้า ถ้าบุญพาวาสนาส่ง จะกลับมาโปรดอีกนะ แต่แล้วก็อย่าได้ประมาท ขอให้พากันเดินจงกรม บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เอาบุญ ยืนภาวนา บูชาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เอาบุญ ไหว้พระสวดมนต์ นั่งสมาธิ ฝึกจิต อบรมจิต สอนจิต ทรมานจิต ให้มันเป็นไปในธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า ให้จิตอยู่กับนักปราชญ์ คือ พุทโธ ธัมโม สังโฆ นั่นแหละ จะเป็นจิตเกษมสำราญ พ้นจากกำเนิดเป็นเปรต ไปเกิดเป็นมนุษย์ได้อีก โดยเร็วพลัน ช่วยตัวเองนะ อัตตาหิ อัตตะโนนาโถ (ตนแล เป็นที่พึ่งแห่งตน) พึ่งคนอื่นชื่นใจเป็นบางครั้ง

    ไม่เหมือนดั่งพึ่งตนผลทวี ตนจะเป็นคนดี หนีทุกข์โทษภัย ในวัฏฏสงสาร มีพระนิพพานเป็นที่ไปเบื้องหน้า ก็เพราะตนทำดี สะสมบุญดีให้เกิดมีขึ้น เพราะตนพึ่งตน อันนี้ข้อสำคัญมั่นหมาย

    นั่นแหละ ต่อแต่นั้น ก็ไปจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่บัว พอออกพรรษาแล้วก็กลับมาที่เก่าอีก ไปแล้วรู้สึกว่าเป็นเบา ๆ นะ พวกเปรตทั้งหลายนั้นหายไปหมดแล้ว เมื่อภาวนาจิตสงบแล้ว มีพวกเทวดาทั้งหลายมาขอรับพระไตรสรณคมน์และศีล ๕ เสร็จแล้วเทศน์ให้ฟัง แล้วก็ถามเขาว่า

    “พวกเปรตพระ ๓ ตน กับแม่ชีทั้งหลาย หายไปไหนกันหมด”

    เขาก็ตอบว่า “ท่านมาโปรดเขา เมื่อปีกลายโน้น เขาก็ได้เจริญสมณธรรมตามอย่างที่ท่านสอนนั้น แล้วก็รักษาศีลอย่างบริสุทธิ์ จึงได้ไปเกิดที่เมืองมนุษย์กันหมดแล้วละท่าน”

    นั่นแหละ เรื่องการไปวิเวกตามสถานที่ต่าง ๆ ก็ได้สงเคราะห์ฝูงเปรตทั้งหลาย และผีสางคางแดงทุกอย่าง

    นี่แหละการไปเจริญสมณธรรมในที่ต่าง ๆ นั้น ก็ได้ธรรมะเกิดขึ้นสอนใจ เขาเป็นอย่างไรตกทุกข์ได้ยาก เป็นเปรตเป็นผีค้างโลกโลกีย์อย่างนั้น ก็เพราะทำบาปหยาบช้าลามก ลืมตน คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต ๆ พาไปหาผล คบคนชั่วพาตัวยากจน คบใครก็เป็นอย่างนั้น ทีนี้ก็น้อมมาเป็นธรรมะสอนเรา ถ้าเราเป็นผู้ประมาทแล้ว ต่อไปก็จะไม่แคล้วคลาดจากสมบัติ อย่างที่เขาได้นะ นั่นแหละ ข้อสำคัญมั่นหมาย

    ภาพประกอบยืมมาจากศิลปินอาจารย์อนุพงษ์ จันทร ขออนุญาต และขออนุโมทนาบุญมา ณ โอกาสนี้ครับ . . . ส า ธุ

    Cr.ท่องถิ่นธรรม พระกรรมฐาน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,078
    ค่าพลัง:
    +22,263
    ขอบคุณครับสำหรับบทความ และเรื่องราวดีๆ

    หลวงปู่เดิม ท่านชอบทหาร ตำรวจ คนมีสัจจะ และกตัญญูู ท่านไม่ชอบคนดื่มเหล้า

    หลวงปู่เงิน วัดท้ายน้ำบางคลาน, หลวงพ่อกวย วัดบ้านแค ท่านโปรดหมด ขอเพียงระลึกถึงท่าน บอกกล่าวท่าน ด้วยความจริงใจ ช่วยได้ท่านช่วยเลย
     
  13. อนันตภพ

    อนันตภพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    1,175
    ค่าพลัง:
    +2,969
    ผมอยู่ไกล แม้จะไม่ได้เข้ามาคุย แต่ก็เปิดมาอ่านบ่อยครั้ง สนับสนุนให้เปิดต่ออีกเสียงครับ
     
  14. nopsena

    nopsena เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    1,275
    ค่าพลัง:
    +4,662
    สนับสนุนให้เปิดต่ออีกเสียงครับ..
    ถึงผมไม่ได้เข้ามาบ่อย... แต่ทุกครั้งที่เข้ามาผมต้องเขามาอ่านเสมอครับ
     
  15. totto99

    totto99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    3,081
    ค่าพลัง:
    +59,629
    อยากให้เปิดต่อ ครับ เพราะเปิดดูทุกวัน ครับ 555
     
  16. วินัยเอง

    วินัยเอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +619
    ด้วยความรัก และ คิดถึงเสมอ 1เสียงครับพี่ทิพย์ ต่อ
     
  17. เจินโจ้

    เจินโจ้ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +566
    สนับสนุนให้เปิดต่ออีก๑เสียงครับ..
     
  18. RGD

    RGD เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +468
    สวัสดีครับ คุณหนุ่มทิพย์

    สนับสนุนให้เปิดต่อครับ
     
  19. นายน้ำ5

    นายน้ำ5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,159
    ค่าพลัง:
    +7,287
    รออ่านเรื่องเก่าๆจากพ่อประดู่09อยู่ด้วยครับ
     
  20. เอกกมล

    เอกกมล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    85
    ค่าพลัง:
    +235
    ขอสนับสนุนให้ต่อ อีก 1 เสียงครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...