เทคนิคและประสพการณ์การเอาตัวรอดในต่างแดนยุคเก่า..ของคนรุ่นก่อน..

..........................
..............ขณะที่กำลังปั่นจักรยานออกกำลังขานั้น..๒อย่างที่สบายใจหน่อยคือ...ผมมีเวลา
ไม่ต้องรีบร้อน..เพราะคอร์สของพี่โอเขา..ยังอยู่อีกหลายเดือน..ผมก็ไม่ต้องรีบเกินเหตุ..แต่
ก็ไม่ใช่ทิ้งไว้แบบอีก ๑ เดือนก็ไม่สายที่จะล้างแค้น..เพราะทำอย่างนั้น..มันเสียของเพราะ..
เวลาที่ผมทำอะไรจะมุ่งมั่นเต็มที่แบ่งสมาธิ..ไปทำอย่างอื่นแบบคนอื่นไม่ได้..เพราะใจมันไม่ไป
...ผมก็กะว่า..จะฟิตร่างกายแค่ประมาณ ๗-๑๐ วัน..ถึงจะเริ่มขบวนการเอาคืน....
.....อีกอย่างที่สบายใจคือ..พี่โอยืนยันว่า..ไอ้นี่มันเลวจริง..ไม่ใช่ผมคิดไปเองเพราะว่า..แค้นมัน
.....ผมก็จะได้..สบายใจ..และ..ไม่ต้องมาเป็นกังวลว่า..ที่เราทำไปผิดรึเปล่า...
...........ผมกะว่า..ช่วงที่ผมฟิตร่างกายนั้น..มีเวลาผมก็ต้องติดตามพฤติกรรมมันไปด้วย..ว่าวันๆ
มันไปไหน..ทำอะไรบ้าง..ส่วนหนึ่ง..เพื่อสงครามประสาทของผม..ก่อนเริ่ม..สงครามจริง...
........................
...............ผมว่าผู้อ่านหลายท่านอาจแปลกใจว่า..โอ้โหมันคิดอะไรซับซ้อนนัก...วางแผน
ใหญ่โต...มันก็มีที่มาครับ..และ..รูปแบบนี้ของผมนั้น..ก็เอามาใช้ในการทำงานด้วย..ซึ่งก็ทำให้
เอาตัวรอดมา..ทุกวันนี้.....
..........ผมเป็นคนชอบ..ดูหนังฝรั่ง..แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งก็เพราะ..การฝึกการฟัง..ฝรั่งพูดจริงๆ
..ทั้งแบบสำนวนอเมริกัน..และ..สำนวนอังกฤษ..สมัยโน้น..ก็ไม่มีซีดีหรอกครับ..วิดิโอ..อย่าง
เดียว..ผมจะซื้อแบบ..ที่ไม่พากย์ไทย..และ..ไม่บรรยายไทย..สิ่งที่ต้องการแบบแรกคือ..
.....แบบที่ไม่มี ซับไตเติ้ล....แต่ถ้าไม่มีก็..เอาแบบ..ซับไตเติ้ล..(แต่เวลาดู..ผมจะคาดเทปปิด
ตัวหนังสือไว้ที่จอ..)......ที่ผมทำได้เพราะพื้นฐานภาษาผมค่อนข้างดีมาแต่เดิมครับ...
...แหล่งหนังแบบนี้..สมัยนั้น..ไม่ใช่หาง่ายๆนะครับ..เพราะมันเป็นของเถื่อนล้วนๆ..เราไม่มีเงิน
ไปซื้อของจริง..แล้วรูปแบบที่ผมต้องการ..ส่วนใหญ่จะหาได้จาก..แถบสยามสแควร์...
..........หนังที่ผมดู...ก็จะเป็นพวก..สยองขวัญ ( HORROR )...เขย่าขวัญ (THRILLER )..
ลึกลับ (MYSTERY )...ซึ่งหนังพวกนี้..ส่วนใหญ่มันก็จะมีเรื่อง..เสาะหาความจริง..วางแผน..
..ซ่อนเงื่อน...ผมดูแบบนี้..มาตั้งแต่เริ่มมี..วิดีโอเทปหนังขายแล้ว..และ..ทำมาจนแม้กระทั่ง
ปัจจุบัน...เรียกว่า..มันคงซึมเข้าไปทีละนิด..ทำให้ความคิดผม..ละเอียดขึ้น..และ..ซับซ้อนขึ้น
..ทำอะไรจะมี..แผน B ไว้ถ้ามีโอกาศ..คิดล่วงหน้าเสมอ...และจะไม่ใช้วิธี..วัดดวง..ในการทำ
อะไร..ในทุกกรณี...
................ในการทำงาน..ในฐานะหัวหน้า..ผมต้องวางแผนรับมือ..ในการประชุม..ของฝ่าย
ที่คอยมาคัดค้านแนวคิด..ของผม..พยายามหาจุดด้อยของแผน..แล้วให้ลูกน้องคิดเป็นฝ่าย
ตรงข้ามมันคิดยังไง..ถ้าเจอจุดอ่อนก็..อุดซะ..
....................ผมก็กลายเป็นคนแผนเยอะ..และ..ซับซ้อนมากขึ้น..ตามอายุ..และ..ประสพ
การณ์..คำว่าไร้เดียงสา..และ..เซ่อซ่า..เป็นสิ่งที่ผมพยายามถีบไปไกลๆเสมอ...
............................
.......ผมกลับมาถึง..TBIC..ก็..ขึ้นไปแคนทีน..เพื่อไปกินอาหารเย็น..ขณะเดียวกัน..ผมก็สังเกต
ไปด้วยว่า..ไอ้มูนี่..มันนั่งอยู่ไหน..ระหว่างเลือกอาหารและ..ถือถาดอาหารกลับมานั่งที่โต๊ะไทย
..ผมก็เจอมันพอดี..โชคดีมาก..ที่มันนั่งหันมาทางโต๊ะคนไทย..ผมเหลียวไปมองมันและ..เจอ
สายตามัน..มองมาทางผมพอดี..ผมก็หันตัวไปมองมัน..แบบไม่ละสายตา..แล้วคราวนี้มันก็ทำ
เป็นไปมองอย่างอื่นแทน...ผมได้อาหารแล้ว..ก็ไปนั่งตำแหน่งที่เห็นมันถนัดๆ..ระยะห่างกันประ
มาณ สิบกว่าเมตร..ครับ..ผมคุยไปกินไป..และ..ก็มองมันไปตลอด..เพื่อให้แน่ใจว่า..ถ้ามันแอบ
มองผม..มันจะได้เจอ..สายตาผม..จ้องมองอยู่ตลอด..และผมจะไม่ละสายตาจากมันก่อน..ให้
มันเป็นคนที่ละลายตาจากผมก่อน...ซึ่งแค่นี้..ผมก็ทราบแล้วว่า..มันค่อนข้างอึดอัดน่าดู...จน
มันลุกออกจาก..แคนทีนไปก่อนผม...ผมเองก็อยู่นานไม่ได้..พักท้องแค่ ไม่ถึงชั่วโมงระหว่าง
อาบน้ำ..เสร็จแล้วผมก็เปลี่ยนชุดที่..ผมไม่เคยใส่เลยตอนกลางคืน..ก็คือ..กางเกงขาสั้น..
..เสื้อยืด...ผมออกจากห้อง..แล้วก็ลงไปข้างล่าง..เพื่อไปที่..โรงยิม..ที่โรงยิม..นี่มันติดกับ
..ห้องกีฬา..อีกห้อง..ที่ยอดนิยมมาก..มีคนมาใช้บริการเยอะ..นั่นคือ..ห้องพูล....
......ในห้องพูล..นี้..จะมีโต๊ะพูลมาตรฐาน..๒ โต๊ะ...พวกละติน..พวกไอ้มืด..ก็จะมาอยู่เป็น
ประจำ..พวกเอเซียที่มีเป็นเรื่องเป็นราว..เรียกว่า..ขาประจำก็เรียกว่า..มีชาติเดียวครับ...
.............คือ..ชาติไทย...แถมถ้า...นักสอยคิวไทยเดินเข้ามาเมื่อไหร่..คิดแบบหนังก็..ต้อง
เป็นแบบ..สโลวโมชั่น..เดินเรียงหน้ามาที ๔ คน..แบบว่าใส่แว่นดำ..ใส่เสื้อหนังสีดำ...เลย..
..ทุกสายตา..ของคนในห้องต้องหันมามอง..และ..หยุดการกระทำทุกอย่าง....
..............เพราะพวกเขาคือ..เจ้าพ่อ..ตัวจริง..ไม่อิงนิยาย...................
....................

 

มันส์.... พ่ะย่ะค่ะ

 

...............
...หวัดดี..น้องTHONGCHAT...การล้างแค้น..มันเหมือนการวิ่งมาราธอน
...อยากจะวิ่งให้ถึงเส้นชัย..ต้องเตรียมตัว..วางแผนการวิ่ง....
.....ไม่งั้น..ไม่ถึงเส้นชัย........
..แต่ถ้าเตรียมทุกอย่างมาอย่างดี..ร่างกายถึง..แผนดี...เราก็ถึงเส้นชัย
.........แล้วความภูมิใจ..ก็..เข้ามาสู่ตัวเรา...
...................................
....................
........................พี่ไทย..เราไม่ได้มาประจำ..แค่..มาบ่อย..แต่ไอ้มืด..กับ..ไอ้พวกละตินนะ..
อยู่ประจำเลย..แล้วไอ้ที่มือวางอันดับหนึ่ง..ของพวกนี้..อยากเล่นด้วยมากที่สุด..คือ..คนไทย..
..เพราะพวกมัน..ไม่เคยเอาชนะได้อย่างจริงจังสักครั้ง(..บางครั้งพี่ไทยต้องอ่อย..เพื่อล่อเหยื่อ
..ชนะทุกหน..เดี๋ยวมันไม่เล่นด้วย..แต่ภาครวมตีกัน..สามสี่รอบ..มันก็ชนะได้แค้หนเดียว..ที่
เหลือ..พี่ไทยฟาดเรียบ)..ก็เล่นพนันกัน..เบียร์..มั่ง..เหล้ามั่ง..บุหรี่มั่ง..รวมถึงเงินด้วย....
...แล้วไม่ได้เล่นกันธรรมดานะครับ..พี่ไทย..ต้องต่อให้ทุกครั้ง....
........ถ้าครั้งไหน..อยากเล่นกันเอง..ไอ้พวกที่มาแจม..ก็จะเจอ..การวาง..จนแพ้เละเทะ..ไม่มี
โอกาศตบลูกลงหลุม..จนพวกนี้มันเบื่อ..เลิกเล่น..แล้วคราวนี้พี่ไทยก็ยึดโต๊ะ..เล่นกันเอง...
.......ที่เล่นกันนี้..คือ..พูลนะครับ..(ลูกหลายสี..แล้วมีเบอร์ติดอยู่ด้วย..).....
.....ไอ้พวกนี้..มันไม่คุ้น..ยิ่งพวกไอ้มืดส่วนใหญ่เพิ่งมาหัดเล่น...คนไทยเรียนมหาลัยอยู่หอ..
ส่วนใหญ่..มันก็ตีกันเป็นแทบทุกคนอยู่แล้ว..นอกจาก..สนุ๊ก..ก็ยังมีการเล่น..”ผีลาย”..ก็ใช้..
ลูกที่เขาเล่นพูล..นี่แหละมาเล่นกัน...และ..การเล่นก้ดัดแปลง..มาจากการเล่นพูล..ดังนั้น...
..คนไทยจึงคุ้นเป็น..เจ้ายุทธจักร..ที่นี่แบบถาวร...
.........ผมก็เล่นเป็นครับ..แต่ไม่เก่ง..และเรื่องของเรื่อง..ผมไม่ชอบการพนันทุกชนิด..ก็เลย
ไม่ความตั้งใจที่จะฝึกฝน.......
...............กลับมา..ถึงที่โรงยิม..ผมลงมาถึง..ก็ตรงไปที่กระสอบ..เล่นลม(ศัพท์มวย)..ซักพัก
..แล้วก็เริ่มลงมือ..เล่นกระสอบ..ผมเห็นหุ่นมันแล้ว..ก็เห็นจุดอ่อนส่วนนึงได้ชัด..นั่นก็คือ..
....เข่า..และ..ขาช่วงล่าง..ซึ่งพวกไอ้มืดส่วนใหญ่..เผ่าพันธุ์มัน..ต่อให้ตัวใหญ่ยังไง..เข่าและ
..น่องมัน..จะเล็กครับ..เล็กกว่า..คนไทยด้วยซ้ำ..แต่จุดที่ผมเล็งไว้..ก็คือ..ข้างเข่า..เพราะ
ผมเห็น..ประสิทธิภาพมากับตา..ตอนที่ผมไปดูมวยที่สนามมวยลุมพีนี..วันนั้น..คงเดช ลูก
บางปลาสร้อย..ใช้ลูกเตะข้างเข่า..ทีเดียวครับ..น้อคเลย..คู่ต่อสู้..ต้องให้พี่เลี้ยงมายกออกไป
...เพราะเดินไม่ได้เลย....แล้วไอ้ขาเล็กเข่าเล็กแบบนี้..ผมเชื่อมั่นตัวเองถ้าเจอของผมเต็มๆ..
..๑ ที..ไม่น่าเกิน ๒ ที..รับรองเก็บฉาก..ส่วนต้นขา..ลำตัว..คอ..มันหนา..ผมก็ไม่คิด
จะไปเล่นงาน..จุดนี้ให้เมื่อย...การเตะกระสอบ..ผมก็ต้องเน้นความหนัก..เพิ่อเรียกกล้ามเนื้อ
คืนมา..เรียกว่า..เสียงสนั่นแล้วกัน..และ..แถมมันดังไปถึง..ห้องเล่นพูลด้วย..(..ห้องพูล..นี่
ไม่ได้ปิดกระจกนะครับ..มีช่องคล้ายหน้าต่างเปิด..ติดกับ..ยิม..ส่วนประตูก็เปิดไว้ตลอด...
....เวลาผมเตะ..ก็มีไอ้พวกที่อยู่ในห้อง..พวกที่นั่งดูเขาเล่น..ทั้งไอ้ละติน..และ..ไอ้มืด..หันมา
มอง..ผมเล่นกระสอบไปเรื่อยสลับ..ทั้ง..หมัด..เตะ..เข่า..ศอก..แต่พระเจ้าเข้าข้างผมพอดี..
..เพราะขณะที่ผมซ้อมไปซัก..สิบนาทีได้...ไอ้มูนี่เดินมากับเพื่อนมัน..กำลังจะไปห้องพูล
พอดี..ผมก็เปลี่ยนมาเตะกระสอบ..ทันที..เอาอย่างแรง..เสียงดัง..ป้าบ..ป้าบ...ได้ผลครับ..
..มันหันมามอง..แล้วมันก็เห็นผมเข้าแล้วก็หยุด..คราวนี้..ผมก็โชว์เลย..ตามองหน้ามัน..แต่ตีน
เตะกระสอบ...ป้าบ..ป้าบ..แล้วมันก็รีบหันหน้ากลับ..เดินเข้า..ห้องพูล....ผมยังจำได้..
ว่า..แอบยิ้มดีใจ..ว่า..อ้าวอย่างงี้ก็สวยเลย..ถ้ามึงชอบมาเล่นพูล..คราวนี้..มึงได้เห็นกูที่นี่..
ทุกวันแน่...
...........แล้วผมก็เริ่ม..เล่นกระสอบตามปกติ...แต่เน้นเตะ..ศอก..และ..เข่า..แต่เข่านี่..เน้น
..เข่าสูง..นะครับ..เพราะผมไม่ได้ตั้งใจจะเอา..เข่าตีพุงมัน..แต่ผมจะเอาเข่าตีหน้ามัน...
...แต่ถ้าจังหวะพอดี..กว่านั้น..ก็เข้าเป้ามัน..เข้าไข่มันนั่นแหละ..รับรองทีเดียว..กรรมการไม่
ต้องนับให้เสียเวลา..ใหญ่..ขนาดไหน..เจอเข้าก็จอด....
..เพราะมันน็อคได้เลย..คนชาติอื่น(ยุคนั้น)มันไม่รู้จักมวยไทย..ถ้าพุ่งเข้ามา..ต่ำ..หรือ..กลางๆ
..เราสามารถ..ดักเข่า..สวนเข้าหน้ามันได้เลย..ยิ่งพุ่งเข้ามาแรง..แรงสะท้อนยิ่งหนัก..
.....แต่ถ้าเข้าประชิดตัวกัน...ผมก็ยังมีทีเด็ดไว้คือ..”ศอกสั้น”...ไว้เล่นงานได้..
.........................

 

โอ้โฮ!!!
ยอมรับครับว่าทำให้ผมเรียนรู้มากขึ้นเยอะเลย
โดยปกติ ผมชอบใช้อารมณ์นำหน้า ถ้าเลือดขึ้นหน้า ก้อลุยมันเลย
ไม่รู้จักการวางแผน วางกลยุทธ์ ศึกษาจุดอ่อนคู่แข่งเลย
ผมมันประเภทหัวหมู่ทะลวงฟันมากกว่า เป็นเสธ.

ยกให้ 2 นิ้วโป้งเลยครับ

 

.............................
..ฮ่า..ฮ่า...สมัยวัยรุ่น..พี่ก็ทำนองนี้..แต่คนเราโตขึ้น..
..ความคิด..สติ..ความรอบคอบ..มันก็ต้องโตตามด้วย..ไม่ใช่แค่ตัวเลขอายุที่มากขึ้น..ประสพการณ์ชีวิตที่มากขึ้น..ให้มันกล่อมเกลา..เรา..พิจารณามัน..
..แล้วเอามาใช้...พึ่ไม่ปล่อย..ไปเฉยๆ..ตั้งแต่เริ่มทำงานแล้ว...ยิ่งแก่..ยิ่งเขี้ยว...
..ไม่ใช่แก่..แบบกะโหลกกะลา..
.........เวลาเราเอา..พระดีๆราคาสูงไปปล่อย..หรือ..
..ต้องต้องการเช่า..พระดีๆราคาสูง....
...ก็เหมือนกัน..ต้องมีแผนและ..ความรอบคอบ..สติอยู่กับตัวไม่เข้าข้างตัวเอง..รู้เขา..รู้เรา..และไม่ประมาท....
....แค่นี้..ก็..สามารถยืนยง..ในยุทธจักรได้...
................

 

.........................
...........ผมก็เห็นโอกาศ..ตอกย้ำ..สงครามประสาทของผม..ก็คือ..ผมก็ซ้อมเบาๆไปเรื่อยๆ
พักแป๊บ..แล้วก็เล่นกระสอบต่อ..ไม่ใช่อะไรหรอกครับ..รอ..ไอ้มูนี่มันออกจาก..ห้องพูล..
..เพื่อโชว์..ศักยภาพข่มขวัญ..อีกรอบ..มันอยู่ไม่ถึง..ชั่วโมงหรอกครับ..มองนะซ้อมไปแล้ว
ก็คอยมองประตูไว้..ผมหันหน้าซ้อมเข้า..หาห้องพูล..ตลอด..เผื่อว่าถ้ามันแอบดู..มันก็จะเห็น
ว่า..ผมซ้อมอยู่....แล้วมัน..ก็ค่อยๆโผล่หน้าออกจากประตู..ผมเห็นพอดี..กำลังเข่าใส่กระสอบ
อยู่เปลี่ยนเป็น..เตะ..อย่างแรงทันที..ป้าบ ๆๆ..ให้มันดังกว่าตอนที่มันเพิ่งเดินเข้ามาใหม่ๆด้วย
..และ..ให้มันรู้ด้วย..ว่าผมเจตนา..เตะให้มันเห็น..สะใจดี...
...........มันมองหน้าผมแป๊บเดียวก็เบือนหน้าไปดู..อย่างอื่น..ผมเตะกระสอบ..ส่งมันจนออกไป
นอกห้องยิม..แล้ว..ผมถึงจะนั่งพัก..แล้วค่อยกลับห้อง..หลับสบาย...
.......ผมทำอย่างนี้ทุกวันมากกว่า ๑ อาทิตย์..ทั้งปั่นจักรยาน..คอยจ้องไอ้มูนี่ในแคนทีน..
..เล่นกระสอบในห้องยิม..วันที่๒..มันก็เจอผมอีกที่ห้องยิม..เว้นไปสองสามวัน..มันหายไป..
..พอมันเข้าห้องยิม..มันก็เจอ..ผมอีก..ผมก็เตะกระสอบ..ทั้งรับ..ทั้งส่ง..มันเช่นเคย...
.....มีอยู่ตอนวันที่ ๒ มั้ง..ผม..เล่นกระสอบอยู่..เจ้าพ่อห้องพูล..เดินเข้าไปเป็นทีม..หันมาแปลก
ใจกัน..ใหญ่..มีพี่คนหนึ่ง..ทัก..เฮ้ยซ้อมใหญ่จะไปอัด..ใครวะ..ผมก็บอกว่าเผื่อไว้อัด..ไอ้ละติน..
หรือ..ไอ้มืด..ถ้าเผื่อมันมากวนทีนผม...ทั้งแก๊งพี่ไทย..หัวเราะกันใหญ่..หนึ่งในนั้น..คือ..พี่โอ..
แกก็อมยิ้ม...ให้ผม..เพราะมีแกรู้คนเดียวว่า..ผมมาเตะกระสอบเพราะอะไร..วันนั้น..ผมดูเวลา
แล้ว..ไอ้มูนี่..ไม่เข้ามาแน่..ผมก็เลิกเร็ว..แล้วก็เข้าไปดูแก๊งไทย..ต้อนหมู..วันนั้นทั้งแก๊งก้ได้ตัง
กันไปหลาย..มีทั้งไอ้ละติน..และ..ไอ้มืด..ที่ไม่รู้จักเข็ด..มาให้เชือดกัน..
.....ไอ้มูนี่..มันเจอผมที่ห้องยิม..ซัก ๓ ครั้งได้และ..ผมก็ไม่เห็นมันอีก..แต่ก็ไม่สน..พอระยะเวลา
กว่าอาทิตย์..ผมก็พร้อม..ทั้งร่างกาย..จิตใจ..ความมั่นใจ..แผนการณ์ที่..เตรียมไว้เพื่อหาเรื่อง...
....ผมยังปั่นจักรยานอยู่..แต่ไม่เตะกระสอบแล้ว..ซ้อมเล่นลม..ในห้องผม..แล้วก็เตร็ดเตร่..คอย
เฝ้ามองพฤติกรรม..ไอ้มูนี่ต่อ..เพื่อหาโอกาศ...ตอนนี้ผมไม่ได้นุ่งกางเล..แบบเดิมแล้ว..
..เพราะนอกจาก..ยกสูงชิดเป้า..ผูกเงื่อนตาย..แต่มีของเสริมคือ..คาดเข็มขัดเลย..เพื่อความ
ปลอดภัย..สองชั้น..จะได้ไม่ขายหน้าชาวบ้าน...ผมคอยไปดูที่..ห้องทีวี..แต่สองวันแรก..ไม่
เจอมัน..อาจคลาดเวลา..หรือมันไม่ได้มา...ปรากฏว่า..มันมาวันที่สาม..ก็เข้าทางผมเลย..
.......ไอ้มูนี่..มันคงรอให้คนดู..น้อยๆหน่อย..จะได้วางก้ามโชว์เพาว์..ได้เต็มที่..เพราะถ้า..
หัวค่ำ..คนเยอะ..มันก็ไม่กล้าหรอกครับ..โดนสหบาทารุมกระทืบ..กระอักเลือดแน่.....
.......ผมมาถึง..มันนั่งอยู่แล้ว..เนื่องจากมันนั่งแถวหน้าสุด..มันก็ไม่เห็นผมที่แอบไปนั่งอยู่
แถวที่สาม..เยื้องๆมัน...แล้วก็เหมือนหนังซ้ำ..มีไอ้ปินส์..หรือ..อินโด..ไม่ทราบ..ก็ไปขอ
เปลี่ยนช่อง..ก็ไม่มีใครสนใจ..มันก็เปลี่ยน..แล้วเดินกลับไปนั่ง..ผมนะไม่ได้ดูเลยว่า..เดิมมัน
เป็นช่องอะไร..รายการอะไร..เพราะจ้องไอ้มูนี่อยู่ตลอดเวลา...แค่แป๊บเดียว...
.....โอกาศของผมก็มา..ไอ้มูนี่..มันก็เดินไปเปลี่ยนช่อง..แบบเดิมที่ไม่ถามใคร..แบบที่ทำกับ
ผม...ซึ่งตอนที่มันเปลี่ยน..ผมจำเลขช่องเดิมก่อนที่มันเปลี่ยนไว้...มันเปลี่ยนเสร็จ..มันก็ไปนั่ง
..ตามเดิมแบบก้นยังไม่ทันแตะเบาะดี..ผมลุกขึ้นทันที..แล้วก็รีบก้าวไปที่เครื่อง..กดเครื่องให้
กลับ..ไปที่ช่องเดิม..แล้วก็หันไปยืนกางขาเล็กน้อยพร้อมเตะ..แล้วตะโกนแข็งกับเสียงทีวีว่า..
......................กูอยาก..ดูช่องนี้.............ด้วยสายตาที่..อารมณ์ขึ้นเต็มที่..จ้องไปที่ลูกตา..
ที่ส่อ..ท่าทางตกใจ..ผมกะว่า..ถ้ามันขยับจะลุก..ตอน(ผมเข้าไปยืนอยู่ในระยะเตะแล้ว)...เป้า
คือ..คาง..เป็นจุดแรก...ปรากฏว่า....ไม่มีการต่อสู้ครับ..เพราะ....มันยกมือ..ขึ้นข้างหนึ่ง...
...แล้วพูดดังๆว่า.....OK. OK. ผมก็ยังยืน..อยู่อย่างนั้นอีกพักหนึ่ง..โดยไม่สนใจไอ้พวกที่
ดูทีวี..อยู่ (สถานการณ์..ตอนนั้นก็คง..ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่ง..เพราะหน้าตา..ท่าทางผมมัน
คงเวอร์คมาก..ทุกคนเงียบหมด...).....ในใจผมนั้นตอนแรกมันไม่พอใจ..ที่มันไม่ยอมลุกขึ้น
มา..แต่พอมาพูดแบบนี้..ถ้าผมเตะมันทั้งๆที่..มันยังนั่งอยู่..ผมก็จะแปรสภาพ..กลายเป็น..
อันธพาล..ในสายตาทุกคน...
..........แล้วผมก็..นั่งลง..แต่คราวนี้ผมนั่งแถวหน้า..ห่างจากเก้าอี้มัน ๒ ตัว...และก็นั่งมัน
อย่างนั้น..โดยไม่ได้ดูอะไรหรอก..แต่มองตรงไปข้างหน้า..และ..ให้มุมมองซ้ายสุดของ
ตาผม..ได้เห็นอากับกิริยาของมัน....มันก็นั่งนิ่งๆ..ไม่ถึง ๕ นาที..มันก็ลุกเดินออกไปด้านข้าง
..โดยไม่มาผ่านด้านหน้าผม....
..............ผมก็นั่งอยู่อย่างนั้น..เป็นชั่วโมง..ในใจ..ก็แค่ส่วนเล็กๆ..ที่ได้ล้างแค้น..แต่มันไม่สม
ใจอยาก..เพราะผมอยากอัดมันมาก..เสียเวลาไปฟิตร่างกายแล้วไม่ได้ใช้อะไร..
...........................

 

................................................
...เริ่มต้น..จากการท่องเที่ยวเดินทาง.....
..แล้วมันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง...ผมก็งงตัวเองเหมือนกัน.....แต่อย่างว่าครับ..เราคนไทย..ไม่ยอม
ให้ชาติไหนมา..หยามได้..โดยไม่เอาคืน.....

 

...........................
................ผมมาคิดดูแล้วว่า..มันคงมาจาก..สงครามประสาทที่ผมอัดใส่มัน..ทุกๆวัน....
...ผมว่า..มันก็อาจคงไประบายกับ..พวกไอ้มืดด้วยกัน..อย่างที่ว่าครับ..ที่ผมบอกไปแล้ว..ว่า
ดูเหมือนเยอะ..แต่จริงๆแล้ว..มันไม่ช่วยกันหรอก..แล้วใครๆก็เห็นว่า..คนไทยมันกลุ่มไม่ใช่
เล็ก..และ..สามัคคีเหนียวแน่น..ไม่แคร์หน้าไหนทั้งนั้น..พอมันรู้ว่า..ต้องช่วยตัวเอง..ก็เลย
ไม่กล้า...สรุปก็คือ..เก่งแต่โชว์อ๊อฟ..เอาจริงเข้า..ขี้หด...
....อย่างน้อย..ผมก็กู้หน้าผมคืน..ต่อหน้าคนอื่นได้..เพราะยังไงก็มีคนเอาไปพูดกัน..และ..
ผมก็ทำให้..คนอื่นรู้ว่า..คนไทย..ไม่ยอมเสียหน้า..ถ้าเสีย..ต้องเอาคืนมา..ไม่ใช่แบบเงียบๆ
..ต้องให้คนอื่น..รู้ด้วย..มันถึงจะ..สาแก่ใจ....
........ผมนะหลังจากนั้น..เป็นอาทิตย์..ถึงไม่ได้ซ้อมกระสอบแล้ว..(ความจริงเลิกไปก่อนหน้า
นั้นแล้ว)..ผมก็ยังพยายาม..นั่งมองหน้ามัน..ช่วงระหว่างกินข้าวเย็น...ก็จริงคือ..อยากท้าทาย
ให้มันมาสู้กับผม..นั่นแหละ..ผมเจอมันที่ไหน..ก็พยายามมองหน้ามัน..กลางคืน..ผมเคยนั่ง
ดูอยู่แถวหลังมั่ง..แถวสามมั่ง..หลังจากวันนั้น..ผมนั่งแถวหน้าตลอด..รอมัน..มันก็หายหัวไป
เลย..อาจจะไปนั่งแถวหลัง...เรียกว่า..ผมทำต่อเนื่องเป็นอาทิตย์..ไม่มีอะไรเกิดขึ้น..
...ผมก็เลิก..เลิกสนใจมันด้วย..ใช้ชีวิตปกติ..ไม่ต้องไปคอนเซ็นเตรทกับเรื่องนี้อีก...
.................................
..........ผมนั้น..ดวงมันชอบ..จะมีเหตุทำนองเดียวกันนี้..อยู่เรื่อย...แต่คราวนี้ไม่ได้ไกลตัวเลย
..ก็พวกที่เรียนอยู่ด้วยกัน..คอร์สเดียวกัน..ห้องเดียวกันนั่นเอง..............
.............มันมีที่มา..ประหลาดมาก..เพราะมันเริ่มจากที่ผมอยู่เมืองไทยด้วยซ้ำ....มันเกิดจาก
ภาษาครับ.....
...............ผมนะเป็นคนชอบภาษาต่างประเทศ(ยุโรป)มาแต่ไหนแต่ไร..พอทำงานแล้ว..และ
อยู่คนเดียว..ก็เลยเริ่ม..ก็จาก..ซื้อหนังสือหัดเรียนด้วยตัวเอง...มา..เป็นของ BERLITZ..ซึ่งคน
สมัยก่อน..รุ่นก่อนผมและรุ่นผม..ที่สนใจคล้ายผมจะทราบว่า..ไอ้นี่เป็นผู้นำด้านนี้..
...........เล่มหนึ่งคือ..ภาษาเสปน......อีกเล่มคือ...ภาษาเยอรมัน...ผมเรียนเองอ่านออกเสียง
..ตามเขา...แต่ที่รู้สึกเข้าทางผม..และ..ก้าวหน้าดี..เป็นภาษาเสปน...ภาษาเยอรมัน..ออกเสียง
ยากกว่า...ผมนะอุตส่าห์ลงทุนไป..หาวิดีโอเทป..หนังที่เป็นภาษาพวกนี้มาช่วยด้วยนะ...
......อย่างภาษาเยอรมัน..ผมนะไม่นึกว่า..คงไม่ได้ใช้แล้วที่ไหน..ได้กลับเป็นประโยชน์..เมื่อ
ผมไป..สโลวาเนีย ( SLOVANIA )...(..ผมนะคนคนไทยรุ่นแรกๆที่ไปเที่ยวที่นี่..ตั้งแต่เมื่อ
ยังรวมกับ..ยูโกสลาเวีย..ก่อนรัสเซียล่มสลาย..ก่อนกำแพงเบอร์ลินโดนทำลาย..หลายปี....
..ไม่ต้องห่วงครับ..ผมจะมาเล่าให้ฟังเรื่องในยุคโน้น..เมื่อเข้าภาค ๒ คือ..ตะลุยยุโรป..)..
.................ผมนะตอนที่เรียนอยู่..นั้นยังไม่เคยนึกว่า..จะมีโอกาศไปเมืองนอกเมืองนา..กับ
เขาเลย..เรียนเพราะชอบ..ปรากฏว่า..มาญี่ปุ่น..กลับได้ใช้..เพราะผมใช้มันได้ดีกว่า..ภาษาญี่ปุ่น
ตอนที่ไปใหม่ๆซะอีก..เรียกว่าทั้งฟัง..พูด..จนพวกละตินเอง..ยังแปลกใจด้วยซ้ำว่า..เรียนด้วย
ตัวเอง..ผมก็พูดเล่น..คุยเล่นกับ..พวกละติน..ในคอร์สผม..ทุกคนในคอร์ส..ไม่ใช่แค่..พวกละติน
..ก็รู้ว่า..ผมฟังและพูดเสปนได้..ระดับหนึ่ง...แต่ปัญหา..มันมาจาก ไอ้สองตัว..ที่เป็นคนฮอนดูรัส
...ฮอนดูรัส..นี่เป็นประเทศเล็กๆ..อยู่ในอเมริกากลาง..นะครับ...กิ๊กก็อกมากถ้าเทียบกับไทย...
.....มันน่าแปลก..ที่ไอ้สองตัวนี่..นิสัยใจคอเหมือนกันเลย..จนผมไม่แน่ใจว่า..ไอ้พวกฮอนดูรัส
ส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนี้..รึเปล่า...ผมเองก็แค่พูดคุยกับมัน..รู้จักกับมันพอประมาณ..ไม่สนิท..ก็
แค่เพื่อนร่วมห้องเรียนแบบนั้น..สาเหตุอีกอย่างก็คงเพราะนิสัยมันนี่แหละ...
..........ผมว่า..พวกแขกอินเดียนี่แย่แล้ว..ไอ้สองตัวนี่แย่กว่าอีก..หรือมันจะเป็นเพราะปมด้อย
ของชาติมันด้วยรึเปล่าไม่ทราบ..ประเทศนี้ค่าครองชีพต่ำ..รายได้เข้าประเทศน้อย....
....แล้วความที่..มันเป็นสายเลือดผสม..จะเป็นฝรั่งก็ไม่เชิง..เพราะมีเลือดพื้นเมืองปน..ก็เป็น
ปมด้อยอีกอย่าง....พวกนี้ได้มาญี่ปุ่นนี่..เวลามันไปไหนมาไหน..ก็พยายามทำตัวให้เป็นฝรั่ง..
เพราะรู้ว่า..ญี่ปุ่นชอบ..ขี้โอ่..ขี้โม้..ภาษาอังกฤษของมัน..ทั้งสองคนนี่..จัดว่า..ห่วย..พูด..และ
ฟัง..ได้แค่พอถูๆไถ...เอาแค่คำว่า..CUT ที่อ่านว่า..”คัท”..มันยังอ่านว่า..”คุท”..แล้วเพราะว่า
มันใช้แต่ภาษาเสปนเป็นหลัก..ตัวอักษร U ของเสปนนั้น..ไม่ว่าอยู่ที่ไหน..ตำแหน่งไหนของคำ
..อ่านออกเสียงว่า..”อู”..ทั้งสิ้น...แม่มพูดภาษาอังกฤษ..มันยังไม่เปลี่ยนเลย....
.................................

 

.....................
............เหตุมันเกิดขึ้นระหว่าง..พวกเราไปTRIPดูงานที่..ภาคกลางของญี่ปุ่น..แถบๆ..นาโงย่า
..ผมก็จำไม่ได้แล้วว่าเมืองอะไร..เราไปดูและฟังบรรยาย..จากเจ้าหน้าที่ควบคุมเขื่อนผลิต
กระแสไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สุดในภาคกลาง..ใหญ่กว่าเขื่อนสิริกิต์อีก..ซึ่งทั้งผู้อำนวยการเขื่อน..
เจ้าหน้าบริหารระดับสูง..ผู้อำนวยการลุ่มน้ำก็มาด้วย..จัดการต้อนรับอย่างดี..มีธงชาติไทยติด
ด้วย..(ผมก็ภูมิใจเล็กๆเสมอว่า..เราเป็นตัวแทนประเทศไทยนะ..)..หลังการบรรยาย..ก็มาเลี้ยง
ต้อนรับมื้อกลางวัน..โดยมีผู้อำนวยการเขื่อนเป็นเจ้าภาพ..คนที่ร่วมก็พวกเรา..เจ้าหน้าที่ประสาน
งานของJICAที่มากับเรา..รองอธิบดีกรมแม่น้ำ..ผู้อำนวยการจัดการลุ่มน้ำ..เรียกว่าใหญ่ๆทั้งนั้น
....ท่านจัดเลี้ยงที่..ภัตตาคารแบบญี่ปุ่นขนาดใหญ่..เปิดห้องจัดเลี้ยงแบบ VIP ..ซึ่งวิวสวยมาก
เพราะ..ห้องนี้สร้างอยู่บนลาดเขา..ห้องเป็นแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม..เสื่อตาตามิ..ประตูเลื่อน..ฝากระ
ดาษเยื่อไผ่...แถมมีระเบียง..ที่ออกไปยืนชมทัศนียภาพป่าที่นั่น..ระเบียงชมวิวยาว..ตลอดความ
ยาวของห้อง..ซึ่งจริงๆต้องนับด้วยจำนวนเสื่อตาตามิ..ซึ่งผมจำไม่ได้แล้ว..เอาเป็นว่า..น่าจะ
ประมาณ ๒๐ เมตรได้ครับ....นี่เป็นห้องทานอาหารแบบญี่ปุ่นที่ผมได้เคยไปกินมา..หลากหลาย
ที่..หลากหลายภาค.งที่ไหน..ก็ไม่สุดยอดเท่าที่นี่..ผมก็ติดใจในศิลป..ความสวยงามแบบญี่ปุ่น
ขนานแท้..ทั้งรูปแบบห้อง..รูปภาพแบบญี่ปุ่นที่แขวนอยู่..ตลอดจนวิวที่ระเบียงห้องจัดเลี้ยงนี้
.......ผมจึง..ทำการเก็บภาพต่างๆไปเรื่อย..ขณะที่รออาหารมา..กลุ่มพวกผมก็นั่งคุยใกล้ๆเป็น
หย่อมๆเล็กๆ..ไม่ห่างกัน..ผู้บริหารระดับใหญ่ของญี่ปุ่น..ที่ผมเล่ามา..ก็นั่งคุยกัน...ทุกคนยัง
ไม่ได้เข้าประจำที่..ก็นั่งบนเสื่อตาตามิ(พื้นห้อง)..ทุกคน..ยกเว้นผม....ห้องนี้ใหญ่มากครับ..
ยาวมากด้วย..เพราะวันนั้น..คนในงานก็..เกือบ สามสิบคน....(เป็นห้องจัดเลี้ยงแบบดั้งเดิม
ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่..เคยเห็น..และ..ทาน..มา..)
............ขณะที่ผม..กำลังเก็บรูปตามความยาว..ของห้อง..ซึ่ง..พวกเรานั่งกันอยู่ใกล้สุดห้อง
..ผมกำลังถ่าย..ที่ปลายอีกด้าน..ซึ่งระยะห่างกันมากกว่าสิบเมตร..ผมเห็นไอ้เวรสองตัว..นี่..
มันหันหน้ามาทางผม..แล้ว ๑ ในนั้น..มันก็พูด กับ..ไอ้เพื่อนมัน..แต่คำพูดมันดังแบบให้ไอ้
พวกละติน..ที่นั่งใกล้ๆกันกลุ่มอื่น..ในห้องได้ยินด้วย...มันคงเจตนาหรือจะไม่เจตนาให้ผม
ได้ยินด้วย..ผมก็ไม่ทราบ..แต่มันก็คิดผิดที่ให้ผมได้ยิน...
.................ไอ้นี่..มัน..บ้า.......................( ภาษาเสปน )
.........ผมได้ยินค่อนข้างชัด...เท่านั้นเองสติยั้งคิด..ผมขาดผึง..ทันที..ผมวางกล้องและเดิน
กึ่งวิ่ง...เข้าไปหาไอ้สองตัวนี่ทันที..ผมยืนอยู่ห่างมันไม่ถึง ๑ เมตร แบบยืนค้ำหัว..(..ทุกคน
ในห้องนี่..นั่งกับพื้นนะครับ..เพราะจัดเลี้ยงแบบญี่ปุ่น..ไม่ได้นั่งเก้าอี้กัน..)...
......ผมตะโกนลั่นห้องพูดกับมันเป็น..ภาษาอังกฤษว่า...
......” มึงทั้งสองตัว..ลุกขึ้นมา..สู้กับกูเลย...มึงเหยียดหยามดูถูกกู..แล้วพูดดังให้คนอื่นด้วย..
...มึงก็รู้ว่า..กูฟังมึงออก..อย่างนี้มึงเจตนานี่หว่า..มึงขึ้นมา..ขึ้นมา...”..ผมกวักมือทั้งสองข้าง
ถี่ๆ..ให้มันลุกขึ้นมาแต่ด้วยสัญชาติญาน..ที่มันเป็นอัตโนมัติ..ระยะห่าง....ให้อยู่ในตำแหน่ง
และมุมที่ผมยืน..ผมก็ปรับให้..ผมสามารถแต่ใส่คาง..หรือ..ทัดดอกไม้มันได้ถนัดทั้งสองคน
.ไอ้ส่วนที่เป็นคำพูดผม..มันก็คงทำนองนี้....เพราะมันนานมาก..จำไม่ค่อยได้......
.....ไอ้คนที่พูดหน้าซีดทันที..รีบ..ขอโทษ..ส่วนไอ้อีกตัวทำหน้าเหรอหลา..ทำนองไม่รู้เรื่อง
...ผมตะดกนใส่มันอีกว่า..”มึงไม่ต้องขอโทษกู..มึงลุกขึ้นมา”..ผมไม่เห็น..หรือได้ยินอะไร..
ทั้งนั้น..นอกจากไอ้สองตัวนี่..ที่ผมรอให้มันลุกขึ้นมา....
.............................

...

....ตัวอย่าง..ห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่..ของญี่ปุ่น..(อันนี้..มันไม่ใช่ร้านอาหารหรอกครับ...
..แต่บรรยากาศมันคล้ายๆ..กับห้องนั้น..เห็นวิวด้านหนึ่ง..และ..ใหญ่คล้ายๆกัน..).....

 

...............................
....ผมนั้นไม่ห่วงหรอก..เพราะไม่ว่าใครที่จะขยับลุกขึ้นมา..มันโดนผมเตะก่อน..และผมมั่นใจ
ว่า..ผมเตะเข้าตำแหน่งที่ทำให้มัน..หมอบ..ในครั้งเดียวได้..ส่วนเหลือคนเดียวนี่ไม่ห่วงเลย..
..มันไม่พอมือผม..อยู่แล้ว..ไอ้สองตัวนี่..เล็กกว่าไอ้มูนี่อีก..แถมพุงยื่นอีกต่างหาก..
..เพราะ..นี่มันเหตุการณ์..หลังจากที่เกิดกับไอ้มูนี่..ไม่ถึงเดือน..การเตะ..ผมยังมีพลังแน่นนอน
..และผม..ก็ยังออกกำลังอยู่ทุกวัน...
...........................................

.....ผมยืนคอยอยู่อย่างนั้นพักนึง..ไอ้สองตัวนี่..มันก็ไม่เงยหน้าขึ้นมาสบตาผม...แล้วผมก็ได้
ยินเสียงเรียกชื่อผม..ปรากฏว่าเป็นของ..โมริยาม่า(เจ้าหน้าประสานงานของ JICA ที่ประจำ
คอร์สเรียนของผม..)..ผมถึงจะหายจากภวังค์แห่งความรู้สึกนั้น...แล้ว..ผมก็เห็น..เจ้าภาพ
และ..ผู้บริหารฝ่ายญี่ปุ่นทั้งหลาย..ผมก็เลย..นึกขึ้นได้..แล้วก็เดินไปนั่งคุกเข่าใกล้ๆ..และ..
ขอโทษ..พร้อมโค้งตามธรรมเนียม..แล้วก็ลุกไปเก็บกล้อง..กลับไปนั่งกับ..ไอ้ซิงก์..ไอ้โด้..
..และ..ไอ้โก้...แล้วก็ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น..แต่สายตาผม..ก็มองไปที่ธงชาติไทย..
ที่เขาปักไว้ด้วย...
.................................
...........ผมมองไปก็..ยังนึกว่าโชคยังดี..ที่ไม่ได้เลยเถิดไปขนาดนั้น...มันก็คงไม่สวยงามนัก
เพราะ..คนอื่นเขาไม่แคร์หรอก..ว่าที่มามันเป็นยังไง..แต่ที่เขาแคร์..และจะประนามก็คือ..ผล
ของมัน..และเขาก็จำชื่อไม่ได้หรอกว่า..อะไร..แต่จำได้แน่ว่าเป็นคนไทย...
........ตั้งแต่นั้นมา..ผมก็ทำตัวเฉยๆ..ไอ้๓ตัวเพื่อนสนิทผม..มันก็ค่อนข้างเข้าใจผม..ไม่พูดถึง
แต่เหมือนเดิม..มันยังคาใจ..นอกจากผม..จะไม่พูดกับไอ้๒ ตัวนี่อีกเลย..ผมก็พยายามมองหน้า
ถ้ามีโอกาศ..ก็พูดง่ายๆจริงๆแล้ว..ก็หาเรื่องมันนั่นแหละ..เป็นหลายอาทิตย์..มันก็พยายามไม่มา
อยู่ในสายตาผม..ถ้าอยู่ก็เลี่ยงสายตา..ไอ้๒ตัวนี่..มันอาจจะเคยเห็นผม..ที่โรงยิมก็ได้..ก็เลยไม่
อยากเสี่ยง...หลังสองสามอาทิตย์..ผมก็เลยมองและใส่ใจ..มันอีก..แม้แต่ตอนจบคอร์สที่จะจาก
กัน..ก็เกือบไม่ได้พูด..แต่ไอ้ฮอนดูรัสอีกตัว(ที่ไม่ใช่คนพูด)..มันเอา..ของที่ระลึกมัน..มาแลกกับ
ผม..ก็เพียงแค่นั้น...................
.......................
............เฮ้อ..เป็นไงครับ..นี่แหละด้านมืด..คนเรามันก็มีกันทั้งนั้น..เพียงแต่จะปิด..หรือ..ควบ
คุมมันได้ขนาดไหน...ตอนนี้เรามาว่า..เรื่องท่องเที่ยว..อาหารการกิน..กันดีกว่า.....
.........เมื่อผ่านมาร่วม๒อาทิตย์ผมได้ดูรายการ..AUSTRALIA’S NEXT TOP MODEL season9
ก็สดๆร้อนๆที่ผ่านมานั่นแหละครับ..(อย่าแปลกใจนะครับ..เห็นผมเป็นผู้ชาย..แล้วดูรายการ
นางแบบ..เป็นเกย์..หรือ..ตุ๊ดรึเปล่า..ไม่หรอกครับ..ผมเป็นคนมีศิลปในหัวใจ..และชอบอะไร
ที่สวยงาม..ชอบงานดีไซน์...)..เขาให้นางแบบที่เหลืออยู่ ๔ คน..ระหว่างอยู่ที่ นิวยอร์ก...
..ไป..หาสถานที่ของลูกค้า..( SCHWAROVSKI และ ELLE USA ) ที่ทั้งสองแห่งอยู่กลางย่าน
ธุรกิจของในยอร์ค..ก็อยู่ในพวกตึกสูงๆนั่นแหละครับ...โดยที่ผู้ดำเนินรายการให้แผนที่และ
เงินค่า..แท็กซี่...และต้องไปให้ตามกำหนดเวลานัด....ผู้แข่งขันนี่..เป็นสาวๆมาจากออสเตรเลีย
ที่เมืองใหญ่ๆเขา..ก็..ไม่แน่นปึ๊กอย่าง..นิวยอร์ก..หลายคนก็ไม่ได้อยู่ในเมืองด้วยซ้ำ..แถมพวก
นี้..อายุตั้งแต่ ๑๖-๒๐ ปี.................
.............ที่ผมเอามาเล่า..มันก็คงสืบเนื่องจากที่ผมเคยแนะนำ..เรื่องการอ่านแผนที่..ไปหา
สถานที่ต่างๆในเขตเมืองที่หนาแน่น...ก็เพราะมีอยู่ ๑ คน..(ความจริง..มันเกี่ยวกับ..ความซวย
ด้วย..ถ้าเจอแท็กซี่ห่วย..บวกกับ..ความไม่มีเซนส์..ของตัวเองที่จะสื่อสาร..ผลของมันคงมีมาก
กว่า ๑ คน)..ไปไม่ทันนัด..สายไปครึ่งชั่วโมง..แล้วไปๆมาๆก็ส่งผลให้ตัวเอง..ตกรอบ....
.........นี่ขนาดนั่ง..แท็กซี่...รถก็ไม่ได้ติดมากมาย....
.........หลักการของผมนี่..เป็นของผมเองนะครับ..ไม่ได้ลอกเลียนใคร..ใครชอบใจ
ก็ลองเอาไปใช้ได้...ไม่ว่าจะ..นิวยอร์ค..โตเกียว..ลอนดอน..ชิคาโก้..โอซาก้า.....และนอก
จากนั้น..ก้ไม่จำกัดด้วยว่า..คุณไปเป็นครั้งแรกรึเปล่า..และไม่จำกัดด้วยว่า..คุณใช้ภาษาบ้าน
เขาเป็นรึเปล่า..ไม่เกี่ยวด้วยว่า..จะเป็นกลางวันหรือกลางคืน...
.....ที่ผมกำลังจะพูดถึงต่อไปนี้..คือ..หลักการใช้..แท็กซี่..ประกอบ..แผนที่ไปยังจุดต่างๆย่าน
ใจกลางเมือง..ที่หนาแน่น..มีตึกและ..ถนนตัดมากมาย....
........................



....นี่ครับ NEW YORK เมืองที่..แน่นเต็มไปด้วยตึก..บางตึก..ก็ไม่ดัง..ถนนตัดเพียบ
ไปหมด..ถ้าตึกที่คุณไปไม่ดัง..เป็นตึกเล็กหน่อย..ซุกอยู่แถวนั้น..มันง่ายมากที่จะหลง

 

........................
........ผู้ที่เหมาะที่จะใช้เทคนิคผม..นอกจากจะอึด..รอบคอบ..ยังเหมาะกับคนเหล่านี้คือ..
๑. คนที่ไม่พึ่ง..ไม่มี..และต่อต้าน..เทคโนโลยี.....
๒. คนใบ้.....
๓. คนที่ชอบเดินทางคนเดียว..หรือ..เป็นผู้นำการเดินทาง..
.....ทั้งนี้คุณไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยี..อะไรทั้งสิ้น..GPS...SMARTPHONE..INTERNET..ฯลฯ
ใช้ได้หมดครับ...แต่ข้อสำคัญที่คุณต้องมีของประจำตัวและข้อมูลประกอบ..(พร้อมด้วย
หัวใจที่อึด..และ..ไม่ขี้เกียจในการทำการบ้าน..ก่อนเริ่มเดินทาง..)
ดังนี้ครับ....
๑. ปากกาลูกลื่น..สีดำ..หรือ..น้ำเงินก้ได้ ๑ ด้าม..
๒. สมุดฉีก..ไม่มีเส้น..ขนาด ๑ ฝ่ามือ ก็ ๔ นิ้ว คูณ ๒นิ้วครึ่งหรือ ๓ นิ้ว..ซักเล่ม..
๓. แผนที่เมืองแบบที่ละเอียดหน่อย..คือ..มีระบุชื่อถนนต่างๆอย่างครบถ้วน...
...ถ้า..คุณแค่จะเอาแต่แผนที่ฟรี..ตามโรงแรมนั้น..อาจไม่ละเอียดพอ..ต้องลงทุนหน่อย
..(นักเดินทางที่ดี..ต้องลงทุนบ้าง)..โดยเฉพาะแบบที่มีการแบ่ง ZONE ของเมืองที่ครอบ
คลุมทั้งหมด...มี LAND MARK (เช่น อนุสาวรีย์..ตึกสูงต่างๆ..หรือ..อะไรก็ได้ที่เป็นจุดเด่น)
ในส่วนขยายแต่ละZONE ก็ต้องเห็นชื่อถนนต่างๆ..ไม่ว่าเล็กใหญ่..
๔. ถ้าคุณเป็นคนหนุ่มสาว..อันนี้..ไม่จำเป็น..แต่ถ้าคุณแก่ใกล้ผม..หรือ..แก่กว่า..ควรมี..
ก็คือ..แว่นขยาย..เอาแบบที่มันแบนๆคล้ายไม้บรรทัดก็ได้..แต่ไม่ต้องถึงขนาดหมอดูลายมือ
อันเล็กๆ..พกใส่กระเป๋าเสื้อได้สบายๆ...เพราะแผนที่บางแห่งที่เมืองหนาแน่นนี่มันเล็กนะครับ
ต่อให้มีการแบ่งโซน..และ..ขยายแต่ละโซนก็เหอะ..คนแก่สายตายาว..จะมองไม่ถนัด...
๕. ต้องมีความรู้เบื้องต้น..เกี่ยวกับแผนที่หน่อย...แผนที่ทุกแผนที่..เขาจะมีมาตราส่วน..
( สว่นใหญ่เป็น..กิโลเมตร..ครึ่งนึง..ก็ ๕๐๐ เมตร )...ใช้ปากกาของเรานั่นแหละ..ใช้ทาบ
วัดระยะได้..ปลายปากกาจรดตำแหน่งแรก..แล้ว..ก็วัดระยะมาที่ตำแหน่งสอง..ใช้ปลายเล็บ
กดค้างไว้ที่ปากกา..แล้ว..เอามาทาบที่มาตราส่วน..ก็จะได้ทราบ..ระยะของจริง...
....ผู้หญิงไทย..ก้าวเดินสบาย ๒ ก้าว..เท่ากับ ๑ เมตร..ผู้ชายไทยก้าวเดินสบายๆเฉลี่ย..
๓ ก้าว ๒ เมตร.....
๖. สตางค์..ค่าแท็กซี่...
.......๗. ถ้ายุคผม..ก็จำเป็นเวลาค่ำคืน..ไว้ดูแผนที่..คือไฟฉายเล็ก..แต่ยุคนี้..ไม่ต้องแล้ว
เพราะไม่ว่า..ใครก็เอามือถือ..ไปเมืองนอกกันทั้งนั้น..ใช้แทนไฟฉายได้ดี...ดังนั้นยุคนี้..ข้อ๗
ก็ไม่ต้องก็ได้..แต่ถ้าแบตมือถือหมด..คุณก็ซวยไป
.....................
........ข้อมูล..ของสถานที่นั้น..ถ้าเป็นไปได้ก็ขอ..รายละเอียดให้มากที่สุด..เท่าที่จะทราบได้..
................................
กรณีข้อมูลแบบแรก....
.............................นั่นก็คือ..ทั่วๆไป..คือ..มีแต่..เลขที่เท่าไหร่ ชั้นเท่าไหร่..ตึกชื่ออะไร..
เลขที่ของตึก..ตั้งอยู่ที่ถนนอะไร...ย่านอะไร...
๑. ....ถ้าคุณพักอยู่นอกเมือง...ก็เดินทางเข้ามาโดยรถไฟ...ลงสถานีใหญ่..ใจกลางเมือง..
...ก่อนจะออกจากสถานี..คุณมองหาป้าย..ตัว i ...ตัวสีขาวพื้นเป็นสีฟ้า...ซึ่งนี่เป็นสัญญลักษณ์
มาตรฐานโลก..แทนคำว่า..INFORMATION..ซึ่งที่นี่เป็นที่อำนวยความสะดวก..ของทางการ..
สถานีรถไฟ..รถบัส..รถใต้ดิน..ทีเป็น..จุดจอดของรถที่มาจากนอกเมือง..จะมีทุกที่ครับ..
(..ท่าอากาศยานนี่คงไม่ต้องพูดถึงนะครับ..มีแน่นอนอยู่แล้ว....)
..คุณสามารถหาแผนที่ฟรี..ได้ที่นี่..และซื้อแผนที่ละเอียดๆอย่างที่ผมว่า..ได้ที่นี่...
.....คุณต้องอึด..เพราะต้องเข้าคิวกันยาว..เพราะมีคนต้องการข้อมูลกันเยอะแยะ....ก่อนเข้าคิว..
คุณต้องมีแผนที่อย่างละเอียด..อยู่ในมือแล้ว..และปากกา ๑ ด้าม..และ..ชื่อตึกดังกล่าว..พร้อม
เลขที่ตึก..และ..ถนน..รวมถึงย่าน..หรือ..เขตที่มันอยู่..เขียนใส่สมุดฉีก..ให้ชัดเจน...
....เมื่อถึงคิวคุณ...คุณไม่ต้องพูดอะไร..คุณยื่นกระดาษที่คุณเขียนไว้..ตามที่คุณว่ามือนึง..
พร้อมกับ..ยื่นแผนที่พร้อมกับ..ปากกาคุณให้เขา..คนที่ทำงานประชาสัมพันธ์..เขาเห็นแค่นี้เขา
ก็เข้าใจแน่นอนครับ..ผมรับประกัน..ไม่ต้องพยายามพูด..เพราะคำพูด..มันอาจไม่ทำอะไรให้ดี
ขึ้นหรอก..เชื่อผมได้เลย...ผมทำมาเยอะ..หลายประเทศด้วย...........
.......................................








...มีตั้งหลายแบบ...ความหมายคือ..ที่ๆคุณไปหาข้อมูลต่างๆ.

 

........................................
จำไว้ครับ..ฝรั่งบอกว่า....
........ACTING CLEARER THAN WORDING ………………..
...........เจ้าหน้าที่ๆต้องพบกับคน..ร้อยพ่อพันแม่..น้อยคนจะพูดรู้เรื่อง(ไม่มีปัญหา)....
...ส่วนใหญ่จะมีปัญหา..ได้คืบจะเอาศอก....พวกนี้เขาก็มีอารมณ์..พอเจอแบบนี้..เขาชอบครับ
.......ผมเริ่มใช้..เมื่ออยู่ที่..ยูโกสลาเวีย..แล้วจะมาเล่ารายละเอียดให้ฟัง..ในภาค ๒ ตะลุยยุโรป
........................
........ขนาดในยุคก่อนนั้น..คอมพ์พิวเตอร์..ยังกระจอก..แค่ชื่อตึก..หรือ..เลขที่..เขาคีย์เข้าไป
เขาก็รู้ตำแหน่งได้แล้ว..ว่ามันอยู่ที่ไหน..ในแผนที่..ยุคนี้ยิ่งสะดวก....เขาก็จะ..MARK เป็น..
กากะบาท ( X ) หรือ..( O ) ก็ช่างเขาเถอะ..ลงในแผนที่ของเรา..ก็เป็นอันเสร็จ..เขายื่นของ
กลับมาให้เรา..เราก็พยักหน้ายิ้มหวานให้ ๑ ที่..พร้อมกับ..ทำวงนิ้วเครื่องหมาย OK แถม
ให้ด้วยซะหน่อย..ก็เป็นอัน..ผ่านขั้นตอนแรกแล้ว...และไม่ต้องห่วงครับ..เจ้าหน้าที่เขาไม่โง่
หรอก..เขาก็จะเขียนลงตำแหน่งส่วนขยายของแผนที่ในแต่ละ ZONE ให้ครับ.....
.....................
..........ให้สังเกตว่า...ไม่ต้องพูดซักคำ....
.......................
๒. ถ้าคุณพักอยู่ในโรงแรม......
.....................
......อันนี้สะดวก..เลยไม่ต้องเข้าคิวยาว...วิธีการทำแบบข้อหนึ่ง..ผิดกันที่คนไม่ต้องไปไหน..
ไปที่..เคานเตอร์...ประชาสัมพันธ์ของโรงแรม...ไปยื่นให้เขา...แล้วคราวนี้..คุณก็จะผ่านขั้นตอน
แรก..เช่นกัน...
.............................
๓. ถ้าคุณไปอาศัยใครก็ไม่รู้ที่เขาให้คุณพัก..หรือ..คุณอาศัยนอนในกล่องตู้เย็น..หรือ..นอนค้าง
บนเก้าอี้ใน..ปาร์ค...หรือ..นอนตามซอกของ..สถานีรถบัส..หรือ..สถานีรถไฟ...
....(อย่านึกว่า..ผมพูดเล่น....ผมทำมาแล้วครับ....ที่ กรุงเวียนนา..ออสเตรีย..)
........................
........ก็ไปตามที่ผมบอกใน..ข้อ ๑. สถานีรถบัสเข้าเมือง..หรือ..สถานีรถไฟเข้าเมือง....
...ทำตามแบบข้อ ๑. คุณก็ผ่านขั้นตอนแรกเช่นกัน....
.........................
.....กรณีข้อมูลแบบที่ ๒
......กรณีนี้..ดีกว่าแบบแรก..เพราะข้อมูลมากกว่า..ช่วยมากกว่า...นั่นก็คือ..พวกนามบัตร
..ที่ด้านหลังมีแผนที่อยู่....แต่คุณจะประมาทไม่ได้..เพราะบางครั้ง..แผนที่ๆแสดงนั้น..
อาจดูแล้ว..งง..หรือ...สับสน..หรือ..ไม่ละเอียด..ซึ่งถ้าคุณยื่นไปให้แท็กซี่..เขาอาจสับสน
เข้าใจผิดได้..ซึ่งจากประสพการณ์หลายคนที่เคยคุยกับผม..ก็โดนมาแล้ว...เช่น...
....บอกชื่อถนนที่ตั้งอาคาร..แค่เส้นเดียว..ถนนที่อยู่ใกล้เคียงไม่บอก.....
...แผนที่พยายามทำให้ง่าย..แต่ไม่ได้เสกล(มาตราส่วนจริง)....แล้วพยายามอิง..กับ
LAND MARK ที่คนรู้จักกันดี..แต่จริงห่างกันเป็นโยชน์....
...แผนที่..เขียนผิด....
....รูปการตัดของถนน..หรือ..แยก..เพี้ยนจากความจริง...
...ฯลฯ....
...ดังนั้น..เพื่อความไม่ประมาท..คุณต้องเอาเทียบกับ..แผนที่ก่อน..ว่าถูกต้องมั้ย...
หาเจอในแผนที่มั้ย..ถ้าคุณหาไม่เจอ..ในแผนที่...คุณต้องกลับไปใช้..ในกรณีแรก..ที่ผมบอกไว้
...หรือ..ถ้าคุณเจอแล้ว..แต่รายละเอียดไม่ดี..ชื่อถนนอยู่ใกล้เคียง..ไม่มีเพียงทำไว้เป็นรูปถนน
คุณก็ลอก..รายละเอียดชื่อถนน..หรือ..อื่นใส่ลงไปในนามบัตร...ให้ครบถ้วน.....
...แต่ใจจริงแล้ว..ผมไม่อยากให้ใครใช้นามบัตร..เอาไปให้แท็กซี่..เพราะอะไรหรือครับ...
...มันมาจากประสพการณ์..ของผม..และ..คนอื่นที่ประสพมา....
.....................................

.....................

....ตัวอย่าง..แผนที่ส่วนขยายในแต่ละ ZONE อันนี้ เป็นย่าน FIFTH AVENUE
..ใจกลางย่านธุรกิจ..ใน NEW YORK ...เดี๋ยวผมจะใช้อ้างอิง..เพื่อความเข้าใจ
...ในวิธีการของผม..อีกหลายครั้งมาก..ใช้เป็นตัวอย่างด้วย..เอามาให้ดูกันก่อน

............................

 

.....................................
.......คือ......ตึกที่เราจะไป..นั้น..ในนามบัตรมันจะ..บอกชัดเจนว่าอยู่..ด้านไหน..ของถนน..
..แท็กซี่มันก็จะเลือกเส้นทาง..ที่จะไปแล้ว..จอดด้านนั้นของถนน..ก่อน..บางที..การจารจร
ของแต่ละที่..ไม่เหมือนกัน..การบังคับเส้นทางรถ..(ลองคิดดูถึง..แถวเยาวราช)..เวลาตอน
นั้น..รถไปทางนี้..เวลานี้รถเข้าไม่ได้..อะรทำนองนี้...
..ดังนั้น..บางทีการจะไปจอดรถฝั่งเดียวกับ..ตึกที่คุณจะไป..อาจเป็นหายนะ..คือ..
..อาจต้องเกิดการ..อ้อมโลก..การอ้อมไปอ้อมมาผลเสียคือ..เวลาที่ใช้มากขึ้น...เงินค่าแท็กซี่
ที่มากขึ้นด้วย........ถ้าคุณยังแข็งแรงดี...คุณข้ามถนนเอาก็ได้..ก็คือ..จอดที่บริเวณเดียวกัน..
..แต่คนละฝั่งถนน....ซึ่งผมว่า..คุณทำแผนที่เอง..แบบในขั้นตอนที่สอง..ที่ผมจะสอนให้..
ดีกว่า..ก็คือ...ที่ตรงนั้น..ไม่จำกัดฝั่งถนน...ถ้าแท็กซี่..โดยทั่วไป..แน่นอน..เขาก็เลือกไป..ใน
เส้นทางที่ไม่อ้อม..ซึ่งจะทำให้คุณ..ไม่ต้องเสียเวลา..และ..เสียเงินเพิ่มโดยไม่จำเป็น....
..................................
...ขั้นตอนที่สอง....
.........................
..........คุณไปหา..ที่จะนั่งดูแผนที่..และ..เขียนข้อมูลให้แท็กซี่..ร้านค๊อฟฟี่ช้อป...ไปตามปาร์ค
...ที่ไหนก็ได้..ที่สงบๆหน่อย..เพราะต้องมีสมาธิพอควร....
๑. ..ก่อนอื่นคุณดูที่เขาวง..หรือ..กาไว้...คุณจะเห็นชื่อถนน..ตามข้อมูล..ที่ตั้งของคุณ..
..คุณก็..วงรอบ..ชื่อถนนในแผนที่ไว้..ก่อน.....
.... ๒. คุณมองไล่ตำแหน่งที่เขาวงไว้ว่า..เป็นตึกตามข้อมูลของเรา..ตามเส้นถนนนั้น..ออกไป
ทั้งสองข้าง..จากจุดที่วง..ออกไปทางซ้าย..และ..ออกไปทางขวา..หรือ..ไปทางบน..และ..
ทางล่าง..แล้วแต่แผนที่ๆคุณวาง...
.......คุณมองไปแล้วไปเจอแยกแรก(มีถนนเส้นอื่นมาตัด)..ให้คุณวงชื่อถนนที่ตัดไว้...
......ทำเช่นเดียวกัน...อีกด้านหนึ่ง.....
........ตอนนี้..คุณก็จะมีชื่อ..ถนน ๓ เส้น..ที่คุณวงไว้เอง..ในแผนที่แล้ว...
..ตอนนี้..ให้ทำการขีดเน้นเส้นถนนที่ตึกคุณตั้งอยู่ในช่วง..ที่มี..ถนนที่คุณวงชื่อ
ถนนไว้..ทั้งสองเส้น..มาตัดไว้..เพื่อจะได้สังเกตได้ชัดเจนขึ้น
...............................
..................เส้นถนนที่มาตัดกัน..ถ้าเทียบกับตัวอักษร..มันก็คล้ายๆกับ..
เส้นขวาง(เส้นเดี่ยว)..ของ..ตัว “ H “ นั่นเอง..ถนนที่มาตัด..ก็คือ..เส้นตั้ง(เส้นคู่ขนาน) ทั้งสอง
นั่นเอง..(..แต่เวลาเขียนรูปให้ แท็กซี่..ให้คุณขีด..ตามจริง..คือ..ถ้าตัดเป็น..สี่แยก..เส้นไหน
ก็ต่อหาง..เส้นเดี่ยวออกไป..ถ้าตัดเป็น..สี่แยกทั้งคู่..ก็ต่อหางเส้นเดี่ยวไปทั้งสองด้าน..ดูรูป
ประกอบ..)...แต่หลักการคือ..ตึกที่คุณจะไป..จะต้องอยู่บน..เส้นเดี่ยว...
...............................
๓. ...สมมุติว่า..ถนนที่ตั้งตึกที่คุณจะไป..คือ..ถนน เอ ....
.........คุณได้ชื่อถนน บี..ที่มาตัด ถนน เอ..และ..อีกด้านที่มาตัดคือ..ถนน ซี...
..ให้คุณตรวจสอบว่า..มี LAND MARK เช่น ตึกสูงชื่อดัง..หรือ..อนุสาวรีย์อะไร..มีอยู่
บนถนน เอ..ในช่วงระหว่าง..ถนน บี..และ..ถนน ซี...หรือ..ไม่..ถ้ามีก็..วงไว้...
...ถ้าไม่มี..ก็..ไม่เป็นไร....
......................................
....ขั้นตอนที่ ๓ (สร้างแผนที่..ให้แท็กซี่ )...
............อย่างแท็กซี่ในเมืองใหญ่ๆ..ถ้าที่ๆเป็น LAND MARK ..เช่น..ตึกดัง..ร้านดัง..อนุสาวรีย์
ปาร์ค...จตุรัส(..หรือ plaza ..หรือ..SQUARE..นั้น..คือสถานที่เปิดกว้าง..แต่คนไทยดันเสือกไป
ทำให้..คิดไปว่า..เป็นสี่แยก..หรือ..บางคนไปคิดว่า..เป็นที่กว้างทรงสี่เหลี่ยม..มันไม่จำเป็นครับ
..ที่แน่ๆ..จำไว้ว่าเป็นที่เปิดกว้าง..ไม่ใช่ “สี่แยก” แบบบ้านเรา..คนไทยชอบแผลง..ศัพท์ฝรั่ง
มาเป็นของตัวเอง..มันจะมีความหมายต่างจาก SQUARE ของบ้านเรา..อย่าง..สี่แยกแม้นศรี..
ที่จริงๆแล้ว..เป็นแค่..ถนนสองสายมันตัดกัน..เท่านั้นเอง...ถ้าไปถามฝรั่งว่า..อ้าวแล้วจะให้กู
เรียกเป็นภาษาอังกฤษ..ของสี่แยกแม้นศรี..ยังไงวะ..มึงบอกหน่อย....
.........ฝรั่งมันก็จะบอกว่า..เรียกว่าหยั่งงี้แล้วกัน..MANSEE CROSS....)
.................

.............



...ภาพบน..จตุรัสทราฟัลการ์ (Trafalgar Square ) ลอนดอน อังกฤษ
....ภาพล่าง..จตุรัสวอชิงตัน ( Washington Square ) นิวยอร์ค อเมริกา




...ภาพซ้าย..เส้นแนวตั้ง..คือ..ถนนที่ตั้ง..ของตึกที่จะไป..เส้นนอน ๒ เส้น คือ..ถนนที่มาตัด..

....และ..เป็น..สี่แยกทั้งสองด้าน...

...ภาพขวา..เส้นนอน..คือ..ถนนที่ตั้ง..ของตึกที่จะไป...เส้นตั้ง ๒ เส้น คือ..ถนนที่มาตัด..

..และ..เป็น..สามแยกทั้งสองด้าน..(แสดงว่า..ถนนที่ตั้งฯนั้น...เป็นถนนสั้น..มีช่วงเดียว..)



...

 

ไม่มีที่ไหนจะแน่นเท่าNew York ที่เขาเรียกว่า" Never sleep" คนเหมือนวิ่งแทนที่จะเดิน ตลอด๒๔ ช ม คุณคงไปTrump tower มาแล้วใช่ไหมคะ

 

..........................................
...ไม่เคยไปหรอกครับพี่..ตึกเจ้าโดแนล ทรัมพ์ ..นี่นะ.....นั่นแหละครับ..ผมเลือเอานิวยอร์คมาเป็นตัวอย่าง...เพราะสาเหตุแห่งความแน่น..และผู้คนหลงทาง..กันแบบไม่น่าเชื่อ..
........
........

 

.................
..............นอกจากนี้..สิ่งที่แท็กซี่เมืองนอกตามเมืองใหญ่..จะไม่พลาด(..ของไทย..จำนวน
มากถ้าป้ายเขียว..เอาลูก..เอาหลาน..มาช่วยขับแทน..ยิ่งรูปแบบ..ที่แท็กซี่สากลควรรู้ก็จะไม่
รู้..)คือ..ถนนครับ..ไม่ว่าถนนไหน..เขาจะไปถูก..
....เยอะมาก..บางคน..แม้แต่ฝรั่งมาเที่ยวเมืองไทย..หรือ..ไทยไปเที่ยวฝรั่ง..เอาแผนที่จริงๆ
ให้คนขับดูเลย..ซึ่งสร้างความยุ่งยาก..คงนึกออกนะครับ..ว่าแผนที่มันใหญ่..คุณกางคุณพับใน
รถแท็กซี่..แล้วมันโกลาหลขนาดไหน..บางทีขับไปๆนานรถติดก็ไม่แน่ใจแล้วว่าไอ้ที่เมื่อกี้ดูไว้
มันอยู่ตรงไหน..คนโดยสารก็ต้องไปกางแผนให้แท็กซี่ดูใหม่...ขับไปดูแผนที่ไป..ตัวหนังสือ
ก็เล็ก..เดี๋ยวหาไม่เจอ..คนขับก็หงุดหงิด..ผมเคยถามเรื่องนี้..กับ..คนขับแท็กซี่..เวลารับผู้
โดยสารต่างชาติ..ไปส่ง...มันมั่วไปหมด..แล้วร้อยทั้งร้อยก็จะบอกเหมือนกันคือ..หงุดหงิด..
....แท็กซี่..ที่ไหน..ก็เหมือนกัน..เวลามีปัญหากับ..ผู้โดยสาร..พอคนขับหงุดหงิด..คนโดยสาร
ก็เลยหงุดหงิดไปด้วย..ทะเลาะกัน..บ่อย..ยิ่งเมืองนอก..มันหงุดหงิดมากมันก็จอด..ไม่ไปแล้ว
..เราก็ต้องจ่ายค่าแท็กซี่ตามมิเตอร์ไป...แต่ที่แย่กว่านั้นคือ..มันจอดให้เราลงที่ไหนก็ไม่รู้....
....พูดภาษาบ้านเขาไม่เป็นอีก..แล้วถ้าเป็นกลางคืนยิ่งไปกันใหญ่..เป็นที่ๆมีแต่ตึก..หาตัวเอง
ในแผนที่ไม่เจออีก..ต้องไปเรียกแท็กซี่คันใหม่ต่อไป....
...................
.............ผมจึงหาวิธีใหม่..ที่ไม่ต้องพูดด้วย..ซ้ำ...ด้วยการทำแผนที่..สำหรับให้แท็กซี่ไว้ดู
โดยเฉพาะ..ก็คือข้อมูลที่..ผมให้คุณวงไว้..ในแผนที่คุณนั่นแหละ..แต่เอามาสร้างรูปแบบ..
ง่ายๆ..สำหรับแท็กซี่..แล้วไม่มีการสับสนแน่นอน..แท็กซี่เองมันก็ชอบ..สบายใจ..แล้วไอ้
แผนที่ๆที่ว่านี่..ก็ให้ไว้กับแท็กซี่เลย..เกิดขับไปแล้วลืม..ก็หยิบขึ้นมาดูได้.....
.............เราสร้างแผนที่...ในสมุดฉีก..ที่ผมให้เตรียมไว้นั่นแหละ......
....ทำให้มันง่ายที่สุด...ชัดเจนที่สุด..ข้อมูลครบ..แค่นั้นพอ...
....ข้อมูลพื้นฐาน..ที่เราต้องให้..ก็คือ
๑. ชื่อถนนที่ตึกที่เราจะไป..ตั้งอยู่...
๒. ชื่อถนนที่มาตัด..ถนนตามข้อ๑ ในช่วงที่ตึกที่เราไปตั้งอยู่ ทั้งสองปลาย...
......นั่นก็คือ..ชื่อถนน..อีก..สองเส้น..ตามตำแหน่งที่ตัด...
..ดังนั้น..ข้อมูลเบื้องต้น...คือ..ชื่อ..และ..ตำแหน่ง..ของถนนทั้งสามเส้น..แค่นี้..ก็ไม่มีหลงแล้ว
.....................
..........ถ้าบังเอิญ..มี LAND MARK ที่คนทั่วไปรู้จัก..อยู่ในช่วงถนนที่ตึกตั้งอยู่..ก็จะเป็นข้อมูล
เพิ่มเติม..ที่จะใส่ลงไปด้วย..ก็ช่วยป้องกันตวามสับสนได้มากขึ้น...
.......แค่นี้..เราก็พร้อมที่เราจะดำเนินการ..ขั้นตอนต่อไป........
..............
........บางท่านอ่าน..อาจจะรำคาญว่า..ทำไมมันหลายขี้นตอนจัง..ก็ต้องกลับไปอ่าน..ที่ผมเขียน
มาก่อนหน้านี้..ว่า..วิธีของผมนี้เหมาะกับ..ใคร..ถ้าท่าน..ไม่ใช่ประเภทนี้..และไม่สนใจใน..ความ
รู้แบบนี้..ก็หยุดอ่านไปก่อน..รอให้ผมจบช่วงนี้ก่อน..ผมถึงจะกลับไปที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง...
......แต่ถ้าบางท่าน..อยู่ในคนที่อยู่ในประเภทที่ผมว่า..และ..ผู้ที่สนใจใคร่รู้ทั่วไป..ก็ควรอ่านต่อ
ครับ..เพราะคนที่จะมาแนะนำ..แบบนี้..มันจะไม่มีอีก..แล้วถ้ามารู้เรื่องที่ผมจะเล่าในช่วงหลัง..
ของในส่วนนี้..คุณอาจจะอึ้ง...เพราะ..รูปแบบนี้..คุณสามารถไปได้ทุกที่..ต่อให้คุณมีแต่..แผนที่
ที่เป็น..ภาษายิว..อาหรับ..จีน..รัสเซีย...ซึ่งคุณอ่านไม่ออกเลย..ซักตัว...คุณก็สามารถไปได้ใน
ทุกที่ๆ..คุณต้องการ..ด้วยตัวคุณเอง..ที่รู้จักแต่ภาษาไทย..อย่างเดียว..หรือ..แม้แต่คุณเป็น..ใบ้
...ซึ่งทั้งหมดมาจากประสพการณ์..และ..การนำมาประยุกต์ของผม....
............บางที..คุณถือสมาร์ทโฟน...เป็นคนทันสมัย...แต่อาจจะไปไม่ได้ในบางที่..และใน
ความที่ไม่เอื้ออำนวย..ต่อคุณ..อย่างแบบ..ของผมก็ได้..............
....................................

..

...เอามาให้ดูเป็น SAMPLE ก่อน..ว่า..ไอ้ที่เราจะทำมันเป็นยังไง..ที่มีหลายรูป..
นี่ก็ขึ้นกับ..ลักษณะที่เราดู..ตามแผนที่จริง..มันมีหลากหลาย..แต่ยังไง..ก็ใช้..
..แค่..๓ เส้น..ก็พอ..

......................

..........อันนี้..คือ..ขั้นตอนต่อมาที่..เราทำสมบูรณ์แล้วพร้อมให้แท็กซี่......
...ผมจะมาให้รายละเอียดเพิ่มเติมตอนหน้า....

 

ยังรออ่านอยู่ค่ะ

 

ติดตามอยู่ครับพี่ modpong