ถ้าซื้อพระพุทธรูปสำเร็จรูปที่เขาหล่อไว้แล้ว นำไปถวายวัดห่างไกล จะได้บุญไหมครับ

คือถ้าถามว่าทำไมไม่หล่อเองแล้วชวนเพื่อนๆมาช่วยกันหล่อ นั่นก็อยากทำครับ แต่ตอนนี้เนื่องจากเพื่อนๆติดงานกันหมด ผมเลยคิดว่าถ้ามีเงินซักก้อนจะซื้อพระพุทธรูปให้วัดที่ขาดแคลนน่ะครับผม ไม่ทราบว่าจะได้บุญไหมครับ แล้วเท่ากับสร้างพระพุทธรูปไหม

ขอบคุณมากนะครับ

ปล.ศรีไพลกลับมาแล้ว

 

การที่ผู้สร้างพระพุทธรูปได้เกิดศรัทธา จนถึงสละเงินออกมาสร้างพระพุทธรูปได้ และออกมาทำทานในงานฉลองพระพุทธรูป
ได้ชื่อว่าเป็นผู้มี"ความเห็นตรง เห็นถูกแท้" เพราะเป็นบุญของตนเอง ไม่ใช่บุญของใครเลย ผู้สร้างพระพุทธรูป ชื่อว่า เป็นผู้ไม่ประมาท ชื่อว่า เป็นผู้ได้เตรียมตัวก่อนตาย
หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม


------------------

ไม่ต่างกันจ้า มหากุศลทีเดียว เราก็มักจะไปถวายและแนะนำให้คนอื่นถวายด้วย

แทบจะเรียกได้ว่า ใครมาขอให้ช่วยบอกไปถวายพระพุทธรูปก่อนเชียวล่ะ

แต่ถ้าเราได้สร้างเองด้วย จะพิเศษกว่าเพราะเกิดจากความตั้งใจ ทุกขั้นตอนจิตระลึกถึงองค์พระ

เมื่อมองเห็นยามใด จะเกิดปิติรวบรวมกำลังบุญได้ง่าย เพราะเราทำเองกับมือ

วันวิสาขที่ผ่านมาก็พึ่งถวายไป บุญใหญ่พลาดไม่ได้


ปล. บุญใหญ่พิเศษพรีเมี่ยมคือ สร้างสมเด็จองค์ปฐม ถ้ามีข่าวการสร้างในหมวดบอกบุญ รีบจองตั๋วเลย

ล่าสุดบอกบุญเพื่อนกำลังช๊อตเงิน(ลูกค้าดุดวง) ไม่คิดเค้าจะเชื่อร่วมทำบุญด้วย รายรับก็เข้ามาหลายทาง ชีวิตยกระดับจริงๆ

 

อัพเดตเพิ่มเติม สรุปว่าถูกหวยจ้า หลวงพ่อท่านแอบบอกแม่

วันนี้เห็นหิ้วทุเรียนเป็นกิโลๆเข้าบ้านเลยถามเอาเงินมาจากไหน แล้วไม่มีบอกกันแต่แรกเลยนะ

 

ได้บุญเช่นกันครับ พระพุทธรูปที่หล่อไว้สำเร็จแล้วถึงแม้จะยังไม่ได้ปลุกเสก ยังไม่ผ่านพิธีอะไร ก็ถือว่าเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าด้วยเช่นกันนะครับ ถ้าไปทำอะไรที่เป็นการลบหลู่องค์พระพุทธรูปเราก็จะได้บาปติดตัวไปด้วย

หลังจากที่เราเช่า(ซื้อ)พระพุทธรูปไปถวายวัดแล้ว ทางวัดเขาก็จะนำพระพุทธรูปไปเข้าพิธีปลุกเสกหรือพิธีต่างๆเอง ซึ่งทางวัดจะทราบอยู่แล้วว่าเราไม่ได้หล่อพระเอง หรือถ้าเราไม่แน่ใจก็บอกกับเจ้าอาวาสไปอีกทีก็ได้ว่าซื้อมา เมื่อเสร็จพิธีต่างๆแล้วทางวัดก็จะนำพระพุทธรูปไปประดิษฐานตามที่ต่างๆภายในวัด เช่น อุโบสถ ศาลาการเปรียญ มณฑป เป็นต้น เพื่อให้ชาวบ้านประชาชนได้เข้ามากราบไหว้สักการะบูชา ระลึกถึงพระรัตนตรัย และช่วยสืบอายุของพระศาสนาต่อไป นี่คือเหตุแห่งบุญกุศลและอานิสงส์ที่เราจะได้รับทั้งทางตรงและทางอ้อม

 

แรก ๆ เลย พระพุทธองค์ไม่เน้นพิธีกรรม การบูชา แต่ให้เน้นการศึกษาปฏิบัติ
เนื่องจากในสมัยพุทธกาลเอง พระพุทธองค์เติบโตในสังคมจารีตแบบพราหมณ์ ที่เน้นพิธีกรรม ชนขั้น การบูชา และอื่น ๆ
สำหรับการบูชาเอง พระพุทธองค์แรก ๆ ไม่ได้กล่าวห้ามเลยทีเดียว แต่ทรงบอกว่า ไม่ให้ทำการบูชาด้วยการเบียดเบียนสิ่งมีชีวิต แต่ให้ทำการบูชาด้วยธูปเทียนดอกไม้ นม เนย และกีหรือเนยใสในวัฒนธรรมแขก

แรก ๆ พระพุทธองค์ไม่สนับสนุนให้สร้างรูปแทนพระองค์ขึ้น แต่มีหลักฐานทางมหายานว่า หลวงจีน พระถังซำจั๋งได้เขียนถึงพระพุทธรูปไม้จันทน์ที่อ้างว่าสลักมาตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปบนดาวดึงค์ ซึ่งเขาว่ากันว่า เพราะชาวเมืองอดคิดถึงพระองค์ไม่ได้ จึงสร้างขึ้นมาช่วงที่พระองค์ไม่อยู่ หลังจากที่พระพุทธองค์ลงมาจากดาวดึงค์แล้ว จึงได้อนุญาติรูปแทนพระองค์รูปนี้ แต่ในทางประวัติศาสตร์เอง ก็สันนิษฐานกันว่ารูปนี้น่าจะสร้างทีหลังแต่อ้างอิงพุทธประวัติ และเป็นที่น่าเสียดายว่า รูปสลักนี้สูญหายสลายไปกว่าพันปีแล้ว

สำหรับวัฒนธรรมการสร้างรูปแทนพระพุทธองค์ น่าจะเริ่มราว 300 ปี ในสมัยพระเจ้ากนิษกะ ที่คันธาระ ในปากีสถานก่อน แล้วจึงแพร่คตินิยมตรงนี้เข้ามาในอินเดียอีกที
เหตุทีสร้างที่นั่น เพราะที่นั่น เขาเป็นลูกครึ่งกรีก จึงไม่ถือเรื่องการสร้างรูปแทนบุคคล
อีกอย่าง พุทธศาสนาที่ถือ เขาก็รับมาจากเมืองมธุรา หลังจากที่เขาเริ่มสร้างพระพุทธรูป จึงส่งต่อวิธีคิดเข้าอินเดียอีกทอดหนึ่ง

การสร้างรูปเคารพ นักประวัติศาสตร์คาดกันว่าน่าจะเกิดในหมู่ฆรวาส มากกว่าเกิดในวัด
และเกิดในสายสันสกฤต หลังจากนั้นจึงส่งต่อมาในสายบาลีแห่งเมืองมคตอีกทีหนึ่ง

ที่เล่ามาเสียยาวยากนี้ เพียงต้องการบอกว่า พระพุทธองค์ไม่เคยบอกว่าให้สร้างรูปของพระองค์สิ แล้วจะได้บุญ ยิ่งใหญ่ ยิ่งยาก ยิ่งได้บุญมาก
ของพวกนี้พัฒนามาทีหลัง ในกลุ่มผู้ศรัทธา (Bhakti หรือ ภักดี) ทั้งนั้น

ดังนั้น ถ้าคิดว่าทำแล้วได้บุญก็ทำไปเถอะ อย่างน้อยในทางมหายานเขาก็มองว่า เป็นการสร้างบุญด้วยการสร้างภาพจำให้กับผู้อื่นได้น้อมนำ ได้ยึดเหนี่ยวปฏิบัติ ซึ่งถือว่าได้บุญมาก ตราบเท่าที่รูปนั้นดำรงอยู่ ถ้าทำแล้วทำให้ดี ทำให้งาม แต่ไม่เดือดร้อนเบียดเบียนตัวเอง ผู้อื่น หรือทั้งตัวเองหรือผู้อื่น

 

สาธุ ขอโมทนาบุญกับคุณศรีไพลด้วยครับ การถวายพระพุทธรูปให้กับวัดในพระพุทธศาสนาเป็นบุญใหญ่ครับ แม้จะถวายองค์เล็กหน่อยก็มีอานิสงค์มากอยู่ครับ ผมเคยถวายทั้งสองแบบ คือซื้อถวายเองแต่องค์ไม่ใหญ่นักกับเคยร่วมบุญสร้างพระพุทธรูปบ่อยๆ ตอนได้ไปเห็นตอนหล่อพระพุทธรูปแล้วรู้สึกปิติมาก พระพุทธรูปนี้เมื่อมีใครเห็นแล้วนึกถึงพระพุทธเจ้าก็เป็นบุญเพราะเป็นพุทธานุสติอย่างหนึ่ง ยิ่งถ้าตอนใกล้ตายจิตจับภาพพระได้ก็ไปสู่สุคติภูมิได้ง่าย ในยุคปัจจุบันการฝึกจิตทำได้ยากกว่าสมัยก่อน โอกาสที่จะระลึกถึงบุญที่เคยทำมาก็อาจไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะชีวิตความเป็นอยู่ของปุถุชนคนทั่วไปมักจะไม่ได้ทำบุญกันเป็นประจำสม่ำเสมอทุกๆวัน บางทีอาจไปนึกถึงบาปกรรมที่เคยทำมาได้ง่ายกว่านึกถึงบุญ

ผมเองก็อาศัยบุญจากการสร้างพระถวายวัดนี่แหละ อธิษฐานจิตให้วาระจิตสุดท้ายก่อนตายเห็นภาพพระพุทธเจ้าทรงเสด็จมาโปรดเป็นพุทธานุสติ แล้วบุญสร้างพระถวายวัดนี้ก็ให้ท่านพระยายมราชโมทนาและเป็นพยานบุญให้ด้วย ถ้ามีบุคคลที่เรารักก็ลองแนะนำดูนะครับ

 

สวัสดีครับ ท่านเจ้าของกระทู้ การสร้างพระพุทธรูป เป็นองค์แทน พระพุทธเจ้า มีอานิสงฆ์ เต็มสมบูรณ์ รูปแบบ มีอานิสงฆ์เท่ากับองค์ใหญ่ เรามีเงินน้อย เราก็สร้างองค์เล็ก มีเงินเยอะสร้างองค์ใหญ่ อยู่ทุนทรัพย์ของเราครับ จะหล่อเอง หรือนำเงินไป บูชาที่เขาหล่อสำเร็จ ได้อานิสงฆ์ เหมือนกันเท่ากันครับ แต่การสร้าง จัดงานถ้ามันไม่มีกังวลใจใดๆ ผู้คนเขาจะมาร่วม ทำบุญกับเราเท่านั้นเอง ได้เงินและมีผู้ร่วมทำบุญครับ อานิสงฆ์ไม่ต่างกันครับ


แต่ถ้าเรา กลัว มีกังวล เอาเงินไปบูชาง่ายกว่ากันเยอะครับ แล้วนำไปถวายวัด อยู่เราสดวกครับ จะสร้างองค์เล็กองค์ใหย๋เหมือนกัน ตั้งแต่ ๕ นิ้ว ขึ้นไป ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ว่า ผู้ใดสร้าง พระหน้าตัก ๕ นิ้ว จะเป็นปูนพลาศเตอร์ ปูน ทองคำ เงิน ทองเหลือง เทวดาจะมารักษาครับ ถ้าต่ำ กว่า ๕ นิ้ว ต้องทำพิธีขอบารมีพระ เทวดาพรหม ท่านมาสงเคราะให้ แต่ถ้าใครสร้างพระ หน้าตัก ๔ ศอก จะตัดกรรมได้คนเดียว ถ้าปิดทองด้วย ทองคำแท้ จะได้ ทั้งคณะ ไม่เกี่ยวกับผู้ร่วมบุญ มันอีกต่างหากครับ


ถ้าไม่ทำกรรมหนัก ฆ่าพ่อแม่ ทำลายยุสงฆ์ให้แตกกัน ฆ่าพระอรหันต์ ทำร้ายพระพุทธเจ้า (ในสมัยนี้ ต้องหมายถึง ทำลาย ทุบ พระพุทธรูป) ตรงนี้ผมเดาเอา เพราะว่า พระพุทธองค์ ดับขันเข้าพระนิพพานแล้ว พระพุทธรูปคือตัวแทน ท่าน เรื่องนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนครับ คุณทำคุณได้อานิสงฆ์ นั้นแน่นอนผู้ร่วมทำ ผู้อนุโมทนาสาธุกับคุณ ก้ได้เช่นกัน ผู้ร่วมหมายถึง ทำบุญกับคุณ ตั้งแต่ บาทขึ้นไป หรือ ๑ สลึงก็ได้ เขาได้ เหมือนเราผู้ทำ ถ้าเขาอนุโมทนาสาธุ เขาได้ ๒๐ เปอร์เซ็น เราได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นครับ

 

ถ้าอยากได้บุญจริงๆ คุณควรจะเปลื่ยนความคิดใหม่นะคะ.....ถามตัวเองก่อนว่าทำไปเพื่ออะไร? อยู่เงียบๆถามใจตัวเองว่าเราจะสร้างพระไปเพื่ออะไร ? เพื่ออยากได้แต่คำว่าบุญ หรือ ทำไปเพราะรักและเคารพพระพุทธเจ้าสุดหัวใจ ระลึกถึงพระมหาการุณาของพระองค์ท่าน หรืออยากให้ตัวเองเฮงๆรวยๆโชคดี ๆ หรือทำไปเพราะอยากได้แต่บุญๆๆๆๆ ? คุณทำอย่างไรคิดอย่างไรก็ได้แค่นั้นค่ะ แต่ถ้าคุณทำด้วยความเคารพพระพุทธเจ้า(จากใจ)นึกถึงความดีของพระพุทธเจ้า คุณสร้างเพื่อบูชาคุณของพระองค์ท่าน คุณก็จะมีอานิสงส์หาประมานมิได้ค่ะ ไม่ว่าจะไปจ่างเค้าหล่อหรือไปซื้อมาก็มีค่าเท่ากัน บุญ-บาปอยู่ที่(เจตนา)ตัวเดียว จะได้บุญมาก หรือน้อย ก็อยู่ที่หัวใจเรานี่เองค่ะ ......... กราบโมทนาสาธุ ๆ ๆ ค่ะ

 

คือผมไปดูตามวัดบางวัดพระพุทธรูปยังน้อยอยู่ อยากถวายท่านครับ อยากที่ท่านๆด้านบนกล่าวไว้เลย สืบต่อไปให้คนกราบไหว้บูชาพระพุทธเจ้า

ปล.เมื่อก่อนผมก็เคยโอนเงินร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐมฯตลอด แต่มาตอนนี้กะว่าจะเริ่มทำงานเก็บเงิน ซื้อพระพุทธรูป และมีเพื่อนเป็นวิศวกรอยู่จะให้มาช่วยกันสร้างกุฏิครับ

ปล.2 ผมเคยอยากเป็นทนายนะ แต่ไม่เอา เพราะกลัวบาป เพราะเป็นอาชีพที่เสี่ยงต่อการทำบาปมาก ถึงแม้ผมจะถือศีล 5 แต่ก็ต้องเถียงกันในศาลตลอด หรือไม่ก็พยายามหา % จากค่าเสียหายให้ได้มากที่สุดแล้วส่งหนังสือบอกกล่าวทวงถามทำให้เขาไม่สบายใจผมเลยไม่โอเค เลยไม่ขอทำอาชีพนี้ดีกว่า ไม่อยากทำให้คนเสียใจ เป็นบาปกับตัวเอง อิอิ // ก็เลยตกงานเลยตอนนี้ ^^

 

คุณคะ ก่อนที่คุณจะสร้างพระ คุณควรไปถามพระสงฆ์ในวัดที่เราจะสร้างพระ ว่ามีที่ประดิษฐานที่ควรแล้วหรือยัง ปัจจุบันนี้พระพุทธรูปมากจนหน้ากลัว เป็นภาระให้สงฆ์ต้องหาที่เก็บจนเป็นเรื่องหนักใจแก่สงฆ์ เห็นคุณพูดถึงองค์ปฐม....ดิฉันเคยได้หล่อท่านในสมัยที่เค้าสร้างที่วัดท่าซุงองค์ที่อยู่ในวิหารองค์ปฐม ในสมัยนั้นดิฉันจำได้ว่าหลวงพ่อพระราชพรหมยานท่านว่า....ใครได้สร้างองค์ปฐมจะได้บุญมาก ถึงกับสามารเปลื่ยนบันชีบุญบาปเป็นทองคำ ในสมัยนั้นดิฉันเป็นพวกศรัทธาจริต ทำไปเพราะอยากได้แต่บุญๆๆๆๆโลภอยากได้แต่บุญๆๆๆ ทั้งๆที่เค้าหล่อพระเพื่อบูชาคุณของพระพุทธเจ้า แต่ดิฉันนึกแต่เรื่องบุญนึกถึงแต่เรื่องอานิสงส์ น่าระอายใจจริงๆเลยนะคะ แล้วยังมีหน้าไปอธิฐานขอเข้านิพพานชาตินี้ เป็นบัวเหล่าที่4 ดิฉันมีแต่กิเลสความอยากคะ มาถึงตอนนี้คิดได้ถึงได้ละอายใจว่าเรานี้หล่อพระอยากได้แต่บุญไม่ได้นึกถึงคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเลยคะ อย่าเป็นเหมือนดิฉันเลยนะคะ มีโอกาสสร้างพระให้นึกถึงคุณของพระพุทธเจ้าเป็นอันดับแรก แล้วดูประโยชน์ที่จะเกิดแก่ส่วนรวมและพระศาสนาแล้วจึงทำอย่างมีสติ อย่าเป็นแบบดิฉันเลยนะคะบ้าบุญจนขาดสติ มีสติก็จะมีสตัง อย่าเป็นพวกศรัทธาจริตแบบดิฉันเลยนะคะ กราบโมทนาสาธุค่ะ

 

อย่างอาจารย์ของดิฉันท่านเจ้าคุณพระราชพรหมยานท่านจะสร้างอะไรแต่ละที ท่านจะเล่าแต่ความดีของพระพุทธเจ้าท่าน พระมหาการุณาแต่ละพระองค์มากมายเพียงใด....แต่ดิฉันอะโง่ ไม่รู้เรื่องหลอก แต่ก็มีหลายคนที่โง่เหมือนกัน ครูฉลาดเก่งแต่ศิษโง่ หรือตอนนั้นจะเป็นเพราะอายุเรายังน้อย ความเข้าใจยังน้อย ก็เป็นได้ หรือเราจะเป็นพวกศรัทธาจริต ก็ไม่รู้ ดิฉันอุส่าไปซื้อหนังสืออานิสงส์108มาอ่านเพื่อทำบุญต่างๆหวังที่จะได้อานิสงส์อย่างท่านเหล่านั้น(พระอรหันต์ในอดีตทั้งหลาย) อุส่าทำตาม แต่ในที่สุดก็คิดได้ว่า...จริงๆการวาง(กำลังใจ)ของเราในขณะถวายทาน ยังไม่ได้เสดเสี้ยวความดีของท่านเหล่านั้น เพราะท่านเหล่านั้นทำความดีด้วยความเคารพในพระรัตนตรัยอย่างสุดหัวใจ หวังประโยชน์แก่โลกและพระศาสนาอย่างหาประมานมิได้ โดยที่ไม่มีคนชี้ช่องทาง แต่เกิดจากหัวใจล้วนๆ มีชีวิตและศรัทธาต่อพระรัตนตรัยเป็นเดิมพัน ไตร่ตรองแล้วว่าทานนั้นๆจะพึงเป็นประโยชน์เป็นที่พึ่งแก่ผู้รับ หรือ บูชาด้วยหัวใจที่มีความเคารพสูงสุดโดยปราศจาก ความโลภกิเลสต่างๆเข้ามาครอบงำ ทำด้วยหัวใจล้วนๆไม่ใช่ทำไปเพราะอยากได้อยากเป็นอย่างโน้นอย่างนี้ กราบโมทนากับท่านเจ้าของกระทู้ด้วยนะคะ สาธุๆๆ